แชร์

ย้อนเวลากลับมาทวงแค้น
ย้อนเวลากลับมาทวงแค้น
ผู้แต่ง: นิ่งเฟยหรง

ตอนที่ 1 ฟื้นกลับมาอดีต

ผู้เขียน: นิ่งเฟยหรง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-07-22 16:59:10

ลมหนาวโชยมาจากรอบทิศ ใบไม้แห้งกรอบปลิวว่อน พัดกระทบผืนหลังคากระเบื้องที่แตกร้าวเป็นทาง เสียงกิ่งไม้เสียดสีกันเบา ๆ คล้ายเสียงกระซิบแห่งความตาย

ในเรือนเล็กที่ตั้งอยู่หลังจวนใหญ่ของตระกูลเซียว เสียงไอแผ่วเบาดังขึ้น พร้อมแรงสะอื้นที่สั่นสะท้าน เซียวลี่อิน ลืมตาขึ้นด้วยดวงตาขุ่นมัวและอ่อนแรง ราวกับร่างกายที่นางอาศัยอยู่มิใช่ของตน

“นี่ ที่ใดกัน…”

ปลายนิ้วอ่อนแรงแตะลงบนฟูกเก่า กลิ่นหญ้าแห้ง ผ้าห่มที่หยาบกระด้าง และอากาศเย็นชืดที่แทรกเข้าสู่ร่างทำให้นางรับรู้ได้ทันทีว่านี่มิใช่โลกหลังความตายที่ตนควรอยู่

หากแต่เป็น…

“เรือนของข้า?”

ดวงตากลมเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย นางยันกายขึ้นช้า ๆ แม้หัวจะปวดร้าวจนคล้ายจะระเบิด

เรือนเล็กนี้อยู่หลังจวนสกุลเซียว เป็นเรือนที่นางเคยอาศัยเมื่อหลายปีก่อน เป็นสถานที่ที่ถูกแยกขาดราวกับไม่ใช่ส่วนหนึ่งของตระกูล นี่คือที่ซุกหัวของผู้ไร้ค่าที่สุดในบ้าน

“เดี๋ยวนะ…เมื่อไม่นานมานี้ ข้ายังอยู่ที่เชิงหน้าผา ถูกนเซียวถิงฮวาผลักตกลงไปมิใช่หรือ…”

ทันใดนั้น ความทรงจำก็พุ่งเข้าจู่โจมสมองของนางราวกับสายน้ำหลาก

ท่านแม่! ท่านแม่ฟื้นสิ

อย่าเพิ่งจากข้าไป!!”

เจ้าก็เป็นแค่บุตรสาวที่ไม่มีใครต้องการ

ต่อให้ข้าผลักเจ้าลงไปก็ไม่มีผู้ใดใส่ใจหรอก!”

น้องสาวเจ้าดีกว่าเจ้าเป็นร้อยเท่า!”

เสียงเหล่านั้น… ใบหน้าพวกมัน… รอยยิ้มร้ายของเซียวถิงฮวา น้ำเสียงเย้ยหยันของเจินซูเม่ย และสายตาเย็นชาของเซียวเฟิงเฉิน บิดาของนาง

นางจำได้ทุกถ้อยคำ ทุกบาดแผล ทุกความเจ็บปวด

ข้าถูกพวกมันหลอกไปที่หน้าผา

ข้าถูกผลักตกลงไปตาย

แต่แล้วทำไม?

“ข้ายังมีชีวิตอยู่?” นางกระซิบ พลางลูบแก้มตนเบา ๆ ความรู้สึกเย็นยะเยือกนั้นชัดเจนเกินจริง

นางรีบมองไปรอบห้อง ทุกอย่างเหมือนในอดีตไม่มีผิดเพี้ยน

“ข้าย้อนกลับมาอดีตงั้นหรือ” เสียงนั้นแทบไร้ลมหายใจ นางแทบไม่อยากเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้น

เซียวลี่อินค่อย ๆ ลุกขึ้น เดินโซเซไปยังหน้ากระจกที่วางพิงอยู่มุมห้อง มันแตกร้าวและฝ้าเล็กน้อย แต่นางก็มองเห็นใบหน้าของตนได้ ดวงตากลมโต ผิวซีดเซียว ผมยาวยุ่งเหยิง และแววตาที่เต็มไปด้วยความตกใจ แต่ซ่อนประกายแข็งกร้าวไว้ลึก

“หกปีก่อน…” นางพึมพำ

“ตอนนั้น ข้ายังไม่รู้เรื่องอะไรเลย ยังอ่อนแอ งมงาย และเชื่อใจผิดคน…”

“แต่ตอนนี้ ข้าไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว”

เสียงประตูไม้ส่งเสียงเอี๊ยดเบา ๆ สาวรับใช้คนหนึ่งโผล่หน้าเข้ามา นางคือ “เสี่ยวจู” สาวใช้ที่เคยรับใช้ลี่อินเมื่อหกปีก่อน

“คุณหนู ท่านฟื้นแล้วหรือเจ้าคะ?” เสียงนั้นสั่นพร่า ทั้งตื่นเต้นและตกใจ

ลี่อินมองเสี่ยวจูอย่างพินิจ สาวใช้คนนี้เป็นเพียงคนเดียวในเรือนที่ยังมีเมตตาต่อนาง แม้จะอ่อนแอ ขี้กลัว แต่ก็ไม่เคยหักหลัง

“ข้าหิว...” ลี่อินกล่าวเรียบ ๆ

เสี่ยวจูเบิกตากว้างอย่างดีใจ “เจ้าค่ะ บ่าวจะไปเอาโจ๊กมาให้เดี๋ยวนี้!”

ทันทีที่เสี่ยวจูวิ่งออกไป ลี่อินก็พิงฝาอย่างหมดแรง ดวงตาคมกริบจ้องไปยังท้องฟ้าด้านนอก

“ขอบคุณสวรรค์ ที่ให้ข้าได้มีชีวิตใหม่”

“ครานี้…ผู้ใดที่เคยทำร้ายข้ากับท่านแม่ ข้าจะทำให้พวกมัน ตกนรกทั้งเป็น!”

สายลมเย็นยะเยือกยังคงพัดผ่านหน้าต่างเก่า ๆ ในเรือนซอมซ่อ เสียงเสื้อผ้ากระทบกันเบา ๆ ขณะลี่อินเดินไปหยิบเสื้อคลุมผ้าฝ้ายบางที่แขวนอยู่ตรงมุมห้อง แม้จะเป็นผืนเก่า ซีด และขาดวิ่น แต่นางก็ดึงมันมาสวมไว้แน่น

“ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมจนข้ารู้สึกคลื่นไส้”

นางกระซิบเบา ๆ พลางหันมองเรือนเล็กด้วยสายตาเยียบเย็น

ในชีวิตก่อน นางเคยคิดว่าสักวันบิดาจะเมตตา แม้เพียงครึ่งหนึ่งที่เขามีให้เจินซูเม่ยกับเซียวถิงฮวาก็ยังดี แต่สุดท้ายกลับพบว่าความหวังนั้นมันช่างโง่เง่า

“ข้าเฝ้ารอความเมตตาจากคนที่ใจโหดเหี้ยม ข้าเชื่อใจนางที่ยิ้มด้วยดาบซ่อนหลัง แต่สุดท้าย…”

…ก็ถูกพวกมันผลักตกหน้าผาทั้งที่ยังมีลมหายใจ…

นางหลับตาลง สูดหายใจเข้าให้ลึกที่สุด เสียงกระซิบของหัวใจยังคงก้องในอก

“ครั้งนี้ ข้าจะไม่ใจอ่อนอีก”

ไม่ถึงครึ่งชั่วยาม เสี่ยวจูก็กลับมาพร้อมชามโจ๊กข้าวโพดกลิ่นหอมอ่อน ๆ ในมือ

“คุณหนู รีบกินเถิดเจ้าค่ะ ข้าแอบไปขอของเหลือจากห้องครัวใหญ่มาให้ท่าน” เสี่ยวจูยื่นชามให้ พลางทำท่าลอบมองประตูอย่างหวั่น ๆ

ลี่อินรับชามมา พลางพยักหน้าเบา ๆ “ขอบใจนะเสี่ยวจู ข้าจะจดจำน้ำใจของเจ้าไว้”

เสี่ยวจูพยักหน้าเล็กน้อย นางชอบคุณหนูของตนอยู่แล้ว แม้จะอยู่ในเรือนเล็ก แต่คุณหนูก็ยังใจดี ไม่เคยตวาดด่าเหมือนคนในเรือนใหญ่

“ข้าจะไปต้มน้ำให้อาบนะเจ้าคะ”

เมื่อเสี่ยวจูออกไป ลี่อินก็ค่อย ๆ วางชามโจ๊กลงพลางถอนหายใจเบา ๆ

“ข้าอาจต้องเริ่มทุกสิ่งใหม่ แต่สิ่งที่ข้าจะไม่ลืม คือทุกแผล ทุกหยดน้ำตา และทุกศพที่ข้าจะเหยียบผ่านเพื่อขึ้นไปให้สูงที่สุด”

ทันใดนั้น เสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังขึ้นนอกรั้วไม้ผุที่ล้อมเรือน เสียงกระซิบดังมาจากทางมุมสวนด้านหลัง

“เซียวลี่อินยังไม่ตายรึ?”

“นางสลบไปหลายวันแล้วนี่”

เสียงแหลมคุ้นหู…

ลี่อินขมวดคิ้วทันที นั่นคือเสียงของ “ซูหรู” สาวใช้ของเจินซูเม่ย ผู้มักคอยสอดส่องและส่งข่าว

“คุณหนูรองบอกว่า อย่าปล่อยให้นางฟื้นง่าย ๆ ครั้งก่อนแค่สะดุดล้มเอง ยังไม่เข็ดอีกงั้นรึ?”

น้ำเสียงหยามหมิ่นของพวกนางทำให้แววตาลี่อินเย็นลงทันที

“นี่พวกเจ้าคิดจะลองดีกับข้าหรือ?”

นางเดินไปยังหน้าต่าง เอาผ้าคลุมบังตัวเองไว้ แต่แง้มบานไม้แคบ ๆ เห็นคนสองคนยืนลับ ๆ ล่อ ๆ ซูหรูกำลังทำท่าจะเข้ามาภายในเรือน ทว่า…

“เอี๊ยด!” เสียงประตูบานหลังดังขึ้น

เสี่ยวจูหิ้วถังน้ำร้อนเดินกลับมา

“อ๊ะ! ซูหรู? เจ้ามาทำอะไรตรงนี้?” น้ำเสียงหญิงสาวเต็มไปด้วยความสงสัย

ซูหรูะดุ้งโหยงก่อนรีบยิ้มแห้ง ๆ “ข้าแค่ผ่านมาเฉย ๆ…” กล่าวจบก็รีบลากแขนสาวใช้อีกคนเดินหายลับไป

สายตาของเซียวลี่อินมืดดำ หมอกแห่งความแค้นที่ค่อย ๆ เกาะกุมหัวใจนาง แม้ริมฝีปากจะนิ่งเฉย แต่เปลวไฟในใจกลับพร้อมจะเผาไหม้ทุกสิ่ง

“สวรรค์ให้โอกาสข้าได้กลับมา”

“ครั้งนี้ข้า จะให้พวกเจ้าชดใช้หมื่นเท่า ทรมานยิ่งกว่าตาย!”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ย้อนเวลากลับมาทวงแค้น   ตอนที่ 49 เงาที่ซ่อนอยู่

    หลังจากที่เจินซูเม่ยและเซียวถิงฮวาถูกนำตัวไปคุมขัง ข่าวนี้ก็แพร่สะพัดไปทั่วเมืองหลวงในเวลาเพียงชั่วข้ามคืน ผู้คนต่างพูดถึงด้วยทั้งความสะใจและหวาดกลัว“คนที่เคยเชิดหน้าชูตา วันนี้กลับกลายเป็นนักโทษเสียแล้ว”“สวรรค์มิอาจละเว้นคนชั่วได้จริง ๆ”ท้องพระโรงแม้จะเงียบลงหลังการพิพากษา แต่คลื่นใต้น้ำกลับโหมแรงขึ้นบรรดาขุนนางที่เคยปกป้องสกุลเซียว บัดนี้ต่างเงียบงันแต่ในเงามืด กลับเริ่มมีการเคลื่อนไหวบางอย่างที่ผิดปกติยามค่ำ เซียวลี่อินยืนอยู่บนระเบียงตำหนักอ๋อง สายตาเหม่อมองฟากฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวเสียงฝีเท้าแผ่วเบาดังขึ้นด้านหลัง ก่อนที่เสียงทุ้มคุ้นเคยดังขึ้น“เจ้ากำลังคิดสิ่งใดอยู่”นางหันกลับมา เห็นจิ้งอ๋องยืนอยู่ในชุดคลุมสีเข้ม ดวงตาคมกริบทอดมองนางด้วยความสนใจเซียวลี่อินยกพัดแตะริมฝีปาก แววตาเยือกเย็น“แม้เจินซูเม่ยจะถูกจับ แต่ผู้ที่หนุนหลังนางยังมิได้เผยตัวออกมาทั้งหมดเพคะ เพียงถูกดึงเงาหนึ่งออกมา ย่อมยังเหลืออีกหลายเงาที่แอบซ่อนอยู่”จิ้งอ๋องนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยเสียงหนักแน่น“หากเป็นเช่นนั้น ข้าจะสืบจนถึงรากเหง้า ไม่ว่าผู้ใดซ่อนที่ตัวอยู่เบื้องหลัง ก็ต้องลากออกมาทั้งหมด!”เพี

  • ย้อนเวลากลับมาทวงแค้น   ตอนที่ 48 พิพากษา

    เช้าวันรุ่งขึ้น ท้องฟ้าปกคลุมด้วยเมฆหนาทึบ ราวกับสวรรค์เองก็ยังเฝ้ารอการพิพากษาครั้งใหญ่เสียงกลองพิธีดัง ตึง! ตึง! ตึง! ก้องไปทั่ว ประกาศเรียกเหล่าขุนนางเข้าสู่ท้องพระโรงเจินซูเม่ยถูกองครักษ์คุมตัวเข้ามา นางสวมชุดงดงามแต่เส้นผมกลับยุ่งเหยิง ใบหน้าซีดเซียว แววตาสั่นไหวเสียงซุบซิบของขุนนางและสตรีฝ่ายในดังระงม“นี่หรือฮูหยินเซียวที่เคยได้ชื่อว่างดงามและเจ้าเล่ห์ที่สุดในเมืองหลวง…”“วันนี้กลับถูกลากมาเป็นจำเลยต่อหน้าฝ่าบาทเสียเอง”“ดูนางตอนนี้สิ ดูสมเพชสิ้นดี ฮึ!”ฮ่องเต้ประทับบนบัลลังก์สูง พระเนตรลึกล้ำทอดมองลงมา พระสุรเสียงเย็นเยียบดังขึ้น“เจินซูเม่ย มีผู้กล่าวโทษเจ้าว่าเกี่ยวข้องกับการลอบนำสมุนไพรปนเปื้อนเข้าสู่วังหลวง อีกทั้งยังพยายามทำลายหลักฐาน เจ้าจะว่าอย่างไร”เจินซูเม่ยรีบคุกเข่าลง น้ำตาไหลพราก“ฝ่าบาท! หม่อมฉันถูกใส่ร้ายเพคะ! ทุกสิ่งล้วนเป็นการจัดฉากของพวกที่อิจฉาริษยาหม่อมฉัน!”จิ้งอ๋องก้าวออกมาอย่างสง่างาม ร่างสูงใหญ่เปล่งบารมีจนท้องพระโรงเงียบกริบเขาวางรายงานและหลักฐานลงตรงหน้า เสียงทุ้มต่ำเอ่ยอย่างชัดถ้อยคำ“หลักฐานทั้งหมดอยู่ที่นี่แล้ว คำสารภาพของบ่าว พยานผู้เห็นเหตุกา

  • ย้อนเวลากลับมาทวงแค้น   ตอนที่ 47 พายุใหญ่กำลังมา

    รุ่งอรุณปกคลุมเมืองหลวงด้วยหมอกสีขาว แต่ในราชสำนักกลับคลาคล่ำไปด้วยบรรยากาศที่ตึงเครียดยิ่งนักข่าวการพยายามทำลายหลักฐานของเจินซูเม่ยแพร่สะพัดไปทั่ว ทั้งในหมู่ขุนนางและเหล่าราษฎร“สกุลเซียวคงไม่รอดแล้ว…”“ครั้งนี้แม้แต่ฝ่าบาทก็มิอาจเพิกเฉยได้อีก”เสียงซุบซิบในตลาดและตามตรอกซอยกลายเป็นพายุข่าวลือที่โหมกระหน่ำไม่หยุดในท้องพระโรง ขุนนางแบ่งออกเป็นสองฝ่ายอย่างชัดเจนฝ่ายหนึ่งเร่งรัดให้ลงโทษสกุลเซียวโดยเร็วอีกฝ่ายหนึ่งกลับยืนหยัดพยายามหาทางประวิงเวลา เสมือนกำลังยื้อชีวิตให้ผู้เกี่ยวข้องฮ่องเต้ประทับนิ่งบนบัลลังก์สูง ดวงพระเนตรลึกล้ำมองลงมา พระสุรเสียงเรียบแต่แฝงไปด้วยความกดดัน“จิ้งเหยียน พรุ่งนี้เจ้าจงนำพยานหลักฐานทั้งหมดมาตรวจสอบต่อหน้าข้า หากพิสูจน์ได้ว่ามีความผิดจริง ต่อให้เป็นสกุลใหญ่ ข้าก็จะไม่ละเว้น”จิ้งอ๋องค้อมกายรับโองการ ดวงตาคมวาวสะท้อนความมุ่งมั่นเมื่อหันไป เห็นเงาร่างของเซียวลี่อินหลังม่านกั้นสตรี นางยืนนิ่ง ราวกับมั่นคงดุจขุนเขาเพียงสบตาในระยะไกล หัวใจเขากลับสงบลงราวกับได้รับพลังพายุใหญ่กำลังจะโหมกระหน่ำ แต่เราจะฝ่ามันไปด้วยกัน!ภายในเรือนใหญ่ของจวนสกุลเซียว เจินซูเม่ย

  • ย้อนเวลากลับมาทวงแค้น   ตอนที่ 46 แผนลับในเงามืด

    ค่ำคืนคลี่คลุมจวนสกุลเซียว บรรยากาศภายในเรือนใหญ่เต็มไปด้วยความกดดัน เจินซูเม่ยนั่งอยู่เบื้องหน้าโต๊ะเครื่องหอม มือกำถ้วยชาแน่นจนสั่น น้ำชาเอ่อล้นออกมาโดยไม่รู้ตัว นางกัดฟันสะกดความโกรธ“ไม่ได้! ข้าไม่มีวันยอมให้ทุกสิ่งที่ข้าสร้างมาพังลงเพียงเพราะนังเซียวลี่อินแน่!”เซียวถิงฮวานั่งอยู่ด้านข้าง ใบหน้าของนางยังคงซีดเซียวจากเหตุการณ์ในท้องพระโรง“ท่านแม่ เราจะทำเช่นไรต่อดีเจ้าคะ หากถูกสอบสวนต่อไป สกุลเซียวคงถูกลากลงเหวแน่”เจินซูเม่ยหรี่ตาลงอย่างอำมหิต“แม้จะถูกบีบแทบจนมุม แต่ยังมีหนทาง หากหลักฐานที่มันถืออยู่ถูกทำลายเสีย ต่อให้เป็นท่านอ๋องเจ็ดก็ไม่อาจทำอะไรได้!”....ขณะเดียวกัน ภายในตำหนักอ๋อง จิ้งอ๋องนั่งพินิจรายงานที่กองอยู่ตรงหน้า ข้างกายมีเซียวลี่อินนั่งสงบนิ่ง ดวงตาไล่ตามทุกบรรทัดอย่างตั้งใจ เสียงทุ้มของเขาเอ่ยขึ้นช้า ๆ“ศัตรูกำลังดิ้นรน พรุ่งนี้อาจมีการเคลื่อนไหว เจ้าต้องอยู่ใกล้ข้าไว้ ห้ามเสี่ยงคนเดียว”เซียวลี่อินแย้มยิ้มบาง พลางตอบเสียงเบา“เพคะท่านอ๋อง แต่บางครั้งหมากตัวสำคัญ ก็ต้องใช้เหยื่อล่อให้อีกฝ่ายเผยพิรุธออกมาเองนะเพคะ”สายตาทั้งคู่สบกัน ความแน่วแน่และความไว้วางใจเริ่

  • ย้อนเวลากลับมาทวงแค้น   ตอนที่ 45 เสี้ยนหนามในราชสำนัก

    เช้าวันใหม่ท้องพระโรงคลาคล่ำไปด้วยเหล่าขุนนางที่ยืนเรียงราย บรรยากาศเต็มไปด้วยแรงกดดัน ข่าวการจับคนของเจินซูเม่ยเมื่อคืนแพร่ไปทั่วแล้ว ทำให้ราชสำนักปั่นป่วนขันทีขานเสียงกังวาน “ถวายพระบังคมฝ่าบาท ท่านอ๋องเจ็ดได้นำพยานและหลักฐานเข้ามากราบทูลพ่ะย่ะค่ะ!”สายตาทุกคู่จับจ้องไปยังจิ้งอ๋องผู้ก้าวเข้ามาด้วยท่วงท่าสง่างาม เบื้องหลังเขามีองครักษ์นำคนร้ายที่ถูกจับได้คุมตัวเข้ามา พร้อมเอกสารบันทึกคำสารภาพเสียงซุบซิบดังไปทั่วท้องพระโรง“ครั้งนี้จวนสกุลเซียวคงรอดยากแล้ว”“แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีขุนนางคอยหนุนหลัง หากพวกนั้นออกหน้า เรื่องอาจไม่ง่ายเช่นกัน”จริงดังว่า เมื่อจิ้งอ๋องยื่นรายงานต่อหน้าฮ่องเต้ทันใดนั้น ขุนนางผู้ใหญ่ฝ่ายหนึ่งก็ก้าวออกมาขัดทันที สีหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจ“ฝ่าบาท! แม้จะมีบ่าวรับใช้สารภาพ แต่ก็ใช่ว่าจะเชื่อถือได้ หากทั้งหมดเป็นการจัดฉากเพื่อกำจัดสกุลเซียวเล่าพ่ะย่ะค่ะ ขอฝ่าบาททรงพิจารณาด้วย!”เสียงถกเถียงเริ่มระอุขึ้นอีกครั้ง คล้ายไฟที่พร้อมลุกโชนกลางท้องพระโรงเซียวลี่อินที่ยืนอยู่ด้านหลังม่านกั้นสำหรับสตรีสูงศักดิ์กำพัดแน่น ดวงตาเย็นยะเยือกพวกขุนนางหนุนหลังพวกนั้น พวกมันคือ

  • ย้อนเวลากลับมาทวงแค้น   ตอนที่ 44 คลื่นแรงกลางราชสำนัก

    ผลการสอบสวนยังไม่ทันประกาศอย่างเป็นทางการ แต่ข่าวของบ่าวที่เรือนเจินซูเม่ยยอมรับสารภาพต่อหน้าท่านอ๋องเจ็ดก็แพร่สะพัดไปทั่วราชสำนักแล้วราวกับคลื่นยักษ์ที่ซัดสาดเข้าใส่ จวนสกุลเซียวเริ่มสั่นคลอน ในห้องประชุมขุนนางยามเช้า เสียงถกเถียงดังไม่หยุด ขุนนางฝ่ายหนึ่งลุกขึ้นคารวะ“ฝ่าบาท เรื่องนี้เกี่ยวพันต่อความปลอดภัยของราชสำนัก หากไม่ลงโทษผู้เกี่ยวข้องให้ชัดเจน ย่อมกระทบพระเกียรตินะพ่ะย่ะค่ะ”อีกฝ่ายหนึ่งรีบโต้“แต่ยังไม่มีพระราชโองการตัดสิน ขืนเร่งรีบไป จะไม่กลายเป็นว่าราชสำนักไม่ยุติธรรมหรอกหรือ!”เสียงถกเถียงดังระงมจนท้องพระโรงแทบสั่นสะเทือนฮ่องเต้นั่งนิ่ง ดวงพระเนตรลึกล้ำราวกับกำลังชั่งน้ำหนักผลได้ผลเสียในอีกฟากหนึ่ง เซียวลี่อินยืนอยู่หลังม่านกั้นสำหรับสตรีสูงศักดิ์นางฟังเสียงถกเถียงทั้งหมดด้วยสายตาเยือกเย็น ริมฝีปากคลี่ยิ้มบาง ยิ่งคลื่นแรงเพียงใด ย่อมยิ่งกัดเซาะเกียรติของสกุลเซียวให้พังทลายไวขึ้นเท่านั้นขณะเดียวกัน จิ้งอ๋องนั่งอย่างมั่นคงบนเก้าอี้ขุนนาง แม้จะไม่ได้เอ่ยถ้อยคำใด แต่เพียงการมีตัวตนของเขาอยู่ในห้องนี้ ก็ทำให้ผู้คนไม่กล้าเอ่ยวาจาเกินเลยยามบ่ายในจวนสกุลเซียว เจินซูเม่ยสี

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status