แชร์

ตอนที่ 2

ผู้เขียน: 橙花
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-08-21 07:15:46

เจ้าเมืองชายแดนอย่างซวงโจวพอทราบเรื่องราวก็ได้แต่เสียใจที่แคว้นต้องสูญเสียขุนนางภักดีอย่างไช่ไท่ฟู่ เขารับปากกุ่ยเฟิงว่าจะดูแลครอบครัวของอดีตไท่ฟู่เป็นอย่างดีจนกว่าเด็ก ๆ จะเติบใหญ่ ถึงแม้ที่นี่จะยากจนข้นแค้น แต่อย่างน้อยข้าววันละมื้อพวกเขาจะต้องมีกิน

หลังเจ้าหน้าที่จากเมืองหลวงเดินทางกลับ ซวงโจวเรียกฮูหยินไช่อย่างหม่าซูมาสอบถามความต้องการของนาง

“ฮูหยินอยากพักในเมืองหรืออยู่ในหมู่บ้านรอบนอกขอรับ” ซวงโจวถามอย่างนอบน้อมโดยไม่ถือตัว

“พวกเราเป็นเพียงนักโทษทางการ หากมีหมู่บ้านพอให้พักอาศัยได้ เราขอรบกวนท่านเจ้าเมืองจัดการให้ด้วยเจ้าค่ะ”

“ฮูหยินไม่ต้องเกรงใจ ข้านับถือไท่ฟู่มาตลอดตั้งแต่เข้ารับราชการ ในเมื่อฮูหยินอยากพักในหมู่บ้าน ข้าจะให้คนพาพวกท่านไปหาที่พักขอรับ”

“ขอบคุณท่านเจ้าเมืองมากเจ้าค่ะ” หม่าซูย่อกายคำนับเขาอย่างมีมารยาท

ซวงโจวเรียกทหารคนสนิทให้พาพวกเขาไปยังหมู่บ้านนอกเมืองห่างออกไปอีก 30 ลี้ หมู่บ้านนั้นมีชาวบ้านตายไปจำนวนมากจนมีบ้านว่างอยู่หลายหลัง เขายังกำชับให้ทหารบอกผู้ใหญ่บ้านดูแลฮูหยินไช่กับลูก ๆ ให้ดี เรื่องเสบียงเขาจะส่งให้พวกนางทุกเดือนเพื่อความอยู่รอด

บ่าวที่ถูกเนรเทศมากับหม่าซูทนความลำบากได้ พวกเขามองฮูหยิน คุณหนูและคุณชายที่ร่างกายอ่อนแออย่างเป็นห่วง ถึงแม้ว่าฮูหยินจะบอกแล้วว่าหลังจากนี้ทุกคนมีฐานะเท่าเทียม แต่พวกเขาที่สำนึกบุญคุณนายท่านกับฮูหยินต่างไม่ยอมจากไปและตั้งใจจะช่วยดูแลแม่ลูกทั้งสามอย่างสุดความสามารถ

สองชั่วยามต่อมา ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงหมู่บ้านเปียนจิ่ว ทหารนำทางเข้าไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านตามที่ท่านเจ้าเมืองสั่ง ผู้ใหญ่บ้านมองคนกลุ่มใหญ่ซึ่งดูท่าทางอิดโรยอย่างจนใจ หมู่บ้านของเขาใช่ว่าจะมีทรัพยากรเพียงพอให้คนจำนวนมากเช่นนี้อยู่รอดได้ ไม่เช่นนั้นในหมู่บ้านคงไม่มีคนตายเป็นจำนวนมากมาตลอดหลายปี จนใจที่นี่เป็นคำสั่งเจ้าเมือง เขาจึงได้แต่ต้องรับปากและพาคนกลุ่มนี้ไปเลือกบ้านร้างในหมู่บ้านซึ่งอยู่บริเวณกลางหมู่บ้านด้านใต้ไปจนถึงตีนภูเขาหลังหมู่บ้าน

“พวกเจ้าเลือกเอาว่าจะอยู่บ้านหลังไหน บ้านแถบหลังเขานี้เจ้าของเดิมอดอยากตายไปเมื่อหลายปีก่อน สภาพบ้านยังพออยู่ได้ พวกเจ้าทำความสะอาดกันเองก็แล้วกัน”

“ขอบคุณท่านผู้ใหญ่บ้านเจ้าค่ะ/ขอรับ” ทุกคนรีบกล่าวขอบคุณ

“เฮ้อ ข้าล่ะไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าเหตุใดทางการจึงส่งพวกเจ้ามาที่นี่ อย่างไรก็ดูแลตัวเองกันด้วยก็แล้วกัน เสบียงอาหารที่ทางการแจกจ่ายข้าจะนำมาส่งให้ทีหลัง แต่พวกเจ้าอย่าคิดว่าเสบียงเหล่านี้จะมีมากมายเล่า พวกเราทำได้เพียงกินอยู่อย่างประหยัดเพื่อไม่ให้หิวตายได้เท่านั้น” ผู้ใหญ่บ้านกล่าวจบก็หันหลังจากไป

“ฮูหยินเลือกบ้านก่อนเถิดขอรับ พวกเราจะพักอยู่บ้านใกล้ ๆ เพื่อคอยดูแลพวกท่านหลังจากนี้ไม่ให้ลำบากแน่นอน” อดีตพ่อบ้านรีบเอ่ยบอกหม่าซู

“ท่านลุงอย่าได้ทำเช่นนี้เลยเจ้าค่ะ ตอนนี้พวกท่านเองก็ลำบาก ข้าดูแลลูก ๆ เองได้ พวกท่านดูแลตัวเองให้ดีเถิดเจ้าค่ะ จากนี้ไม่ต้องมีพิธีรีตรองอันใดกับพวกข้าอีก ถือเสียว่าพวกท่านเป็นญาติสนิทที่อยู่ร่วมหมู่บ้านนี้ก็แล้วกันนะเจ้าคะ” หม่าซูยิ้มบาง

“นั่นจะได้อย่างไรเจ้าคะ พวกเราเคยรับใช้ฮูหยินมานานปี ถึงแม้จะต้องลำบากมากกว่านี้ พวกเราก็จะคอยช่วยเหลือพวกท่านเองเจ้าค่ะ” บ่าวหญิงคนหนึ่งเอ่ยขึ้น

“เอาล่ะ ๆ พวกท่านอยากทำสิ่งใดก็ทำเถิด ข้าไม่มีสิ่งใดต้องใช้พวกท่านในตอนนี้”

หม่าซูจูงมือลูกทั้งสองเลือกบ้านร้างหลังหนึ่งที่มีขนาดเล็กและมีรั้วรอบขอบชิดดูปลอดภัยใกล้กับทางขึ้นเขาหลังหมู่บ้าน บ่าวไพร่ที่เห็นเช่นนั้นต่างก็แยกย้ายกันไปเลือกบ้านใกล้ ๆ พวกนางแม่ลูก สภาพของทุกคนตอนนี้เสื้อผ้าขาดวิ่นจากการเดินทางไกล ทั้งยังไม่ได้กินอะไรตั้งแต่มาถึงเมืองชายแดน ทุกคนกังวลว่าฮูหยินกับคุณหนูและคุณชายจะอดทนไม่ไหว เพราะระหว่างทางมาก็เป็นพวกเขาที่คอยแบ่งอาหารและน้ำมอบให้จนสามารถเดินทางมาถึงจุดหมายได้โดยไม่ตกตายไปเสียก่อนจากการเดินทาง

“ท่านแม่พาซิวเอ๋อนั่งรอที่แคร่ใต้ต้นไม้ก่อนเจ้าค่ะ ข้าจะทำความสะอาดภายในบ้านเองนะเจ้าคะ” ไช่เหมยฮวาตัวน้อยรีบอาสาทำงานบ้านเอง

“นั่นจะได้อย่างไร ฮวาเอ๋อไม่เคยทำมาก่อน ให้แม่ช่วยเจ้าดีกว่านะ”

“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ตอนนี้น้องชายยังไม่หายดี ท่านแม่ดูแลน้องก่อน ข้าจะหัดทำงานบ้านพวกนี้เอง ท่านแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะเจ้าคะ” ไช่เหมยฮวายิ้มกว้างส่งให้ทั้งสอง

“พี่ใหญ่ ข้าอยากช่วยด้วยขอรับ” ไช่ซิวตัวน้อยเอ่ยขึ้น เขาคิดว่าอาการตอนนี้ดีขึ้นมากแล้วจึงอยากแบ่งเบาภาระครอบครัว

“เจ้าเชื่อฟังพี่ให้ดีเถิด ที่นี่ไม่รู้ว่าหมอจะมียาของเจ้าหรือไม่ เราเดินทางมาหลายเดือนยาของเจ้าก็ใกล้หมดแล้ว หากอาการกำเริบจะทำอย่างไร”

“ซิวเอ๋อ เชื่อพี่สาวเจ้าเถิด อย่าทำให้แม่กับพี่ใหญ่เจ้าต้องเป็นห่วง”

“ก็ได้ขอรับ รอข้าแข็งแรงเมื่อไหร่ ข้าจะช่วยงานท่านแม่กับท่านพี่เอง”

หม่าซูยิ้มบางและลูบหัวบุตรชายคนเดียวของนางที่ต้องทนทรมานจากโรคภัยไข้เจ็บมาตั้งแต่เกิด เป็นเพราะสุขภาพของนางไม่ดีตอนท้อง ทำให้บุตรชายร่างกายอ่อนแอมาตลอด ไม่ว่าจะมีหมอดีที่ใด ครอบครัวนางต่างพาเขาไปรักษา น่าเสียดายที่ท่านหมอทำได้เพียงให้ยาบำรุงเท่านั้น ด้วยพื้นฐานร่างกายที่อ่อนแอทำให้ไม่สามารถใช้ยาแรงกับเขาได้

ไช่เหมยฮวาเดินเข้าไปดูเรือนหลังเล็กก็พบว่าภายในมีห้องสองห้อง ถึงแม้ว่าจะน้อยไปหน่อย แต่นางกับท่านแม่สามารถนอนด้วยกันได้ ไช่เหมยฮวาเดินหาถังน้ำกับเศษผ้าในบ้านเพื่อทำความสะอาด ยังดีที่เจ้าของเดิมมีเสื้อผ้าเก่าอยู่ในตู้ หากพวกนางต้องการเสื้อผ้าก็ไม่ต้องลำบากหาเงินไปซื้อหาแล้ว

ไช่เหมยฮวาเดินหาน้ำรอบบริเวณบ้านก็พบว่ามีบ่อน้ำแห้งขอดอยู่ด้านหลัง นางได้แต่ขมวดคิ้วมุ่นอย่างกังวล น้ำเพียงแค่นี้จะเพียงพอให้พวกนางใช้กินอยู่ได้อย่างไร ไช่เหมยฮวาตักน้ำในบ่อขึ้นมาอย่างยากลำบาก นางเป็นเพียงเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่ไม่เคยทำงานหนักเหล่านี้มาก่อน แต่ด้วยหัวใจที่มุ่งมั่น ไช่เหมยฮวาพยายามตักน้ำขึ้นมาจนได้ นางรีบนำเศษผ้าและถังน้ำเข้าไปทำความสะอาดอย่างรวดเร็ว

หม่าซูมองรอบบริเวณบ้านหลังเล็กที่หลังจากนี้พวกนางแม่ลูกจะต้องใช้ชีวิตอยู่ต่อไปก็ได้แต่น้ำตารื้นขึ้นมา นางคิดถึงสามีผู้จากไป หากเขายังอยู่ นางกับลูกคงไม่ลำบากมากถึงเพียงนี้ ถึงแม้ว่าจะมีบ่าวไพร่ที่ถูกเนรเทศตามมาด้วย แต่พวกนางซึ่งไร้เงินทองของมีค่าจะนำสิ่งใดตอบแทนพวกเขาได้ หม่าซูจึงไม่กล้าขอความช่วยเหลือจากพวกเขา อย่างไรชีวิตพวกนางหลังจากนี้แค่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ก็ดีมากแล้ว รอให้ลูก ๆ เติบโตแข็งแรงเสียก่อน นางจึงจะวางใจได้

“ท่านแม่คิดอะไรอยู่ขอรับ” ไช่ซิวเห็นสีหน้าแม่ของตนเหมือนจะร้องไห้จึงเอ่ยถาม

“แม่ไม่ได้คิดอะไร หลังจากนี้เจ้าต้องดูแลร่างกายให้ดีรู้หรือไม่ เจ้าก็รู้ว่าพวกเราไม่มีเงินทองติดตัวมา แม่ไม่อาจพาเจ้าไปหาหมอได้” หม่าซูหันไปปาดน้ำตาออก

“ข้าทราบขอรับ ท่านแม่ไม่ต้องกังวล ข้าจะไม่ทำสิ่งใดเกินตัว”

ไช่ซิวถึงแม้ปากจะพูดเช่นนั้น แต่ในใจดวงน้อยของเขาก็ตั้งใจที่จะเป็นเสาหลักให้ท่านแม่และท่านพี่ในอนาคต ตอนนี้เขาเป็นผู้ชายคนเดียวในบ้าน ถึงแม้เขาจะอายุยังน้อย แต่ก็ได้รับการสั่งสอนจากบิดามาตลอดให้คอยดูแลครอบครัว ไช่ซิวจึงตั้งมั่นว่าตนเองจะต้องแข็งแรงขึ้นและช่วยเหลือครอบครัวให้อยู่อย่างสุขสบายให้ได้ในสักวันหนึ่ง

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เล่ห์ร้ายกลายรักในต้าเซียง   ตอนที่ 80

    สองเดือนต่อมาหลังจากหม่าซูใช้เวลาปรึกษาเรื่องลูกสะใภ้กับบุตรสาวและตระกูลอิงนานกว่าหนึ่งเดือนก่อนหน้านี้ ในที่สุดนางก็เลือกบุตรีแม่ทัพรักษาเมืองที่เก่งการต่อสู้และยังชอบบุตรชายนางตั้งแต่คราแรกที่ได้พบกัน ถึงแม้นางจะดูซุกซนไปสักหน่อย แต่ความจริงใจและใสซื่อของนางหาได้ยากในหมู่บุตรีขุนนางไช่ซิวหลังจากถูกนางก่อกวนอยู่นานนับเดือน ในที่สุดเขาก็ยอมตกลงแต่งงานกับหลูเซี่ยวเอ๋อจนได้ นั่นเพราะไช่ซิวเพิ่งเคยพบคุณหนูใสซื่อเช่นนี้ครั้งแรกเช่นเดียวกัน อีกทั้งความจริงใจของนางที่มีต่อตนเองซึ่งเขารับรู้ได้ ทำให้เขาไว้ใจที่จะแต่งงานกับนางอย่างไม่รังเกียจงานมงคลสมรสของไช่ซิวนับเป็นงานแรกหลังจากเกิดการกบฏ ทำให้ขุนนางมากมายต่างพากันเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง ฮ่องเต้ยังประทานของขวัญแต่งงานให้แก่กั๋วกงหนุ่มของราชสำนักจำนวนมาก ทำเอาขุนนางหลายครอบครัวต่างอิจฉาความโปรดปรานที่ฝ่าบาทมอบให้ไช่ซิวไม่น้อยไท่จื่อและไท่จื่อเฟยยังเสด็จมางานนี้ด้วยพระองค์เอง นับว่างานแต่ง

  • เล่ห์ร้ายกลายรักในต้าเซียง   ตอนที่ 79

    ระหว่างที่การต่อสู้ด้านในกำลังดุเดือดเลือดพล่าน แม่ทัพหลัวก็พาทหารฝีมือดีเข้ามาถึงลานจัดงานเลี้ยงและลงมือฆ่าแม่ทัพซัวเถากับพวกโดยไม่พูดพร่ำทำเพลงให้เสียเวลา คนของจูเค่ออี้หมิงเริ่มล้มตายราวใบไม้ร่วง ด้วยความสามารถอันสูงส่งของกองกำลังแม่ทัพหลัว ทำให้พวกเขาใช้เวลาไม่นานก็สังหารกบฏทั้งหมดในลานจัดเลี้ยงสำเร็จ ส่วนจูเค่ออี้หมิงถึงแม้จะบาดเจ็บสาหัสแต่ก็ยังมีลมหายใจอยู่“กราบทูลฝ่าบาท กบฏทั้งหมดถูกสังหารสิ้นแล้วพะย่ะค่ะ” แม่ทัพหลัวคุกเข่ารายงานเสียงดังหลังจากจัดการศัตรูจนไม่สามารถต่อสู้ได้อีก“ขอบใจเจ้ามากแม่ทัพหลัว ความดีความชอบของเจ้ากับกองทัพตะวันออกในครานี้ ข้าจะมอบเสบียงและเงินเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้พวกเจ้าทำหน้าที่ปกป้องชายแดนต่อไป สำหรับกบฏที่ยังไม่ตาย ให้จับกุมเข้าคุกหลวงรอวันประหาร ตระกูลจูเค่อซึ่งเป็นผู้นำในการก่อกบฏ ลงโทษประหารเก้าชั่วโคตร ริบทรัพย์ทั้งหมดเข้าคลังหลวง” ฮ่องเต้ตรัสหลังจากเหตุการณ์ต่าง ๆ สงบลง“ฝ่าบาทโปรดพิจารณา กระหม่อมไม่ทราบเรื่อ

  • เล่ห์ร้ายกลายรักในต้าเซียง   ตอนที่ 78

    “ฮ่า ฮ่า ไม่คิดว่าฮ่องเต้แคว้นต้าเซียงจะโง่เขลาถึงเพียงนี้ เจ้าคิดว่าแคว้นอู่ของเราพาคนมาน้อยหรืออย่างไร กองทัพเล็ก ๆ ของเจ้ามีหรือจะต้านทานคนของพวกเราได้”แม่ทัพซัวเถาชักดาบที่ซ่อนไว้ออกมาทันที รองแม่ทัพอีกสองคนก็เดินตามหลังเขาไปยังหน้าพระที่นั่งของเซียงเหวินเช่นกัน“ฮึ! เราก็นึกว่าใครที่กล้าพูดจาไร้มารยาท ที่แท้ก็แม่ทัพแคว้นอู่ ซัวเถานี่เอง” ฮ่องเต้ทอดพระเนตรศัตรูทั้งสามอย่างเหยียดหยาม“คุ้มกันฝ่าบาท!!!” ทหารองครักษ์รีบลุกมายืนบังด้านหน้าพระแท่นของฮ่องเต้“ไร้ประโยชน์! คนของข้ากำลังจะเข้ามาที่นี่แล้ว พวกเจ้าหากไม่อยากตายก็รีบหลบไปเสียแต่โดยดี” แม่ทัพซัวเถาเอ่ยอย่างถือดี ด้วยฝีมือของพวกเขาแล้ว องครักษ์หลวงเหล่านี้แทบจะไม่ใช่คู่มือของพวกเขาเลย“หุบปาก! เป็นเพียงแม่ทัพเฒ่าผู้หนึ่ง กลับกล้ามาโอหังถึงแคว้นต้าเซียง” รัชทายาทตรัสอย่างไม่พอพระทัย พระองค์ทอดพระเนตรท่าทางของ

  • เล่ห์ร้ายกลายรักในต้าเซียง   ตอนที่ 77

    “ท่านมหาเสนาบดีกล่าวผิดแล้ว ข้าแซ่ฟู่ นามหยาง ไม่ใช่คนตระกูลจูเค่อของท่าน”“เจ้าลูกสารเลว!! เจ้ากลับลืมว่าเติบโตมาจากจวนมหาเสนาบดีของข้า” จูเค่อหรงเจี้ยนโกรธจนแทบกระอักเลือดออกมาเมื่อได้ยิน“ขออภัย ตั้งแต่ข้าแต่งเข้าตระกูลฟู่ พ่อของข้าในตอนนี้คือนายท่านฟู่โจวคนเดียว”ก่อนที่จูเค่อหรงเจี้ยนจะเข้าไปทำร้ายร่างกายฟู่หยาง หัวหน้าของเขาก็ก้าวเข้ามาดักทางเอาไว้เสียก่อน“หลีกไป! ข้าจะสั่งสอนลูกของข้า!!” มหาเสนาบดีตวาดว่า“เจ้าไม่มีสิทธิ์ทำร้ายลูกน้องข้า เขาก็บอกแล้วว่าแซ่ฟู่ นามหยาง เจ้ายังคิดอ้างสิทธิ์ความเป็นพ่อได้อย่างไรกัน ช่างหน้าไม่อายนัก”จูเค่อหรงเจี้ยนถูกความจริงทำให้โมโหหนักขึ้นไปอีก ขุนนางหลายคนรีบเข้ามาห้ามมหาเสนาบดี อย่างไรพวกเขาก็ยังอยากเข้าร่วมงานเลี้ยงหลังพิธีแต่งตั้งอยู่จึงไม่อยากทะเลาะกับทหารองครักษ์เหล่านี้

  • เล่ห์ร้ายกลายรักในต้าเซียง   ตอนที่ 76

    ห้าวันต่อมาจูเค่ออี้หมิงเข้าเมืองหลวงพร้อมทหารแคว้นอู่จำนวนหนึ่ง ส่วนทหารที่เหลืออีกเกือบหนึ่งหมื่นคนซึ่งปลอมตัวเป็นผู้ลี้ภัยถูกกักเอาไว้ภายนอกเมืองหลวงตามรับสั่งของฮ่องเต้ พระองค์ออกราชโองการให้ผู้ลี้ภัยอาศัยอยู่ภายนอกเท่านั้น เพราะเมืองหลวงไม่สามารถรองรับผู้ลี้ภัยสงครามจำนวนมากได้เขากลับไปถึงจวนก็ถูกผู้เป็นพ่อเรียกพบด่วน จูเค่ออี้หมิงสั่งให้เตียหย่งพาแม่ทัพซัวเถากับรองแม่ทัพหลายคนไปพักผ่อนที่เรือนรับรองก่อน ส่วนตัวเขาเองก็ไปยังห้องหนังสือที่จูเค่อหรงเจี้ยนนั่งรออยู่“เจ้ารู้ข่าวที่องค์ชายรองกำลังจะเข้ารับตำแหน่งรัชทายาทในอีกสองวันข้างหน้าหรือยังอี้หมิง” จูเค่อหรงเจี้ยนไม่รอให้ลูกชายนั่งดี ๆ แต่กลับรีบถามขึ้นมา“ลูกทราบแล้วขอรับ ท่านพ่อมีสิ่งใดจะสั่งหรือไม่” จูเค่ออี้หมิงไม่คิดจะบอกแผนการของตนเอง เพราะพ่อของเขาจะต้องไม่ยอมให้เขาดำเนินการตามแผนแน่“ข้าวางคนเอาไว้ในงานพิธีแล้ว ร

  • เล่ห์ร้ายกลายรักในต้าเซียง   ตอนที่ 75

    สองสัปดาห์ต่อมาฮ่องเต้ตรวจสอบหลักฐานทุกอย่างเกี่ยวกับมหาเสนาบดีและบุตรชาย พระองค์มีรับสั่งให้องค์ชายรองกับไป๋จิ่นหลินเข้าเฝ้าทันที หลังทำความเคารพฮ่องเต้แล้ว ทั้งสองก็นั่งลงที่เก้าอี้ตามรับสั่งของฝ่าบาท“หลักฐานเหล่านี้เราเกรงว่าจะยังไม่เพียงพอ มหาเสนาบดีจะต้องอ้างว่ามีผู้ปลอมแปลงหลักฐานเพื่อใส่ร้ายเขาแน่ อีกทั้งขุนนางเกินครึ่งในราชสำนักยังเข้าข้างเขา”“เช่นนั้นเราก็ไม่สามารถโค่นตระกูลจูเค่อได้หรือพะย่ะค่ะ” องค์ชายรองขมวดคิ้วมุ่น“ลูกใจเย็นก่อน พ่อคิดว่ามหาเสนาบดีจะต้องเผยตัวออกมาเองแน่หากพ่อมีราชโองการแต่งตั้งเจ้าเป็นรัชทายาท แต่เจ้าต้องสั่งองครักษ์ให้ดูแลอิงฮวาให้ดีนะ”“แผนการของฝ่าบาทเป็นไปได้พะย่ะค่ะ กระหม่อมจะส่งคนไปคอยดูแลตำหนักองค์ชายรองอย่างลับ ๆ เพิ่มเอง” ไป๋จิ่นหลินเห็นด้วยกับความคิดของฮ่องเต้“ขอบใจเจ้ามากนะจิ่นหลิน

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status