แชร์

บทที่ 1 บังคับแต่งงาน🌾

ผู้เขียน: นนท์ NONN
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-21 18:58:58

ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก

“พล ลูก ตื่นยังจ้ะ”

อืออ......

เสียงเคาะประตูดังก้องเข้ามาในห้องนอนสีเหลี่ยมใหญ่ พร้อมเสียงหวานของผู้เป็นมารดาเอ่ยเสียงเจื้อแจ้วขึ้น แทรกเข้ามาปลุกให้พลผุดตัวลุกจากเตียงนอน พร้อมกับมือเรียวพลางขยี้ตาเบาๆ

พลเดินตรงไปยังหน้าต่างบานใหญ่ ผืนผ้าม่านสีขาวถูกดึงออกช้าๆ เผยให้เห็นทิวทัศน์ยามเช้าที่แสนสดใส แสงแดดอ่อนก็สาดส่องกระทบใบหน้าหล่อของเขา ลมเย็นๆ ก็พลอยพัดโชยมาเบาๆ พร้อมหอบเอาความสดชื่นมาให้เขาในยามเช้า

หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จ พลก็เดินออกมาในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวเรียบง่ายเข้ากับกางเกงสแล็คสีดำ ผมถูกจัดทรงอย่างเรียบร้อย ใบหน้าหล่อเหลาแสดงออกถึงความเพียบพร้อม พร้อมที่จะทำงานในวันนี้

พลเดินลงมาจากชั้นสองมุ้งตรงไปยังห้องครัว มือเรียวหยิบโยเกิร์ตรสสตรอว์เบอร์รีที่เย็นฉ่ำขึ้นมาลิ้มลอง รสชาติหวานอมเปรี้ยวชื่นใจทำให้เขารู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันที ก่อนจะหยิบครัวซองอบใหม่ๆ ที่แม่บ้านเตรียมไว้ให้พร้อมกับเดินออกมาพบกับบิดามารดา ที่นั่งพักผ่อนอยู่บนโซฟานุ่มหน้าบ้าน

“ป๊าม๊า เสร็จแล้วครับ” พลพูดพร้อมกับเดินออกมาด้วยรอยยิ้มกว้าง พร้อมกับการแต่งกายที่คุณหญิงฐาแม่ของเขาก็ยิ้มออกมาด้วยความพอใจ ก่อนที่เธอจะเดินตรงมายังลูกชาย

“ลูกม๊านี่หล่อสุดๆ” ผู้เป็นมารดาเมื่อเห็นลูกชายตน ก็อดที่จะหยิกไปที่แก้มใสของลูกชายด้วยความเอ็นดูไม่ได้

“ขอบคุณครับม๊า”

เสียงชมเชยหวานชื่นของคุณหญิงฐา แม่ผู้แสนรัก ดังขึ้นเบาๆ ก่อนที่รถลิมูซีนหรูที่ผู้บิดาเพิ่งถอยมาใหม่จะแล่นมาจอดที่หน้าบ้าน พลเดินตามบิดามารดาไปยังรถด้วยรอยยิ้มเบาๆ แต่ทว่าวันนี้พลเองเขาก็อยากนั่งรถแยกกับพ่อแม่ แม่ของเขาก็ไม่ได้ว่าอะไรแต่ก็มีเงื่อนไขอยู่ คือพลต้องให้เลขาคนสนิทนั่งติดรถมาด้วย ระหว่างทางเลขาส่วนตัวของเขาอย่างนาเองเธอก็ค่อยๆ เล่ารายละเอียดเกี่ยวกับองค์การที่จะทำในวันนี้ให้ฟังอย่างฉะฉาน

หลังจากเดินทางด้วยรถลิมูซีนหรูก็ขับมาเป็นเวลาเกือบสองชั่วโมง พวกเขาก็มาถึงที่พัทยา เมื่อรถจอดนิ่งที่ลานจอดรถใต้โรงแรมหรู พลเขาก็พลางเดินตามบิดามารดาเข้าไปในห้องโถงใหญ่ ที่ตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจงราวกับพระราชวัง

เมื่อนั่งประจำที่โต๊ะกลางขนาดใหญ่ พลก็พบกับคู่สามีภรรยาอีกคู่หนึ่งที่แต่งกายอย่างภูมิฐาน และหญิงสาวสวยสง่าในชุดเดรสสีแดงสดใสที่ดูจะหยิ่งยโสเล็กน้อย แต่พลเขาก็ไม่ได้ใส่ใจเธอนัก เขาเพียงแค่นั่งฟังผู้ใหญ่สนทนาธุรกิจกันไปพลางๆ ตามปกติ จนกระทั่งได้ยินประโยคหนึ่งขึ้นมา ที่ทำให้เขาถึงกับต้องตาโต

“ทางเราจะยอมเซ็นสัญญาร่วมบริษัทของคุณ ถ้าคุณสิงหาและคุณฐายอมให้ลูกชายของท่าน มาแต่งงานกับลูกสาวของเรา บิว" เสียงทุ้มนุ่มของผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้น

พลเงยหน้าขึ้นสายตาจับจ้องที่หญิงสาวตรงหน้า ที่ตอนนี้กำลังจ้องเขามาด้วยสายตาที่หยิ่งยโส ใบหน้าหวานของเธอแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางอย่างจัดเต็ม แต่กลับไม่สามารถดึงดูดใจของพลได้เลย แต่ทว่าเขากลับรู้สึกถึงความเย็นยะเยือกที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย ก่อนที่เธอจะกล่าวขึ้นท่ามกลางบทสนทนา

"สวัสดีค่ะ" เสียงเรียบๆ ของหญิงสาวดังขึ้นมาขัดจังหวะความคิดของพล

"ว่าไงพล จะยอมทำเพื่อพ่อแม่และบริษัทเราไหม" ผู้เป็นบิดาของเขาเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เร่งรัด พลเองเขาก็เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบออกไปด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาและลังเลอยู่ไม่น้อย

"คือผม..." แต่ยังไม่ทันที่จะได้พูดต่อ ภรรยาคู่ค้าธุระกิจตรงหน้าก็ขัดขึ้นมาเสียก่อน

"งั้นไม่เป็นไรค่ะ ดิฉันเข้าใจค่ะ รอให้ลูกชายของคุณฐากับคุณสิงหาตัดสินใจเถอะนะคะ ดิฉันกับสามีรอได้เสมอ"

พลในตอนนี้เขารู้สึกเหมือนจะขาดใจตาย ร่างกายของเขาสั่นเทาไปหมด ความรู้สึกผิดหวังและเจ็บปวดท่วมท้นจนจุกอยู่ในอก เขาไม่เคยคิดว่าชีวิตของเขาจะต้องมาถึงจุดนี้เลย จุดที่เขาต้องมาแต่งงาน เขาอยากจะหนีไปจากที่นี่ อยากจะหายตัวไปให้พ้นจากสายตาของทุกคน พลเขาถอนหายใจหนัก พร้อมกับสีหน้าของผู้เป็นบิดาที่บึ้งตึงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ตลอดทางกลับบ้าน พลเงียบกริบสายตาก็ทอดมองออกไปนอกหน้าต่างราวกับคนไม่มีวิญญาณ เลขาส่วนตัวอย่างนาเอง เธอเองก็คอยสังเกตอาการของนายของเธอมาโดยตลอด และเห็นได้ชัดว่าพลกำลังรู้สึกแย่ เธอเองจึงสั่งให้คนขับรถแวะไปคาเฟ่ เพื่อให้พลรู้สึกผ่อนคลายขึ้นบ้าง

ณ คฤหาสน์หรูใจกลางเมือง

รถลิมูซีนหรูจอดเทียบท่าอยู่หน้าตัวคฤหาสน์หลังใหญ่ พลก้าวลงจากรถพร้อมกับในมือที่ถือถุงขนมหวานและขนมปังในมือมากมาย เขาเดินเข้ามาในบ้านด้วยรอยยิ้มสดใสตามปกติของเจ้าตัว แม้ภายในใจจะเต็มไปด้วยความทุกข์ที่ท่วมท้นใจก็ตาม แต่เขาก็พยายามแสดงออกถึงความเป็นปกติ พลถือของตรงไปยังกลุ่มแม่บ้านพร้อมกับแจกจ่ายรอยยิ้มที่สดใส

“คุณหนู.....ซื้อของมาฝากอีกแล้วเหรอคะ” เสียงของแม่บ้านคนหนึ่งดังขึ้น เมื่อเห็นพลที่ถือของระโยงระยาง

“ใช่แล้วครับ ผมเห็นป้าๆ ทำงานหนักกันทั้งวัน ผมเลยซื้อมาฝากเป็นกำลังใจให้นะครับ กินให้หมดเลยนะครับ ถือว่าเป็นคำขอบคุณจากผม” พลเขาพลางตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน พร้อมกับรอยยิ้มที่สดใส

เมื่อพลเดินเลยเข้าไปในห้องครัว เขาก็พบกับเด็กหญิงตัวน้อยหน้าตาน่ารักที่กำลังมองเขาอยู่ ด้วยสายตาแป๋วราวกับตุ๊กตา พลยิ้มให้เธอแล้วคุกเข่าลง ก่อนจะยื่นกล่องขนมหวานที่เขาตั้งใจจะเก็บไว้กินเองให้กับเธอ พร้อมกับส่งรอยยิ้มที่อบอุ่นให้กับเธอ

“กินเยอะๆ นะคะ ถ้าไม่พอให้บอกพี่พลนะคะ” พลเขายิ้มออกมาราวกับแก้มจะแตกให้กับความน่าเอ็นดูของเด็กน้อยตรงหน้า พร้อมกับหอมแก้มเธอด้วยความเอ็นดู

“ค่ะ ขอบคุณพี่พลนะคะ” เด็กหญิงตอบพลด้วยน้ำเสียงที่น่ารัก แล้วกระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุข พลเองเขาก็พลางหัวเราะเบาๆ ด้วยความน่ารักของเธอ จนทำให้เขาลืมเรื่องหนักใจไปเสียสนิท ก่อนที่เสียงหัวหน้าแม่บ้านจะพูดขึ้น ทำให้พลต้องหันไปมองทันที

“คุณหนูพลคะ คุณหญิงฐากับนายหัวสิงหาเรียกพบค่ะ”

“ครับ”

“พี่ไปก่อนนะครับตัวเล็ก ไว้วันหน้าเดี๋ยวพี่ซื้อมาฝากอีกนะครับ”

พลตอบหัวหน้าแม่บ้านด้วยเสียงนิ่งๆ ก่อนที่เขาจะโอบกอดเด็กน้อย พร้อมกับหอมแก้มเธอด้วยความเอ็นดู และพลไม่ลืมที่จะบอกลาเธอด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่น พลชักสีหน้านิ่งปนกับความหงุดหงิดที่ก่อเกิดขึ้นภายในใจ เขาเดินตรงมายังโถงใหญ่ของคฤหาสน์ พร้อมเผยสีหน้าของพ่อแม่ที่ดูจริงจังและกดดันเขาอย่างเต็มที่

“ว่าไงพลจะยอมแต่งงานไหม” นายหัวสิงหาถามขึ้น พร้อมกับสายตาจ้องเขม็งที่ลูกชายอย่างกดดัน

“ไม่ครับ ผมไม่ยอมแต่งเพื่อธุรกิจอะไรนั่นหรอกนะครับ ผมจะแต่งก็ต่อเมื่อเป็นคนที่ผมรักเท่านั้น”

“ไอ้พล!” นายหัวสิงหาลุกตัวขึ้น พร้อมกับตวาดลั่น

“คุณคะใจเย็นสิคะ เดี๋ยวฉันคุยเอง”

ฐาเห็นสามีของตนที่เริ่มเสียงดังใส่ลูกชาย ความขัดแย้งระหว่างพ่อลูกที่ฝังรากลึกบัดนี้ปะทุขึ้นมาอีกครั้ง ยิ่งพลไม่ยอมทำตามที่สิงหาสั่ง สิงหาก็ยิ่งควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ ฐาจึงรีบคว้ามือสามีไว้แน่น พยายามกล่อมเกลาลูกชายด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน

“พลลูก......” เธอพูดขึ้นพร้อมกับคว้ามือนุ่มของลูกชายไว้แน่น

“ม๊าไม่ต้องเลยครับ ผมขอมีอิสระบ้าง ที่ผ่านมาผมทำเพื่อป๊าม๊ามาตลอด ครั้งนี้ผมขอเถอะนะครับ”

“ไอ้ลูกไม่รักดี ก็แกจะได้สืบทอดธุรกิจต่อ มีหน้ามีตาในสังคม แค่แต่งงานในนามธุรกิจ มันทำไม่ได้เหรอวะ!”

“ไม่! ผมจะไม่แต่งงานกับใครทั้งนั้น ผมไม่ติดนะครับที่จะสืบทอดธุรกิจต่อ แต่เรื่องแต่งงานนี้ผมขอบาย”

พลพูดด้วยน้ำเสียงที่เบื่อหน่าย ก่อนที่ตนจะพลันหันหลังและกำลังจะเดินขึ้นไปยังชั้นสอง ไม่นานเขาก็โดนน้ำเสียงแข็งกร้าวของผู้เป็นบิดาพูดขึ้น ก่อนที่พลจะหันไปผเชิญหน้ากับบิดาของตนอีกครั้ง

“แก่ต้องแต่ง!!”

สิงหายืนคั่นกลางเสียงแข็ง ที่จะให้ลูกชายของตนแต่งงานให้ได้ เพื่อธุรกิจของตะกูลและเชื่อมสายใยความสัมพันธ์ระหว่างตะกูล แต่ทว่าสิงหาผู้เป็นพ่อแท้ๆ แทบจะไม่เคยมองว่าลูกแท้ๆ ของตน จะโอเคกับการคลุมถุงชนครั้งนี้หรือไม่

“ไม่ครับ ผมบอกว่าผมไม่แต่ง!”

เพี๊ยะ!!

“ป๊า!!” ฐาร้องขึ้นด้วยความตกใจ

พลเขาเผลอตะคอกเสียงใส่ผู้เป็นบิดาด้วยความหงุดหงิดใจ ก่อนที่ใบหน้าขาวใสจะโดนหลังแหวนของพ่อแท้ๆ ของตนฟาดเข้าที่แก้มจังๆ พลเองก็ถึงกับน้ำตาคลอ มือเล็กก็พลางสัมผัสที่แก้มนุ่มของตนที่ในตอนนี้แทบจะโดนไม่ได้ เขาสัมผัสโดนแม้แต่นิดเดียวก็แซบชาไปทั่วหน้า

ฐาเองก็ลากสามีของตนให้ขึ้นไปบนห้องนอน แต่สิงหาก็มองพลด้วยสายตาแข็ง แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้เมื่อภรรยาที่ตนเคารพรักได้ห้ามไว้ ไม่งั้นค่ำคืนนี้จะต้องมีการทำร้ายกันเกิดขึ้นก็เป็นไปได้ แม่บ้านที่ยืนดูอยู่ก็กรูเข้ามาดูอาการของพล

“คุณหนู”

นิดหัวหน้าแม่บ้านพูดขึ้นพร้อมกับรีบหาอะไรมาประคบที่ลอยถหลอกที่แก้มใส ในขณะที่พลเองก็ไม่สามารถที่จะกลั่นน้ำตาของตนได้อยู่ พลปล่อยโฮต่อหน้าแม่บ้านก่อนที่เด็กหญิงคนที่ตนพึ่งหอมแก้มไป เธอจะเดินเข้ามาหอมแก้มเขาพร้อมกับปลอบอย่างอ่อนโยน

“พี่พลคนเก่ง.....ไม่ร้องนะคะ เดี๋ยวแย้มไม่แบ่งลูกอมนะ”

“ค...ครับ”

พลใช้มือปาดน้ำตาพร้อมกับส่งยิ้มให้เด็กน้อยอย่างฝืนๆ พลเองเขาก็พยามทำตัวเป็นปกติ ก่อนที่พลจะขอตัวแม่บ้านเดินขึ้นไปยังห้องนอนที่อยู่ชั้นสองของตัวคฤหาสน์ เมื่อพลเปิดประตูเข้ามายังห้องนอนใหญ่ เขาได้ล้มตัวนอนลง พร้อมกับความแสบที่อยู่บริเวรใบหน้าที่ในตอนนี้มันยังชาไม่หาย ก่อนที่พลจะคล้อยหลับไปสักพัก

ความฝัน

รุ่งอรุณทาบทอง บนผืนนาข้าวเขียวขจีราวพรมผืนใหญ่ ยอดข้าวและใบหญ้าประดับด้วยหยาดน้ำค้างระยิบระยับราวกับเพชรนับล้านเม็ด สายลมพัดโชยเบาๆ พาเอากลิ่นหอมหวานของดิน กลิ่นหญ้าอ่อนๆ และกลิ่นข้าวมาแตะจมูก เสียงนกกาเจื้อยแจ้วแข่งกับเสียงแมลงนานาชนิด ทำให้บรรยากาศยามเช้าสดใสรื่นรมย์

ดวงอาทิตย์ค่อยๆ โผล่พ้นขอบฟ้าสีทอง เหมือนลูกบอลยักษ์กำลังลอยขึ้นมา เงาของต้นไม้และตัวคนที่ยืดยาวแล้วกำลังค่อยๆ สั้นลงตามลำดับ แสงแดดอุ่นๆ ก็พลางสาดส่องกระทบผิวเปลือยเปล่าของพลที่สวมเสื้อผ้าสบายๆ ทำให้เขารู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่า พร้อมกับชายหนุ่มรูปงามยืนอยู่ตรงหน้า

“พลครับ.....?”

ชายหนุ่มตรงหน้าเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ขณะที่รอยยิ้มบางๆ เลื่อนขึ้นแตะริมฝีปาก พลถึงกับอ้าปากค้าง ดวงตาเบิกกว้างราวกับเห็นเทพบุตรลงมาจากสวรรค์ เมื่อคนตรงหน้านุ่งเพียงผ้าขาวม้าเปลือยท่อนบน หุ่นของอีกฝ่ายดูสมบูรณ์แบบราวกับปั้นมา กล้ามเนื้อแน่นตึงไปทุกส่วน โดยเฉพาะซิกแพ็กที่เป็นระเบียบชัดเจนราวกับมีคนแกะสลัก

ผิวขาวดูสุขภาพดี ใต้แสงแดดอ่อนๆ ที่สาดส่องใบหน้าคมเป็นสัน ดวงตาคู่คมเป็นประกายราวกับดาวบนท้องฟ้า ริมฝีปากสีชมพูอ่อนชวนให้หลงใหล พลเผลอจ้องมองอีกฝ่ายอย่างไม่ละสายตา จนกระทั่งชายหนุ่มตรงหน้าโน้มตัวเข้ามาใกล้เรื่อยๆ จนริมฝีปากทั้งสองเกือบจะสัมผัสกัน ท่ามกลางบรรยากาศโรมแมนติกของทุ่งนาที่เรืองรองด้วยแสงอาทิตย์…..

“โอ๊ย!”

พลร้องลั่นด้วยความเจ็บเมื่อตนตกจากเตียงสูงเกือบๆ เมตรครึ่ง แต่ทว่าพลเองก็เอาแต่ดันเพ้อหาคนในฝันคนนั้น จนลืมอาการเจ็บไปเสียสนิท ภาพพร้อมกับเรือนร่างและใบหน้าของชายในฝันก็ลอยเข้าหัวของเขาซ้ำๆ

“โฮ้หล่อจัง....คนอะไรยืนเฉยๆ ก็หล่อ เรียกชื่อเราด้วยเสียงก็หล่อ ถ้าไม่ติดว่าเป็นความฝันนะ ป่านนี้คงโดนเราลากเข้าไปกินในป่าแล้ว”

“ไม่ได้ๆ!!! เราต้องออกเดินทางว่าแต่ที่นั้นคือที่ไหน ต้องรู้ให้ได้ เริ่ม!!! พ่อหนุ่มเทวดาของพล พลมาหาแล้วจ้า”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เมียอ้ายเข้ม | ฮักบ่ฮู้ลืม ที่บ้านโคกสะแบง   บทที่ 27 กินดองคำหมั่นสัญญา/บทส่งทาย

    “โห่ ฮิ้ว โห่ ฮิ้ว โห่ อิ้ว โห่ ฮิ้ว โห่ ฮิ้ววว”ยามเช้าของโคกสะแบงพร้อมกับเสียงโห่ของผู้ใหญ่มีดังขึ้น ปนกับเสียงกลองยาวดังสะท้อนไปทั่วหมู่บ้าน เป็นสัญญานบอกเล่าถึงงานมงคลที่ทุกคนต่างรอคอย บ้านของพ่อใหญ่มีและแม่ปลาถูกตกแต่งด้วยผ้าสีสดใสและดอกไม้พื้นบ้าน และยังมีกลิ่นหอมของอาหารพื้นเมืองลอยมาแตะจมูกเพิ่มบรรยากาศแห่งความสุข และเหลาแม่ครัวที่ทำอาหารกันอย่างขยันขันแข็งเพราะวันนี้มีแขกเยอะไม่ว่าจะเป็นคนในหมู่บ้านอื่น หรือพนักงานบริษัทของพลก็ต่างมาร่วมพิธีมงคลนี้ พร้อมกับนักข่าวที่ตีข่าวกันอย่างทั่วหน้า“โห่ ฮิ้ว โห่ ฮิ้ว โห่ อิ้ว โห่ ฮิ้ว โห่ ฮิ้ววว”เสียงของผู้ใหญ่มีดังขึ้นอีกครั้งท่ามกลางขบวนแห่ พลอยู่ในชุดพื้นบ้านสีขาวทอง พร้อมกับผ้าขาวม้าคาดเอวเสริมความงามแบบชาวอีสาน พลเขานั่งอยู่บนหลังลอล่าควายเผือกตัวงาม ที่ถูกตกแต่งด้วยพวงมาลัยดอกดาวเรืองรอบคอและผ้าคลุมลายไทยดูวิจิตรตระการตาด้านหลังลอล่า เผยให้เห็นเข้มในชุดพื้นบ้านสีเข้ม คาดผ้าขาวม้าแบบเดียวกับพล นั่งซ้อนท้ายพลด้วยรอยยิ้มกว้าง มือหนาก็พลอยจับเชือกบังคับลอล่าไว้อย่างมั่นคง พร้อมกับใบหน้าหวานของพลหันมายิ้มให้คนรักเป็นระยะ และไม่ลืมท

  • เมียอ้ายเข้ม | ฮักบ่ฮู้ลืม ที่บ้านโคกสะแบง   บทที่ 26 สินสอด

    ทุกเช้านั้น ทุกอย่างเหมือนปกติที่โคกสะแบงพร้อมกับเสียงไก่ขันที่ปลุกคนในบ้านได้เป็นอย่างดี เข้มกับพลยังคงนอนหนุนตักกันอยู่บนแคร่ไม้หน้าเถียงนา พร้อมกับสัมผัสอุ่นที่กระทบเขาใบหน้าพลที่ลืมตาตื่นขึ้น ในขณะที่ใบหน้าหล่อก็หอมแก้ม หอมหน้าฝาก และปากของคนร่างเล็กไปมาด้วยความหลงใหล“เช้าแล้วตื่นเร็วครับ”เข้มพูดขึ้นพร้อมกับริมฝีปากที่พลอยเข้ามากดจูบเบาๆ พลที่ค่อยลุกขึ้นนั่งก็พลอยจ้องที่ใบหน้าหล่อของอีกฝ่ายพร้อมกับซุกหน้าลงอกแกร่งด้วยความที่ไม่สดใสสักเท่าไร“นี่ขี้เซานะเรา” เข้มพูดขึ้นพร้อมกับยิ้มมุมปปากหน่อยๆ ฝามือหนาก็พลอยลูบที่ศรีษะไปพลางๆ“ผมง่วงมากรู้สึกเพรียจังเลยครับพี่เข้ม” พลพูดขึ้นเสียงอู้อี้พร้อมกับเข้มที่ยิ้มกว้างขึ้นด้วยความชอบใจ“มาตื่นๆ จะพากลับบ้าน”เข้มเขย่าตัวพลเบาๆ แต่ทว่าคนร่างเล็กที่ซุกอกก็เปลี่ยนมาเอาคางฝังลงที่ไหล่กว้าง เข้มเองก็ส่ายหัวไปมาพร้อมกับอุ้มพลขึ้นพร้อมกับพาขึ้นรถมอไซค์คันเก่าขณะที่พลก็ยังตื่นไม่ดี“นี่พลตื่นก่อนสิเดี๋ยวตกรถ”“อือออ....”พลตอบแบบครางในลำคอจนทำให้เข้มเองก็ถึงกลับคิดหนัก ก่อนที่ร่างสูงจะก้าวขึ้นรถแบบเก้ๆ กังๆ พร้อมกับมือที่ยื่นแขนเล็กให้เข้ามาโอบกอ

  • เมียอ้ายเข้ม | ฮักบ่ฮู้ลืม ที่บ้านโคกสะแบง   บทพิเศษ🌾

    “ขออมนะครับ” “อืม” เมื่อได้รับคำอนุญาตพลเองก็ไม่รีบร้อน ปากเล็กคอยใช้ปลายลิ้นเรียวเลียสัมผัสไปยังยอดสีน้ำตามที่แข็งเป็นไตของคนตรงหน้า จนเข้มเองก็พลอยครางงึมงำออกจากลำคอ ใบขณะที่ริมฝีปากเรียวก็เคลื่อนขึ้นมายังลูกกระเดือกใหญ่ที่แงเป็นก้อน ปากหล็กก่อนที่จะพูดมันเบาๆ พร้อมกับดูเม้มไปตามคอแกร่งที่มีเส้นเลือดปูดขึ้นมาเล็กน้อย ในขณะที่มือยังลูบคลึงไปมาที่เป้ากางเกงในตัวเล็ก ที่ในตอนนี้เขาได้ปลุกมังกรใหญ่ขึ้น พลพลอยลูบขึ้นลงจนตอนหัวมังกรใหญ่ก็เริ่มโพล่พ้นจากหัวกางเกง รวมถึงของเขาเองที่แข็งขึ้นไม่ต่างกัน พลผลักร่างสูงให้นอนลงราบลง พร้อมกับก้นเรียวงอนพลอยขยับขึ้นลงที่มังกรใหญ่ที่ในตอนนี้หัวโพล่พ้นสีแดงแตกพรานจากหัวกางเกง มือเล็กก็อดไม่ได้ที่จะสัมผัสมันอีกครั้ง “ซี๊ดดด เมียค้าบบ” “ค้าบบบ เสียวเหรอครับ” “อืม” พลพูดพร้อมกับใช้มือที่ค่อยๆ ถกกางเกงชั้นในตัวแน่นลงพร้อมกับเผยมังกรใหญ่ที่ตอนนี้ มีเส้นเลือดที่ปูดโปนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด พร้อมกับปลายนิ้วเรียวที่สัมผัสที่น้ำใสที่พึ่งไหลออกจากปลายส่วนหัว พร้อมกับริมฝีปากของพลที่ริ้มเลียต่ำลงมาเรื่อยๆ ปลายนิ้วเรียวเล็กก็เลียไปตามร่องลึกของลอนซิกแพ็กที

  • เมียอ้ายเข้ม | ฮักบ่ฮู้ลืม ที่บ้านโคกสะแบง   บทที่ 24 ใส่เบ็ดพลขี่หลังลอล่า🌾

    เช้าวันใหม่มาเยือนพร้อมกับแสงแดดอ่อนๆ ที่ส่องลอดผ่านผ้าม่านเข้ามา พลเองก็พลางลุกขึ้นจากที่นอนด้วยความรู้สึกสดชื่น ก่อนที่เข้มเจ้าเก่าเจ้าเดิมจตะเดินตรงมาพร้อมกับกดจูบที่ริมฝีปากเรียวเล็กนั้นเบาๆ พร้อมกับพูดขึ้นชวนอีกฝ่ายเพราะเขาจะไปใส่เบ็ดพร้อมกับพาลอล่าไปเดินออกกำลังกาย "คุณเมียครับ พี่จะไปใส่เบ็ดจะไปด้วยไหมถ้าไม่ไปรอพี่บ้านนะ" เข้มพูดพลางยิ้มให้กวนๆ พร้อมกับมือที่เสยผมที่ปกใบหน้าใสของพลออก พลเองที่ได้ยินคำว่า "เมีย" ตัวเขาเองก็พลอยหน้าแดงเถือกขึ้น แต่ทว่าก็ยังทำเป็นกลบเกลื่อนความเขินตัวเองไปพลางๆ “ไปๆ ไปครับ” พลที่ทำอะไรไม่ได้นอกจากหัวใจที่เต้นโครมคราม พลเองรีบไปอาบน้ำแต่งตัวตามเข้มไปทันที โดยที่วันนี้พลใส่เสื้อยืดตัวหลวมกับกางเกงขาสั้นพอดีตัว ส่วนเข้มเองก็มาในลุคสุดคูล โดยสวมเพียงแค่ผ้าขาวม้ามัดเอวห้อยถุงผ้าย่ามเก่าๆ พร้อมถอดเสื้อโชว์แผงอกแน่นล่ำจนพลอดไม่ได้ที่จะหันมองบ่อยๆ "มองอะไรขนาดนั้น เดี๋ยวก็คิดเงินซะเลย" เข้มเขาพูดเอ่ยแซวพลด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนที่เท้าแกร่งจะสตาร์ทรถมอเตอร์ไซค์พร้อมกับพลที่ขึ้นซ้อนท้าย ก่อนที่จะออกตัวไป เมื่อขับออกมายังทุ่งนากว่างสายลมยามเช้าก็พลอ

  • เมียอ้ายเข้ม | ฮักบ่ฮู้ลืม ที่บ้านโคกสะแบง   บทที่ 23 ก้อยไข่มดแดง🌾

    ยามเช้า แสงอ่อนจากดวงตะวันส่องผ่านผ้าม่านสีซีดบนบ้านไม้สองชั้น พร้อมกับเสียงหมาหอนและเสียงไก่งขันดังขึ้นพลอยทำให้ดวงตาเล็กปลืตาตื่นขึ้น พลขยับตัวเล็กน้อยพร้อมมกับความรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่กำลังแตะอยู่ที่แก้มเบาๆ พร้อมกับสิ่งที่คอยรบกวนอยู่บนใบหน้า ก่อนที่เสียงทุ้มๆ คุ้นเคยจะดังขึ้นกระซิบข้างหู "ตื่นได้แล้วครับ คนขี้เซา เดี๋ยวจะสายเอา" "อื้อ..." พลครางงึมงำ พร้อมกับแขนเล็กที่กอดหมอนข้างแน่นไม่ยอมปล่อย จนเข้มเองที่เห็นอย่างนั้นตนก็อดที่จะยิ้มขำออกมาไม่ได้ มือหนาก็พลอยยื่นมือไปขยี้เส้นผมยุ่งเบาๆ อย่างเอ็นดู ก่อนที่หน้าหน้าหล่อจะโน้มลงไปกระซิบอีกครั้ง "ถ้าลุกช้า เดี๋ยวพี่จับซั่มเลยดีไหม" คำขู่ที่ไม่จริงจังอะไรมากก็พลอยทำให้พลเด้งตัวลุกขึ้นมาทันที พร้อมกับแก้มแดงเรื่อ จนเข้มเองก็อดที่จะยิ้มกว้างออกมาไม่ได้กับท่าทางรีบร้อนของพล "อ้ายเข้มนี่! ขู่ตลอดเลย!" "ไม่ขู่ก็ไม่ยอมตื่นนี่ครับ ไปล้างหน้าล้างตาได้แล้ว พ่อกับแม่รออยู่" ไม่นานพลก็พลอยเดินตามแบบคนไม่ค่อยสดใสนัก เดินตามเข้มลงมาที่ชั้นล่าง พร้อมกับหย่อนตัวนั่งลงที่เสื่อผืนใหญ่ข้างๆ กันกับเข้ม และขิมเองเธอก็นั่งขัดสมาธิอยู่ข้างๆ พ่อ

  • เมียอ้ายเข้ม | ฮักบ่ฮู้ลืม ที่บ้านโคกสะแบง   บทที่ 22 ขอลูบได้ไหม🌾

    พลเดินถือผ้าขนหนูสะอาดและสบู่หอมนกแก้วสีเขียวก้อนเล็กก้อนโปรด พร้อมกับเท้าเล็กเดินไปที่ห้องน้ำหลังบ้านพร้อมกับเข้มที่เดินถอดเสื้อโชว์หุ่นล่ำๆ ให้พลดูเล่นเป็นอาหารตา บรรยากาศรอบข้างก็เต็มไปด้วยเสียงจิ้งหรีดร้องเบาๆ ประสานกับสายลมเย็นที่พัดผ่าน ทำให้บรรยากาศดูผ่อนคลาย "น้ำที่นี่เย็นนะ จะไหวไหม? ถ้าไม่ไหวพี่จะไปต้มน้ำให้จะได้อาบแบบอุ่นๆ" เข้มถามพลพลางยิ้ม พร้อมกับจ้องที่ใบหน้าหวาน ที่ในตอนนี้ก็พลางส่งยิ้มหวานให้กับตน ก่อนที่เสียเจื้อแจ้วของอีกฝ่ายจะพูดขึ้น "ไหวสิ ผมอยู่ที่นี่ก็ต้องชินบ้างล่ะครับ" พลตอบพร้อมหัวเราะ ก่อนที่มือเล็กจะยื่นไปสัมผัสที่กรอบหน้าคมขึ้นรูปของเข้ม พร้อมกับสายตาคมของคนตัวสูงมองมาทางพลอย่างมีเล่ห์นัย ก่อนที่เมือเล็กจะจับมือของเข้มพร้อมกับจูงมือเดินตามตนไปที่ห้องน้ำ เมื่อพลและเข้มเข้ามาในห้องน้ำ พร้อมกับเผยให้เห็นห้องน้ำที่ประกอบไปด้วยโอ่งมังกรที่น้ำครึ่งโอ่ง ก่อนที่มือเล็กจะเอื้อมไปเปิดน้ำจากโอ่งพร้อมกับตักน้ำขึ้นลูบตัว พร้อมกับความรู้สึกเย็นที่ซึมผ่านผิวหนัง แต่แทนที่จะทำให้พลหนาว แต่ทว่ามันกลับสดชื่นอย่างประหลาด เพราะแผงอกและซิกแพ็กที่ชัดเจนของเข้มบวกกันหยดน้ำที

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status