หน้าหลัก / แฟนตาซี / ศึกเทพชิงพิภพ / ตอนที่2 ศึกแห่งเอลฟ์

แชร์

ตอนที่2 ศึกแห่งเอลฟ์

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-07 23:18:46

เสียงกลองศึกและเสียงอาวุธกระทบกันดังไปทั่วบริเวณ นี่คือสงครามของเอลฟ์ ทั้งสามเผ่า รานุน  รูมิแย่ ฟอร์แคร์ดำเนินกันมาช้านาน แม้เอาจริง ๆ เอลฟ์ทั้งสามเผ่าก็มาจากรากเหง้าเดียวกัน เคยก่อร่วมสงครามชิงดินแดนกับพวกออร์คและโดวาฟมาแล้ว แต่หลังเสร็จศึกใหญ่ครั้งนั้น พวกเอลฟ์ก็หันมารบกันเอง ศึกนี้เป็นของเอลฟ์รานุนกับเอลฟ์ฟอร์แคร์

            เอลฟ์รานุนคือ กลุ่มเอลฟ์ที่มีเชี่ยวชาญการใช้ศาสตร์มืด มนตร์ดำ การอัญเชิญภูต เสกโครงกระดูก และโกเล็ม ยังชำนาญในการสร้างอาวุธที่มีคำสาปหรือพลังเวทย์อาบเอาไว้ด้วย นอกจากหูที่แหลม ลักษณะเด่นของเอลฟ์พวกนี้ ผิวซีดเหมือนศพ ตาเหมือนแมว ผมสีขาว พวกเขามีดินแดนเป็นอาณาจักรใหญ่ ที่พวกเขาตั้งชื่อดินแดนว่า ยออาน ตามชื่อของเอลฟ์รานุนตนแรกที่ไปฝึกวิชากับเทพีดานูและได้สำเร็จวิชาสายมืด

ส่วนพวกเอลฟ์ฟอร์แคร์ คือเอลฟ์ที่อยู่ในป่าและชอบอยู่กับธรรมชาติ เชี่ยวการยิงธนู และการใช้สลิง[1] เวทย์สายธรรมชาติ และการสื่อสารกับสัตว์ป่า พวกนี้จะมีผมสีดำ ผิวจะค่อนข้างคล้ำ และนิยมใช้สีทาตัวทาหน้า พวกเขาไม่ได้รวมกันเป็นอาณาจักรใหญ่เหมือนกับเอลฟ์รานุน แต่มักจะอยู่กระจายกันเป็นชนเผ่ามากกว่าและตั้งชื่อเผ่าเป็นสัตว์ อย่างเผ่านี้เรียกตัวเองว่า อัว (ห่าน ในภาษาเอลฟ์[2])

แม้ว่าอาวุธของพวกเอลฟ์รานุนจะดีกว่า แต่พวกเอลฟ์ฟอร์แคร์ชำนาญพื้นที่มากกว่า เลยทำให้การต่อสู้ยืดเยือนมาเป็นเวลาถึงหนึ่งเดือนและแทบจะเดาผลการต่อสู้ไม่ได้เลย แถมพวกสัตว์ป่ายังมาช่วยรบ จนทำให้ผู้นำทัพของเอลฟ์รานุนทั้งสองเริ่มที่จะเครียด ผู้นำทัพของเหล่าเอารานุนนั้น เป็นฝาแฝด นามว่า ดาเมียง และดิดิเย่ร์ ทั้งสองมีหน้าตาเหมือนกันราวกับคนเดียวกัน มีผิวซีด ผมยาวสีขาว ตาเหมือนแมวสีเหลืองอำพัน ดาเมียงสวมเกราะสีดำ มีลายเหมือนกันเส้นเลือดที่ขึ้นตามผิวหนัง ถือดาบยาวในมือ ขี่ม้าสีดำ เขาเป็นนักดาบมือหนึ่งของพวกเอลฟ์รานุน ส่วนดิดิเย่ร์สวมเกราะเบาถักจากโซ่สีเงินและสวมเสื้อคลุมสีดำปักกลายพระจันทร์เสี้ยว นั่งอยู่บนรถศึกที่เทียมด้วยม้าโครงกระดูก ! ถือไม้เท้ายอดเป็นรูปหัวกะโหลก

“ไอ้พวกกรีสฮาร์ทเนี่ย มันน่ารำคาญชะมัดเลยนะ กำจัดเท่าไหร่ก็ไม่หมด” ดาเมียงบ่น กรีทฮาร์ทเป็นคำเหยียดที่พวกเขาใช้เรียกพวกเอลฟ์รานุน เพราะว่าพวกเขามองว่าเอลฟ์ รานุนทำตัวไม่สมกับเอลฟ์เลยสักนิด ตรงข้ามเขามองพวกนี้เหมือนพวกออร์คในร่างเอลฟ์ซะมากกว่า จึงบอกว่าพวกนี้มีหัวใจสีเขียวเหมือนสีผิวของออร์ค

“นั่นสินะ ยิ่งไอ้เผ่านี้ ยิ่งแล้วใหญ่เลยว่ะ ตั้งชื่อเผ่าตัวเองได้ทุเรศมาก ห่านเนี่ยนะ”ดิดิเย่ร์พูดอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์นัก

“แต่ก็ถึงเวลาต้องจัดการให้สิ้นซากสักที” ดาเมียงพูดจบก็ควบม้าไปและเหวี่ยงดาบ เพลงดาบของเขาร้ายกาจมากขนาดที่เรียกได้ ทุกคมดาบที่ฟาดไปนั้นต้องสังหารพวกเอลฟ์ฟอร์แคร์ได้ตนหนึ่ง ดิดิเย่ร์ร่ายมนตร์ศพทุกศพที่อยู่ใกล้ ๆ ตัวระเบิดออกกลายเป็นทหารโครงกระดูก โดยพวกมันจะใช้อาวุธแบบเดียวกับที่ใช้ตอนมีชีวิต และยังมีพอจะต่อสู้แบบพื้นฐานได้ ขณะที่การต่อสู้ดำเนินไปนั้น

“ช้างงาจอบ” เสียงทหารของดาเมียงดังขึ้นมา พร้อมเสียงช้างร้อง ! ทัพช้างงาจอบของเหล่าเอลฟ์ฟอร์แคร์กำลังเคลื่อนพลมา มันเป็นช้างรูปร่างใหญ่โตปานขุนเขา มีงาแหลมอยู่ใต้คาง พวกมันมีควาญช้างคอยบังคับ แบกป้อมที่มีพลธนูอยู่เต็มไปหมด ทำให้มันเหมือนป้อมธนูเคลื่อนที่ ทหารฝ่ายรานุนเสียชีวิตไปหลายตน ดาเมียงเผชิญหน้ากับเหล่าช้างงาจอบ และกำลังจะถูกฟาดงวงใส่ แต่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดรูปร่างใหญ่โตปรากฎตัวขึ้นมาช่วยเขาเอาไว้ มันร่างกายเป็นหินและดิน ที่หัวมีเพียงดวงตาสีแดงคู่หนึ่ง มันคือ โกเล็ม เป็นสิ่งมีชีวิตที่เกิดจากเวทย์มนตร์

“ขอบใจมากดิดีเย่ร์”

“ข้าไม่ได้เสกมันขึ้นมา” ดิดีเย่ร์ตอบ ดาเมียงเปลี่ยนสีหน้าทันที

“ไอ้ดิสมัส มันยุ่งไม่เข้าเรื่องอีกแล้ว”

            มีนกแสกตัวหนึ่งบินเข้ามาในสนามรบ มันเป็นนกแสกสีน้ำตาล ที่แปลกคือมันสวมเกราะสีเงิน และมีกงเล็บเป็นโลหะ ! เข้าไปโจมตีควาญช้าง เลือดไหลอาบหน้าและพลาดตกจากช้างของตน เมื่อไม่มีควาญมันก็อาละวาดหนัก เจ้านกแสกขยายตัวใหญ่ตัวของพอ ๆ กับหมาป่าตัวหนึ่งเลย

มีเอลฟ์ตนหนึ่งกระโดดมาเกาะที่กงเล็บของมันและพาร่างของเขาบินขึ้นฟ้าไป เขาเป็นเอลฟ์รูปร่างสูงโย่ง ผิวขาวชีด ผมขาวสั้นยุ่ง หูแหลมเชิด ตาเหมือนแมวสีม่วง ! เขาสวมชุดเกราะสีดำขาว มีรูปร่างเหมือนกับโครงกระดูก ที่เอวมีดาบสะพายอยู่คือ ดิสมัส เอลฟ์ผู้เป็นแบล็กพาลาดิน คือ สามารถใช้ได้ทั้งเชิงดาบและทักษะของหมอผี ซึ่งน้อยคนจะทำได้ ! เจ้านกแสกพาเขาไปปล่อยลงที่หลังของช้างคลั่ง พลธนูกำลังจะฆ่าเขา แต่ดิสมัสร่ายคำสาปทำให้เหล่าพลธนูสับสนจนถึงกับฆ่ากันเอง ดิสมัสเอาดาบออกมา ดาบของเขามีรูปร่างเหมือนพระจันทร์เสี้ยว มีลูกตาตรงโกร่งดาบ เขาแทงไปหัวของช้างตรงตำแหน่งก้านสมองพอดี ทำให้เจ้าช้างตายและกำลังจะล้มแต่ ดิสมัสร่ายมนตร์ ร่างของช้างระเบิดออก กลายเป็นโครงกระดูกช้าง ขนาดยักษ์เข้าโจมตีข้าศึก  ดิดิเย่ร์เห็นแล้วก็กัดฟันกร่อยแล้วพูดว่า

“ไม่อยากยอมรับเลยโวย ! หาทางล้มช้างนั่นและสร้างโครงกระดูกช้างยักษ์ มาเป็นกำลังให้พวกเรา ทำตามมัน” พวกเอลฟ์รานุนใช้วิธีการไปฟันช้างเข้าที่ขาทำให้มันล้มลงและรีบกระหน่ำแทงจนกระทั่งมันตาย และสร้างโครงกระดูกช้างยักษ์มาร่วมกองทัพทำให้เริ่มได้เปรียบแล้ว แต่แล้วก็มีหินลอยมาโดนหัวของทหารเอลฟ์ตายไปหลายนาย

“ไอ้พวกกรีนฮาร์ทใช้อาวุธเถื่อนเลยเหรอ !” ดิดิเย่ร์พูดขึ้นมาด้วยความโกรธ

[1] อาวุธสมัยโบราณ ทำจากเชือกและหนัง ใช้การเหวี่ยงลูกหิน แม้จะรูปร่างดูบ้าน ๆ ก็ตามแต่ว่า อานุภาพร้ายแรงพอสมควร

[2] ถ้าเทียบกับภาษามนุษย์นั้น พวกเอลฟ์จะพูดฝรั่งเศส

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ศึกเทพชิงพิภพ    ตอนที่45 พวกข้าเอาอยู่น่า

    “พวกข้าเอาอยู่น่า ไม่ต้องฟังความเห็นจากพวกหูยื่นหรอก” ดิสมัสกำลังจะเถียง แต่มีเสียงกลองศึกดังขึ้นมาเป็นสัญญาณว่า ข้าศึกบุกแล้ว ทุกคนเตรียมพร้อม โดยคราวนี้พวกออร์คเคลื่นพลมาโดยการนำของมัวและกองทัพเอลฟ์รานุนของมันด้วย ดิสมัสเห็นกองทัพตรงหน้าแล้วอดที่จะหดหู่ในใจไม่ได้เลยจริง ๆ เพราะอย่างไรเสียพวกเขาเหล่านี้นั้นเคยร่วมรบกับดิสมัสมาเหมือนกัน ทำให้แทบไม่อยากจะไปต่อสู้เลย แต่กระนั้นการต่อสู้กลายเป็นหน้าที่ไปแล้ว ซึ่งการทำตามหน้าที่เป็นหลักที่พวกเอลฟ์รานุนยึดถือ ดิสมัสเลยอยากหาทางออก “ขอผ้าขาวหน่อยได้มั้ย” ดิสมัสพูด “จะเอามาซากอะไร พวกข้าไม่ยอมแพ้หรอกนะ” พันพูดด้วยความโกรธ “ข้าจะไปเจรจาก่อน พวกเจ้าใจเย็นไว้ก่อนนะ” ดิสมัสพูด “ว่าอะไรนะ” พันถาม ดิสมัสรีบเดินออกไปทันที คำพูนกับคำแพงตามไปด้วย “จะตามมาทำไมกัน” “เจ้าไปไส ข่อยไปหน่ำ” คำแพงพูด ดิสมัสถอนใจแล้วพูดว่า “อย่าลงมือเด็ดขาดถ้า ข้าไม่ได้สั่ง”ดิสมัสและสองพี่น้องเดินไป มัวเห็นทั้งสาม เขานึกแปลกใจทำไมมีเอลฟ์เดินตามออกมาด้วย ก็เลยส่งสัญญา

  • ศึกเทพชิงพิภพ    ตอนที่44 พูดยังไม่ทันขาดคำ

    “หูแตกหรือไงข้า บอกว่าพวกแกก็เหมือน ๆ กัน...” พูดยังไม่ทันขาดคำหมัดดิสมัสก็พุ่งมา พันไวพอยกฝ่ามือขึ้นรับหมัดเอาไว้ “คิดว่าจะเล่นงานข้าได้ง่าย ๆ เหรอ ไอ้หูยื่น” เขาออกหมัดสวนมา แต่ดิสมัสก้าวเท้าหลบได้อย่างหวุดหวิด “เซา ๆ มื้อนี่บ่แม่นมื้อที่สิมากัดกันเอง แล้วเจ้าถามเฮ็ดอีหยัง” พ่อใหญ่รีบห้าม “จะได้รู้ว่าเราต้องรับมือกับอะไร” ดิสมัสพูดจบก็เดินไปที่กองอาวุธที่พวกชาวบ้านเก็บมา เขาต้องประหลาดใจ มันเป็นอาวุธที่ถูกสร้างขึ้นแบบหยาบ ๆ แต่ถึงกระนั่นโลหะที่ใช้นั้น เป็นเหล็กกล้าอย่างดี การจะเอามาใช้ได้นั่นต้องรู้หลักการถลุงเหล็กด้วย แต่มีสิ่งหนึ่งทำให้เขาต้องประหลาดใจ โลหะที่ใช้นั้นมีร่ายมนตร์กำกับไว้ด้วย “ไอ้เอลฟ์ที่มากับพวกมัน หน้าตาเป็นไงแน่ ตอบได้มั้ย” ดิสมัสถาม “แยกไม่ออกโวย” พันยังคงพูดต่อไป จนกระทั้งพ่อใหญ่ต้องเป็นคนพูดแทน “มันก็ด่อนเหมือนเจ้าคัก ๆ”ดิสมัสขมวคคิ้ว เบต้าบินมาแล้วพูดว่า “ขออย่าให้ใช่เลยนะ”ดิสมัสหันไปถามพ่อใหญ่ว่า “พวกมันตั้งค่ายอยู่ที่ไหนรู้มั้ย” “อยู่ตรงเหมืองเหล็ก

  • ศึกเทพชิงพิภพ    ตอนที่43 ไม่ฟังอะไรแล้ว

    “นำทางให้หมู่เฮาหน่อยได้บ่เบต้า”“แต่ดิสมัสพูดถูกนะพวกเจ้าจะไปตายเปล่า ๆ” เบต้ารีบถาม แต่สองพี่น้องไม่ฟังอะไรแล้ว รีบเดินไปทันที คำแพงหันมาพูดกับดิสมัสว่า“ข่อยบ่คิดเลย เจ้าจะเป็นคนใจฮายขนาดนี้”ดิสมัสแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน เบต้าเลยถามเขาว่า “จะปล่อยให้พวกเขาไปจริง ๆ เหรออย่างน้อย ๆ เจ้ากับพวกเขาก็เคยร่วมเป็นร่วมตายกันมานะ” “ข้าบอกไปแล้ว ข้าไม่รอพวกเขา ต่อให้พวกเขาหายข้าก็ไม่ตาม แต่ว่า” ดิสมัสลุกขึ้นมาแล้วพูด “แต่พวกนั้นก็ดันเดินไปทางที่ข้าคิดจะไปพอดี” คำพูนกับคำแพงตามรอยไป เห็นพวกออร์คกำลังพักผ่อนอยู่พอดี พวกมันทุกตัวล้วนมีร่างกายที่ใหญ่โต ผิวเป็นสีเขียว แม้จะเคยเห็นพวกมันมาแล้วก็ตามที แต่คำพูนกับคำแพงก็ยังรู้สึกขนลุก มนุษย์ถูกจับขังในกรงสภาพเหมือนกับสัตว์ที่ถูกเอาไปฆ่า ทุกคนรู้สึกหวาดกลัวเพราะไม่รู้พวกมันจะทำอะไรกับตนบ้าง คำแพงกำลังจะเหวี่ยงหินใส่แต่ คำพูนห้ามเอาไว้ก่อน “คิดสิเฮ็ดอีหยัง บ่เห็นเหรอ มันมีเป็นฝูงเหมือนกับที่อ้ายมัสพูดเลย” “แล้วสิเบ่งซื่อ ๆ บ่ ข่อยเฮ็ดบ่ได้ดอก”ยังไม่ทันทีทั้งสองจะพูดอะไรอีก ก็ม

  • ศึกเทพชิงพิภพ    ตอนที่42 เจ้ามาจากโลกอื่นเหมือนกันเหรอ

    “จ้องข้าแบบนี้มีอะไรหรือเปล่า” อลิซซ่าถามอย่างไม่ค่อยพอใจนัก“ข้าไม่เคยเห็นเผ่าพันธุ์อย่างเจ้ามาก่อนก็แค่นั้นล่ะ” อิบารากิโดจิตัดบท“ข้าก็ไม่เห็นเผ่าแบบพวกเจ้าเหมือนกัน อย่างเจ้า ต้องเรียกว่าอะไร”“ข้าเป็นอสูร แต่ไม่ใช่อสูรของที่นี่” อิบารากิโดจิตอบหน้าตาเฉย อลิซซ่ารีบถามว่า“เจ้ามาจากโลกอื่นเหมือนกันเหรอ”“มั้ง แต่ไม่ใช่โลกเดียวกับเจ้าแน่ ๆ”“ทุกคนเงียบก่อน มีบางอย่างกำลังมา” ลายรีบบอกให้ทุกคนเงียบไป แล้วก็มีเสียงหมาล่าเนื้อดังขึ้นมาอีก อลิซซ่ากำอาวุธในมือแน่น อิบารากิโดจิกับลายเตรียมพร้อมต่อสู้ คราวนี้เป็นกองกำลังโดวาฟ ที่พร้อมกับเอลฟ์ที่บังคับหมาล่าเนื้อ ฟีเฟ่ไม่ได้นำกำลังมา และโดวาฟทุกตัวแบกกล่องไม้ใบใหญ่มาด้วย พื้นดินสั่นสะเทือน ยานพาหนะรูปร่างเหมือนจานขนาดยักษ์มีหลังคาเป็นทรงกรวยกำลังเคลื่อนที่มาอย่างช้า ๆ อลิซซ่าตะลึง “ระวังนั่นเป็นสิ่งประดิษฐ์ของพวกโดวาฟ อาจมีลูกเล่นอะไรก็ได้” “วันนีเป็นวันตายของพวกแกแล้ว” เสียงของแอลันดังออกจากยานพาหนะ มันแค้นมาที่อิบารากิโดจินทำมันตาบอดไปข้างหนึ่ง พวกโดวาฟด้านนอกสับคันโยกที่กล่องประหลาดที่แบกมาด้วย มีลูกธน

  • ศึกเทพชิงพิภพ    ตอนที่41 เจ้าเป็นใคร

    ทั้งสองพาอลิซซ่าไปที่กระท่อมแห่งหนึ่ง มันเป็นกระท่อมที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างง่าย ๆ ข้างในไม่มีอะไรเลย “เอาล่ะข้อแรก เจ้าเป็นใคร” อิบรากิโดจิถาม อลิซซ่าเลยเล่าเรื่องราวให้ฟัง อิบารากิโดจิฟังจบก็ถอนใจ “เจ้าศุภมิตร จะให้ข้าไปยุ่งกับพวกเชื้อพระวงศ์ตกอับอีกแล้วเหรอ ไม่เอาโวย” อิบารากิโดจิพูดอย่างหัวเสีย แต่เมื่อเขาหันมามองลาย น้ำตาของลายก็ไหลออกมาด้วย ความสงสาร และพูดว่า “น่าสงสารนาง เราช่วยนางดีกว่านะ อิบารากิ” “คราวที่แล้ว ที่ข้าช่วยพวกเชื้อพระวงศ์ ตกอับไป ข้าเสียแขนไปข้างหนึ่ง” อิบารากิโดจินพูดหน้าตาเฉย “แต่เจ้าก็ได้ข้ามาอยู่ด้วยกันไง” ลายพูด อิบารากิโดจิทำหน้าไม่ถูก ลายเหมือนจะคิดบางอย่างออก “กลัวจะเสียข้าไปแบบนี้ที่เจ้าเสียชูเท็นไปเหรอ ไม่มีทางหรอก บอกแล้วไงข้าจะอยู่ข้าง ๆ เจ้าเสมอ”ลายพูด และจับมือของอิบารากิโดจิเอาไว้ อลิซซ่าพอจะเข้าใจแล้วสองคนนี้ต้องเป็นคู่รักกันแน่ ๆ เลยพูดว่า “ถ้าไม่อยากช่วยข้าก็ไม่เป็นไร ข้าเดินทางคนเดียวก็ได้” “แล้วเจ้าจะไปไหน บ้านก็ไม่มีให้กลับแล้วนี่” ลายถาม

  • ศึกเทพชิงพิภพ    ตอนที่40 เข้ามาในหมู่บ้านนี้พอดี

    ขณะที่กำลังกินอาหารนั้น นางเห็นพวกออร์คกับโดวาฟ นำโดยฟีเฟ่ เข้ามาในหมู่บ้านนี้พอดี นางรีบหลบซ่อนตัวพวกฟีเฟ่มากินเหล้ากันที่ร้านเหล้าแห่งหนึ่ง มันดูหงุดหงิด เพราะมันหาตัวอลิซไม่ได้ เลยถูก เพาเดอร์สั่งให้พาพวกออร์คมาด้วย แม้ฟีเฟ่ยอมเป็นพวกกับพวกไวกิ้งแล้ว แต่มีอย่างหนึ่งที่อยู่ในสันดานของพวกเอลฟ์รูมิแย่ก็คือพวกนี้จะไม่ชอบออร์คเลย เพราะพวกนี้ถือเรื่องความงดงาม และสำหรับมันแล้วออร์คเป็นสิ่งที่น่าเกียจที่สุดแล้ว การเดินทางมากับ ออร์คจึงเป็นเรื่องที่พวกเอลฟ์รูมิแย่ไม่ชอบเอามาก ๆ ยิ่งเวลาพวก ออร์คกินอาหารนี่แทบไม่ต่างอะไรกับหมูเลย ส่วนโดวาฟนั้น ยังพอจะคบหาได้บ้างแต่ไม่สนิทใจเท่าไหร่เพราะว่าโดวาฟนั้น เป็นพันธมิตรสำคัญของพวกเอลฟ์รานุน แต่กระนั้นพวกนี้ก็มีการติดต่อการค้ากัน สำหรับ เอลฟ์รูมิแย่ ความรู้สึกที่มีต่อโดวาฟคือ ไม่ได้รังเกียจแต่ก็ไม่ได้ไว้ใจมาก อลิซซ่าแม้ว่าตอนนี้เธอคิดอยากจะจัดการฟีเฟ่แค่ไหนก็ตามแต่ว่า เธอเสี่ยงไม่ได้ จึงกำลังจะคิดหนีแต่บังเอิญว่า เด็กในร้านคนหนึ่ง ดันไปน้ำหกใส่กางเกงของฟีเฟ่เขา มันที่กำลังหงุดหงิดเลยตบเด็กรับใช้หน้าหัน“ทำงานประสาอะไรวะ !” ฟีเฟ่พูด คนในร

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status