ลี่อินลอบยิ้มอย่างนึกขำ รอยยิ้มแรกที่เขาไม่ได้เห็นมานานเขาอดไม่ได้จริงๆที่จะล่วงเกินนางบ่อยๆ ทั้งหอมแก้ม จูบจนไม่อยากหยุด“ท่านอ๋องเพคะ หยุดก่อน ไปดูลูกก่อนเพคะ”“ข้าบอกนางเลยได้หรือไม่”“แต่ว่า ข้าเกรงว่าหากผู้อื่นทราบเรื่องของเฟยซี นางจะเป็นอันตราย”“ก็รู้กันแค่เราสามคนเจ้าจะใจร้ายกับลูกแล้วกับข้าถึงเพียงนั้นเชียวหรือ”“แต่ข้าเกรงว่านางจะรับเรื่องนี้ไม่ได้ นางไม่เคยมีพ่อมาก่อน”“เจ้าจะรอไปถึงเมื่อใด ช้าเร็วนางก็ต้องรู้ เจ้าคิดว่านางโง่งั้นหรือ นางได้รับความฉลาดจากข้าไปเต็มเปี่ยม นางเหมือนข้ามากกว่าที่เจ้าคิดเสียอีก”“หลงตัวเอง”“หากเจ้าไม่เชื่อ ก็ตามมา”เขาดึงนางและพยุงลุกขึ้นเดินออกจากห้องนอนไปเพื่อไปหาเฟยซีที่อยู่ในห้องหนังสือ ป้าลี่เห็นทั้งคู่เดินมาแล้วจึงรู้ทันทีว่าตอนนี้พวกนางคงมีพระชายาแล้ว นางทำความเคารพให้อย่างนอบน้อม หวังเจาเดินเข้ามาทักทายนาง“คุณหนูหง เป็นท่านจริงๆดีใจที่ได้พบกันอีกครั้งนะขอรับ”“หวังเจาไม่ได้พบกันนานท่านสบายดีนะเจ้าคะ”“ข้าน้อยสบายดีขอรับคุณหนู”“อะแฮ่ม…หวังเจา เฟยซีลูกข้าล่ะ”หวังเจาหันไปมองท่านอ๋อง ที่ยอมรับเต็มปากว่าเฟยซีคือลูกของตนเอง เขาหันไปมองหน้า
เสียงร่ำไห้ของท่านอ๋องทำให้ลี่อินสุดจะกลั้นใจ นางเองก็ทนไม่ไหวเมื่อเห็นว่าเขาเองก็ทรมาน เรื่องหลังจากนี้แม้ว่าจะไม่รู้ว่าควรแก้ไขเช่นไร แต่ตอนนี้นางอยากจะกอดเขาเหลือเกิน กอดให้คุ้มกับสามปีที่ต้องแยกจากกัน“ท่านอ๋องเพคะ ข้า…”“ลี่อิน สามปีที่ข้าตามหาเจ้าทั้งในน้ำ บนบก เหลือเพียงบนฟ้าที่ไม่อาจหาเจ้าได้ ทั่วทั้งหมู่บ้านร้างนั่น หญ้าทุกต้นข้าแทบจะรู้ว่ามันเติบโตวันละกี่จั้ง ข้าไม่เคยเชื่อว่าเจ้าตายไปแล้ว”“เหตุใดพระองค์จึงโง่นัก เหตุใดไม่ปล่อยหม่อมฉันไป”“ข้ารักเจ้า ใจข้าไม่ตอบรับผู้ใดนอกจากเจ้า แม้ว่าจะไม่มีเจ้า ข้าก็ไม่ต้องการผู้อื่น”“ท่านอ๋องเพคะ”นางลุกขึ้นสวมกอดเขาอีกครั้ง ห่าวหรานกอดนางกระชับแน่นขึ้นมากกว่าเดิมเนิ่นนานกว่าที่ทั้งคู่จะผละออกจากกัน ต่างคนต่างซับน้ำตาบนใบหน้าให้กันและกัน“ลี่อิน เฟยซี…”“คืนนั้นเมื่อสามปีก่อนไม่ได้เกิดสิ่งใดขึ้น พวกมันจับข้าไปแต่ข้าสู้กับพวกมันจนหมดแรง สุดท้ายอาจารย์กับศิษย์พี่มาช่วยข้าเอาไว้ได้ทัน ศิษย์พี่ให้มันกินยาลืมเลือนเพื่อให้พวกมันพูดเพ้อเจ้อจำอะไรไม่ได้เพคะ”“เป็นเช่นนี้นี่เอง เช่นนั้น หมายความว่า ถ้าเช่นนั้นเฟยซี..”“เพคะ นางเป็นบุตรของท่านอ
“หง….ลี่…ลี่อิน เจ้า เป็นเจ้าจริงๆงั้นหรือ”ท่านอ๋องโผเข้าไปกอดนางเอาไว้แน่น ลี่อินได้แต่ยืนนิ่งไม่คิดว่านางจะพยายามหลบหน้าเขามาโดยตลอด เวลาเข้าวังก็กลัวว่าจะบังเอิญที่จะพบเจอเขาโดยไม่ตั้งใจ ถึงกับยอมปิดหน้าทุกครั้งที่เข้าไปแต่ใครจะนึกว่าโชคชะตาช่างกลั่นแกล้งนางอย่างร้ายกาจ ไม่เพียงพาตัวเองมาพบเขา แม้แต่บุตรสาวยังมาอยู่กับเขาทุกวันโดยที่ไม่รู้ตัว“ลี่อิน ลี่อิน เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าเที่ยวตามหาเจ้ามาตลอดสามปีนี้ ข้าดีใจยิ่งนัก นี่เจ้าจริงๆ เจ้ายังไม่ตาย เจ้ากลับมาหาข้าแล้ว ลี่อิน คนดีของข้า”“ท่าน…คุณชาย คือว่า ท่านคงจำคนผิดแล้ว”“ไม่มีทาง ลี่อิน ต่อให้นานขนาดไหน ผ่านไปนานเพียงใด เจ้าก็คือลี่อินของข้า”“ได้โปรด คืนลูกให้ข้า แล้วข้าจะรีบกลับไปทันทีเจ้าค่ะ ได้โปรดปล่อยข้า คุณชายเจ้าคะ”“ลี่อิน เจ้าจะไม่ยอมรับงั้นหรือว่าเจ้าคือผู้ใด หรือเจ้าอยากให้ข้าพาเจ้าไปที่จวนเสนาบดีเพื่อพิสูจน์หรือไม่ว่าเจ้าใช่บุตรีของเสนาบดีหงหรือไม่ เอาเช่นนั้นหรือไม่ลี่อิน”“ปล่อยข้านะ”“ไม่!!”“ท่านอ๋องปล่อยนะ”“หากเจ้าไม่ใช่นาง เหตุใดเจ้าถึงรู้ว่าข้าคือท่านอ๋อง!!”“นั่น…ข้า…ไม่นะ ปล่อยข้านะ”“หากเจ้ายังไม่หยุด
“ท่านอ๋อง นี่ท่านพูดอะไรเพคะ”“เจ้าพูดเองว่าเจ้าไม่ได้รักฝ่าบาท ข้าเองก็ไม่ได้รักเจ้า ซึ่งนั่นก็ไม่ต่างกันเรื่องแบบนี้ในเมื่อเจ้าดึงดันจะทำให้เกิดขึ้นเอง ข้าก็รับผิดชอบอะไรไม่ได้สิ่งที่ทำได้ข้าก็ทำจนหมดแล้ว ไม่ว่าจะยอมแต่งตั้งเจ้าเป็นสนมตามที่ต้องการ ยกจวนนี้ให้หลังจากนี้ข้าไม่มีอะไรติดค้างกับเจ้าอีก”“ทำแบบนี้พระองค์ไม่คิดว่ามันเกินไปหน่อยหรือเพคะ”“เป็นเจ้าที่เลือกเส้นทางนี้เอง องค์หญิงหยงฮวา เรื่องที่ข้าจะพูดมีเพียงเท่านี้ ขอตัวก่อน”เขาเดินออกมาจากจวน หากฟังไม่ผิดเขาได้ยินเสียงนางกรีดร้องออกมาตามหลังเขา ซึ่งเขาไม่นึกอยากจะย้อนกลับไปดูนาง เขาเดินออกมาขึ้นรถม้าและออกจากจวนนั้นทันที“หวังเจา เปลี่ยนเส้นทาง”“พ่ะย่ะค่ะ”เขารู้ว่านางต้องส่งคนสะกดรอยตามมาแน่ๆ จึงจงใจสับเปลี่ยนเส้นทางและหลอกล่อนางจนคนของหยงฮวาตามเขาไม่ทัน เขาลงจากรถม้าและเดินเข้าไปในโรงเตี๊ยมเพื่อไปเปลี่ยนขี่ม้าออกทางประตูหลังจนถึงจวนใหม่“ท่านอ๋องเพคะ พรุ่งนี้จะทำอาหารอะไรรอคุณหนูเฟยซีดีเพคะ”“นางชอบขนมถั่วเขียว ทำเอาไว้ให้นางก็แล้วกัน อ้อ แล้วก็หมั่นโถวด้วย”“เพคะท่านอ๋อง”“เออนี่ป้าลี่ พรุ่งนี้ทำผัดผักสี่เซียนเอาไว้นะ
แม้ว่าเฟยซีนั้นจะมาเป็นแขกที่จวนเพียงสองสามครั้ง แต่ความน่ารักของนางกลับเอาชนะใจบ่าวไพร่ที่จวนใหม่ท่านอ๋องเกือบทุกคน เอ้อหานนั้นมาส่งนางช่วงเช้าวันแรกเขามองดูทั้งคู่อยู่ราวๆครึ่งวันก็ต้องรีบกลับมารับยาสมุนไพรกลับไปที่จวนและมารับเฟยซีในช่วงค่ำ ซึ่งนางก็นั่งกินข้าวอยู่กับห่าวหราน หลังจากนั้นเขาเลยไว้ใจยอมปล่อยเฟยซีเอาไว้ทั้งวัน ซึ่งนี่ก็เข้าวันที่สามแล้วที่นางมาอยู่ที่จวนนี้“สวยมากเฟยซี ไปเถอะ ไปกินข้าวก่อนนะไปกันได้แล้ว ไปล้างมือก่อน ป้าลี่ พาไปทีนะ”ห่าวหรานส่งเฟยซีให้ป้าลี่และเดินไปหาหวังเจาที่ห้องหนังสือ“ว่าอย่างไร”“ทูลท่านอ๋อง เป็นดังที่ท่านอ๋องคาดไว้ พระสนมเข้าวังไปทูลฟ้องเรื่องของพระองค์ต่อฝ่าบาทว่านางถูกทิ้งไว้ที่จวนอ๋องพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาทจึงได้ฝากจดหมายนี้มาให้พระองค์พ่ะย่ะค่ะ”เขาถอนหายใจก่อนจะรับจดหมายนั้นมาอ่านดู และก็ต้องยิ้มเหยียดลงไปอย่างนึกรังเกียจก่อนจะเผาจดหมายนั่นทิ้งไปโดยไม่นึกอยากจะเห็นมัน“ท่านอ๋อง ต้องทำอย่างไรหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”“นางมีหรือจะกล้าป่าวประกาศว่าถูกทิ้งให้อยู่เฝ้าจวนอ๋องคนเดียวตั้งแต่คืนส่งตัวเข้าหอ เรื่องนี้นางเพียงไปฟ้องฝ่าบาทเท่านั้น หากว่าข่าวลือแพ
แต่ครั้งก่อนเข้าเห็นว่าคนที่มารับนางคือบุรุษหนุ่มผิวคล้ำแต่หน้าตาดีคนหนึ่ง นั่นไม่ใช่พ่อของนางหรอกหรือ แต่ตอนนี้เขากลับไม่กล้าถามเพราะเพียงแค่เห็นนางเริ่มเศร้าเขาก็ไม่สบายใจแล้ว“เฟยซีเจ้าหิวหรือไม่ ลุงมีขนมอร่อยๆ เจ้ากินแล้วเดี๋ยวลุงจะพาไปส่งดีหรือไม่”“ท่านลุงใจดีที่สุดเลย ท่านมีขนมให้ข้าด้วยหรือเจ้าคะ”“มีสิ มาทางนี้ ข้าจะให้คนเตรียมให้เจ้า เอาดอกไม้มาสิ ข้าจะให้คนเอาไปแช่น้ำไว้ให้มันจะได้ไม่เหี่ยวก่อนที่เจ้าจะนำไปให้ท่านแม่”“ขอบคุณเจ้าค่ะท่านลุง อุ้มข้าไปหน่อยสิเจ้าคะ”“ให้ข้าอุ้มเจ้าหรือ ได้หรือมาเลยลุงจะอุ้มเฟยซีไปนะ ไปกันเลยไปกินขนมอร่อยๆ”“ไปเลยๆ เย้ๆๆ”เด็กน้อยเมื่อพบคนที่ถูกใจมักจะหลงลืมเวลา ขนมมากมายถูกยกออกมาวางบนโต๊ะพร้อมกับน้ำ เฟยซีตาโตเมื่อเห็นขนมน่ากินมากมายที่วางอยู่ตรงหน้า นางเริ่มชิมทีละนิดพร้อมกับยิ้มอย่างพอใจ“อร่อยหรือไม่”“อร่อยเจ้าค่ะ”“พี่อาชิงก็เคยทำขนมพวกนี้ให้ข้ากินบ่อยๆ แต่ไม่ได้อร่อยเท่านี้เจ้าค่ะ”“งั้นหรือ งั้นเจ้าก็กินเยอะๆนะยังมีอีกเยอะเลย”“ขอบคุณเจ้าค่ะท่านลุง อ่ะนี่เจ้าค่ะ ข้าป้อนท่าน”“ป้อนข้างั้นหรือ”เด็กน้อยหยิบขนมและป้อนใส่ปากเขา ท่านอ๋องพลัน