Share

บทที่ 9

Author: เมิ่งซานเชียน
“เจ้ารู้หรือไม่ว่าเหตุใดอาจารย์ของเจ้าจึงตั้งชื่อนี้ให้?”

ฉินอวิ๋นฟานเอ่ย

“หือ? ชื่อก็เป็นแค่สิ่งเรียกแทนไม่ใช่หรือ? ข้าติดตามอาจารย์สามสิบกว่าปี ไม่เคยได้ยินเขาพูดถึงมาก่อน หรือว่าเจ้าจะรู้เหตุผลของชื่อ?”

หลู่หนีถามอย่างไม่เข้าใจ

ในฐานะที่เป็นหนึ่งในสิบศิษย์เด่นล้ำของหลู่กง หลู่หนีย่อมมีคุณสมบัติสามารถผยองได้ ไม่ว่าจะเป็นความสามารถเฉพาะตัวหรือว่าชื่อเสียงของอาจารย์ มันทำให้เขาเดินเบ่งในแคว้นใหญ่ ๆ ได้แบบไม่เป็นปัญหา

แต่เขาย่อมไม่กล้าโอหังกับเรื่องที่เกี่ยวกับอาจารย์

“หนีก็คือดิน บ่งบอกว่าหลู่กงคาดหวังกับเจ้ามาก หวังว่าต่อไปเจ้าจะยืนได้อย่างมั่นคง พยายามสร้างสรรค์ แล้วเจ้าเล่า?”

ฉินอวิ๋นฟานเอ่ยเสียงหนัก “งานฝีมือ เครื่องสำริดและกระบี่พกมากมายเหล่านี้ มีชิ้นไหนบ้างที่ไม่ได้ลอกเลียนแบบมาจากอาจารย์เจ้า? มีชิ้นไหนบ้างที่เจ้าประดิษฐ์ขึ้นเอง? มีหรือไม่?”

ถ้อยคำของฉินอวิ๋นฟานทำเอาหลู่หนีใบ้รับประทาน งานฝีมืออันประณีตคือคุณสมบัติที่เขาภูมิใจ ทว่าถ้อยคำของฉินอวิ๋นฟานแทงใจดำเขาโดยตรง

หลู่หนีมองการจัดวางในร้าน ดวงตาหมองไปอย่างไม่มีสาเหตุ

เฉินม่อกับอู่จ้านเห็นดังนั้นตกตะลึงถึงที่สุด รัชทายาทพูดแค่ไม่กี่คำก็ทำลายความผยองของหลู่หนีจนสิ้นแล้วหรือนี่?

ฉินอวิ๋นฟานเห็นแล้วจึงเผยรอยยิ้มจาง ๆ “ถ้าข้าจะมอบโอกาสให้เจ้าแซงหน้าหลู่กง เจ้าจะว่าอย่างไร?”

“แซงหน้าท่านอาจารย์หรือ?”

หลู่หนีอึ้ง ก่อนจะพูดด้วยสายตาโกรธ “เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด อาจารย์คือที่หนึ่งในใต้หล้า ไม่มีใครเหนือไปกว่าท่านได้”

ฉินอวิ๋นฟานส่ายหน้าตอบ “เจ้าคิดว่าหลู่กงอยากให้คลื่นรุ่นใหม่แรงกว่าคลื่นรุ่นหลัง หรือว่าให้ลูกศิษย์มองแผ่นหลังเขาตลอดไป?”

“เอ่อ...”

การไต่ถามนี้ทำให้หัวใจหลู่หนีปั่นป่วนอย่างหนัก เขามิอาจปฏิเสธถ้อยคำของฉินอวิ๋นฟาน สำหรับอาจารย์ เขาก็ต้องหวังให้ลูกศิษย์สร้างปรากฏการณ์ใหม่ เติบโต และยอดเยี่ยมมากขึ้นเรื่อย ๆ

การหยุดอยู่กับที่ไม่ก้าวหน้าแสดงให้เห็นว่าเขาไร้ความสามารถ ถือเป็นการทำลายชื่อเสียงของอาจารย์เหมือนกัน ในทางกลับกันยังจะทำให้อาจารย์ผิดหวังเสียด้วยซ้ำ

“เกรงว่าความปรารถนาของหลู่กงในชาตินี้ก็คือหวังว่าในบรรดาศิษย์อย่างพวกเจ้าล้ำหน้ากว่าเขาในตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่ มีแต่อย่างนี้เขาจึงจะไปอย่างเป็นสุขได้กระมัง!”

ฉินอวิ๋นฟานกล่าวตามสัตย์จริง

สีหน้าหลู่หนีเปลี่ยนแปลงไปมา เขายังจำการสั่งสอนของอาจารย์ได้เสมอ อ่อนน้อมถ่อมตน ยึดมั่นถือมั่น นี่ก็คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้เขาสำเร็จเช่นทุกวันนี้

ฉินอวิ๋นฟานรู้ว่าสบโอกาสแล้ว จึงเปิดปากเอื้อนเอ่ย “ข้ามีภาพภาพหนึ่ง เจ้าลองดูได้!”

สิ้นเสียง ฉินอวิ๋นฟานก็วางกระดาษภาพแผ่นใหญ่ไว้บนโต๊ะ

ยามนี้ หลู่หนีเคลื่อนสายตาไปยังกระดาษภาพ ทันทีที่เขาเห็นภาพประณีตก็ขมวดคิ้วมุ่นฉับพลัน หยิบภาพขึ้นมาถามด้วยใบหน้าฉงน “นี่คือสิ่งใด?”

“หน้าไม้!”

ฉินอวิ๋นฟานยังคงมีสีหน้าเหมือนเดิม ตามความทรงจำ ธนูคืออาวุธโจมตีระยะไกลที่สำคัญที่สุดของต้าเฉียนและแคว้นต่าง ๆ ธนูเช่นนี้ง่ายและผลิตได้เร็วมาก ดังนั้นจึงไม่มีใครพัฒนาและทำมันขึ้นใหม่

หลู่หนีเอ่ย “เจ้าอยากให้ข้าทำของที่คล้ายกับธนูนี่หรือ?”

“ไม่ ๆ ๆ เจ้าสิ่งนี้ง่ายกว่ามาก ข้าแค่เอาติดมือมาด้วยเฉย ๆ ที่ให้เจ้าทำหน้าไม้ก็เพราะจะทดสอบเจ้าสักครั้ง อยากทดสอบฝีมือของเจ้าสักหน่อย”

ฉินอวิ๋นฟานพูดจริงจัง “พวกของข้าไม่เคยมีสวะ ถ้าฝีมือเจ้าทำให้ข้ายอมรับได้ ข้าจะทำให้ชื่อเจ้าได้รับการสรรเสริญพันปี เสพสุขลาภยศไม่สิ้น”

“ถ้าแม้แต่หน้าไม้เจ้ายังทำได้ไม่ดี ก็ได้แต่พูดว่าเจ้ามีดีแต่ชื่อ มิได้มีความสามารถ ข้าจะเอาเจ้าไปทำไม?”

“เหอะ ได้ยินว่ารัชทายาทโง่เขลาเบาปัญญามาตลอด วันนี้ได้ประจักษ์ต่อสายตา มิได้แย่อย่างคำร่ำลือ”

ฉินอวิ๋นฟานกระตุ้นความอยากเอาชนะของหลู่หนีออกมาโดยสมบูรณ์ เขามองหน้าไม้ในมือแล้วทำหน้าดูถูก “หน้าไม้แบบนี้แม้จะต่างจากธนูทั่วไป แต่ก็ไม่ได้ซับซ้อน ข้าหลู่หนีหรือจะทำของพรรค์นี้ไม่ได้?”

“ครึ่งชั่วยาม ถ้าทำไม่เสร็จข้าจะไปแล้วนะ!”

ฉินอวิ๋นฟานเอ่ยเรียบ

“ครึ่งชั่วยามหรือ?”

หลู่หนีขมวดคิ้วเล็กน้อย เจ้าสิ่งนี้ง่ายก็จริง แม้การจะทำให้เสร็จครึ่งชั่วยามจะมีความท้าทายอยู่มาก แต่มาถึงขั้นนี้แล้วจะตาขาวได้อย่างไร?

“ตกลง!”

เมื่อกล่าวจบ หลู่หนีก็หมุนตัวเข้าห้องทำงาน

“รัชทายาท นี่ นี่จัดการเขาได้แล้วหรือ?”

เฉินม่อทำหน้าประหลาดใจ บนถนนอันรุ่งเรืองสายนี้ของต้าเฉียน ใครบ้างไม่รู้ความยโสของหลู่หนี? ด้านฝีมือและการสร้างอาวุธของศิษย์อาจารย์แซ่หลู่เรียกได้ว่าไม่เคยมีมาก่อนและจะไม่มีอีก ขนานนามว่าเป็นช่างใหญ่ในโลกยังไม่เกินไป

ขนาดคนใหญ่คนโตทรงอิทธิพลอย่างองค์ชายใหญ่ เขายังชักสีหน้าใส่ คิดไม่ถึงว่ารัชทายาทพูดแค่ไม่กี่คำก็จัดการเขาได้แล้ว?

“จัดการได้หรือ? นั่นต้องดูว่าฝีมือของเขามีคุณสมบัติพอให้ข้าจัดการหรือไม่”

ฉินอวิ๋นฟานหัวเราะพูดเรียบ

“ไม่มีคุณสมบัติหรือ?”

อู่จ้านสีหน้าเหยเก ขนาดหลู่หนีเขายังไม่ถูกใจหรือ? นี่คือคนที่บรรดาองค์ชายต้องพะเน้าพะนอเลยนะ คำพูดของรัชทายาทจะเกินไปแล้วกระมัง?

“เฉินม่อ เล่าเรื่องของเหลียงคังจวิ้นให้ข้าฟังหน่อยเถอะ!”

ฉินอวิ๋นฟานว่างงาน จู่ ๆ ก็นึกถึงผู้ถูกเรียกว่าอัจฉริยะอันดับหนึ่งของต้าเฉียนขึ้นมาได้ เขาเป็นคนยังไงกันแน่นะ

“เขาหรือ? รัชทายาท ท่านรู้หมดแล้วหรือ?”

เฉินม่อหน้าซีดเดี๋ยวนั้น คุกเข่าลงตุบ เขาสามารถจัดการเรื่องชีวิตประจำวันของฉินอวิ๋นฟานได้อย่างมีระเบียบแบบแผน แต่เขาไม่สามารถก้าวล่วงการใช้ชีวิตของพระชายารัชทายาทได้

ถึงเขาจะรู้ว่าพระชายารัชทายาทออกจากวังไปนัดพบกับเหลียงคังจวิ้นเป็นบางครั้ง แต่เขาก็จนใจเหลือเกิน ไม่มีสิทธิ์ห้าม

“ลุกขึ้น!”

ฉินอวิ๋นฟานเอ่ยเสียงหนัก “ตอนนี้ข้าอยากรู้เรื่องของเขาสักหน่อย ข้าอยากรู้ว่าเขาจะโผล่มาในการประลองใหญ่คราวนี้หรือไม่!”

เฉินม่อปาดเหงื่อตรงหน้าผาก ตอบอย่างระมัดระวัง “พ่อของเหลียงคังจวิ้นเหลียงหยินซานเป็นราชบัณฑิตของสำนักศึกษาหลวง มีชื่อเสียงและอิทธิพลในสำนักศึกษาหลวงมาก ความรู้ล้ำลึก ภายใต้การอบรมสั่งสอนของเขา เหลียงคังจวิ้นแสดงพรสวรรค์ด้านการศึกษาน่าทึ่งนานแล้ว”

“เคยได้รับสมญานามว่าเป็นเด็กอัจฉริยะอันดับหนึ่งของต้าเฉียน โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอนเชี่ยวชาญหมด และที่เขาชอบมากที่สุดก็คือการดื่มเหล้าแข่งแต่งกลอนกับบรรดาผู้มีการศึกษา มากความสามารถไม่ยึดติดกับระเบียบพิธี ทำให้หญิงสาวลุ่มหลงไม่น้อยขอรับ”

“เหอะ มิน่า แม้แต่มู่หรงจิ่นยังหลงใหลเป็นบ้าเป็นหลัง”

ฉินอวิ๋นฟานหัวเราะอย่างเย็นชา “นี่ไม่ใช่ช่ายสวีคุน[footnoteRef:1]หน้าหวานคนดังฉบับตัวจริงหรือ?” [1: นักร้อง นักแต่งเพลง นักเต้น แร็ปเปอร์ และนักแสดงชาวจีน]

“ช่ายสวีคุนหน้าหวานคนดังคือผู้ใดหรือขอรับ?”

เฉินม่อสงสัยถาม

“เอ่อ เรื่องนี้เจ้าไม่ต้องรู้หรอก เจ้าแค่บอกข้าว่าเขาสนิทกับใคร จะโผล่มาในงานประลองหรือไม่ก็พอ ”

ฉินอวิ๋นฟานตอบด้วยสีหน้าประหลาด

“เหลียงคังจวิ้นค่อนข้างสนิทกับองค์ชายใหญ่พ่ะย่ะค่ะ องค์ชายใหญ่ชำนาญบู๊ ถ้าเป็นไปตามคาด เหลียงคังจวิ้นต้องลงประลองด้านบุ๋นให้องค์ชายใหญ่แน่ขอรับ!”

“เช่นนั้นก็ดี ข้ากลัวแต่เขาจะไม่ลงสนามเท่านั้นแหละ!”

เมื่อได้รับคำตอบยืนยัน ใบหน้าฉินอวิ๋นฟานเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1062

    ในที่สุดเหมิงฉาก็รับไม่ไหว ร้องตะโกนคำที่แทบจะเป็นความอัปยศนั้นการแข่งขันทางบู๊นี้ก็ปิดฉากลงท่ามกลางความตกตะลึงพรึงเพริดของทุกคน...เรื่องหักเหจากการคาดหมายของทุกคนเหลียงจ้านอิงและเหลียงเทียนจื้อต่างคิดไม่ถึงว่าเหลียงเทียนอี้จะล้วงปืนสั้นออกมาพลิกสถานการณ์ในการแข่งขันด้านบู๊นี้กระทั่งว่าเหลียงเทียนจื้อไม่มีโอกาสจะได้ออกโรงเลย...เช่นละครอย่างไรอย่างนั้น เนื่องจากเหมิงฉากลัวสุดขีดจึงยกมือยอมแพ้ดังนั้นเหลียงเทียนอี้จึงคว้าชัยชนะการแข่งขันรอบนี้ได้อย่างง่ายดายโดยไม่เปลืองแรงภาพมหัศจรรย์เกิดให้แบบไม่มีการเปลี่ยนแปลงลุ้นระทึกและไม่มีเลือดร้อนพลุ่งพล่านที่ใครคาดหวัง!ถึงขั้นว่าลวงตามากแต่ผลลัพธ์เป็นของจริงแท้แน่นอน เหลียงเทียนอี้ชนะแล้ว......“ดูท่าครั้งนี้ฟานเอ๋อร์จะช่วยข้าได้มากอีกแล้ว”เหลียงเทียนอี้กลับมาถึงด้านในก็คืนปืนสั้นให้ฉินอวิ๋นฟานและพรูลมหนัก ๆ“เหอะ ๆ เสด็จน้าชมเกินไปแล้ว ทุกอย่างขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ของท่านทั้งหมด ไม่เกี่ยวกับข้าสักหน่อย”ฉินอวิ๋นฟานยักไหล่ มิได้กล่าวอะไรอีกถ้าจะบอกว่าเขาทำอะไรเพื่อเหลียงเทียนอี้ นั่นก็แค่บอกเขาว่าความจริงการแข่งขันนี้สามาร

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1061

    การกระทำของเหลียงเทียนอี้ทำให้ทุกคนในนั้นตกตะลึงแม้แต่เหลียงจ้านอิงที่อยู่บนปะรำก็ยังหยุดการดื่มน้ำชาไม่ได้ มองไปด้วยสีหน้าประหลาดใจ“เขาคิดจะทำอะไรกันแน่?”เหลียงเทียนจื้อมองเหลียงเทียนอี้ที่ปราศจากเครื่องป้องกันใด ๆ ด้านข้าง ใบหน้าแปลกใจนี่คือการแข่งขันบู๊นะ คือสถานที่ตีรันฟันแทง ถ้าไม่ระวังอาจต้องคมศาสตราได้จริง ๆ ศีรษะย้ายที่อยู่ หากไม่ใช่เพราะมั่นใจกับฝีมือของตัวเองมาก กอปรกับวางแผนร่วมกับทางซยงหนูดีแล้วเขาคงต้องสวมชุดเกราะหนักมารับมือกับการแข่งขันด้านบู๊วันนี้เหมือนกันทว่าการกระทำเช่นนี้ของเหลียงเทียนอี้ต่างจากการรนหาที่ตายอย่างไร?ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกแปลก เหลียงเทียนจื้อหน้าบิดเบี้ยวเล็กน้อย...ทั้งที่เขาควรดีใจกับเวลานี้ ถ้าเหลียงเทียนอี้เกิดอุบัติเหตุในการแข่งขันรอบนี้ เช่นนั้นบัลลังก์ต้องเป็นของเขาแน่แล้วแต่ใจกับกระวนกระวาย อย่างไรก็ไม่เป็นสุข“หรือว่าเขาแอบวางแผนอะไร?”ทันใดนั้นเหมิงฉาเริ่มบุกโจมตีก่อนแล้วร่างสูงใหญ่นั้นหวดขวานใหญ่หนักร้อยชั่งพลางเข้าใกล้เหลียงเทียนอี้อย่างต่อเนื่องภายใต้แสงสุริยา คมมีดนั้นน่ากลัวเช่นนี้ ราวกับแค่ถากเถือเบา ๆ ก็เฉือนศีรษ

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1060

    “ข้าเอง!”ทันใดนั้นเหลียงเทียนอี้ก็ก้าวออกมาช้า ๆโง่อย่างที่คิด...เหลียงเทียนจื้อยืนยิ้มเยาะอยู่ในใจข้างหลังเขารู้นิสัยของพี่ชายดี และรู้ว่าเหลียงเทียนอี้เป็นคนดื้อรั้นมากเมื่อเจอกับสถานการณ์เช่นนี้ก็มักจะดาหน้าออกไปทันทีแม้เผชิญหน้ากับพันขุนศึกหมื่นอาชาก็ยังปราศจากความกลัวเกรง พลีตนจนตัวตาย...แต่พฤติกรรมวู่วามเช่นนี้ กลัวแต่ต้องจบอย่างอนาถในท้ายที่สุด“ฮ่า ๆ ๆ รัชทายาทกล้าหาญดังคาด!” เหมิงฉาหัวเราะเสียงดัง “ปกติยังนึกว่าท่านเป็นแต่สะบัดพู่กันขีดเขียน วันนี้ข้าอยากลองดูสิว่าฝีมือดาบกระบี่ของท่านจะล้ำลึกหรือไม่?”เพิ่งกล่าวจบ เหมิงฉาก็กวัดแกว่งขวานใหญ่พลางเดินประชิดไปทางเหลียงเทียนอี้ทีละก้าวรูปร่างใหญ่นั้น ร่างกายแข็งแรงนั้น แค่ยืนอยู่ก็สร้างแรงกดดันที่มองไม่เห็นแล้วทำให้หลาย ๆ คนเห็นแล้วอดเกิดใจกลัวอย่างหนึ่งขึ้นมาไม่ได้“อุ๊ย ท่านพี่จะเอาชนะสัตว์ประหลาดตัวนี้ยังไง?”เหลียงจื่อฝูที่อยู่บนปะรำหน้าทุกข์ร้อน สองมือบีบผ้าเช็ดหน้าแน่น สีหน้าซีดไปเล็กน้อยนางจ้องเหลียงเทียนอี้กลางลานฝึกซ้อม“ท่านพี่ไม่มีความสามารถด้านนี้เท่าไร ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเหมิงฉา!”ผู้เป็นน้องสาว

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1059

    เหลียงเทียนอี้ขมวดคิ้วแน่น ใบหน้าราบเรียบ มองอารมณ์ไม่ออกแต่ในใจเขารู้ดี การต่อสู้ครั้งนี้ได้เปิดฉากอย่างเป็นทางการตั้งแต่เหมิงฉาเริ่มพูดแล้วนี่คือการหยามหน้า คือการหยามเหยียดอย่างชัดเจนไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลย“เป็นยังไง? องค์ชายสาม?”เหมิงฉาเมินเหลียงเทียนอี้ที่อยู่อีกทางหนึ่ง แล้วใช้สายตาท้าทายมองไปทางเหลียงเทียนจื้อ ก่อนจะเอ่ยเสียงเย็น “ได้ยินว่าฝีมือการใช้ดาบกระบี่ขององค์ชายสามค่อนข้างร้ายกาจ วันนี้ข้าขอท้าทายสักหน่อยเถิด”“มิเป็นไร” เหลียงเทียนจื้อฉีกยิ้ม ใบหน้าเปื้อนไปด้วยความกระหยิ่มใจจากนั้นก็ชักกระบี่ล้ำค่าคู่กายออกมาจากตรงเอวช้า ๆการต่อสู้ครั้งนี้ คือของเขาเท่านั้น!และเป็นเขาได้เท่านั้น!เขาต้องการให้ทุกคนรู้ว่าเขาเหลียงเทียนจื้อต่างหากที่เป็นผู้ชนะในท้ายที่สุดคนนั้น คือคนที่สามารถเอาชนะซยงหนูได้อย่างแท้จริง!......“ดูท่าทุกอย่างจะดำเนินไปตามแผนนะ”เหลียงจ้านอิงดื่มน้ำชาสบายใจเฉิบอยู่บนปะรำมองผลสะท้อนกลับอย่างอบอุ่นของเหล่าผู้ชม จิตใจยิ่งฮึกเหิมตื่นเต้นไม่พูดไม่ได้เลย ถ้อยคำนั้นของเหมิงฉาทำให้เกิดผลดีเยี่ยม สามารถชักจูงอารมณ์ของทุกคนได้ในพริบตาเขาเช

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1058

    ตกลงไว้แต่แรกว่าเป็นการแข่งขันรูปแบบปิด และไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นไร นอกจากราชวงศ์จะมิมีผู้ใดล่วงรู้ทว่าตอนนี้กลับแข่งขันในลานกว้างต่อหน้าธารกำนัล?หากท่านพี่แพ้มิต้องเป็นที่หัวเราะไปทั่วหรือ?“นี่ก็คือผลลัพธ์ที่ทางเหลียงชินอ๋องต้องการกระมัง?”ฉินอวิ๋นฟานนั่งลงด้านข้าง ยิ้มพูดอย่างเฉยชา “ในฐานะที่เป็นละครฉายซ้ำของวันนี้ พวกเขาแค่ต้องการให้ทุกคนได้เห็นความประดักประเดิดของเสด็จน้าเท่านั้น”แต่แพ้จากการต่อสู้เช่นนั้นผลลัพธ์ต้องเทข้างแน่โอรสสวรรค์ของต้าเหลียงที่กล่าวขานกลับแพ้ให้กับคนป่าเถื่อน ทั้งความสามารถยังมิสู้องค์ชายสามเหลียงเทียนจื้อขอเพียงมีการพูดประเภทนี้ต่อไป ไม่นานอัตราการสนับสนุนเหลียงเทียนจื้อก็จะพุ่งสูงลูกไม้พรรค์นี้ช่างโหดเหี้ยมนัก“น่ารังเกียจจริง ๆ...” คิ้วงามเหลียงจื่อฝูย่นยู่เล็กน้อย อดกระตุกมุมปากไม่ได้ “ไม่เคยคิดเลยว่าพวกเขาจะใช้วิธีการต่ำช้าเช่นนี้”“เมื่อวานท่านพี่ชนะการแข่งขันด้านบุ๋นกับซยงหนูในท้องพระโรง พวกเขาไม่เห็นจะพูดกันเลย เลวทรามจริง ๆ!”ฉินอวิ๋นฟานหัวเราะอย่างไม่ออกความเห็นเขากลับไม่ใส่ใจว่าเมื่อวานจะชนะหรือแพ้ วันนี้ต่างหากที่เป็นส่วนสำค

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1057

    สำหรับเหลียงเทียนอี้ การแข่งขันในวันนี้ค่อนข้างน่าตกใจแต่ยังดีที่สุดท้ายเขาสามารถคลี่คลายได้อย่างน่าอัศจรรย์ ทำให้พวกซยงหนูหน้าบึ้งตึง โจมตีจนพวกเขารับมือไม่ทันดูท่าปกติว่างเว้นจากการงานอ่านหนังสือให้มากจะมีประโยชน์...หลังประชุมเช้า เหลียงเทียนอี้ก็อดรนทนไม่ไหวบอกข่าวดีกับฉินอวิ๋นฟาน อยากแบ่งปันความสุขและความเปรมปรีดิ์ของตนแต่พอได้ยินฉินอวิ๋นฟานตอบกลับ เขาจึงตระหนักว่าเรื่องราวไม่ได้เรียบง่ายธรรมดาอย่างที่เขาคิดอย่างนั้น“การแข่งขันทางบู๊ในวันพรุ่งนี้จึงจะเป็นส่วนสำคัญอย่างแท้จริง”คำพูดราบเรียบประโยคหนึ่งของฉินอวิ๋นฟานทำให้ความยินดีปรีดาของเหลียงเทียนอี้ในแต่เดิมสูญสิ้น สีหน้าอึมครึมมากขึ้นเรื่อย ๆ“ข้าย่อมรู้ดี...แต่ปกติ คนที่จะชนะในการแข่งขันทางบู๊คงจะเป็นน้องสาม”เกี่ยวกับจุดนี้แทบไม่มีอะไรให้ลุ้นเพราะเหลียงเทียนจื้อร่ำเรียนกับเหลียงจ้านอิงแต่เล็ก อีกทั้งยังเคยเข้าสนามรบฟาดฟันกับศัตรู ด้านประสบการณ์การรบ จึงมีความคล่องมากกว่าเป็นธรรมดาเช่นนี้ หากคิดจะชิงคะแนนหนึ่งมาจากมือของเหลียงเทียนจื้อ คาดว่าต้องยากเป็นพิเศษเมื่อเห็นเหลียงเทียนอี้มีท่าทางปราศจากใจฮึดสู้ ฉินอวิ

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1056

    “พันทุบหมื่นเจาะจึงได้แผ่นดิน ไฟโหมเผาไหม้เป็นอาจิณ ร่างแหลกกายเหลวมิหวั่น คงไว้ซึ่งความบริสุทธิ์ในโลกา”ฝุ่นหินหนึ่งบททำให้หลิ่วเหวินเซี่ยมั่นใจมากขึ้นไม่น้อยครั้งนี้เขาไม่ออมมืออีก ทั้งยังท่องออกมาจนจบ ไม่เปิดโอกาสใด ๆ ให้กับเหลียงเทียนอี้เช่นเดียวกัน เขาทำนอกเหนือแผนเดิม ไม่คิดสนใจความรู้สึกของเหลียงเทียนจื้ออีก“นี่ นี่มันกลอนอะไร?”เหลียงเทียนจื้อที่อยู่ด้านหลังเหงื่อตก ในหัวถึงขั้นว่าไม่มีความทรงจำอะไรเกี่ยวกับกลอนบทนี้แน่นอน ด้วยความทึ่มทื่อของเขาจะต่อกลอนได้อย่างไร ได้แต่เกาหลังศีรษะยิก ๆทว่าเหลียงเทียนอี้ยังใจเย็นเหมือนเดิม เพียงครู่เดียวก็ตอบ“หวงคะนึงความทุกข์เข็ญในการสอบ บัดนี้ไฟสงครามสงบผ่านพ้นสี่ปี”“บ้างเมืองไหวเอนดังกิ่งหลิว ใครเล่ามิใช่ผิวน้ำฝนซัดสาด”“หวงข่งทานปราชัยพรั่นพรึงถึงวันนี้ หลิงติงหยางอ้างว้างถอนหายใจ”“นับแต่โบราณใครบ้างมิดับสูญ เหลือใจรักชาติในพงศาวดาร”ครั้นกล่าวออกมาก็ได้รีบเสียงปรบมือดังสนั่นขุนนางบุ๋นบู๊ที่ชมละครฉากเด็ดในแต่เดิม ยามนี้ยอมสยบกับความสามารถทางวรรณกรรมของเหลียงเทียนอี้แล้วไม่ว่าจะเป็นกลอนในสมัยใด เหลียงเทียนอี้ก็เหมือน

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1055

    ชั่วขณะ ท้องพระโรงเงียบกริบ สายตาของทุกคนรวมศูนย์อยู่กับตัวของเหลียงเทียนอี้แทบทั้งหมดในดวงตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจและความยินดีหลังจากหลิ่วเหวินเซี่ยร่ายกลอนท่อนแรกออกมา เหลียงเทียนอี้กลับสามารถตอบสนองทันควันพร้อมต่อท่อนหลังความเร็วเช่นนี้เรียกว่าเร็วยิ่ง!“อวิ๋นเฉ่าสาทรฤดูมีเขียวแห่งวสันต์ของกวีราชวงศ์ซ่ง คือยอดบทกวีโดยแท้!”เหลียงเทียนอี้พยักหน้าอย่างสง่างาม ใบหน้าประดับรอยยิ้มมั่นใจงานนี้ทำให้เหลียงเทียนจื้อที่อยู่ข้างล่างหน้าตึงฉับพลันเหลียงจ้านอิงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ยิ่งหนักกว่า สายตาที่มองมาราวกับมีไฟพุ่งออกมาได้“บ้าเอ๊ย...ถูกชิงตัดหน้าไปก่อน!”เหลียงเทียนจื้อกัดฟันกรอด ในใจกรุ่นโกรธไม่หยุดทั้งที่เขาทำการบ้านมาล่วงหน้า ไม่ว่าหลิ่วเหวินเซี่ยจะท่องกลอนบทใดเขาก็เตรียมเอาไว้หมดแล้วแต่ในสถานการณ์เช่นนี้ เขากลับเร็วสู้เหลียงเทียนอี้ไม่ได้!และไม่รู้ว่าตัวเองโง่เขลาหรือเหลียงเทียนอี้เก่งจริงกันแน่!“รัชทายาททรงภูมิแท้ ข้าน้อยเลื่อมใส!”หลิ่วเหวินเซี่ยพยักหน้าด้วยสีหน้าคงเดิมทว่าในใจกลับไม่พอใจเล็กน้อยแล้วคิดไม่ถึงว่าเหลียงเทียนอี้ผู้นี้จะมีฝีมือ เขาจงใจเลือกบทกวี

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1054

    การกระทำเช่นนี้คือการแสดงความยโสหยิ่งผยองของซยงหนูอย่างมิต้องสงสัย“เหมิงฉา คารวะรัชทายาท”“หลิ่วเหวินเซี่ย คารวะรัชทายาท”คนอื่น ๆ ก็ทักทายตามด้วยเหมือนกัน เมื่อนั้นเหลียงเทียนอี้จึงรู้ฐานะของพวกเขาดูแล้วหนึ่งคนในนั้นก็คือบุตรชายของเหมิงเก๋อเอ่อร์ หรือก็คือคนที่มาท้าทายเขาในครั้งนี้อย่างที่เหลียงจ้านอิงบอก การมาครั้งนี้ของเหมิงเก๋อเอ่อร์ก็เพื่อหยั่งเชิงเขาโดยอ้างเหตุผลเยี่ยมเยือนฮ่องเต้ต้าเหลียง ดังนั้นเรื่องที่เริ่มสนทนาในท้องพระโรงจึงเกี่ยวกับสุขภาพของฮ่องเต้ต้าเหลียงแทบจะทั้งหมดทว่าทุกคนในที่นั้นต่างรู้ดี จุดประสงค์ของผู้นิยมสุรามิได้อยู่ที่สุรานี่อย่างไร ครั้นเปลี่ยนเรื่อง เหมิงเก๋อเอ่อร์ก็กล่าวถึงการแข่งขันเลย“ได้ยินว่ารัชทายาทและองค์ชายสามเก่งทั้งบุ๋นแล้วบู๊มานาน คืออัจฉริยะของต้าเหลียง การมาเยือนต้าเหลียงครั้งนี้ นอกจากจะเยี่ยมฮ่องเต้ต้าเหลียงสหายเก่าท่านนี้ ก็อยากให้บุตรชายได้ประมือกับรัชทายาทและองค์ชายสักหน่อย”เหมิงเก๋อเอ่อร์สีหน้าขึงขัง ในที่สุดก็เข้าประเด็นชั่วขณะ ทุกคนในท้องพระโรงหัวใจจะหลุดออกมาอยู่แล้ว ต่างสังเกตสีหน้าเหลียงเทียนอี้อย่างแนบเนียนทว่าเ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status