แชร์

บทที่ 6 จับตาดู

ผู้เขียน: รีล์ม
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-11 12:04:56

ซ่า~ ซ่า~

เสียงสายน้ำเย็นฉ่ำไหลออกมาจากฝักบัวตกกระทบร่างกายไหลลงสู่พื้น เด็กสาวยืนนิ่งเงียบราวกับคนไร้วิญญาณในห้องน้ำส่วนตัวเมื่อกลับมาถึงหอพัก ปล่อยให้น้ำสะอาดชำระล้างความสกปรกทั่วเรือนร่างซึ่งเต็มไปด้วยร่องรอยความป่าเถื่อน

"คุณมันใจร้าย ฮึก ฮือ" เสียงสะอื้นไห้ดังสลับกับเสียงสายน้ำไหลเป็นระยะ

ไม่เคยนึกฝันภายใต้ใบหน้าหล่อเหลาของแม็กเครย์ที่เป็นนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงแต่เขากลับบ้ากามและข่มเหงเด็กฝึกงานอย่างเธอได้ลงคอ

นานนับชั่วโมงที่ลิตาร้องไห้จนแทบไม่เหลือน้ำตา เธอคว้าหยิบผ้าขนหนูพันตัวแล้วจึงค่อยๆ เดินออกมาแต่งตัว

ครืด~ ครืด~

โทรศัพท์มือถือดังขึ้นเรียกความสนใจให้ลิตาที่พึ่งสวมเสื้อผ้าเสร็จรีบเดินมาที่กระเป๋าสะพาย ก่อนจะล้วงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อเห็น 'สิริ' โทรมา

"...ค่ะ พี่สิ"

[วันนี้ไม่มาทำงานหรือไง]

"ลิตารู้สึกไม่ค่อยสบายค่ะ เลยจะขอลา"

[อ้าวเหรอ เมื่อคืนพี่ให้เรากลับดึกไปหน่อยเลยไม่สบายละสิ]

"เออ..." มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับสิริสักนิด แต่เธอก็ไม่สามารถเล่าเรื่องทั้งหมดให้คนในสายฟังได้ ได้แต่ปล่อยให้สิริคิดไปเองตามนั้น

[งั้น..ถ้าไม่ไหวยังไงก็พักก่อน เดี๋ยวพี่แจ้งฝ่ายบุคคลให้ ทานยารึยัง]

"ทานแล้วค่ะ ขอบคุณพี่สินะคะ"

[อืม หายไวๆ] รอจนสิริวางสาย เธอจึงวางโทรศัพท์มือถือไว้ที่หัวเตียง

"หนูคิดถึงแม่นกจังเลยค่ะ" ลิตาพึมพำเพียงลำพังถึงหนึ่งในผู้ดูแลเธอที่มูลนิธิ ซึ่งเด็กสาวนับถือท่านเหมือนแม่แท้ๆ แต่ท่านได้จากโลกนี้ไปเมื่อสองปีก่อน เธอได้แต่ปาดน้ำตาแล้วบอกให้ตัวเองเข้มแข็ง

@คฤหาสน์แม็กเครย์

ก๊อก ก๊อก

เสียงเคาะประตูดังขึ้นสองครั้ง ทำให้แม็กเครย์ที่กำลังยืนทดสอบอาวุธปืนอยู่ในห้องใต้ดินของคฤหาสน์ วางอาวุธปืนในมือแล้วหันมองลูกน้องคนสนิทที่เปิดประตูเข้ามาหลังได้รับอนุญาต

"ขออนุญาตครับ ผมไปส่งเด็กคนนั้นที่หอพักเรียบร้อยแล้วครับ"

"..." มาเฟียหนุ่มกลับนิ่งเฉยแล้วบรรจุกระสุนใส่ในแม็กกาซีนของปืน

"นายจะปล่อยไปเหรอครับ"

"มึงสนใจรึไง" เขาถามเสียงเรียบ แต่สายตายังคงจดจ่อที่กระบอกปืน

"ป่าวครับ ผมไม่เคยเห็นนายปล่อยคนที่รู้ความลับของนายไปสักคน"

"หึ..คอยจับตาดูเงียบๆ ก็พอ"

"ได้ครับ"

"อ้อ...วันนี้กูไม่เข้าบริษัท"

"แต่วันนี้มีประชุมผู้ถือหุ้น นายจะไม่เข้าไปร่วมประชุมหน่อยเหรอครับ"

"ยกเลิกไปก่อน กูเหนื่อย"

"..." เข็มทิศทำหน้างุนงงแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป เมื่อเจ้านายได้พูดสวนทางกับการกระทำ ทั้งที่ปากบอกว่าเหนื่อย แต่ทว่าลูกน้องที่ยศต่ำกว่ารายงานว่า เห็นแม็กเครย์ก็ไปออกกำลังกายตามปกติ หลังจากนั้นก็มาทดสอบอาวุธปืนโดยที่เจ้านายหนุ่มแทบไม่ได้สนใจจะพักผ่อน

"มึงมีอะไรก็ไปทำ" จบประโยค ลูกน้องคนสนิทก้มหัวเป็นเชิงรับคำสั่งแล้วจึงปลีกตัวออกไป

ตัดภาพมาที่หน้าธนาคารแห่งหนึ่ง ชายวัยหลังเกษียณกำลังลงจากรถหรู แล้วจึงหยุดยืนอยู่ชั่วครู่ตามกำลังวังชาของตนเอง

"นายท่านจะเข้าไปธนาคารคนเดียวแน่เหรอครับ"

"เออ กูไม่ได้แก่จนทำอะไรด้วยตัวเองไม่ไหวนะ" เขาหันไปว่าให้ลูกน้อง อะไรที่ทำด้วยตัวเองได้บ้างเขาก็อยากทำเองถึงแม้จะมีเหล่าบริวารให้คอยเรียกใช้

"ครับ ถ้าท่านเสร็จธุระแล้วก็โทรตามผมได้เลยนะครับ"

"อืม" ในขณะที่เขาเดินไปตามฟุตบาทพร้อมด้วยไม้เท้าคู่ใจเพื่อจะเข้าไปในธนาคาร เขาสวนกับเด็กสาวที่มีท่าทีอิดโรยกำลังหยุดยืนหลับตาแล้วนวดคลึงขมับเบาๆ

"หนู…หนูเป็นอะไรหรือเปล่า" เขาถามด้วยความเป็นห่วงเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน

"หนูแค่รู้สึกเพลียๆ นิดหน่อยค่ะ" เด็กสาวค่อยๆ ลืมตาเงยหน้ามองชายชราคนดังกล่าว ที่มีสีผมดอกเลาทั้งหัว ผิวหนังเหี่ยวย่นตามสังขาร ถึงแม้ชายชราตรงหน้าจะมีอายุแล้ว แต่ก็ยังคงดูหล่อภูมิฐานสมวัย

"...ให้ฉันช่วยอะไรไหม" เมื่อมองที่ดวงตาของเด็กสาวรุ่นหลาน ทำให้เขานึกถึงใครบางคนที่จากเขาไปหลายปี

"หนูโอเคขึ้นแล้วค่ะ" ลิตารีบจัดระเบียบผ้าพันคอที่เธอนำมาพันมาเพื่อปกปิดร่องรอยที่ไม่อยากให้ใครเห็น "งั้นหนูไปก่อนนะคะ" เธอกล่าวลาชายชราคนดังกล่าวทันที โดยไม่ได้หันกลับมาว่าเขาหันมองเธอจนสุดสายตา

@มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง

"ทำไมนักศึกษาถึงไม่อยากฝึกงานที่ โรงแรมแอมมิวตันล่ะ" อาจารย์ฝ่ายกิจการนักศึกษาถามปาลิตาด้วยความสงสัย เมื่อเห็นเธอยื่นเอกสารขอเปลี่ยนสถานที่ฝึกงานในช่วงบ่ายแก่ๆ ของวัน

"คือ...หนูว่าที่นั่นไม่เหมาะกับหนูค่ะ" แค่ได้ยินชื่อโรงแรมของมาเฟียหนุ่ม หัวใจดวงน้อยก็กระตุกวูบ ภาพความโหดร้ายก็ฉายภาพเข้ามาในโสตประสาทอีกครั้ง เธอไม่อยากกลับไปสถานที่แห่งนั้นอีกแล้ว

ใบหน้าหวานรีบก้มดูความเรียบร้อยของชุดนักศึกษาที่เธอสวมเสื้อแขนยาวทับอีกชั้น ภาวนาให้สมองลืมเรื่องเมื่อคืนไปให้หมด ก่อนจะคิดหาเหตุผลต่างๆ นานา

"หนู...หนูอยากไปฝึกงานกับเพื่อนๆ ในกลุ่มมากกว่า" เธอเงยหน้าขึ้นแล้วให้คำตอบ

"แล้วนี่ นักศึกษาไม่ค่อยสบายหรือเปล่า" เมื่อเห็นใบหน้าหวานที่ดูอิดโรย อาจารย์นวลทิพย์จึงเดาไปตามนั้น

"ค่ะ หนูไม่ค่อยสบายนิดหน่อย แต่หนูโทรไปลาป่วยกับผู้จัดการโรงแรมแล้ว"

"แล้วแน่ใจนะ ว่าจะเปลี่ยนที่ฝึกงาน โรงแรมแอมมิวตันน่ะทั้งหรู เงินก็ดี มีแต่นักศึกษาอยากไปทำงานที่นั่นกันทั้งนั้น"

"ค่ะ หนูแน่ใจ หนูขอสละสิทธิ์ให้เพื่อนคนอื่นแทนได้ไหมคะ แล้วอีกอย่างหนูว่ามันไกลจากหอพักหนูด้วย"

"แต่ตอนที่นักศึกษาได้สิทธิ์ไปฝึกงานที่แอมมิวตันไม่เห็นปฏิเสธเลยนี่ แต่เอาเถอะ ถ้าหนูอยากจะไปฝึกที่เดียวกับพวกเพื่อนในกลุ่ม ทางมหาวิทยาลัยต้องแจ้งเรื่องไปที่โรงแรมและรอทางนั้นตอบกลับมาก่อน แล้วถ้ายังไงอาจารย์จะให้ทราบอีกครั้ง"

"ขอบคุณอาจารย์มากนะคะ"

"อืม" ปาลิตายกมือไหว้พร้อมกับกล่าวขอบคุณ ในขณะที่คู่สนทนาพยักหน้า แล้วเด็กสาวจึงหมุนเดินออกมาจากห้องพักของอาจารย์

"อ้าว...พี่ลิตา ช่วงนี้พี่ฝึกงานไม่ใช่เหรอ" ทันทีที่ลิฟต์เปิดออก เสียงเด็กหนุ่มก็ดังขึ้นพร้อมกับร่างสูงที่ดูโตเกินเด็กปีหนึ่งก้าวขายาวออกมาจากลิฟต์ ทำให้เจ้าของชื่อที่กำลังยืนอยู่หน้าลิฟต์สะดุ้งเล็กน้อย

"ใช่จ้ะ แต่พี่กำลังจะขออาจารย์ที่เปลี่ยนที่ฝึกงานน่ะ แล้วนี่ตองเจมาส่งรายงานเหรอ" เธอให้คำตอบเดือนคณะที่พึ่งได้รับตำแหน่งมาหมาดๆ แถมเด็กหนุ่มตรงหน้ายังเป็นหลานรหัสเธอด้วย โดยตอนแรกๆ เด็กหนุ่มจะเรียกเธอว่าป้ารหัส แต่เธอให้เรียกว่าพี่ก็พอ

เมื่อเห็นในฝ่ามือหนาของตองเจถือเอกสารรายงานจำนวนหลายเล่มที่เจ้าตัวมักจะชอบอาสาเพื่อนๆ รวบรวมงานมาส่งอาจารย์แถมชอบช่วยงานเหล่าคณาจารย์ในมหาวิทยาลัยบ่อยๆ เลยแทบไม่ต้องเดาว่าเด็กหนุ่มรุ่นน้องมาทำอะไรแถวห้องพักอาจารย์

"ถ้าพี่ไม่มีที่ฝึก ไปฝึกที่โรงแรมของบ้านผมก็ได้นะครับ ผมจัดการให้ได้"

"ไม่ต้องหรอก พี่อยากไปฝึกที่เดียวกับเพื่อนในกลุ่มมากกว่า"

"ครับ ว่าแต่ พี่ยังไม่ได้เลี้ยงข้าวผมเลยนะครับ" ตองเจรีบทวงสัญญาตามธรรมเนียมที่รุ่นพี่จะต้องเลี้ยงข้าวรุ่นน้องสายรหัสของตัวเอง

"อ่า...เอาไว้พี่จะลองนัดเราอีกทีละกัน ช่วงนี้พี่ไม่ค่อยสบายน่ะ" ลิตากลอกตาพร้อมกับใช้ความคิดราวสองวินาทีก่อนจะให้คำตอบ

"งั้นก็ได้ครับ ห้ามลืมนะ"

"ขี้งก~"

"..." ตองเจยกยิ้มมุมปากเพียงนิด ก่อนที่เขาจะก้มมองต่ำเห็นรอยช้ำที่เรียวขาของรุ่นพี่สายรหัส ใบหน้าคมคายเปลี่ยนสีหน้าทันทีโดยที่อีกฝ่ายไม่ทันสังเกต แต่ทว่าตองเจก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป แล้วต่างฝ่ายก็ต่างแยกย้าย

@ผับ R

"ช่วงนี้หนูขอกลับมาทำงานกับเจ๊น้ำได้ไหมคะ ให้หนูเป็นพนักงานเสิร์ฟก็ได้" ลิตาทำหน้าเว้าวอนเพื่อขอความเห็นใจจากผู้จัดการของผับ

ถึงแม้เธอพึ่งจะได้รับเงินมาจำนวนสองล้านบาทหลังจากไปขึ้นมาที่ธนาคารก่อนจะเข้าไปพบอาจารย์เมื่อช่วงบ่าย แต่ยังไงเสียเธอก็จำเป็นจะต้องทำงานเพื่อหาเงินเท่าที่ร่างกายยังไหวเผื่อไว้ใช้จ่ายยามฉุกเฉิน

"แล้วไหนเราบอกเจ๊ว่าจะไปฝึกงานไม่ใช่เหรอ เลยขอลาออกไปน่ะ"

"พอดีหนูรอเปลี่ยนที่ฝึก เลยจะของานเจ๊ทำ ช่วงระหว่างรอที่ฝึกงานใหม่ได้ไหมคะ"

"อืม..ใจจริงเจ๊อยากให้เราไปดื่มเป็นเพื่อนแขกมากกว่ามาเป็นเด็กเสิร์ฟน่ะ แต่เอาเถอะในเมื่อไม่สะดวกเรื่องเวลาเจ๊ก็พอเข้าใจ ว่าแต่วันนี้ดูเพลียทำงานไหวแน่เหรอ"

"ไหวค่ะ หนูขอทำแค่ ถึงเที่ยงคืนแล้วจะกลับเลยค่ะ"

"อืมได้สิ งั้นไปเปลี่ยนชุดรอละกัน" ลิตาพยักหน้ารับก่อนจะเดินไปยังห้องแต่งตัวของพนักงาน

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เด็กฝึกงานของแม็กเครย์    บทที่ 15 NC+

    ปึก!"โอ๊ย!" ลิตาเสียงหลงออกมาด้วยความเจ็บปวด เมื่อเขากระแทกแก่นกายใหญ่เข้ามาจนสุดความยาวของมันอย่างดิบเถื่อน แม้จะมีน้ำหวานใสเป็นตัวเบิกทาง แต่ทว่าขนาดแก่นกายที่ใหญ่เกินมาตรฐานทำให้ร่างกายของเธอยังคงไม่คุ้นชิน"จะ...เจ็บ อึก~""เอาท่ายากกันบ่อยๆ เดี๋ยวก็ชินเอง"ปึก! ปึก! ปึก! ปึก!เสียงแก่นกายกระแทกช่องทางรักของลิตาอย่างหยาบโลนดังไปทั่วห้องน้ำหญิง ฝ่ามือหนาที่สอดใต้ขาพับข้างนึงก็แบะขาของหญิงสาวออกให้กว้างกว่าเดิม ส่วนมืออีกข้างก็โอบเอวเธอไว้แน่น จนเนื้อด้านในสีแดงสดปลิ้นเข้าออกตามแรงกระแทกที่แสนดุดัน"อื้อ...เจ็บ" ดวงตากลมเหลือบมองไปที่ประตูห้องน้ำด้วยความหวาดระแวง กลัวว่าเสียงเริงรักระหว่างเธอและแม็กเครย์จะดังเล็ดลอดออกไปจนลูกน้องของเขาได้ยิน เธอจิกปลายเรียวเล็บลงบนแผ่นหลังกว้างในตอนที่เขาขบเม้มอกอวบทั้งสองข้างจนเป็นรอยสีแดงจ้ำแทบไม่เหลือพื้นที่ว่าง เธอเผลอแอ่นอกให้เขาปรนเปรอโดยไม่รู้ตัว"หึ...แอ่นอกขนาดนี้ ชอบสินะที่ดูดนมให้" แหงนมองใบหน้าหวานที่กำลังเหยเกด้วยรอยยิ้มร้ายกาจ ก่อนจะกระแทกแก่นกายใหญ่ใส่ร่องสวาทอย่างไม่ยั้งเอวสอบ ปากหยักยังคงดูดเต้าอวบด้วยความกระหายจ๊วบๆปึกๆๆๆ"อื้อ.

  • เด็กฝึกงานของแม็กเครย์    บทที่ 14 ลองท่ายืน NC+

    ด้านลิตาเมื่อดื่มกับเพื่อนๆ และน้องรหัสมาสักพักหญิงสาวจึงเดินไปเข้าห้องน้ำด้วยตัวเอง ถึงแม้ตองเจและเพื่อนสาวทั้งสองจะอาสาตามมาด้วยแต่เธอยืนยันว่ายังมีสติสัมปชัญญะครบถ้วน สามารถไปห้องน้ำเองได้"ไม่มีคนเลยแหะ" เมื่อเดินเข้ามาในโซนห้องน้ำผู้หญิงของชั้นสองที่เงียบสงัดผิดหูผิดตา แต่เธอก็รีบเข้าไปปลดทุกข์แล้วปิดประตูลงกลอนโดยไม่ลังเลแกร็ก!"...เฮือก~" ทันทีเปิดประตูออกมาจากห้องน้ำ ริมฝีปากอวบอิ่มอ้าค้างด้วยความตกใจ เมื่อเธอเห็นแม็กเครย์ยืนไขว้ขาพิงเคาน์เตอร์ล้างมือ ใบหน้าหล่อเหลาแหงนพ่นควันบุหรี่สีขาวคละคลุ้งในอากาศ เธอได้แต่เงียบแล้วรีบเดินไปที่อ่างล้างมืออีกฝั่งที่ว่างอยู่พรึบ!"โอ๊ย...นี่เจ็บนะ " เขาคว้าข้อมือของลิตาแล้วออกแรงกระชากอย่างแรงจนทำเอาเธอแทบล้มลงบนพื้น"หึ...ไม่คิดจะทักทายกันหน่อยรึไง เห็นฉันยืนหัวโด่อยู่น่ะฮะ" จบประโยคเขาโยนบุหรี่ลงพื้นก่อนจะใช้รองเท้าหนังสีดำมีราคาเหยียบมันจนดับ"...สวัสดีค่ะ ท่านประธาน" เธอถอนหายใจด้วยความระอาก่อนจะเปล่งวาจาทักทายชายหนุ่มไปตามมารยาทพร้อมกับกระชับกระเป๋าสะพายคล้องไหล่ หลังจากนั้นก็รีบหมุนตัวหมายจะตรงไปที่ประตู ซึ่งมีชายฉกรรจ์กำลังไล่ลูกค้

  • เด็กฝึกงานของแม็กเครย์    บทที่ 13 ความรู้สึกหลากหลาย

    @คลับออนิกซ์ในค่ำคืนที่ต่างคนต่างออกมาสังสรรค์พบปะเพื่อนฝูงเพื่อคลายความเหนื่อยล้าจากช่วงเวลากลางวัน ท่ามกลางเสียงดังกระหึ่มปนเสียงตะโกนของหนุ่มสาวหลายร้อยชีวิตในสถานบันเทิงช่วงเวลาเกือบห้าทุ่มของชั้นล่างซึ่งถูกออกแบบให้เหมือนผับส่วนชั้นสองก็มีทั้งโซนวีไอพีสไตล์ไนท์คลับสีฉูดฉาดโดยมีพื้นที่สำหรับแดนซ์และบูธดีเจรวมไปถึงเลาจน์ห้องส่วนตัวและชั้นบนถัดไปก็มีห้องพักสำหรับค้างคืนสองขาเรียวบนรองเท้าส้นสูงสองนิ้ว เจ้าของร่างอรชรภายใต้ชุดเดรสสายเดี่ยวสีครีมน่าทะนุถนอมก็เดินกรีดกรายตามหลังเพื่อนสาวคนสนิททั้งสองขึ้นไปยังชั้นสองของคลับ"คนเยอะชะมัด" ลิตาพึมพำด้วยรู้สึกกังวลบอกไม่ถูก ไอเย็นตกกระทบบนผิวเนียนจนรู้สึกหนาวเย็น ทั้งที่พึ่งหายป่วยไข้ แต่กลับมาเที่ยวในสถานที่อโคจรแบบนี้ ไม่รู้เธอคิดผิดหรือคิดถูกกันแน่"พี่ลิตา พี่บะหมี่ พี่น้ำอิงทางนี้ครับ" เสียงของตองเจตะโกนเรียกสามสาวแข่งกับเสียงเพลง พร้อมกับยกฝ่ามือหนากวักเรียกเป็นเชิงให้สัญญาณท่ามกลางแสงไฟมืดสลัว"ทำไมเลือกโซนนี่ล่ะ" เมื่อเดินมาถึงที่หมาย ลิตากวาดสายตามองไปรอบๆ ก่อนจะวางกระเป๋าสะพายข้างใบเล็กลงโต๊ะข้างแก้วเปล่า ซึ่งไม่ต่างกับบะหมี่แล

  • เด็กฝึกงานของแม็กเครย์    บทที่ 12 ไสหัวไป

    "จะ...เจ็บ ฉันไม่ค่อยสบายอยู่นะคะ" สองมือเล็กของเธอรีบแกะฝ่ามือหนาที่ปลายคางให้คลายออก"หึ...ฉันให้เวลาเธอพักผ่อนแค่สองวันปาลิตา ยาของเธออยู่ที่หัวเตียง แล้วฉันจะต้องเห็นเธอกลับมาทำงานที่บริษัทของฉัน" แม็กเครย์ถอนฝ่ามือออกจากใบหน้าหวานของลิตาก่อนจะออกคำสั่งตามอำเภอใจ"ฮะ?""ไสหัวไปได้แล้ว แล้วอย่าปล่อยให้ตัวเองท้องนะ เพราะฉันไม่รับผิดชอบ เข็มทิศ มึงไปส่งเด็กนี่ที "จบประโยคคำสั่งเอาแต่ใจตัวเอง เขาก้าวขายาวกลับไปที่ห้องทำงานและทิ้งให้เด็กสาวที่กำลังป่วยไข้มองตามมาด้วยความมึนงง"เหอะ ใครจะอยากไปท้องกับคนใจร้ายกันเล่า เผด็จการชะมัด~ " หลังจากนั้นลิตาก็เดินลากสังขารเข้าไปหยิบกระเป๋าสะพายส่วนตัว โดยมีบัตรประจำตัวพนักงานของโรงแรมแอมมิวตันวางอยู่ใกล้ๆ รวมไปถึงถุงสีขาวที่มีซองยาจิปาถะตามคำสั่งของแม็กเครย์โดยไม่อิดออด เธอกดอ่านข้อความในมือถือ ก็พบข้อความจากเจ๊น้ำส่งมา"เป็นไงบ้าง คนของคุณแม็กเครย์มาบอกว่า ลิตาเป็นคนของเขา แล้วห้ามไม่ให้ลิตาให้มาทำงานกับเจ๊อีก อ่านข้อความแล้วตอบกลับเจ๊หน่อยนะ"เธอเกาหัว...แกร็กๆ พลางกลอกตาไปมา แล้วจึงส่งข้อความตอบกลับไป เวลาผ่านไปครู่หนึ่งจึงเดินออกมาที่โถงทางเ

  • เด็กฝึกงานของแม็กเครย์    บทที่ 11 ยัดเยียดให้ขายตัว

    "มึงไปเอาเอกสารทั้งหมดที่กูต้องเซ็นมาที่นี่ วันนี้กูไม่เข้าบริษัท" แม็กเครย์เดินออกมานอกห้องแล้วหันไปสั่งการกับลูกน้องคนเดิม"ได้ครับนาย"ภายในห้องทำงานที่รายล้อมไปด้วยหนังสือหลายร้อยเล่มซึ่งจัดวางไว้เป็นระเบียบบนชั้นวางหนังสือ แม็กเครย์นั่งเซ็นเอกสารและตรวจแฟ้มงานที่กองไว้บนโต๊ะ เขาสะดุดกับเอกสารชุดหนึ่งแล้วอารมณ์เดือดดาลก็คุกรุ่นขึ้นทันทีใจความสำคัญของกระดาษแผ่นนี้คือ ทางคณะของมหาวิทยาลัยที่ปาลิตาเรียนอยู่ ขอยกเลิกฝึกงาน เนื่องจากเด็กสาวมีความประสงค์จะไปฝึกงานที่อื่นใกล้ๆ หอพัก และให้นักศึกษาคนอื่นมาฝึกงานที่นั่นแทนแม็กเครย์จึงขยำกระดาษแผ่นดังกล่าวทิ้งลงที่พื้นเพื่อระบายอารมณ์ เด็กนั้นกล้าดียังไง ถึงได้ปฏิเสธที่จะฝึกงานกับโรงแรมห้าดาวหรูหราใจกลางเมืองที่มีเงินเดือนให้อย่างโรงแรมแอมมิวตันก๊อก ก๊อก"ขออนุญาตครับ นาย""เข้ามา" เขาละสายตาจากเอกสารแล้วเงยหน้าให้คำตอบมือขวาคนสนิทที่กำลังเดินเข้ามาในห้องทำงาน"นายครับ HR แจ้งมาว่า เรื่องขอยกเลิกการฝึกงานของปาลิตา ไม่ทราบว่านายจะอนุมัติหรือไม่ครับ พอดีทางมหา'ลัยติดต่อมาต้องการทราบผลภายในวันนี้ครับ เพราะมันมีผลต่อชั่วโมงฝึกงาน" ประโยคยืดย

  • เด็กฝึกงานของแม็กเครย์    บทที่ 10 หงุดหงิด

    "ไปดีลงาน แต่เจ้าพ่อรถตักดินดันไปลากเด็กในคลับมาแทน?"เสียงของออนิกซ์โพล่งขึ้นเป็นเชิงเหน็บแนมทันทีที่เห็นพี่แม็กเครย์เดินเข้ามาด้านในของห้องรับรองที่พวกเขาในกลุ่มมักจะมารวมตัวกันเพื่อคุยเรื่องธุรกิจสีเทาหรือสังสรรค์บ้างในบางครั้ง ไม่ก็ไปที่คลับของเขาแทน ส่วนฉายา "เจ้าพ่อรถตักดิน" เป็นคำที่เพื่อนๆ ตั้งไว้เรียกแม็กเครย์โดยเฉพาะ สืบเนื่องจากชื่อของเจ้าตัวดันไปใกล้เคียงกับคำว่าแม็กโคร"มึงหงุดหงิดเรื่องอะไร หรือเป็นเพราะกูโทรไปขัดจังหวะมึงบนรถ?" เป็นลาร์คินที่ตั้งข้อสังเกต เพราะโดยปกติเท่าที่เขาเห็น แม็กเครย์ไม่เคยมีเรื่องหัวเสียขนาดนี้มาก่อน มาเฟียใบหน้าเย็นชาเป็นนักแก้ปัญหาที่เก่งกาจ ขนาดถูกลูกน้องหักหลัง แต่แม็กเครย์ก็ไม่เคยไม่แสดงท่าทีเกรี้ยวกราดให้ได้เห็น ยิ่งเรื่องผู้หญิงความเป็นไปได้แทบเป็นศูนย์"เด็กมันคงพยศแหละมั้ง เจ้าพ่อรถตักดินลูกรังถึงได้อารมณ์เสียเอา" ไทเลอร์พูดแทรกขึ้นพลางหยิบแก้วไวน์ขึ้นมาแกว่งเบาๆ ก่อนจะกระดกของเหลวสีแดงเข้มเข้าปากในพรวดเดียว"ถ้าพวกมึงตามกูมาแค่ต้องการกวนตีนใส่กู งั้นกูจะกลับ" แม็กเครย์รีบตัดบทสนทนาก่อนจะเดินไปนั่งที่โซฟาซึ่งว่างอยู่ โดยไม่ได้รู้ตัวเลยว

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status