พอมาถึงที่มหาวิทยาลัยฉันก็เดินลงไปจากรถทันทีเพื่อที่จะเดินมุ่งตรงไปหาเนยที่มานั่งรออยู่แล้วในตอนนี้ เพื่อนสาวที่สนิทของฉันที่นิสัยของเราต่างกันสุดๆ เพราะเธอชอบลุยๆ และห้าวๆ แต่ไม่รู้เลยว่าทำไมเราถึงอยู่ด้วยกันแบบนี้ได้
"กว่าจะมา"
"ขอโทษนะรถติดอ่ะแก"
"วันนี้พี่แกมาส่งหนิ เมื่อคืนนอนกับพี่เซเธนไม่ใช่รึไงยัยวี"
"ฉันรีบออกมาก่อนน่ะสิ ไม่งั้นได้เจอกันแน่"
"แกก็กล้านะคบกับศัตรูพี่ชาย"
"ก็ตอนแรกไม่รู้นี่หว่า ไม่งั้นฉันไม่ยุ่งด้วยหรอก"ฉันบอกออกไปแบบนั้นพร้อมกับความหนักใจ ก็อย่างที่บอกว่าฉันไม่รู้มาก่อนเลยว่าพี่เซเธนคือศัตรูของพี่ชายฉัน พอเขาเข้ามาคุยด้วยฉันก็คุยด้วยตามมารยาทก็เท่านั้นเอง
จนเวลาผ่านไปพวกเราสนิทกันมากแถมยังอยู่คอนโดเดียวกันอีกจึงทำให้ฉันเกิดหวั่นไหวกับเขาและได้คบหาดูใจกับเขาทันทีอย่างไม่มีเงื่อนไขอะไรเลยสักนิดเดียวในตอนนั้น กว่าจะมารู้ก็คบกันไปได้สองเดือนแล้วและความผูกพันของเรามันก็ตัดกันขาดยากซะด้วย จึงทำให้กลายมาเป็นคบกันแบบหลบๆ ซ่อนๆ แบบนี้จนได้
"ก็แปลกนะคนอย่างพี่เซเธนเนี่ยจะเข้ามายุ่งกับเด็กน้อยอย่างแก"
"นั่นดิ คิดแล้วตลก"
"แล้วจะอยู่กันแบบนี้ไปตลอดหรอวี ไม่อึดอัดรึไง"
"ก็ดีกว่าต้องมาเลิกกันรึเปล่า"
"ตัดตอนนี้อาจจะเจ็บน้อยกว่านะวี"ใช่สิถ้าเลือกที่จะตัดตอนนี้ก็ดีกว่าต้องมาเจ็บทีหลังแต่ไม่ว่ายังไงมันก็เจ็บเท่ากันอยู่ดีไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง และดูเหมือนพี่ชายฉันมันจะไม่ยอมอะไรง่ายๆ อีก ด้วยความเกลียดที่พี่มีก็เยอะมากอยู่พอสมควรทั้งๆ ที่พี่ชายฉันไปยุ่งกับคนของเขาก่อนแท้ๆ
พวกเรานั่งคุยกันแบบนั้นไปได้สักพักก่อนที่จะพากันขึ้นห้องไปเรียนในคาบที่จะถึงนี้โดยที่ตลอดทั้งคาบฉันแทบจะไม่เป็นอันเรียนเลยด้วยซํ้าเพราะเอาแต่คิดเรื่องพี่เซเธนและพี่ชายของฉันจนนั่งเหม่อเป็นคาบเลยก็ว่าได้
พอเลิกแล้วนั้นพวกเราก็พากันไปกินข้าวปกติเหมือนกับทุกๆ ครั้งโดยไม่มีอะไรแปลกเลยจนกระทั่งจู่ๆ พวกเราก็เดินสวนทางกับพวกพี่เซเธนที่ยัยเนยไม่ค่อยถูกชะตากับพี่มาวินเพื่อนพี่เซเธนสักเท่าไหร่เลยแม้แต่นิด
"หลีกทางดิ"
"พวกเธอนั่นแหละหลีก"
"พวกนายนั่นแหละหลีก"พอเนยบอกออกไปแบบนั้นพวกพี่เขาก็จ้องมองมาเป็นสายตาเดียวกันโดยเฉพาะพี่เซเธนที่จ้องมองมาที่ฉันอย่านิ่งเช่นกันด้วยสายตาอะไรบางอย่าง
"ไปเหอะเนย"พอเห็นแบบนั้นฉันก็รีบลากยัยเนยออกมาจากตรงนั้นทันทีและพากันไปซื้อข้าวและนํ้ากันไปเพราะไม่อยากจะมีปัญหาอะไรกับพวกพี่เขามากนัก
"เห้ยเนย สร้อยฉันหายไปไหนวะ"พอกำลังจะตักข้าวเข้าปากสายตาของฉันมันก็ดันเหลือบไปเห็นที่ข้อแขนของตัวเองที่ตอนนี้สร้อยแขนของฉันได้หายไปแล้วและมันเป็นสร้อยแขนที่พี่เซเธนซื้อให้ในวันครบรอบอีกต่างหาก
"แล้วแกไปทำตกที่ไหน"
"ฉันไม่รู้ ตายแน่งานนี้ฉันตายแน่"
"ขอโทษนะสร้อยนี้ใช่ของเธอรึเปล่า เราเห็นทำตกไว้อ่ะ"ผู้ชายคนหนึ่งที่เดินเข้ามายื่นสร้อยแขนให้กับฉันพอหยิบมาสังเกตดีๆ ก็พบว่าใช่และนั่นแหละสร้อยแขนที่หายไปเพราะมันสลักชื่อฉันและพี่เซเธนเอาไว้ในนั้นด้วยเช่นกัน
"ใช่ไหมแก"
"ใช่ๆๆ ขอบใจนะ"
ไม่รู้ว่าเขาจะทันได้สังเกตไหมแต่ทว่าในขณะนั้นเองโทรศัพท์มือถือของอีกคนก็ยื่นเข้ามาให้กับฉันอย่างมึนงงจนทำเอาทั้งฉันและเนยต่างพากันมองหน้ากันอย่างนิ่งกันไปเลยทีเดียว
"ขอไอจีหน่อยดิ แลกกับสร้อยอันนี้"ฉันถึงกลับเงียบไปและค่อยๆ หันไปหาพี่เซเธนที่นั่งมองอยู่อย่างนิ่ง พอฉันหันไปมองพี่เขากลับหลบสายตาไปฉันจึงตอบตกลงและให้ไอจีเขาไปตามปกติก่อนที่เสียงอะไรบางอย่างจะดังขึ้น
ปั้ง
"เหี้ยอะไรวะไอ้เธน"
"ไปรอในห้องนะ"
"อ่าเสร็จแล้วขอบคุณนะเรื่องสร้อยอ่ะ"
"อื้มเดี๋ยวทักหานะ"
"ซวยแน่ยัยวีเอ้ยย"ยังไม่ทันจะได้ตอบกลับเขาคนนั้นก็เดินออกไปทันทีก่อนที่พวกเราจะนั่งกินข้าวกันไปอย่างปกติไม่ได้คิดอะไรมาก แต่ในระหว่างทางที่จะกลับห้องก็มีทักหาพี่เซเธนบ้างแต่เขาก็ไม่ยอมตอบกลับมาเลยด้วยซํ้าแม้แต่ข้อความเดียว
"เห้ออ พี่เซเธนไม่ตอบเลย"
"คงงอนแกที่แกให้ไอจีผู้ชายคนอื่นแถมยังทำสร้อยหายไง"
"ฉันควรทำไงดีเนี่ย"
"ไม่ต้องทำไงเพราะคาบต่อไปฉันได้ยินมาว่าเราจะได้เรียนเซคเดียวกับพี่เขาด้วย"ฉันถึงกลับขมวดคิ้วไปเลยทันทีเพราะไม่รู้มาก่อนเลยว่าเราจะยังได้เรียนคาบเดียวกันเพราะเขาขอตารางเรียนฉันไปแต่ก็ไม่เคยที่จะบอกฉันเลยแม้แต่นิดเดียว
"เรียนเซคเดียวกันแล้วไงล่ะยังไงก็ต้องกลับไปเคลียร์ที่ห้องอยู่ดี"พอเปิดประตูเข้าไปในห้องสายตาของฉันก็ดันไปประจบเข้ากับพี่เซเธนที่นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่อย่างนิ่งๆ เพียงคนเดียวในห้อง สายตาของเขาเหลือบมองมาทางฉันเล็กน้อยก่อนที่พวกเราจะพากันไปหาที่นั่งเรียนกันซึ่งก็ไม่ได้ไกลจากพี่เขามากนัก
"ฉันไปเข้าห้องนํ้าก่อนนะ"
"อื้อ"พอเข้าไปถึงฉันก็เปิดหนังสือขึ้นมาทำงานอีกครั้งหนึ่งที่ค้างคาและไม่ได้สนใจเขาเลยด้วยซํ้าตามที่ตกลงกันไว้ว่าการอยู่ด้วยกันด้านนอกเราจะไม่รู้จักกันเพื่อปกปิดความสัมพันธ์ของเราเอาไว้
"พี่....."
"ไอ้เหี้ยเธนเมื่อกี้กูกำลังเดินกลับมาที่ห้องเจอน้องเป้ยเขาฝากขนมมาให้มึง น้องแม่งยังตามจีบมึงไม่เลิกอีกรึไง"ยังไม่ทันที่ฉันจะได้เอ่ยพูดกับแฟนลับๆ ของฉันออกไปพวกเพื่อนๆ ของเขาก็เดินเข้ามาพอดีพร้อมกับขนมของโปรดของเขาที่คนที่ตามจีบซื้อมาให้ ซึ่งฉันก็เคยเห็นอยู่บ้างแล้ว
ครืดด ครืดดด
เสียงโทรศัพท์ที่ดังเข้ามาและพบเข้าเบอร์ที่โชว์เป็นชื่อของพี่ชายฉันเองที่เป็นคนโทรเข้ามาหา ฉันรีบกดรับทันทีและเดินออกไปคุยโทรศัพท์ที่นอกห้องเพราะเกรงว่าจะเกิดเสียงดังจนพวกพี่เขาเกิดความรำคาญเอาได้
"ว่าไงคะพี่กัส"
(คืนนี้มานอนบ้านนะเดี๋ยวเย็นนี้พี่ไปรับ)
"พรุ่งนี้วีมีเรียนเช้าอ่ะค่ะ"
(พ่อกับแม่มีเรื่องจะคุยด้วย)
"ได้ค่ะ งั้นแค่นี้ก่อนนะคะ"ฉันรีบกดวางสายไปทันทีเพราะเรื่องที่จะคุยด้วยคงพ้นไปจากไม่กี่เรื่อง ไม่เรื่องดูตัวก็น่าจะเรื่องการไปออกงานกับพ่อแม่นี่แหละ แต่ถ้าบุ่มบ่ามขนาดนี้คงจะเป็นเรื่องไปดูตัวในวันหยุดยาวแน่นอน
ฉันยืนถอนหายใจไปได้สักครู่ก่อนที่จะเดินกลับเข้าไปในห้องทันทีโดยสายตาของพวกพี่เซเธนที่มองมาด้วยสายตาบางอย่าง ก่อนที่พี่มาวินจะเดินตรงเข้ามาหาฉันอย่างเร่งรีบและจ้องมองฉันไปนิ่งๆ
"พวกพี่มีอะไรรึเปล่าคะ"
"เธอใช่ไหมที่เป็นแฟนลับๆ ไอ้เธน"
"ดูเหมือนอยู่นะเว้ยกับรูปคนที่ไลน์มาหาบ่อยๆ อ่ะ คนนี้หรอวะไอ้เธน"
"เอ่อว่ะ ใช่คนนี้หรอวะ"เมื่อเขาพูดออกไปแบบนั้นฉันถึงกลับขมวดคิ้วทันทีที่พวกพี่เขาเดินมาถามแบบนี้ก่อนที่เพื่อนสนิทของฉันจะเปิดประตูเข้ามาและรีบวิ่งเข้ามาช่วยฉันให้ออกไปจากตรงนั้นให้เร็วที่สุด
"พวกพี่พูดอะไรกันคะ"
"คนนี้หรอวะไอ้เธนเด็กคนนั้นหนะ"
"ไม่ใช่!!"
"จะทำอะไรเพื่อนฉัน!! ไปนั่งเหอะ"
"ฉันก็แค่อยากถามว่าเพื่อนเธอแอบคบกับเพื่อนฉันใช่ไหม"
"นายก็ถามเพื่อนนายดูดิ"
"พวกมึงเสือกเหี้ยอะไรหนักหนา กูไม่มีทางคบกับยัยนี่หรอก ไม่ใช่สเปคกูเลยด้วยซํ้า"คำพูดของพี่เซเธนที่เอ่ยออกมาแบบนี้เหมือนกับคมมีดที่ปักลงตรงกลางอกของฉันทันทีอย่างบอกไม่ถูก ความเจ็บปวดเข้ามาครอบงำจนนํ้าตาแทบเล็ดออกมาเลยด้วยซํ้า
"ก็ดีเพราะกูรู้มาว่ายัยนี่เป็นน้องสาวของไอ้เวกัส"
"แล้วใครกันวะเด็กคนนั้นของมึง"
"นั่นดิ ปิดเก่งฉิบหายอย่าให้กูได้รู้ละกัน"
"ไหวไหมแก"
"อื้ม"บอกออกไปแค่นั้นฉันก็เดินมานั่งทำงานของฉันต่อไปพร้อมกับนักศึกษาคนที่เหลือที่ทยอยเดินเข้ามาภายในห้องกันเต็มไปหมดแล้ว
เช้าวันต่อมาหลังจากเมื่อคืนที่เราสองต่างพากันพูดคุยเคลียร์ใจกันไปจนเกือบเช้าเลยด้วยซํ้า และเช้าวันนี้ฉันก็ดันมีเรียนเช้าอีกต่างหากกว่าจะได้เดินทางออกมาจากห้องก็ใช้เวลานานมากอยู่พอสมควรเพราะคนตัวสูงที่เอาแต่รั้งฉันไว้ไม่ยอมปล่อยให้ออกมาจากห้องสักที"ทำไมมาสายจังนะแก ฉันรอจนรากจะงอกอยู่ละ""โทษทีแก""เดี๋ยวเรียนคาบนี้เสร็จไปหาอะไรกินกัน อยากกินอะไรหวานๆอ่ะเติมความหวานหน่อย""อื้ม เอาสิ"พอบอกออกไปแบบนั้นพวกเราก็ก้มหน้านั่งเล่นโทรศัพท์กันไปเพื่อรอเวลาที่จะเข้าไปเรียนในคาบที่จะถึงในเร็วๆนี้ ความสงบเงียบที่ไม่จบไม่หายเมื่อจู่ๆก็ได้มีนํ้าจากไหนไม่รู้สาดเข้ามาใส่ฉันเต็มๆจนเปียกไปหมดตั้งแต่หัวจรดเท้าและสิ่งที่คิดกับสิ่งที่เจอตอนนั้นก็คือสิ่งเดียวกันเมื่อคนที่ได้กระทำกับฉันแบบนั้นคือผู้หญิงคนเดิมที่แอบชอบพี่เซเธนอยู่นั่นเอง เธอยืนกอดอกมองหน้าฉันด้วยความไม่พอใจก่อนที่ทางฉันเองจะ
"วีจะไม่หมั้นค่ะ วีคิดมาดีแล้วและตอนนี้วีก็ยังลืมคนเก่าไม่ได้ค่ะ วีว่าถ้าวีหมั้นก็อาจจะทำให้พวกเราสองตระกูลเกิดปัญหากันได้ในอนาคตแน่นอนค่ะ"".....//....."ความกล้าบ้าบิ่นค่อยๆ หายไปเมื่อความเงียบมาปกคลุมแบบนั้นก่อนที่ฉันเองจะค่อยๆ ลืมตาขึ้นไปมองด้านหน้าที่ตอนนี้เป็นพ่อกับแม่ของพี่เซเธนที่เปิดประตูเข้ามารวมถึงพ่อกับแม่ฉันอีกด้วยที่ตอนนี้อีกคนกำลังยืนอ้าปากค้างกันอยู่อย่างตกใจ"คือ.....""ขอโทษนะครับที่มาช้า ผม.......น้องวี"นํ้าเสียงที่คุ้นเคยเอ่ยดังออกมาจากด้านหลังก่อนที่เขาเองจะรีบวิ่งเข้ามาสวมกอดทันทีพร้อมกับนํ้าตาของเขาที่ไหลรินออกมาแบบนี้ทุกคนในที่นั่นต่างพากันเงียบนิ่งยืนมองสองชายหญิงที่ต่างพากันโอบกอดกันไปพร้อมกับร้องไห้ออกมาด้วยความคิดถึงและโหยหากันทั้งคู่แบบนี้ ทุกคนรับรู้ความรู้สึกที่ผ่านมาของทั้งสองว่ามันเกิดอะไรขึ้นและทั้งสองรู้สึกยังไงเลยไม่ได้พูดหรือทำอะไร
พอถึงวันที่ต้องไปดูตัวคู่หมั้นแล้วจริงๆ นั้นฉันก็แทบจะไม่ทันได้ตั้งตัวเลยด้วยซํ้าและยังคงมีอาการซึมๆ เศร้าๆ อยู่ตรงนั้นไปอย่างหมดเรี่ยวแรงในขณะที่คุณแม่กำลังแต่งหน้าให้กับฉัน"ยิ้มหน่อยสิวี""วีไม่พร้อมเลยค่ะ"ใบหน้าซึมๆ ที่เหม่อลอยแบบนี้แต่ก็ปฏิเสธและเลื่อนออกไปไม่ได้เลยด้วยซํ้าเพราะฉันขอเลื่อนไปตั้งหลายรอบแล้วและทางนั้นก็เช่นกัน น่าจะเป็นความรู้สึกเดียวกันในตอนนี้ที่รู้สึกเหมือนกันกับฉันแน่นอนที่ต้องฝืนใจหมั้นกับคนที่ไม่ได้รักแบบนี้"แม่คะ วีไม่อยากหมั้นแล้ว""แต่วีเลือกและตัดสินใจไปแล้วนะลูก""วี....""ลองไปดูตัวก่อนดีไหมวี ถ้าไม่ถูกใจแม่ยอมที่จะไม่ให้ลูกหมั้น แต่วีเชื่อแม่เถอะนะว่าคนนี้ลูกอาจจะเปลี่ยนใจแน่นอน"พอแม่บอกออกไปแบบก็ไม่ได้ช่วยทำให้ฉันคลายใจลงได้เลยด้วยซํ้าและยังคงนั่งรอให้แม่แต่งหน้าทำผมให้จนเสร็จ
หลังจากวันนั้นฉันก็แทบจะไม่มีเรี่ยวแรงทำอะไรเลยด้วยซํ้าเพราะฉันเอาแต่ซึมๆ เศร้าๆ เหม่อลอยอยู่เสมอ พ่อกับแม่และพี่ชายของฉันต่างก็พาฉันออกมาเที่ยวนอกบ้านอยู่ตลอด แต่ฉันก็เหม่อลอยและไม่มีสมาธิอยู่ดีกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าแบบนั้น"อ้าววีมากินข้าวก่อนสิลูก""วีไม่หิวค่ะคุณแม่""อีกแล้วนะคนสวยหนูรู้ไหมว่าหนูโทรมไปมากเลยนะลูก""นั่นสิวีแม่ทำของโปรดเราด้วยนะ เดี๋ยวกินข้าวเสร็จพี่ไปส่ง"ฉันต้องยอมจำใจที่จะนั่งกินข้าวอีกครั้งอย่างฝืนๆ ที่จะกินไปเพราะตอนนี้จะให้กินอะไรก็กินไม่ลงจริงๆฉันไปมหาลัยเหมือนปกติและพยายามหลีกเลี่ยงในการเจอพี่เซเธนให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เขาที่ดูซึมและโทรมลงเอามากๆ เลยด้วยซํ้า ใบหน้าหล่อเหลาก็เริ่มมีหนวดเคราขึ้นไม่ได้โกนออกเลย ทรงผมที่รกรุงรังไม่ได้ตัดหรือเซทให้ดีขึ้นเหมือนแต่ก่อนจนบางทีฉันก็อยากจะถอดใจและเดินเข้าไ
หลังจากที่ตื่นขึ้นมาและพบเข้ากับความว่างเปล่าก็ทำเอาผมถึงกลับใจคอไม่ดีเอามากๆ และพอมองไปที่นาฬิกาตอนนี้ก็เป็นเวลาเกือบเย็นแล้วด้วย ผมรีบลุกขึ้นเดินออกไปตามหายัยตัวเล็กทั่วทุกมุมห้องเพราะคิดว่าเธอคงยังไม่ไปไหนในตอนนี้"วีนัสหนูอยู่ไหนคะ วีนัส"เมื่อไม่มีเสียงตอบกลับนั้นผมก็รีบวิ่งไปที่ห้องของเธอทันทีอย่างไม่รอช้าพร้อมกับบัตรเปิดประตูเข้าห้องของเธอด้วยเช่นกันและพอเปิดเข้าไปดูก็พบกับความว่างเปล่าของห้องพร้อมกับข้าวของทุกอย่างด้วยเช่นกัน"หนูหายไปไหนวีนัส อย่าพึ่งทิ้งพี่ไปตอนนี้ได้ไหมพี่ยังไม่พร้อม"ผมรีบวิ่งกลับไปที่ห้องอีกครั้งเพื่อหยิบโทรศัพท์โทรหาเธอ แต่ทว่ากลับไม่มีการตอบรับเลยสักครั้งและแอปพลิเคชันต่างๆ เธอก็เหมือนจะบล็อกผมไปแล้วเช่นกันทุกช่องทางทำเอาผมหมดปัญญาแล้วจริงๆ ก่อนที่สายตาจะหันไปมองเห็นโน๊ตที่แปะไว้ที่โคมไฟข้างเตียงผมค่อยๆ หยิบมันมาอ่านด้วยความกล้าๆ กลัวๆ และแอบหวังว่าคงเป็นโน๊ตบอกไว้ล่วงหน้าและคิดว่าเธอจะกลับมาหาผมอีกครั้ง แต่ไม่
"อ้าวน้อง บังเอิญจังเลยนะครับ"เสียงคุ้นเคยที่ได้ยินทำเอาฉันตื่นได้จริงๆ และพยายามเหงยหน้าขึ้นไปมองใครอีกคนที่อยู่ด้านข้างและพบเข้ากับพี่ชายคนนั้นที่ฉันเดินชนเมื่อเข้านั่นเอง"พี่ก็อยู่คอนโดนนี้หรอคะ""ใช่ครับ บังเอิญจังเลยนะคะ""นั่นสิคะ เมื่อเช้าหนูขอบคุณพี่มากๆ เลยนะคะที่ช่วยหนู""ไม่เห็นเป็นอะไรเลยครับ เออ....ถ้าไม่เป็นการรบกวนพี่ขอไอจีเราหน่อยได้ไหมครับ"ตอนแรกฉันก็ลังเลใจเล็กน้อยก่อนที่จะตัดสินใจให้ไอจีเขาไปเพราะยังไงก็ไม่ได้เดือดร้อนอยู่แล้วกับการให้ช่องทางการติดต่อแบบนี้ตึง"หนูขอตัวก่อนนะคะ"ฉันเอ่ยลาเขาไปและเดินออกไปจากลิฟต์อย่างไร้เรี่ยวแรงและเดินเข้าไปในห้องก่อนที่จะพบเข้ากับพี่ชายของตัวเองที่ตอนนี้กำลังยืนทำอาหารอยู่ที่ครัวในชุดนักศึกษา