เข้าสู่ระบบ"พ่อทำอะไรคะ" เข้ามาถึงก็เห็นพ่อพยายามดันตัวลุกขึ้นจากเตียง
"ไปไหนมาตั้งนานสองนาน" "ออกไปทำธุระมาค่ะ" "เกี่ยวกับพวกมันไหม" "ฝันจะเล่าให้ฟังทีหลังแล้วกันค่ะ" เธอยังไม่รู้เลยว่าคุณหมอจะตอบตกลงไหม แต่ถึงแม้คุณหมอจะตกลงเธอก็ไม่รู้จะเล่าให้พ่อฟังยังไง ตอบพ่อไปแบบผ่านๆ ก่อนแล้วกัน "เราอย่าตามรอยแม่เด็ดขาด" "พ่อยังไม่บอกเลยว่าจะลุกมาทำไม" หญิงสาวเลี่ยงที่จะคุยเรื่องนี้ "จะเดิน" "คุณหมอยังไม่อนุญาตให้พ่อลุกเดินเลยนี่คะ" "เพราะมันเป็นพวกเดียวกันไง กลัวว่าฉันเดินได้แล้วจะไปฆ่ามัน" "พ่อก็เป็นเสียแบบนี้ อยู่เฉยๆ ให้ฝันสบายใจหน่อยไม่ได้หรือไง" "ข้างนอกกี่องศาเนี่ยทำไมในห้องมันร้อนจัง" คนเป็นพ่อก็เลยพูดไปเรื่องอื่น "ช่วงนี้ฤดูร้อนอากาศก็แบบนี้แหละค่ะ" ห้องนี้มีช่องลมพอให้มีอากาศหายใจได้ ในห้องผ่าตัดเวลาเดียวกันนั้น.. "คุณหมอไม่สบายหรือเปล่าครับ" ทำงานด้วยกันมานาน ทำไมจะไม่รู้ว่าตอนนี้หมอคีตะดูเสียอาการไป "ความดันคนไข้เป็นยังไงบ้าง" ถ้ายังเป็นแบบนี้มีหวังเสียชื่อแน่ คีตะต้องลืมหน้าเธอไปให้ได้ก่อน "ความดันคนไข้ยังคงที่ค่ะ" "ผมยังไหวผ่าตัดต่อได้เลย" จนเวลาผ่านไปตอนนี้การผ่าตัดก็เป็นไปด้วยดี "คุณหมอน่าจะหาโอกาสพักผ่อนบ้างนะครับ ช่วงนี้โหมงานหนักเกินไปแล้ว" "ผมจะเก็บไปพิจารณาแล้วกัน ขอบคุณมากที่เข้าห้องผ่าตัดด้วย" "ถ้างั้นผมไปเยี่ยมคนไข้ก่อนนะครับ" ได้ยินว่าหมอกฤษณะจะไปเยี่ยมคนไข้ คีตะก็ต้องไปดูคนไข้รายนั้นบ้าง เดินมาถึงบันไดหนีไฟชั้นหกของโรงพยาบาลนั้น คุณหมอคีตะก็มองซ้ายมองขวาก่อนที่จะหายเข้าไปในห้อง "หมอบอกว่าอย่าเพิ่งขยับตัวไม่ใช่เหรอ" "คุณหมอ?" พ่อดื้อมากเธอก็เลยช่วยพยุง แต่ไม่คิดว่าคุณหมอจะเข้ามา "ถ้าไม่เชื่อหมอที่นี่จะไปรักษากับหมอคนอื่นก็ได้นะครับ" กระดูกคนไข้ร้าวต้องทำการดามด้านนอกไว้ เพราะกลัวว่าตรงที่ร้าวมันจะหักก็เลยยังไม่อยากให้คนไข้ขยับตัว "หมอแน่ใจนะว่าไม่ได้เกี่ยวกับคู่กรณีของผม" "พ่อคะ" "ก็บอกแล้วไงว่าถ้าไม่เชื่อใจหมอจะไปทำการรักษาที่อื่นก็ได้" คำก็อยากให้ไปรักษาที่อื่นสองคำก็อยากให้ไปรักษาที่อื่น ก็รู้อยู่ว่าตอนนี้พ่อกำลังหนีคดี จะไปรักษาที่ไหนได้ล่ะ "นอนลงที่เดิมก่อนนะคะพ่อ" วาดฝันใช้แรงที่มีดันตัวพ่อไว้ไม่ให้ใช้แรงของพ่อเอนตัวลงเอง "ม่ะ เดี๋ยวผมช่วย" คีตะก็เลยรีบเข้าไปรับร่างคนป่วยเพื่อที่จะจัดท่าให้นอนลงบนเตียง "อยู่แบบนี้อีกสักสองวัน จะพาไปเอกซเรย์ดูอีกที" ตรวจอาการเสร็จคีตะก็ออกจากห้องนั้น "คุณหมอคะ" วาดฝันรีบตามคุณหมอออกมาด้วย "เราจะคุยเรื่องนั้นกันต่อตอนไหนคะ" "คุณทำให้ผมรู้สึกเหมือนผมติดค้างอะไรคุณอยู่เลยนะ" "ขอโทษค่ะที่ทำให้คุณหมอรู้สึกแบบนั้น แต่ฉันก็ไม่ได้ขอให้คุณหมอช่วยเปล่าๆ นี่คะ" "หมอ" ในขณะที่ทั้งสองกำลังพูดคุยกันอยู่เสียงนี้ก็ดังขึ้น "ด็อกเตอร์" คีตะหันไปมองเพื่อน ***ตอนที่เล่าเรื่องยั่วรักคุณหมอคีตะช่วงแรกดอกเตอร์พันไมล์ยังไม่เดินทางไปต่างประเทศ และพันฤทธิ์ก็ยังไม่ออกจากโรงพยาบาลนะคะ "เราเข้ามาขัดจังหวะอะไรไหม" "ดูอาการคนป่วยเสร็จพอดีมีอะไร" "ได้ยินว่าตำรวจมาหา" ขณะที่พูดพันไมล์มองไปดูลูกสาวคู่กรณี แต่เธอคนนั้นไม่กล้ามองสบตาเขา "อืม ไปคุยกันในห้องดีกว่า" ห้องทำงานคุณหมอคีตะ.. "จากคนที่เชื่อถือได้อย่างนั้นเหรอ" "ใช่..เรื่องนี้มีแค่ไม่กี่คนที่รู้" ขนาดคนที่ทำงานในโรงพยาบาลยังไม่รู้เลยว่าคนไข้คนนั้นเป็นใคร รู้แค่ว่าเป็นคนไข้อนาถา "อย่าบอกนะว่าเป็นฝีมือของพ่อ" "เราว่านายไปคุยกับท่านก่อนดีกว่าไหม" และหนึ่งในนั้นที่รู้ว่าคนที่ยิงพันฤทธิ์รักษาตัวอยู่ที่นี่ก็คือพ่อเลี้ยงอิทธิพล แกร็ก.. คุยกับคุณหมอคีตะเสร็จ..ด็อกเตอร์พันไมล์ก็เปิดประตูออกมา พอออกมาก็เห็นว่าลูกสาวของคนที่ยิงพี่ชายยืนอยู่หน้าห้อง "ด็อกเตอร์คะ" "ครับ" "ขอร้องนะคะ ขอให้คุณพ่อฟื้นฟูร่างกายได้ก่อน" "เรื่องนี้ผมก็ช่วยได้ไม่เยอะ ถ้าตำรวจได้กลิ่นแล้วก็คงไม่นาน" ยังไม่ได้พูดอะไรไปมากกว่านี้ พันไมล์ก็มองเห็นว่าตอนนี้วันศุกร์มองมาด้วยใบหน้าที่บึ้งตึง วาดฝันคิดว่าจะชักช้าอีกไม่ได้แล้ว ต้องรีบคุยกับทนายความ แต่เธอจะเอาเงินที่ไหนมาจ้างทนายความล่ะ "เป็นอะไรทำไมหน้าเป็นแบบนี้" พันไมล์รีบเดินมาหาภรรยาที่ยืนรออยู่หน้าลิฟต์ "ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร" "ผู้หญิงคนไหน" "ก็คนที่ใส่เสื้อสีชมพู ที่หน้าสวยๆ นั่นไง" "ลูกสาวของคนที่ผมเล่าให้ฟังไง เธอมาขอร้อง" "คุณก็เลยยอมช่วยเพราะเธอสวยใช่ไหมคะ" "คุณคิดอะไรอยู่เนี่ย นั่นลูกของคนที่คิดจะฆ่าพี่ชายผมเลยนะ อีกอย่างสวยไม่สู้คุณหรอก" เวลาเดียวกันนั้น..หน้าห้องคุณหมอคีตะ "เดี๋ยวก่อนค่ะ" พยาบาลที่นั่งอยู่ด้านหน้ารีบหยุดเธอคนที่ชอบมาป้วนเปี้ยนแถวนี้ก่อนที่เธอจะเปิดประตูเข้าไปในห้อง "คุณหมอบอกให้ฉันมาพบค่ะ" "คุณหมอบอกแน่นะคะ" "ใช่ค่ะ" "ถ้างั้นฉันขอไปแจ้งคุณหมอก่อนแล้วกัน" มั่นหน้าไปไหมเรา..ถ้าเขาบอกพยาบาลว่าไม่ได้บอกให้เรามาพบจะทำยังไงต่อล่ะยั่วรักคุณหมอโอโซน บทที่ 60วาดฝันโทรให้นานาเข้ามาหาที่โรงพยาบาล เพื่อมาคุยกับคุณหมอก่อน ว่าจะเลือกทำงานพาร์ทไทม์แบบไหน และนานาก็ยอมเข้ามาในตอนสายของวันนั้น ที่มาสายเพราะเธอไม่คิดว่าจะเข้ามาทำงานแล้ว แค่อยากจะหางานรองรับไว้ทำตอนเปิดเทอมหน้าโรงพยาบาล และตอนนี้ก็มีคนบาดเจ็บที่ประสบอุบัติเหตุกำลังถูกนำลงจากรถของโรงพยาบาลนานายืนตัวแข็งมองดูคนที่ร้องโอดโอยอยู่บนเปลผู้ป่วย"ทำไมถึงเพิ่งมา" หมอโอโซนที่รับเวรดูแลห้องฉุกเฉินวันนี้ออกมาดูคนเจ็บ แต่มองไปเห็นว่านานายืนอยู่ตรงนั้น เขาก็เลยรีบเดินเข้ามาเอาร่างตัวเองบังสายตาเธอไว้ไม่ให้มองไปตรงที่กำลังเคลื่อนย้ายผู้ป่วยอยู่ "แล้วทำไมถึงมายืนอยู่ตรงนี้"ทีแรกเธอไม่รู้เลยว่าคนที่พูดด้วยเป็นใคร แต่พอเรียกสติตัวเองกลับมาได้เธอถึงได้มองสูงขึ้นดูคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าแต่พอรู้ว่าเป็นเขาเธอก็ไม่พูดอะไร กำลังจะเดินแยกไปอีกทางหนึ่ง"คุณหมอคะ คนไข้เสียเลือดมาก""เอาเข้าห้องผ่าตัด" ชายหนุ่มหันไปสั่งพยาบาลแล้วก็หันกลับมาหาเธอที่กำลังจะเดินไป "ไปรอที่ห้องทำงาน" เขาไม่รู้หรอกว่าที่สั่งไปเธอได้ยินไหมเพราะดูเหม่อลอยคงกลัวเลือดมากนานาเดินมาอีกไม่ไกลก็เจอวาดฝันที่รออ
ยั่วรักคุณหมอโอโซน บทที่ 59นั่งรถมาอีกก็นานพอสมควรกว่ารถจะหยุดพักเพื่อให้ทุกคนเข้าห้องน้ำอีกครั้ง เพราะการเดินทางขึ้นเหนือใช้เวลานานมากยิ่งจังหวัดที่ทุกคนอยู่เหนือสุดของประเทศด้วย"โอ๊ย..ซี๊ดดด"ก๊อก ก๊อก"นานาเป็นอะไร" มีคนวานให้เปรมวดีเข้ามาดูห้องน้ำผู้หญิง เพราะเห็นว่าเธอเข้านานแล้วไม่ออกมาสักที ห้องน้ำที่ปั๊มน้ำมันแยกชายหญิง แต่พอเปรมวดีเข้ามาก็ได้ยินเสียงโอดโอย"ปวดท้องค่ะ""เปิดประตูหน่อย"นานายอมเปิดประตูออกมา"ปวดท้องแบบไหน"เธอชี้ตรงที่รู้สึกปวด"กลั้นปัสสาวะหรือเปล่า"นานาพยักหน้าตอบเพราะเธอกลั้นตั้งแต่รถจอดครั้งแรกจนมาจอดครั้งที่สอง ทนไม่ไหวก็เลยลงมาเข้าห้องน้ำ"กระเพาะปัสสาวะอักเสบแน่เลย""มีอะไร" และคนที่วานให้เปรมวดีเข้ามาดูก็ทนรออยู่ด้านนอกไม่ไหว"เจ็บท้องค่ะ" เห็นว่านานาไม่ตอบเปรมวดีก็เลยเป็นคนตอบให้"เจ็บตรงไหน""กระเพาะปัสสาวะค่ะ""กลั้นปัสสาวะเหรอ"เราผิดอีกแล้วใช่ไหมเนี่ย"ถ้าอยากเข้าห้องน้ำทำไมไม่บอกรถให้จอด กลั้นปัสสาวะนานๆ ก็อักเสบน่ะสิ""คงไม่ถึงกับตายหรอกมั้งคะ" นานากัดฟันพูดก่อนที่จะเดินออกมา"ประชดเข้าไป""โอ๊ย" เดินพ้นประตูห้องน้ำออกมาก็ก้าวไม่ไหวอีกแล้ว ท
ยั่วรักคุณหมอโอโซนบทที่ 58"เปรมว่าให้นานาออกมาอยู่ในห้องดีกว่าไหมคะ" เปรมวดีไปเอาอาหารกลับมาก็ยังเห็นว่านานานอนห่มผ้าอยู่"คุณก็ลองคุยกับเธอเองสิ" โอโซนนั่งจับเข่าอยู่หน้าเต็นท์ เพราะเมื่อสักครู่พยายามจะเช็ดตัวให้เธอแต่ถูกถีบเข้าให้ ตั้งแต่เกิดมาครั้งนี้ครั้งแรกมั้งที่ถูกถีบ ถ้าไม่เห็นว่ากำลังป่วยอยู่นะจะเอาให้ร้องขอชีวิตเลย"คุณนานาคะ เราปล่อยให้ตัวร้อนมากไม่ได้นะ เดี๋ยวเกิดช็อกอันตรายต้องออกมาจากที่อบอ้าวก่อนค่ะ"พอไม่ใช่คุณหมอโอโซนที่เป็นคนพูดนานาก็ยอมออกมาเปรมวดีพานานามาพักอยู่ห้องของเธอ ส่วนเพื่อนร่วมห้องคนอื่นๆ ก็แยกกันไปขอเบียดห้องอื่นไปก่อน เพื่อจะไม่ให้เชื้อไวรัสจากไข้หวัดกระจายสู่คนอื่นนอกจากคนที่ดูแล"เดี๋ยวเปรมจะดูแลนานาเองค่ะ" เปรมวดีคิดว่าผู้หญิงคงดูแลกันได้ดีกว่า"ครับ" โอโซนเป็นคนพามาส่งที่ห้อง พอได้ยินว่ามีคนอาสาดูแลเขาก็ออกไป"คุณหมอออกไปสนุกกับคุณหมอคนอื่นเถอะค่ะ""ไม่เป็นไรหรอกค่ะเที่ยวเมื่อไรก็เที่ยวได้""ฉันมาเป็นภาระของพวกคุณใช่ไหมคะ""อย่าพูดแบบนั้นสิคะ อย่าลืมนะว่าคุณมากับหมอ""แต่ฉันอยากนอนแล้ว ขออยู่คนเดียวได้ไหมคะ""เอาแบบนั้นก็ได้ค่ะ งั้นนอนพักเยอะๆ นะคะ
ยั่วรักคุณหมอโอโซน บทที่ 57ไม่คิดว่าจะมาถูกผู้ชายแบบเขาจูบเลย เพราะเธอกับเขามองยังไงก็ต่างชนชั้น แต่ก็ว่าอีกนั่นแหละ เพราะตัวเองเป็นคนเริ่มก่อน ผู้ชายที่ไหนจะไม่เอาล่ะผู้หญิงปล่อยตัวให้ขนาดนี้จูบอยู่ครู่หนึ่งโอโซนก็ถอนจูบออก "ไม่หวงเนื้อหวงตัวบ้างเลยหรือไง" เสียงทุ้มเปล่งออกจากริมฝีปากหนาเบาๆ สายตาคมยังคงจ้องมองริมฝีปากที่เพิ่งจะถอนจูบออกเมื่อสักครู่"หวงทำไมคะ" เธอคิดว่าไหนๆ ก็จะไม่อยู่แล้ว เอาให้มันสุดเลยแล้วกัน จะคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงยังไงก็คิดไปเถอะ"ส่วนมากผู้หญิงเขาหวงเนื้อหวงตัวกัน เธอไม่รู้เลยหรือไง""ขอบคุณค่ะที่สอน จะจูบอีกไหมคะ ถ้าไม่จูบฉันจะได้ไปทานข้าว" นานาไม่พูดเปล่ายังผลักหน้าอกเขาให้ออกห่างแล้วก็เดินกลับมาที่ห้องอาหารพอเธอโผล่หน้าเข้ามาสายตาหลายคู่ที่มองมาก็รีบหันกลับไปทำสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่ ก็พวกเขาเป็นผู้ดีนี่ จะให้มองมาแล้วพูดนินทาก็ใช่เหตุเธอไม่ได้หน้าหนาจนกล้าไปนั่งร่วมรับประทานอาหารกับพวกเขาหรอก พอออกมานานาก็เดินตรงไปที่ชายหาดหาดแห่งนี้เป็นหาดส่วนตัวคงเป็นของโรงแรมที่มาพัก และเขาคงจะเคยมาที่นี่ถึงเลือกที่จะพาเพื่อนมาเที่ยวกันทำไมสถานที่สวยๆ แบบนี้ ถึงทำ
ยั่วรักคุณหมอโอโซนบทที่ 56พอมุดเข้ามาในเต็นท์ก็อดมองดูผู้หญิงที่นอนอยู่ในนี้ไม่ได้ เป็นบ้าอะไรแค่นี้ก็อดใจตัวเองไม่ได้ไอ้หมอเอ้ย ถ้าเมาก็ว่าไปอีกอย่างแต่นี่แอลกอฮอล์ยังไม่ได้เข้าสู่ร่างกายเลยหวังว่าเธอคงไม่หาเรื่องใส่ตัวอีกนะ ชายหนุ่มเบียดตัวนอนลงอีกข้างหนึ่งของเต็นท์ที่เหลืออยู่นิดเดียวอึบ!"?" ดวงตาของคนที่เพิ่งจะหลับเปิดกว้างขึ้น เมื่อถูกอีกคนนอนเอาขาพาดทับร่าง โอโซนจับขาเธอออกแล้วก็จัดท่านอนให้เธอใหม่ โดยการให้เธอนอนหันไปฝั่งนั้น แล้วเขาก็นอนหันหลังให้สายๆ ของวันต่อมา.. ทุกคนตื่นออกมาหมดแล้ว จนถึงเวลาที่ทางโรงแรมจัดเตรียมอาหารมาไว้ให้ในห้องรับประทานอาหาร ยังไม่เห็นว่าคุณหมอโอโซนออกมาจากเต็นท์เพื่อนก็เลยมาเรียก"คุณ??" ได้ยินเสียงเรียกอยู่ด้านนอกคนที่นอนหลับอยู่ในเต็นท์ก็ค่อยๆ รู้สึกตัวตื่น "ทำไมคุณถึงมานอนอยู่กับฉัน?" นานารีบดันตัวลุกขึ้นมาเช็คร่างกายตัวเองว่าเสื้อผ้าเธอยังอยู่ครบไหมโอโซนลุกขึ้นได้ก็หยิบเอากระเป๋าออกมาจากเต็นท์ เพราะเขาต้องไปใช้ห้องน้ำที่ทางโรงแรมจัดให้อีกฝั่งหนึ่ง"โอ๊ย" นานากำลังจะมุดตามออกมาแต่รู้สึกเจ็บหว่างขา "......." เรื่องเมื่อคืนนี้มันไม่ใช่แค่ความฝั
"เธออย่าหาเรื่องใส่ตัวนะ" คนร่างสูงขยับใบหน้าออก มองต่ำลงมาดูผู้หญิงที่อาจหาญแอบขโมยจูบเขาไปแต่เธอไม่คิดจะฟัง คนตัวเล็กยังพยายามเขย่งเท้าขึ้นเพื่อดันตัวเองให้สูง หวังจะจูบเขาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เธอกลับถูกอีกฝ่ายจับร่างพิงเข้ากับผนังห้องน้ำแทน และเขาก็เป็นคนโน้มริมฝีปากลงมาจูบ โดยไม่ต้องให้เธอได้ใช้แรงดึงเลยเพราะแบบนี้แหละนานาถึงไม่อยากดื่ม เวลาดื่มแล้วเธอชอบขาดสติ แต่ก็ไม่เคยไปจู่โจมอยากจะจูบใครแบบนี้ คงเพราะความรู้สึกลึกๆ ที่อยากเอาชนะเขา แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเอาชนะคนแบบนี้ได้ยังไงลิ้นแลกลิ้นพันกันพัลวันจนไม่รู้ว่าลิ้นใครเป็นลิ้นใคร ขณะที่เขากำลังจูบปากเธออยู่มือเรียวก็ได้เอื้อมลงมาปลดเข็มขัดที่ติดกับขอบกางเกงของเขาอยู่ออกส่วนมือโอโซนก็ไม่อยู่เฉยล้วงเข้าไปในกางเกงของเธอเช่นกัน"อือ" พอถูกนิ้วแกร่งสะกิดยอดเม็ดเสียวคนตัวเล็กถึงกับสั่นสะท้านไปทั้งตัว แต่เธอก็ไม่คิดจะถอยแถมยังแยกขาออกเพื่อให้เขาขยับนิ้วได้ถนัดริมฝีปากหนาถอนจูบออกแล้วขยับต่ำลงมาไซร้ซอกคอระหง"อือ อ๊อยย" ความรู้สึกเสียวซ่านเกิดขึ้นทั่วร่างกายเมื่อถูกอีกฝ่ายดูดจุดที่อ่อนไหวกับอะไรแบบนี้มือหนาอีกข้างที่กำเต้าอยู่ก็ขยับเลื่อ







