แชร์

บทที่ 8

ผู้เขียน: กานเฟย
“หลิงผิง เจ้าติดตามคุณหนูของเจ้ามากว่าสิบปี สิ่งที่เจ้าเอ่ยน่าเชื่อถือที่สุด เจ้าบอกมาว่าหลิงอวี๋มีทักษะทางการแพทย์หรือไม่?”

ชิวเหวินซวงดึงหลิงผิงที่ตามมาข้างหลังตนเองออกมา

หลิงผิงแสร้งทำเป็นไม่สบายใจนัก ก้าวไปข้างหน้าเอ่ยอย่างลังเล

“กราบบังคมทูลฝ่าบาท บ่าวรับใช้ติดตามหลิงอวี๋ตั้งแต่เล็ก นางโง่เขลาเหมือนหมู หมากล้อม เขียนพู่กัน วาดภาพก็ไม่ได้ นับประสาอะไรกับทักษะทางการแพทย์ ท่านอ๋องทรงอย่าได้เชื่อคำพูดของนางเพคะ!”

หลิงอวี๋ยิ้มอย่างเย็นชา นางรับใช้คนนี้ขายนางจนหมดสิ้นจริง ๆ !

ทว่าหลิงอวี๋จะไม่มีทางหวาดกลัว ตราบใดที่เธอช่วยเฮยจื่อได้ ใครจะจริงจังกับคำพูดของนางรับใช้!

เซียวหลินเทียนจ้องมองยังหลิงอวี๋ เมื่อเห็นว่านางมิได้รู้สึกตื่นตระหนกใดที่ถูกเปิดเผยความลับออกมา ก็ยิ่งรู้สึกประหลาดใจขึ้นมา หญิงผู้นี้ดูผิดปกติอย่างยิ่ง!

ก่อนหน้านี้หากว่านางรับใช้กล้าพูดเรื่องลับหลังของเจ้านายเช่นนี้ นางจะต้องรีบร้องตะโกนอธิบายให้กับตนเอง!

เซียวหลินเทียนไม่เอ่ยวาจาใด

ชิวเฮ่ากลับทนไม่ได้จนร้องคำรามออกมา “คนชั้นต่ำ นางรับใช้ของเจ้าพูดความจริงออกมาแล้ว เจ้ายังจะกล้ามาหลอกท่านอ๋องของข้าอีกรึ?”

“ท่านอ๋อง กระหม่อมว่านางคงอยากจะถูกโบยอีก ดูเหมือนว่า เมื่อครู่นี้ที่โบยไปห้าสิบแส้คงจะเบาเกินไป ควรจะโบยสักร้อยแส้พ่ะย่ะค่ะ!”

หลิงอวี๋ทำเพียงมองไปยังเซียวหลินเทียน อธิบายออกมาอย่างไม่รีบร้อน

"แม่นมลี่เป็นคนขอร้องพ่อบ้าน ในตอนนั้นข้าเป็นลมไป หลังจากฟื้นขึ้น ข้าก็ช่วยจัดการรักษาบาดแผลของเสี่ยวเมาแล้ว!"

“ถ้าไม่เชื่อพวกเจ้าก็ไปดูสิ แล้วจะรู้ว่าข้ามีทักษะทางการแพทย์หรือไม่!”

ทันทีที่เซียวหลินเทียนโบกมือ ชิวเฮ่าก็พร้อมที่จะไปที่เรือนของหลิงอวี๋เพื่อตรวจสอบ

หลิงอวี๋เอ่ยอย่างเย็นชา "เปลี่ยนให้ผู้อื่นไป! ข้าไม่อยากให้กระดูกซี่โครงของลูกชายข้าหักโดยที่อธิบายไม่ได้!"

ชิวเฮ่าแข็งค้างขึ้นมาทันที นี่หมายความว่าเขาจะลอบใช้เล่ห์หรือ?

ชิวเหวินซวงเองก็ตกตะลึงไป จ้องมองไปยังหลิงอวี๋ด้วยความประหลาดใจ

ความรู้สึกเช่นเดียวกับเซียวหลินเทียน นางเองก็รู้สึกราวกับว่า หลิงอวี๋ที่อยู่ตรงหน้านี้เปลี่ยนไปเป็นคนละคน ไม่ใช่พระชายาคนนั้นที่ไม่มีสมองโง่เขลาแล้ว…

พวกเขาสองพี่น้องคิดเหมือนกัน ชิวเหวินซวงไม่ต้องคาดเดาก็รู้ได้ ถ้าหากชิวเฮ่าเจอเสี่ยวเมาอีก จะต้องลอบลงมือ!

มาตอนนี้ถูกหลิงอวี๋เปิดเผยเข้า ชิวเฮ่าจึงเสียโอกาสที่จะไปลงมือแล้ว!

สุดท้ายแล้ว เป็นลู่หนานที่วิ่งไปอุ้มเสี่ยวเมามา

ด้านหลังนั้นมีแม่นมลี่และหลิงซินที่ประคองนางอยู่ หอบหายใจตามมาด้วย

“ตรวจสอบดู!” เซียวหลินเทียนถนอมคำพูดดั่งทองคำ

ไป๋สือรับเสี่ยวเมาแล้วอุ้มเข้าไป

ถึงแม้ว่าหลิงอวี๋จะปวดใจที่เสี่ยวเมาถูกทรมาน ทว่า นี่เป็นเพียงแค่โอกาสเดียวที่พวกนางจะหนีรอดจากความตายได้ ต่อให้จะปวดใจมากเพียงใด นางเองก็ไม่อาจหยุดรั้งเอาไว้ได้

“พระชายาจัดการบาดแผลให้กับเสี่ยวเมาจริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ เด็กคนนี้กระดูกหักไปสองท่อน...”

เมื่อตรวจสอบจนเสร็จแล้วไป๋สือก็ออกมารายงาน

ไป๋สือที่คอยติดตามอยู่ข้างกายของเซียวหลินเทียนมาโดยตลอด ความคับข้องใจที่มีของเซียวหลินเทียนและหลิงอวี๋นั้นก็รู้ดี ในใจของเขาดูหมิ่นหลิงอวี๋

เพราะฉะนั้น เมื่อเห็นเสี่ยวเมาร่างกายผอมบางที่มีรอยแส้และรอยเตะ ก็ทำได้เพียงแค่ส่ายศีรษะ คร่ำครวญว่าเด็กคนนี้ไม่ควรกลับชาติมาเกิดในท้องของหลิงอวี๋

เซียวหลินเทียนที่ไม่เคยสนใจเสี่ยวเมาเลย ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรเป็นพิเศษที่เสี่ยวเมาได้รับบาดเจ็บเมื่อครู่นี้

เมื่อได้ยินคำของไป๋สือแล้ว เขาถึงได้มองตรงไปยังหลิงอวี๋ เอ่ยเสียงเคร่งขรึมออกมา “เจ้าจะช่วยเฮยจื่อได้หรือไม่?”

“ย่อมได้เพคะ!” หลิงอวี๋เงยหน้าขึ้นด้วยความมั่นใจ

“หม่อมฉันมีเพียงแค่เงื่อนเดียวเท่านั้น เขาต้องฟันตัวเองสองดาบ! ดาบแรกที่เขาเตะลูกชายข้าจนได้รับบาดเจ็บ สมควรชดใช้คืน! อีกดาบหนึ่งชดใช้ที่รแทงข้าเมื่อครู่นี้!”

หลิงอวี๋ชี้มือไปทางด้านของชิวเฮ่า

นางหลิงอวี๋ จะไม่เป็นเหมือนกับหลิงอวี๋คนก่อนหน้านั้น ที่ถูกลอบวางแผนการใส่ยังไม่รู้จักตอบโต้!

จุดมุ่งหมายในการเป็นมนุษย์ของนางก็คือ ผู้อื่นเคารพข้าเพียงบรรทัด ข้าจะต้องเคารพเขาเป็นจั้ง!

หากว่าเจ้ารุกล้ำไม่รู้จักพอ ข้าก็จะไม่มีวันยอม!

สีหน้าของเซียวหลินเทียนเปลี่ยนเป็นดำคล้ำขึ้นมาทันที ตะโกนออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว “หลิงอวี๋ เจ้านี่ได้คืบจะเอาศอก!”

หลิงอวี๋ยกยิ้มเสียดสีออกมา “เฮยจื่อหรือว่าเขา แล้วแต่ท่านจะกรุณา!”

“ท่านอ๋อง ขอเพียงแค่นางช่วยเฮยจื่อไว้ อย่าเอ่ยถึงว่าจะฟันสองครั้งเลย ต่อให้เป็นสิบครั้งกระหม่อมก็ฟันได้! เกรงก็แต่ว่านางจะหลอกลวงท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ!” ชิวเฮ่าตะโกนขึ้นมาเสียงดัง

“หากว่าหม่อมฉันมิอาจช่วยเฮยจื่อเอาไว้ได้ หากว่าเขาตายไป หม่อมฉันจะฆ่าตัวตายชดใช้ความผิดทันที!” หลิงอวี๋เอ่ยออกมาอย่างไม่ยอมถอยให้ในทันที

“หลิงอวี๋ เจ้าอย่าลืมไป เฮยจื่อก็เป็นเพราะว่าเจ้า ชีวิตถึงได้แขวนอยู่บนเส้นด้าย เจ้าช่วยเขาก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลแล้ว!”

เซียวหลินเทียนเอ่ยออกมาอย่างไร้ปรานี “ยังมี ลูกชายของเจ้า และคนของเจ้าล้วนแต่อยู่ในมือของข้า!”

“หากว่าเจ้าช่วยชีวิตเฮยจื่อเอาไว้ไม่ได้ ข้าก็จะฆ่าพวกเจ้าทันที!”

ชิวเฮ่ารีบตอบสนองทันใด พลันดึงดาบออกมาพาดลงบนลำคอของแม่นมลี่ในทันที

หลิงอวี๋ถอนหายใจออกมา ในใจรู้สึกหดหู่ขึ้นมา อย่างรู้สึกแย่

เมื่อครู่นี้นางเพียงแต่อยากจะทดลองเซียวหลินเทียน แต่ท่าทีของเซียวหลินเทียนกลับทำให้นางผิดหวังยิ่ง

ในใจรู้สึกแย่ ก็ไม่ใช่เพราะความรู้สึกของตนเอง!

เป็นเพราะอารมณ์ที่หลงเหลืออยู่ของหลิงอวี๋คนเก่า!

ชีวิตของเสี่ยวเมาและหลิงอวี๋ ในสายตาของเซียวหลินเทียน กลับไม่สำคัญเท่ากับเฮยจื่อและชิวเฮ่า ทั้งสองคนนี้ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องทางสายเลือดกับเขาเลย!

หลิงอวี๋รักเขาถึงเพียงนี้ กลับตายไปทั้งที่ยังไม่ได้รับความรักจากเซียวหลินเทียน!

เป็นเพราะว่าเหตุนี้นางถึงได้รู้สึกย่ำแย่กระมัง!

หลิงอวี๋มองไม่ออกจริง ๆ เลยว่า ชายสารเลวอย่างเช่นเซียวหลินเทียนมีค่าอะไรให้ควรรัก!

ชายรูปหล่อประเภทนี้หลิงอวี๋พบเห็นมามากแล้วในยุคสมัยปัจจุบัน ถึงแม้ว่าเซียวหลินเทียนจะหล่อเหลาและดูดีกว่าดาราหนุ่มยุคปัจจุบัน...

แต่ก็เพียงแค่น่ามองเท่านั้น เป็นเพียงแค่คนที่ใจบอดตาบอดเท่านั้น!

หลิงอวี๋เองก็ไม่ได้ย่อถอย ยังคงตบมือและเผยยิ้มออกมา “บัดนี้ได้รู้เกียรติศักดิ์บารมีของท่านอ๋องอี้แล้ว! ข่มขู่ผู้หญิงและเด็ก น่าประทับใจนัก! ย่อมได้หม่อมฉันจะช่วยเด็กคนนี้ ถือเป็นสิ่งที่หม่อมฉันติดค้างเฮยจื่อเอาไว้!”

ในที่สุดนางก็อดทนเอาไว้ไม่ได้ เอ่ยเสียดสีออกมาอีกประโยคหนึ่ง “เซียวหลินเทียน ท่านใช้ลูกไม้เดิม ๆ มาข่มขู่หม่อมฉันมิได้เสมอไปหรอกนะ!”

นางเหลือบมองไปยังชิวเฮ่า มุมปากม้วนขึ้นปรากฏเป็นรอยยิ้มความหมายลึกซึ้ง...

ยิ้มเสียจนชิวเฮ่ารู้สึกขนลุกชัน...

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2602

    ขณะที่ฉีเต๋อกำลังยืนเฝ้าอยู่อย่างสง่าผ่าเผย จู่ ๆ เขาก็เหลือบไปเห็นสตรีผู้หนึ่งกำลังจ้องมาที่ตนมิวางตาฉีเต๋อปรายตามองไปแล้วหันไปทางอื่นอย่างมิสนใจ แต่หลังจากนั้น ฉีเต๋อกลับหันกลับมาอีกครั้ง แล้วจ้องมองสตรีผู้งดงามนางนั้นอย่างมิอยากจะเชื่อสายตาใบหน้าของสตรีผู้นั้นแย้มยิ้มละมุน และกำลังมองเขาอย่างอบอุ่นและแฝงไปด้วยความรักใคร่เอ็นดู“ฮองเฮา… องค์จักรพรรดิ…”เมื่อฉีเต๋อเห็นใบหน้าของหลิงอวี๋ได้ชัดเจน ต่อจากนั้นก็เห็นเซียวหลินเทียนด้วย เขาจึงมิรีรอรีบพุ่งไปคุกเข่ากลางถนนทันที น้ำเสียงเขาสะอื้นไห้ และน้ำตาไหลรินจนเต็มใบหน้าหนึ่งปีกว่าแล้ว!พวกเขาทั้งหมดต่างก็เงยหน้ารอคอยองค์จักรพรรดิและฮองเฮาที่ในที่สุดก็กลับมาอย่างปลอดภัยอย่างมีความหวัง!“ฮองเฮา… หนึ่งปีกว่าแล้ว บ่าวยังคิดว่าท่าน… ท่าน...”ฉีเต๋อตื้นตันเสียจนพูดมิออกเหล่าองครักษ์กองทัพหลวงที่อยู่ด้านข้างก็ต่างพากันมองไปทางขันทีเสี่ยวฉีที่ได้รับความไว้วางใจจากองค์รัชทายาทกำลังคำนับให้บุรุษสตรีคู่หนึ่งรู้สึกตื้นตันจนพูดมิออกเช่นกันกระทั่งองครักษ์กองทัพหลวงเหล่านั้นพินิจพิจารณาหลิงอวี๋และเซียวหลินเทียนทันทีที่มองไป พวกเขา

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2601

    ภายใต้การชี้แนะของท่านลุงหลี่ หลิงอวี๋และเซียวหลินเทียนจึงได้เห็นชลประทานขุดใหม่ที่เรียงรายอย่างดีเป็นระเบียบ และเป็นประโยชน์ให้ราษฎรที่ทำการเกษตรได้จริง ๆทั้งสองคนพูดคุยกับครอบครัวของท่านลุงหลี่อยู่อีกสักพักใหญ่ จึงได้รู้ข่าวจากคนในครอบครัวของท่านลุงหลี่ว่าในราชสำนักมิได้เกิดเรื่องใหญ่ใด ๆ ขึ้น ทุกอย่างล้วนดำเนินไปตามแผนพัฒนาที่หลิงอวี๋และเซียวหลินเทียนวางไว้ก่อนหน้านี้อย่างเรียบร้อยทั้งสองคนรู้สึกปลื้มใจยิ่งนัก จากนั้นก็กล่าวลาครอบครัวท่านลุงหลี่ และจ่ายเงินซื้อม้าสองตัวกลับเมืองหลวง“ข้ามิคาดคิดเลยจริง ๆ ว่าในราชสำนักจะสงบสุขเช่นนี้!”เซียวหลินเทียนเอ่ยออกมาด้วยความรู้สึกก่อนหน้านี้เพื่อที่จะแย่งชิงบัลลังก์กัน เหล่าองค์ชายต่างก็วางแผนหลอกลวงกัน และต่อสู้กันเองภายในเดิมทีเซียวหลินเทียนคิดว่า เมื่อตนและหลิงอวี๋มิอยู่ในราชสำนัก อาศัยท่านอดีตเสนาบดีและท่านอ๋องเฉิงก็คงมิอาจควบคุมพวกคนชั่วร้ายเหล่านั้นได้ไหนเลยจะคิดว่าแม้ตนจะมิอยู่ ในราชสำนักก็สามารถสงบเรียบร้อยได้เช่นกันหลิงอวี๋ยิ้มแล้วเอ่ยออกไป “แม้ใจคนจะยากแท้หยั่งถึง แต่พวกเราก็ต้องเชื่อว่าคนส่วนใหญ่เป็นคนใจดีเพคะ ดังเ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2600

    เมื่อได้ยินหลิงอวี๋เอ่ยถามเช่นนั้น ลูกสะใภ้ของท่านลุงหลี่ซึ่งเป็นสตรีซื่อ ๆ คนหนึ่งก็ก้าวเข้ามา แล้วจับมือหลิงอวี๋ไว้พร้อมทั้งเอ่ยถามว่า “น้องหญิง เจ้าเลี้ยงวัวเลี้ยงแกะเป็นหรือไม่?”“เย็บปักถักร้อยเล่า เป็นหรือไม่?”“หมู่บ้านตระกูลหลี่ของพวกเรามีโรงงานอยู่หลายแห่งทีเดียว ทั้งหมดล้วนเหมาะให้สตรีไปทำงานทั้งนั้น!”“ขอเพียงเจ้ามิเกียจคร้านและขยันทำงาน มินานก็จะมีชีวิตอยู่อย่างราบรื่นในหมู่บ้านตระกูลหลี่แน่นอน!”ลูกชายของท่านลุงหลี่ก็เข้ามาเช่นกัน เขาเอ่ยก็กับเซียวหลินเทียนว่า “ดูเจ้าท่าทางมีการศึกษา หากทำไร่นามิไหว ขอเพียงรู้ตำรา ข้าก็สามารถแนะนำเจ้าให้ไปเป็นครูที่หออักษรในหมู่บ้านได้นะ!”เซียวหลินเทียนฟังแล้วก็ตกตะลึง เขาจำได้ว่าเมื่อก่อนตนเคยมาหมู่บ้านตระกูลหลี่ หมู่บ้านนี้ไม่มีแม้แต่หออักษรเนื่องด้วยความยากจนข้นแค้นนี่เขาเพิ่งจากไปเพียงปีกว่า ไหนจึงจัดตั้งหออักษรได้แล้วเล่า?“ท่านลุง ข้าจำได้ว่าเมื่อก่อนเคยมาที่นี่ หมู่บ้านของพวกท่านแร้นแค้นยิ่ง แค่จะมีกินให้อิ่มท้องก็ยังเป็นปัญหา แล้วไหนมิได้มาสักพักใหญ่ เหตุใดจึงเปลี่ยนแปลงไปมากถึงเพียงนี้หรือ?”เซียวหลินเทียนเอ่ยถามออกไปอย่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2599

    สิบสองนักษัตร สิบสองประตู หากด้านในมีความรู้ที่ล้ำสมัยทั้งหมด เช่นนั้นเมื่อเรียนรู้และนำมาใช้อย่างถูกทางก็สามารถสร้างประโยชน์ให้แก่มนุษยชาติได้แต่หากพบเจอคนเช่นอูอวี๋หลานหรือหลงหมิง เมื่อคนเช่นนั้นได้เรียนรู้แล้วก็อาจกลายเป็นหายนะต่อผู้คนในใต้หล้าได้!การที่เจ้าของตำหนักใต้ดินตั้งนาฬิกาทรายเอาไว้ บางทีอาจจะเป็นเพราะคิดว่าในระยะเวลาอันสั้นถึงเพียงนี้ คนที่มีวาสนาได้เข้ามาในตำหนักใต้ดินสามารถเรียนรู้ได้เท่าใดก็ตามนั้นไปเถิด!หลิงอวี๋คิดถึงขั้นที่ว่า บางทีการจะได้เรียนรู้สิ่งใด ก็อาจขึ้นอยู่กับโชคชะตาของแต่ละคนด้วย“พวกเรากลับกันเถิดเพคะ!”แม้ว่าหลิงอวี๋จะมิอยากจากตำหนักใต้ดินไปเช่นนี้ แต่นางก็รู้ดีว่าโชคชะตาของตนและเซียวหลินเทียนกับตำหนักใต้ดินได้สิ้นสุดลงแล้วต่อให้พวกเขาจะอยู่ที่นี่ต่อและใช้ความพยายามอย่างหนัก ก็มิอาจเปิดประตูบานนี้ได้หากตำหนักใต้ดินแห่งนี้ยังมีโอกาสในการเปิดครั้งสุดท้าย ก็ให้เป็นโอกาสของผู้มีวาสนาคนอื่นเถิด!“ไปกันเถิด!”ภายใต้คำชี้แนะของหลิงอวี๋นั้นทำให้เซียวหลินเทียนคิดได้เช่นกัน เขาจึงจูงมือหลิงอวี๋ แล้วทั้งสองก็เดินลงจากภูเขาไปด้วยกัน“อาอวี๋ เจ้าคิดว่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2598

    “เซียวหลินเทียน เมื่อครู่ท่านบอกว่าเห็นว่ามีคนเข้าไป ท่านรู้ได้อย่างไร?”เดิมทีหลิงอวี๋ยังคิดว่าตนกับเซียวหลินเทียนคือคนแรกที่เข้าไปในตำหนักนี้ มิคาดคิดว่าจะมีคนเข้าไปก่อนหน้าแล้วทันใดนั้น นางก็นึกถึงก้อนหินลึกลับก้อนนั้นของอูอวี๋หลาน หรือว่าก่อนหน้านี้อูอวี๋หลานจะเคยเข้ามา?ภายในห้องที่ตนเข้าไปมิพบหินเช่นนั้น บางทีเซียวหลินเทียนอาจจะพบหรือ?“ศพหนึ่งศพ!”“ศพ?”หลิงอวี๋ตกใจจนเอ่ยออกไปโดยมิรู้ตัว “เช่นนั้นก็แสดงว่ามีคนเคยเข้ามาก่อนหน้าเราจริง ๆ หรือ?”“เขาตายอย่างไรเพคะ? หรือว่าเพราะอยู่เกินเวลาจนออกมามิได้ จึงถูกขังอยู่ด้านในจนตาย?”เซียวหลินเทียนขมวดคิ้วแล้วตอบออกไป “ข้าตรวจดูแล้ว เป็นศพบุรุษ ใบหน้าดำคล้ำ ดูจากลักษณะแล้วถูกพิษจนตาย!”“แต่ร่างกายของเขาคงสภาพดีมาก น่าจะเป็นดังที่เจ้าว่า เป็นเพราะอากาศที่พิเศษภายในตำหนักจึงเป็นเช่นนั้น!”เซียวหลินเทียนพูดแล้วก็หยิบแหวนพระสุเมรุและหยกที่นำมาจากศพยื่นให้หลิงอวี๋“เมื่อครู่ตอนอยู่ด้านในข้าไม่มีเวลาตรวจดูให้ละเอียด เจ้าลองดูหยกนี้ที บนหยกสลักมังกรไว้ด้วย!”“หรือว่าเขาจะเป็นคนของตระกูลหลง?”หลิงอวี๋รับหยกมา จี้หยกทำมาจากหยกเนื้อด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2597

    หลิงอวี๋สงบจิตใจแล้วสังเกตการเปลี่ยนแปลงของดวงดาวทั้งเจ็ดก็เห็นว่าดวงดาวทั้งเจ็ดนั้นประเดี๋ยวก็เปลี่ยนเป็นเรียงแถวกัน ประเดี๋ยวก็เคลื่อนไหวอีกในตอนนี้หลิงอวี๋ยังมิสามารถเข้าใจความหมายของการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ได้ แต่ก็ยังคงพยายามจดจำรูปแบบการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ อย่างเต็มที่กระทั่งดวงดาวทั้งเจ็ดมิเปลี่ยนแปลงแล้ว หลิงอวี๋จึงได้พบว่าเวลาผ่านไปมากแล้วนางจึงรีบวิ่งออกมาแล้วเข้าไปในประตูปีกุนภายในห้องนี้มีเมล็ดพันธุ์วางอยู่จำนวนมากและมีหลากหลายชนิด​ ทำให้คนที่มิคุ้นเคยด้านการเกษตรนักเช่นหลิงอวี๋มิสามารถแยกแยะได้ว่าเป็นเมล็ดอะไรบ้างแต่นางก็มิได้สนใจแล้วเช่นกัน นางคว้าเมล็ดเหล่านั้นหลายกำใส่ไปในกระเป๋าเดิมทีนางคิดจะเก็บเข้าไปในมิติ แต่นางพบว่าในตำหนักใต้ดินนี้มิสามารถใช้มิติได้นางรู้สึกกังวลขึ้นมา​ นี่น่าจะเป็นเขตกำบังที่เจ้าของตำหนักติดตั้งไว้กระมัง มิฉะนั้นด้วยหยกหล้าสุขาวดีในตัวของตน ก็เพียงพอที่จะย้ายตำหนักใต้ดินแห่งนี้เข้าไปได้เลยทีเดียวเมื่อหลิงอวี๋กำลังจะไปสำรวจประตูที่สาม ในนาฬิกาทรายก็เหลือทรายอยู่เพียงเล็กน้อยแล้วหลิงอวี๋รู้สึกค่อนข้างเสียดาย จึงรีบเปิดประตูมะแมเข้าไ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status