ตอนที่ 4 อุบัติเหตุ
ในขณะที่กัปตันพิพัฒน์กำลังซุกไซ้ข้างๆซอกคอแฟนสาว จนเธอส่งเสียงครวญคราง และเป็นจังหวะที่ลลิสาเดินมาใกล้ๆเต็นท์ของเขา เธอเรียกหากัปตันผู้ใจดี พิพัฒน์ต้องรีบใช้มือปิดปากแฟนสาวเอาไว้ “คุณกัปตันคะ” “...” เขาไม่ได้ตอบกลับแต่อย่างใด เพราะเกรงว่าเธอจะรู้ ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ “ไปไหนนะ” เมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบกลับ และไม่เห็นว่าเขาอยู่ตรงนั้น ลลิสาจึงเดินกลับไปหาบิดามารดาของเธอทันที “ทำไมถือจานบาร์บีคิวกลับมาล่ะลูก” มารดาของเธอเอ่ยถาม “คุณกัปตันไปไหนก็ไม่รู้ค่ะ เขาคงไม่ได้อยู่แถวนั้น ซาร่าทานเองดีกว่า” เธอหยิบบาร์บีคิวในจานขึ้นมาเคี้ยวตุ้ยๆเหมือนเด็ก มิสเตอร์ฟรังโก้และมาดามริสามองดูลูกสาวทานบาร์บีคิวด้วยความเอ็นดู ลลิสายังทำตัวเหมือนเด็กน้อยเวลาอยู่กับพวกเขา “ใส่เสื้อผ้าเถอะ” น้ำเสียงทุ้มพูดออกมา ก่อนจะพ่นลมหายใจออกทางปาก มันไม่ใช่การกระทำที่ดูหงุดหงิด และทำให้แอนนี่รู้สึกแปลกใจกับการกระทำของชายคนรัก “ไม่ทำแล้วเหรอคะ” “ไม่” “เด็กนั่นมาหาคุณพัฒน์ทำไมกัน ทำไมต้องมาขัดจังหวะด้วย” เธอพูดออกมาด้วยน้ำเสียงค่อนข้างหงุดหงิด มันควรจะเป็นพิพัฒน์เสียมากกว่า ที่ต้องเป็นฝ่ายอารมณ์เสียเพราะไม่ได้ปลดปล่อย “คุณจะหงุดหงิดไปทำไมแอนนี่ เวลาเราอยู่ด้วยกัน ผมกับคุณก็เอากันทุกคืนอยู่แล้ว แค่มีคนมาขัดจังหวะ คุณถึงกับอารมณ์เสียขนาดนั้นเลยเหรอ อีกอย่าง เราไม่ควรทำแบบนี้ในเวลานี้ด้วยซ้ำ” เขาพูดพร้อมกับนำเสื้อเชิ้ตสีขาวมาสวมใส่ จากนั้นจึงเดินออกจากเต็นท์ไป ปล่อยให้แอนนี่นอนหน้าง้ำงออยู่เพียงลำพัง “คุณแม่คะ ซาร่าอยากไปถ่ายรูปตรงลำธารด้านล่างน่ะค่ะ ตรงนั้นสวยมาก คุณแม่ช่วยไปถ่ายรูปให้ซาร่าหน่อยได้ไหมคะ” “ไปสิลูก คุณฟรังโก้จะไปด้วยกันไหมคะ” มาดามริสาตอบกลับลูกสาว ก่อนจะหันมาเอ่ยถามสามีที่นั่งเอนหลังอยู่บนเก้าอี้แคมป์ปิ้ง “คุณไปกับลูกเถอะ อากาศดี ผมว่าจะนอนตรงนี้สักครึ่งชั่วโมง” “ค่ะ งั้นเราไปกันเถอะลูก” ลลิสาจูงมือมารดาเดินลงไปตรงลำธารที่ถูกล้อมรอบไปด้วยโขดหินและดอกไม้บาน เธอยืนโพสต์ท่าให้มารดาถ่ายรูปอย่างต่อเนื่อง ขณะที่นัยน์ตาคมของกัปตันวัย39 ปี กำลังมองมาที่เธอ เขาตั้งใจจะเดินไปนั่งเล่นใกล้ๆลำธารแห่งนั้นพอดี “สวยมากเลยค่ะคุณแม่ ซาร่าขอลงไปยืนอยู่ตรงโขดหินนะคะ อยากได้รูปที่เห็นลำธารชัดๆน่ะค่ะ” เธอมองดูรูปถ่ายในโทรศัพท์มือถือ ก่อนจะขออนุญาตมารดา “จะดีเหรอลูก น้ำมันเชี่ยวเกินไปหรือเปล่า” “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ซาร่าแค่ยืนตรงโขดหิน ไม่ได้ลงไปในน้ำค่ะ” “จ้ะ ระวังด้วยนะลูก” เธอถอดรองเท้าผ้าใบและถุงเท้าออก จากนั้นจึงค่อยๆเดินลงไปตามโขดหิน หญิงสาวยืนโพสต์ท่าให้มารดาของเธอถ่ายรูปให้อีกครั้ง “ขึ้นมาได้แล้วซาร่า” มาดามริสาเรียกลูกสาวด้วยความเป็นห่วง “ขออีกสองรูปนะคะคุณแม่” นางยอมทำตามคำขอของลูกสาว และกดโทรศัพท์ถ่ายรูปให้ลลิสาทันที (พรึ่บ!) (ว้าย!) (ตู้ม!) “ซาร่า!” มาดามริสาร้องเรียกชื่อลูกสาวด้วยความตกใจ ลลิสาพลัดตกลงไปในลำธารที่มีน้ำไหลเชี่ยวแรง (พรึ่บ) “คุณพัฒน์!” พิพัฒน์รีบวิ่งลงไปตรงจุดที่มาดามริสายืนอยู่ แอนนี่ตะโกนเรียกชื่อชายที่รักทันทีที่เธอเดินมาเห็นเขาวิ่งลงไปตรงลำธาร “ช่วยด้วยค่ะ! ช่วยลูกสาวฉันด้วย!” มาดามริสาตะโกนเรียกให้คนมาช่วยลูกสาว นางพยายามจะลงไปช่วยลลิสา “คุณครับ รออยู่ตรงนี้ ผมจะลงไปช่วยลูกสาวคุณเอง” (ตู้ม!) กัปตันพิพัฒน์บอกมาดามริสา ก่อนที่เขาจะกระโดดลงไปในลำธารเพื่อช่วยลลิสา เขาคว้าร่างของเธอไว้ได้ทัน และพยายามว่ายทวนน้ำพาเธอขึ้นฝั่ง แต่กระแสน้ำกำลังไหลเชี่ยวแรงขึ้น จึงทำให้ร่างทั้งสองไหลไปตามน้ำด้วยความเร็ว “ซาร่าลูกแม่! ฮึกๆฮื่อๆ” “คุณพัฒน์! คุณพัฒน์!” มาดามริสาและแอนนี่ตะโกนเรียกชื่อคนที่รักพร้อมกัน เสียงเอะอะโวยวายของคนทั้งสองทำให้นักท่องเที่ยวที่อยู่บริเวณนั้น พากันวิ่งเข้ามาดูเหตุการณ์ “เกิดอะไรขึ้นคุณริสา คุณร้องทำไม แล้วลูกเราอยู่ไหน” มิสเตอร์ฟรังโก้วิ่งลงมาหาภรรยาหน้าตาตื่น “คุณคะ ลูก...ลูกเราตกลงไปในน้ำ ฮึกๆฮื่อๆ คุณผู้ชายคนนั้นกระโดดลงไปช่วยซาร่า ลูกเราและผู้ชายคนนั้นลอยหายไปกับน้ำแล้วค่ะ ฮึกๆฮื่อๆ จะทำยังไงดีคะคุณ” มาดามริสาร้องไห้ฟูมฟายด้วยความเป็นห่วงลูกสาว ความทุกข์กำลังถาโถมเข้ามาในจิตใจของนางจนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว “ใจเย็นๆนะคุณ ผมจะไปตามเจ้าหน้าที่ให้มาช่วยลูกเอง” “ลูกคุณนี่มันตัวซวยจริงๆเลย คอยดูนะ ถ้าแฟนของฉันเป็นอะไรไป ฉันจะเอาเรื่องพวกคุณให้ถึงที่สุด!” แอนนี่ต่อว่ามิเตอร์ฟรังโก้และมาดามริสา คนทั้งสองไม่ได้ตอบกลับอะไร เขาคอยประคองภรรยาเดินขึ้นไปด้านบน และรีบสั่งให้คนของเขาไปแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที “พวกคุณพักอยู่ที่บ้านหลังนี้ก่อนนะครับ ถ้าเจ้าหน้าที่ตามหาคนทั้งสองเจอ พวกเขาจะพามาทีนี่ทันที พักผ่อนตามสบายนะครับ สองคนนั้นต้องปลอดภัย” เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งนั้นบอกสองสามีภรรยา รวมไปถึงแอนนี่ “ผมฝากด้วยนะครับ ช่วยลูกสาวผมและคุณผู้ชายคนนั้นด้วย” “นี่ก็จะมืดอยู่แล้ว แฟนของฉันเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ เพราะลูกสาวพวกคุณคนเดียว” แอนนี่ต่อว่าพวกเขาหลายครั้ง จนทำให้มิสเตอร์ฟรังโก้เกิดความรู้สึกไม่พอใจ “นี่คุณ ผมเข้าใจว่าคุณเป็นห่วงแฟนของคุณ ไม่มีใครอยากให้มันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ คุณเลิกต่อว่าพวกเราสักที เราต่างก็มีความทุกข์เหมือนกันทั้งนั้น คุณมาต่อว่าพวกผมแบบนี้ มันเกิดประโยชน์อะไรขึ้นมาหรือเปล่า ถ้าผมอยู่ตรงนั้น ผมก็ต้องเป็นคนลงไปช่วยลูกสาวของผมเอง คงไม่ต้องลำบากถึงแฟนของคุณหรอก จะว่าไปแล้ว แฟนของคุณน่าจะมีนิสัยแตกต่างจากคุณมากเลยนะ เขาช่างมีน้ำใจลงไปช่วยลูกสาวผม ไม่เหมือนกับคุณ ที่ไม่มีน้ำใจเอาเสียเลย” แอนนี่ได้แต่ยืนกำหมัดกัดฟัน เธออยากจะกรีดร้องออกมาด้วยความโมโห ที่ถูกมิสเตอร์ฟรังโก้ต่อว่า แต่เธอต้องข่มอารมณ์เอาไว้ เนื่องจากตรงนั้นมีเจ้าหน้าที่ยืนอยู่หลายคน “หนู! เป็นไงบ้าง” กัปตันพิพัฒน์พยายามเขย่าร่างสาวน้อยที่นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นหญ้า เขาเป็นคนช่วยเธอขึ้นมาจากน้ำ “หนู! ตื่นสิ” ลลิสายังคงนอนแน่นิ่ง กัปตันพิพัฒน์จึงตัดสินใจช่วยเหลือเธอด้วยการกดหน้าอกและผายปอด เขาทำอยู่แบบนั้นราวๆสองนาที ในที่สุดลลิสาก็สำรักน้ำออกมาและรู้สึกตัวทันที (แค่กๆๆ) (พรึ่บ) กัปตันพิพัฒน์ดีใจเป็นอย่างมาก ที่ลลิสารู้สึกตัว เขาเผลอจับร่างสาวน้อยขึ้นมากอดไว้แนบอก “หนูไม่เป็นอะไรแล้วใช่ไหม หนูปลอดภัยแล้วนะ” “คุณกัปตัน” ลลิสาเรียกเขาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา มือหนาลูบศรีษะของเธอด้วยความอ่อนโยน “คุณกัปตันเป็นคนช่วยหนูเหรอคะ” เธอเอ่ยถาม ขณะที่ยังอยู่ในอ้อมกอดของเขา “ใช่ ฉันเห็นหนูตกลงไปในน้ำ ฉันก็เลยรีบกระโดดลงไปช่วยหนูน่ะ” “แล้วตอนนี้เราอยู่ที่ไหนเหรอคะ” “...ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน” เขาเงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะตอบคำถามเธอ ------------------------------------ ฝากกดไลค์คอมเม้นท์เป็นกำลังใจให้ด้วยน๊า ใครชอบนิยายแนวโรแมนติก NCแซ่บ ต้องอ่านทุกตอนนะคะ😍😍สามปีต่อมาพิพัฒน์ในวัย 48 ปี แต่ใบหน้ายังคงหล่อเหลาราวกับหนุ่มในวัยสามสิบปลายๆ ร่างกายของเขายังคงแข็งแรงจากการออกกำลังกายสม่ำเสมอ เขาใช้เวลาทุกๆวันดูแลลูกๆและภรรยา แม้จะไม่ได้ทำงานเหมือนแต่ก่อน แต่พิพัฒน์ก็ยังเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในสายการบินของครอบครัว และแพรพลอยขึ้นรับตำแหน่งรองประธาน ในขณะที่ภาคินเองก็เพิ่งจะขึ้นรับตำแหน่งประธานไปหมาดๆ พิพัฒน์และลลิสาแต่งงานกันในโบสถ์แห่งหนึ่ง กลางเมืองมิลาน ครอบครัวทั้งสองฝ่ายต่างร่วมยินดีและเป็นสักขีพยานรักให้กับคนทั้งสอง“มาค่ะ ใครจะนั่งกับคุณยายคุณตาบ้างคะ”คุณยายริสาถามหลานๆ พวกเขากำลังเดินทางไปเที่ยวที่เทือกเขาโดโลไมต์ในช่วงปิดเทอม“ผมจะนั่งกับคุณตาคุณยายครับ”เด็กชายภูผาในวัย4 ขวบ เดินขึ้นรถบ้านไปนั่งตรงกลางระหว่างคุณตาคุณยาย “น้องพราวจะนั่งกับคุณตาคุณยาย หรือจะนั่งกับพี่พลอยคะ”แพรพลอยถามน้องสาว เด็กหญิงแพรวพราวในวัยสองขวบ เด็กน้อยน่ารักเหมือนตุ๊กตาบาบี้ พี่สาวอย่างแพรพลอยหวงนักหนา“นั่งกับพลอยๆ พี่พลอยฉวยๆ”เด็กหญิงตัวน้อยยื่นมือให้พี่สาวโอบอุ้มขึ้นรถ(พรึ่บ)(ฟอดดดด)“น่ารักที่สุดค่ะ น้องสาวพี่”แพรพลอยหอมหน้าผากน้องสาวและอุ้มขึ้นรถบ้าน
ตอนพิเศษNC20+“เฮียไม่ต้องไปตามลูกหรอกค่ะ ปล่อยให้เขานอนกับพี่สาว เฮียก็รู้ยัยพลอยกับน้องภูตัวติดกันขนาดนั้น เรามาหาความสุขกันเถอะนะคะ ผลิตลูกเพิ่มดีไหม”เธอพูดพร้อมกับยื่นมือไปดึงขอบเอวกางเกงวอร์ม แล้วรูดลงไปกองอยู่ที่ข้อเท้าของพิพัฒน์“ดีครับ งั้นเฮียจะผลิตลูกเพิ่มอีกสักสองคน หนูโอเคใช้ไหม”เขาก้มหน้าลงไปจับที่คางภรรยาสาว เธอช้อนตาขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลา ขณะที่มือเล็กกำลังรวบรัดแก่นกายลำใหญ่“ดีค่ะที่รัก คืนนี้จัดทั้งคืนเลยดีไหมคะ”(จ๊วบ)“อ่าส์...สะ...เสียว”พิพัฒน์ถึงกับซู้ดปาก เมื่ิอภรรยาคนสวยใช้ริมฝีปากจดจูบที่ปล่ายหัวเห็ดบาน เธอมองจ้องมันอยู่ชั่วครู่ จากนั้นจึงอ้าปากครอบกลืนแท่งเอ็นใหญ่ และผงกศีรษะขึ้นลงเรื่อยๆ(บ๊วบบ๊วบบ๊วบ)“อ่าส์...ซี้ด...เสียว...โอ้ว”เขายืนเต็มความสูงและโยกเอวเบาๆเข้าไปในโพรงปากนุ่มนิ่ม ลลิสานั่งอยู่ปลายเตียง เธอช้อนตามองสามีอย่างยั่งยวน มือหนายื่นไปเกี่ยวสายเดี่ยวให้หลุดลงจากไหล่บาง จากนั้นจึงยื่นมือไปบีบคลึงเต้านมอวบใหญ่ ลลิสายังคงเร่งผงกหัวเข้าออกรัวๆ “อ๊าส์...อ่า...สุดยอด...โอย...ซี้ด เร็วอีกครับ”หลังจากที่ภรรยาคนสวยใช้ปากรูดดูดแท่งเอ็นใหญ่หลายนาที พิ
ตอนพิเศษหลายเดือนต่อมา“แว้แว้แว้!”เสียงเด็กทารกเพศชายร้องไห้ในยามเช้า พิพัฒน์ในวัย 45 ปี รีบเดินเข้าไปโอบอุ้มลูกชายวัยสามเดือนขึ้นมาอยู่ในอ้อมกอดของเขา“โอ๊ะโอ๋ ลูกชายของคุณพ่อ ตื่นแล้วเหรอครับ ไม่ต้องร้องนะคนเก่ง วันนี้คุณพ่อกับคุณแม่จะพาน้องภูกลับประเทศไทย เรากลับไปอยู่บ้านของเรากันนะครับ ให้ลูกโตขึ้นกว่านี้ คุณพ่อจะพากลับมาเยี่ยมคุณตาคุณยาย โอเคไหมครับ”“แอ้”พิพัฒน์พูดราวกับว่าเจ้าตัวเล็กฟังรู้เรื่อง เด็กชายภูผาหยุดร้องไห้ทันที เจ้าตัวกำลังมองดูบิดาที่กำลังทำท่าหยอกล้อและพูดคุยด้วย“ลูกตื่นแล้วเหรอคะเฮีย”ร่างระหง ผิวพรรณเปล่งปลั่งดูมีน้ำมีนวล กำลังเดินออกมาจากห้องน้ำ เธอใช้ผ้าเช็ดตัวนุ่งกระโจมอก พิพัฒน์จ้องมองภรรยาสาวด้วยความหลงใหลเหมือนเช่นทุกวันที่ผ่านมา“ลูกตื่นแล้วครับ น่าจะหิวนมด้วย”“แป๊บนะคะ”เธอตอบสามี ขณะที่กำลังนำเสื้อเชิ๊ตมาสวมใส่“ครับ ที่รัก”“มองทำไมขนาดนั้นคะ”ลลิสาถามถามพิพัฒน์ เขาเอาแต่จ้องมองเธอด้วยแววตาที่บ่งบอกถึงความรู้สึกหลากหลาย“มองคุณแม่คนสวยไงครับ ทั้งสวย ทั้งมีน้ำมีนวล ทั้งน่ารัก น่าขย้ำสุดๆ”น้ำเสียงทุ้มเอ่ยออกมา ก่อนที่เขาจะหันไปหยอกล้อลูกชาย“อดทน
ตอนที่ 43 ตามหาหัวใจพิพัฒน์และแพรพลอยเดินทางมาถึงประเทศอิตาลีในช่วงเช้าของวันเสาร์ แพรพลอยค่อนข้างตื่นเต้น เพราะเป็นการเดินทางในต่างประเทศครั้งแรกของเธอ เธอมองซ้ายมองขวาด้วยท่าทางเหมือนเด็ก“เดินเร็วๆสิพลอย พ่อรีบนะ”พิพัฒน์เองก็ตื่นเต้นไม่แพ้ลูกสาว เขาคิดถึงเมียรักจนสุดหัวใจ และหวังว่าลลิสาจะไม่โกรธเขา สองพ่อลูกนั่งรถแท็กซี่ไปตามเส้นทางที่เขาจำได้ดี“ตื่นเช้าจังเลยนะลูก หรือว่านอนไม่หลับอีก”มาดามริสาถามลูกสาวที่กำลังนั่งอยู่ในสวนดอกไม้“เจ้าตัวเล็กดิ้นแต่เช้าเลยค่ะคุณแม่”เธอยิ้มให้กับมารดาพร้อมกับใช้มือลูบหน้าท้องกลมโตนับตั้งแต่วันที่ลลิสากลับมาอยู่กับบิดามารดา เธอรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย ลึกๆในใจเธอเฝ้าแต่คิดถึงคนที่เป็นพ่อของลูกอยู่ตลอด เธอไม่ได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้บิดามารดาฟัง เธอบอกแค่ว่าพิพัฒน์ประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตก จนความจำเสื่อม และเขาต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลอีกนาน เธอจึงต้องกลับมาอยู่กับท่านทั้งสอง มิสเตอร์ฟรังโก้และมาดามริสาเข้าใจลูกสาวและลูกเขยเป็นอย่างดี “หลานชายของแม่คงจะแข็งแรงน่าดูเลย คริคริ ดีใจจังเลย จะได้เป็นคุณยายแล้ว”มาดามริสาทั้งตื่นเต้นและมีความสุข“
ตอนที่ 42 สำนึกผิด“ซาร่า! อย่าไป ซาร่ากลับมาก่อน!”(พรึ่บ)พิพัฒน์เอาแต่นอนละเมอ เรียกหาเมียรัก และสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก“อื๊อ...คุณอาละเมอหรือครับ”ภาคินเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงงัวเงีย เพราะเขาเองก็เพิ่งหลับไป และต้องตื่นตอนที่ได้ยินเสียงของพิพัฒน์“ซาร่า ซาร่าไปไหนแล้ว เมียของอาหายไปไหน ไปตามซาร่ามาหาอาหน่อยสิภีม”พิพัฒน์พยายามมองหาเมียรักของเขา ภาคินรีบลุกจากโซฟาเดินเข้ามาหาคุณอาของเขา“อาพัฒน์ว่าไงนะครับ”“ซาร่าไปไหน ทำไมไม่กลับมาหาอา เมียของอาไปไหน”“ใจเย็นๆนะครับคุณอา คุณอาจำผมได้แล้วใช่ไหมครับ”พิพัฒน์จ้องหน้าภาคินทันที“แกพูดอะไรของแกวะไอ้ภีม ทำไมอาจะจำไม่ได้ แกมันก็เป็นหลานชายของอาไง เมื่อก่อนแกก็ตามจีบเมียอา หมั่นไส้ ไอ้หลานบ้านี่”“ฮ่าๆๆ คนแก่จำได้แล้วโว้ย!”ภาคินหัวเราะดังลั่นห้อง“ว่าใครแก่วะ อายังไม่แก่นะเว้ย”“นั่งอยู่ตรงนี้นะครับ ผมจะไปตามคุณหมอ”ภาคินรีบเดินออกจากห้อง เพื่อไปตามแพทย์เจ้าของไข้แพทย์หนุ่มพูดคุยและตรวจอาการพิพัฒน์โดยละเอียด พิพัฒน์ตอบคำถามได้ทุกอย่าง แต่เขาก็ไม่ลืมที่จะถามหาเมียรักของเขาอยู่แบบนั้น“คนไข้หายเป็นปกติแล้วนะครับ แต่เรื่องของแขนด้านซ้าย อย่าเ
ตอนที่ 41 ซาร่าจากไปพร้อมกับลูกในท้องพิพัฒน์เอาแต่นอนซึม เมื่อรู้ว่าลลิสาไปจากเขาแล้ว ทุกๆครั้งที่ตื่นมา เขาจะเจอเธออยู่ข้างๆตลอด แต่ตอนนี้ไม่มีอีกแล้ว ผู้หญิงที่คอยดูแลเขา ผู้หญิงที่คอยป้อนข้าว คอยเช็ดตัว และคอยเอายาให้เขาทานทุกวัน “คุณพ่อเป็นยังไงบ้างคะพี่ภีม พลอยไม่ได้มาเยี่ยมสองวัน คุณพ่อดีขึ้นหรือเปล่า ”แพรพลอยเดินทางมาเยี่ยมบิดาของเธอในเช้าวันเสาร์ และก็เป็นเหมือนทุกครั้ง แอนนี่คอยติดตามเธอมาตลอด“ก็ตามที่เห็น ดูเอาสิ”ภาคินตอบกลับ แพรพลอยมองดูบิดาที่กำลังนอนหน้าเศร้าไม่สนใจใคร“คุณพ่อไม่สบายหรือเปล่าคะ ทำไมดูซึมๆ”เธอเดินเข้าไปใกล้ๆ แล้วยื่นมือไปแตะที่หน้าผากของบิดา“ตัวก็ไม่ร้อนนี่ แต่ทำไมถึงดูเหมือนคนเป็นไข้ล่ะ คุณหมอมาตรวจหรือยัง หมอบอกหรือเปล่าว่าคุณพ่อเป็นอะไร”เธอหันไปถามภาคินที่กำลังนั่งก้มหน้าเล่นมือถือ ที่ภาคินต้องทำแบบนั้น เพราะเขาไม่อยากจะใส่ใจแพรพลอยอีกแล้ว“หมอก็บอกว่าไม่ได้เป็นอะไรนี่ สงสัยจะเป็นไข้ใจละมั้ง”“ไข้ใจอะไรกัน”“ก็ตั้งแต่ซาร่าไปจากที่นี่ คุณอาก็ไม่ยอมทานข้าว เอาแต่นอนซึมเหมือนที่เห็นนั่นแหละ”“ฮะ ยัยซาร่าไปแล้วเหรอ ไปไหน”แพรพลอยทำหน้าฉงน“ไปอิตาลีไ