แชร์

เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่
เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่
ผู้แต่ง: เฉียวเหมย

บทที่ 1

ผู้เขียน: เฉียวเหมย
“เฉินมู่ ทำไมคุณยังไม่ไปตายล่ะ!”

“น่าเกลียด! ต่อให้คุณตายก็คงไม่มีใครสนใจหรอก”

“ไร้ยางอาย! คุณมันก็แค่หมาตัวหนึ่งของตระกูลเฉิน”

เป็นเสียงแห่งการสาปแช่งที่ไม่มีที่สิ้นสุด หญิงสาวคิ้วละมุนละไมนอนเอนกายบางอยู่บนเตียงใหญ่ของโรงแรมอย่างเหนื่อนอ่อน พร้อมอดทนต่อความไม่สบายกายใจนี้อยู่พักหนึ่ง ก่อนตัดสินใจกรีดข้อมือของตัวเองโดยไม่ลังเล…

โลกนี้ช่างน่ากลัวเหลือเกิน เธอแทบจะทนไม่ไหว

แม่คะ มันเกินจะรับไหวแล้ว…

เวลาแปดโมงเย็น ณ โรงแรมตี้หาว

ฉินมู่เปิดตามองไปยังห้องที่ไม่คุ้นเคยตรงหน้าตน พร้อมก่นด่าในใจว่า “นี่ฉันทะลุมิติมาใช่ไหม?”

แต่ทะลุมิติเหรอ? ไม่สิ ถ้าจะให้พูดให้ถูก เธอมาเกิดใหม่แล้วต่างหาก

สมาชิกองค์กรฆาตกร เคโจว—ฉินมู่ ทำภารกิจระดับเอสล้มเหลว และความลับก็รั่วไหล

ทว่าขณะรอคอยการพิจารณาคดีรุนแรงที่เกิดขึ้น วินาทีถัดมา หัวใจของเธอก็สั่น และตื่นขึ้นจากเตียงขนาดใหญ่ที่แปลกประหลาดนี้

ฉินมู่ยืนขึ้น พบว่าข้อมือของเธอเจ็บ มือเรียวอีกข้างจึงฉีกผ้าปูที่นอนมาพันรอบข้อมือของตัวเอง

กรีดข้อมือ เสียเลือดมาก ถูกขังอยู่ในห้อง และไม่มีที่พึ่ง!

แขนขาอ่อนแรงจนสลบไสล ถ้าจะบอกไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ก็โง่เกินไปหน่อยแล้วล่ะ!

เสียงหัวเราะเลี่ยนน่าขันดังอยู่ข้างนอกพักหนึ่ง...ดวงตาของฉินมู่มืดลง เธอต้องการที่จะออกจากสถานที่โสมมที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งแห่งนี้โดยเร็วที่สุด

ครั้นออกทางประตูคงเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน ตาเรียวเหลือบมองแวบหนึ่ง เธอก็เห็นหน้าต่างที่เปิดอยู่…

ฉินมู่บิดผ้าปูที่นอนให้เป็นเชือกอย่างรวดเร็ว ก่อนจะออกแรงดึงยึดผ้าปูที่นอนแล้วปีนออกจากชั้นยี่สิบสองลงมาที่ห้องนอนชั้นยี่สิบเอ็ดอย่างราบรื่น

ในห้องนั่งเล่นนอกประตู ฮั่วหยุนเซียวกำลังถือโทรศัพท์มือถืออยู่ พลางข่มขู่คนปลายสายว่า “ฮั่วหยุนเฉิน พี่จะให้โอกาสเธอครั้งสุดท้าย เปิดประตู มิฉะนั้นพี่จะออกไปถลกหนังของเธอ”

ฮั่วหยุนเฉินตัวสั่นอยู่ตรงนั้น “พี่ชาย ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากเปิดให้ แต่ถ้าฉันเปิด แม่ก็จะถลกหนังของฉันออกเหมือนกัน!”

ฮั่วหยุนเซียวยังไม่ทันได้เอ่ยต่อ ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงที่ดูเริงร่าดังขัดออกจากปลายสายเสียก่อน

“ลูกรัก ฟังแม่นะ ในที่สุดแม่ก็หาเจอแล้ว โชคด้านความรักของลูกอยู่ที่นี่ ลูกต้องอยู่ในนั้นทั้งคืน พรุ่งนี้แม่ถึงจะปล่อยลูกออกมา!”

ฮั่วหยุนเซียวปวดหัวจริงๆ “แม่ครับ โชคด้านความรักจะโผล่ออกมาจากห้องได้ด้วยเหรอครับ? มันไม่ใช่วิธีที่แม่จะบังคับให้ผมแต่งงานได้ ผมอยากให้ใจเย็นก่อน แม่จะเอาคนมาขังอยู่ในห้องกับผมอีกแล้วเหรอ แม่ครับ! แม่!”

อีกฝ่ายวางสายโทรศัพท์ไปนานแล้ว ฮั่วหยุนเซียวขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิด

โชคด้านความรักบ้าบออะไรกัน อะไรคือการทำนายดูดวงชะตา อายุเท่าไหร่กันแล้วยังจะเชื่อเรื่องแบบนี้อยู่อีก?

ฮั่วหยุนเซียวปาโทรศัพท์ทิ้ง ดึงเนคไทออกสองสามครั้งอย่างโมโห ชายคอเสื้อของผู้ชายที่ยุ่งเหยิงมันทำให้หล่อขึ้นไม่เป็นสองรองใคร

เขาผลักประตูและเดินเข้าไปในห้องนอน เมื่อเห็นสถานการณ์ในห้องนอน คิ้วและตาของเขาก็เบิกกว้างตาแข็งราวกับน้ำแข็งหนาสามฟุต

บนพื้นห้องนอนมีหญิงสาวที่น่าเวทนาสวมเสื้อผ้าน้อยชิ้นอยู่คนหนึ่ง ผมสีดำยาวของเธอคลุมร่างเกือบทั้งหมด มีเพียงขาอันเรียวขาวของเธอเท่านั้นที่เผยให้เห็น

ผู้หญิงคนนั้นจับหน้าผากตัวเอง และพึมพำว่า “ชีวิตบ้าอะไรกันเนี่ย!”

แต่พอเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู เธอคนนั้นก็เงยหน้าขึ้นสบกับสายตาของฮั่วหยุนเซียว

นัยย์ตาสวยเหลือบมองที่คอเสื้อหลวม ๆ ของชายหนุ่มโดยไม่รู้ตัว พร้อมสูดอากาศเย็นรอบตัวเข้าลึก ๆ

อย่างกับเนื้อและกระดูกที่ส่งไปมาให้หมาป่าผู้หิวโหย!

ฉินมู่ยิ้มอย่างเชื่องช้า และถามหยั่งเชิงว่า “ถ้าฉันบอกว่าเข้าห้องผิด คุณจะเชื่อไหม?”

ฮั่วหยุนเซียวถึงกับเงียบ “…”

ฉินมู่ลุกขึ้น การถูกสแกนจากสายตาของฮั่วหยุนเซียวทำให้รู้สึกเขินอายจริง ๆ ดังนั้นเธอจึงเลิกผ้าห่มและขึ้นไปนอนลงบนเตียง

จนกระทั่งห่มผ้าห่มให้ตัวเองอย่างแน่นหนา เสียงหวานจึงพูดช้าๆ “สุดหล่อ ฉันไม่ทันระวังเลยทำให้เข้าห้องผิด คุณช่วยเปิดประตูให้ฉันหน่อยได้ไหม แล้วฉันจะออกไป ถ้าหากว่าคุณเต็มใจ ขอเสื้อผ้าธรรมดาให้ฉันใส่สักชุดด้วยนะ แล้ววันข้างหน้าฉันจะตอบแทนคุณอย่างดีเลย”

ริมฝีปากอันเรียวบางของฮั่วหยุนเซียวเปิดออกเบา ๆ เสียงทุ้มตอบเพียงสองคำว่า “ไม่มี”

ฉินมู่เกาหัว และถามอย่างต่ออย่างลังเล “ถ้าอย่างนั้น... คุณช่วยเอาเสื้อคลุมให้ฉันได้ไหม? ออกไปได้ ฉันจะจ่ายเงินให้คุณอย่างแน่นอน!”

ฮั่วหยุนเซียวหยุดชะงัก ทว่ามือหนากลับโยนเสื้อคลุมให้ผู้หญิงน่าสงสัยอย่างฉินมู่ ฉินมู่สวมมันอย่างรวดเร็ว และอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจว่าชายคนนั้นรูปร่างสูงเกินไป เสื้อคลุมใหญ่เกินไปที่จะสวมใส่กับเธอ

ฉินมู่ลุกจากเตียงอย่างปราดเปรียว เพื่อรีบออกไปเปิดประตู ในใจก็คิดว่าตัวเองจะได้เป็นอิสระในไม่ช้าแล้ว!

เธอกดที่ลูกบิด แต่ประตูไม่เปิด ลองกดอีกครั้ง ประตูก็ยังคงไม่เคลื่อนไหว

“ประตูถูกล็อคไว้และเปิดไม่ได้หรอก” ฮั่วหยุนเซียวพิงประตู และมองไปที่ใบหน้าที่แดงของหญิงสาวที่มีแววตาประหลาดใจฉายชัดขึ้นมา เขามองเธออยู่แบบนั้นพลันเอ่ย “เช่นนั้น คุณก็คือคนที่เป็นโชคชะตาด้านความรักที่แม่ผมส่งมาใช่ไหม?”

แม้ว่าแม่จะประหม่าและไม่น่าเชื่อถือมาก แต่ในแง่ของการประเมินค่าเลือกคน บรรทัดฐานของแม่ดูมีความแข็งแกร่งน่าพึ่งพอใจ

ฉินมู่ตกตะลึง “ฉัน? คือโชคชะตาด้านความรักเหรอ? บ้าหรือเปล่า คนอื่นมักเรียกฉันว่าดอกไม้กินคนซะมากกว่า”

ฮั่วหยุนเซียว “…”

ในสถานการณ์เดียวกันนี้ ทุกคนถูกขังอยู่ในห้องในโรงแรม ฉินมู่ลองถามอีกครั้งว่า “คุณจะไม่เป็นเหมือนฉันใช่ไหม?”

ฮั่วหยุนเซียว ตะลึง “อะไรนะ?”

เมื่อเห็นหญิงสาวใช้มือโบกพัดเป็นสัญลักษณ์ไม่หยุด เขาก็รู้ได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น

นี่มันความคิดของฮั่วหยุนเฉินใช่ไหม? ให้ตายสิ ถ้าออกไปได้เขาจะฆ่าเด็กนั่น!

ทว่าพอเป็นแบบนี้ ก็คงไม่ใช่แค่ฝีมือของแม่กับฮั่วหยุนเฉินแล้ว แต่พวกเขาก็ไม่ได้บ้าพอที่จะส่งผู้หญิงออกไปในลักษณะนี้

ร่างเล็กเดินหมุนไปมาอย่างกระวนกระวายใจในห้องนั่งเล่น มองไปที่ฮั่วหยุนเซียว ส่วนฮั่วหยุนเซียวก็ยังคงยืนพิงประตูห้องนอนและมองกลับมาที่เธอ ชายคนนั้นมีร่างกายดั่งหยกยาว และอวัยวะบนใบหน้าทั้งห้ามีลักษณะสามมิติซึ่งสะดุดตาจริงๆ

ฉินมู่กลืนน้ำลาย และพูดขู่ว่า

“อยู่ให้ห่างจากฉัน ฉันเกรงว่าตัวเองจะสูญเสียการควบคุมในภายหลัง ถึงเวลานั้นฉันจะไม่รับผิดชอบ แต่ถ้าคุณกล้าคิดลองดี ฉันจัดการคุณแน่นอน!”

ฮั่วหยุนเซียวอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนกล้าพูดกับเขาแบบนี้

ตอนนี้เขาเป็นแค่คนที่โดนเมินงั้นเหรอ?

ฉินมู่สาวเท้าเข้าไปในห้องน้ำเพื่อเปิดฝักบัวให้น้ำเย็นไหลลงมาดับความร้อนในหัว มันทำให้เธอมีสติมากขึ้น

น้ำและเลือดบนข้อมือของฉินมู่ค่อย ๆ หยดลงมาอีกครั้ง เห็นแบบนั้นฮั่วหยุนเซียวก็ขมวดคิ้ว เดินไปหาทันที “ทำไมถึงเลือดไหล…”

ทว่าชั่วพริบตา ฉินมู่ก็เข้ามาใกล้พร้อมฟาดมือโจมตีคอของเขา ฮั่วหยุนเซียวหลับตาอย่างรวดเร็วเพราะความตกใจ ฉินมู่จึงยิ้มเย็นมองเขา “พ่อรูปหล่อ ฉันบอกแล้วอย่าเข้ามาใกล้ฉัน!”

การเคลื่อนไหวของหญิงสาวที่แสนสะอาด คิ้วเรียวโก่งที่ดุดันของเธอ ไม่เหมือนคุณหนูที่บอบบางเหล่านั้นเลย แต่เธอกลับสดใสและงดงาม จนโจมตีหัวใจของฮั่วหยุนเซียวที่เงียบสงบมาเป็นเวลาหลายปีให้สั่นไหวได้โดยไม่มีเหตุผล

ฮั่วหยุนเซียวโอบรอบเอวของผู้หญิงเข้ามาหาตัว พร้อมความสนใจที่ผุดขึ้นมา “ผมเข้ามาใกล้คุณแล้วมันจะยังไงเหรอ? ก็คุณน่าสนใจขนาดนี้ ใครมันจะไปยั้งใจไหวล่ะ”
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
รักนี้ไม่มี ใครเอา
เมื่อจะมาต่ออีกค่ะ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทล่าสุด

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 255

    ฮั่วหยุนเซียวไม่รู้ว่าควรจะสงสารสาวน้อยตรงหน้าดี หรือควรจะภูมิใจในความหนักแน่นในสถานการณ์ที่อันตรายของเธอดีเขายกมือพร้อมขมวดคิ้ว “ฮานเฉิง จัดการให้เรียบร้อย”“ครับ บอส”ฮานเฉิงยกโทรศัพย์อยู่หลายสาย และแล้วนักข่าวที่สมควรจะอยู่ที่นี่ต่อ กลับแยกย้ายกันไปอย่างรวดเร็วเฉิงหยวนกระพริบตา “ทำไมพวกเขาไปกันหมดแล้วล่ะ?”เมื่อฝูงชนสลายตัว สายตาเฉินมู่ก็สะดุดเข้ากับรถเบนท์ลีย์หรูที่จอดอยู่ข้างทาง“ปีศาจร้ายปรากฎตัวแล้ว” เธอกล่าวเฉิงหยวนถือถุงขนมของตัวเองตามไปและถามต่อ “อะไรนะ?”เฉินมู่ช่วยถือของในมือเธอ แล้วพูดว่า “ฉันจะไปส่งเธอที่บ้านก่อนแล้วกัน”ใต้แสงแดดอบอุ่นในฤดูหนาว สองสาวพูดคุยถึงเรื่องในอนาคต และรถหรูระดับโลกอย่างเบนท์ลีย์คันนั้นก็ขับตามหลังมาอย่างช้า ๆฮานเฉิงถามอย่างสุขุม “บอสครับ พวกเราจะขับช้าขนาดนี้จริงเหรอครับ?”ฮั่วหยุนเซียวมองแผ่นหลังหญิงสาวตรงหน้าอย่างสนใจ แล้วพยักหน้า “ขับช้ากว่านี้”ฮานเฉิง “...”เมื่อเดินมาถึงใต้อาคาร เฉินมู่ก็พูดว่า “คุณไปเก็บของให้เรียบร้อยแล้วเราไปโรงพยาบาลกัน”เฉิงหยวนปัดมือไปมา “ไม่ต้องหรอก ฉันไม่ได้บาดเจ็บตรงไหน พวกเขาแค่ขว้างปาผักมาขู่ฉัน

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 254

    เธอลงจากรถแล้วเห็นเฉิงหยวนที่ถูกฝูงชนล้อมเอาไว้ เหมือนแมวที่กำลังตื่นตระหนกตกใจ และไม่มีที่ซ่อนตัวเธอวิ่งฝ่าฝูงชนเข้าไป แล้วดึงเฉิงหยวนเข้ามายังอ้อมอก พร้อมถามอย่างกังวลว่า “เจ็บตรงไหนหรือเปล่า?”เมื่อเฉิงหยวนเห็นเฉินมู่ ก็ถึงกลับปล่อยโฮออกมาเธอยื่นมือไปปัดเศษผักบนตัวของเฉินมู่ออกให้ พร้อมส่ายหัว “ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร”เฉินมู่ประคองเธอให้ลุกขึ้น และแล้วไข่ไก่ฟองหนึ่งก็ลอยมา แต่เฉินมู่ยกมือขึ้นรับไว้ได้อย่างแม่นยํา“แกร๊ก” ไข่ไก่ในมือถูกบดขยี้จนแหลก และไข่ไก่เหลว ๆ ก็ไหลลงมาตามข้อมือของเธอ แววตาอันโหดเหี้ยมของเฉินมู่ทำให้ฝูงชนและนักข่าวต่างค่อย ๆ สงบลงเธอพูดกับหน้ากล้องที่ใกล้ที่สุด ด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า “จรรยาบรรณของนักข่าวคือการนำเสนอความเป็นจริง หวังว่าสื่อมวลชนทุกคนจะตระหนักข้อนี้ไว้หน่อย”พลันมีเสียงดังมาจากด้านหลัง “ความจริงก็คือเฉิงหยวนเป็นมือที่สาม! คนทั้งโลกต่างก็รู้เรื่องนี้!”“ใช่ ๆ คุณเป็นใคร! ทำไมถึงได้แก้ตัวแทนเฉิงหยวน!”เฉินมู่ตอบอย่างเยือกเย็น “เธอไม่ใช่มือที่สาม หวังว่าหลังจากวันที่ความจริงกระจ่างแล้ว ทุกคนในที่นี้ต้องขอโทษต่อการกระทำที่ทำต่อเฉิงหยวน”จ

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 253

    เฉินมู่ซบอยู่ในอ้อมกอดลู่ซีเจ๋อพร้อมเช็ดน้ำตาด้วยท่าทีน้อยใจ “พี่คะ พี่เชื่อฉันสักครั้งเถอะ…”ลู่ซีเจ๋อหมดความอดทนกับเฉินมู่อย่างสิ้นเชิง เขาตะโกนอย่างเหลืออดว่า “ออกไป! ไสหัวออกไป!”เฉินมู่มองท่าทีที่ปวดใจของลู่ซีเจ๋อ แล้วถอนหายใจ “ลู่ซีเจ๋อ คุณ…”ลู่ซีเจ๋อมองหน้าเธอด้วยความโกรธเคืองเฉินมู่จึงได้เงียบลง พลางคิดว่าทำไมต้องปริปากพูดคำนี้ทั้ง ๆ ที่่ก่อนหน้านี้เธองัดหลักฐานเป็นร้อย ๆ อย่างเพื่อให้เห็นถึงจิตใจอันโหดเหี้ยมของเฉินชิงเสวี่ย แต่ลู่ซีเจ๋อก็มองไม่เห็นเธอจะเกลี้ยกล่อมเขาอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์ แถมยังต้องถูกเฉินชิงเสวี่ยตอกกลับว่าเธออิจฉา“คุณคิดจะพูดอะไรอีก?” ลู่ซีเจ๋อมองเธอด้วยโกรธเคืองเฉินมู่ส่ายหัว “ไม่มีอะไรแล้ว แต่มีอะไรอยากจะบอกคู่หมั้นสุดที่รักของคุณหน่อย”เฉินชิงเสวี่ยมองเฉินมู่ด้วยสายตาที่หวาดกลัว “พี่มีอะไรอยากให้ฉันช่วยคะ...”เฉินมู่หัวเราะ แล้วพูดว่า “รบกวนเธอฝากบอกซุยซินยี่กับเฉินชิงโหรวด้วยนะ ว่าเฉิงหยวนจะกลับเข้าสู่วงการบันเทิงเร็ว ๆ นี้”เฉินชิงเสวี่ยจ้องมองเฉินมู่อย่างปวดใจ พลันเอ่ย “พี่คะ เฉิงหยวนเป็นมือที่สาม ทำไมพี่ยังจะคบหากับคนแบบนั้นอยู่อีก?”

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 252

    แผลเป็นที่หน้าเกลียดน่ากลัวเหมือนตัวหนอนเกาะอยู่บนใบหน้า แถมยังมีรอยแดง ๆ อยู่รอบ ๆ เฉินชิงเสวี่ยถอนหายใจอย่างโล่งใจ แผลเป็นยังอยู่!ตอนที่กำลังลองชุดคราวก่อน เธอได้ข่าวว่าเฉินมู่กำลังรักษารอยแผลพวกนี้ มันทำเธอทุรนทุรายไปหลายวันเธอกลัวว่าเฉินมู่จะรักษาร่อยรอยแผลบนใบหน้าจนหายดี เพราะหากใบหน้านี้หายดีแล้ว มันจะกลับมาทำให้ชาวเมืองปินไห่ตกตะลึงอีกครั้ง เฉินชิงเสวี่ยหัวเราะอย่างโล่งใจ แถมยังเย้ยหยันเฉินมู่ต่อว่า “ได้ยินว่าเธอไปรักษาใบหน้า ทำไมยังเป็นแบบนี้อยู่ล่ะ?”เธอชี้ไปยังใบหน้าของเฉินมู่ พร้อมหัวเราะเยาะเย้ย “เธอดูไม่ออกเหรอว่ามันอาการหนักกว่าเมื่อก่อนอีกน่ะ?”“เฉินมู่ อย่าพยายามต่อไปเลย หน้าของเธอยังไงก็รักษาไม่หายหรอก เธอต้องแบกหน้าที่เต็มไปด้วยรอยแผลแบบนี้ไปตลอดชีวิต เธอจะถูกผู้คนหัวเราะเยาะตลอดเวลา และถูกทอดทิ้งตลอดไป”เฉินมู่ง้างมือขึ้นแล้วกระแทกไปที่ใบหน้าของคนเจ็บอย่างแรง ใบหน้าของเฉินชิงเสวี่ยหันไปตามเสียงดัง “เพี๊ยะ”เฉินชิงเสวี่ยโดนตบจนโกรธมาก เธอจ้องมองเฉินมู่ด้วยความเคียดแค้น “สมควร ใครให้เธออยู่เป็นหนามยอกอกในตระกูลเฉิน เธอควรตายไปพร้อมกับแม่ของเธอตั้งนานแล้ว!”

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 251

    “นี่คุณ!” ลู่ซีเจ๋อถูกเฉินมู่ปั่นหัวจนออกอาการโกรธอย่างเห็นได้ชัด เขาไม่เคยเจอผู้หญิงที่ทั้งป่าเถื่อนและชั่วร้ายอย่างเธอมาก่อนเฉินชิงเสวี่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนอีกครั้ง “ไม่เป็นไรหรอก พี่สาวก็แค่ล้อเล่น คุณไปเถอะ”เฉินชิงเสวี่ยออดอ้อนซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าอยากจะทานของหวานหน้าโรงพยาบาล ลู่ซีเจ๋อจึงได้แต่ทำตามคู่หมั้น แต่ก่อนเดินออกจากห้องก็ไม่ลืมที่จะถลึงตาใส่เฉินมู่อีกหนึ่งทีทันทีที่เขาเดินออกไป เฉินมู่ก็ขมวดคิ้วมองไปทางร่างบนเตียงอย่างเร็ว “เหลือเราแค่สองคนแล้ว มีอะไรอยากพูดไม่ใช่เหรอ?”ครั้งแรกเฉินลี่ซานสั่งให้เธอมาที่นี่ ครั้งที่สองลู่ซีเจ๋อก็พาเธอมาด้วยตัวเองอีกหนึ่งครั้ง เฉินชิงเสวี่ยเป็นคนวางแผนทั้งหมดให้เฉินมู่มาที่นี่ ไม่รู้ว่าเธอจะมีแผนการอะไรอีกเฉินชิงเสวี่ยเปลี่ยนสีหน้าในทันที ใบหน้าอ่อนหวานเมื่อสักครู่หายไปอย่างไร้ร่องรอยเธอมองหน้าเฉินมู่อย่างหงุดหงิด พร้อมพูดว่า “เธออย่ายุ่งเรื่องของตระกูลซุย!”เฉินมู่หัวเราะ ก่อนถามว่า “ทำไมเหรอ? ตระกูลซุยทำไมเหรอ?”เฉินชิงเสวี่ยพูดตรง ๆ ว่า “ฉันเตือนเธอด้วยความหวังดี ตระกูลซุยกับตระกูลเราทำธุรกิจร่วมกันมา ถ้าเธอทำงานแต่งซินยี่

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 250

    เฉินมู่ยักไหล่เล็กน้อย “ถึงฉันจะทำร้ายเธอจนตาย ฉันก็จะไม่รู้สึกผิด”ลู่ซีเจ๋อขมวดคิ้ว “เฉินมู่ คุณทำร้ายเสวี่ยเอ๋อถึงขั้นนั้น เธอยังไม่ถือโทษโกรธ แค่บอกให้คุณอย่าเข้าไปยุ่งกับตระกูลซุย แค่คุณไปเยี่ยมเธอบ้าง มันยากนักหรือไง?”เธอหัวเราะเยาะเล็กน้อย “แค่เธอบอกว่าไม่ถือโทษโกรธฉัน คุณก็เชื่อเหรอ? ลู่ซีเจ๋อ ฉันสงสัยจริง ๆ ว่าในสมองคุณมันมีรอยหยักบ้างไหม”ลู่ซีเจ๋ออึ้งไปสักพัก เขาไม่ใช่คนที่ทะเลาะวิวาทกับใครบ่อย ๆ ร่างสูงลากเฉินมู่ไปเรื่อย ๆ แล้วพูดว่า “ไปโรงพยาบาลกับผม!”ช่วงเวลาเลิกเรียนนักศึกษาทุกคนเดินลงจากอาคาร ผู้คนเดินผ่านไปผ่านมาตรงนั้น และแล้วทั้งสองก็เริ่มตกเป็นเป้าสายตาของผู้คนเฉินมู่ไม่อยากตกเป็นประเด็นของคนทั้งมหาวิทยาลัยในวันพรุ่งนี้ จึงสะบัดมือออกอย่างจำใจและตอบว่า “ปล่อย ฉันเดินเองได้”ลู่ซีเจ๋อปล่อยมือเธอ เฉินหยวนจึงรีบวิ่งมาดึงแขนเฉินมู่ไว้ “ฉันไปเป็นเพื่อนนะ”เฉินมู่แตะมือเธอเบา ๆ “ไม่เป็นไร ไม่มีอะไรหรอก เธอกลับหอพักไปก่อนเถอะ”เฉินหยวนพูดด้วยความเป็นห่วงอีกครั้ง “งั้นเธอต้องระวังตัวนะ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นต้องรีบโทรหาฉันนะ หรือไม่ก็… โทรหาตัวรวจเลย!”เฉินหยวนหัวเ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status