เข้าสู่ระบบ" เพื่อเป็นการตอบแทนน้ำใจของแม่นางทั้งสอง มื้อนี้นายของข้าจะเลี้ยงเองฮ่าฮ่า"
เซี่ยเทียนอวี่จ้องหน้าหยางซู่เหวินนัยตาดุดัน
" ท่านจะเลี้ยงจริงๆเหรอ"
เยว่ซินถาม เซี่ยเทียนอวี่หันไปมองหน้านางพยักหน้าเบาๆ
" เย้ ลูลู่งั้นเราสั่งอาหารเพิ่มกันเถอะ"
" เจ้าค่ะคุณหนู เสี่ยวเอ้อมานี่หน่อย"
เซี่ยเทียนอวี่หันควับไปมองหน้าเยว่ซิน ก่อนจะเบนสายตาไปมองอาหารบนโต๊ะ นี่พวกนางยังกินไม่อิ่มอีกรึ หยางซู่เหวินชวนสตรีแปลกหน้าทั้งสองคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้ กินไปคุยไปสนุกสนาน คำพูดคำจาราวรู้จักกันมานานแรมปี เซี่ยเทียนอวี่เพียงฟังทุกคนสนทนาเงียบๆ
" ท่านเป็นใบ้รึ"
เซี่ยเทียนอวี่ที่กำลังคีบเนื้อเข้าปากหยุดชะงัก หันมามองหน้าเยว่ซิน หยางซู่เหวินตอบแทน
" ไม่ใช่ เขาพูดได้ แค่ไม่ค่อยพูด คือเขาเป็นคนพูดน้อยหน่ะ "
" อิ่มกันรึยังจะได้จ่ายเงิน จะได้เดินทางต่อ"
เสียงพูดของเขาทำให้เยว่ซินที่กำลังคีบเนื้อเข้าปากหยุดชะงัก เสียงนี้มันคุ้นๆ นางจำได้ว่าเป็นเสียงของชายคนนั้นที่ช่วยชีวิตนางไว้ถึงสองครั้งด้วยกัน นางค่อยๆหันไปมองชายที่นั่งข้างๆ ถึงเห็นหน้าไม่ชัดแต่นางจำเสียงเขาได้ ต้องเป็นเขาแน่ๆ แต่ทำไมเขาถึงไม่ทักนาง ทั้งที่เขาเห็นหน้านางชัดเจนเขาต้องจำนางได้สิ แต่ทำไมถึงทำราวกับไม่เคยพบนางมาก่อน
" ท่าน นี่ใช่ของท่านไหม"
นางล้วงเอาป้ายหยกออกมาชูให้เขาดู เซี่ยเทียนอวี่จ้องมองก่อนจะคว้ามาดูใกล้ๆ
" อืมของข้าเอง"
เขาก็คิดว่าป้ายหยกของเขาหายไปไหนที่แท้ก็อยู่กับสตรีคนนี้นี่เอง เขาจำได้ว่าเคยช่วยนางไว้ถึงสองครั้ง ครั้งแรกจากม้าพยศคงเป็นครั้งนั้นที่นางหมดสติในอ้อมแขนของเขา เลยเกี่ยวเอาป้ายหยกติดนางไปด้วยครั้งที่สองเขาพบนางโดยบังเอิญก่อนเข้าเมือง เห็นว่ามีคนถูกพิษจึงเข้าไปช่วย โชคดีที่เขาพกยาถอนพิษติดตัวอยู่แล้ว หากไม่ใช่พิษร้ายแรงหายากก็จะสามารถถอนพิษได้หมด ทีแรกเขาไม่คิดว่าคนในรถม้าจะเป็นนาง เห็นหมอหลวงกับสาวใช้เรียกนางว่าองค์หญิง เขาถึงรู้ในตอนนั้นว่าสตรีที่เขาช่วยไว้คือองค์หญิง11
" คุณหนู หากเขาคือเจ้าของป้ายหยก งั้นเขาก็คือคนที่คุณหนูตามหามาตลอดสิเจ้าคะ"
" อืม เขาคือผู้มีพระคุณของข้า"
หยางซู่เหวินทำหน้างง ก่อนจะนึกขึ้นมาได้ว่าวันนั้นพวกเขากำลังจะเข้าเมืองไปพักที่โรงเตี๊ยม หลังจากกลับมาจากธุระกำลังจะเข้าเมือง เห็นรถม้าคันหนึ่งจอดอยู่ แต่ละคนดูท่าทางร้อนรน เข้าไปถามถึงรู้ว่ามีคนถูกพิษ เห็นว่าเป็นองค์หญิง ตอนนั้นเขาไม่เห็นหน้าว่าองค์หญิงที่อยู่ในรถม้าหน้าตาเป็นยังไง แต่เซี่ยเทียนอวี่ที่เข้าไปใกล้คงจะเห็น ทั้งยังให้ยาถอนพิษไปด้วย
" ท่าน ท่านคือผู้มีพระคุณของข้า ท่านช่วยชีวิตข้าไว้สองครั้ง แต่ข้ายังไม่มีโอกาสได้ขอบคุณท่านเลยสักคำ เหล้าจอกนี้แทนคำขอบคุณจากข้า ท่านลุง ขอบคุณมาก"
เซี่ยเทียนอวี่กำลังยกเหล้าเข้าปากก็ชะงัก นี่นางเรียกเขาว่าลุงเลยเหรอ
" เจ้าเรียกข้าว่าอะไร"
" ท่านลุงไง ก็ดูหน้าท่านสิแก่ขนาดนี้ ข้าเดาว่าน่าจะ40ได้กระมัง ไม่ให้ข้าเรียกลุงแล้วจะให้ข้าเรียกพี่รึยังไง"
หยางซู่เหวินกลั้นขำไม่อยู่ปล่อยหัวเราะเสียงดัง
" ฮ่าฮ่าฮ่า เขายังไม่ถึง40หรอก ถึงหน้าของเขาจะดูเหมือนก็เถอะ แต่จริงๆเขาแค่35เท่านั้น ฮ่าฮ่า"
เห็นเซี่ยเทียนอวี่จ้องหน้าส่งสายตาดุดัน เขาก็รีบหยุดหัวเราะทันที
" ถึงยังไงเขาก็แก่กว่าข้าหลายปี ข้าพึ่งจะ17เอง ยังไงก็เป็นลุงอยู่ดี"
เซี่ยเทียนอวี่กัดฟันกรอด พยายามข่มอารมณ์เอาไว้
" หากท่านคือคนที่นายข้าช่วยในรถม้าคันนั้น งั้นท่านก็คือองค์หญิงหน่ะสิ องค์หญิงโปรดอภัยหากมีสิ่งใดที่ข้าได้ล่วงเกินไป ขอท่านโปรดอภัยด้วย"
" ไม่มี เจ้าไม่ได้ทำอะไรให้ข้าไม่พอใจนี่ อีกอย่างข้าไม่ใช่องค์หญิงแล้ว"
" หมายความว่ายังไง"
เซี่ยเทียนอวี่รีบถามขึ้นมา
" เรื่องมันยาวหน่ะ เอาเป็นว่าข้าไม่ใช่องค์หญิงแล้ว ข้าเป็นเพียงคนธรรมดาคนนึง ที่ไม่มีแซ่มีแต่ชื่อ"
" มีแต่ชื่อ"
" อืม ข้าใช้แซ่หลี่ที่เป็นแซ่ของฮ่องเต้ พอข้าไม่ใช่องค์หญิงตัวจริง ข้าก็ไม่มีสิทธิ์ใช้แส้นั้นอีก ตอนนี้ข้าเลยมีแต่ชื่อไม่มีแส้ "
เซี่ยเทียนอวี่มองหน้านาง เขาอยากจะถามนางว่าสนใจอยากใช้แส้เซี่ยของเขาไหม แต่ก็ได้แต่ถามในใจไม่ได้พูดออกไป
" หือ ท่านลุงมองหน้าข้ามีอะไรรึ"
" อย่ามาเรียกข้าว่าลุง ข้าไม่ได้แก่ขนาดนั้นแล้วข้าก็ไม่ใช่ลุงของเจ้าด้วย"
เซี่ยเทียนอวี่พูดเสียงลอดไรฟัน ล้วงเอาตำลึงเงินมาวางลงบนโต๊ะ แล้วลุกขึ้นเดินออกไป
" อ้าว รอข้าด้วยท่านแม่ทัพ"
เยว่ซินกับลูลู่มองตามทั้งสอง ก่อนจะหันมามองหน้ากัน
" เมื่อกี้เขาเรียกท่านลุงคนนั้นว่าแม่ทัพ"
" หรือว่าเขาจะเป็นแม่ทัพจริงๆเจ้าคะคุณหนู"
หยางซู่เหวินรีบวิ่งตามเซี่ยเทียนอวี่ออกมา
" ท่านแม่ทัพรอด้วย รอข้าก่อน แฮ่กแฮ่กทำไมถึงได้เดินไวนัก ท่านรอก่อน"
" ข้าว่าเราควรหาม้ามาขี่คนละตัว"
" โธ่ท่านพึ่งนึกได้หรือขอรับ ทำไมไม่นึกได้ตั้งแต่อยู่ที่เมืองหลวงเล่า หมู่บ้านเล็กๆแห่งนี้จะไปหาซื้อม้ามาจากที่ไหนหล่ะ"
เซี่ยเทียนอวี่ครุ่นคิด หากหาไม่ได้ก็คงต้องเดินไปก่อน พอเข้าเมืองอีกทีค่อยหาม้ามาขี่สักตัว ม้าที่เขากับหยางซู่เหวินขี่มาจากแดนเหนือ ก็ดันเตลิดหนีไปตอนเกิดเหตุการณ์ชุลมุนมีม้าพยศหลุดเข้ามาในตลาด ตอนนั้นเขาแวะซื้อหมั่นโถอยู่ ได้ยินเสียงคนแตกตื่น หันไปดูอีกทีม้าพยศก็วิ่งตรงมา มีสตรีนางหนึ่งยืนนิ่งไม่ยอมหลบทางมัน เขาจึงต้องปล่อยเชือกจูงม้าของตัวเอง แล้วไปคว้าตัวนางมา พึ่งนึกขึ้นได้ว่าปล่อยเชือกจูงม้าหันไปดูก็เห็นแต่หลังของมันไวๆวิ่งตามม้าพยศไปแล้ว ส่วนม้าของหยางซู่เหวินก็เช่นกัน พอเห็นเพื่อนมันวิ่งหนีมันก็วิ่งตามไป พวกมันพากันวิ่งหนีหายไปพร้อมม้าพยศนั่นแหละ ป่านนี้พวกมันทั้งสามตัว คงไปวิ่งเล่นอยู่ที่ใดสักแห่งเป็นเพื่อนกันแล้วมั้ง
เดินไปได้ไม่นาน เขารู้สึกปวดท้องท้อง ท้องร้องโครกคราก
" หยุดก่อน"
" หยุดทำไมหรือขอรับ หรือว่าท่านเหนื่อยแล้ว แต่เราพึ่งเดินมาได้ไม่นานเองนะขอรับ"
" ข้าปวดท้อง จะปลดทุกข์ก่อนเจ้ารอข้าอยู่แถวนี้แหละ"
" ขอรับๆ"
หยางซู่เหวินนั่งพิงต้นไม้รอเซี่ยเทียนอวี่ เสียงฝีเท้าคนเดินใกล้เข้ามา เขาลุกขึ้นแล้วก็ยิ้มกว้าง
" แม่นางทั้งสอง"
" โอ๊ะเจ้านั่นเอง เจ้ามายืนทำอะไรอยู่ตรงนี้"
ลูลู่ร้องทัก
" ข้ารอท่านแม่ทะ เอ่อ รอคุณชายของข้าอยู่"
" แล้วเขาไปไหนหล่ะ"
เยว่ซินถามพรางมองหารอบๆ
" เขาไปปลดทุกข์อยู่ ดูเหมือนจะท้องเสียนี่ก็ไปนานแล้วนะ ข้าได้ยินแต่เสียงเขาตดปู้ดป้าดท่าจะหนัก"
ไม่ขาดคำเสียงตดก็ดังสนั่น
ปู๊ด ปู้ดดดแปร้ดดด
" คิกคิกคิก" " ฮ่าฮ่าฮ่า"
ทั้งสามคนพากันหัวเราะลั่น
" จริงสิข้าได้ยินเจ้าเรียกเขาว่าแม่ทัพตั้งแต่อยู่ที่โรงเตี๊ยมแล้ว ตกลงพวกเจ้าเป็นใครกันแน่"
" เอ่อคือ เอ้าไหนๆก็รู้จักกันแล้วบอกก็ได้ เขาคือแม่ทัพแดนเหนือ เซี่ยเทียนอวี่"
" แม่ทัพเซี่ยเทียนอวี่"
" อืม ส่วนข้าเป็นขุนพลคนสนิทของเขา ชื่อหยางซู่เหวิน"
"เซี่ยเทียนอวี่ แม่ทัพเซี่ยแดนเหนือ ทำไมข้าไม่เคยได้ยินมาก่อน"
เยว่ซินทำท่าครุ่นคิด
" ปกติแล้วท่านแม่ทัพไม่ค่อยได้ออกจากแดนเหนือ ยิ่งไม่ได้ไปไหน นี่เป็นครั้งแรกในรอบ10ปีที่ออกจากแดนเหนือมาเมืองหลวง"
" แสดงว่าต้องมีเรื่องสำคัญ ถึงทำให้เขาเดินทางไกลมาที่นี่"
" เปล่าสักหน่อย แค่คืนฐานะองค์หญิง11ให้ข้า ส่วนเรื่องที่ข้าออกจากวังหลวง ก่อนมาข้าได้บอกกับเสียนเฟยแล้ว ว่าข้าจะออกไปเที่ยวท่องยุทธภพ ไม่อาจรู้แน่ว่าจะกลับไปเมืองหลวงวันใด พวกเขาก็รับรู้และอนุญาติ"ส่วนจดหมายของเสียนเฟยที่ฝากมาถึงนางก็มีคำถามเรื่องสารทุกข์สุกดิบ มีแต่คำห่วงใย นางได้ตอบจดหมายฝากกลับไปแล้ว" จริงสิ เรื่องที่ซิงอีกับเหวินซีห่าวถูกจับ เป็นฝีมือท่านใช่ไหม"เซี่ยเทียนอวี่พยักหน้า" ตั้งแต่วันที่เจ้าเล่าเรื่องให้ข้าฟังวันนั้น ข้าก็ให้ซู่เหวินไปสืบข่าว เขาได้ขอให้นายอำเภอช่วย เรื่องนี้ไม่นานก็ได้รู้ข่าว ว่าพวกเขาถูกจับได้ว่าหลอกลวง ฝ่าบาทลงโทษให้เนรเทศไปใช้แรงงานที่ชายแดนเหนือ แต่หลบหนีระหว่างเดินทาง ทางการกำลังตามจับตัว หากไปถึงแดนเหนือพวกเขาก็อยู่ในความรับผิดชอบของข้า ข้าก็เลยบอกให้ทางการมาจับตัวพวกเขา"" แบบนี้นี่เอง นี่ใช่ไหมที่ท่านบอกข้าว่าให้รอดูเรื่องสนุกก่อนไปจากเมืองนี้"เขาพยักหน้ารถม้าวิ่งออกจากประตูเมืองมุ่งหน้าเข้าป่ากว้าง ผ่านหุบเขาผ่านลำธารผ่านฝนตก เมื่อฝนหยุดเกิดรุ้งกินน้ำ เย่วซินเปิดผ้าม่านออกดู" สามี รุ้งกินน้ำ"เซี่ยเทียนอวี่กอดกระชับนาง หันหน้าไปมองรุ้งก
" พาเขาเข้ามา"บ่าวรับใช้พาชายท้วมคนหนึ่งเข้ามา เหยียนเอ๋อตกใจหน้าซีด" เจ้าเป็นใคร"เหวินอี้หลงถาม" ข้าเป็นเจ้าของร้านยาชุ่ยเฟิงโอสถ"" บอกทุกคนไป ว่าเมื่อวานใครที่ไปซื้อยาปลุกกำหนัดที่ร้านเจ้า"" เป็นนาง"ชายคนนั้นชี้ไปที่เหยียนเอ๋อ นางรีบโบกมือปฏิเสธ" ไม่ใช่ข้า ไม่ใช่ ท่านจำผิดแล้ว เมื่อวานข้ายังไม่ได้ออกจากจวนไปไหนเลย"" เป็นเจ้านั่นแหละ ข้าจำไม่ผิดหรอก เจ้าไปขอซื้อยาปลุกกำหนัดที่ร้านข้า ยังบอกข้าว่าเอาที่แรงๆออกฤทธิ์เร็วๆ"" ไม่จริง อย่ามาปรักปรำข้านะ"" ข้าเป็นพยานได้ ข้าเห็นเจ้าทำลับๆล่อๆเดินเข้าไปในร้านยาชุ่ยเฟิง"ลูลู่พูด" ข้าก็เห็น"หยางซู่เหวินร่วมเป็นพยานอีกคนเหยียนเอ๋อแข้งขาอ่อนแรงจนเซ เมื่อเห็นว่าถูกเปิดเผย จึงหันไปมองหน้าซิงอีขอความช่วยเหลือ แต่ไม่คิดว่าซิงอีจะลุกขึ้นตบหน้านาง เพี๊ยะ เพี๊ยะ" ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะทรยศข้า เสียแรงที่ไว้ใจให้เจ้าคอยติดตาม ข้ายังคิดว่ากลับเข้าวังไปจะให้เป็นนางกำนัลคนสนิท ข้าดีกับเจ้าถึงเพียงนี้เจ้าทำกับข้าได้ยังไง"" ท่านมาตบข้าทำไม ข้าก็ทำตามคำสั่งของท่าน"เพี๊ยะเพี๊ยะ ซิงอีเข้าไปตบเหยียนเอ๋อไม่ยั้งเยว่ซินมองหน้าลูลู่ ลูลู่เข้าไปแยกซิง
" แค่กแค่ก "ซิงอีมองหน้าเซี่ยเทียนอวี่ด้วยสายตาไม่พอใจ หากไม่เพราะเขามีอำนาจจะช่วยให้นางหลุดพ้นจากการเป็นนักโทษได้ มีรึที่นางจะยอมลงทุนเปลืองตัวเช่นนี้" ข้ากับเขา แค่กแค่ก เป็นแค่สหายกันข้า แค่กแค่ก ไม่ได้คิดอะไรกับเขา แต่กับท่าน ข้าแค่กแค่ก ข้าสนใจท่าน"นางลุกขึ้นพยายามเข้าไปยั่วยวนเขาอีก" ข้าสนใจท่าน อยากได้ท่าน"ยาเริ่มออกฤทธิ์ นางถอดเสื้อตัวนอกทีละชั้นจนเหลือเพียงตู้โตวสีแดงสด หากวันนี้ไม่ได้เขามาบำเรอ แต่ถ้าเยว่ซินเข้ามาเห็นนางกับเขาอยู่ด้วยกันตามลำพังในเวลานี้ ด้วยนิสัยของเยว่ซินไม่มีทางยอมแน่ ยังไงก็ต้องเลิกรากับเซี่ยเทียนอวี่ นางเดินเข้าไปจะถอดเสื้อให้เซี่ยเทียนอวี่แต่ถูกเขาผลักอย่างแรงจนล้มลง" อย่ามาแตะต้องตัวข้า น่าขยะแขยง"" เหตุใดท่านถึงปฏิเสธข้า ข้ามีสิ่งใดสู้เยว่ซินไม่ได้ สิ่งที่นางมีข้าก็มี"" เจ้าอย่าได้เปรียบเทียบกับนาง เจ้าไม่มีสิ่งใดสู้นางได้เลยสักนิด ไม่ว่าจะเป็นหน้าตาหรือรูปร่าง โดยเฉพาะ"เซี่ยเทียนอวี่มองหน้าอกที่แบนราบของซิงอีแล้วยิ้มมุมปาก ซิงอีรู้สึกอายยกมือขึ้นมาปกปิด" เจ้าจะปิดทำไมกัน ไม่เห็นมีสิ่งใดให้น่าดู "" ท่าน"" ซินซินเป็นภรรยาของข้า และจะเป็นภ
" บอกทุกคนสิ ว่าเมื่อกี้เจ้าหรือข้าเป็นคนทำ"" ข้าซุ่มซ่ามทำน้ำชาหกใส่มือเอง"ซิงอีพูดแล้วหมุนตัวจะนั่งลง แต่แกล้งทำเป็นเซไปล้มลงบนตักเซี่ยเทียนอวี่พอดี เยว่ซินโมโหคว้าตัวซิงอีมาตบ เพี๊ยะ ทุกคนอ้าปากค้างตกใจ" อย่าคิดจะมายั่วยวนสามีข้า"" ข้าไม่ได้คิดแบบนั้น เมื่อกี้ข้าเซล้มจริงๆข้าไม่ได้ตั้งใจ""กลยุทธ์ยั่วบุรุษ ลูกไม้ตื้นๆคิดว่าข้ารู้ไม่ทันเจ้ารึ"" พอแล้ว องค์หญิงนางก็บอกอยู่ว่าไม่ได้ตั้งใจ เจ้าก็อย่าหึงหวงให้มากนักเลย"เหวินเยี่ยหลิงพูดปกป้องซิงอีสาวใช้คนหนึ่งเดินถือกาน้ำชามาให้ใหม่จังหวะที่จะเดินออกไป เยว่ซินก็เด่เท้าออกไปขัดขานาง จนล้มลงบนตักเหวินอี้หลงพอดี" ขออภัยเจ้าค่ะ ข้าสะดุดล้มไม่ตั้งใจ"แม้จะพูดแบบนั้นแต่ก็ยังไม่ยอมลุกจากตักของเหวินอี้หลง เหวินอี้หลงได้แต่นั่งนิ่งทำอะไรไม่ถูก จะว่าไปการที่มีสตรีวัยเยาว์มานั่งบนตักมันก็ดีไม่ใช่น้อย" เจ้าลุกออกมาจากสามีข้าเดี๋ยวนี้นะ"สาวใช้รีบลุกขึ้นทันที แล้วก้มหัวขอโทษเหวินเยี่ยหลิง" ขออภัยเจ้าค่ะฮูหยิน ข้าไม่ได้ตั้งใจ"" นางไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย เหวินฮูหยิน ท่านก็อย่าหึงหวงให้มากนักเลย"ถูกเยว่ซินย้อนเข้าให้ เหวินเยี่ยหลิงถึงกับพูดไม
เหวินซีห่าวผ่านมาพอดี เห็นเหยียนเอ๋อร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ เขารีบวิ่งเข้าไปเห็นซินอีตะเกียกตะกายอยู่ในน้ำ จึงรีบกระโดดลงไปช่วยนางขึ้นมา" เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง"" เเค่กแค่ก ไม่เป็นไร"" ทำไมอยู่ดีๆถึงตกลงไปในน้ำได้"" ข้า "ซิงอีหันไปมองหน้าเยว่ซินไม่ได้พูดต่อ เหวินซีห่าวมองตาม" เป็นนางที่ผลักองค์หญิงตกน้ำเจ้าค่ะคุณชาย"" ไม่จริง คุณหนูของข้าไม่ได้ทำ เป็นนางที่ตกลงไปเอง เจ้านี่มันตอแหลเหมือนนายของเจ้าไม่มีผิด สมแล้วที่เป็นสุนัขเดินตามก้น"" เจ้าว่าใครเป็นสุนัข"" ใครรับก็คนนั้นแหละ"" เจ้า"" พอแล้ว"เหวินซีห่าวพูดเสียงดัง เขาพยุงซิงอีให้ยืนขึ้น แต่ยังคงโอบประคองนางอยู่" ข้ารู้ว่าเจ้ายังโกรธข้าอยู่ แต่ก็ไม่ควรไปลงที่ซิงอี นางร่างกายไม่แข็งแรง เจ้าไม่ควรทำกับนางเช่นนี้"เยว่ซินแค่นหัวเราะ" เจ้าคิดว่าข้าเป็นคนผลักนาง"เหวินซีห่าวไม่ตอบ" ช่างเถอะอาห่าว ข้าไม่ถือโทษนางหรอก ที่ผ่านมานางเคยเป็นองค์หญิงสุขสบายมาตลอด อยากได้อะไรก็ต้องได้หากไม่พอใจใครก็ "ซิงอีพูดขึ้นน้ำตาก็คลอเบ้า" เจ้ารู้ดีว่าเจ้าตกน้ำไปได้ยังไง อย่าปัดความผิดให้คนอื่น"เย่วซินพูดด้วยเสียงเย็นชา" ขอโทษนางซะจะได้จบเรื่อ
เหวินซีห่าวตามเยว่ซินไม่ทัน แต่เมื่อคิดว่าเซี่ยเทียนอวี่พักอยู่ที่จวน อย่างงั้นเยว่ซินก็ต้องอยู่ด้วยจึงกลับไปรอที่จวน" อาห่าว คนที่เจ้าตามหาคือสตรีที่อยู่กับแม่ทัพเซี่ยเจ้ารู้แล้วใช่ไหม"" ขอรับ ข้าตามหานางจนทั่วทั้งเมืองไม่คิดว่านางจะอยู่ใกล้แค่ปลายจมูก"" ตอนนี้นางเป็นภรรยาของแม่ทัพเซี่ยแล้วเจ้ายังจะ"" ไม่ นางแค่โกรธข้าเลยโกหก นางกับแม่ทัพหน้าโจรนั่นไม่ได้เป็นอะไรกัน"" จะเป็นไปได้ยังไง นางกับแม่ทัพเซี่ยนอนห้องเดียวกัน พวกเขาแสดงออกว่ารักกันถึงเพียงนั้น"" ท่านอา นั่นก็แค่การแสดง "" คุณชายพวกเขามากันแล้วขอรับ"เหวินซีห่าวรีบหันไปมอง เขาเดินตรงปรี่ไปหาเยว่ซิน ยังไม่ทันถึงตัวเซี่ยเทียนอวี่ก็ดึงมาหลบข้างหลัง เหวินซีห่าวจ้องมองเซี่ยเทียนอวี่เขม็ง ต่างคนต่างมองหน้ากันไม่มีใครยอมใคร " อาห่าว"ซิงอีเดินเข้ามาพร้อมเหวินเยี่ยหลิง เขาไม่สนใจหันไปมองสักนิด" ซินซิน"" ข้าบอกว่าอย่าเรียกข้าแบบนั้น สามีข้าเรียกข้าได้คนเดียว"เมื่อก่อนเหวินซีห่าวไม่เคยเรียกนางแบบนี้แล้วตอนนี้มาเรียกนางแบบนี้ทำไม" ก็ได้ ข้าเรียกเย่วซินเหมือนเดิมก็ได้ แต่เจ้าต้องเลิกเล่นสักที เลิกประชดข้าได้แล้ว"" ประชดบ้าบออ







