“สวัสดีครับพี่ จริง ๆ แล้วพี่ไม่ต้องมารับผมก็ได้นะครับผมไปเองได้” เล่อเยียนได้ยินดังนั้นก็หมุนจักรยานแล้วเตรียมตัวจะกลับบ้าน
“พี่จะไปไหนครับ ผมปั่นให้ดีกว่า” หลี่หานรีบคว้าท้ายจักรยานไว้เพราะพี่สาวเขาทำท่าจะปั่นจักรยานไปซะแล้ว
“ก็นายบอกเองไม่ใช่หรือว่าเดินกลับเองได้ ถ้าอย่างนั้นนายก็เดินกลับเองก็แล้วกัน” หลี่เล่อเยียนหมั่นไส้น้องชายที่ทำเป็นเล่นตัว จริง ๆ แล้วเขาก็ดีใจที่เธอจะมารับนั่นแหละ ไม่อย่างนั้นคงไม่มารอเธอที่หน้าโรงเรียนแบบนี้หรอก
“เดี๋ยวๆ ครับพี่ ไหน ๆ พี่ก็มาแล้ว ถ้าอย่างนั้นก็กลับด้วยกันนี่แหละครับ ผมเป็นคนปั่นให้พี่ซ้อนท้ายเองจะดีกว่า นี่พี่ซื้ออะไรมาเยอะแยะเนี่ย แตงโมอะไรกันทำไมมันถึงลูกใหญ่ขนาดนี้ละครับ” หลี่หานเคยกินแตงโมแต่เพียงไม่เคยเห็นแตงโมลูกใหญ่เท่านี้มาก่อน
“กลับบ้านเถอะ” เล่อเยียนขี้เกียจต่อปากต่อคำกับน้องชาย เขาคิดถึงลูกชายจะแย่อยู่แล้ว ป่านนี้ไม่รู้ว่าจะร้องไห้งอแงหิวนมแล้วหรือยัง
สองพี่น้องเมื่อปั่นจักรยานมาถึงบ้านก็เจอเข้ากับแม่เฒ่าหยางและลูกชายกำลังออกมาเดินเล่น
คุณเชื่อหรือไม่ล่ะว่า ถ้าพรุ่งนี้ฉันออกไปทำงานแล้วฉันจะได้เงินมามากกว่าเงินเดือนของคุณทำมาทั้งเดือนอีกค่ะ ไม่ใช่แค่คุณคนเดียวหรอกนะคะที่เหนื่อย ฉันก็เหนื่อยจะแย่ วันๆ หนึ่ง ฉันได้นอนไม่กี่ชั่วโมง ลูกหลับฉันก็ต้องรีบไปทำงานบ้าน ซักผ้า ทำกับข้าว ลูกตื่นก็ต้องดูแลลูก ใครมันเหนื่อยกว่ากันละคะ" หลี่เล่อเยียนเคยเห็นบทความภาวะเครียดหรือซึมเศร้าขณะที่คลอดบุตร วันนี้เธอเพิ่งเข้าใจก็เมื่อได้เจอกับตัวเอง“ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นครับ คือวันนี้ผมเจอเรื่องเครียดมาทั้งวันจริง ๆ” หยางหมิงเฉิงน้ำเสียงดูอ่อนลง เขาไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลยจริง ๆ นั่นแหละ"ฉันไม่สนหรอกค่ะว่าคุณหมายความว่าเช่นไร แต่ฉันฟังตามที่คุณพูดมันออกมา และฉันก็หมายความตามที่ฉันพูดออกมาเช่นเดียวกันค่ะ เรื่องของอาหลงฉันบอกกับคุณแม่แล้ว ว่าเขาได้รับอนุญาตให้กินอย่างอื่นได้ ก็ต้องรอให้ครบ 6 เดือนไปแล้วเท่านั้นนี่มันลูกของฉันค่ะ ฉันมีเขาแค่คนเดียวฉันทนอุ้มท้องเขามาทำไมฉันจะไม่รู้ละคะ ว่าสิ่งไหนเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูก แม่ของคุณรักอาหลงเป็นคนเดียวหรือไงกันละคะ นี่ลูกฉันนะคะ ลูกของเรา ฮึก"
การรอคอยของแม่เฒ่าหยางสิ้นสุดลง เมื่อเห็นลูกชายเดินมาไกล ๆ เขาไม่ได้นำจักรยานไปทำงานด้วย เพราะทิ้งเอาไว้ให้ภรรยาใช้ เผื่อว่าเธอต้องการออกไปซื้อของข้างนอก“สวัสดีครับแม่ มานั่งทำอะไรตรงนี้ครับ เริ่มมืดแล้วยุงน่าจะเยอะนะครับ” วันนี้หยางหมิงเฉิงกลับบ้านช้ากว่าทุกวัน เพราะการประชุมที่ติดพันกันไม่ลงตัวเสียที เขานั้นคิดถึงลูกเมียอยากจะเข้าไปกอดเจ้าถั่วเขียวยักษ์แล้ว หยางหมิงเฉิงพอใจในการเลี้ยงลูกของภรรยามาก เพราะนอกจากลูกชายจะสะอาดสะอ้านแล้วเขายังเจ้าเนื้ออีกด้วย เวลาเลิกงานมาได้สูดดมกลิ่นหอมของลูกชาย ทำให้ความเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งไป เรื่องเครียดในที่ทำงานเขาทิ้งเอาไว้ตั้งแต่ก้าวขาเข้ามาในรั้วบ้าน เรื่องภายนอกบ้านก็สมควรทิ้งมันไว้ข้างนอก ไม่ควรนำมันเข้ามามีบทบาทภายในบ้าน จนคนที่บ้านต้องเป็นกังวลไปด้วย“มีเรื่องไม่สบายใจนิดหน่อยน่ะจ้ะ ลูกนั่งตรงนี้สักครู่เป็นเพื่อนแม่สักหน่อยได้หรือไม่” แม่เฒ่าหยางตัดสินใจแล้วว่า ถึงอย่างไรวันนี้เธอก็ต้องคุยกับลูกชายให้เข้าใจ“ช่วยเล่าที่มาที่ไปของที่ผืนนี้ ให้แม่ฟังอย่างละเอียดอีกสักรอบได้หรือไม่ลูก แม่ฟังเ
“ที่เธอพูดมา … เป็นความจริงหรือ” แม่เฒ่าหยางเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เพราะในเนื้อจดหมายที่น้องชายส่งไปไม่เห็นเขาจะพูดถึงเรื่องนี้เลยนี่นา“พี่คะฉันจะโกหกพี่ทำไมละคะ ตัวหมิงเฉิงเองเขาไม่ได้อยากจะแยกไปหรอกค่ะ แต่ขัดใจภรรยาไม่ได้ เพราะเธอเป็นคนเอาแต่ใจ ถูกพ่อตามใจมาจนเสียคน เด็กไม่มีแม่คอยสั่งสอนก็เป็นแบบนี้แหละค่ะ” พูดถึงตรงนี้แม่เฒ่าหยางก็มองตาค้างเพราะเธอก็ไม่ได้สั่งสอนลูกชายคนรองเช่นกัน“เอ่อ…ฉันไม่ได้หมายถึงพี่นะคะ อาเฉิงถึงแม้จะได้ไม่อยู่ใกล้ชิดกับพวกพี่เท่าไหร่ แต่ว่าเขายังมีฉันกับสามีคอยสั่งสอนนี่คะไม่อย่างนั้นเขาจะได้เป็นถึงผู้พันหรือคะพี่ว่าจริงไหม ฮ่าๆ” น้องสะใภ้หัวเราะกลบเกลื่อนที่เผลอพูดไปโดยไม่คิด แม่เฒ่าหยางมีสีหน้าเจื่อนๆ แต่ก็ยังคงยิ้มบาง ๆ พยักหน้าเห็นด้วย“พี่ว่าพี่กลับก่อนดีกว่านะมานานแล้ว ปล่อยอาหลงอยู่กับแม่เขาสองคน กลัวเธอจะทำอะไรยังไม่ค่อยเป็นเท่าไหร่” พูดจบแม่เฒ่าหยางก็รีบเดินกลับบ้านลูกชายทันที เธอตั้งใจมานั่งหาความสบายใจ แต่ทว่ากลับยิ่งไม่สบายใจมากกว่าเดิม แต่อ
เช้าวันที่อากาศร้อนวันหนึ่งของเดือนพฤษภาคม หลี่เล่อเยียนยังคงยุ่งอยู่กับการดูแลลูกชาย จนถึงตอนนี้ลูกชายของเธอก็มีอายุได้ 2 เดือนแล้ว เป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่ ที่ต้องให้ถกเถียงกันเรื่องของลูกชาย เพราะแม่สามีนั้นได้เตรียมน้ำข้าวต้มมาป้อนลูกชายของเธอแล้ว“คุณแม่ทำอะไรคะ” หลี่เล่อเยียนที่ลุกไปเข้าห้องน้ำ จึงทิ้งลูกชายไว้กับแม่สามี แต่พอกลับเข้ามา เธอแทบจะกระโจนเข้าไปคว้าถ้วยอะไรสักอย่างจากมือของแม่สามี“กำลังป้อนน้ำข้าวต้มให้อาหลงน่ะ ดูสิเขาดูชอบมันมากนะ” ตอนนี้หยางหนิงหลงทำหน้าตาหยีๆ กับรสชาติที่เขาไม่คุ้นเคย เพราะหลี่เล่อเยียนให้ลูกชายดื่มเพียงน้ำนมจากเต้าของเธอเท่านั้น“ยังกินไม่ได้ค่ะคุณแม่ เขายังเด็กเกินไป” แม่เฒ่าหยางชะงักมือที่กำลังป้อนหลานชายทันที ทำไมถึงจะกินไม่ได้เธอเลี้ยงลูกมาตั้งกี่คนกัน ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าอันไหนกินได้กินไม่ได้ หลานชายเธอถือว่ากินช้ากว่าคนอื่นเสียด้วยซ้ำ“ทำไมล่ะ ฉันก็ทำแบบนี้เมื่อตอนที่พ่อของเขายังเป็นเด็ก เขากินเร็วกว่าหลงเอ๋อร์เสียด้วยซ้ำ” เธอยังรู้สึกว่าป้อนข้าวหลานชายช้าไป แต่เพราะเห็นว่าลูกสะใภ้มีน้ำนมเยอะเลยยังไม่ได้ป้อนเท่านั้
ทางด้านของเสี่ยวฮวาที่ตอนนี้กำลังร้อนใจ เพราะเลยกำหนดส่งของมานานแล้ว เธอกลัวว่าเล่อเยียนจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น เพราะธรรมดาแล้วเล่อเยียนจะไม่มาสายเลยนี่นา เธอเข้าออกภายในบ้านและนอกบ้านทุกๆ 10 นาที จนเมื่อชั่วโมงก่อนเธอตัดสินใจมานั่งรอเล่อเยียนที่หลังพุ่มไม้เดิม ที่เล่อเยียนเคยซ่อนของเอาไว้ เธอฟุบหลับที่หลังพุ่มไม้ จนรู้สึกได้ถึงแรงสะกิด คิดว่าคงเป็นสามีที่มาตามเธอเข้าบ้านอย่างแน่นอน แต่เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมาก็ต้องร้องตะโกนดีใจกระโดดกอดเล่อเยียนด้วยความโล่งอก“เล่อเยียน พี่คิดว่าเธอเป็นอะไรไปเสียอีก พี่มานั่งรอเธอหลายชั่วโมงแล้วก็ยังไม่มา ไม่ได้เกิดเรื่องไม่ดีกับเธอใช่ไหม” เสี่ยวฮวาที่มัวแต่ดีใจที่ได้เห็นหน้าหลี่เล่อเยียน ก็ไม่ทันได้สังเกตว่ามีใครอีกคนที่ติดตามเธอมาด้วย“ฉันไม่ได้เป็นอะไรค่ะ พี่คะนี่หยางหมิงเฉิงสามีของฉันค่ะ และนี่พี่เสี่ยวฮวาค่ะ ทั้งสองคนรู้จักกันไว้นะคะ” หลี่เล่อเยียนแนะนำสามีให้เสี่ยวฮวารู้จัก ส่วนทางด้านของเสี่ยวฮวานั้นตะลึงกับความหล่อของสามีน้องสาวหลี่ไปแล้ว เหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยกเสียจริง เธอยังคิดจินตนาการว่าสามีของหลี่เ
“ภรรยาครับได้โปรด…………” ตอนนี้เขายอมแลกทุกอย่างสำหรับการได้กินเนื้อในครั้งนี้“รับปากมาก่อนสิคะเรื่องส่งสบู่ ฉันรับปากค่ะถ้าหากเกิดอะไรที่ไม่ชอบมาพากลจะเลิกทำทันที ตอนนี้กำลังเป็นไปได้ด้วยดี เราก็ควรจะคว้าโอกาสนี้เอาไว้นะคะ” หยางหมิงเฉิงไม่รอให้เธอพูดจบ“อืม” เขาพูดออกไปได้เพียงเท่านั้นจริง ๆ แล้วก็ประกบเข้ากับริมฝีปากบางนั้นทันที เขาฉกฉวยเอาความหวานจากในโพลงปากที่เฝ้าคิดถึงมานาน ไม่ปล่อยให้เสียเวลามือก็ทำงานไปด้วยในการปลดเปลื้องอาภรณ์ให้ไปพ้นๆ สายตา เหลือเพียงร่างบางอรชรที่เขานั้นเคยชิมมาแล้วทุกตารางนิ้ว ผิวของเธอขาวเนียนละเอียดเหมือนไข่ขาว สวยไปทุกสัดส่วนไม่เว้นแม้แต่จุดอ่อนไหวที่สุด แม้เธอจะผ่านการคลอดลูกมาแล้วหนึ่งคน แต่ทุกอย่างยังดูสดใหม่เสมอ หยางหมิงเฉิงบอกรักภรรยาทุกตารางนิ้วของกายหยาบเธอ เขาไม่เคยมัวเมาอะไรเช่นนี้มาก่อน เธอทำให้เขาเมายิ่งกว่าสุราพันจอกที่ได้ดื่มมันลงไปหลี่เล่อเยียนยอมพลีกายสำหรับงานนี้มาก อะไรที่ไม่เคยทำเธองัดออกมาใช้จนหมด แม้กระทั่งการที่เธอเป็นคนคุมเกม ซึ่งดูเหมือนว่าสามีข