ห้องใต้ดินลับในกาสิโนหรูหราใจกลางเมือง ถูกปกคลุมด้วยความเงียบสงัดและแสงสลัวจากหลอดไฟเพียงดวงเดียวที่แกว่งไกวเหนือเพดาน สายโซ่ที่ถูกพันไว้แน่นหนาบนข้อมือเปื้อนเลือดของชายหนุ่มคนหนึ่งส่งเสียงกระทบพื้นคอนกรีตเย็นเฉียบ ดวงตาเขาเบิกกว้างอย่างหวาดกลัว เหงื่อกาฬไหลอาบขมับทั้งที่อากาศเย็นยะเยือก
เสียงรองเท้าหนังราคาแพงก้าวลงบันไดอย่างหนักแน่นเป็นจังหวะทีละขั้น ราวกับเสียงของยมทูตที่กำลังจะเดินเข้ามาเอาวิญญาณ เงาร่างสูงใหญ่ในชุดสูทดำสนิทปรากฏขึ้นจากเงามืด ผิวเข้มดุดัน ใบหน้าคมสันไร้รอยยิ้ม ดวงตาคมกริบเปรียบเหมือนเสือที่พร้อมขย้ำทุกอย่างที่ขวางทางเขาคือ ไทเกอร์ หรือที่คนในวงการใต้ดินเรียกเขาว่า เสือดำแห่งกรุง มาเฟียผู้ควบคุมอำนาจเหนือทุกอย่างตั้งแต่กาสิโนสนามแข่งรถ ไปจนถึงตลาดค้าอาวุธระดับโลก แต่สิ่งเดียวที่ไทเกอร์ไม่แตะต้องคือยาเสพติดและการค้ามนุษย์ เพราะเขามีน้องสาวและแม่ที่เขารักที่สุด เขาทำใจไม่ได้หากจะเห็นผู้หญิงถูกย่ำยีแบบไม่เต็มใจ “ขอร้องผมผิดไปแล้ว ได้โปรดปล่อยผมไปเถอะ!” เสียงชายที่นั่งกองอยู่บนพื้นร้องโหยหวน ร่างกายเขาสั่นสะท้านทั้งจากความหนาวและความหวาดกลัว ไทเกอร์หยุดยืนตรงหน้าชายคนนั้น ริมฝีปากเขาเอ่ยออกมาเบาๆ แต่กดต่ำราวกับเสียงฟ้าคำรามในอก “มึงกล้าหักหลังกูแล้วคิดว่าจะเดินออกจากที่นี่ได้อย่างนั้นเหรอ?” วัตถุสีดำถูกดึงออกมาจากซองใต้เสื้อสูท เสียงกดแม็กดังก้องในห้องแคบอย่างชัดเจน “มึงกล้าขายข้อมูลของกูให้ไอ้พวกค้ายา” เขาเงยหน้าขึ้น ดวงตาวาวโรจน์ด้วยความโกรธ “กูเคยบอกแล้วใช่ไหมว่าไม่ยุ่งกับขยะพวกนั้น” “ผมจำเป็นต้องทำมันบังคับผม ผมไม่มีทางเลือก” ชายคนนั้นร้องไห้โฮ ยกมือไหว้แทบเท้าไทเกอร์ “ทุกคนมีทางเลือก แต่มึงดันเลือกผิดว่ะมันจ่ายให้มึงเท่าไหร่” ไทเกอร์โน้มตัวลงมาใกล้ ขยับใบหน้าไปใกล้หูของอีกฝ่าย “มะ..” ปัง! เสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัดความเงียบกลับมาอีกครั้ง ไทเกอร์ยืนขึ้นอย่างเฉยชา ปัดรอยเลือดบนชายเสื้ออย่างรำคาญ ก่อนจะหันไปบอกลูกน้องที่ยืนรออยู่ในเงามืด “จัดการให้เรียบร้อย แล้วเผาทิ้งซะเอาของขวัญไปฝากให้นายมันด้วย!” ชายชุดดำทั้งสองคนพยักหน้า และเข้าไปยกศพที่นอนแน่นิ่งออกจากห้องอย่างเงียบๆ ไทเกอร์เดินขึ้นบันไดกลับไปยังโลกที่เต็มไปด้วยแสงสีด้านบนกาสิโนของเขา ที่ซึ่งทุกคนยิ้มให้เขาแต่ไม่มีใครกล้ามองตาตรงๆ เขาคือราชาแห่งเงามืด และในอาณาจักรของเขาคำว่าหักหลังไม่มีวันได้รับอภัย ไทเกอร์ อิงปกรณ์ แลงคาสเตอร์ อายุ 30 ปี ทายาทคนต่อไปที่จะขึ้นมาคุมบังเหียนกิจการต่อจากผู้เป็นพ่อ นิสัยดุดัน เด็ดขาด เปลี่ยนผู้หญิงบ่อยไม่เคยคบใครแบบจริงจัง มีเสน่ห์แบบอันตรายผู้หญิงมักเข้าหาเพราะชื่อเสียงเงินทอง ลูกชายคนโตและคนเดียวของพ่อไลอ้อนและแม่อัญญา (จากเรื่อง ก็คิดว่าจะรัก) สองชั่วโมงต่อจากนั้นมาเสียงครางกระเส่าของหญิงสาวดังขึ้นไม่หยุด ท่วมกลางความเงียบลูกน้องทุกคนยืนหันหลังทำเหมือนไม่ได้ยินเสียงอะไร แต่ภาพบาดตาบาดใจทำให้ชายที่ถูกมัดอยู่กับที่น้ำตานองหน้า “อื้อ อ๊ะ เสียงจัง” เธอร้องครางไม่สนใจคนรักที่อยู่ตรงหน้า เพราะตอนนี้กำลังถูกลงโทษด้วยเอ็นร้อนๆ เธอครางออกมาอย่างไม่อายใคร “ฮึก กูจะเอาคืนพวกมึง!” แอรอนหันไปมองไทเกอร์ด้วยความเคียดแค้น เขาแค่โกงการพนันมันนิดหน่อยแต่สิ่งที่มันทำคือให้ลูกน้องเอากับคนรักเขาต่อหน้าต่อหน้า แถมดูเหมือนเธอจะชอบเสียด้วย “อื้ออ อ๊ะ” โชเฟียครางกระเส่าทีแรกจะขัดขืนแต่พอเอ็นร้อนๆ ดันเข้ามาทำให้เธอเปลี่ยนใจเพราะแอรอนนั่นทำให้ไม่ถึงใจ ปึก “กูไปทำอะไรมึงวะ มีแต่มึงที่เสือกทำกูก่อน” “ไอ้ไทเกอร์ไอ้เหี้ย!” แอรอนเป็นนักพนันและยังเข้ามาเล่นที่กาสิโนของประจำแต่วันนี้อยู่ๆ กลับได้เงินเป็นจำนวนมากไทเกอร์สั่งให้คนไปตรวจสอบจึงรู้ว่ามันแอบเล่นตุกติกกับกาสิโนของตนเองคือการแอบโกงทำให้ได้เงินเป็นจำนวนมากไทเกอร์จึงทำให้คนจับตัวมา และไม่ลืมเอาคืนอย่างสาสม “กูทำอะไรมึง มึงรู้กฎของที่นี่” ก่อนที่ใครจะเข้ามาเล่นต้องทราบกฎดีอยู่แล้ว เพราะมันจะมีคนชอบแหกกฎเขามีวิธีจัดการที่ไม่เหมือนใคร “มึงดูเมียมึงสิถ้ามึงตายไปเมียมึงก็มีคนใหม่ ตอนนี้ดูเหมือนจะชอบของใหม่ซะด้วย” เขากระชากผมให้แอรอนหันไปมองภาพของคนรักกำลังร่วมรักกับลูกน้องของเขา “ไอ้ไทเกอร์!” เขาหลับตาลงไม่อยากมองภาพบาดตา แค่ได้ยินเสียงครางของเธอ เขาทนรับไม่ไหว “เอามีดมากูจะตัดนิ้วมันเอง” พายุยืนมีดเล่มสั้นให้เจ้านายพวกเขาเห็นภาพเหล่านี้จนชิน จึงไม่มีใครขวัญดีหนีฝ่อแต่หากนายหญิงอัญญารู้ก็ตัวใครตัวมัน “อึก โอ้ยยยย” แอรอนน้ำตาไหลพรากมองเลือดสีแดงไหลออกมาจนหยดลงพื้น หากเขาไม่ตายเขาจะกลับมาเอาคืนมันให้สาสม “เกลียดกูเหรอ แค้นมากสินะมึงมีชีวิตรอดออกไปจากที่นี่ให้ได้ก่อน” เขาลุกขึ้นเดินออกไปแบบไม่สนใจเสียงด่าทอของอีกฝ่าย “นายน้อยจะกลับบ้านไหมครับ” เอเดนรอคำตอบจากเจ้านาย “ไม่กลับ! หาผู้หญิงมาให้ฉันด้วย” เขาเดินเข้าห้องทำงานไป นั่งดื่มเหล้าสบายใจและคิดถึงเรื่องเมื่อตอนเย็น พร้อมกับใบหน้าสวยๆ ของอีกคน เขาหลับตาลงพร้อมกับติดว่าหากได้เธอมาอยู่ใต้ร่างคงจะดีไม่น้อย แต่พอคิดมาถึงเรื่องเมื่อสี่ปีก่อนทำให้เขานึกโกรธขึ้นมา “เล่นตัวฉิบหาย” ก๊อก ก๊อก ก๊อก ประตูไม้เนื้อดีถูกเปิดออกอย่างแผ่วเบาร่างบางในเดรสผ้าไหมสีแดงเข้มเดินเข้ามาอย่างมั่นใจ เนเน่นางแบบสาวชื่อดัง ขายาวเรียวใต้ส้นสูงสะโพกอ่อนช้อยไหวไปตามจังหวะการเดิน เธอไม่ใช่ผู้หญิงคนแรกที่ถูกเรียกตัวมาที่นี่ “คุณไทเกอร์มีอะไรให้เนเน่ช่วยคะ” เธอเอ่ยเสียงนุ่ม แววตามีทั้งความอยากรู้อยากลองและความโลภแฝงเร้น “มานั่งสิ” เขาตอบเสียงเรียบ มือวางแก้วลงแล้วตบเบาะข้างตัวเบาๆ เนเน่ยิ้มก่อนจะเดินเข้ามาช้าๆ แล้วนั่งลงข้างเขา กลิ่นน้ำหอมแพงของเธอลอยอ้อยอิ่งในอากาศ เธอโน้มตัวเข้าใกล้ มือไล้ผ่านหน้าอกเขาอย่างแนบเนียน “จัดการมันซะ!” เนเน่มองเป้ากางเกงเขาอย่างเขินอายทำท่าทีเหมือนไม่เคยเห็นมาก่อน เธอยื่นมือไปปลดกระดุมกางเกงด้วยมือที่สั่นเทา ควักท่อนเอ็นออกมาเมื่อเห็นขนาดของมันเธอถึงเบิกตากว้าง “อ๊า อมมัน” เขาพิงพนักโชฟามืออีกข้างถือแก้วเหล้ามองอีกฝ่ายที่กำลังครอบครองเอ็นร้อนของเขาด้วยปาก เขาครางอย่างพอใจเมื่ออีกฝ่ายรู้ใจเขา เนเน่เลียวนที่ปลายหอกก่อนจะครอบครองทั้งลำ มือบางรูดขึ้นรูดลง ของเขาใหญ่มากจนเธอเริ่มเจ็บมุมปาก คราวนี้เธอจะยิ่งมีชื่อเสียงเพื่อนๆ จะเข้ามาเพราะคือได้ขึ้นเตียงกับเขาแล้ว “อืม ซี้ดดด” เขาเริ่มทนความเสียวไม่ไหวต้องการปลดปล่อยมันตอนนี้ หญิงสาวเหมือนจะรู้ทันจึงรีบเร่งและรีดน้ำของเขาออกมา เนเน่กลืนน้ำคาวลงไปอย่างไม่รังเกียจพร้อมกับท้าทายเขา “เนเน่อยากขึ้นเตียงแล้วค่ะ” “ร่าน!” เขาพาเนเน่เขาไปห้องนอนที่เอาไว้สำหรับทำกิจกรรมเข้าจังหวะ เขานอนลงบนเตียงกว้างให้หญิงสาวเป็นฝ่ายรุกก่อน เนเน่รีบถอดเดรสสั้นของตัวเองออกและรีบกระโดดขึ้นเตียงนั่งทับตัวเขาไว้ รีบจัดการชุดของเขาออกจนตอนนั้นทั้งเธอและเขาไม่เหลืออาภรณ์ติดกาย “อืมม” เขาครางออกมาเมื่ออีกฝ่ายดูดเลียหัวนมของเขา ไต่ขึ้นตามสันกรามก่อนที่ปากสวยๆ จะประกอบดูดเลียกับริมฝีปากของเขา ทั้งสองแลกลิ้นกันอย่างถึงใจก่อนที่ไทเกอร์จะเป็นฝ่ายผลักเธอออก และเอื้อมมือไปหยิบถุงยางอนามัยในลิ้นชักข้างเตียง เขาไม่เคยพลาดเรื่องแบบนี้ “เนเน่ใส่ให้นะคะ” เธอฉีกซองและสวมให้เขาอย่างชำนาญ ขึ้นไปนั่งทับกดสะโพกลงมา และเริ่มร่อนเอวอยู่บนตัวเขา เมื่อเสร็จกิจกรรมไทเกอร์ไม่เคยนอนกอดผู้หญิงคนไหน แม้เขาจะถูกใจแค่ไหนก็ตาม สำหรับเขาแค่จ่ายจบแยกย้าย เขาใส่เสื้อคลุมอาบน้ำเดินออกมาจากห้องนอน ที่นางแบบสาวนอนหลับด้วยความเหนื่อยล้า กลิ่นควันบุหรี่ลอยคลุ้งในอากาศแสงไฟจากโคมระย้าเหนือศีรษะส่องสะท้อนเงาใบหน้าคมเข้มของชายหนุ่มผู้ครองบัลลังก์ในโลกมืดอย่างไร้คู่แข่ง ไทเกอร์นั่งพิงโซฟาหนังแท้สีดำในห้องรับแขกของกาสิโนปลายนิ้วยาวหนากดบุหรี่ลงในที่เขี่ยอย่างเฉื่อยชา ก่อนจะหยิบแท่งใหม่ขึ้นมาจุดไฟ สูดเข้าปอดลึกอย่างไม่ไยดี ภาพของผู้หญิงคนหนึ่งผุดขึ้นมาในความคิดอย่างไม่ให้ตั้งตัว เสียงหัวเราะที่ทำให้โลกโสโครกของเขาสะอาดขึ้นมาเพียงแวบเดียว “บ้าชิบ...” เขาสบถต่ำๆ กัดฟันแน่นจนกรามขึ้นสัน เขาไม่ควรคิดถึงเธอ ไม่ควรแม้แต่จะจำชื่อเธอได้ด้วยซ้ำ แต่เธอก็ยังวนเวียนอยู่ในหัว มือใหญ่กระแทกแก้วเหล้าลงบนโต๊ะจนเสียงดัง สายตาคมดุจใบมีดกวาดมองไปยังเมืองเบื้องล่างจากกระจกบานใหญ่ “ผู้หญิงอวดดีแบบนั้นมันสมควรปล่อยให้หมดตัว”เสียงร้องไห้ลั่นบ้านดังแข่งกันราวกับวงดนตรีประสานเสียงยามบ่าย เสียงเด็กน้อยร้องลั่นพร้อมกันจนทำให้คนเป็นพ่อที่ได้ยินถึงกับตกใจ“แง๊งงงงงงงงงงง!!”“อ๊าาาาาาาา!!”ไทเกอร์รีบวิ่งพรวดเข้ามาในห้องนอนลูก เห็นภาพลูกชายฝาแฝดวัยหนึ่งขวบร้องพร้อมกันจนหน้าแดงก่ำ เขารีบอุ้มคนพี่ขึ้นมาก่อน น้องไทก้าตัวโยนเกาะคอพ่อไว้แน่นร้องเสียงดังไม่ยอมเงียบแม้แต่วินาทีเดียว“โอ๋ๆๆๆ ไทก้าใจเย็นลูก ใจเย็นนะครับ” ไทเกอร์พยายามกล่อม แต่เสียงร้องกลับยิ่งดังขึ้นเหมือนตั้งใจแข่งกับพ่อขณะเดียวกัน น้องจากัวร์ที่นอนอยู่ในเปลก็ไม่ยอมแพ้ ร้องจ้าตามพี่ชายน้ำตาคลอจนแก้มเปียกชุ่มไปหมดเขาถึงกับปวดขมับยกมืออีกข้างกุมหัวตัวเอง นี่มันนรกดนตรีเสียงเด็กเวอร์ชันฝาแฝดชัดๆ ไม่น่าอยากได้ลูกหลายคนเลย เหมือนสวรรค์จะได้ยินในสิ่งที่เขาพูดส่งลูกชายมาพร้อมกันถึงสองคน“โธ่เมียจ๋าช่วยพี่ที!!” เสียงทุ้มตะโกนลั่นบ้านเหมือนขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน เขาพยายามโยกตัวปลอบ แต่ยิ่งอุ้มไทก้าเสียงก็ยิ่งแหลมสูงขึ้น ส่วนจากัวร์ก็กระแทกเปลเหมือนประท้วงว่า ไม่ยอมให้พ่ออุ้มแต่พี่คนเดียว สุดท้ายไทเกอร์ถอนหายใจยาว ๆ ก่อนบ่นเสียงอ่อย “ให้ตายเถอะจะไปทำหมันเ
บนโซฟาหนังสีเข้มกลางห้องรับแขก ชายหนุ่มร่างสูงที่เคยชินกับการเป็นมาเฟีย กลับต้องนอนพาดแขนอย่างหมดแรงเพราะกำลังถูกเจ้านายตัวน้อยเล่นงานอยู่“อื้อออ ทิกเกอร์...” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยออกมาแผ่วๆ พร้อมกับขมวดคิ้ว เมื่อร่างเล็กวัย 10 เดือนของน้องทิกเกอร์ กำลังปีนป่ายจากท้องพ่อขึ้นไปบนอกอย่างเอาเป็นเอาตายสองมือเล็กเกาะเสื้อพ่ออย่างมั่นคง ก่อนจะหัวเราะคิกคัก แล้วลงไปนั่งเต็มแรงบนหน้าไทเกอร์พอดี“โอ๊ยยย ลูกกก! นั่นหน้าป๊านะไม่ใช่เบาะเด้งดึ๋งสักหน่อย” แต่เจ้าเด็กน้อยกลับหัวเราะลั่น น้ำลายยืดเล็กๆ หยดลงบนแก้มพ่อเหมือนของฝากพิเศษไทเกอร์นอนตัวเกร็งไม่กล้าขยับแรง กลัวลูกจะหงายหลังตกไป เจ็บแค่ไหนก็ต้องทน ทั้งที่ในใจได้แต่พร่ำบ่นเรียกชื่อภรรยาซ้ำๆ“พายเมื่อไหร่จะกลับมา ซื้อของนี่นานจังเลยใจพี่จะขาดแล้วเนี่ย” เขายอมรับคนที่เลี้ยงลูกเองยี่สิบสี่ชั่วโมง เป็นคนที่เกร็งมากทิกเกอร์ยังคงหัวเราะคิกๆ พลางกระดึ๊บตัวขึ้นไปนั่งคร่อมหน้าพ่ออีกครั้ง คราวนี้ถึงกับดีดขาเล็กๆ เหมือนจะกระโดดต่อย้ำๆ“โธ่เว้ยป๊าเป็นมาเฟียที่ใครๆ ก็เกรงขาม ทำไมวันนี้ถึงต้องมาถูกลูกชายจับกดอยู่บนหน้าแบบนี้นะ” เขาพึมพำในใจอย่างปลงตกสุดท้าย
เมื่อกลับมาถึงบ้านพรพระพายสูดลมหายใจลึก ก่อนจะเดินเข้าไปแล้วโผกอดเขาแน่นเหมือนกลัวว่าถ้าปล่อยมือความรู้สึกนี้จะหายไป“หายไม่คิดเลยว่าเราจะมาถึงจุดนี้ได้” เสียงเธอสั่นเล็กน้อย แขนแข็งแรงของเขาคลายความเกร็งลง กอดตอบเธอแน่นขึ้น ความเงียบแผ่วผ่านไปชั่วอึดใจ ก่อนที่เสียงทุ้มต่ำจะดังขึ้นข้างหู“ต้องเป็นพี่มากกว่าที่ต้องพูดประโยคนั้น” เขาเอ่ยช้าๆ ราวกับกลั่นออกมาจากหัวใจ พรพระพายเงยหน้ามองเขา ดวงตาคู่สวยพราวด้วยน้ำตาแต่เต็มไปด้วยความสุข“พี่จะไม่สัญญา เพราะสัญญามันอาจไม่มีค่าอะไรเลย แต่พี่จะทำให้พายเห็นด้วยตาของพายเอง ว่าพี่รักพายมากแค่ไหน และพี่จะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด เพื่อไม่ให้พายเสียใจอีก” ไทเกอร์ยกมือขึ้นลูบแก้มเธอเบาๆ ก่อนจะกดจูบลงบนหน้าผากอย่างแผ่วอ่อน“พายรักพี่ไทเกอร์นะคะ”ไทเกอร์โน้มตัวลงช้าๆ ปลายนิ้วสากประคองใบหน้าหญิงสาวให้แหงนรับสัมผัส ก่อนริมฝีปากร้อนจะกดลงบนกลีบปากนุ่มของพรพระพายจูบครั้งนี้ไม่รีบร้อน แต่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่อัดแน่น เขาต้องการบอกทุกสิ่งผ่านสัมผัสเดียวว่ารักและหวงแค่ไหน เธอเผลอหลับตารับความอบอุ่นนั้นอย่างเต็มหัวใจ“เอ่อ...นายน้อยครับ” เสียงหนึ่งดังขึ้นขัดจังหว
พรพระพายนั่งเฝ้าอยู่ข้างเตียงมาตลอดทั้งคืน ดวงตาแดงก่ำเพราะร้องไห้และไม่ได้นอน แต่เธอไม่แม้แต่จะกะพริบตานานๆ เพราะกลัวจะพลาดช่วงเวลาที่เขาฟื้นกระทั่งนิ้วมือหนาที่วางอยู่บนเตียงขยับเล็กน้อย เปลือกตาของไทเกอร์ค่อยๆ เปิดขึ้นดวงตาคมที่เต็มไปด้วยความแข็งแกร่งแม้จะอ่อนแรงจากบาดแผลก็ยังคงเหมือนเดิม“พาย” เสียงแหบพร่าดังขึ้นแผ่วเบาพรพระพายชะงักหันขวับไปมอง พอเห็นเขาลืมตา น้ำตาก็ไหลพรากทันทีร่างบางโผเข้าหา จับมือหนาขึ้นมากุมแน่น“พี่ไทเกอร์! ฮึก พี่ฟื้นแล้วพายกลัวเหลือเกิน กลัวว่าพี่จะไม่ตื่นขึ้นมาอีก” เสียงของเธอสะอื้นปนสั่น เธอก้มลงซบอกเขาอย่างไม่อายใครน้ำตาเปียกซึมเสื้อคนเจ็บแม้ร่างกายยังอ่อนแรง แต่ไทเกอร์ก็พยายามยกมืออีกข้างขึ้นลูบเส้นผมของเธอช้าๆ สายตาอ่อนโยนเต็มไปด้วยความห่วงใย“ไม่ร้องนะ พี่ไม่เป็นอะไรแล้วพี่อยู่ตรงนี้แล้วพายทำไมไม่กลับบ้านแล้วเจ้าตัวเล็กเป็นยังไงบ้าง”“ลูกปลอดภัยดีค่ะ”“ทุกอย่างเป็นเพราะพาย ถ้าไม่ใช่เพราะพายพี่คงไม่ต้องมาเจ็บหนักแบบนี้”ไทเกอร์นิ่งไปครู่หนึ่งก่อนบีบมือเธอเบาๆ ดวงตาคมแน่วแน่เต็มไปด้วยความจริงจัง“ฟังพี่นะ เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของพาย คนที่ผิดคือไอ้พว
แสงอาทิตย์ยามเย็นคล้อยต่ำท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสีจาก ถนนที่พรพระพายขับรถกลับบ้านมีเพียงรถวิ่งสวนมาเป็นระยะๆ หญิงสาวเพิ่งแยกจากเพื่อนสนิทและตั้งใจจะรีบกลับไปพักผ่อน แต่ไม่นานหลังจากนั้นก็รู้สึกถึงสายตาที่มองตามมาเธอสังเกตผ่านกระจกมองหลัง รถกระบะสีดำคันหนึ่งขับตามมาติดๆ ระยะห่างไม่มากนักหัวใจของพรพระพายเริ่มเต้นแรงขึ้น“หรือเราคิดไปเอง” เธอพยายามปลอบตัวเอง แต่เมื่อเลี้ยวเข้าซอยรถคันนั้นก็เลี้ยวตามเธอใจหายวาบ ความรู้สึกไม่ปลอดภัยท่วมท้นพรพระพายเหยียบคันเร่งเพิ่มความเร็ว พยายามหาทางหนี แต่แล้วจู่ๆ ก็มีรถอีกคันพุ่งตัดหน้าอย่างจงใจ เธอตกใจจนแทบหยุดหายใจรีบเหยียบเบรกสุดแรง ล้อเสียดสีกับพื้นถนนดังเอี๊ยดกลิ่นไหม้ลอยขึ้นมา รถหยุดลงได้อย่างหวุดหวิดมือเรียวสั่นเทากำพวงมาลัยแน่นจนข้อนิ้วขาวซีด หัวใจเต้นโครมครามพรพระพายพยายามตั้งสติ ก่อนรีบคว้าโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดโทรออกไปหาเพียงคนเดียวที่เธอไว้ใจ“คุณไทเกอร์ ฮึก ช่วยพายด้วย...” เสียงของเธอสั่นเครือแทบขาดใจ“อยู่ไหน ตอนนี้พายอยู่ตรงไหน บอกมาเดี๋ยวนี้!” ปลายสายเงียบไปชั่วอึดใจ ก่อนตามมาด้วยเสียงทุ้มจริงจังเธอรีบแจ้งตำแหน่งด้วยเสียงสะอื้น ไ
ค่ำคืนที่เงียบสงัดบรรยากาศเงียบสงัดจนได้ยินเสียงลมหายใจตัวเอง ไทเกอร์นั่งอยู่หน้าบ้านไม่ยอมไปไหน ดวงตาคมจับจ้องไปยังประตูเหมือนเฝ้ารอใครบางคนอย่างไม่ยอมแพ้พรพระพายยืนนิ่งอยู่หลังบานประตูไม้ เธอสูดหายใจเข้าลึก ความลังเลปนความเจ็บปวดกดทับอยู่เต็มอก สุดท้ายก็ตัดสินใจบิดกลอนออกมา เธอก้าวออกไปช้าๆ แววตานิ่งสงบแต่ภายในกลับสั่นคลอน “พาย...”“ที่พายขอหย่า มันแปลว่าพายไม่ต้องการความรับผิดชอบอะไรจากคุณอีกแล้ว ขอแค่คุณยอมปล่อยพายไปโดยดีแค่นั้นพอ” เธอเอ่ยเสียงเรียบแต่ภายในหัวใจนั้นเจ็บปวดแค่ไหนหัวใจของไทเกอร์สะท้านเขาก้าวเข้ามาหนึ่งก้าว ดวงตาสั่นไหวเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ไม่เคยเปิดเผยมาก่อน เขาคุกเข่าลงต่อหน้าหญิงสาว“พายพี่ขอโอกาสอีกครั้งได้ไหม ที่ผ่านพี่มันละ...” เสียงทุ้มต่ำแฝงความสั่นเครือ พูดไม่ทันถูกหญิงสาวเอ่ยขึ้นเสียก่อน“พายไม่อยากเจ็บปวดอีกแล้ว พายไม่เข้าใจทำไมต้องรักผู้ชายแบบคุณด้วย” คำตอบของเธอเหมือนคมมีดกรีดลึกลงในหัวใจไทเกอร์ พรพระพายหลับตาแน่นหยดน้ำใสเอ่อคลอ เธอส่ายหน้าเบาๆ“พายพี่...”“คุณอย่าทำเหมือนรักได้ไหมพายเจ็บ ฮือ” เธอร้องไห้โฮ เพราะการกระทำของเขาเขานิ่งร