"ทำไมถึงต้องเป็นผม "เมื่อน้ำชาเข้ามานั่งในรถเขาก็ได้เอ่ยถามทันที
"เหตุผลง่ายๆ ฉันเอากับนายแล้วฉันมีความสุขมากกว่าที่ฉันเคยเอากับคนอื่น " "แล้วถ้าผมปฏิเสธล่ะครับ " "เข้มก็น่าจะบอกนายไปแล้วไม่ใช่หรอว่าถ้าหากว่านายปฏิเสธจะเกิดอะไรขึ้น " "ทำไมคุณต้องบังคับผม อย่างคุณจะหาสักกี่ร้อยกี่พันคนมันก็ได้ " "แต่อย่างนายฉันไม่เคยเจอมาก่อน แล้วถ้าฉันจะเอานายฉันก็ต้องได้ หึ คิดดูให้ดีๆก่อนที่จะปฏิเสธ " เอกภพเขาได้เอ่ยขึ้นพร้อมส่งสายตาไปมองที่นอกหน้าต่าง แล้วเมื่อน้ำชาหันตามสายตานั้นไปเขาก็เห็นว่าบอดี้การ์ดที่อีกฝ่ายพามา เดินเข้าไปในบ้านรับเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งนั้นแล้ว "คุณจะทำอะไร!!! คุณมันบ้าไปแล้วหรือยังไงเด็กๆพวกนั้นเกี่ยวอะไรด้วย " "เกี่ยวสิ เพราะถ้าหากฉันอยากจะได้นายดีๆนายไม่ยอม ก็คงต้องใช้ไม้แข็งเท่านั้น" เอกภพเขาได้เอ่ยออกมาพร้อมยักไหล่มองมาที่น้ำชา นั่นทำให้น้ำชาต้องนั่งกัดฟันด้วยไม่รู้ว่าจะหาทางออกยังไง "นายไม่จำเป็นต้องคิดเพราะนายไม่มีทางออกอื่นนอกจากยอม เพราะต่อให้นายไปแจ้งตำรวจนายคิดว่าตำรวจจะทำอะไรฉันหรอ" เอกภพเขาได้เอ่ยตัดความหวังทางรอดของน้ำชาไปเรื่อยๆจนบัดนี้มันไม่มีเหลือแล้ว "ผมยอมแล้วครับอย่ายุ่งกับเด็กๆของผมเลยครับ "หลังจากที่นั่งเงียบใช้สมองมาสักพักในที่สุดน้ำชาเขาก็ได้เอ่ยออกมาอย่างสิ้นหวัง และเมื่อเอกภพได้ฟังดังนั้นเขาก็หัวเราะในลำคออย่างมีความสุข "ตัดสินใจได้ดี ฉันให้เวลานายได้ร่ำลาทุกคน พรุ่งนี้เดี๋ยวฉันจะมารับตัวนายไป แล้วจะให้คนของฉันมาดูแลที่นี่แทน " "แล้วผมต้องอยู่กับคุณนานเท่าไหร่ครับกว่าคุณจะยอมปล่อยผม " "ถ้าฉันเบื่อนายเมื่อไหร่ฉันก็ปล่อย แต่นายไม่ต้องห่วงเพราะฉันเบื่อเร็ว " เมื่อน้ำชาได้ยินดังนั้นเขาก็หัวเราะสมเพชตัวเองก่อนจะเปิดประตูลงไปจากรถ "เข้มกลับบ้านฉันจะไปเตรียมบ้านเอาไว้ให้กระต่ายไปวิ่งเล่น " "บ้านอย่างนั้นหรอครับ "เมื่อเข้มได้ยินดังนั้นเขาก็เอ่ยถามขึ้นอีกครั้งทันที เพราะตั้งแต่เขารับใช้ผู้เป็นนายมาผู้เป็นนายไม่เคยพาเด็กขายคนไหนไปบ้านมาก่อนเลยสักครั้งเดียว "ใช่กลับบ้าน" เมื่อเข้มได้ฟังดังนั้นเขาก็ไม่เอ่ยถามสิ่งใดต่อคำเพียงพาผู้เป็นนายกลับบ้าน "พี่ชามีอะไรหรือเปล่าพี่ทำไมทำหน้าเครียดแบบนั้น" แนนเธอได้เอ่ยขึ้นทันทีเมื่อเห็นคนที่ตรงเคารพเป็นพี่เดินเข้ามา "ไม่มีอะไรหรอกแนน คนเมื่อกี้เขาเป็นเจ้านายของพี่ เขามาบอกพี่ว่าให้พี่ไปทำงานประจำที่บ้านของเขา " "มีงานประจำมันก็ดีแล้วไม่ใช่หรอพี่ ดูท่าแล้วบ้านเจ้านายพี่น่าจะรวย เขาน่าจะจ้างพี่แพงพี่จะได้ไม่ต้องทำงานหนักแบบนี้อีกแล้วไง "เมื่อแนนได้ฟังดังนั้นเธอก็เอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าที่ไม่รู้เรื่องอะไร เพราะสำหรับเธอนั้นถ้าพี่ของเธอมีงานทำเป็นหลักเป็นแหล่งแบบนี้พี่ของเธอก็จะได้ไม่ต้องไปทำไม่ประจำที่ค่าแรงถูกก็ถูกงานก็หนัก "แต่พี่จะต้องไปอยู่บ้านเดียวกันกับเขา แล้วทุกคนที่อยู่ที่นี่จะทำยังไง " "พี่ชาไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ เมื่อกี้คุณลุงชุดดำเขามาบอกกับพวกหนูว่าเขาจะมาอยู่เป็นเพื่อนหนูแทนพี่ชาเอง แล้วเขาบอกว่าเขาจะมากันหลายคนด้วยเพื่อให้พี่ชาสบายใจ" เด็กสาวคนที่เคยเอ่ยชวนน้ำชากินข้าวเธอได้เอ่ยขึ้นพร้อมกับหน้าตาที่ยิ้มแย้มดีใจ "ถ้าทุกคนคิดว่าดีพี่ก็จะไปทำ พี่จะคิดถึงทุกคนนะถ้ามีเวลาว่างๆเดี๋ยวพี่จะกลับมาเยี่ยม " เมื่อกล่าวจบน้ำชาเขาก็เดินไปที่ห้องของตัวเองพร้อมกับปิดประตูแล้วนั่งร้องไห้อย่างหนักอยู่คนเดียว "ฮึก...ฮือ...แม่ใหญ่ผมคิดถึงแม่จังเลยครับ ฮึก...ทำไมเรื่องทั้งหมดจะต้องมาเกิดกับผมด้วย" น้ำชาเขาได้เอ่ยขึ้นพร้อมมองไปที่รูปถ่ายของผู้ก่อตั้งสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าบ้านพาฝันแห่งนี้ น้ำชาเขาได้นั่งกอดขาตัวเองร้องไห้อยู่อย่างนี้จนถึงเช้า ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นมาเก็บของเตรียมตัวเพื่อที่จะไปยังนรกที่กำลังจะมา หลังจากที่เขาเก็บของเก็บอะไรได้ไม่นานนรกที่เขาพูดถึงก็มาเยือน "พร้อมหรือยัง "เอกภพเขาได้เอ่ยถามเมื่อได้เห็นคนตรงหน้ายืนถือกระเป๋าอยู่นิ่งไม่ขยับ "ใครจะมาอยู่ที่นี่แทนผมครับ" เมื่อเอกภพเขาได้ยินคำถามเช่นนั้นเขาก็เหลือบตาไปมองข้างหลังเล็กน้อยก่อนที่จะมีคนกลุ่มนึงเดินออกมา "พวกเขาทั้ง 6 คนนี้จะมาอยู่ที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งนี้แทนเธอ แล้วเธอไม่ต้องห่วงพวกเขาทั้ง 6 คนนี้ล้วนแล้วแต่จบปริญญาตรีสายครุศาสตร์พวกเขาจะทำหน้าที่ทั้งเลี้ยงดูและสั่งสอน" เอกภพเขาได้เอ่ยบอกพร้อมแนะนำคนที่เขาเตรียมเอาไว้ให้ "ถ้าอย่างนั้นผมก็เบาใจ เด็กๆพี่ไปก่อนนะถ้าหากพี่ยังอยู่พี่จะกลับไปเยี่ยมทุกคน" น้ำชาเขาได้หันมาเอ่ยลากลับเด็กๆทุกคนก่อนจะเดินไปขึ้นรถพร้อมกับเอกภพ และตั้งแต่ที่พวกเขาเคลื่อนรถออกมาจากบ้านเด็กกำพร้าแห่งนั้นภายในรถก็ตกอยู่ภายใต้ความเงียบสงบโดยไม่มีผู้ใดส่งเสียงเลยแม้แต่คนเดียวตลอดจนทั้งเส้นทาง "เป็นยังไงบ้านฉันสวยมั้ย" ทันทีที่รถเลี้ยวเข้ามาในตัวบ้านเอกภพเขาก็ได้เอ่ยขึ้น "สวยครับ มันสวยมาก มันเหมาะกับคุณมากเลยครับ "น้ำชาเอาได้เอ่ยออกมาพร้อมรอยยิ้มแต่รอยยิ้มนั้นมันก็ไปไม่ถึงดวงตาของเขา และนี่ก็ทำให้เอกภพรู้สึกไม่พอใจในตัวของน้ำชา "เธอเป็นอะไรของเธอตั้งแต่ออกมาจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้านั่นเธอก็ทำเหมือนกับคนกำลังจะตายยังไงอย่างนั้นเลย "และแล้วเอกภพเขาก็ทนไม่ไหวเขาจึงกระชากแขนน้ำชาหันมาถาม "ผมไม่ได้เป็นอะไรครับ ตลอดหลายปีมานี้ผมทำงานมาหนักมันก็เลยดูเหมือนคนจะตายแบบนี้แหละครับไม่ใช่เรื่องแปลก" น้ำชาเขาได้เอ่ยขึ้นพร้อมพยายามบิดแขนออกจากมือของอีกฝ่ายแต่มันก็ไม่สำเร็จ "คุณเอกภพครับปล่อยมือด้วยครับ" น้ำชาเขาได้เอ่ยขึ้นเมื่อเขารับรู้ได้ถึงความเจ็บจากการบีบของอีกฝ่าย เมื่อเอกภพเขาได้ฟังดังนั้นเขาก็รีบปล่อยมือทันทีประจวบเหมาะกับที่รถมาหยุดอยู่ที่หน้าคฤหาสน์พอดี "นี่นะหรอคุกนรกที่จะใช้จองจำฉัน" น้ำชาเขาได้เอ่ยเบาๆกับตัวเองพร้อมมองไปที่คฤหาสน์หลังใหญ่ด้วยแววตาที่ว่างเปล่า แล้วเขาก็ได้เปิดประตูลงรถไปพร้อมกับเจ้าของรถ และนั่นก็ทำให้คนรับใช้ทั้งหลายที่อยู่ที่นี่ต่างก็ประหลาดใจทันทีที่ผู้เป็นนายพาคนอื่นกลับมาด้วย "ป้าแก้วเดี๋ยวป้าพาคนนี้ไปพักที่ห้องพักข้างๆห้องผม แล้วถ้าเขาต้องการอะไรก็หาให้เขา" "รับทราบค่ะนายท่าน" เมื่อกล่าวจบป้าแก้วเขาก็ได้เดินนำน้ำชาขึ้นไปที่ชั้น 3 ของบ้านทันที ก่อนที่เขาจะมาหยุดอยู่หน้าห้องห้องนึงที่อยู่เยื้องกับบันไดทางขึ้นเล็กน้อย "ห้องนี้คือห้องของคุณค่ะ ส่วนห้องทางนั้นคือห้องของนายท่าน" ป้าแก้วเขาได้เอ่ยบอกพร้อมทั้งเปิดประตูพาน้ำชาเข้ามาภายใน แล้วตลอดเวลานี้ป้าแก้วเธอก็ได้สังเกตบางอย่างว่าคนที่เธอพามานั้นดูเหมือนไม่มีชีวิตเลย "ขอบคุณครับป้า" น้ำชาเขาได้เอ่ยขึ้นพร้อมมองไปรอบห้องด้วยแววตาที่ว่างเปล่า "ถ้ามีอะไรก็เรียกดิฉันได้ทุกเมื่อนะค่ะ" ป้าแก้วเขาได้เอ่ยบอกก่อนที่จะเดินออกจากห้องนี้ไป ส่วนน้ำชาเขาก็ได้มองไปที่รอบห้องนี้ด้วยแววตาที่ว่างเปล่าก่อนจะไปจัดของเข้าตู้ช้าๆพร้อมน้ำตาที่รินไหล "น้ำชามึงต้องสู้ ต่อให้มึงสูญเสียศักดิ์ศรีแค่ไหนมึงก็ต้องทำเพื่อชีวิตของเด็กๆจะได้ปลอดภัย" น้ำชาเขาได้ปาดน้ำตาแล้วเอ่ยบอกกับตัวเองพร้อมทั้งเร่งจัดของเข้าตู้ให้เสร็จเพื่อลงไปหาเจ้าของบ้าน"คุณเอกภพจะทำอะไรครับ!!! ปล่อยผมเดี๋ยวนี้นะครับ!!!" น้ำชาเขาได้เอ่ยขึ้นพร้อมพยายามผลักเอกภพออก เพียะ!!!! "มึงไม่มีสิทธิ์มาห้ามกู!!!! "เอกภพตบน้ำชาเสียงดังพร้อมทั้งฉีกกระชากเสื้อผ้าที่เหลืออยู่ออกอย่างรุนแรง "ในเมื่อมึงคิดจะหนีกู มึงก็ต้องเตรียมตัวรับผลกรรมที่มึงสร้างได้เลยน้ำชา!!!! "เอกภพในยามนี้เขาเหมือนกับปีศาจร้ายทั้งฉีกกระชากเสื้อผ้าของน้ำชาออกเป็นชิ้นๆทั้งกัดทั้งดูดตัวของน้ำชาอย่างโหดเหี้ยมทารุณ "โอ้ย!!! ผมเจ็บนะครับ" เมื่อเอกภพกัดและขยี้ฟันที่ยอดปทุมถันน้ำชาเขาก็ได้ร้องออกมาอย่างเจ็บแสบ "เจ็บสิดี!!! มึงก็ได้รู้ว่าตอนที่มึงคิดจะไปกูรู้สึกยังไง!!!" เอกภพเขาได้เอ่ยขึ้นและทำการพลิกตัวของน้ำชาให้นอนคว่ำหน้าลงแล้วเขาก็ได้เริ่มไล่กัดทั่วทั้งแผ่นหลังของน้ำชา เพียะ!!! เพียะ!!! เพียะ!!! เพียะ!!! เพียะ!!! เมื่อเอกภพเขาได้ไล่ลงมาจนถึงก้อนซาลาเปาทั้ง 2 ลูกของน้ำชา เอกภพเขาก็ได้ตบอย่างรุนแรงพร้อมทั้งขยำขยี้จนมันแดงไปทั่ว น้ำชาในยามนี้เขาได้ร้องไห้จนน้ำตาไม่มีจะไหล ตัวของเขานั้นสะอื้นจนเสียงแทบไม่มีจะพูดแต่นั่นก็ไม่ทำให้เอกภพใจอ่อนขึ้นมาเลย "ฮ่า ฮ่า ฮ่า ร้อง!!! มึงร้องออกมาเยอ
"ฉันรู้เรื่องที่แกพาเด็กเข้าบ้านแล้ว "เมื่อเอกภพได้ฟังดังนั้นเขาก็ยังทำฉีดผ้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น "คุณพูดเรื่องอะไรผมไม่เข้าใจ" เอกภพด้วยเอ่ยขึ้นแล้วพยายามจะเดินหนี "แกไม่ต้องทำมาเป็นไขสือ เด็กที่ชื่อน้ำชานั้นฉันรู้แล้ว " "คุณพูดเรื่องอะไรคุณ " "เด็กคนนี้เป็นใครเอกภพแกไม่ต้องมาปฏิเสธฉัน ฉันไปสืบประวัติเด็กคนนั้นมาหมดแล้ว แต่ฉันอยากฟังจากปากแก " "เด็กคนนี้เป็นเด็กบำเรอของผมเองแม่มีอะไรหรือเปล่าครับ" เมื่อเอกภพได้ฟังดังนั้นเขาก็ได้เอ่ยขึ้นอย่างจนใจด้วยน้ำเสียงที่ไร้ความรู้สึก และเมื่อสิ้นเสียงนั้นของเอกภพป้าแก้วก็ได้พาตัวน้ำชาลงมา "หึ เดี๋ยวนี้รู้จักพัฒนานะกล้าพาเด็กขายมาบ้าน" เมื่อผู้เป็นมารดาได้ฟังดังนั้นเขาก็หันมามองที่น้ำชาด้วยความเหยียดหยาม เมื่อเอกภพได้เห็นดังนั้นเขาก็รู้สึกไม่พอใจผู้เป็นมารดาเป็นอย่างมาก "แล้วแม่มาหาผมมีเรื่องอะไรถ้าจะมาก็เพราะเรื่องแค่นี้กลับไปอยู่วิมานสวรรค์ของคุณเถอะ คุณต้องการให้ผมพาคนของแม่ไปกินข้าวผมก็พาไปแล้วไงจะมายุ่งอะไรกับผมอีก " เอกภพเขาได้เอ่ยบอกผู้เป็นมารดาด้วยความไม่พอใจ " ถ้าวันนี้ฉันไม่มาที่บ้านแก แล้วมีคนมารายงานฉันเรื่องของเด็
เมื่อป้าแก้วได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดที่เคยเกิดขึ้นกับน้ำชาเธอก็รู้สึกสงสารเด็กตรงหน้านี้เป็นอย่างมาก "ป้าขอโทษคะที่ถามอะไรไม่เป็นเรื่องแบบนี้" "ไม่เป็นไรหรอกครับป้า ขอแค่ชีวิตเด็กๆปลอดภัยผมจะเป็นยังไงก็ช่างมันเถอะครับ" และเมื่อหญิงชราได้ฟังดังนั้นนับตั้งแต่วันที่น้ำชาได้เข้ามาอยู่ยังบ้านของเอกภพนับตั้งแต่วันที่น้ำชาได้เข้ามาอยู่ยังบ้านของเอกภพบัดนี้ก็เป็นเวลาถึง 1 เดือนแล้ว โดยตลอด 1 เดือนนี้น้ำชากับเอกภพพวกเขาทั้งคู่ต่างก็ได้หลับนอนด้วยกันตลอดทุกวัน "นี่มันก็ 1 เดือนแล้วเขายังไม่เบื่อฉันอีกหรอ" น้ำชาได้เอ่ยขึ้นพร้อมอาบน้ำ และเมื่อเขาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเขาก็ได้เดินลงมายังด้านล่างเพื่อร่วมรับประทานอาหารกับผู้เป็นเจ้าของบ้านอย่างเช่นปกติ "นายท่านแย่แล้วครับ คุณผู้หญิง...คุณผู้หญิงมาครับ" เข้มได้วิ่งเข้ามารายงานผู้เป็นนายถึงการปรากฏตัวของแม่ของเอกภพ ในเมื่อเอกภพเขาได้ฟังดังนั้นเขาก็ขมวดคิ้วทันที "น้ำชาเธอขึ้นไปอยู่บนห้องก่อนถ้าฉันไม่ได้เรียกก็ห้ามลงมาเด็ดขาด "เอกภพเขาได้หันมาเอ่ยกับน้ำชาด้วยน้ำเสียงที่เข้มนั่นก็ทำให้น้ำชารีบขึ้นไปยังห้องของตัวเองทันที ส่วนป้าแก้วเธอก็รู้ว่าต้อ
นับตั้งแต่วันที่น้ำชาได้เข้ามาอยู่ยังบ้านของเอกภพบัดนี้ก็เป็นเวลาถึง 1 เดือนแล้ว โดยตลอด 1 เดือนนี้น้ำชากับเอกภพพวกเขาทั้งคู่ต่างก็ได้หลับนอนด้วยกันตลอดทุกวัน "นี่มันก็ 1 เดือนแล้วเขายังไม่เบื่อฉันอีกหรอ" น้ำชาได้เอ่ยขึ้นพร้อมอาบน้ำ และเมื่อเขาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเขาก็ได้เดินลงมายังด้านล่างเพื่อร่วมรับประทานอาหารกับผู้เป็นเจ้าของบ้านอย่างเช่นปกติ "นายท่านแย่แล้วครับ คุณผู้หญิง...คุณผู้หญิงมาครับ" เข้มได้วิ่งเข้ามารายงานผู้เป็นนายถึงการปรากฏตัวของแม่ของเอกภพ ในเมื่อเอกภพเขาได้ฟังดังนั้นเขาก็ขมวดคิ้วทันที "น้ำชาเธอขึ้นไปอยู่บนห้องก่อนถ้าฉันไม่ได้เรียกก็ห้ามลงมาเด็ดขาด "เอกภพเขาได้หันมาเอ่ยกับน้ำชาด้วยน้ำเสียงที่เข้มนั่นก็ทำให้น้ำชารีบขึ้นไปยังห้องของตัวเองทันที ส่วนป้าแก้วเธอก็รู้ว่าต้องทำอย่างไรเธอก็รีบไปเก็บข้าวของทุกอย่างที่เกี่ยวกับน้ำชาซ่อนเอาไว้ทั้งหมด "เอกภพวันนี้แม่มีเรื่องสำคัญจะพูดกับแก" เมื่อคุณหญิงมุกดาผู้เป็นมารดาของเอกภพเข้ามายังห้องรับแขกเธอก็ได้เอ่ยขึ้นมาทันที "แม่มีเรื่องอะไรจะคุยกับผม ก็รีบพูดมาเถอะผมไม่มีเวลาว่างทั้งวัน" เมื่อเอกภพคอยได้ฟังดังนั้น
หลังจากศึกรักอันเร่าร้อนผ่านพ้นไป ในยามเช้าน้ำชาเขาก็ได้ลุกขึ้นมาอาบน้ำแล้วพยายามถูแรงๆยังรอยที่เอกภพเขาที่ฝากเอาไว้ เพียงเพราะหวังว่าจะลบรอยอันอัปยศเหล่านี้ออกได้ แต่มันก็ไม่มีประโยชน์เพราะเขายิ่งถูเท่าไหร่รอยแดงมันก็ยิ่งชัดขึ้นเท่านั้น ก็อก ก็อก ก็อก "คุณน้ำชาค่ะ เสร็จหรือยังคะคุณเอกภพให้ดิฉันขึ้นมาตามลงไปทานข้าวค่ะ "เสียงของป้าแก้วเคาะประตูห้องน้ำแล้วเอ่ยบอกกับคนที่อยู่ด้านใน "เสร็จแล้วครับป้า" น้ำชาเขาได้ตะโกนตอบอีกฝ่ายแล้วพยายามล้างคราบน้ำตาพร้อมทั้งล้างฟองสบู่ที่อยู่บนตัวออกอย่างรวดเร็ว "ผมขอโทษด้วยนะครับที่ทำให้ป้าต้องรอนาน" เมื่อน้ำชาเดินออกมาจากห้องน้ำเขาก็ได้ทำการขอโทษผู้สูงวัยด้านนอกทันที "ไม่เป็นไรค่ะมาเถอะเดี๋ยวป้าช่วยแต่งตัว" เมื่อกล่าวจบป้าแก้วเขาก็ได้เดินมาหาน้ำชาแล้วช่วยอีกฝ่ายเช็ดตัวเช็ดผมแล้วก็ช่วยแต่งตัวเหมือนกับน้ำชาเป็นเด็กเล็ก นั่นก็ทำให้น้ำชาเขารู้สึกเขินอายเป็นอย่างมากแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ และเมื่อแต่งตัวให้น้ำชาเสร็จเรียบร้อยแล้วป้าแก้วเขาก็ได้พาอีกฝ่ายไปยังห้องอาหารที่เจ้าของบ้านได้นั่งรออยู่แล้ว "สวัสดีครับคุณเอกภพ "เมื่อน้ำชาเขานั่งเรียบร้อ
"นายท่านทำเช่นนี้มันจะดีเหรอครับ" เข้มเขาได้เอ่ยขึ้นด้วยความสงสารอีกฝ่าย "มันมีอะไรที่ไม่ดี เขาไม่ต้องทำอะไรก็แค่มานั่งกินนอนกินแล้วค่อยบำเรอกูตอนกลางคืน ไม่ต้องทำงานหนักใครเขาก็ชอบ "เอกภพเขาได้เอ่ยขึ้นอย่างไม่รู้สึกว่าผิดอะไร และเมื่อเข้มได้ฟังดังนั้นเขาก็พยักหน้าเหมือนจะเข้าใจทั้งๆที่ในใจของเขามันร่ำร้องให้นายท่านปล่อยเด็กคนนั้นไปแต่เขาก็พูดไม่ได้ ก๊อก ก๊อก ก๊อก "นายท่านขอรับคุณน้ำชามาขอพบ" บอดี้การ์ดด้านนอกเขาได้เคาะประตูแล้วเอ่ยบอก "มึงเห็นไหมเข้มกูบอกแล้วว่าเขาชอบ เชิญเขาเข้ามา "ประโยคแรกเอกภพเขาได้เอ่ยบอกกับเลขาคนสนิทส่วนอีกประโยคเขาได้ตะโกนบอกคนที่อยู่ด้านนอก "ผมอยู่ที่นี่ผมต้องทำอะไรบ้างครับ" น้ำชาเขาได้เอ่ยขึ้นอย่างไร้ซึ่งอารมณ์ "นายไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น อยู่เฉยๆรอทำงานให้ฉันตอนกลางคืนก็พอ" เอกภพเขาได้เอ่ยบอกทั้งๆที่เขายังไม่ได้เงยหน้าขึ้นจากกองเอกสาร "ครับ แล้วผมสามารถเดินรอบๆบ้านได้ไหมครับ" น้ำชาเขาได้เอ่ยถามผู้เป็นเจ้าของบ้าน "ได้นายจะไปไหนก็ได้ในอาณาเขตบ้านหลังนี้ ""ครับถ้าอย่างนั้นผมขอตัว "เมื่อกล่าวจบน้ำชาเขาก็ได้ทำความเคารพแล้วหันหลังกลับออกจากห้องนี้ไปทันที แ