“ ขับเร็วๆ หน่อยสิเอลิก ฉันอยากเห็นหน้าผู้หญิงคนนั้นจะแย่อยู่แล้ว” เจ้าไฟที่นั่งกอดอกไขว่ห้างอยู่ในรถ บ่นออกมาเสียงดังเมื่อเห็นว่านั่งรถมาหลายชั่วโมงแล้วยังไม่มีวี่แววว่าจะถึงที่หมายสักที
“ ครับๆ เอะ! นั่นไม่ใช่รถคุณนีวายเหรอครับบอส” เจ้าไฟหันไปมองตามที่เอลิกทัก ก็เห็นว่าเป็นนีวายจริงๆ แต่ฝ่ายนั้นดูเหมือนจะมีความสุขอะไรสักอย่าง จนไม่ได้สังเกตรถของเขาที่วิ่งสวนมา “ สงสัยคงเครียดเรื่องงาน แล้วออกมาหาที่พักผ่อนมั้ง ” เขาเดาสุ่มไปอย่างนั้น ก่อนจะเงยมองทางด้านหน้าต่อ เอลิกจึงชวนเขาคุย “ อืม สงสัยคงเครียดเรื่องแก้แบบรีสอร์ทที่บอสสั่งแน่เลย แต่ผมว่าคุณนีวายเนี่ยทำได้ดีมากนะครับ รีสอร์ทของบอสคงจะออกมาดีแน่ๆ” “ เอ้อ! แกไม่ต้องมาชวนฉันคุย รีบขับรถไปให้มันถึงเถอะ” “ ครับ” เอลิกรีบเม้มปากแน่นหดคอเข้าทันที เนื่องจากรู้ว่าตอนนี้เจ้านายของเขาคงหัวร้อนที่ความเร็วรถไม่ได้ดั่งใจเอาเสียเลย ไม่นานรถหรูก็แล่นเข้ามาจอดในลานกว้างหน้าตลาด “ แกพาฉันมาทำอะไรที่นี่” ชายหนุ่มโผล่ถามเสียงดังทันทีเมื่อรถจอดสนิท “ อ๋อ พอดีผมลืมบอกนะครับ ข้อมูลที่ผมได้มาคุณกีรติกรเธอมีแผงขายขนมที่ตลาดนี้ ผมคิดว่าวันนี้เธอก็น่าจะมานะครับ” เอลิกพูดอย่างกระตือรือร้นแต่พอหันไปมองหน้านายก็ต้องหุบยิ้ม เพราะเจ้าไฟคิ้วขมวดไม่พอใจให้อยู่ “ ขอโทษนะครับบอส ที่ไม่ได้บอกล่วงหน้า” “ เอ้อๆ” เจ้าไฟเอ้อออด้วยความหัวเสีย แต่ก็เพราะรู้จักลูกน้องคนนี้มานาน เขาก็พอจะเข้าใจความเงอะงะของเอลิกบ้าง แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นอย่างน้อยเอลิกก็ซื่อสัตย์ ไม่งั้นคงจะอยู่ด้วยกันมาไม่ได้นานขนาดนี้หรอก เจ้าไฟถอนหายใจแรงพลันก้าวขาลงจากรถ ร่างสูงในชุดสูทสีดำเนี้ยบ กลายเป็นจุดสนใจจากสายตาของผู้คนในตลาด แม่ค้าหลายคนมองมาพลันหยุดชะงัก ราวกับเวลาได้หยุดเดินชั่วขณะ ตอนที่เห็นเขาถอดเสื้อสูทออกและโยนมันเข้าไปในรถเผยให้เห็นเสื้อเชิ้ตสีแดงเลือดสีโปรดของผู้สวมใส่และเข้ากับเขาเป็นอย่างมาก “นั่นใครน่ะ ดารามาถ่ายหนังเหรอ?” เสียงกระซิบกระซาบดังขึ้นจากแม่ค้าพ่อค้ารอบข้าง “หล่อขนาดนี้ น่าจะเป็นพระเอกแน่ๆ!” “ ใช่เหรอ ถ้าเป็นพระเอกแล้วหนังช่องไหนล่ะ ฉันก็ต้องเคยเห็นสิ แต่นี่เขามาหาใครหรือเปล่า” บางคนรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูป บ้างก็ยืนมองด้วยแววตาเคลิ้มเหมือนถูกสะกด ชายหนุ่มไม่พูดอะไร แม้จะหัวเสียให้กับคำซุบซิบนินทาเหล่านั้น แต่เขาก็ต้องข่มมันเอาไว้ก่อน “ แกเป็นอะไร” เขาทักเอลิกที่มายืนทำตัวบิดไปบิดมาข้างๆ เขา “ ผมปวดท้องนะครับ แต่ไม่เป็น—” “ โอ้ย!! แกรีบไปเข้าห้องน้ำเลยไป! เดี๋ยวฉันจะเข้าไปก่อนเอง” เจ้าไฟตวาดลูกน้องเสียงดัง เสร็จเขาก็เดินมุ่งตรงเข้าไปในตลาด “ งั้นบอสรอผมแป๊บเดียวนะครับ” เอลิกตะโกนไล่หลังเขาพลันรีบวิ่งไปตามหาสุขา “ หล่อ” “ เขามาหาใครกันนะ หรือว่าเขามาตามหาฉัน” “ อย่างกับมาเฟียเลย” เจ้าไฟขมวดคิ้วมุ่น ให้กับเสียงซุบซิบเหล่านั้น เขาไม่ชอบเลย ว่าแต่ว่าแผงขนมอะไรนั่นอยู่ตรงไหน ในระหว่างที่คิดรองเท้าขัดมันของเขาก็ถูกยกขึ้นจากแรงของเขาเอง “ อี้…” เจ้าไฟแทบอยากจะโวยวายออกมา นี่มันตลาดจริงดิ มีแต่หลุมกับบ่อเนี่ยนะ รองเท้าเขาเลอะหมดแล้ว คอยดูเถอะถ้าเจอยัยนั่นจะรีบเอาคืนให้สาสม โทษฐานที่ทำให้เขาต้องมาเจออะไรแบบนี้ แต่ถึงเขาจะคิดแบบนั้น ก็ใช่ว่ามันจะเจอง่ายๆ (?) “ ขอบคุณมากนะจ้ะ ไว้วันหลังมาสั่งอีกนะ” เสียงใสนุ่มนวลชวนสะกดทำให้คิ้วหนาของเจ้าไฟเริ่มคลายออกจากกัน เขารีบหันไปมองตามเสียงนั้น “ แผงขายขนม? นี่หรือเปล่า” เขาค่อยๆ เดินเข้าไปพลางชะเง้อคอมองอยู่พักใหญ่ แต่สายของเขาคงสูงเกินไปทำให้มองผ่านหญิงสาวที่นั่งเฝ้าเต้าหม้อนึ่งหลังตู้ขนมใบเล็กไป จนทำให้หญิงสาวที่เหลือบมาเห็นเขาได้สักพักแล้วเริ่มผิดสังเกต แก้มขวัญนั่งจ้องชายหนุ่มตั้งแต่หัวจรดเท้า ผู้ชายแต่งตัวเนี้ยบใส่กางเกงสุภาพตัดกับเสื้อเชิ้ตสีแดงเลือดติดกระดุมครบทุกเม็ด สวมใส่รองเท้าขัดมันที่มีคราบโคลนจากตลาดเปื้อนอยู่นิดหน่อย ดูแล้วช่างขัดหูขัดตาเธอแปลกๆ “ เฮ้ยลุง จะซื้ออะไรหรือเปล่า ถ้าไม่ซื้อก็ขยับออกให้หน่อยได้ไหมจ๊ะ มันบังร้านหนู เดี๋ยวลูกค้าจะไม่เห็น ยิ่งร้านเล็กๆ อยู่ ” ชายหนุ่มคิ้วชนกันอีกครา เขาพยายามมองหาต้นเสียง ก่อนจะเห็นว่ามีหญิงสาวนั่งแคะขนมถ้วยอยู่หลังตู้ขนมใบเล็กนั่น “ เอ้อ…ขอถามอะไรหน่อยสิน้อง” หญิงสาวได้ยินเธอจึงยื่นคอยาวไปสบตากับเขา วินาทีนั้นที่ได้เห็นหน้าเจ้าไฟยืนมองมาที่เธอด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง สาวน้อยหน้าใสที่ใบหน้ามอมแมมเต็มไปด้วยสีดำของเถ้าถ่านตรงมุมแก้ม ทำให้เขาหลุดยิ้มแต่กระนั้นก็รีบเก๊กขรึมเมื่อเธอยืนขึ้น “ น้องรู้จักผู้หญิงที่ชื่อ กีรติกร ไหม ?” หญิงสาวได้ยินแบบนั้นก็เดินออกมาจากมุมตู้เพื่อหวังจะมองดูชายหนุ่มให้ชัดขึ้น “ รู้ เธอเป็นเจ้าของแผงนี้แหละ คุณมีอะไรกับเธอเหรอ” ชายหนุ่มจ้องมองหญิงสาวอีกครั้ง สาวน้อยที่ดูบอบบางตัวเล็กสูงแค่เพียงบ่าไหล่ของเขา แต่งตัวด้วยกางเกงยีนส์ขาสั้นเหนือเข่า กับเสื้อยืดสีขาวพอดีตัวสวมทับไว้ด้วยเสื้อลายสก๊อต ถักเปียสองข้างอย่างกับเด็กประถม จนเขาแอบหลุดขำ “....” หญิงสาวจึงมองเขาด้วยความไม่พอใจ เมื่อเขามองมาเธอก็จ้องเขากลับอย่างไม่เกรงกลัว “ ไปตามเธอมาให้หน่อย ฉันมีธุระจะคุยกับเธอ” เจ้าไฟเปลี่ยนสีหน้าเป็นเรียบนิ่งพลางกอดอกสั่งบอกกับคนตรงหน้า “ ไม่ตาม มีอะไรก็พูดมาเลย ฉันต้องขายของ” หญิงสาวตอบกลับเขาอย่างแข็งกร้าว สร้างความไม่พอใจให้เจ้าไฟเป็นอย่างมาก “ นี่น้อง ไปเรียกเจ้าของแผงมา!!” เขาเริ่มเสียงแข็งใส่เธอ เพื่อจะบอกว่าเขาไม่พอใจในคำตอบที่หญิงสาวเอ่ย แต่ยิ่งเธอตอบกลับมาอย่างดื้อรั้น หัวของเขาก็ยิ่งเดือดปูดๆ “ ฉันไม่เรียก คุณมีอะไรก็พูดมาเลยสิ” “ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเด็ก” คำพูดของเขาทำให้หญิงสาวต้องก้มหน้ามองตัวเอง เธอเงยหน้ากลับขึ้นมาด้วยความไม่พอใจและกำลังจะต่อว่าเขา “ แก้มขวัญ ซื้อขนมหน่อยจ้ะ” แต่ก่อนจะได้เอ่ยอะไรก็มีลูกค้าเข้ามาเรียกซื้อของเสียก่อน เธอจึงละสายตาไปจากชายหนุ่ม เจ้าไฟจึงกอดอกยืนรอ แต่ดูเหมือนว่าลูกค้าจะมาใหม่เรื่อยๆ มายืนเบียดเสียดเขาจนรู้สึกรำคาญ ชายหนุ่มจึงต้องเปลี่ยนมานั่งตรงเก้าอี้ด้านในแผงแทน มือใหญ่ยกแขนขึ้นพลางใบหน้าก็ก้มมองนาฬิกาหรูตรงข้อมือ “ ไอ้เอลิกมันตกส้วมตายแล้วหรือไง !” เขาทำได้แค่บ่น“ อือ” แก้มขวัญได้สติตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็ตอนที่ฟ้าสางแสงแดดส่องผ่านเข้ามาทาบลงบนตัวเธอ ร่างเล็กค่อยๆ ดันร่างกายที่อ่อนล้าขึ้น “ พี่ไฟ” เธอเรียกหาชายคนนั้นเบาๆ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้อยู่ในห้องแล้ว แก้มขวัญจึงค่อยๆ พยุงร่างกายขึ้นนั่งก่อนที่เธอจะแสดงสีหน้าเหมือนคนจะร้องไห้ “ เมื่อคืน มันครั้งแรกของเรานะ” เธอบ่นพึมพำ เรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืนมันทำให้เธอรู้สึกดีทุกอย่าง เธอยอมรับว่าตัวเองตั้งใจให้มันเป็นไปแบบนั้น แต่มันคงจะดีกว่านี้ถ้าหากตื่นขึ้นมาแล้วเขายังอยู่ตรงนี้กับเธอ “ สงสัยเราคงจะตื่นสายเกินไป” หญิงสาวพยายามคิดบวก ก่อนจะลุกและเก็บเสื้อผ้าที่เขาถอดของเธอออกขึ้นมาสวมใส่ “ โอ๊ย” แต่เธอก็ต้องร้องออกมาด้วยความเจ็บ มือเล็กกุมที่หน้าท้องน้อยของตัวเอง “ ทำไมมันถึงได้ปวดแบบนี้ล่ะ” พอนึกถึงเหตุการณ์ที่เป็นคำตอบ ปากอิ่มก็อมยิ้มพลางหูแดงขึ้นมาทันที ณ แคมป์ก่อสร้าง “ ใกล้ความสำเร็จขึ้นเยอะเลยครับหัวหน้า นี่เก็บรายละเอียดอีกนิดหน่อย ก็หาเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งมาลงได้เลย” สำเนาหัวหน้าคนงานรายงานให้เจ้าไฟที่ยืนฟังอยู่ได้ทราบ “ อือ ดีมาก อย่าลืมบอกทุกคนว่าให้ตั้งใจทำงานดีๆ ล่ะ เพรา
“ กีรติกร” “ พี่ไฟ ยังไม่นอนเหรอคะ ” หญิงสาวหน้าแดงจนต้องรีบหลบสายตา เวลานั้นเขาก็ลุกขึ้นนั่ง “ เธอเป็นอะไร” เขาจ้องเธอด้วยใบหน้านิ่งขรึม “ แก้มฝันร้าย” มุมปากข้างซ้ายของเจ้าไฟกระตุกขึ้นในทันทีเมื่อได้เห็นท่าทีที่เธอแสดงออก เขาเดินลงจากเตียงและเดินสาวขายาวไปหาน้องที่มุมประตู “ เธอเลยจะมาขอนอนกับฉันใช่ไหม” ไม่พูดเฉยเขาใช้มือเชยคางตัวเล็กให้เงยหน้าขึ้นมาจ้องตา ความกลัวที่มีในแววตาของเธอมันช่างน่าขัน เธอกลัวเขาแต่เธอก็กลัวอย่างอื่นมากกว่าจนยอมที่จะมาขอนอนกับเขาเนี่ยน่ะ? ง่ายไปแล้วหรือเปล่า “ ไม่ได้เหรอคะ เตียงพี่ก็ออกจะกว้างนี่” เสียงหวานๆ ของเธอทำให้ชายหนุ่มหลุดจากห้วงความคิด “ จะถามว่าได้ไหม…มันก็ได้แหละ แต่เธอไม่กลัวว่า…ฉันจะทำอะไรให้เธอเหรอกีรติกร” ในขณะเดียวกันนิ้วโป้งใหญ่สอดเข้าไปในปากของน้อง กลิ่นตัวของเธอมันช่างหอมหวานจนเขาแทบจะอดใจไม่ไหว ไหนจะดวงตากลมโตราวลูกแก้วที่มองมา หัวใจของเจ้าไฟถึงกับร้อนผ่าวเมื่อรับรู้ได้ถึงแรงดูดเบาๆ ตรงนิ้วโป้ง พอเห็นเขายิ้มเธอจึงดึงมือเขาออกพร้อมกับหลบหน้า “ อยากจะทำอะไร ก็ทำเลยค่ะ แต่แก้ม..ยังมีไข้อยู่นะ” เจ้าไฟส่ายหน้าเลิ่กลั่กให้กับคำพูด
“ ไม่เห็นอะไรเลยครับหัวหน้า” สำเนาพาเจ้าไฟมาดูกล้องวงจรปิดที่มีเพียง 4-5 ตัวบนเกาะ แต่กลับไม่พบถึงอะไรหรือใครที่เป็นพิรุธเลย “ แบบนี้ก็แสดงว่าคนที่ทำเป็นคนใน”เขาบ่นพึมพำแววตามีความกลุ้มใจดั่งกลับว่าเขาพอจะรู้อะไรบางอย่าง แต่แค่คิดกับมันไม่ตกก็เท่านั้น “ อีแก้มขวัญ!!” อยู่ๆ แป้งร่ำก็เกิดความโมโหและบุกมาหาแก้มขวัญถึงบ้าน “ เธอมาทำไมแป้งร่ำ” ป้าซาร่าที่กำลังช่วยเช็ดเป่าผมให้แก้มขวัญอยู่ตรงโซฟาในบ้านหันมาถามเธอ “ แกอย่าเสือก อีคนใช้” แป้งร่ำหันไปตวาดป้า ป้าก็ของขึ้นไม่ยอมโดนว่าฝ่ายเดียว “ ต๊าย! เก่งแต่ว่าคนอื่น มึงดีตายแหละอีแป้งร่ำ” “ นี่มึงกล้าขึ้นกูขึ้นมึงกับกูเพราะมันเหรอหะ” “ ก็เอ้อน่ะสิ ก็แก้มขวัญเขาดีกว่ามึง แถมยังเป็นเมียหัวหน้า แล้วมึงอะเป็นใคร แถมยังนิสัยต่ำๆ กูต้องเคารพด้วยหรือไง” แป้งร่ำกำหมัดแน่น เพื่อจะพยายามสงบสติอารมณ์ตัวเอง “ มึงหรือเปล่าที่ถูกมันเป่าหูน่ะอีแก่ น้ำหน้าอย่างอีเด็กนี่เหรอ เป็นเมียเจ้าไฟ” แป้งร่ำกอดอกพลันหัวเราะเยาะทั้งคู่ ก่อนจะชะงักให้กับเสียงใครบางคน “ แล้วถ้าใช่ เธอจะทำไม” แป้งร่ำรีบหันไปมอง “ ฟะไฟ” เธอตกใจที่เห็นว่าชายหนุ่มเดินมายืนข้างๆ
“ อ๋าย!!!!” แป้งร่ำกรี๊ดลั่นบ้าน จนคนเป็นแม่อย่างทิพย์ต้องรีบวิ่งเข้ามาเขย่าตัวลูกสาว “ เป็นอะไรไปหลาน” อนันดาเองก็เดินเข้ามาถาม “ ลุงไม่ได้ยินที่พวกคนงานมันพูดเหรอ ว่าอีเด็กแก้มขวัญนั่นมันกลับมาแล้ว คนที่ไปพามันกลับมาก็คือเจ้าไฟ เห็นว่าหายไปด้วยกันทั้งคืน แถมตอนกลับยังเอาแต่อุ้มยัยเด็กนั่นไม่ยอมปล่อย ป่านนี้คงได้เสียเป็นผัวเมียกันแล้วมั้ง” แป้งร่ำโวยวายมีสีหน้าท่าทีไม่พอใจเป็นอย่างมาก “ เอาน่ะหลาน จะกลุ้มใจเรื่องนั้นไปทำไม ผู้ชายนะมันจะมีเมียกี่คนก็ได้” “ แต่แป้งอยากเป็นคนแรก ที่สอนความเป็นชายให้กับไฟ ลุงไม่เข้าใจเหรอ!” “ อย่าคิดมากไปเลยน่ะลูก แล้วไปแล้วก็ให้มันแล้วไป ยังไงซะเด็กน้อยท่าทางจืดชืดแบบนั้นไม่มีทางที่จะสู้ลูกสาวของแม่ได้หรอก” ทิพย์พยายามพูดให้ลูกสาวใจเย็น “ตอนนี้เรามาคิดกันต่อดีกว่านะ ว่าถ้าเจ้าไฟรู้ว่าพวกเราเป็นต้นเหตุ มันจะเกิดอะไรขึ้น” สีหน้าของคนพูดหมองลงด้วยความกังวล แต่สามีของเธอก็ตอบกลับด้วยคำพูดที่ทำให้สบายใจขึ้นมาได้บ้าง “ จะไปคิดอะไรให้ปวดหัวล่ะทิพย์ ทั้งเกาะเนี่ยยังมีกล้องวงจรปิดไม่ถึง 5 ตัวเลย แล้วฉันก็หลบกล้องทุกตัวแล้ว จ้างให้ก็จับไม่ได้หรอก ถ้าเ
เช้าของวันต่อมาเอลิกเดินไปทั่วบริเวณแคมป์ก่อสร้าง “ มีใครเห็นบอสไฟบ้างไหม” เขาเดินเข้ามาในโรงอาหารแล้วถามกับคนงานที่นั่งทานข้าวกันอยู่ “ ห๊า หัวหน้าไฟก็หายไปอีกคนหนึ่งงั้นเหรอ” โสนเดินถือจานข้าวเข้ามาถาม “ ไม่รู้เหมือนกัน แต่ถ้าบอสเขาจะไปไหนที่ไม่ใช่ที่นี่เขาก็ต้องบอกก่อนสิ แต่นี่ฉันหาทั่วแล้วแต่ไม่เจอ” “ หรือว่าเขาจะออกไปตามหายัยเด็กแก้มขวัญนั่นหรือเปล่า” โสนเอ่ยขึ้นเป็นเชิงคาดเดา ก่อนที่พ่อของเธอจะเสริม “ นั่นสิ เห็นคุณนีวายก็เพิ่งกลับมาเมื่อชั่วโมงก่อนเอง ผมว่ารีบเกณฑ์คนออกไปตามหาดูเถอะ” ในระหว่างนั้นนีวายก็เดินเข้ามา “ เกิดอะไรขึ้นอีก” ทุกคนที่กำลังลุกนั่งลุกยืนหันมาจ้องเขา ซึ่งตอนนี้มีใบหน้าอิดโรยดั่งคนที่ไม่ได้หลับได้นอน ” บอสไฟ หายไปครับ ไม่รู้ว่าออกไปตามหากีรติกรหรือเปล่า” นีวายถึงกับถอนหายใจแรง หลังจากนั้นทุกคนก็ได้แยกย้ายกันออกไปเดินหา พวกเขาเดินไปยังหลังเกาะ ไม่นานก็เห็นใครบางคนกำลังเดินลุยน้ำทะเลมาทางนี้จากที่ไกลๆ “ นั่นๆ คุณนีวายครับ นั่นใช่หัวหน้าไฟหรือเปล่า” “ แล้วทำไมถึงกลับมาสภาพนั้น นั่นยัยแก้มขวัญเหรอ?” โสนจ้องมองร่างสีขาวๆ ซึ่งกระทบกับแสงอาทิตย์จนแ
“ วิ่งให้เร็วกว่านี้พี่ไฟ วิ่ง!! มันมาแล้วพี่ อ้าย!!” “ มันมีหมาป่าอยู่บนเกาะแบบนี้ได้ยังไงเนี่ย!” เจ้าไฟบ่นด้วยความฉงน ก่อนพาร่างของหญิงสาว กระโดดลงที่ลำธารซึ่งขวางอยู่ด้านหน้าเพื่อหนีตาย เมื่อสองร่างกระแทกลงกับน้ำก็แยกตัวออกจากกัน แก้มขวัญที่ยังตั้งสติไม่มาก เหมือนกำลังจะจมหายไป แต่ชายหนุ่มก็รีบใช้แขนคล้องเอวของเธอมาแนบกายไว้ ก่อนจะรีบพาว่ายหนีอย่างทุลักทุเล แก้มขวัญที่เหมือนจะไม่มีแรงเหลือแล้วกอดคอของชายหนุ่มแน่น เจ้าไฟจึงให้เธอขี่หลังและว่ายผุดๆ โผล่ๆ ในน้ำ จนไปถึงอีกฝั่งได้ก็เผลอกินน้ำกันไปหลายอึก “ เฮ้อ” เมื่อขึ้นฝั่งมาได้ทั้งคู่ก็หอบเหนื่อย เจ้าไฟยกนิ้วกลางใส่หมาป่าพวกนั้น แต่กลับมีเรื่องให้ตกใจยิ่งกว่า เมื่อพวกมันที่เขาคิดไว้ว่าจะไม่ตามมาแล้วดันกระโดดลงน้ำว่ายตามมาเสียได้ “ พี่ไฟ!!” แก้มขวัญเห็นแบบนั้นก็เรียกเขาอย่างตกใจ ชายหนุ่มจึงรีบอุ้มร่างของเธอขึ้นแบกอีกรอบ เขาพาหญิงสาวมาซ่อนในถ้ำ ทำให้พวกหมาป่าที่พึ่งจะข้ามฝั่งมาหาทั้งคู่ไม่เจอ “ เฮ้อ หนีกระสุนหนีระเบิดยังไม่ขนาดนี้เลย” เขาบ่นพึมพำพลางเอนตัวพิงกับก้อนหินใหญ่ด้านหลัง หายใจหอบเหนื่อย จ้องมองพวกหมาป่าที่วิ่งผ่าน