แชร์

บทที่ 838

ผู้เขียน: จิ้งซิง
“ดี! แค่กๆๆ ...”

เหล่าลูกหลานสกุลฟ่านพลันส่งเสียงฮือฮา แต่ทันทีที่ส่งเสียงออกมาก็พลันนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ จึงเหลือบมองไปทางเป่ยเฉินหยวนอย่างระแวดระวัง แล้วรีบหุบปากลง

“ธิดาศักดิ์สิทธิ์ ยังจะต่ออีกหรือไม่?”

ฟ่านหลิงชางเอ่ยถามเวินซื่อด้วยความภาคภูมิใจอย่างยิ่ง

“ต่อ”

สีหน้าของเวินซื่อไม่เปลี่ยนแปลง

ฟ่านหลิงชางเลิกคิ้ว “ดี เช่นนั้นก็ย้ายไปอีกสิบจั้ง”

หลังจากย้ายเป้าเสร็จ ฟ่านหลิงชางก็แสร้งถ่อมตนอีกครั้ง “เชิญธิดาศักดิ์สิทธิ์ก่อน”

เวินซื่อเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง ในตอนนี้เห็นได้ชัดว่านางรู้แล้วว่าเขาคิดจะทำอะไร

แต่เวินซื่อก็ไม่ได้ปฏิเสธ

นางพยักหน้า แล้วยิงลูกศรออกไปอีกครั้ง เข้ากลางเป้าพอดี

ฟ่านหลิงชางยิงตาม และยิงผ่าลูกศรของเวินซื่อออกเป็นสองซีกอีกครั้ง

ฟ่านหลิงชางรู้สึกได้ใจอีกครั้ง “ธิดาศักดิ์สิทธิ์ เป็นเช่นนี้แล้วยังจะต่ออีกหรือไม่?”

“ต่อ”

“ดี เช่นนั้นย้ายไปอีกสิบจั้ง”

เวินซื่อยิงออกไป เข้ากลางเป้าเป็นครั้งที่สาม

ฟ่านหลิงชางยิงออกไป ยิงทะลุลูกศรของนางเป็นครั้งที่สาม

“ธิดาศักดิ์สิทธิ์...”

“ต่อ”

คราวนี้ ไม่รอให้ฟ่านหลิงชางได้ภาคภูมิใจจนจบ และไม่รอให้เขาพูดจนจบประโยค เวินซ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 874

    ความเศร้าโศกของม่อโฉวซือไท่ เวินซื่อนั้นไม่รู้เลยนางเพียงแค่บอกเรื่องนี้กับม่อโฉวซือไท่อย่างบริสุทธิ์ใจเท่านั้นไม่ใช่ อาจจะไม่บริสุทธิ์ใจขนาดนั้นก็ได้เพราะนางรู้มาตลอดว่า สาเหตุที่ม่อโฉวซือไท่ดีกับนางก็เพราะแม่ของนาง เพราะนางเป็นลูกของหลานจื่อจวินแต่ลูกของหลานจื่อจวินไม่ได้มีแค่นางเท่านั้น แต่ยังมีพี่ใหญ่ พี่รอง พี่สาม และพี่สี่ในอดีตของนางด้วยและระหว่างนางกับคนทั้งสี่นี้ มีความแค้นฝังลึกอยู่แล้ว มิตรภาพในอดีตก็เลือนหายไปหมด เหลือเพียงหัวใจที่เต็มไปด้วยความบาดหมางและเคียดแค้นดังนั้นนางจึงต้องการให้ม่อโฉวซือไท่ตระหนักถึงสิ่งเหล่านี้อย่างชัดเจน เพื่อที่อาจารย์ของนางจะไม่กลายเป็นอุปสรรคต่อการแก้แค้นของนางในวันข้างหน้าวิธีการเช่นนี้เฉยชาเกินไปแต่เวินซื่อก็ไม่เสียใจเพราะคนที่นางต้องการฆ่า ไม่ได้มีเวินอวี้จือเพียงคนเดียวหลังจากให้ม่อโฉวซือไท่เตรียมใจแล้ว เวินซื่อก็ไม่พูดถึงเวินอวี้จืออีก แต่ขยายหัวข้อสนทนาไปเรื่องอื่น“อ้อ อาจารย์รู้ไหมว่าคนที่ลงมือแทนข้าในครั้งนี้คือใคร?”เวินซื่ออมยิ้มมุมปาก นั่งตัวตรงบนเก้าอี้เอ่ยถามม่อโฉวซือไท่“ไม่ใช่จู๋เยวี่ยหรือ?”ม่อโฉวซือไท่เ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 873

    ผลปรากฏว่ารอยยิ้มของม่อโฉวซือไท่ยิ่งเยือกเย็นลงไปอีก “บางครั้งดูภายนอกก็ไม่มีอันตราย แต่ที่อันตรายที่สุดคือคนกันเอง โดยเฉพาะผู้ชาย!”เวินซื่อ “...”นางยังสามารถพูดอะไรได้อีก?ไม่เป็นไร ยอมโดนดุด่าแต่โดยดีจะดีกว่าขณะที่กำลังคิดเรื่องนี้ วินาทีต่อมาม่อโฉวซือไท่ก็กดนางให้นั่งลง “เอาล่ะ ไม่คุยกับเจ้าแล้ว”ม่อโฉวซือไท่ถอนหายใจ มองเด็กน้อยคล้ายสหายเก่าที่อยู่ตรงหน้า นางเอ่ยด้วยความยินดีเคล้าโศกเศร้า “นังหนูนี่ ตั้งแต่แรกที่ขึ้นภูเขามาข้าก็มองออกแล้วว่าเจ้ามีความคิดบางอย่าง มีหัวใจที่ทุ่มสุดตัว ดังนั้นข้าจึงเป็นห่วงเจ้าอยู่เสมอ”ที่จริงแล้วภัยอันตรายทั่วไปนางเชื่อว่าเวินซื่อสามารถรับมือได้ด้วยตัวเอง แต่หากเผชิญกับสถานการณ์ที่จนตรอกจริง ๆ สิ่งที่ม่อโฉวซือไท่เป็นกังวลก็คือเวินซื่อจะยอมเลือดเข้าตา ให้ตายก็ไม่ยอมก้มหัวให้ใครในสายตาของม่อโฉวซือไท่ มองเห็นเวินซื่อเหมือนเชือกที่ถูกขึงไว้แน่นแต่ไหนแต่ไร นางไม่เคยปล่อยให้ตัวเองผ่อนคลายแม้แต่น้อยแต่เชือกถูกขึงไว้อยู่ตลอดเวลา เมื่อเวลาผ่านไปนาน ภายใต้สายลมและแสงแดด มันจะไม่ขาดไม่แยกกันตลอดไปได้อย่างไร?ดังนั้นม่อโฉวซือไท่จึงรู้สึกกลัวนางกล

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 872

    เวินซื่อในเวลานี้ยังไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาจะพบเจอในวันพรุ่งนี้ ไม่ใช่แค่ฮ่องเต้และหลินเนี่ยนฉือเท่านั้นยังมีอีกคนหนึ่งก็รอนางอยู่ด้วยหลังจากกลับมาที่อารามสุ่ยเยว่ เวินซื่อก็ถูกรายล้อมไปด้วยอาจารย์อาและศิษย์พี่หญิงที่คอยปลอบขวัญนางด้วยความห่วงใย“กลับมาก็ดีแล้ว หลายวันมานี้อาจารย์คิดถึงเจ้าอยู่ตลอด พาพวกเราไปทำพิธีสวดมนต์อยู่หลายรอบ เพื่อชาวชางโจวและเพื่อเจ้าด้วย”ศิษย์พี่หญิงอู๋ขู่เอนตัวเข้าไปใกล้หูของนางแล้วกระซิบว่า “ตอนนี้อาจารย์อาจจะยังคัดลอกพระสูตรให้เจ้าอยู่ รีบไปพบนางเถอะ”เวินซื่อยิ้มออกมาทันใด แล้วหันหลังรีบจ้ำพรวด ๆ ไปหาอาจารย์ม่อโฉว“อาจารย์ อาจารย์!”ทันทีที่มาถึงด้านนอกเรือนของม่อโฉวซือไท่ เวินซื่อก็ตะโกนเรียกสองครั้งอย่างอดใจรอไม่ไหวเมื่อเดินมาถึงประตู เวินซื่อยังไม่ทันได้ยกมือผลักประตู ประตูนั้นก็เปิดจากทางด้านในแล้ว“อู๋โยว?!”ม่อโฉวซือไท่กำลังยืนอยู่ด้านหลังประตู มองดูนางด้วยสีหน้าเบิกบาน“อาจารย์ ศิษย์กลับมาแล้วเจ้าค่ะ”ใบหน้าของเวินซื่อแย้มยิ้มขึ้นมา แต่ดวงตาทั้งสองของม่อโฉวซือไท่กลับแดงก่ำในทันใด จนแทบหลั่งน้ำตา“นังหนูนี่ ที่ไหนอันตรายก็ไปที่นั่นจริง ๆ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 871

    หลังจากเต๋อกงกงและคนอื่น ๆ จากไปแล้ว เป่ยเฉินหยวนก็หันมามองเวินซื่อ “จะพักในเมืองหลวง หรือกลับไปที่อารามสุ่ยเยว่ก่อนดี?”ทางด้านจวนสกุลหลานได้เก็บกวาดเรียบร้อยแล้ว หากเวินซื่อรู้สึกเหนื่อยเกินไป ก็สามารถพักอยู่ที่นั่นสักคืนได้จริง ๆแต่สิ่งที่เวินซื่อไม่รู้ก็คือ ที่เป่ยเฉินหยวนพูดถึงนั้นไม่ใช่ฝั่งสกุลหลานจิตใจของใครบางคนกำลังกระสับกระส่าย คว้าโอกาสได้ก็อยากจะลองทดสอบดูน่าเสียดายที่จิตใจของเวินซื่อเป็นเสมือนท่อนไม้ ไม่เข้าใจความนัยที่ซ่อนอยู่ในคำพูดของเขาเลย เพียงส่ายศีรษะอย่างจริงจังพร้อมพูดว่า “ไม่ได้กลับไปนานแล้ว อาจารย์น่าจะเป็นห่วงมากมาโดยตลอด กลับไปที่อารามให้เร็วหน่อยดีกว่า อาจารย์กับพวกศิษย์พี่หญิงจะได้สบายใจ”“ตกลง ถ้าอย่างนั้นข้าจะให้คนส่งท่านกลับไป”ในใจลึก ๆ เป่ยเฉินหยวนยังอาลัยอาวรณ์ อยากอยู่กับนางอีกสักพัก แต่เขาก็ไม่ได้กลับไปนานแล้ว ทางฝั่งจวนอ๋องก็อาจมีเรื่องราวเกิดขึ้นไม่น้อยอย่าว่าแต่ตอนนี้เลย อีกไม่กี่วันข้างหน้าเขาก็จะมีงานยุ่ง ดังนั้นจึงทำได้เพียงมอบหมายให้คนอื่นไปส่งเวินซื่อเวินซื่อก็ไม่ได้สนใจเรื่องนี้แต่เวลานี้ คนที่สนใจได้มาแล้ว...“ช้าก่อน พี่หญิ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 870

    ตลอดเส้นทางนี้ เวินซื่อถูกฟ่านจุ้ยเจ้าคนพูดมากนี่รบกวนจนแทบจะทนไม่ไหวทุกครั้งที่นางไล่ให้เขาไปคุยกับคนอื่น เขาก็จะเบิกตากลมโตใสซื่อนั่นแล้วกล่าวว่า “แต่ข้ารู้จักแค่พี่หญิงคนเดียวนี่นา คนอื่นข้าก็ไม่รู้จัก ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนก็พอจะรู้จัก แต่ข้าไม่กล้านี่นา”เรื่องที่กลัวเป่ยเฉินหยวน ฟ่านจุ้ยพูดออกมาได้อย่างเต็มปากเต็มคำแต่เวินซื่อกลับยิ่งรำคาญมากขึ้นสุดท้ายนางจึงไล่เขาไปที่ขบวนรถนักโทษที่คุมตัวคนสกุลฟ่าน แล้วให้เขาไปหาฟ่านซิ่วซิ่วเอาเอง“เช่นนั้นข้าทำนางเป็นเหรินจื้อได้หรือไม่?”พอเด็กหนุ่มได้ยินว่าไปหาฟ่านซิ่วซิ่วได้ ดวงตาก็พลันเป็นประกายขึ้นมา“ไม่ได้ ถ้านางตายกลางทางเจ้ารับผิดชอบหรือ?”“เช่นนั้นข้าตัดแขนตัดขานางมาหั่นเป็นชิ้นๆ ไว้เล่นได้หรือไม่?”เวินซื่อ “?”“ย่อมไม่ได้ เจ้าตัดแขนตัดขานางจนหมด แล้วมันจะต่างอะไรกับการทำเหรินจื้อกัน?”“ย่อมแตกต่างกันสิ”ฟ่านจุ้ยแกล้งโง่พลางเอ่ยขึ้น “เหรินจื้อต้องยัดใส่ในไห แต่ถ้าแค่ตัดแขนตัดขาก็ไม่นับว่าเป็นเหรินจื้อแล้วนี่นา”เวินซื่อตวาดอย่างเกรี้ยวกราด “ไสหัวไป”“ได้เลยขอรับ!”สุดท้ายฟ่านจุ้ยก็ยังคงไปหาฟ่านซิ่วซิ่วอยู่ดีแ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 869

    แววตาของฟ่านจุ้ยสั่นไหวเล็กน้อย ก่อนจะถอนหายใจแล้วเอ่ยขึ้น “ก็ได้ เช่นนั้นดูเหมือนว่าคงต้องรอครั้งหน้าค่อยช่วงชิงคำชมจากพี่หญิงแล้ว”เวินซื่อไม่ได้สนใจคำพูดของเขา เพียงแต่กล่าวว่า “แม้เวลาที่ข้าจะอยู่ที่นี่ยังไม่แน่นอน แต่ในไม่ช้าก็จะออกเดินทางกลับเมืองหลวง หากเจ้ายังจะตามไปด้วย เช่นนั้นก็ไปเก็บข้าวของให้เรียบร้อย เตรียมพร้อมออกเดินทางได้ทุกเมื่อ”เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฟ่านจุ้ยก็เปลี่ยนเป็นท่าทีจริงจังขึ้นมาทันที “ได้ น้องต้องกลับไปเก็บข้าวของสักหน่อยจริงๆ”“จริงสิพี่หญิง ท่านกับท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนวางแผนจะจัดการกับฟ่านซิ่วซิ่วผู้นั้นอย่างไรหรือ?”ฟ่านจุ้ยถามขึ้นมาอย่างกะทันหันเวินซื่อหันหน้าไปมองเขา “เจ้าถามเรื่องนี้ทำไม?”ฟ่านจุ้ยกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “น้องกับฟ่านซิ่วซิ่วผู้นั้นมีความแค้นส่วนตัวกันเล็กน้อย อยากจะทำนางเป็นเหรินจื้อเล่นดูสักหน่อย ไม่ทราบว่าพี่หญิงพอจะ...”มุมปากของเวินซื่อกระตุก “เลิกคิดได้เลย นางจะต้องถูกคุมตัวกลับเมืองหลวงไปพร้อมกับคนของสกุลฟ่าน ถึงตอนนั้นจะถูกตัดศีรษะหรือถูกเฉือนทั้งเป็น ก็ไม่ถึงตาเจ้าหรอก”“เช่นนั้นก็ได้”ฟ่านจุ้ยจึงได้แต่หันหลังเดินจากไปอ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status