แชร์

บทที่ 8

ผู้เขียน: กานเฟย
“หลิงผิง เจ้าติดตามคุณหนูของเจ้ามากว่าสิบปี สิ่งที่เจ้าเอ่ยน่าเชื่อถือที่สุด เจ้าบอกมาว่าหลิงอวี๋มีทักษะทางการแพทย์หรือไม่?”

ชิวเหวินซวงดึงหลิงผิงที่ตามมาข้างหลังตนเองออกมา

หลิงผิงแสร้งทำเป็นไม่สบายใจนัก ก้าวไปข้างหน้าเอ่ยอย่างลังเล

“กราบบังคมทูลฝ่าบาท บ่าวรับใช้ติดตามหลิงอวี๋ตั้งแต่เล็ก นางโง่เขลาเหมือนหมู หมากล้อม เขียนพู่กัน วาดภาพก็ไม่ได้ นับประสาอะไรกับทักษะทางการแพทย์ ท่านอ๋องทรงอย่าได้เชื่อคำพูดของนางเพคะ!”

หลิงอวี๋ยิ้มอย่างเย็นชา นางรับใช้คนนี้ขายนางจนหมดสิ้นจริง ๆ !

ทว่าหลิงอวี๋จะไม่มีทางหวาดกลัว ตราบใดที่เธอช่วยเฮยจื่อได้ ใครจะจริงจังกับคำพูดของนางรับใช้!

เซียวหลินเทียนจ้องมองยังหลิงอวี๋ เมื่อเห็นว่านางมิได้รู้สึกตื่นตระหนกใดที่ถูกเปิดเผยความลับออกมา ก็ยิ่งรู้สึกประหลาดใจขึ้นมา หญิงผู้นี้ดูผิดปกติอย่างยิ่ง!

ก่อนหน้านี้หากว่านางรับใช้กล้าพูดเรื่องลับหลังของเจ้านายเช่นนี้ นางจะต้องรีบร้องตะโกนอธิบายให้กับตนเอง!

เซียวหลินเทียนไม่เอ่ยวาจาใด

ชิวเฮ่ากลับทนไม่ได้จนร้องคำรามออกมา “คนชั้นต่ำ นางรับใช้ของเจ้าพูดความจริงออกมาแล้ว เจ้ายังจะกล้ามาหลอกท่านอ๋องของข้าอีกรึ?”

“ท่านอ๋อง กระหม่อมว่านางคงอยากจะถูกโบยอีก ดูเหมือนว่า เมื่อครู่นี้ที่โบยไปห้าสิบแส้คงจะเบาเกินไป ควรจะโบยสักร้อยแส้พ่ะย่ะค่ะ!”

หลิงอวี๋ทำเพียงมองไปยังเซียวหลินเทียน อธิบายออกมาอย่างไม่รีบร้อน

"แม่นมลี่เป็นคนขอร้องพ่อบ้าน ในตอนนั้นข้าเป็นลมไป หลังจากฟื้นขึ้น ข้าก็ช่วยจัดการรักษาบาดแผลของเสี่ยวเมาแล้ว!"

“ถ้าไม่เชื่อพวกเจ้าก็ไปดูสิ แล้วจะรู้ว่าข้ามีทักษะทางการแพทย์หรือไม่!”

ทันทีที่เซียวหลินเทียนโบกมือ ชิวเฮ่าก็พร้อมที่จะไปที่เรือนของหลิงอวี๋เพื่อตรวจสอบ

หลิงอวี๋เอ่ยอย่างเย็นชา "เปลี่ยนให้ผู้อื่นไป! ข้าไม่อยากให้กระดูกซี่โครงของลูกชายข้าหักโดยที่อธิบายไม่ได้!"

ชิวเฮ่าแข็งค้างขึ้นมาทันที นี่หมายความว่าเขาจะลอบใช้เล่ห์หรือ?

ชิวเหวินซวงเองก็ตกตะลึงไป จ้องมองไปยังหลิงอวี๋ด้วยความประหลาดใจ

ความรู้สึกเช่นเดียวกับเซียวหลินเทียน นางเองก็รู้สึกราวกับว่า หลิงอวี๋ที่อยู่ตรงหน้านี้เปลี่ยนไปเป็นคนละคน ไม่ใช่พระชายาคนนั้นที่ไม่มีสมองโง่เขลาแล้ว…

พวกเขาสองพี่น้องคิดเหมือนกัน ชิวเหวินซวงไม่ต้องคาดเดาก็รู้ได้ ถ้าหากชิวเฮ่าเจอเสี่ยวเมาอีก จะต้องลอบลงมือ!

มาตอนนี้ถูกหลิงอวี๋เปิดเผยเข้า ชิวเฮ่าจึงเสียโอกาสที่จะไปลงมือแล้ว!

สุดท้ายแล้ว เป็นลู่หนานที่วิ่งไปอุ้มเสี่ยวเมามา

ด้านหลังนั้นมีแม่นมลี่และหลิงซินที่ประคองนางอยู่ หอบหายใจตามมาด้วย

“ตรวจสอบดู!” เซียวหลินเทียนถนอมคำพูดดั่งทองคำ

ไป๋สือรับเสี่ยวเมาแล้วอุ้มเข้าไป

ถึงแม้ว่าหลิงอวี๋จะปวดใจที่เสี่ยวเมาถูกทรมาน ทว่า นี่เป็นเพียงแค่โอกาสเดียวที่พวกนางจะหนีรอดจากความตายได้ ต่อให้จะปวดใจมากเพียงใด นางเองก็ไม่อาจหยุดรั้งเอาไว้ได้

“พระชายาจัดการบาดแผลให้กับเสี่ยวเมาจริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ เด็กคนนี้กระดูกหักไปสองท่อน...”

เมื่อตรวจสอบจนเสร็จแล้วไป๋สือก็ออกมารายงาน

ไป๋สือที่คอยติดตามอยู่ข้างกายของเซียวหลินเทียนมาโดยตลอด ความคับข้องใจที่มีของเซียวหลินเทียนและหลิงอวี๋นั้นก็รู้ดี ในใจของเขาดูหมิ่นหลิงอวี๋

เพราะฉะนั้น เมื่อเห็นเสี่ยวเมาร่างกายผอมบางที่มีรอยแส้และรอยเตะ ก็ทำได้เพียงแค่ส่ายศีรษะ คร่ำครวญว่าเด็กคนนี้ไม่ควรกลับชาติมาเกิดในท้องของหลิงอวี๋

เซียวหลินเทียนที่ไม่เคยสนใจเสี่ยวเมาเลย ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรเป็นพิเศษที่เสี่ยวเมาได้รับบาดเจ็บเมื่อครู่นี้

เมื่อได้ยินคำของไป๋สือแล้ว เขาถึงได้มองตรงไปยังหลิงอวี๋ เอ่ยเสียงเคร่งขรึมออกมา “เจ้าจะช่วยเฮยจื่อได้หรือไม่?”

“ย่อมได้เพคะ!” หลิงอวี๋เงยหน้าขึ้นด้วยความมั่นใจ

“หม่อมฉันมีเพียงแค่เงื่อนเดียวเท่านั้น เขาต้องฟันตัวเองสองดาบ! ดาบแรกที่เขาเตะลูกชายข้าจนได้รับบาดเจ็บ สมควรชดใช้คืน! อีกดาบหนึ่งชดใช้ที่รแทงข้าเมื่อครู่นี้!”

หลิงอวี๋ชี้มือไปทางด้านของชิวเฮ่า

นางหลิงอวี๋ จะไม่เป็นเหมือนกับหลิงอวี๋คนก่อนหน้านั้น ที่ถูกลอบวางแผนการใส่ยังไม่รู้จักตอบโต้!

จุดมุ่งหมายในการเป็นมนุษย์ของนางก็คือ ผู้อื่นเคารพข้าเพียงบรรทัด ข้าจะต้องเคารพเขาเป็นจั้ง!

หากว่าเจ้ารุกล้ำไม่รู้จักพอ ข้าก็จะไม่มีวันยอม!

สีหน้าของเซียวหลินเทียนเปลี่ยนเป็นดำคล้ำขึ้นมาทันที ตะโกนออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว “หลิงอวี๋ เจ้านี่ได้คืบจะเอาศอก!”

หลิงอวี๋ยกยิ้มเสียดสีออกมา “เฮยจื่อหรือว่าเขา แล้วแต่ท่านจะกรุณา!”

“ท่านอ๋อง ขอเพียงแค่นางช่วยเฮยจื่อไว้ อย่าเอ่ยถึงว่าจะฟันสองครั้งเลย ต่อให้เป็นสิบครั้งกระหม่อมก็ฟันได้! เกรงก็แต่ว่านางจะหลอกลวงท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ!” ชิวเฮ่าตะโกนขึ้นมาเสียงดัง

“หากว่าหม่อมฉันมิอาจช่วยเฮยจื่อเอาไว้ได้ หากว่าเขาตายไป หม่อมฉันจะฆ่าตัวตายชดใช้ความผิดทันที!” หลิงอวี๋เอ่ยออกมาอย่างไม่ยอมถอยให้ในทันที

“หลิงอวี๋ เจ้าอย่าลืมไป เฮยจื่อก็เป็นเพราะว่าเจ้า ชีวิตถึงได้แขวนอยู่บนเส้นด้าย เจ้าช่วยเขาก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลแล้ว!”

เซียวหลินเทียนเอ่ยออกมาอย่างไร้ปรานี “ยังมี ลูกชายของเจ้า และคนของเจ้าล้วนแต่อยู่ในมือของข้า!”

“หากว่าเจ้าช่วยชีวิตเฮยจื่อเอาไว้ไม่ได้ ข้าก็จะฆ่าพวกเจ้าทันที!”

ชิวเฮ่ารีบตอบสนองทันใด พลันดึงดาบออกมาพาดลงบนลำคอของแม่นมลี่ในทันที

หลิงอวี๋ถอนหายใจออกมา ในใจรู้สึกหดหู่ขึ้นมา อย่างรู้สึกแย่

เมื่อครู่นี้นางเพียงแต่อยากจะทดลองเซียวหลินเทียน แต่ท่าทีของเซียวหลินเทียนกลับทำให้นางผิดหวังยิ่ง

ในใจรู้สึกแย่ ก็ไม่ใช่เพราะความรู้สึกของตนเอง!

เป็นเพราะอารมณ์ที่หลงเหลืออยู่ของหลิงอวี๋คนเก่า!

ชีวิตของเสี่ยวเมาและหลิงอวี๋ ในสายตาของเซียวหลินเทียน กลับไม่สำคัญเท่ากับเฮยจื่อและชิวเฮ่า ทั้งสองคนนี้ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องทางสายเลือดกับเขาเลย!

หลิงอวี๋รักเขาถึงเพียงนี้ กลับตายไปทั้งที่ยังไม่ได้รับความรักจากเซียวหลินเทียน!

เป็นเพราะว่าเหตุนี้นางถึงได้รู้สึกย่ำแย่กระมัง!

หลิงอวี๋มองไม่ออกจริง ๆ เลยว่า ชายสารเลวอย่างเช่นเซียวหลินเทียนมีค่าอะไรให้ควรรัก!

ชายรูปหล่อประเภทนี้หลิงอวี๋พบเห็นมามากแล้วในยุคสมัยปัจจุบัน ถึงแม้ว่าเซียวหลินเทียนจะหล่อเหลาและดูดีกว่าดาราหนุ่มยุคปัจจุบัน...

แต่ก็เพียงแค่น่ามองเท่านั้น เป็นเพียงแค่คนที่ใจบอดตาบอดเท่านั้น!

หลิงอวี๋เองก็ไม่ได้ย่อถอย ยังคงตบมือและเผยยิ้มออกมา “บัดนี้ได้รู้เกียรติศักดิ์บารมีของท่านอ๋องอี้แล้ว! ข่มขู่ผู้หญิงและเด็ก น่าประทับใจนัก! ย่อมได้หม่อมฉันจะช่วยเด็กคนนี้ ถือเป็นสิ่งที่หม่อมฉันติดค้างเฮยจื่อเอาไว้!”

ในที่สุดนางก็อดทนเอาไว้ไม่ได้ เอ่ยเสียดสีออกมาอีกประโยคหนึ่ง “เซียวหลินเทียน ท่านใช้ลูกไม้เดิม ๆ มาข่มขู่หม่อมฉันมิได้เสมอไปหรอกนะ!”

นางเหลือบมองไปยังชิวเฮ่า มุมปากม้วนขึ้นปรากฏเป็นรอยยิ้มความหมายลึกซึ้ง...

ยิ้มเสียจนชิวเฮ่ารู้สึกขนลุกชัน...

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2700

    ยังมิทันที่สือเหล่ยจะพูดอะไร หลิงเฟิงก็ไต่ลงไปตามกองหินที่พังทลายนั้นแล้วเขาคล่องแคล่วว่องไว เวลามินานก็ลงไปถึงลำธารด้านล่างแล้วเขาเดินเข้าไป แต่ยังมิทันได้เข้าไปใกล้ เขาก็เห็นว่าลิงตัวนั้นเงยหน้าขึ้นมาในทันที ดวงตาสีเขียวจ้องมองมาที่หลิงเฟิงอย่างโหดร้ายหัวใจของหลิงเฟิงหยุดเต้นไปชั่วขณะ แล้วมองลิงตัวนั้นอย่างกังวลเมื่อคืนหลิงเฟิงได้เห็นความโหดเหี้ยมในการต่อสู้กันของสัตว์ประหลาดสองตัวนี้แล้ว หากลิงตัวนี้กระโจนเข้าใส่ตน เขาก็มิรู้เช่นกันว่าตนจะเป็นคู่ต่อสู้ของมันได้หรือไม่แต่ลิงตัวนั้นมิได้เคลื่อนไหวใด ๆ แต่จ้องมองหลิงเฟิงอย่างโกรธเกรี้ยวอยู่เช่นนั้นหลิงเฟิงเห็นว่าผิวหนังบนร่างของมันเปิดออกและเลือดก็ไหลซึมออกมามิหยุดเขารู้สึกสะกิดใจขึ้นมา สัตว์ประหลาดตาเขียวตัวนี้อ่อนแรงมากแล้ว บางทีมันอาจจะไม่มีแรงโจมตีตนแล้วก็เป็นได้หลิงเฟิงจึงยกมือทั้งสองขึ้น พร้อมทั้งยิ้มแล้วเอ่ยว่า “หากเจ้าฟังข้ารู้เรื่อง ก็จะรู้ว่าข้ามิได้มีเจตนาร้ายต่อเจ้า มิฉะนั้นหากข้าคิดจะสังหารเจ้า เจ้าก็หนีไปมิพ้นหรอก!”“สัตว์ประหลาดน้อย เจ้าดูบาดแผลเต็มตัวเจ้าสิ หากข้ามิช่วยเจ้า เจ้าก็คงจะเลือดไหลออกมาจนตาย!

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2699

    ปกติแล้วภายนอกนั้นเถาจื่อจะทำตัวเหมือนมิได้คิดมากอะไร และยังคงช่วยทุกคนทำงานไปตามเดิมแต่ในบางครั้งหลิงเฟิงก็เห็นว่า เถาจื่อมักจะหลบไปตามลำพังเพื่อสวดส่งวิญญาณให้กับคนที่ตายในการสู้รบเช่นพวกจ้าวซวนอยู่บ่อย ๆครานั้นเมื่อหลิงเฟิงเห็นเข้า ในใจก็รู้สึกอึดอัดขึ้นมาตอนนั้นเขาเองก็ถูกเถาจื่อทำร้ายจนเกือบตายเช่นกัน บนร่างกายเขามีบาดแผลจากมีดขนาดต่าง ๆ อยู่นับสิบแผล และเป็นหลิงอวี๋ที่ช่วยชีวิตเขาไว้ได้หลังจากที่รู้ว่าเถาจื่อคือคนที่ทรยศพวกเขา หลิงเฟิงเองก็อยากสังหารเถาจื่อเช่นกันแต่หลังจากที่ได้ฟังหลิงอวี๋บอกว่า เถาจื่อถูกชายาเจ้าแห่งทะเลควบคุม จึงสูญเสียสติของตนไปแล้วทำความผิดเหล่านั้น ความโกรธที่หลิงเฟิงมีต่อเถาจื่อก็หายไปกว่าครึ่งแล้วแต่ก็เป็นเช่นเดียวกับทุกคน ต่อให้ในแง่ของเหตุผลหลิงเฟิงจะรู้สึกว่าการที่เถาจื่อทรยศพวกเขานั้นมิใช่ความผิดของนางทั้งหมด แต่ทุกครั้งที่เห็นเถาจื่อ ในใจของหลิงเฟิงก็มักจะมีความรู้สึกที่ติดค้างอยู่เสมอวันนั้นเมื่อเห็นเถาจื่อคุกเข่าอย่างตั้งมั่น แล้วสวดบทสวดส่งวิญญาณในใจของหลิงเฟิงก็รู้สึกมิสบายใจยิ่งนักเขานึกถึงคำพูดที่หลิงอวี๋กล่าวไว้ว่า หากเปลี่ยน

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2698

    วันรุ่งขึ้น ท้องฟ้าเพิ่งจะสว่าง ทั้งสี่คนก็รีบลุกอย่างรีบร้อน และตามไปทางร่องรอยที่เกิดขึ้นจากการต่อสู้กันของสัตว์ประหลาดหลิงเฟิงมุ่งมั่นเต็มที่ แล้วชิงอยู่หน้าขบวนไปตลอดทางเพื่อตามรอยสัตว์ประหลาดสองตัวทำเอาต้นไม้หักโค่นไปจำนวนมาก และร่องรอยเหล่านี้ก็ลากยาวไปตลอดสิบกว่าลี้ทั้งสี่คนเห็นเช่นนั้นต่างก็รู้สึกหวาดกลัว แม้ว่าจะมิได้เห็นสภาพการต่อสู้ด้วยตาตนเอง แต่ดูจากเสียงเมื่อคืนกับร่องรอยเหล่านี้แล้ว การสู้รบช่างโหดร้ายนัก“หวังว่าพวกมันจะมิได้ต่อสู้กันจนตายไปด้วยกันนะ!”หลิงเฟิงยิ้มขมขื่นแล้วเอ่ยออกมาแต่อู่หรานกลับมิได้มีความทะเยอทะยานคิดจะทำให้สัตว์อสูรเชื่องเช่นเดียวกับหลิงเฟิงเนื่องจากสัตว์อสูรมิใช่ใครที่ไหนจะสามารถเลี้ยงได้ไหว มันจะต้องกินพวกโอสถเสริมพลังวิญญาณอะไรทำนองนั้น ซึ่งล้วนเป็นค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่เงินที่อู่หรานหามาได้ ยังคงต้องใช้ประโยชน์อยู่ เขาทำใจนำเงินออกมาเลี้ยงดูสัตว์อสูรมิได้หรอกสือเหล่ยกับเถาจื่อก็เช่นกันอู่หรานเดินตามหลิงเฟิง พลางสังเกตสัญลักษณ์ของซานเชวี่ยไปด้วยแต่ทางนี้ดูเหมือนจะมิใช่เส้นทางที่ซานเชวี่ยไป เดินไปได้สักพักหนึ่งก็มิพบสัญลักษณ์ของซาน

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2697

    เถาจื่อได้ฟังคำพูดของหลิงเฟิงเช่นนั้นก็รู้สึกสบายใจไปมิน้อยนางเองก็มิอยากให้เกิดเรื่องขึ้นกับซานเชวี่ยเช่นกัน ในช่วงนี้ที่ติดกันอยู่ในภูเขาศักดิ์สิทธิ์ เถาจื่อกับพวกซานเชวี่ยล้วนอยู่ด้วยกันราวกับพี่น้องซานเชวี่ยมีความคิดที่บริสุทธิ์ ทำให้เถาจื่อนึกถึงตนเองในอดีต ในใจก็ยิ่งสนิทกับซานเชวี่ยมากขึ้นอีกเสียงต่อสู้ผสมกับเสียงคำรามของสัตว์ยังคงดำเนินต่อไปหลิงเฟิงเห็นประกายสีเขียวกะพริบมิหยุด เขาจึงเอ่ยถาม “อู่หราน เจ้าคิดว่าสัตว์ประหลาดสองตัวนั้นเป็นตัวอะไรกัน?”อู่หรานเป็นคนแดนเทพ ทั้งยังเติบโตมาพร้อมกับเจ้าตำหนักคนเก่าอีกด้วย จึงพอจะรู้จักพวกสัตว์ประหลาดเหล่านี้อยู่บ้างเขาพิจารณาจากขนาดและเสียงคำรามของมันแล้วเอ่ยออกว่า “ข้าว่าสัตว์ประหลาดสองตัวนี้น่าจะเป็นเสือดาว ที่มีขนาดพอ ๆ กัน!”หลิงเฟิงเอ่ยอย่างมิเห็นด้วย “อีกตัวอาจจะเป็นเสือดาว แต่เจ้าเห็นหรือไม่ว่าตัวนั้นเป็นสัตว์ประหลาดตาสีเขียว รูปร่างมิคล้ายเสือดาวนะ!”“ดูเหมือนมันจะยังมิเปล่งเสียงออกมา!”สือเหล่ยจึงขยับเข้ามาแล้วเอ่ยว่า “ข้าก็คิดว่าสัตว์ประหลาดตาสีเขียวมิใช่เสือดาวเช่นกัน มันดูคล้ายลิงขนาดใหญ่มากกว่า! มันดูว่องไวกว่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2696

    “แม่ทัพหลิง!”สือเหล่ยเห็นสถานการณ์เช่นนั้นก็ตะโกนออกไปอย่างตกใจ ขณะกำลังคิดจะกระโดดลงจากต้นไม้ไปตรวจดูอาการของหลิงเฟิง เขาก็เห็นว่าประกายสีเขียวนั้นพุ่งเข้ามาที่ต้นไม้ซึ่งตนอาศัยอยู่แล้ว“สื่อเหล่ย หลบเร็วเข้า!”เถาจื่อเห็นเช่นนั้นก็ตะโกนออกไปสือเหล่ยจึงรีบหลบไปจากบนต้นไม้ทันทีแทบจะในเวลาเดียวกันนั้นเอง สัตว์ประหลาดตัวนั้นก็พุ่งเข้ามาจากนั้นก็เกิดเสียงดังขึ้น แล้วต้นไม้ที่สือเหล่ยอยู่เมื่อครู่ก็ถูกพุ่งชนจนหักลงไปอีก“หนีเร็ว มีสัตว์ประหลาดมาอีกตัวแล้ว!”อู่หรานได้ยินเสียงจึงรีบเตือนว่า “ทุกคนแยกกันหนี กลับไปที่ยอดเขาเมฆนภาก่อนค่อยว่ากัน!”ขณะที่อู่หรานกำลังพูด เขาก็พุ่งไปทางหลิงเฟิงหลิงเฟิงกระเด็นออกไป แล้วก็กระแทกไปบนต้นไม้ที่อยู่ด้านหลัง ยังดีที่มีใบไม้อยู่หนาแน่น กิ่งไม้เหล่านั้นจึงลดแรงกระแทกให้หลิงเฟิงได้มิน้อยแม้ว่าหลิงเฟิงจะถูกกระแทกจนมึนหัว แต่นอกจากแผลถลอกเล็กน้อยแล้วก็มิได้รับบาดเจ็บหนักอะไรเขายันตัวลุกขึ้นแล้วเห็นว่าอู่หรานพุ่งมาทางตน จึงตะโกนไปว่า “ข้ามิเป็นไร รีบหนีไปเร็วเข้า!”ทั้งสี่คนวิ่งหนีกลับไปอย่างมิคิดชีวิต แต่สิ่งที่ทำให้ทั้งสี่คนประหลาดใจก็คือ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2695

    เมื่อเถาจื่อได้ฟังคำพูดของสือเหล่ย นางก็มองอู่หรานที่อยู่ด้านหน้าอย่างเงียบ ๆอู่หรานคือคนที่เข้าถึงได้ยากที่สุดในบรรดามือสังหารของตำหนักปีกเงินเหล่านี้เถาจื่อแทบจะมิเคยพูดคุยกับเขาสักเท่าไรแม้ว่าในบางครั้งจะช่วยเขาซักและเย็บซ่อมอาภรณ์ให้ อู่หรานก็ยังคงเฉยชา มิพูดอะไรทั้งนั้นเถาจื่อกับหานเหมยจึงแอบตั้งฉายาให้เขาว่า… ภูเขาน้ำแข็ง!พวกนางสองคนรู้สึกว่าอู่หรานผู้นี้เป็นเช่นภูเขาน้ำแข็งที่เย็นชาคนเช่นนี้ สตรีคนใดจะกล้าแต่งงานกับเขาเล่า เช่นนั้นจะมิถูกเขาเย็นชาใส่จนตายหรือ!“เหอะ ๆ… ค่อยว่ากันเถิด!”บุรุษเช่นนี้ตนยังรับมิไหว เถาจื่อมิอยากทำร้ายพี่น้องของตน“พี่เถาจื่อ เจ้าเล่าให้ข้าฟังได้หรือไม่ว่าที่ฉินตะวันตกมีอะไรสนุกหรืออร่อยบ้าง?”ยากที่สือเหล่ยจะมีโอกาสได้พูดคุยกับเถาจื่อ เขาจึงเอ่ยถามมิหยุดเถาจื่อจึงเลือกเรื่องสนุกสนานที่ฉินตะวันตกมาเล่าให้สือเหล่ยฟังหลิงเฟิงกับอู่หรานที่อยู่ข้างหน้าก็เลี่ยงมิได้ที่จะได้ยินไปด้วยแต่ทั้งสองคนก็มิได้รำคาญหลิงเฟิงฟังเถาจื่อพูดจนนึกถึงเรื่องราวเหล่านั้นที่ฉินตะวันตก แล้วก็รู้สึกคุ้นเคยขึ้นมาแม้ว่าอู่หรานจะแสดงออกเย็นชา แต่ก็ถูกเรื

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status