ยายจ๋าหันมามองหน้าเธอตาโต คล้ายจะเป็นเชิงถาม แต่เธอยังไม่ทันได้ตกลงด้วยสักหน่อย ยายเพื่อนตัวดีก็จูงมือให้เดินตามพี่ณัฐกรไปกลุ่มด้านในนั่นแล้ว เดินมาถึงเธอจึงได้สังเกตเห็นว่าหลายคนที่คุ้นหน้า แต่อะไรก็ไม่ร้ายเท่าคนคุ้นหน้าอีกคนที่นั่งอยู่ข้างเขาออกจะแนบชิดแม้จะเว้นระยะห่างแต่ก็ไม่มากพอ จนทำให้คนที่เห็นเผลอคิดไปไกลได้
พิมพ์พิมล ใบหน้าสวยเก๋แม้จะผ่านเวลามาหลายปีแล้วแต่พี่พิมพ์ก็ยังสวย เปรี้ยว เฉี่ยวตามสไตล์ของเขา คนที่นั่งข้างๆ ก็ดูจะพูดคุยเทกแคร์ไม่ห่าง จนเธอเผลอคิดถึงผู้หญิงอีกคนที่อยู่ในห้องเขาเมื่อเช้า และคุณดาราคนนั้นคงจะอยู่มาทั้งคืนนั่นแหละ เธอแอบคิดว่าวันนี้อาจจะไม่ได้เจอเขาก็ได้ เพราะไอ้ของสมนาคุณดินเนอร์สุดหรูพร้อมไวน์ราคาแพงที่นำไปเสิร์ฟให้ถึงห้องนอน คงจะทำให้เขาชื่นมื่นอยู่ในห้องจนไม่อยากออกมาสังสรรค์ข้างนอก "อ้าว น้องรดา มาด้วยหรือคะ" เสียงทักทายของพี่พิมพ์เรียกสายตาของใครบางคนข้างๆ ให้หันมามองด้วย เธอจึงได้แต่ยกมือขึ้นสวัสดี ยายจ๋าดึงเธอให้ไปนั่งที่โซฟาตรงข้ามพี่ชายตัวเอง ส่วนพี่ณัฐกรก็มานั่งโซฟาเดี่ยวข้างๆ เรียกพนักงานมาช่วยบริการเครื่องดื่มให้เธอสองคน "สบายดีหรือ" พี่พิมพ์เอ่ยถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ไม่ได้แสดงอาการอื่นใดให้เห็น กลับเป็นเธอเสียอีกที่รู้สึกเหมือนจะทำหน้าไม่ถูก "สะ..สบายดีค่ะ พี่พิมพ์ล่ะคะ" "เรื่อยๆ" เสียงกลั้วหัวเราะเอ่ยตอบช่างดูเป็นธรรมชาติ มองรอยยิ้มนั้นก็สวยน่ารักแม้แต่เธอที่เป็นผู้หญิงยังอดชื่นชมไม่ได้ แล้วคนข้างๆ นั่นล่ะ รู้สึกอย่างไร ถ่านไฟเก่าคงจะพรึบขึ้นอีกล่ะมั้ง พี่ณัฐกรที่ยังนั่งคุยอยู่ช่วยเธอได้เยอะทีเดียว ทำให้จุดสายตาสนใจแต่ตรงนี้ ไม่มองเลยไปถึงคนคู่นั้นที่นั่งคุยกันกะหนุงกะหนิงราวกับคู่รักใหม่ พอเริ่มดึกเสียงเพลงบรรเลงช้าๆ ในช่วงแรกจึงเริ่มเร่งเร้าอารมณ์แห่งความสนุก เสียงพูดคุยโหวกเหวกโวยวายแข่งกับเสียงเพลงในคราแรกเบาลง กลายเป็นท่วงท่าเข้าจังหวะกับดนตรีเพลงหนักๆ ชลันธรถูกพี่พิมพ์ดึงตัวให้ลุกขึ้นเต้น สะโพกกลมที่โยกย้ายยั่วยวนมีฝ่ามือของเขาคอยประคองไว้ไม่ห่าง พอเหล้าเข้าปากไปหลายแก้ว สายตาที่คอยสังเกตคนคู่นั้นจึงเริ่มไม่ได้สนใจอีก เมื่อยายจ๋ารั้งให้เธอลุกขึ้นเต้นอยู่อีกฝั่งริมนอกที่มองเห็นด้านล่างเวที เธอจึงลืมสนใจคนด้านใน ได้แต่ตะโกนร้องเพลงตามนักร้องด้านล่างพลางกระโดดเข้าจังหวะหนักๆ พร้อมยายจ๋า "ระวังตกลงไปกันนะ" พี่ณัฐกรเดินมาถึงก็ก้มลงมาพูดอยู่ข้างหูเสียงดังแข่งกับเสียงเพลง จนเธอหันมายิ้มหวานให้ "ไม่ร่วงหรอกค่ะ เกาะไว้" ณัฐกรมองตามปากที่บุ้ยไปทางฝ่ามือเล็กที่เกาะแนวระเบียงไว้แน่นแล้วก็ได้แต่ส่ายหัวในความซนของสองสาว "เกาะไว้ให้ดีๆ ล่ะ" เธอหันมาทำมือในท่าโอเคให้ แล้วก็หันไปสนใจเสียงเพลงด้านล่างนั้นต่อ ตะโกนแหกปากร้องตามนักร้องอยู่อีกหลายเพลง จนรู้สึกเจ็บคอ หันมาจิบน้ำอีกทีก็ไม่เห็นคู่รักนั้นแล้ว จนถึงช่วงที่นักดนตรีด้านล่างเบรกความสนุกด้วยบทเพลงช้าๆ จนถึงช่วงที่ร้องอวยพรวันเกิดให้คนเกิดวันนี้ เธอมองลงไปด้านล่างเห็นแสงไฟจากเทียนวันเกิดอีกสองที่ รวมถึงโต๊ะตรงหน้าเธอด้วย จนเจ้าของวันเกิดวันนี้อย่างณัฐกรเป่าเค้กเสร็จ เธอก็ยังไม่เห็นคู่รักคู่นั้นกลับมา สงสัยคงจะไปต่อกันที่ไหน หรืออาจจะกลับไปใช้บริการดินเนอร์สุดหรูนั่นก็ได้ เธอกับยายจ๋าขอตัวกลับในช่วงเวลาเกือบจะตีหนึ่ง พี่ณัฐกรอาสาจะขับรถไปส่งให้ แต่เธอออกจะเกรงใจ เพราะเพื่อนเขายังไม่กลับกันจะให้เจ้าของวันเกิดกลับออกมาก่อนก็คงไม่เหมาะ แล้วยายจ๋ากับเธอก็ไม่ได้เมามาก คอนโดขนาดกลางของยายจ๋า ที่เป็นมรดกมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย และเธอก็ออกจะคุ้นเคยเป็นอย่างดี รถคันหรูยังไม่ทันจอดได้สนิท เสียงโทรศัพท์ของยายจ๋าดังขึ้นเธอไม่รู้ว่าใครโทรมา แต่สายตาของคนที่กำลังจะกดรับสายออกจะแปลกๆ มันเป็นสายตาบวกกับสีหน้าของคนสำนึกผิดหรืออยากจะขอโทษอะไรสักอย่าง ยังไม่ทันได้คำตอบ เพราะยายจ๋ากดรับสายที่โทรเข้ามานั้นก่อน "ค่ะ พี่เจ" "ที่ไหนนะคะ เอ่อ..." นั่นไง สายตานั่นเธอคิดไว้ไม่ผิด แค่ 'ผู้' โทรหายายเพื่อนตัวดีเหมือนจะรู้ รีบทำหน้าสลดใส่เธอทันที "ได้ค่ะ เดี๋ยวจ๋ารีบไปนะคะ"เธอชันตัวลุกขึ้นมาจิกแขนเขาไว้แน่น ตอนที่รู้ว่าตัวเองไม่สามารถทนความเสียวนั้นได้ต่อไปอีกแล้ว ร่างกายเกร็งกระตุกถี่แม้แต่ตัวเองก็ยังสัมผัสได้ถึงความเปียกชุ่มจุดที่นิ้วมือเขายังจุ่มแช่อยู่ภายในนั้น แม้แต่ตอนที่เขาดึงนิ้วมือออกเธอก็ยังเผลอส่งเสียงในลำคอเบาๆ แต่มือตัวเองที่ขยุ้มแขนมัดกล้ามแน่นเขาไว้ยังไม่สามารถปล่อยออกได้ จนวรุตต้องจับให้เธอเอนตัวลงนอนอย่างคนหมดแรง เรียวขาที่หนีบเข้าหากันถูกเขาจับแยกออกในท่าที่ชวนให้หวาดเสียว ขยับตัวเองมาอยู่ตรงกลาง จับแก่นกายลำใหญ่ที่ขยายเต็มที่แข็งขืนในท่าเตรียมพร้อม เขากำมันไว้เต็มฝ่ามือเห็นส่วนหัวที่ยังโผล่ยาวออกมาอีกเกือบครึ่ง เพราะไม่แน่ใจว่าภาพตรงหน้าเป็นอย่างไร ไม่รู้ว่าไอ้แท่งยักษ์นั่นมันจะเข้ามาในตัวเธอได้หรือ จ๋าจึงผงกหัวขึ้นมองเห็นเขาจับมันถูไถกรีดตามรอยแยกที่ยังเปียกชุ่มนั้นก่อนจะค่อยๆ กดหัวเห็ดดอกใหญ่ที่ว่าเข้าไปด้านใน เธอเงยหน้ามองเขาอีกครั้ง จึงได้เห็นรอยยิ้มมุมปากเพียงนิดนั่น "พี่รุต.." เธอรีบเอ่ยเป็นเชิงห้าม "จ๋า..." แต่เขากลับลากเสียงขานเป็นชื่อเธอคล้ายล้อเลียนอยู่ในที "อ๊า..." เธอไม่ได้พูดต่อจากนั้น ได้แต่ส่งเสียงออกม
นอกจากจะออกแรงดิ้นขลุกขลักอีกครั้ง เมื่อเห็นว่ามันไม่ขยับ ยายจ๋าจึงได้แต่โวยวายสุดท้ายก็เผลอด่าเขาออกมาคำใหญ่ ยิ่งเมื่อเห็นคนตัวโตยังไม่ยอมปล่อย เธอจึงพ่นวาจาผรุสวาทใส่เขาอีกหลายคำ "อื้อ...อื้อ..." สิ้นเสียงคำด่า คำต่อจากนั้นก็ฟังไม่ได้ศัพท์เมื่อปากที่พ่นแต่คำไม่หวานหูออกมาถูกประกบบดเบียดด้วยริมฝีปากของวรุตอย่างหนักหน่วง นานเท่าไรก็ไม่แน่ใจรู้เพียงตอนนี้เธอแทบจะขาดอากาศหายใจ แค่เพียงเขาคลายปากออกนิด เธอก็ต้องรีบสูดอากาศเข้าปอดเฮือกใหญ่ เพราะใบหน้าหล่อเหลายังคลอเคลียอยู่ไม่ห่างจนเธอสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ที่รดรินอยู่ข้างแก้ม ไม่แน่ใจเขาก็จะขาดอากาศด้วยเหมือนกันหรือไรถึงดูเขาหายใจแรงราวกับคนหอบเหนื่อยแบบนั้น เหมือนจะได้จังหวะจ๋ารีบดึงแขนตัวเองออกจากมือใหญ่อย่างแรง "ปล่อยน่ะ ไอ้เฮง..." เสียงคำด่าถูกกลืนหายไปอีกครั้ง จูบเมื่อครู่ว่าหนักหน่วงแล้ว ครั้งนี้ดูจะหนักยิ่งกว่า เขาไม่เพียงบดริมฝีปากอยู่แค่นั้นกับสอดลิ้นเข้าโพลงปากอิ่มที่เผยอหมายจะด่าเขาเมื่อครู่ "อื้อ...อ๊ะ..." แค่เพียงวรุตปล่อยปากเธอเป็นอิสระอีกครั้ง เสียงครางในลำคอก็หลุดออกมาอย่างไม่อาจห้าม ข้อมือเธอสองข้
วรุตแทบจะนั่งสัปหงกรอคนที่บอกว่าจะมารับน้องสาวตัวเองกลับห้อง แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่เห็นไอ้ชลันธรกลับมาสักที ทนความง่วงไม่ไหว สุดท้ายก็ต้องทิ้งคนเมาให้นอนเหยียดยาวอยู่บนโซฟาอย่างนั้น ความรู้สึกเหมือนเพิ่งจะหลับไปได้เพียงครู่เดียวเท่านั้น รู้สึกตัวแต่ตายังลืมไม่ขึ้นเพราะผ้าห่มเหมือนถูกดึง แต่เพราะความเมามากพอที่ไม่คิดจะสนใจ ได้แต่นึกหงุดหงิดก่อนที่จะผล็อยหลับไปอีกครั้ง แต่ก็หลับต่อไปได้อีกเพียงชั่วโมงกว่า เปอร์เซ็นต์แอลกอฮอล์ในร่างกายยังไม่ทันลด ความมึนงงยังคงสะสมอยู่ที่สมอง งัวเงียตื่นขึ้นมาเพราะอึดอัดท้องน้อย เขาจำได้ว่าก่อนนอนถอดเสื้อถอดกางเกงยีนออกแล้วนะ เหลือเพียงบ็อกเซอร์ตัวบางเท่านั้น แต่ทำไมมันยังรู้สึกอึดอัดจนนึกรำคาญ กว่าสมองจะรับรู้ว่าไอ้สิ่งที่ทำเขาอึดอัดมันคือขาของใครสักคน ก็ตอนที่เขาใช้มือลูบคลำจากเรียวขามาถึงเอว ถึงรู้ว่ามีคนมานอนอยู่ด้วย และเหมือนคนที่ถูกลูบคลำจะรู้สึกตัว เพราะสัมผัสได้ถึงฝ่ามืออุ่นๆ ที่ลูบตั้งแต่ต้นขาผ่านสะโพกกลมจนมาถึงเอวคอด นี่ถ้าเธอไม่ได้ตอนตะแคงอยู่ฝ่ามือนั้นคงได้ลูบไล้ผ่านจุดบอบบางที่มีเพียงแพนตี้ตัวจิ๋วสวมอยู่ตัวเดียวเท่านั้น เพราะแม้แต่บ
ร่างอรชรถูกวางลงที่เตียงคิงไซซ์ ทั้งตัวเหลือเพียงชุดชั้นในสีดำตัวเล็กตัดกับผิวขาวออร่าแม้ในห้องนอนจะมีเพียงแสงไฟจากทางเดินหน้าห้องส่องเข้ามาเท่านั้น เห็นเขายังมีกางเกงยีนสวมอยู่เธอก็รีบปลดเข็มขัดออกให้ กางเกงยีนลงไปกองที่พื้นแล้วเหลือเพียงกางเกงชั้นใน สายตาที่เขาจ้องมองทำให้เธอรู้ทันทีว่าเขาหมายความว่าอย่างไร เธอเอื้อมมือไปรั้งมันลง แค่เพียงเจ้าแท่งเนื้อตัวอวบยาวได้รับการปลดปล่อยให้เป็นอิสระมันก็ดีดเด่แทบจะชี้หน้าเธอ กลายเป็นชลันธรที่ตกใจ เขาไม่คิดจะให้เธอทำอย่างนั้นเสียหน่อย แค่นึกอยากแกล้งคนตัวเล็กให้ช่วยถอดปราการด่านสุดท้ายให้ แต่เจ้าตัวกับจ้องมันอยู่ครู่ก่อนจะประกบปากครอบไอ้หัวเห็ดของเขาเข้าไปเต็มปาก "ซี๊ด...รดา...โอ๊ว..." เป็นเขาที่แทบจะต้องร้องขอชีวิตแทน ทั้งไม่ทันตั้งตัว ทั้งตอนนี้แก่นกายลำใหญ่ที่ผลุบเข้าไปในปากเธอแม้จะได้ไม่ถึงครึ่งทาง แต่มันก็เสียวจนเขาแทบขาดใจ ไม่รู้คนตัวเล็กไปแอบดูมาจากไหน แต่ไอ้ท่าขยับปากเข้าออกครูดริมฝีปากไปกับเส้นเอ็นปูดๆ นั่นทำเขาแทบบ้า ก่อนจะส่งปลายลิ้นเล็กเลียตั้งแต่รอยแยกจนถึงโคน "ซี๊ด..." ชลันธรต้องซี๊ดปากอีกครั้ง ลำคอแห้งผากมาจนถึ
รายงานที่ฟาร์มทดลองที่คิดว่าจะอ่านคืนนี้ก็ยังไม่ได้อ่าน เพราะตลอดทั้งเดือนนี้ยังหาเวลาไปดูไม่ได้เลย ได้แต่ให้ผู้ช่วยส่งรายงานมาให้ดู ไม่รู้ว่าผลไม้หรือแม้แต่หมูหมากาไก่ตลอดจนถึงวัวควายจะเป็นอย่างไรบ้าง เสียงเชียร์บอลในวันนี้ดูจะครึกครื้นเป็นพิเศษสองสาวที่นั่งกินขนมจนพร่องไปหลายอย่างรวมถึงเบียร์อีกหลายกระป๋อง สำหรับเธอเพียงแค่จิบนิดๆ ส่วนยายจ๋ากระดกราวกับเป็นน้ำเปล่า พี่รุตก็กินหอยทอดแกล้มกับเบียร์ "พี่รุตชอบกินหอยหรือคะ" อยู่ๆ ยายจ๋าก็ถามขึ้นมา วรุตแทบจะสำลักเบียร์ที่กำลังกระดกอยู่ "อือ แล้วต้องเป็นเจ้าประจำร้านนี้เท่านั้นด้วยนะ" กลายเป็นเธอที่ตอบแทนพี่ชายเพราะวรุตกำลังเช็ดคราบเบียร์ที่ปากที่มันกระฉอกออกมาจากคำถามเมื่อครู่ เกมลูกหนังยังดำเนินไปอย่างเข้มข้น จบคู่แรกไปแล้ว คู่สองก็ต่อเนื่องกันทันที แต่ดูเหมือนสองสาวจะไม่ไหวกันเสียแล้ว ศิรดาจากแค่จิบๆ เมื่อครู่เผลอแวบเดียวกระป๋องเปล่าข้างตัวก็ดูจะหลายกระป๋องอยู่ไม่น้อย "ไม่ไหวแล้วมั้ง มึงพาพวกนี้กลับห้องไปเหอะ" วรุตได้แต่บุ้ยหน้าไปทางสองสาว ศิรดานั่งตาปรือพอเห็นสองหนุ่มมองมาก็ยิ้มให้จนตาหยี ชลันธรถึงกับส่ายหน้าน้อยๆ ส่ว
กลับมาถึงโรงแรมวรุตจอดรถเสร็จก็เดินหนีคนที่ยังวุ่นวายกับถุงขนมในรถยังไม่เสร็จ พอยายจ๋าออกมาจากรถได้เขาก็เดินหนีไปไกลเสียแล้ว เธอได้แต่ชิปากใส่ เดินถือถุงขนมตามเขาไปเพราะไม่รู้จะไปทางไหน ยายรดาก็คงยังไม่กลับเพราะไม่เห็นรถพี่ธรจอดอยู่แถวๆ นั้น "จะตามมาทำไมอีก" "จ๋าไม่มีเพื่อน ยายรดาก็ยังไม่กลับ" "ก็กลับห้องตัวเองไปพักผ่อน จะตามมาทำไม" "ยังไม่อยากพักผ่อนตอนนี้นี่คะ ไปคุยกับพี่รุตได้ไหม" "ไม่ ฉันต้องทำงาน" "นั่งเฉยๆ ก็ได้ค่ะ ไม่กวนหรอก" "ก็ไปนั่งเฉยๆ ที่ห้องตัวเอง" วรุตได้แต่ส่ายหน้า เมื่อสะบัดคนตัวเล็กไม่หลุดยายตัวยุ่งก็เลยตามมาถึงห้องทำงานจนได้ "จะทำงานจริงๆ หรือคะ" คนถูกถามไม่ตอบ คว้าแฟ้มเอกสารบนโต๊ะได้ก็ทำท่าจะเดินออกทันที คนที่เพิ่งวางของลงบนโต๊ะกลางโซฟาเมื่อครู่รีบรวบถุงขึ้นมาอีกครั้ง แล้วก็เดินตามวรุตออกจากห้อง จนเขาเดินมาถึงห้องพักของตัวเอง ซึ่งมันอยู่คนละโซนกับห้องพักของเธอ วรุตโยนแฟ้มเอกสารลงที่โต๊ะกลางโซฟาเสียงดัง ไม่สนใจคนที่กำลังเอาถุงขนมวางอยู่ใกล้ๆ แล้วก็เดินไปหยิบเบียร์ในตู้เย็น "ขอจ๋ากระป๋องนึงด้วยนะคะ" เขาทำหน้าเซ็งแต่ก็ยอมหยิบมาแล้วโย