ณ ผับเทอมินอล
ผับเทอมินอลเป็นผับหรูระดับเฟิร์สคลาส ลูกค้าที่มาใช้บริการส่วนใหญ่จะเป็นสมาชิกที่ต้องเสียรายปีๆ สามหมื่นห้าพันบาทสำหรับสามชิกระดับโกล์ดคลาส ส่วนสมาชิกทั่วไปเสียรายปีๆ ละหนึ่งหมื่นบาท
ผับแห่งนี้แบ่งเป็นหลายส่วน จำแนกตามระดับของสมาชิก หากเป็นสมาชิกทั่วไปจะใช้บริการได้เพียงส่วนของผับ จะให้ความบันเทิงเสมือนผับทั่วๆ ไป สมาชิกระดับโกล์ดคลาสจะใช้บริการได้ทุกส่วน ส่วนที่สองจะเป็นห้องรับรองส่วนตัวขนาดห้องก็แตกต่างกันไป ห้องละห้าคนบ้าง สิบคนบ้าง ยี่สิบคนบ้างตามแต่สมาชิกคนนั้นๆ ส่วนที่สามคือวีไอพีที่มีความพรั่งพร้อมครบครัน ไม่ว่าจะเป็นห้องประชุมเล็กๆ ห้องปาร์ตี้ขนาดบรรจุคนได้ราวสามสิบคนและห้องนอนไว้พักผ่อน
ในส่วนของผับค่ำคืนนี้คนค่อนข้างหนาตา อาจเป็นเพราะเป็นช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ เจ้าของธุรกิจรวมทั้งสมาชิกทั่วไปต่างมาผ่อนคลายความตึงเครียดจากงานที่โหมหนักมาทั้งสัปดาห์ หรือจากชีวิตส่วนตัวที่รุมเร้า ต้องการพักให้หายเครียด
หนึ่งในจำนวนคนเป็นร้อยที่มาใช้บริการคือดารานักแสดงชื่อดังของเมืองไทย เธอเลือกที่จะนั่งโต๊ะริมในสุดของผับ ใช้แอลกอฮอล์ดับความเสียใจที่ตนเองได้รับ
“พี่ทัช ทำไม ทำไมต้องเป็นอย่างนี้ด้วย ฮือ”
นิสารัตน์รำพึงรำพันความเสียใจออกมาเป็นคำพูดและน้ำตา พร้อมกับกระดกดื่มบรั่นดีที่เหลือจนหมดแก้ว จากนั้นก็เทน้ำสีอำพันลงไปในแก้วเกือบครึ่งแก้ว กระดกดื่มรวดเดียวจนหมด หวังจะให้เครื่องดื่มดีกรีแรงดับความทุกข์ ความเสียใจและการอกหักของตน
วันนี้คือวันแต่งงานของกรกวินทร์อดีตคนรักของตน เขาเข้าพิธีวิวาห์กับหญิงสาวที่บิดาเลือกให้ เธอยังจำได้อย่างแม่นยำในวันที่เขาบอกเลิกเธอ จำได้ดีไม่มีวันลืมและนับตั้งแต่วันนั้น เธอก็หาความสุขทางใจไม่ได้เลย เธอจมอยู่กับกองทุกข์กองใหญ่ที่ฝังแน่นลึกในจิตใจ ใครจะลืมความเจ็บปวดได้เล่า ในเมื่อกรกวินทร์คือรักแรกของนิสารัตน์ วันที่เขาบอกเธอว่าจะแต่งงาน เป็นวันที่จิตใจสาวมืดมน
“เราเลิกกันนะฟ้า” คำพูดไม่กี่คำเรียกความตกใจระคนอึ้งให้กับคนที่ได้ยินทันที
“พี่ทัชพูดว่าอะไรนะคะ” เธอถามเสียงสั่น ย้ำถามเพื่อความแน่ใจ เพราะเธอคิดว่าเธออาจจะหูฟาดหรือไม่เขาก็อำเธอเล่น
คนถูกถามสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ราวกับเรียกพลังฮึดที่หลบซ่อนในใจ “พี่กำลังจะแต่งงาน พี่จึงคิดว่า เราสมควรจะเลิกกัน”
คราวนี้นิสารัตน์อ้าปากค้าง ดวงตาตื่นตกใจ หัวใจที่กำลังเต้นเจ็บปวดราวกับมีมีดมากรีด น้ำตาล่วงผล็อยตามความรู้สึกที่ได้รับ ความฝัน สิ่งที่คาดหวังไว้พังทลายลงมาในพริบตา
กรกวินทร์กำลังจะแต่งงาน แต่งงานอย่างนั้นหรือ เขาจะแต่งกับใครได้เล่าถ้าไม่ใช่เธอ นิสารัตน์ทั้งงงและสับสนไปหมด จับต้นชนปลายไม่ถูก เธอไม่เข้าใจเลยว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร อยู่ๆ เขาจะแต่งงานกับหญิงอื่นได้อย่างไรกัน
“เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้ยังไงคะพี่ทัช มันเกิดขึ้นได้ยังไงคะ” นิสารัตน์ถามเสียงเครือสั่น น้ำตาหยดไหลเป็นทาง ความเสียใจพลุ่งพล่านในอก
“มันไม่ใช่ความต้องการของพี่ คุณพ่อบังคับให้พี่แต่งงานกับผู้หญิงที่พี่ไม่รู้จัก ตอนแรกพี่ไม่ยอมแต่คุณแม่ขอร้องพี่ พี่ทนเห็นคุณแม่ร้องไห้ไม่ได้ พี่ขอโทษนะฟ้า พี่เสียใจ”
ไม่ใช่เพียงแค่นิสารัตน์เท่านั้นที่เสียใจ กรกวินทร์เองก็ได้รับรู้ซึ้งถึงความรู้สึกนั้นเช่นกัน มองหน้านิสารัตน์ที่ปล่อยโฮออกมาด้วยความสงสาร แม้จะรู้ดีว่า การที่เขาบอกความจริงจะทำให้คนรักเสียใจ แต่เขาด็คิดว่าทางนี้เป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้ว หากเขาไม่พูด ไม่บอกเธอตรงๆ ปล่อยให้เธอรู้เอง ความรู้สึกที่นิสารัตน์ได้รับคงจะแย่กว่านี้ อีกทั้งคงจะเสียความรู้สึกด้วย
“พี่ทัช ฮือ” นิสารัตน์จมอยู่กับความทุกข์โศกเสียใจอยู่นานเป็นสัปดาห์นับตั้งแต่วันที่เธอรู้เรื่อง และยิ่งสื่อสิ่งพิมพ์ประโคมข่าวกันคึกโครม ความเสียใจเพิ่มพูนขึ้นหลายเท่า ซ้ำร้ายเธอยังถูกนักข่าวรุมล้อมขอสัมภาษณ์เรื่องคนรักของเธอที่วิวาห์ฟ้าแลบกับหญิงอื่น นิสารัตน์ต้องทนเผชิญกับความชอกช้ำระกำทรวงซ้ำแล้วซ้ำเล่า คืนนี้เธอจึงมาระบายความรู้สึกทั้งหลายในผับแห่งนี้ ผับที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัว ไม่มีใครมาปักหมุดความเสียใจ
ดัตถพงศ์เดินเข้าในผับเทอมินอลตามเวลานัดหมายกับเพื่อนรุ่นเดียวกันตอนที่เรียนมหาวิทยาลัย นัดหมายในคืนนี้เขาบอกเพื่อนๆ ไว้แล้วว่า จะมาช้าเนื่องจากต้องไปงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสของเพื่อนสนิทก่อน พอมาถึงเขาก็เดินตรงไปยังโต๊ะของเพื่อนกลุ่มนั้นทันที
ระหว่างที่ดัตถพงศ์กับเพื่อนกำลังสังสรรค์กันอยู่ เสียงของพิเชษฐ์ ชายหนุ่มจอมเจ้าชู้ก็เอ่ยถึงใครคนหนึ่งที่นั่งอยู่ตรงมุมของผับ
“เฮ้ย! อิฐ นายลองดูสิว่า ผู้หญิงที่นั่งอยู่บนโต๊ะหัวมุมใช่ฟ้า ดาราที่เพื่อนนายหักอกหนีไปแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่นรึเปล่า”
พิเชษฐ์เอ่ยถามอย่างไม่มั่นใจว่าจะใช่นิสารัตน์หรือไม่ เพราะท่าทางของเธอคนนั้นเหมือนกับกำลังเมา นั่งคอพับคออ่อน แล้วที่เขาถามดัตถพงศ์เป็นเพราะผู้ชายที่วิวาห์ฟ้าแลบกับหญิงอื่นคือเพื่อนสนิทของคนที่ถูกถาม ซึ่งน่าจะให้คำตอบได้ดีที่สุด
ดัตถพงศ์หันไปมองตามนิ้วของพิเชษฐ์ที่ชี้ไปยังโต๊ะตัวดังกล่าว เขาเพ่งสายตาฝ่าความมืดสลัวภายในผับไปยังใบหน้าของหญิงสาวรายนั้น เพียงแค่เขามองปราดเดียวก็รู้ได้ในทันทีว่าคือใคร
“ใช่ฟ้าจริงๆ ด้วย”
“สงสัยมานั่งย้อมใจแน่ๆ ดูสิเมาหัวทิ่มเลย” พิเชษฐ์สันนิษฐานตามที่เห็น
“มันก็น่านั่งดื่มย้อมใจอยู่หรอก จะมีใครบ้างที่ไม่เสียใจที่อยู่ๆ แฟนของตัวเองไปแต่งงานกับคนอื่น แถมเป็นข่าวคึกโครม ออกงานที่ไหนมีนักข่าวรุมล้อมขอสัมภาษณ์ที่นั่น เท่ากับว่าตอกย้ำความเจ็บปวดชัดๆ เฮ้อ! เห็นแล้วก็อดสงสารไม่ได้”
ศราวุฒิเพื่อนอีกคนหนึ่งพูดขึ้น สายตาจับจ้องไปยังร่างของนิสารัตน์ที่ดูเหมือนว่าจะควบคุมสติไม่อยู่ นั่งคอพับคออ่อน กระดกดื่มแอลกอฮอล์ต่อเนื่อง ราวกับว่าจะให้เครื่องดื่มในมือดับความทุกข์ในจิตใจ
“ว่าแต่เพื่อนของนายทำไมอยู่ๆ ถึงได้แต่งงานกับคนอื่นล่ะ” พิเชษฐ์เก็บความสงสัยไว้ไม่อยู่ เอ่ยถามให้ตนคลายความสงสัยนั้น
Chapter 80“เรากลับโรงแรมกันเถอะค่ะ ฟ้าหิวแล้ว”ผู้พูดไม่ได้หิวเหมือนที่ปากบอก เธอต้องการกลับไปพักผ่อนทั้งร่างกายและจิตใจมากกว่า เวลานี้จิตใจของเธอไม่สู้ดีเอาเสียเลย มันหม่นหมอง เศร้าสร้อย จะว่าไปแล้ว ภาพที่ทั้งคู่ยืนจุมพิตกันในสถานที่ที่ไม่เหมาะสมเป็นเพราะนิสารัตน์เอง หากเธอไม่ใจอ่อน ไม่ใจง่าย ห้ามปรามเขาบ้าง ความลับมันก็ยังคงเป็นความลับต่อไป เห็นทีเธอต้องใจแข็งบ้างแล้ว“พี่ก็หิวเหมือนกัน หิวฟ้าจนแสบท้องแล้วนะเนี่ย”เขาทำหน้ากรุ้มกริ่ม มองเธอตาพราว ก่อนจะติดเครื่องยนต์แล้วทะยานรถออกไปบนถนน มุ่งตรงไปยังโรงแรมสุดหรูระหว่างทางนิสารัตน์นั่งนิ่งเงียบ ไม่ค่อยพูดจาหยอกล้อเหมือนทุกครั้ง เธอจะเสมองออกไปนอกหน้าต่างรถ ไม่หันมามองหน้าคนขับ แม้แต่ยามที่เขาเอ่ยถามหรือชวนคุย ปากจะเอ่ยโต้ตอบเพียงไม่กี่คำ แต่สายตานั้นก็ยังไม่มองหน้าเขาอยู่ดี ท่าทางที่เปลี่ยนไปแบบหน้ามือเป็นหลังมือของดาราสาว ทำให้คนช่างสังเกตรู้สึกสงสัยขึ้นมา ดิตถพงศ์กำลังสงสัยว่า เธอเป็นอะไร อาการแบบนี้จะต้องมีเรื่องรบกวนจิตใจเธอแน่นอน ในเมื่อนิสารัตน์ไม่อยากพูด ไม่อยากคุย ไม่อยากมองหน้าเขา ดิตถพงศ์ก็ไม่ฝืน เขาทำหน้าที่พลขับต่อไปโดย
Chapter 79“เพราะมันเป็นเรื่องสำคัญไง เป็นเรื่องที่พี่จะให้ใครรู้ไม่ได้ เพราะถ้ามีใครรู้เรื่องนี้ คนที่จะเสียชื่อเสียงคือ ฟ้าไม่ใช่พี่”นิสารัตน์รู้สึกแปลกๆ กับคำพูดของผู้จัดการส่วนตัว ราวกับว่าเรื่องที่นุชนารถจะคุยกับเธอนั้นเป็นเรื่องร้ายมากกว่าเรื่องดี“เรื่องอะไรคะพี่นุช” นิสารัตน์ถาม นุชนารถยังไม่ตอบ กลับล้วงหยิบอะไรบางอย่างในกระเป๋าออกมา แล้วยื่นส่งให้ดาราสาว“ดูเอาเอง” ชนารถเอ่ยขึ้นขณะที่มือนุ่มของนิสารัตน์หยิบซองสีน้ำตาลขนาดเล็กไปไว้ในมือ และสอดมือหยิบของด้านในออกมาดูดวงตาของนิสารัตน์ขยายกว้าง ใบหน้าซีด มือสั่นด้วยความตกใจ เมื่อเห็นรูปถ่ายหลายใบที่อยู่ในมือ จะไม่ให้เธอตกใจได้อย่างไร ในเมื่อคนที่อยู่ในรูปภาพในมือคือตัวเธอเอง แล้วยังมีอีกหนึ่งหนุ่มที่อยู่ในภาพนั้นด้วย หนุ่มคนนั้นคือ ดิตถพงศ์ และในภาพยังบอกให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่มากกว่าเพื่อนหรือคนรู้จัก เพราะเขาและเธอกำลังกอดและจูบกันอยู่ในลานจอดรถของคอนโดมิเนียมที่ทั้งคู่อาศัยอยู่“พี่นุชได้ภาพนี้มาจากไหนคะ” นิสารัตน์ถามเสียงสั่น“ข้อนั้นฟ้าไม่ต้องรู้ก็ได้” นุชนารถคิดว่านิสารัตน์ไม่จำเป็นต้องรู้คำตอบนี้ เพราะมีอย่างอื่นที่นิส
Chapter 78“นุดีต้องขออภัยที่ไม่สามารถบอกรายละเอียดเรื่องสูตรได้ค่ะ เพราะนุดีก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ คนที่รู้สูตรคือคุณแพรพิไล น้องสาวของคุณภาคิน หุ้นส่วนอีกคนหนึ่งของร้านนี้ค่ะ เพราะเธอเป็นคนคิดสูตรนี้ขึ้นมาเอง แต่นุดีพอจะบอกรายละเอียดเรื่องการนวดได้ค่ะ นวดทองคำครบสูตรมีทั้งหมดห้าขั้นตอนค่ะ ขั้นตอนแรกคือการอบไอน้ำ ขั้นตอนที่สองนวดด้วยโคลนภูเขาไฟนำเข้าจากประเทศโรมาเนียซึ่งว่ากันว่ามีสรรพคุณดีที่สุดในโลกขั้นตอนที่สามนวดด้วยน้ำมันหอมระเหยบริสุทธิ์ที่อุดมไปด้วยโมเลกุลเล็กๆ และวิตามินหลายชนิดที่จะแทรกซึมเข้าไปในผิวทำให้ผิวเปล่งปลั่ง ต่อมาก็มาแช่ตัวด้วยน้ำนม หลังจากนั้นก็นวดด้วยทองคำสูตรพิเศษที่อุดมไปด้วยอาหารผิว และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระฟื้นฟูสภาพผิว และปรับสมดุลของร่างกายด้วยค่ะ พอทำทุกขั้นตอนแล้วเสร็จ คุณพริ้งเพราจะรู้สึกสบายตัว ความเมื่อยล้าหายเป็นปลิดทิ้ง ผิวกายรู้สึกกระชับเบาสบายมีชีวิตชีวาค่ะ”นุดีบอกรายละเอียดของการนวดทองคำเท่าที่เธอจะบอกได้ให้พลูกค้ากิตติมศักดิ์ได้รับรู้ ซึ่งสรรพคุณที่ได้รับจากการนวดทองคำก็ทำให้นางพึงพอใจเป็นอย่างมาก“มันดีขนาดนั้นเลยเหรอ” พริ้งเพราถามกลับ “ราคามัน
Chapter 77“พี่ทัช”กรกวินทร์ยิ้มอ่อนโยนให้ภรรยา จุมพิตดวงตาที่มีน้ำใสๆ เอ่อคลอแผ่วเบา นุ่มนวล“พี่รู้ว่าพี่ทำร้ายแพรวไว้มาก ทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจ พี่ยอมรับผิดและขอโทษสำหรับทุกเรื่องที่ผ่านมา ต่อไปนี้พี่จะทะนุถนอมแพรว ดูแลแพรวและรักแพรว ชดเชยความผิดทั้งหมดด้วยหัวใจของพี่เอง”พูดจบเขาก็ประทับริมผีปากลงบนกลีบปากนุ่ม มอบจุมพิตหวานล้ำให้กับแพรวพรรณรายด้วยความรักทั้งหมดที่มี ซึ่งเธอเองก็ตอบรับจูบของสามีด้วยความเต็มใจ “แพรวล่ะ รักพี่หรือเปล่า รักผู้ชายเลวๆ คนนี้ไหม”เขาถามหลังจากที่ถอนจุมพิต มองนัยน์ตาหวานเยิ้มของเธออย่างลุ่มหลงและรักสุดหัวใจ แพรวพรรณรายคลี่ยิ้มก่อนจะเปิดปากตอบ“รักค่ะ” เธอตอบสั้นๆ พร้อมท่าทางเหนียมอาย หลายคนเคยพูดให้เธอได้ยินว่า ความรักมักวิ่งเข้ามาหาโดยไม่รู้ตัว มารู้ตัวอีกทีก็รักคนคนนั้นหมดทั้งใจ แพรวพรรณรายเพิ่งรู้ว่า คำพูดนี้เป็นความจริง มันเกิดขึ้นจริง เกิดขึ้นกับเธอ กรกวินทร์รักเธอโดยไม่รู้ตัว เธอเองก็รักเขาโดยไม่รู้ตัวเช่นกันกรกวินทร์ยิ้มกว้าง ใจเต้นแรงคล้ายกับว่าตนเองเป็นวัยรุ่นที่ริอ่านมีความรักครั้งแรก ตื่นเต้นกับคำบอกรักของฝ่ายหญิง รู้สึกดีใจบอกไม่ถูกที่ได้
Chapter 76“ขอบใจมากที่เป็นธุระให้”กรกวินทร์พอใจกับการทำงานของสุเมธที่ไม่เคยทำให้เขาผิดหวัง ครั้งนี้ก็เช่นกัน“ยินดีครับคุณทัช”“เรามาคุยเรื่องงานกันต่อดีกว่า เรื่องเซ็นสัญญากับบริษัท...”เมื่อคุยเรื่องธุระเร่งด่วนเสร็จสิ้น กรกวินทร์ก็วกเข้าเรื่องงานในบริษัทเป็นลำดับต่อมา สุเมธที่เตรียมเอกสารเรื่องสัญญาดังกล่าวมาด้วย รีบหยิบเอกสารนั้นออกมาให้เจ้านายอ่าน และบอกรายละเอียดเพิ่มเติม รวมถึงเรื่องงานในส่วนอื่นๆอีกหนึ่งชั่วโมงต่อมาอาหารสามอย่างก็ถูกตระเตรียมไว้บนโต๊ะอาหารพร้อมกับข้าวสวยร้อนๆ ก่อนที่ทั้งสามจะลงมือรับประทานอาหารแสนอร่อยตรงหน้า ซึ่งเธอก็ได้รับคำชมจากกรกวินทร์กับสุเมธเรื่องความอร่อย คนถูกชมยิ้มแก้มปริ ดีใจที่อาหารทั้งสามอย่างถูกปากชายหนุ่มทั้งสองคน โดยเฉพาะคำชมจากสามีที่ทำให้เธอมีความสุขมากขึ้น และนี่คืออาหารมื้อแรกที่แพรวพรรณรายทำให้สามีทาน แน่นอนที่ว่าจะมีอีกหลายมื้อตามมาเสียงสะอื้นเบาๆ ที่ดังมาจากคนตัวเล็กที่นอนอยู่บนเตียง ทำให้คนที่ก้าวออกมาจากห้องน้ำชะงักเท้า ทอดสายตาไปยังร่างแน่งน้อยของภรรยาด้วยความสงสาร เพราะรู้ดีว่าสาเหตุของเสียงสะอื้นนั้นมาจากอะไร ถึงแม้เขาจะดูแลเอาใ
Chapter 75 “ไม่ต้องพูดก็ได้นะ ครางอย่างเดียวก็พอ”เขากระซิบกระซาบไล่หลังภรรยา ที่เวลานี้เขินหนักมากกว่าเดิม หน้าร้อนผ่าวและไม่กล้าหันไปมองหน้าชายตัวโตที่เข็นรถเข็นตามหลัง ทั้งคู่ใช้เวลาซื้อของราวหนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้นจึงเดินทางกลับที่พัก“รถใครคะพี่ทัช” แพรวพรรณรายเอ่ยถามเมื่อเห็นรถยนต์คันหนึ่งจอดอยู่ในโรงรถ“รถของสุเมธ ลูกน้องของพี่” กรกวินทร์ตอบขณะที่เท้าเหยียบเบรกให้รถหยุด “พอดีพี่มีเรื่องด่วนให้เมธจัดการ เลยโทรเรียกให้มาหาพี่ที่นี่”“อ๋อค่ะ”แพรวพรรณรายทำเสียงรับรู้ ก่อนจะก้าวลงจากรถพร้อมกับช่วยสามีถือถุงใส่ข้าวของที่ซื้อมา แต่ทว่าถุงในมือของหญิงสาวก็ถูกมือใหญ่ของกรกวินทร์แย่งไปถือไว้เอง จากนั้นทั้งคู่จึงพากันเดินเข้าไปในบ้าน“สวัสดีครับคุณทัช คุณแพรว”สุเมธที่ยืนรับลมทะเลอยู่หน้าบ้านติดชายหาดรีบหมุนตัวเข้ามาในบ้านเมื่อเห็นเจ้านายหนุ่มเดินเข้ามาพร้อมกับภรรยา เขาจึงทักทายทั้งสองอย่างนอบน้อม เอื้อมมือไปหยิบถุงหลายใบในมือของกรกวินทร์มาถือไว้เอง จากนั้นก็เดินถือถุงไปไว้ในห้องครัว แล้วเดินกลับมาหาเจ้านาย“แพรวขอตัวไปทำกับข้าวก่อนนะคะ พี่ทัชจะได้คุยธุระกับพี่เมธ” แพรวพรรณรายเอ่ยกับสาม