เมื่อกลับมาถึงห้อง คนตัวเล็กก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่พร้อมกับฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี จนคนที่นอนดูหนังอยู่โซฟาหน้าห้องรับแขกถึงกับต้องหันตาม ทำเอาเขารีบเด้งตัวลุกจากโซฟาวิ่งมาหาคนตัวเล็กด้วยความตกใจ เพราะตอนนี้เขาเห็นเธอมีผ้าพันแผลข้อศอกกับเข่า แค่เขาห่างเธอวันเดียวสภาพเธอเป็นแบบนี้แล้วเหรอเนี่ย!
"หนาว!มึงเป็นอะไรไปโดนอะไรมา!?"
"โดนรถชนน่ะ" คนตัวเล็กส่งยิ้มให้เขา และในอ้อมกอดของเธอมีเสื้อกาวน์สีขาว นี่มันเสื้อกาวน์ของแพทย์นี่ เธอไปได้มันมาจากไหน?
"ฮะ!!รถชน!รถอะไรชน! ชนอยู่ไหน?! เมื่อไหร่!? มึงเป็นอะไรมากไหมหนาว?" ร่างสูงรีบเข้ามาจับแขนทั้งสองข้างของเธอ หมุนซ้ายหมุนขวาด้วยท่าทางตกใจและเป็นห่วง เขาห่วงเธอจริง ๆ ถ้าเขาไปรับไปส่งเธอเองคงไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับเธอ
"โอ้ยยย~ใจเย็น ๆ มึงถามเยอะขนาดนี้กูจะตอบทันไหมล่ะ"
"ก็กูห่วงมึงอ่ะ"
"กูโดนมอไซด์ชน มันขับขึ้นฟุตบาทมาจะชนเด็กคนหนึ่ง แต่กูไปช่วยก่อนกูเลยโดนชนเจ็บเอง แต่มึงไม่ต้องห่วงเพราะเจ็บนี้กูถือว่าคุ้ม"
"คุ้มเหี้ยไรอีกล่ะ มึงเจ็บนะเว่ย!" ซุนติดจะเสียงดังนั่นเพราะเขาเป็นห่วงเธอเอามาก ๆ
"มึงรู้ป่ะว่าวันนี้กูเจออะไร?" ลมหนาวยิ้มแฉ่งพร้อมกับยกเสื้อกาวน์สีขาวขึ้น
"อะไรมึงไปขโมยของใครมา?"
"ไอ้เหี้ยนี่! กูไปเจอเจ้าของเสื้อมา นายอ่ะ! มึงจำได้ป่ะคนที่กูเคยชอบอ่ะ อรั้ยยยย~" ลมหนามดีใจจนออกหน้า พร้อมกับยิ้มตาหยีบิดตัวไปมา
ทำเอาคนตัวสูงใจแป้วลงทันที จำได้สิ ทำไมเขาจะจำไม่ได้ ก็มันเป็นคนที่ทำคนตัวเล็กตรงหน้าเขาร้องไห้ผิดหวังที่มันไม่ยอมรับรักเธอไม่รู้กี่ครั้ง และคนที่คอยปลอบใจคอยอยู่เคียงข้างเธอ ก็คือเขานี่แหละ…
"มึงโดนมันปฏิเสธกี่ครั้งมึงจำไม่ได้ไง? ยังจะชอบคนแบบนั้นอยู่อีก" ซุนเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจนัก
"มึงนี่ไม่รู้อะไร เจ็บแล้วจำคือคน เจ็บแล้วทนคือคนเก่งเว่ย ฮ่า ฮ่า "
"......"
"เฮ่ยมึง ๆ ๆ เขาทักไลน์กูมาแล้วอ่ะ กรี๊ด" คนตัวเล็กกระโดดโลดเต้นจนลืมไปเลยว่าตัวเองเพิ่งบาดเจ็บมา เพียงเพราะมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น และเธอก็กดรับทันที
["ฮัลโหล หนาวถึงบ้านรึยังครับ"]
"ถึงแล้ว มีอะไรรึเปล่า ไป ๆ" ประโยคหลังเธอหันมายังคนตัวโตพร้อมกับปัดมือไล่คนตัวสูง ที่ตอนนี้หน้าตาบูดบึ้งราวกับคนท้องผูก
[เปล่าครับ เราแค่โทรมาถาม เป็นห่วงกลัวยังกลับไม่ถึง เป็นไงบ้างเจ็บแผลมากไหมครับ?]
"เจ็บนิดหน่อยอ่ะ แต่เดี๋ยวก็หายแค่นี้สบายมากกกก"
คนตัวสูงยืนเบะปากโดยสัญชาตญาณ แต่ร่างบางกลับเดินผ่านไปโดยไม่สนใจ แถมยังคุยโทรศัพท์กระหนุงกระหนิงกับผู้ชายคนอื่น น้ำเสียงที่เธอใช้กับคนอื่นช่างอ่อนโยน ต่างกับตอนที่คุยกับเขาซะจริง คุยกับเขาแต่ละทีเหมือนกับคนจะฆ่ากันตายยังไงยังงั้น ชิ!
ก๊อก ๆ แกร๊ก เสียงเคาะประตูดังขึ้น แต่เพราะอีกคนไม่สนใจจะล็อคห้อตั้งแต่แรกจึงทำให้เขาเปิดเข้ามาได้อย่างง่ายดาย
"มึงทำอะไรหนาว ไม่ออกไปกินข้าวจะได้กินยา?"
คนตัวเล็กที่กำลังง่วนอยู่กับการรีดเสื้อกาวน์ตัวนั้น ตอบแบบไม่แหงนมองหน้าเขาแม้แต่นิด
"ไม่อ่ะ ยังไม่หิว ขอทำอันนี้ก่อน"
"มึงวางก่อนมากินข้าวกินยาจะได้พัก อันนั้นพรุ่งนี้ค่อยทำก็ได้"
"ก็กูบอกว่าไม่ไง กูไม่หิว มึงนี่ก็นะ"
ลมหนาวยังคงก้มหน้าทำต่อไปแบบไม่สนใจเขาสักนิด ชิ! ใช่สิ ก็ไอ้นั่นมันสำคัญกว่านี่เนอะ ก็มันเป็นคนที่เธอชอบนี่ เขาจะเป็นห่วงเธอแทบตายยังไงเธอก็คงมองข้ามมันอยู่ดีสินะ ได้ผู้แล้วลืมเพื่อน จำไว้เถอะ!
ผ่านไป 3 เดือน...
นายและลมหนาวเริ่มพัฒนาความสัมพันธ์ขึ้นเรื่อย ๆ เริ่มสนิทกัน พูดคุยโทรหา ไปกินข้าวแลดูเหมือนแฟน แต่เขาก็ยังไม่ให้สถานะเธอแบบชัดเจน
วันนี้เป็นวันที่เขานัดเธอออกมากินข้าว คนตัวเล็กในชุดเสื้อกระโปรงสีขาว รวบผมขึ้นทั้งหมด วันนี้เธอเลือกที่จะแต่งหน้าเบา ๆ ทำให้ใบหน้าหวานที่ปกติไม่แต่งหน้าเธอก็ดูสวยน่ารักอยู่แล้ว ยิ่งดูน่ารักเป็นธรรมชาติขึ้นไปอีก
เมื่อมาถึงร้านอาหารที่นัดกันไว้ คนตัวเล็กก็มองหาผู้ชายที่นัดเธอออกมาอย่างตั้งใจ นั่นไง เธอเห็นเขาแล้ว ลมหนาวกำลังจะเดินเข้าไปหา แต่ต้องหยุดชะงักไป เมื่อเห็นว่ามีผู้หญิงอีกคนซึ่งท่าทางน่าจะอายุน้อยกว่าเธอนั่งอยู่กับเขาด้วย! เธอคนนั้นเป็นใคร? แล้วมานั่งตรงนั้นกับเขาได้ยังไง? ในขณะที่คนตัวเล็กกำลังจะเดินเข้าไปในร้าน ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เป็นนายที่โทรเข้าหาเธอ คนตัวเล็กกดรับด้วยมือที่สั่นเทา
["ฮัลโหลหนาว วันนี้นายขอเลื่อนนัดไปก่อนนะ พอดีวันนี้มีธุระ]
"......"
ลมหนาวถึงกับพูดไม่ออก พร้อมกับสายที่ถูกตัดไป ร่างบางยืนตัวสั่นเทา มองเขากับผู้หญิงคนนั้นนั่งคุยกันอย่างสนิทสนม เธออยากจะเข้าไปลากผู้หญิงคนนั้นออกมาตบสั่งสอน ลากผู้ชายคนนั้นออกมาเคลียร์กับเธอซะให้รู้เรื่องรู้ราว แต่ตอนนี้เธอไม่มีแรงแม้แต่จะพูด ถ้าเป็นนิสัยของเธอโดยปกติสองคนนั้นโดนเธอถล่มยับแน่ แต่เพราะเป็นเขาที่เธอชอบมากที่สุด เธอกลับไม่อยากทำแบบนั้น
นี่เธอกำลังอกหักเหรอเนี่ย อกหักตั้งแต่ยังไม่ได้เป็นอะไรกันเนี่ยนะ ที่ผ่านมาเธอคิดเข้าข้างตัวเองมาตลอด ที่เขาคุยกับเธอทุกวัน ทำดีกับเธอ ชวนเธอกินข้าวดูหนัง เหมือนคนเป็นแฟนกันทำ เขาไม่ได้คิดอะไรกับเธอจริง ๆ น่ะเหรอ หรือจริง ๆ เธอไม่ใช่ตัวเลือกของเขาตั้งแต่แรก คงเป็นแบบนั้นสินะ เขาคงไม่คิดจะชอบเธอจริง ๆ หรอก เพราะคนแบบเธอไม่มีอะไรที่เหมาะกับเขาเลยสักอย่าง ทั้งหน้าตา นิสัย เธอน่าจะรู้ตัวเองดีตั้งแต่แรก จะได้ไม่ต้องผิดหวังซ้ำ ๆ แบบนี้…
3 ปีผ่านไป…"ปะ ป๊า ยูหนายอ่า~"เสียงเรียกยานคางจาก ‘โซล’ เด็กชายวัยสามขวบพยานรักของเขาและเธอ ที่รูปร่างน่าตาถอดแบบออกมาจากผู้เป็นพ่อเด๊ะ อย่างกับพิมพ์เดียวกันทั้งจมูก ปาก ตา คาง รูปหน้า ผิวพรรณและส่วนต่าง ๆ เรียกได้ว่าหอบมาจากเขาหมดเลย แต่นิสัยกลับได้ผู้เป็นแม่มาเต็ม ๆ ทำเอาเขาจากที่หลงคุณแม่ว่าหนักแล้ว หลงลูกยิ่งหนักเข้าไปอีก…"ป๊าอยู่ในห้องน้ำครับบบบบ~""หนูขอเข้าด้ายม้ายยย~""ได้ครับ ป๊าไม่ได้ล็อค"เด็กชายตัวน้อยน่าตาน่ารัก เดินดุ๊กดิ๊ก ๆ เข้ามาในห้องน้ำ พร้อมกับปีนป่ายขึ้นไปนั่งบนตักของผู้เป็นพ่อที่นั่งอยู่บนชักโครก ด้วยท่าทางน่าเอ็นดู ทำเอาเขาอดใจไม่ไหวต้องก้มลงหอมแก้มเจ้าลูกชายฟอดใหญ่“ฟอดดดดด” คนอะไรไม่รู้ ติดพ่อสุด ๆ ไปไหนทำอะไรเป็นต้องตามเขาไปทุกที่…"ปะป๊าา หนู คะ คิดถึง ปะป๊าา~~^^"^^โอ้ยตาย ทำไมลูกเขาถึงขี้อ้อนน่ารักขนาดนี้นะ เอะอะก็คิดถึง เอะอะก็บอกรักป๊า เขานี่ใจละลายเป็นไอติมแล้ว อรั้ยยย…"หืม~ป๊ามาเข้าห้องน้ำแป๊บเดี
1 เดือนผ่านไป… กลางดึก"อื้อ~"ลมหนาวที่ตอนนี้พยายามลุกขึ้นนั่งอย่างยากลำบาก ช่วงนี้เธอนอนไม่ค่อยได้ เพราะจะปวดหลังปวดซี่โครงบ่อยมาก ยิ่งท้องโตยิ่งปวดทรมานแบบสุด ๆ การเป็นแม่คนนี่ต้องเหนื่อยและทรมานขนาดนี้เลยหรอ จะนอนก็นอนไม่ได้ หายใจก็เหมือนหายใจไม่เต็มปอด"ฮึก~ๆ " เสียงสะอื้นเบา ๆ จากว่าที่คุณแม่ ตอนนี้อยู่ดี ๆ เธอก็อยากร้องไห้ออกมาซะงั้น"อื้อออ~หนาวเป็นไรอ่ะ?"เสียงอู้อี้ของคนที่นอนอยู่ข้าง ๆ เธอ การขยับตัวของลมหนาวทำให้เขาตื่นขึ้นมาอีกคน"เป็นอะไรคะ? ปวดท้องหรอ!? ไปหาหมอไหม!!?"พอเขาปรับสายตาได้ ก็เห็นว่าเธอที่นั่งพิงหัวเตียงอยู่นั้น กำลังร้องไห้ มือข้างหนึ่งลูบท้องส่วนมืออีกข้างก็กดเอวด้านหลังไว้จนเขาอดเป็นห่วงไม่ได้"ฮึก~ปะ เปล่า หนาวแค่ปวดหลังนอนไม่ได้""โอ๋ ๆ มานี่มา" เขาพูดจบก็ขยับไปนั่งซ้อนหลัง ก่อนที่จะค่อย ๆ นวดหลังให้เธอเบา ๆ ด้วยท่าทีเอาใจใส่" ซุนขอโทษนะ ซุนไม่สามารถอุ้มท้องแทนหนาวได้ ซุนรู้นะว่าหนาวทั้งเหนื่อยทั้งทรมาน เดี๋ยวแพ้ท้องเดี๋ยวปวดหลังปวดท้อง หนาวคงลำบากน่าดู "เขาพูด
หลังจากไปทำบุญให้ม๊าเสร็จเรียบร้อย ทั้งเขาและเธอก็ต้องกลับไปเหยียบบริษัทของป๊าซุนอีกครั้ง เพื่อเคลียร์เอกสารขายหุ้น และเคลียร์เรื่องต่าง ๆ ให้เรียบร้อย มือเรียวกุมมือเขาไว้แน่นเป็นการให้กำลังใจ และเพื่อให้เขารับรู้ว่าเธอจะอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหน จะอยู่ข้างเขาเสมอ…เธอคิดว่าเขาคงรู้สึกไม่ดีเท่าไร ที่ต้องกลับมาเจอกับผู้เป็นพ่อที่เห็นแก่ตัวแบบนั้น…"หืม~ ซุนโอเคน่า"เขาหันมายิ้มให้เธอ ก่อนจะเอ่ยขึ้น เขารับรู้ถึงความเป็นห่วง และกังวลของคนตัวเล็ก เธอคงจะคิดว่าการมาเจอผู้ชายคนนั้นในครั้งนี้ จะทำให้เขากลัวหรือรู้สึกไม่โอเคสินะ เปล่าเลย… เขารู้สึกเฉยมาก เขารู้สึกดีด้วยซ้ำที่จะได้ตัดขาดกับผู้ชายคนนี้สักที คนที่ไม่สมควรเรียกตัวเองว่าพ่อแบบนั้น เมื่อพวกเขาทั้งสองก้าวขาเข้ามาในบริษัท ทุกคนก็ต่างวิ่งเข้ามาทักทาย"สวัสดีครับ/ค่ะ คุณซุน/คุณลมหนาว"ก่อนที่จะโค้งตัวทำความเคารพ จนเขาและเธอจะรีบห้ามเอาไว้"ไม่ต้องครับ ผมไม่ใช่บอสของที่นี่แล้ว ไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ก็ได้""คุณซุนจะไปจริง ๆ หรอครับ?""ใช่ครับ"เขาส่งยิ้มให้กับพน
เมื่อพายุเเห่งการสูญเสียที่โหมกระหน่ำสงบลง หลังจากงานศพของแม่ผู้เป็นที่รักได้ผ่านพ้นไปทำให้เขาเริ่มปลง สภาพจิตใจค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับ เพราะได้รับกำลังใจและพลังบวก จากคนรอบข้างโดยเฉพาะ ลมหนาว และสิ่งสำคัญที่สุดที่ทำให้เขาอยากกลับมาเริ่มต้นชีวิตใหม่นั่นก็คือ ‘ลูกเมีย’ เขาอยากปกป้องและดูแลพวกเขาให้ดีที่สุด…"ทำไมเล็บเท้ายาวจังเลยล่ะหนาว?"ร่างสูงที่ตอนนี้ร่างกายเปลือยเปล่าก้มถูสบู่อาบน้ำให้เธอ ตอนนี้เธอท้องโตขึ้นมาก จริง ๆ เธอก็อาบเองได้แหละ แต่เขาไม่ยอมน่ะสิ ทำอย่างกับเธอเป็นอัมพาต อาบน้ำก็จะอาบให้ เธอเข้าห้องน้ำก็มานั่งเฝ้า ไม่ยอมให้เธอห่างกายเลยแม้แต่นิด ส่วนเหตุผลที่ได้รับก็คือกลัวเธอลื่นล้มบ้างแหละ กลัวโน่นนี่นั่น สรุปคือกลัวจนเธอไม่ต้องทำอะไรกันเลยทีเดียว"ยังไม่ได้ตัดมาสักพักแล้ว ขี้เกียจก้ม"เธอเอ่ยขึ้นพร้อมกับใช้มือบีบแชมพู แล้วนวดผมให้เขาอย่างเบามือ ตอนนี้คนหนึ่งก็คุกเข่าก้มลงพื้นถูตามซอกเท้าให้เมียสุดที่รัก ส่วนอีกคนก็ใช้มือสองข้างขยี้ผมให้ เป็นภาพที่ดูแล้วอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก ต่างคนต่างรักและเอาใจใส่กันและกัน&he
"หนาวจริง ๆ ใช่ไหม? หนาวอย่าทิ้งซุนไปไหนนะ ซุนขอโทษ อย่าทิ้งซุนไปนะ ซุนไม่เหลือใครแล้ว ฮึก~ๆ ฮือออ ๆ ๆ ๆ"ซุนร้องไห้โฮ ปากเพียงพร่ำขอโทษเธอและขอร้องให้อยู่กับเขาอย่าทิ้งเขาไป ตอนนี้ซุนเหมือนคนหมดที่พึ่งทางใจ ทุกอย่างในชีวิตของเขาราวกับพังทลายลงจนหมดสิ้น เขาสูญเสียผู้หญิงที่รักคนหนึ่งไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ การจากลาที่ไม่อาจกลับมาพบเจอกันได้อีก มันทรมานจนเขาไม่อยากจะหายใจต่อเลยด้วยซ้ำ แต่ทว่า…"ฮึก~โอ๋ๆ หนาวอยู่นี่แล้วนะ ไม่เป็นอะไรนะคนเก่ง"เธอพยายามกลั้นเสียงสะอื้นและหยดน้ำตาไว้ เธอเสียใจมากแต่ตอนนี้เธอต้องเป็นหลักยึดเหนี่ยวจิตใจให้กับเขา เธอจะอ่อนแอไม่ได้เด็ดขาดมือบางลูบผมร่างสูงในอ้อมกอดที่ยังคงร้องไห้ไม่หยุดอย่างเบามือ ทำให้เธอรู้ว่าเขาปล่อยปะละเลยตัวเองแค่ไหน เส้นผมสั้นที่เคยนุ่มสลวยมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ตอนนี้กลับแข็งกระด้าง กลิ่นแปลก ๆ ราวกลับว่าไม่ได้ทำความสะอาดมาสักพัก ตอนเธอไม่อยู่เขาใช้ชีวิตเละเทะแค่ไหนกันนะ?"ฮือ ๆ ๆ ซุนขอโทษ ๆ ๆ ถ้าซุนบอกหนาวเร็วหน่อยหนาวก็คงไม่ต้องเสียใจ ฮึก ~ซุนมันขี้ขลาดเอง~" เขายังคงร้องไห้ไม่หยุด
“ม๊า~” ลมหนาวที่พอตั้งสติได้ เธอก็รีบจองตั๋วบินกลับทันที!เท้าสองข้างก้าวเข้ามาในงานฌาปนกิจศพ ของผู้เป็นแม่ของเพื่อนสนิท ที่เป็นอดีตแฟนและเป็นทั้งพ่อของลูกเธอ บรรยากาศโดยรอบเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ดวงตากลมโตที่ตอนนี้มีน้ำตาเอ่อคลอเต็มเบ้าตา นี่เธอมาช้าไปงั้นเหรอ? เธอยังคิดว่าจะรอท่านกลับมา เธออยากจะบอกลาท่านด้วยตัวของเธอเอง แต่คงไม่มีโอกาสนั้นแล้วสินะ คนที่รักและเอ็นดูเธอประดุจดั่งแม่อีกคน ได้จากเธอไปแล้วงั้นเหรอ…"ฮึก~ ม๊า หนาวมาหาม๊าแล้วนะ ฮึก ฮือออ~"เธอเดินเข้าไปทิ้งตัวลงอย่างคนหมดแรง น้ำตาไหลอาบสองแก้ม มือบางค่อย ๆ ลูบโลงศพเบา ๆ พร้อมกับวางใบหน้าแนบชิด เพียงหวังให้คนที่นอนอยู่ภายในรับรู้ถึงการมาของเธอ"หนาวลูก ฮึก~ " ร่างของผู้เป็นแม่โผลเข้ากอดลูกสาวที่นั่งร้องไห้อยู่ด้วยความคิดถึง ก่อนจะเปลี่ยนเป็นตกใจ"หนูท้องหรอ? ทำไมหนูไม่คิดจะบอกแม่เลย!?"คนเป็นแม่จับไหล่เธอแน่น นี่ลูกเธอท้องโตขนาดนี้ ยังไม่ยอมบอกคนเป็นแม่เลยหรือนี่?"หนาวท้อง 7 เดือนกว่าแล้วค่ะแม่" มือเรียวรีบยกขึ้นเช็ดน้ำตา ก่อนที่จะยอมบอกเร