แชร์

บทที่ 4

ผู้เขียน: สายลมไร้กาลเวลา
“ฝ่าบาท องค์รัชทายาททรงนำกระบี่คู่กายที่ฝ่าบาทพระราชทานให้เผิงไหลจวิ้นอ๋องไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”

ภายในพระราชวัง องครักษ์เงาได้นำข่าวล่าสุดที่ได้รับมารายงาน

ฮ่องเต้ที่กำลังจิบชาอยู่แทบจะสำลักน้ำชา

พระเนตรเบิกกว้างราวกับระฆังทองแดง!

กระบี่คู่กายที่เรามอบให้ฉู่หนิง องค์รัชทายาทกล้าดีอย่างไรถึงได้เอาไป?

เจ้าลูกทรพีนี่ ช่างกล้าหาญยิ่งนัก!

ความโกรธแล่นขึ้นสู่สมองในชั่วพริบตา น้ำชาที่ติดอยู่ในลำคอถูกกลืนลงไปอย่างยากลำบาก

“บังอาจ!”

ฮ่องเต้ทุบโต๊ะแล้วลุกขึ้นยืน ตวาดเสียงดังลั่น “ไปเรียกเจ้าลูกทรพีนั่นมาพบเรา!”

กระบี่เล่มนั้น เป็นเพียงของที่มอบให้ฉู่หนิงในเชิงสัญลักษณ์เท่านั้น

รอจนฉู่หนิงพลีชีพในสงครามที่แนวหน้า กระบี่เล่มนั้นก็ยังคงเป็นขององค์รัชทายาทอยู่ดี!

แต่องค์รัชทายาทรีบร้อนเอากระบี่กลับไปเช่นนี้ หรือคิดว่าเราผู้เป็นฮ่องเต้ไม่มีตัวตนอยู่หรือไร?

องครักษ์เงาเหลือบมองฮ่องเต้ที่ทรงพิโรธ มุมปากก็กระตุก ไม่รู้ว่าควรจะพูดความจริงออกไปดีหรือไม่

“เจ้ายังจะยืนเหม่ออะไรอยู่ ยังไม่รีบไปถ่ายทอดคำสั่งอีก?”

สายพระเนตรของฮ่องเต้เย็นเยียบ ถ้วยชาในมือก็ถูกขว้างลงบนโต๊ะอย่างแรง

องครักษ์เงาอธิบายอย่างระมัดระวัง “ฝ่าบาท กระบี่เล่มนั้นเป็นของที่เผิงไหลจวิ้นอ๋องขายให้กับองค์รัชทายาทพ่ะย่ะค่ะ”

ขาย... ขายหรือ?

ฮ่องเต้ตกตะลึงไปชั่วขณะ

กระบี่คู่กายของเรา ฉู่หนิงกลับเอาไปขายหรือ?

ฮ่องเต้ทรงรู้สึกผิดหวังที่บุตรชายไม่เอาไหน พระหัตถ์ทั้งสองข้างกำแน่น ตรัสถามเสียงเย็น “เขาขายได้เงินเท่าไร?”

องครักษ์เงาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ยังคงตอบตามความจริง “หกหมื่นตำลึงพ่ะย่ะค่ะ”

“เท่าใดนะ?”

ฮ่องเต้ทรงนึกว่าพระองค์ฟังผิดไป

“หกหมื่นตำลึงพ่ะย่ะค่ะ” องครักษ์เงาตอบเสียงดังขึ้น

“ลูกทรพี เจ้าลูกทรพีเอ๊ย!”

ฮ่องเต้ทรงกริ้วจนเดินไปเดินมาอยู่ที่เดิม “กระบี่คู่กายของเรามีค่าแค่หกหมื่นตำลึงอย่างนั้นหรือ?”

องครักษ์เงาถึงกับตะลึง

ที่แท้ที่ฮ่องเต้ทรงกริ้ว มิใช่เพราะเผิงไหลจวิ้นอ๋องนำกระบี่ไปขาย

แต่ทรงกริ้วที่เขาไม่รู้จักคุณค่าของมันต่างหาก!

“ไม่สิ เดิมทีฉู่หนิงก็เติบโตในหมู่สามัญชน เขาไม่รู้คุณค่าของกระบี่คู่กายของเราก็เป็นเรื่องที่ให้อภัยได้”

ฮ่องเต้ทรงถอนหายใจยาว สีพระพักตร์ผ่อนคลายลงไม่น้อย “เงินหกหมื่นตำลึง สำหรับคนที่มีพื้นเพเป็นสามัญชนแล้ว ถือเป็นราคาสูงลิบลิ่วจริง ๆ !”

แต่แล้วสีพระพักตร์ก็กลับมาเคร่งขรึม “แต่ฉู่หนิงไม่รู้ แล้วองค์รัชทายาทก็ไม่รู้ด้วยหรือไร?”

“หึ นี่เขาจงใจรังแกฉู่หนิงที่ไม่เคยเห็นโลกกว้าง เอาเงินแค่นี้มาแลกกระบี่คู่กายของเราไป!”

ฮ่องเต้ยิ่งคิดก็ยิ่งกริ้ว พระหัตถ์ทั้งสองข้างกำแน่น สายตาฉายแววไม่พอพระทัยออกมาแวบหนึ่ง

องค์รัชทายาทมีความทะเยอทะยานสูง ในฐานะฮ่องเต้แล้วมีหรือจะไม่รู้

แต่ฉู่หนิงกำลังจะไปเป็นตัวตายตัวแทนที่แนวหน้าอยู่แล้ว องค์รัชทายาทยังจะไปแย่งชิงของของฉู่หนิงอีก มันจะเกินไปแล้ว!

“ใครก็ได้ ถ่ายทอดราชโองการเดี๋ยวนี้ ให้องค์รัชทายาทคัดลอกพระคัมภีร์หนึ่งจบเพื่อถวายในวันคล้ายวันพระราชสมภพของฮองเฮาในเดือนหน้า!”

ฮ่องเต้หรี่พระเนตรลง น้ำเสียงเย็นชา “จนกว่าจะคัดลอกพระคัมภีร์เสร็จสิ้น ไม่อนุญาตให้เขาออกจากตำหนักบูรพา!”

“พ่ะย่ะค่ะ!” หัวหน้าขันทีจ้าวหมิงที่อยู่ด้านนอกรับคำ กำลังจะไปถ่ายทอดราชโองการ

แต่เพิ่งจะหันหลัง น้ำเสียงของฮ่องเต้ก็ดังมาจากในตำหนักอีกครั้ง “รอให้ฉู่หนิงได้รับเงินจากองค์รัชทายาทก่อน แล้วค่อยไปถ่ายทอดราชโองการที่ตำหนักบูรพา!”

“บ่าวเข้าใจแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

ฮ่องเต้ทรงต้องการช่วยเผิงไหลจวิ้นอ๋องนี่เอง

บอกว่าให้คัดลอกพระคัมภีร์ แท้จริงแล้วก็คือการกักบริเวณ

จ้าวหมิงเป็นคนหัวไว เมื่อคิดได้แล้ว ก็กระซิบเบา ๆ “ฝ่าบาท เช่นนั้นกระบี่คู่กาย...”

ฮ่องเต้แค่นเสียงเย็น “ในเมื่อเผิงไหลจวิ้นอ๋องขายให้องค์รัชทายาทไปแล้ว เราก็ไม่สะดวกที่จะเรียกคืน แต่ว่า เราก็ไม่ได้มีกระบี่แค่เล่มเดียวนี่!”

“หลังจากเจ้าไปถ่ายทอดราชโองการที่ตำหนักบูรพาแล้ว จงนำหอกที่เราเคยใช้สมัยหนุ่ม ๆ ไปมอบให้เผิงไหลจวิ้นอ๋อง!”

ดวงตาของจ้าวหมิงเบิกกว้าง เผยสีหน้าเหลือเชื่อออกมา แต่ก็ยังคงรับคำแล้วรีบออกไปจัดการทันที

องครักษ์เงาที่อยู่ในตำหนักก็มีสีหน้าประหลาดใจเช่นกัน

กระบี่คู่กาย เป็นสัญลักษณ์ของฐานะฮ่องเต้ เปรียบเสมือนฮ่องเต้เสด็จมาด้วยพระองค์เอง สามารถข่มผู้คนมากมายได้

แต่หอกเล่มนั้น เป็นสิ่งที่ฮ่องเต้เคยใช้ในการทำศึกสงครามในอดีต

มีหอกเล่มนี้อยู่ในมือ ก็มีอำนาจในการประหารก่อนแล้วค่อยรายงานทีหลัง!

เมื่อเทียบกับกระบี่คู่กายแล้ว หอกที่ฮ่องเต้เคยใช้กลับน่าเกรงขามยิ่งกว่า!

องครักษ์เงารีบทูลเตือน “ฝ่าบาท พระองค์พระราชทานหอกประกายเงินให้เผิงไหลจวิ้นอ๋อง หากเขาใช้หอกนี้ก่อความวุ่นวาย เกรงว่าจะจัดการได้ยากพ่ะย่ะค่ะ”

ฮ่องเต้เหลือบมององครักษ์เงาแวบหนึ่ง “ก่อความวุ่นวาย? เจ้าคิดว่าฉู่หนิงรู้หรือไม่ว่าหอกเล่มนี้แสดงถึงอะไร?”

มุมปากขององครักษ์เงากระตุก

เผิงไหลจวิ้นอ๋องแม้แต่กระบี่คู่กายของฮ่องเต้ก็ยังกล้าขาย ดูท่าว่าจะไม่รู้คุณค่าที่แท้จริงของกระบี่คู่กายจริง ๆ

แต่การไปแนวหน้า ก็จำเป็นต้องมีของที่สามารถข่มเหล่าทหารเบื้องล่างได้ แค่อาศัยฐานะองค์ชายของเผิงไหลจวิ้นอ๋องอย่างเดียวย่อมไม่พอ

การมีหอกประกายเงินที่ฮ่องเต้พระราชทานให้ต่างหากที่จะทำให้เหล่าทหารในแนวหน้ายอมเชื่อฟังคำสั่ง!

คำพูดนับพันนับหมื่น สุดท้ายก็รวมกันเป็นประโยคเดียว “ฝ่าบาททรงพระปรีชา!”

...

ณ ตำหนักบูรพา องค์รัชทายาทมองกระบี่คู่กายของฮ่องเต้ในมือด้วยสีหน้าตื่นเต้นยินดี

“ความปรารถนาที่ยาวนานหลายปี ในที่สุดวันนี้ก็ได้สมหวังเสียที!”

เมื่อมองไปยังตัวกระบี่สีทองอร่าม องค์รัชทายาทก็อดไม่ได้ที่จะตวัดร่ายรำกระบี่ออกมา

ในหัวนึกถึงภาพที่ตนเองใช้กระบี่เล่มนี้ข่มองค์ชายคนอื่น ๆ แล้ว

มีกระบี่เล่มนี้อยู่ในมือ ต่อไปนี้องค์ชายในเมืองหลวงแห่งนี้จะต้องยอมสยบต่อเขา!

แต่ในขณะนั้นเอง ก็มีเสียงฝีเท้าดังมาจากนอกตำหนัก

ทันใดนั้น เสียงแหลมเล็กของจ้าวหมิงก็ดังขึ้น “มีพระราชโองการจากฝ่าบาท!”

องค์รัชทายาทรีบเก็บกระบี่ให้ดี แล้วออกมาทำความเคารพนอกตำหนัก

จ้าวหมิงกล่าวอย่างเรียบเฉย “เดือนหน้าเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของฮองเฮา เพื่อแสดงความกตัญญู องค์รัชทายาทจำต้องคัดลอกพระคัมภีร์หนึ่งจบด้วยพระองค์เอง ก่อนที่จะคัดลอกพระคัมภีร์เสร็จสิ้น ไม่อนุญาตให้ออกจากตำหนักบูรพา!”

องค์รัชทายาทพลันตกตะลึงไป

เสด็จพ่อหมายความว่าอย่างไร?

คัดลอกพระคัมภีร์ก็คัดลอกไปสิ แต่การห้ามออกจากตำหนักบูรพาก็คือการกักบริเวณดี ๆ นี่เอง

ทุกอย่างก็กำลังไปได้ด้วยดี เหตุใดจู่ ๆ ถึงมากักบริเวณข้า?

เดี๋ยวนะ...

หรือจะเป็นเพราะเรื่องที่ข้าซื้อกระบี่คู่กายของเสด็จพ่อมาจากในมือของฉู่หนิง?

แต่นี่มันเป็นเรื่องที่ต่างฝ่ายต่างสมัครใจนะ!

ใบหน้าขององค์รัชทายาทฉายแววโกรธเกรี้ยว ในใจรู้สึกขุ่นเคืองอย่างยิ่ง

“องค์รัชทายาท รับราชโองการเถิด”

จ้าวหมิงเห็นองค์รัชทายาทนิ่งเฉยอยู่นาน จึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยเตือน

สีหน้าขององค์รัชทายาทเปลี่ยนไปเล็กน้อย “เรื่องนี้ข้าจะไปทูลถามเสด็จพ่อให้เข้าใจด้วยตนเอง!”

สายตาของจ้าวหมิงเย็นชา น้ำเสียงก็กลายเป็นเย็นเยียบ “องค์รัชทายาทคิดจะขัดราชโองการหรือพ่ะย่ะค่ะ?”

“ข้าไม่ได้จะขัดราชโองการ...”

“ในเมื่อไม่ได้จะขัดราชโองการ เช่นนั้นก็น้อมรับราชโองการเถิด!”

จ้าวหมิงกล่าวเสียงทุ้ม “ฝ่าบาทได้ส่งทหารรักษาพระองค์มาเพื่อคุ้มกันองค์รัชทายาทที่นี่แล้ว ช่วงเวลานี้ท่านเพียงแค่ตั้งใจคัดลอกพระคัมภีร์ก็พอ!”

สิ้นเสียง ก็มีทหารรักษาพระองค์กลุ่มหนึ่งบุกเข้ามา

สีหน้าขององค์รัชทายาทดูย่ำแย่เล็กน้อย

ฮ่องเต้ถึงกับส่งทหารรักษาพระองค์มาจับตาดูข้า!

วีรบุรุษย่อมไม่สู้ในศึกที่เสียเปรียบ อย่างไรเสีย กระบี่คู่กายของเสด็จพ่อก็มาอยู่ในมือแล้ว!

“ลูก...น้อมรับราชโองการ!” องค์รัชทายาทกัดฟันตอบรับ

หนึ่งชั่วยามต่อมา ณ จวนเผิงไหลจวิ้นอ๋อง ฉู่หนิงกำลังนั่งนับเงินอยู่ในห้องหลังเรือน

โตมาจนป่านนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นเงินมากมายขนาดนี้ หีบใหญ่กว่าสิบใบเชียวนะ

ในขณะนั้น ก็มีเสียงดังมาจากข้างนอก “ราชโองการมาถึงแล้ว!”

ฉู่หนิงโยนเงินในมือทิ้ง รีบออกไปรับราชโองการทันที

แม้จะไม่รู้ว่าฮ่องเต้ชราจอมตระหนี่ผู้เป็นบิดาจะส่งราชโองการมาตอนนี้ด้วยเรื่องอันใด แต่ต้องเกี่ยวข้องกับการที่เขาขายกระบี่ไปอย่างแน่นอน

จ้าวหมิงเหลือบมองฉู่หนิงที่ก้มหน้าก้มตาดูท่าทางไม่มีพิษมีภัย จากนั้นถอนหายใจยาว แล้วค่อย ๆ อ่านราชโองการ “เผิงไหลจวิ้นอ๋องในฐานะองค์ชายกำลังจะเดินทางไปยังแนวหน้า เรามีความยินดียิ่ง เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อบ้านเมืองของเผิงไหลจวิ้นอ๋อง จึงขอพระราชทานหอกประกายเงิน!”

ทันใดนั้น ทหารรักษาพระองค์คนหนึ่งที่สวมชุดเกราะสีดำซึ่งอยู่ด้านหลัง ก็ยื่นหอกยาวสีขาวราวกับหิมะเล่มหนึ่งออกมา

“ลูกน้อมรับราชโองการและขอบพระทัยในพระมหากรุณาธิคุณ!”

ฉู่หนิงยกยิ้มมุมปาก แล้วยิ้มให้จ้าวหมิงพลางเอ่ยขึ้น “รบกวนกงกงมาถ่ายทอดราชโองการแล้ว เงินจำนวนนี้ถือว่าข้าเลี้ยงน้ำชากงกงก็แล้วกัน”

เงินแท่งห้าสิบตำลึงถูกยื่นออกไป

จ้าวหมิงตกใจจนหน้าซีดเผือด รีบโบกมือปฏิเสธ “การถ่ายทอดราชโองการเป็นหน้าที่ของบ่าวอยู่แล้ว เผิงไหลจวิ้นอ๋องมิต้องทำเช่นนี้ ในวังยังมีธุระ บ่าวขอทูลลาไปก่อน”

พูดจบก็ไม่รอให้ฉู่หนิงได้พูดอะไร หันหลังแล้วหายลับไปอย่างไร้ร่องรอย

องค์รัชทายาทใช้เงินซื้อกระบี่คู่กาย ฮ่องเต้ก็กักบริเวณองค์รัชทายาทแล้ว

หากเขารับเงินของฉู่หนิงไป ฮ่องเต้คงได้สั่งตัดหัวเขาเป็นแน่!

ฉู่หนิงมองท่าทางตกใจกลัวของจ้าวหมิงแล้ว ก็อดส่ายหัวไม่ได้ จากนั้นก็หันไปมองหอกยาวที่อยู่ในมือ

“จ้าวอวี่ กวนอวิ๋น พวกเจ้าว่าหอกเล่มนี้มีค่าสักกี่ตำลึง?”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 100

    ฉู่หนิงถือจอกเหล้าแล้วยิ้ม “ขอบพระทัยเสด็จพ่อที่ช่วยให้ลูกได้แต่งงานในครั้งนี้”ฮ่องเต้พยักหน้าถือจอกเหล้า “จากนี้ เจ้าต้องดีกับท่านหญิงเสิ่นให้มาก”“เสด็จพ่อวางพระทัย ลูกจะไม่ทำให้หว่านอิ๋งต้องลำบากใจ!”“ดี ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”เมื่อเห็นฉู่หนิงเปลี่ยนกระทั่งสรรพนาม ส่วนเสิ่นหว่านอิ๋งไม่แสดงสีหน้าไม่สบอารมณ์ ฮ่องเต้หัวเราะเสียงดังยกจอกเหล้าในมือขึ้นดื่มจนหมดทว่า ในขณะที่ฉู่หนิงเตรียมดื่มคารวะฮองเฮา กลิ่นหอมโชยมาพร้อมเสียงฝีเท้าอย่างรวดเร็วต่อมา เสียงใสกังวานดังขึ้นด้านหลังเขา “ยินดีกับเผิงไหลจวิ้นอ๋องที่หมั้นหมายสำเร็จแล้ว เหล้าจอกนี้ข้าขอดื่มคารวะเจ้า!”ฉู่หนิงเลิกคิ้ว แม้จะแปลกใจอยู่บ้างที่จ้าวเฟยเยี่ยนเป็นฝ่ายเสนอหน้า แต่ก็หันหลังพร้อมหัวเราะเสียงค่อย“นานทีองค์หญิงแห่งต้าจ้าวจะเดินทางมาต้าฉู่ เหล้าจอกนี้ ข้าดื่มหมดจอก!”พูดจบ ฉู่หนิงดื่มจนหมดในคราวเดียวจ้าวเฟยเยี่ยนมุมปากยกขึ้นเล็กน้อย ยกจอกเหล้าขึ้นดื่มจนหมดในคราวเดียวเช่นกันแม้จะเป็นสตรี แต่ความองอาจบนตัวนางกลับไม่แพ้ชายใดเมื่อดื่มเสร็จ จ้าวเฟยเยี่ยนหันมองเสิ่นหว่านอิ๋ง หยิบกาเหล้ารินเหล้าให้ตัวเองหนึ่งจอก พลางยิ้มแล้ว

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 99

    “ถวายบังคมเสด็จพ่อ ฮองเฮา!”ฉู่หนิงเดินเข้าไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้มรถม้าขบวนเสด็จหยุดลง ฮ่องเต้ที่สวมชุดสีเหลืองทองเป็นฝ่ายเดินลงมาก่อนฮ่องเต้เปลี่ยนจากความน่าเกรงขามในยามปกติที่สวมชุดมังกร เป็นรอยยิ้มที่มีเมตตาของบิดาต่อมา หญิงวัยกลางคนผู้หนึ่งที่สวมชุดฝ่ายในสีม่วงเดินลงมาจากรถม้าหลวงอย่างเชื่องช้าแม้รูปโฉมนางจะไม่ได้งดงามมากนัก แต่บนตัวกลับมีพลังของความเป็นแม่แห่งแผ่นดินเผยออกมา!นั่นคือฮองเฮาแห่งต้าฉู่ มารดาแท้ ๆ ของรัชทายาทองค์ปัจจุบัน จูซูเหยา!เมื่อมองฉู่หนิงที่ก้มลงทำความเคารพแวบหนึ่ง ดวงตาฮองเฮามีความแปลกใจแวบผ่านช่วงเวลานี้ นางพอจะได้ยินเรื่องราวการกระทำของฉู่หนิงมาบ้าง แต่รู้ว่าฉู่หนิงกำลังจะไปเป็นตัวตายตัวแทนที่แนวหน้า ดังนั้นนางจึงไม่ได้ให้ความสนใจฉู่หนิงมากนักหากไม่ใช่เพราะฮ่องเต้เรียนเชิญด้วยพระองค์เอง นางคงไม่มีทางปรากฏตัวในงานหมั้นของฉู่หนิงครั้งแรกที่เห็นฉู่หนิง มองดูใบหน้าที่ละม้ายกับฮ่องเต้อยู่บ้าง ไม่รู้เหตุใด ในใจกลับรู้สึกประหม่าว่าฉู่หนิงจะชิงบัลลังก์กับลูกชายของนางต่อมาเมื่อนึกได้ว่าฉู่หนิงกำลังจะไปแนวหน้า ความกังวลนั้นก็หายเข้าไปในกลีบเมฆขณะ

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 98

    เมื่อมองดูใบหน้าของจ้าวเฟยเยี่ยนที่โกรธจนหน้าถมึงทึง เหล่าขุนนางหัวเราะเสียงดัง ต่างเยาะเย้ย“องค์ชายกล่าวถูกต้อง องค์หญิงเฟยเยี่ยนช่างเป็นคนดีเหลือเกิน”“ต้นโสมช่างให้ได้เหมาะเจาะ องค์หญิงเฟยเยี่ยน หากครั้งหน้ายังมีต้นโสมเช่นนี้โปรดส่งมาสักหลายต้น!”“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า องค์ชายรับต้นโสมเอาไว้ ได้ประโยชน์ถึงสองทาง!”“สมแล้วที่เป็นต้าจ้าว มั่งคั่งร่ำรวย รู้ว่ายามนี้องค์ชายต้องการต้นโสม ถึงกับนำมามอบให้เอง ถือเป็นการช่วยเหลือกันในยามยาก!”คำพูดของเหล่าขุนนางราวกระบี่คมกริบ เชือดเฉือนใจจ้าวเฟยเยี่ยนอย่างแรงนางไม่เคยนึกไม่เคยฝัน เจ้าฉู่หนิงกลับนึกถึงเหตุผลที่ไร้ยางอายขนาดนี้ได้นางปรามาสฉู่หนิงเกินไป!จ้าวเฟยเยี่ยนแววตาเย็นเยียบ ความทรงพลังทั่วร่างล่มสลายในวินาทีนี้ ไม่มีความกำเริบเสิบสานเหมือนตอนที่เพิ่งมาถึงจวนอ๋องทว่าขณะนั้น เจ้าฉู่หนิงกลัวหัวเราะ “ทำไมองค์หญิงเฟยเยี่ยนไม่พูดซะแล้วล่ะ? หรือไม่เห็นด้วยกับคำพูดของข้า?”จ้าวเฟยเยี่ยนจ้องมองฉู่หนิงครู่หนึ่ง “นึกไม่ถึงว่าองค์ชายจะพูดจาฉะฉานเช่นนี้ กลับเป็นเฟยเยี่ยนที่ไม่รอบคอบ ทว่า วันนี้เป็นวันมหามงคลขององค์ชาย เฟยเยี่ยนไม่ขอโดดเด่นเก

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 97

    ต้นโสมสามร้อยปีหนึ่งต้นทำให้ฉู่หนิงจมสู่ห้วงความคิดทว่าขณะนั้น นอกจวนอ๋องดันมีเสียงฝีเท้าม้าดังขึ้น ขุนนางมากมายต่างทยอยมาถึงแล้วพิธีกรที่เดิมทียืนอยู่หน้าประตูเตรียมเรียกขานสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย เข้ามากระซิบข้างกายฉู่หนิง “องค์ชาย ใกล้ถึงฤกษ์ดีแล้ว เหล่าขุนนางในราชสำนักมาแล้วขอรับ”ฉู่หนิงขมวดคิ้ว เงยหน้ามองไปที่ถนน พบว่ามีขุนนางมากมายบ้างก็ขี่ม้า บ้างก็นั่งเกี้ยวกำลังมุ่งหน้ามาทางจวนอ๋องหากยังมัวร่ำไรอยู่กับจ้าวเฟยเยี่ยน รอให้ทุกคนมาถึง กลับกลายเป็นที่ขบขันของทุกคนระหว่างครุ่นคิด มุมปากจ้าวเฟยเยี่ยนยกขึ้นเล็กน้อย จนเป็นองศาที่น่าตะลึงกลืนไม่เข้าคายไม่ออกละสิ?เหงื่อคงเต็มแผ่นหลังสินะ!ใครใช้ให้เจ้าเป็นอริกับข้า!วันนี้ ข้าจะทำให้เจ้าอับอายขายหน้าต่อหน้าธารกำนัลฮึ กล้าปฏิเสธองค์หญิงอย่างข้า ข้าจะให้เจ้าได้เห็นดีกัน!“แค่โสมต้นเดียวก็ทำให้จวิ้นอ๋องลำบากใจเพียงนี้เชียวหรือ?”จ้าวเฟยเยี่ยนขยับริมฝีปากแดงแผ่วเบา เหลือบมองร่างกายท่อนล่างของฉู่หนิง หัวเราะกล่าวว่า “หรือองค์ชายมีความลำบากที่ยากจะเอื้อยเอ่ย?”คำพูดประโยคหลัง นางเน้นย้ำเป็นพิเศษ!ฉู่หนิงเลิกคิ้ว “องค์หญิงเฟ

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 96

    กลับเป็นเสิ่นหว่านอิ๋งที่มองฉู่หนิงอย่างขอโทษ จากนั้นจึงคล้องแขนมารดาตัวเองเข้าไปพร้อมกันฉู่หนิงลูบจมูกตัวเอง แล้วหัวเราะเจื่อน กลับไม่ได้ซักไซ้อะไรให้มากความ อย่างไรวันนี้เป้าหมายของเขาคือของขวัญของเหล่าองค์ชายและขุนนาง ท่าทีที่เสิ่นฮูหยินมีต่อเขาไม่ใช่เรื่องสำคัญ“ดูแลเสิ่นฮูหยินกับท่านหญิงให้ดี ข้าจะไปต้อนรับทุกคนที่หน้าประตูด้วยตนเอง!”ฉู่หนิงสั่งการเสร็จสรรพ จึงได้พากวนอวิ๋นและจ้าวอวี่สองคนเดินไปต้อนรับหน้าประตูจวนภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งก้านธูป แขกที่มาร่วมงานคนแรกปรากฏตัวแล้วคนผู้นั้นอยู่ในชุดทะมัดทะแมงสีน้ำเงิน ผมยาวถักเปียเป็นเส้นเล็กมากมาย ปล่อยสยายอยู่บนบ่าและแผ่นหลังดวงตาสดใสมีชีวิตชีวาคู่นั้น เข้าคู่กับใบหน้าที่มีรอยยิ้มจาง ๆ หากไม่ใช่จ้าวเฟยเยี่ยนองค์หญิงสิบแห่งต้าจ้าวจะเป็นใครได้อีก!ฉู่หนิงอึ้งไปชั่วขณะ นึกไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะมาถึงเป็นคนแรกส่วนกวนอวิ๋นกับจ้าวอวี่สีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย เคลื่อนฝีเท้าไปข้างกายฉู่หนิง หากอีกฝ่ายกล้าก่อเรื่อง พวกเขาไม่ปล่อยไปง่ายๆ แน่!”“ขอแสดงความยินดีกับเผิงไหลจวิ้นอ๋องที่หมั้นหมายในวันนี้ ข้ามาด้วยตัวเอง ไม่ใช่ว่าจวิ้นอ๋องคงไม่อย

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 95

    “อะไรนะ ฉู่หนิงเอาเรื่องที่เรากับฮองเฮาจะไปร่วมงานหมั้นของเขาไปเผยแพร่หรือ?”คืนนั้น ภายในตำหนักอิงอู่ของวังหลวงเสียงประหลาดใจของฮ่องเต้ดังขึ้นมาองครักษ์เงาภายในตำหนักเอ่ยด้วยความเคารพว่า “เรื่องนี้แพร่กระจายในเมืองแล้วพ่ะย่ะค่ะ องค์ชายทั้งหมดกับขุนนางใหญ่ได้ยินข่าวนี้ก็กำลังเปลี่ยนของขวัญที่เตรียมไว้แต่เดิมกันแล้วพ่ะย่ะค่ะ” ฮ่องเต้ตาเป็นประกายขึ้นมา ทำหน้าเข้าใจทันทีที่แท้ฉู่หนิงทำเพื่อของขวัญแสดงความยินดีที่คนเหล่านี้มอบให้ถึงแม้ว่าเดิมทีอยากเก็บเรื่องเข้าร่วมงานนี้ไว้อย่างเงียบ ๆ ข่มขวัญพวกคนที่อยากจะก่อความวุ่นวายในงานหมั้นเพื่อหนุนหลังฉู่หนิง แต่ในเมื่อฉู่หนิงอยากให้เอิกเกริก เช่นนั้นก็เอาให้เอิกเกริกไปเลยถึงอย่างไรของขวัญแสดงความยินดีที่ฉู่หนิงได้รับพวกนั้นก็ไม่อาจเก็บไว้ได้อยู่ดี ถูกนำไปใช้ในแนวหน้ามากกว่าครึ่งว่าไปแล้วนี่ก็เป็นเรื่องดีสำหรับต้าฉู่เหมือนกัน“ในเมื่อเรื่องแพร่ไปแล้ว เช่นนั้นก็ไม่จำเป็นต้องปิดบังแล้ว จ้าวหมิง เจ้าให้กรมวังไปเตรียมราชรถสำหรับอีกสองวันข้างหน้า” “กระหม่อมน้อมรับคำสั่งพ่ะย่ะค่ะ!” จ้าวหมิงรับคำแล้วไปเตรียมการทันทีต่อมา ฮ่องเต้ก็เผยส

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status