เข้าสู่ระบบ“หนึ่ง”
โอยามะเริ่มนับอย่างใจเย็น
“สอง”
ทรมานเหลือเกิน ฉันกลัวว่าฉันจะอดทนไม่พอ
“สาม”
น้ำเสียงเบาโหวงของโอยามะทำให้ฉันหวาดกลัวยิ่งกว่าตอนที่เขานับเสียงดังเสียอีก
“แก้มัด”
ไม่จริง คนอย่างโอยามะน่ะเหรอจะปล่อยฉัน ไม่มีทาง เขาต้องกำลังคิดอะไรอยู่แน่ๆ เขาจะปล่อยคนที่กล้าเข้าไปขโมยของเขาถึงในห้องของเขาไปได้ยังไง
ฉันหลับตาแน่นทั้งที่ในสมองยังคงครุ่นคิดไม่หยุด ก่อนจะต้องสะดุ้งลืมตาเมื่อปลายกระบอกปืนที่เมื่อครู่จ่ออยู่ที่หน้าผาก ตอนนี้เลื่อนลงมาจ่ออยู่ตรงกลางระหว่างคิ้ว
ภาพแรกที่เห็นเมื่อลืมตาขึ้นมาก็คือแววตาเย็นชาของโอยามะเหมือนเดิม
หลังจากที่โอยามะสั่งให้แก้มัด ไม่ถึงสามนาทีร่างกายของฉันก็เป็นอิสระ แต่ต่อให้มือและขาทั้งสองข้างจะไม่ได้ถูกมัด ฉันก็ยังไม่กล้าจะขยับอยู่ดี
โอยามะส่งปืนคืนให้คนของเขาก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่เก้าอี้ตัวเดิม และมองฉันด้วยสายตาที่ไร้ความรู้สึก
“ลุกขึ้น” โอยามะสั่งเสียงเรียบ
สิ้นคำสั่งฉันก็ถูกคนของเขากระชากขึ้นจากเก้าอี้อย่างง่ายดาย
ทั้งความหนาวและความกลัวส่งผลให้ร่างกายของฉันสั่นระริกจนแทบทรงตัวไม่อยู่ แต่ความอ่อนแอไม่ได้มีประโยชน์อะไรเพราะ ‘ความสงสาร’ ไม่มีอยู่ในพจนานุกรมของผู้ชายตรงหน้า
“เอาของมา”
มันเหมือนโอยามะกำลังเล่นเกมอะไรสักอย่างกับฉัน เขารู้ว่าฉันกำลังกลัวมาก แต่สิ่งที่ฉันกลัวไม่ใช่ความตาย เพราะเขาลองใช้กับฉันมาแล้วถึงสองครั้ง ซึ่งมันไม่ได้ผล ตอนนี้เขาก็เลยกำลังลองใช้อีกวิธี
ไม่นานของที่โอยามะสั่งให้เอาเข้ามาก็ถูกยกเข้ามา และทันทีที่ฉันรู้ว่ามันคืออะไร หัวใจของฉันก็แทบจะหยุดเต้น
โต๊ะพับตัวเล็กๆ ถูกยกมาตั้งลงข้างๆ บนโต๊ะตัวนั้นมีของอยู่นับสิบชิ้นขนาดแตกต่างกันไป ซึ่งฉันไม่รู้หรอกว่าถ้าของพวกนั้นเป็นมีด ปืน หรืออาวุธ ฉันจะรู้สึกกลัวขนาดนี้มั้ย เพราะตอนนี้สิ่งที่ฉันเห็นอยู่เต็มโต๊ะนั่น คนทั่วไปเรียกมันว่า ‘เซ็กซ์ทอย’
“ถอด”
ตุ้บ!
ฉันฝืนยืนต่อไปไม่ไหวแล้วจริงๆ
“ไม่ต้อง” โอยามะยกมือขึ้นมาพร้อมกับสั่งห้ามคนของเขาที่กำลังจะเดินเข้ามาจับฉันลุกขึ้นยืน
“ฆ่าฉัน” ฉันเปล่งเสียงสั่นๆ ออกไปอย่างอ้อนวอน แต่การร้องขอความตายจากโอยามะดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องง่าย
“คนส่วนมากมักขอให้ฉันไว้ชีวิต”
“ฆ่าฉันเถอะ ได้โปรด” ฉันอ้อนวอนอีกครั้งด้วยเสียงที่สั่นยิ่งกว่าเดิม
ตอนนี้มีทั้งอาการปวดหัวตุบๆ มีทั้งอาการสั่นจากความหนาว รวมไปถึงอาการสั่นจากความหวาดกลัวกำลังเข้าเล่นงานจนฉันทรมานเหลือเกิน
“ไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกฮานะ”
“แล้วนายจะมัวเสียเวลาทำไม”
“นั่นสิ ทำไม” โอยามะย้อนถามก่อนจะมองไปที่คนของเขาแล้วพยักหน้าเบาๆ ทว่าการพยักหน้าของเขาเพียงแค่ครั้งเดียวกลับทำให้ร่างกายของฉันลอยขึ้นจากพื้นในเวลาอันรวดเร็ว
“ปล่อย!” ฉันทั้งร้องทั้งดิ้นสุดชีวิตเมื่อแขนทั้งสองข้างถูกล็อกเอาไว้แล้วดึงขึ้นมาจากพื้น
“จะถอดเองหรือให้คนของฉันถอดให้”
“ไม่!”
“ถอด”
สิ้นเสียงคำสั่งเด็ดขาดของโอยามะ แขนทั้งสองข้างของฉันก็ถูกจับล็อกแน่นขึ้น เสื้อผ้าของฉันก็ถูกกระชากออกราวกับของไร้ค่า เหลือเพียงชุดชั้นลูกไม้ตัวเล็กๆ ที่แทบไม่มีประโยชน์อะไรเลย
ฉันกัดฟันจนใบหน้าตึงและแทบจะไร้ความรู้สึก แม้ว่าในห้องนี้จะมีเพียงโอยามะคนเดียวที่ไม่ได้ใส่แว่นสีดำปกปิดดวงตาเอาไว้ และมีเพียงแค่เขาที่มองมาที่ฉันด้วยสายตาเรียบเฉยๆ ไร้ความรู้สึก
ในขณะที่ฉันกำลังหวาดกลัวสุดขั้วหัวใจ โอยามะกลับยังคงนั่งมองฉันนิ่งๆ
“ถ่างขาออก”
“มันจะมากไปแล้วนะ! ”
ฉันถูกคนของโอยามะกดไหล่ทั้งสองข้างให้นั่งลงที่เก้าอี้ หัวเข่าทั้งสองข้างถูกจับแน่นและพยายามจะแยกมันออกจากกันไม่ฉันจะดิ้นรนขัดขืนแต่ผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างฉันเอาเรี่ยวแรงที่ไหนไปสู้พวกมันได้
ในที่สุดหัวเข่าของฉันถูกจับแยกออกจากกัน ใบหน้าร้อนวูบทั้งที่ร่างกายรู้สึกเย็นเยียบกำลังหนาวสั่น
“ลุกขึ้นมา!” เสียงตะคอกของโอยามะทำให้ฉันสะดุ้งเฮือก ก่อนจะถูกเขากระชากขึ้นมาทั้งที่ยังไม่ทันตั้งสติ“ถ้าทนไม่ไหวก็ร้องออกมา”ถ้อยคำเย้ยหยันของโอยามะทำให้ฉันกัดฟันแน่นแล้วพยายามทรงตัวให้อยู่ในท่าเดิม แววตาที่เคยดุดันตอนนี้กำลังเปล่งประกายวิบวับเจ้าเล่ห์ต่อมาก็เป็นฉันที่ต้องเบิกตาโพลงเมื่อเห็นกับตาว่าใบหน้าของโอยามะกำลังเคลื่อนลงต่ำฟุ่บ!“ถ้ายังพูดไม่ฟังก็คงต้องสอนกันนานหน่อยนะ ฮานะ”“นะ...นาย...”“แยกขาออกแล้วนั่งนิ่งๆ ฉันจะทำอะไรกับร่างกายของเธอก็ได้ทั้งนั้น และไม่จำเป็นต้องขออนุญาตเธอด้วยซ้ำ”“แต่ฉัน...”“ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น จำไม่ได้เหรอว่าเธอเลือกเอง เมื่อกี้ถ้าเธอไม่อวดดี ป่านนี้เธอก็กลับขึ้นห้องไปนอนพักแล้ว เสียใจด้วยนะที่ตอนนี้ฉันให้เธอพักไม่ได้ แยกขาออก!” โอยามะยังคงตะคอกใส่ฉันซ้ำๆ เสียงดุดันของเขาทำให้น้ำตาฉันไหลอาบแก้ม ก่อนจะค่อยๆ แยกขาออกจากกันช้าๆ ซึ่งคงไม่ทันใจเขา เขาถึงได้จับมันแยกออกจากกันโดยเร็วด้วยตัวเอง แถมยังยกมันชันขึ้นกับโต๊ะจนเป็นรูปตัวเอ็มใหญ่“ยกก้นขึ้นมา”ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นผู้หญิงไร้ยางอายที่ไม่ว่าเขาจะสั่งอะไรฉันก็ต้องทำตามอย่างง่ายดาย ไม่มีสามัญสำนึก
“แยกขาออก”ในเวลากลางวันที่แสงสว่างส่องเข้ามาจนมองเห็นทุกอย่างได้ชัดเจน รวมถึงหน้าต่างก็ยังเปิดออกทุกบานอย่างตอนนี้ ทำให้ฉันเริ่มรู้สึกว่าชอบบรรยากาศในรถมากกว่าอีก อย่างน้อยความมืดก็ยังช่วยปิดบังทุกอย่าง ทุกความรู้สึกเอาไว้ได้บ้าง“หรือเกิดเปลี่ยนใจขึ้นมา”“ปะ...เปล่าๆ” ฉันรีบตอบ พูดจบก็ค่อยๆ แยกขาออกจากกันช้าๆ ทุกวินาทีที่กำลังผ่านไปบีบหัวใจของฉันแน่นขึ้นทีละนิดๆ จนฉันแทบจะหายใจไม่ออกอยู่แล้ว“กว้างอีก”“ฉัน...”“ทำตามที่สั่ง หรือไม่ก็ใส่เสื้อผ้าแล้วเดินออกไปซะ แต่มีข้อแม้ว่าถ้ายกเลิกข้อตกลงกลางทาง เธอต้องยอมเสียค่าปรับเป็นการส่งเพื่อนเธอให้ไดสึเกะในวันพรุ่งนี้ทันที!”นี่อาจเป็นวิธีสั่งสอนฉันว่าไม่ควรคิดจะลองดีกับเขา ตอนนี้ต่อให้อยากจะกลับตัวก็ทำไม่ได้แล้วฉันกลั้นใจแยกขาออกจากกันเพิ่มอีกนิดตามคำสั่ง กำลังจะหลับตาลงแต่โอยามะกลับทักท้วงขึ้นมาอีกรอบ“ห้ามหลับตา” ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงได้ชอบมองตาฉันนัก“นั่งนิ่งๆ ล่ะ ห้ามขยับ ครางได้แต่ห้ามพูด”มันน่าอายที่สุดในชีวิตก็ตอนที่เขาสั่งว่าครางได้แต่ห้ามพูดหัวใจฉันเต้นแรงขึ้นเป็นเท่าตัวเมื่อโอยามะลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินเข้ามาใกล้ ก่อนที่เขาจะ
“ถ้านายคิดว่าสิ่งที่นายทำคือการทรมานฉัน นายก็รู้เอาไว้เลยว่านายทำสำเร็จแล้วโอยามะ ฉันกำลังทรมานมากจริงๆ” ฉันบอกทั้งน้ำตา ก่อนจะก้าวเท้าต่อมาอีกหนึ่งก้าวเสียงปืนเมื่อครู่เรียกความตื่นตกใจให้ทุกคนวิ่งกรูกันเข้ามาอออยู่ที่หน้าประตู ตอนนี้ทุกคนคงรู้แล้วว่าคนที่ถือปืนเป็นโอยามะ ไม่ใช่ฉัน สายตาคัตซึดูตกใจมาก ต่างจากคิราวะที่เป็นคนยืนขวางทุกคนเอาไว้“ออกไป”“ครับ” เป็นคิราวะที่ยังทำหน้าที่ได้ดีเสมอ เขาหันไปสั่งให้ทุกคนถอยกลับออกไปก่อนจะหันกลับมาทำความเคารพโอยามะแล้วจึงตามทุกคนออกไปทีหลัง ซึ่งคนสุดท้ายก็คงเป็นฉันหมับ!แต่มันไม่ง่ายอย่างที่คิดเพล้ง!เสียงจานบนโต๊ะอาหารถูกโอยามะกวาดด้วยแขนยาวๆ ของเขาตกลงไปแตกกระจายอยู่เกลื่อนพื้นด้านล่าง ก่อนจะผลักให้ฉันถอยกลับไปนั่งลงบนโต๊ะตามเดิม เพียงแต่แค่คนละด้านของโต๊ะเท่านั้น“มาลองดูกันว่าเธอหรือฉันจะชนะ”“ฉันไม่ได้อยากจะชนะนาย ฉันก็แค่อยากได้เพื่อนฉันคืน” ฉันพูดทั้งน้ำตา หยดแล้วหยดเล่าที่ไหลลงมาต่อหน้าเขา แต่สายตาคู่นั้นก็ยังไม่มีทีท่าจะเห็นใจหรือเวทนาฉันสักนิด“งั้นเรามาแลกกัน”“นายอยากได้อะไรก็บอกมาสิ แต่ฉันขอแค่อย่างเดียว อย่าทำร้ายพวกเขาเลย ฉันผ
“ฉันผิดไปแล้ว” ฉันบอกเสียงสั่น เริ่มรู้สึกร้อนที่ขอบตาเหมือนน้ำตากำลังจะไหล แต่ก็พยายามจะกลั้นเอาไว้ ภาพเหตุการณ์เมื่อวานตอนที่โอยามะพยายามล้วงคอฉันผุดขึ้นมาในหัว ปฏิเสธไม่ได้ว่าถ้าไม่ได้เขาฉันอาจจะอาการหนักกว่านี้ จริงอยู่ว่าอาจไม่ถึงตาย แต่ก็คงกลายเป็นปัญหาสุขภาพเรื้อรังอย่างที่ได้ยินคุณหมอบอกกับคัตซึ“แล้วเธอคิดว่าฉันควรจัดการยังไงกับเธอดี โทษฐานที่เธอคิดจะขโมยชีวิตของตัวเองที่มีฉันเป็นเจ้าของ”“ฉัน...”“คิดเหรอว่าความตายจะทำให้เธอหนีฉันพ้น”ฉันรู้สึกได้ว่าเสียงของโอยามะเย็นขึ้นเรื่อยๆ เขาไม่ได้ตะคอกใส่ฉันเลยสักนิด แต่ฉันก็ยังรู้สึกได้ถึงความดุร้ายผ่านทางสายตาคู่นั้น ฉันคิดว่าภายใต้ใบหน้าและท่าทางสงบนิ่งของเขามีพายุอารมณ์ซ่อนอยู่ และนั่นแหละที่ฉันกลัว“ฉันจะไม่ทำแบบนั้นอีก ฉันสัญญา ยกโทษให้ฉันเถอะนะ”มันเป็นความบ้าบิ่นครั้งที่สองในชีวิตที่ฉันกล้าขอร้องให้เขายกโทษให้ ส่วนครั้งแรกน่ะเหรอ ก็ตอนที่กล้าย่องเข้าไปขโมยของในห้องเขายังไงล่ะ“ง่ายไปหน่อยมั้ย แค่คุกเข่าอ้อนวอนแล้วจบเรื่อง ฉันกลัวว่ามันจะทำให้เธอได้ใจ”“ฉัน...ยอมทุกอย่าง” พูดจบฉันก็หลับตาแน่น ความนิ่งของเขากำลังทำให้ฉันร้อนรุ
“ฉัน...กลัว”ไม่รู้ทำไมฉันถึงพูดคำนั้นออกไป ทั้งที่ไม่ได้รู้จักหรือเชื่อใจคัตซึเลยสักนิด“ถ้าเป็นผม ผมก็กลัวครับ” คัตซึบอกอย่างนั้น เขาส่งยิ้มให้ฉันเสมอ ไม่ว่าฉันจะพูด จะยิ้ม หรือจะประชดประชันใส่เขาก็ตาม“แต่โดยปกติ คนที่กลัวคุณโอยามะมักจะเป็นคนที่ทำความผิดไว้เสมอ คุณฮานะทำความผิดอะไรไว้ล่ะครับ”คำถามที่คัตซึย้อนถามทำให้ฉันหลับตาแน่น ความผิดที่ฉันทำน่ะเหรอ มากมายหลายข้อจนฉันไม่รู้ว่าจะกล้ายอมรับมันหมดได้ยังไง“รีบอาบน้ำแล้วลงไปทานข้าวเถอะครับ กลับตัวตอนนี้ก็คงยังไม่สาย แต่ถ้าคุณฮานะยังไม่รู้จักรักตัวเอง ผมก็คงช่วยไม่ได้หรอกครับ”“ขอบใจนะคัตซึ”“เอาใจช่วยครับ” คัตซึยิ้มให้ฉันก่อนที่เขาจะเดินกลับออกไป และคงเตรียมมื้อกลางวันสำหรับฉันและโอยามะรอที่ห้องอาหารข้างล่าง ส่วนฉันก็ต้องลุกขึ้นมาอาบน้ำ เพราะนอนนานเกินไปทำให้ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบายตัว เดี๋ยวจะป่วยเอาง่ายๆน้ำอุ่นในห้องน้ำทำให้ฉันรู้สึกอยากจะย้ายเข้าไปนอนในอ่างอาบน้ำเหลือเกิน ติดตรงที่รู้ดีว่าไม่ว่าจะพยายามถ่วงเวลาแค่ไหน ฉันก็ต้องเผชิญหน้ากับความจริงอยู่ดี“เชิญครับคุณฮานะ” คัตซึที่หันมาเห็นฉันเป็นคนแรกพูดขึ้นมาเสียงดังจนทุกคนในห้องอาห
“ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงครับ ปริมาณยาที่อาเจียนออกมาเยอะพอสมควร บวกกับร่างกายยังไม่ทันได้ดูดซึมยาเข้าไป พักผ่อนเยอะๆ กินอาหารที่มีประโยชน์ ร่างกายก็น่าจะดีขึ้นครับ แต่ยังไงหมอแนะนำให้พาคนไข้ไปตรวจอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลอีกครั้งจะดีที่สุดครับ เพราะการกินยาเกินขนาด ถึงจะไม่ได้ทำให้เสียชีวิตในทันที แต่จะมีผลกระทบต่อการทำงานของตับและไตในระยะยาวครับ”“ขอบคุณมากครับคุณหมอ”เสียงพูดคุยกันของคนสองคนทำให้ฉันลืมตาตื่น แสงแรกที่กระทบม่านตาทำเอาฉันกะพริบตาอยู่หลายครั้งเพราะมันแรงมาก เหมือนนี่จะไม่ใช่ช่วงเช้าของวัน“คุณฮานะฟื้นแล้วเหรอครับ”“คัตซึ”“ครับ ผมเอง อย่าเพิ่งลุกนะครับ นอนนิ่งๆ ก่อน” คัตซึเตือนพร้อมกับเดินมาหยุดอยู่ข้างเตียง เขาส่งยิ้มให้ฉันนิดหน่อย ซึ่งเมื่อเริ่มชินกับแสงสว่างแล้ว ฉันถึงได้ส่งยิ้มตอบกลับไปก่อนจะมองไปรอบๆฉันกลับมาอยู่ที่บ้านแล้ว“บ้านเหรอ?”“ครับ คุณหมอเพิ่งกลับไปเมื่อครู่นี่เอง” คัตซึรายงาน“ฉัน...”“อาการปลอดภัยครับ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง คุณหมอบอกว่าโชคดีที่คุณโอยามะไปพบคุณฮานะทันเวลา คุณฮานะอาเจียนยาออกมาพอสมควร บวกกับร่างกายยังไม่ทันที่จะดูดซึมยาเข้าไป ก็เลยไม่เป็นอันต




![NightZ [III] RASCAL MAFIA](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)


