“ขออภัยคุณหนูหลี่ เป็นข้าเอง” เสียงทุ้มคุ้นหูของบุรุษที่นางปรารถนาจะอยู่ห่างให้มากที่สุดดังขึ้นที่ข้างหู
“อื้อ ๆ” เนื่องจากถูกมือใหญ่ปิดปากอยู่นางจึงได้แต่ส่งเสียงร้องอู้อี้ไม่เป็นภาษา
“หากไม่อยากตายไปด้วยกัน ก็จงเงียบเสียงเสีย มีคนร้ายกำลังตามเปิ่นหวางมา” สิ้นเสียงกระซิบที่ข้างหู ร่างบอบบางของสตรีก็ดิ้นเล็กน้อยพร้อมกับพยายามแกะมือที่พันธนาการเอวของนางออก
‘เจ้ามั่นใจหรือว่าเห็นมันเข้ามาหลบซ่อนตัวในจวนแห่งนี้’ เสียงนั้นทำให้หลี่เย่หรงชะงักไปก่อนที่ดวงตาจะเบิกกว้างเมื่อเขาดึงรั้งตัวนางลงใต้น้ำ
‘เช่นนั้นเราค้นที่เรือนนี้ก่อนหากไม่เจอค่อยไปค้นหาที่อื่น’
‘ขอรับ’ หลังจากนั้นนา
“มิเป็นไรเพคะ” หลี่เย่หรงกล่าวพลางเบือนหน้าหนีเพื่อซ่อนรอยยิ้มมุมปาก “เรื่องสตรีในตำหนักหลังพวกนั้น ข้าย่อมจัดการให้แล้วเสร็จและรื้อมันทิ้งก่อนจะแต่งพระชายาเข้าจวนแน่นอน” “ที่แท้เป็นเช่นนั้น” นางตอบรับอย่างสั้น ๆ “ยามนี้ตำแหน่งพระชายาของข้ายังว่าง หากเจ้าปรารถนาอยากมีบุตรชายหญิงที่รูปงาม สามารถสนทนากันได้” “หม่อมฉันมิกล้าอาจเอื้อมหรอกเพคะ” “อย่าเพิ่งปฏิเสธเลย ลองไตร่ตรองดูก่อนเถิด เอาล่ะข้าหายเหนื่อยบ้างแล้ว วันนี้รบกวนเจ้าเพียงเท่านี้” เพราะไม่อยากฟังคำปฏิเสธจากปากนางอีก เขาจึงรีบกล่าวแล้วลุกขึ้น “เช่นนั้
หลังจากสาวใช้ออกจากห้องไปแล้ว คุณหนูหลี่นั่งอ่านตำราต่ออีกสักเล็กน้อยก่อนจะลุกขึ้นถอดอาภรณ์ตัวนอกออกเหลือเพียงอาภรณ์ตัวใน แต่ในขณะที่กำลังจะดับไฟนั้น นางก็ได้ยินเสียงดังขึ้นที่ข้างหน้าต่าง ตุ๊บ! เสียงคล้ายของหนักตกลงพื้นทำให้นางใจเต้นเร็วเนื่องจากคิดว่าเสียงที่เกิดขึ้นอาจจะมาจากผู้บุกรุก นางรีบเอื้อมมือไปควานหายาพิษร่างระทวยมาถือเอาไว้ หากเป็นคนร้ายนางจะหาโอกาสสาดมันออกไปทันที “ท่านอ๋อง ไหวหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ” เสียงของม่อฉินคล้ายช่วยชีวิตผู้เป็นนายเอาไว้ “เจ้าล่วงหน้าไปก่อนเถิด ข้าขอพักชั่วครู่” “ระวังตัวด้วยพ่ะย่ะค่ะ” ม่อฉินกล่าวก่อนจะจากไปด้วยความคิดในใจที่ว่า ‘ท่านอ๋องช่างชอบเล่นงิ้วเสียจริง' หากไม่ใช่เพราะตนเห็นพระชายาถือขวดยาบางอย่างไว้ในมือ ยามนี้อ
คราแรกก็คิดว่าจะให้คนสรรเสริญด้วยการละเว้นสตรีตระกูลเฉวียนลดโทษเหลือเพียงเนรเทศ ในเมื่อพวกเขามีผู้อาวุโสของตระกูลที่มีเมตตาเช่นนี้ ข้าจะเปลี่ยนเป็นให้พวกนักโทษได้หาความสุขจากเรือนร่างของพวกนางก่อนสักปีสองปีแล้วค่อยประหารดีหรือไม่ พวกนางจะได้รู้สึกขอบคุณเจ้าที่ช่วยให้พวกนางได้ใช้ชีวิตต่ออีกสักเล็กน้อย” “อื้อ ๆ” อดีตสตรีสูงศักดิ์ดิ้นไปมา สายตาคล้ายกำลังต่อว่า “เจ้าไม่ต้องห่วงเรื่องนี้อาณาประชาราษฎร์ของข้าจะไม่ทราบเรื่องนี้หรอก ข้าจะประหารแค่พวกบ่าวรับใช้และสาวใช้ทั้งหมดรวมทั้งนางกำนัลและขันทีของตำหนักนี้ ส่วนการตายของไทเฮาแซ่เฉวียนผู้สูงศักดิ์เจิ้นจะประกาศไปว่าทรงตรอมตรมจึงปลิดชีพตามตระกูลของตนไป เป็นอย่างไรบ้างเจิ้นแต่งเรื่องได้น่าประทับใจหรือไม่” “อื้อ ๆ”
7 ชาตินี้คล้ายจะแตกต่างกว่าเดิม ในที่สุดจุดจบของคนที่ปรารถนาในสิ่งที่ไม่ใช่ของตนเองก็มาถึงตระกูลเฉวียนที่สั่งเตรียมกำลังพลหวังเข้ายึดบัลลังก์มังกร ตระกูลเฉวียนถูกชินอ๋องนำกำลังทหารเข้าจับกุมอัครเสนาบดีเฉวียนและบุตรชายทั้งหมด ส่วนคนที่เหลือถูกกักบริเวณห้ามออกจากจวนจนกว่าจะมีคำสั่งเพิ่มเติม 
‘น่าแปลกที่วันนี้เขาไม่โผล่หน้ามา’ ไม่ ๆ นี่นางกำลังคิดอันใดอยู่ ผู้สูงศักดิ์เช่นเขาไม่มาก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว นางกำลังคาดหวังอันใดอยู่ “ข้าจะนอนแล้ว เจ้าไปนอนเถิด ประเดี๋ยวข้าดับไฟเอง” “ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ บ่าวจะอยู่กับคุณหนู” “ว่านเถา เจ้าไปเถิด ข้าจะเข้านอนจริง ๆ แล้ว” นางกล่าวก่อนจะเดินไปที่เตียงแล้วปลดอาภรณ์ตัวนอกออก “ขออภัยเจ้าค่ะ บ่าวจะไปเดี๋ยวนี้” สุดท้ายแล้วว่านเถาก็ต้องยอมล่าถอยไปปล่อยคุณหนูได้อยู่ลำพังตามที่ต้องการ คล้อยหลังสาวใช้ไม่นานหลี่เย่หรงก็ดับไฟแล้วล้มตัวลงนอนก่อนจะเข้าสู่ห้วงนิทราอย่างรวดเร็ว&
"นอกจากนางแล้วกระหม่อมจะไม่แต่งกับผู้ใดพ่ะย่ะค่ะ” “ได้ ๆ ข้ารับปากเจ้า” มิแปลกใจเลยว่าเหตุใดน้องชายผู้นี้ถึงรีบส่งคนมายับยั้งฎีกาลาออกของหลี่จื่อห่าว เป็นถึงเชื้อพระวงศ์หากแต่งกับบุตรสาวพ่อค้าย่อมถูกเหล่าขุนนางมองถึงความเหมาะสม แม้จะไม่ได้สนใจแต่ทว่าก็ไม่อาจทำให้สตรีที่รักถูกตราหน้า ดังนั้นจึงยอมประนีประนอมเพื่อให้ว่าที่พ่อตายังอยู่ในตำแหน่งขุนนาง ดูแล้วน้องชายของพระองค์ผู้นี้คงหมายตาคุณหนูหลี่เอาไว้นานแล้ว “เมื่อจบเรื่องแล้วความดีความชอบที่กระหม่อมอยากขอนอกจากสมรสพระราชทานกับบุตรสาวของรองเจ้ากรมพิธีการหลี่แล้ว กระหม่อมอยากให้เสด็จพี่มอบราชโองการให้กระหม่อมสามารถแต่งกับสตรีได้เพียงคนเดียวชั่วชีวิต มิอาจรับชายารองหรืออนุฯ ได้อีก”