“ถ้าคุณอธิปไม่ทานอะไรเรามาคุยกับเรื่องสัญญาเลยก็ได้นะ คุณเอาสัญญามาด้วยหรือเปล่า”
“นี่ครับสัญญาที่ทางบริษัทเตรียมให้”
อัญญารินทร์รับเอกสารมาอ่านอย่างละเอียด ตาคู่สวยไล่อ่านทุกตัวอักษรอย่างตั้งใจ ระหว่างที่อ่านก็แอบมองออกไปหน้าร้านและรอคอยว่าสิรดาจะเข้ามาหรือเปล่า
หญิงสาวอ่านสัญญายังไม่จบเสียงไลน์ก็ดังขึ้นเสียก่อนและเป็นสิรดาที่ไลน์มาบอกว่าเธอต้องทำโอทีจึงมาหาที่ร้านไม่ได้
“มีอะไรหรือเปล่าครับ”
“เปล่าค่ะ” อัญญารินทร์ปฏิเสธและอ่านสัญญาส่วนที่เหลือ
“คุณอัญญามีอะไรที่อยากจะสอบถามเกี่ยวกับสัญญาจ้างไหมครับ”
“มีนิดหน่อยค่ะ คือในสัญญาเขียนว่าห้ามมีความสัมพันธ์เกินเลยกว่าสถานะแฟนเช่า แล้วแบบไหนถึงเรียกว่าเกินเลยค่ะ”
“ก็คงหมายถึงเรื่องบนเตียงนั่นแหลครับ เพราะการเป็นแฟนกันก็ต้องแสดงออกให้คนอื่นเห็นถึงการเป็นคู่รักอาจมีการจับมือ บ้างกอดหรือโอบบ้าง” เขาตอบตามที่สอบถามมาจากทินกร
“ฉันพอเข้าใจค่ะ”
“แล้วมีตรงไหนอีกไหมครับ”
“คิดว่าไม่มีนะคะ”
เมื่อตอบไปแล้วหญิงสาวก็เซ็นชื่อลงในสัญญาสองแผ่นก่อนจะส่งให้อธิปัตย์เซ็นบ้างจากนั้นทั้งสองคนก็เก็บสัญญาไว้คนละแผ่น
“ทีนี้ก็ถึงเวลาที่เราจะทำความรู้จักกันแล้วนะครับคุณอัญญา”
“ฉันขอเริ่มก่อนเลยนะคะ อย่างที่บอกไปเมื่อวานว่าฉันชื่ออัญญารินทร์ แต่เพื่อนๆ และคนใกล้ตัวมักจะเรียกฉันว่าอัญญา ค่ะ อายุ 23 ปี เปิดร้านกาแฟแห่งนี้มาประมาณ 8 เดือนแล้วค่ะ”
“และคุณมีพี่น้องหรือครอบครัวไหมครับ” อธิปัตย์ถามเพิ่ม
“คุณพ่อคุณแม่ของฉันเสียชีวิตไปแล้วค่ะ ตอนนี้ก็อยู่คนเดียว”
“ผมเสียใจด้วยนะครับ” เขารู้สึกเห็นใจเธอมากที่อายุแค่นี้ต้องใช้ชีวิตลำพังเพียงคนเดียว
“ขอบคุณค่ะ”
“นอกจากพนักงานในร้านที่ผมเห็นแล้วคุณมีเพื่อนสนิทไหมครับ”
“มีค่ะ เธอชื่อใบเตยอันที่จริงวันนี้ใบเตยก็จะมาเจอคุณด้วยแต่พอดีเธอมีงานด่วนเลยมาไม่ได้”
“ไม่เป็นไรครับผมว่าคงมีโอกาสได้เจอกัน”
“ทีนี้ถึงตาคุณอธิป ฉันอยากให้คุณแนะนำตัวเองให้ฉันรู้จักมากขึ้นค่ะ เพื่อที่เราจะได้แสดงบทบาทคู่รักได้อย่างสมจริงที่สุด”
“ผมชื่ออธิปัตย์ อายุ 28 ปีครับ ตอนนี้กำลังตกงานครับ”
“แต่ถ้าเพื่อนฉันถามคุณจะตอบว่าตกงานไม่ได้นะคะ”
“แล้วจะให้ผมตอบว่าอะไรดีล่ะ บอกว่าผมเพิ่งกลับจากต่างประเทศแล้วกำลังจะเริ่มทำงานดีไหม” อธิปัตย์เสนอเพราะเขาไม่อยากโกหกมาก
“คุณจะตอบแบบนั้นก็ได้นะ แต่ถ้าเขาถามเพิ่มเติมเช่นเรียนที่ไหน เรียนอะไรคุณจะตอบเขาได้ไหมล่ะ ฉันเองยิ่งไม่มีความรู้เรื่องนี้อยู่ด้วย”
“เรื่องนั้นผมคิดว่าผมตอบได้”
“ทำไมคุณดูมั่นใจจังคะคุณอธิป”
“ก็ก่อนที่ผมจะมาทำงานนี้ผมเคยทำงานบนเรือสำราญและคุยกับแขกคนไทยคนหนึ่งเขาเป็นนักท่องเที่ยวที่มีแผนจะเดินทางไปรอบโลก ผมยืมตัวตนเขามาใช้ก็ได้”
“ฉันว่าอย่าเลยค่ะ ถ้าตัวจริงโผล่มาคุณจะยุ่งเอานะคะ ถึงฉันอยากได้หนุ่มหล่อโปรไฟล์ดีแต่แบบนี้มันก็เสี่ยงเกินไปค่ะ”
“ผมรับรองว่าไม่มีใครจับได้หรอกครับเพราะคนที่ผมพูดถึงตอนนี้เขาไปเที่ยวแถวแอฟริกาใต้และวางแผนจะอยู่ที่นั่นครึ่งปี” อธิปัตย์โกหกคำโต
“เอางั้นก็ได้ค่ะ” อัญญารินทร์เห็นท่าทางมั่นใจของเขาก็เลยยอมคล้อยตาม
“อีกเกือบสามอาทิตย์กว่าจะถึงงานแต่งของเพื่อนฉัน ระหว่างนี้คุณจะทำอะไรคะ จะรับงานอื่นก่อนหรือเปล่า”
“ช่วงนี้ผมอาจจะต้องหางานประจำทำ”
“ฉันขอถามหน่อยได้ไหมว่าทำไมถึงมารับงานนี้”
“ผมมีเหตุผลส่วนตัวครับ และคิดว่างานนี้ค่อนข้างตรงกับความต้องการของผมในช่วงนี้พอดี เรื่องรายละเอียดผมไม่สามารถบอกคุณได้ หวังว่าคุณจะเข้าใจ”
“ฉันเข้าใจค่ะ ถ้าอย่างนั้น เรามาคุยกันเรื่องรายละเอียดปลีกย่อยสำหรับการเป็นแฟนปลอมๆ กันดีกว่านะคะ มันมีหลายอย่างที่เราต้องพูดให้ตรงกัน”
“ได้ครับ”
“อย่างแรกเลยคือเรื่องราวความรักของเราค่ะ เราต้องมีเรื่องราวที่น่าเชื่อถือได้ เพื่อที่เพื่อนๆ จะได้ไม่สงสัย”
“คุณอยากให้เป็นแบบไหนครับ” อธิปัตย์ถาม
“ฉันคิดว่าเราควรจะเจอกันโดยบังเอิญดีไหมคะ เช่น คุณมาที่ร้านกาแฟของฉันบ่อยๆ แล้วเราก็เริ่มทำความรู้จักกัน จนกระทั่งพัฒนาความสัมพันธ์” อัญญารินทร์เสนอ
“ฟังดูเป็นไปได้ครับ” อธิปัตย์เห็นด้วย
“ส่วนเรื่องรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เช่นชอบอะไรไม่ชอบอะไรนิสัยใจคอ เราต้องจำให้ขึ้นใจนะคะ เพื่อที่เวลาเพื่อนถาม เราจะได้ตอบตรงกัน และฉันอาจจะต้องขอถ่ายรูปคู่กับคุณลงในโซเชียลจะได้ไหม”
“ได้สิ แต่ผมว่าถ่ายไม่ต้องเห็นหน้าเต็มก็ได้นะ พวกเขาจะรอที่จะเห็นหน้าผมในวันงาน ผมว่ามันน่าจะตื่นเต้นดี” อธิปัตย์กลัวว่าถ้าหน้าขอตนไปโผล่ในโซเชียลแล้วทางบ้านจะรู้ว่าเขากลับมาแล้ว
“ฉันเห็นด้วยเลยค่ะ”
“ร้านคุณเปิดทุกวันไหมครับ”
“ไม่ค่ะ ร้านของฉันปิดวันพฤหัสค่ะ คุณถามทำไมคะ”
“ผมคิดว่าเราควรจะนัดเจอกันบ้างในช่วงเวลาที่เราว่าง เพื่อซ้อมบทบาทและทำความรู้จักกันให้มากขึ้น”
“แต่นั่นมันไม่อยู่ในสัญญานะคะ”
“ผมรู้แต่ช่วงนี้ผมเองก็ว่างๆ น่ะเลยอยากจะหาเพื่อนคุยด้วย”
“เอาไว้เราค่อยคุยเรื่องนี้กันอีกทีก็ได้ค่ะ” อัญญารินทร์รู้สึกแปลกใจที่อธิปัตย์ดูจะร่วมมือและเข้าใจสถานการณ์ได้ดีกว่าที่คิดไว้มาก เขาดูเป็นคนฉลาดและมีไหวพริบ ไม่เหมือนกับท่าทางเงียบๆ นิ่งๆ ของเขา
“ได้ครับ ผมว่าเราควรแลกเบอร์ติดต่อกันไว้”
“ก็ดีค่ะ”
เมื่ออธิปัตย์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาบันทึกเบอร์และสแกนคิวอาร์โค้ตอัญญารินทร์ก็ค่อนข้างจะแปลกใจกับโทรศัพท์ของเขาเพราะดูแล้วมันแพงมากสำหรับคนที่บอกว่าตัวเองตกงาน
“มีอะไรหรือเปล่าครับ” ชายหนุ่มถามเมื่อเห็นสีหน้าของเธอเหมือนกำลังสงสัยอะไรสักอย่าง
“โทรศัพท์ของคุณไม่เหมือนกับโทรศัพท์ของคนที่บอกว่าตกงานเลยนะคะ”
“ก่อนหน้านี้ผมทำงานแจกไพ่บนเรือสำราญครับ เวลาแขกเล่นได้เยอะก็จะมีทิปให้ผมเยอะหน่อย และโทรศัพท์เครื่องนี้ผมก็ได้มาจากที่นั่น” ด้วยประสบการณ์ที่ได้เจอคนมาเยอะทำให้อธิปัตย์เอาเรื่องของคนเหล่านั้นมาผสมกันเป็นเรื่องของตัวเองได้อย่างแนบเนียน
“แล้วทำไมตอนนี้ไม่ทำต่อล่ะคะ”
“หมดสัญญาจ้างครับผมเลยว่างงาน ระหว่างสัญญาใหม่ผมเลยหาอะไรทำแก้เบื่อ”
“อย่างเช่นรับจ้างเป็นแฟนใช่ไหมคะ”
“ใช่ครับ”
ชายหนุ่มนั่งคุยกับเธอจนท้องฟ้าด้านนอกมืดครึ้มเขาก็ขอตัวกลับ
“แล้วคุณอธิปจะกลับยังไงคะ”
“ผมนั่งแท็กซี่ครับ”
“ให้ฉันไปส่งไหมคะ”
“ไม่เป็นไรครับ แล้วคุณพักที่นี่หรือเปล่าครับ”
“ปกติฉันจะกลับบ้านค่ะ แต่ถ้าช่วงไหนเหนื่อยมากๆ ก็จะนอนหลังร้านค่ะ”
“หลังร้านเหรอครับ ผมว่ามันค่อนข้างอันตรายนะครับ”
“ไม่อันตรายเท่าไหร่หรอกค่ะ แต่ฉันก็ไม่ได้ค้างที่นี่บ่อย”
“วันนี้คุณจะกลับไปนอนที่บ้านใช่ไหม ให้ผมช่วยปิดร้านนะ”
“อย่าเลยค่ะ ฉันเกรงใจนี่มันก็มืดแล้ว”
“เพราะมืดแล้วไงล่ะ ผมเลยต้องช่วยไปเถอะครับ”
อธิปัตย์ช่วยดึงประเหล็กแบบม้วนลงมาปิดจากนั้นก็เดินออกไปเรียกแท็กซี่ที่หน้าร้าน
อัญญารินทร์เห็นว่าเขาขึ้นแท็กซี่ไปแล้วเธอจึงขับรถออกมา หญิงสาวรู้สึกแปลกใจกับท่าทางของเขาเพราะดูเหมือนจะเป็นคนเย็นชาแต่กลับมีความห่วงในแฝงอยู่ในนั้นด้วย
วันนี้อธิปัตย์มีประชุมตลอดบ่ายพอเลิกงานเขาก็รีบขับรถมาที่ร้านอัญญาคาเฟ่ทันทีแต่พอมาถึงร้านก็ปิดแล้วชายหนุ่มเห็นรถยังจอดอยู่เขาโทรหาคนรักแต่อัญญารินทร์ก็ไม่ยอมรับสายเขารู้สึกร้อนใจจึงขับรถไปที่บ้านของเธอกดออดอยู่นานก็ไม่มีคนเปิดชายหนุ่มร้อนใจมากยิ่งขึ้น เขาโทรศัพท์ไปถามสิรดาเพื่อนสนิทของเธอแต่สิรดาก็บอกว่าวันนี้ยังไม่ได้คุยกับอัญญารินทร์เลยอธิปัตย์ไม่รู้จะไปตามที่ไหนพอดีนึกได้ว่ามีเบอร์โทรของกวางเด็กในร้านอยู่จึงรีบต่อสายหาเธอทันที“สวัสดีค่ะพี่อธิปมีอะไรหรือเปล่า”“พี่ไปหาอัญญาที่ร้านไม่เจอไปที่บ้านก็ไม่เจอแต่รถเธอยังจอดอยู่หน้าร้าน กวางรู้ไหมว่าพี่อัญญาไปไหนหรือเธอไม่สบายหรือเปล่า” อธิปัตย์ถามอย่างรวดเร็วด้วยความเป็นห่วง“อ้าวพี่อัญญาไม่ได้บอกพี่หรอกเหรอคะ”“บอกอะไรเหรอกวาง”“ก็วันนี้แม่ของพี่อธิปัตย์มาที่ร้านมานั่งคุยกับอะไรกับพี่อัญญาก็ไม่รู้สีหน้าเครียดเชียว กวางได้ยินแค่แฟนจากนั้นพี่อัญญาก็บอกให้หนูสองคนปิดร้านกันเอง พี่อัญญาเธอก็ออกไปพร้อมกับแม่พี่เลยค่ะ”“แน่ใจนะกวางว่าได้ยินคำว่าแฟนเช่าจริงๆ”“แน่ใจค่ะกวางได้ยิน แต่ก็ไม่รู้รายละเอียด เท่าที่ดูเหมือนพี่อัญญาจะรู้สึกผิดอะไรสัก
หลังจากทานอาหารค่ำแล้วคุณทิพย์สุดาก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้กับคุณสมภพผู้เป็นสามีฟัง“คุณคิดว่าลูกชายเรากำลังตบตาเราอยู่หรือเปล่าคะคุณภพ”คุณทิพย์สุดาถอนหายใจอย่างหนักเธอรู้สึกเครียดกับสิ่งที่ตัวเองได้รับรู้มาในวันนี้“เท่าที่ผมสังเกตดูนะคุณทิพย์ เด็กสองคนนั่นเขาดูรักกันจริงๆ นะ” แม้ว่าจะเจอแค่เพียงครั้งเดียวเขาก็พอมองลูกชายตนเองออกเพราะอธิปัตย์ดูจริงจังกับความรักครั้งนี้มาก“ใช่ค่ะ ทิพย์ก็คิดว่าสองคนนั้นดูรักกันจริงๆ นะคะ และก็ไม่น่าจะใช่เรื่องตบตาหรือเป็นการจ้างใครมาหลอก แต่จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้มันก็เริ่มจากหนูอัญญาเป็นคนจ้าอธิปก่อน ฉันก็เลยไม่แน่ใจว่าที่เธอทำอยู่ตอนนี้ยังอยู่ในเงื่อนไขสัญญาจ้างที่ทินภัทรไม่รู้หรือเปล่า”“ผมว่าเรื่องนี้คุณต้องคุยกับลูกตรงๆ นะลองถามเขาดูว่าเรื่อง มันเป็นยังไงกันแน่ หนูอัญญาเธอเป็นคนน่ารักมากนะและลูกชายของเราก็ดูเหมือนจะรักเธอมากเหมือนกัน ถ้าไม่อย่างนั้นคงไม่ลงหลักปักฐานอยู่ที่เมืองไทยหรอก ก่อนหน้านี้นายอธิปไม่เคยคิดจะเข้ามาช่วยงานที่บริษัทหรือใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองไทยเลยถ้าไม่ใช่เพราะหนูอัญญาก็คงไม่ทำแบบนั้น”“ฉันก็คิดเรื่องนี้อยู่เหมือนกันค่ะ แต่มันก็ยัง
คุณทิพย์สุดาเห็นท่าทางของทินภัทรแปลกไปตอนที่พูดถึงอัญญารินทร์ เธอรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลบางอย่างเพราะปกติแล้วทินภัทรจะไม่หลบสายตาเวลาพูดคุยกับเธอเหมือนกับวันนี้หลังจากคุยธุระกับมารดาของชายหนุ่มแล้วคุณทิพย์สุดาก็ออกมาจากบ้านหลังใหญ่ระหว่างทางก็โทรศัพท์ไปหาเลขาของลูกชาย“สวัสดีค่ะ”“สวัสดีจ้ะนี่ฉันเองนะ เจี๊ยบ”“สวัสดีค่ะคุณทิพย์สุดามีอะไรให้เจี๊ยบรับใช้คะ” เลขาของอธิปัตย์จำเสียงของคุณทิพย์สุดาได้เพราะท่านมักจะแวะไปที่บริษัทอยู่บ่อยครั้ง“ฉันมีเรื่องจะรบกวนหน่อยน่ะว่างอยู่หรือเปล่า”“ว่างค่ะ คุณทิพย์สุดาจะให้เจี๊ยบช่วยอะไรบอกมาได้เลยนะคะ”“เธอช่วยหาเบอร์โทรศัพท์เพื่อนของอธิปัตย์ให้ฉันหน่อยได้ไหม”“ได้ค่ะ”“เพื่อนคนไหนคะ”“เพื่อนที่ชื่อทินภัทร แล้วช่วยดูด้วยว่าบริษัทของเขาอยู่ที่ไหนพอดีฉันมีธุระจะออกไปเจอเขานิดหน่อยนะ แต่ลืมว่าบริษัทตั้งอยู่ตรงไหน”“ได้ค่ะรอสักครู่นะคะ”คุณทิพย์สุดาถือสายไม่นานเลขาของคนลูกชายก็กลับมาพร้อมกับเบอร์โทรศัพท์และที่ตั้งของบริษัทให้กับคุณทิพย์สุดา“ขอบใจมากน้า เรื่องนี้ไม่ต้องบอกอธิปัตย์ล่ะว่าฉันโทรมาถาม”“ได้ค่ะ คุณทิพย์สุดามีอะไรจะถามเจี๊ยบอีกหรือเปล่าคะ”
บ่ายวันจันทร์บรรยากาศแสนอบอ้าวลูกค้าในร้านอัญญาคาเฟ่มีอยู่แค่สองโต๊ะ เพราะส่วนใหญ่อากาศแบบนี้ลูกค้าจะเลือกใช้บริการเดลิเวอรี่มากกว่า อัญญารินทร์กับลูกน้องกำลังช่วยกันจัดเลี้ยงขนมทึ่งซึ่งเพิ่งอบเสร็จใหม่ๆ เพื่อรอรับลูกค้าสำหรับช่วงเย็น ลูกค้าบางส่วนก็โทรมาจองขนมไว้“ขนมสามกล่องนั่นของใครคะพี่อัญญา” กวางถามเมื่อเห็นว่าหญิงสาวเป็นคนจัดเรียงไว้เองตั้งแต่เมื่อช่วงเที่ยง“นั่นคุณอธิปโทรมาสั่งไว้น่ะเห็นว่าจะให้คนมาเอา”“แล้วเราต้องคิดเงินไหมคะ”“กวางคิดว่ายังไงดีล่ะ”“อย่างคุณอธิปัตย์ไม่ยอมรับขนมของพี่อัญญาไปฟรีๆ แน่ใช่ไหมล่ะ”“มันก็จริงอย่างที่กวางพูดนั่นแหละเขาโอนเงินมาให้แล้วมากกว่าค่าขนมที่ซื้ออีก เอาไว้พี่จะให้เป็นโบนัสสิ้นเดือนของกวางกับน้ำหวานก็แล้วกันนะ”“พี่อัญญาทั้งสวยทั้งใจดีแบบนี้กวางกับน้ำหวานรักตายเลยค่ะ พี่สัญญากับกวางได้ไหมว่าจะไม่ไล่กว้างกับน้ำหวานออก”“ลองบอกเหตุผลมาสักข้อสิว่าทำไมพี่ถึงจะต้องไล่เราสองคนออก”“ก็ถ้ากวางกับน้ำหวานขี้เกียจ”“แต่เท่าที่พี่ดูไม่มีใครขี้เกียจเลยนะทั้งสองคน เพราะฉะนั้นพี่ไม่มีทางไล่ออกจ้ะ”“แล้วถ้ากวางกับน้ำหวานขโมยเงินในร้านล่ะคะพี่อัญญา”“ถ้าเป็
อัญญารินทร์ตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดของอธิปัตย์ความอบอุ่นที่แผ่ซ่านเข้ามาจากกายของเขาทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยและมีความสุขอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน เธอเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าคมสันที่กำลังหลับใหลอย่างสงบ แสงแดดอ่อนๆ ต้องใบหน้าของเขา ทำให้เธอเห็นรายละเอียดของดวงตา จมูกโด่ง และริมฝีปากหยักได้อย่างชัดเจน หัวใจรู้สึกว่ามันได้เติมเต็มด้วยความรักของเขา เธอใช้ปลายนิ้วไล้ไปตามโครงหน้าของเขาเบาๆอธิปัตย์รู้สึกถึงสัมผัสแผ่วเบาที่ใบหน้า จึงลืมตาขึ้นช้าๆ เมื่อเห็นใบหน้าหวานของอัญญารินทร์อยู่ใกล้ๆ เขาก็ส่งยิ้มอ่อนโยนให้“อรุณสวัสดิ์ครับที่รัก”“อรุณสวัสดิ์ค่ะ” อัญญารินทร์ตอบพร้อมรอยยิ้มสดใส“ตื่นนานแล้วเหรอครับ” เขากระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น“เพิ่งตื่นค่ะ”“วันนี้วันหยุดเรานอนอยู่แบบนี้นานๆ ได้ไหม”“ตกลงวันนี้จะไม่ไปทำงานจริงๆ เหรอคะ”“ไม่ล่ะ วันนี้อยากอยู่กับอัญญามากกว่า”“ตามใจเถอะค่ะ อัญญาห้ามคุณก็คงไม่ฟัง ตอนนี้หิวหรือยังล่ะคะ เดี๋ยวอัญญาไปทำอะไรให้กินนะ”“หิวครับ เมื่อคืนใช้พลังงานไปเยอะเลยเดี๋ยวเราช่วยกันทำนะ แต่อัญญาช่วยอะไรผมก่อนได้ไหมล่ะ”“ช่วยอะไรคะ”“ชุดผมอยู่ในรถน่ะ อัญญาช่วยไปเอากระเป๋าที่เบาะหลังกับชุ
“อัญญาจ๋า พร้อมแล้วใช่ไหม ผมขอเข้าไปนะ”“อธิปขา....เบาๆ นะคะ อัญญากลัวเจ็บ”เสียงหวานร้องขอเพราะจำได้ดีว่าครั้งแรกนั้นมันเจ็บมากแค่ไหน“ผมรู้ผมจะพยายามนะที่รัก”อธิปัตย์ไม่รู้ว่าตนเองจะทำได้อย่างที่พูดหรือเปล่าเพราะรู้ว่าเวลาที่ท่อนเอ็นร้อนเข้าไปอยู่ในร่องสวาทของเธอแล้วเขาจะควบคุมตัวเองได้มากแค่ไหนชายหนุ่มจูบลงมาอย่างเร่าร้อน มือใหญ่จับท่อนเอ็นร้อนลากขึ้นลงกลางกลีบก่อนจะค่อยๆ กดส่วนปลายเข้าหาร่องรักทีละนิดอัญญารินทร์กัดฟันแน่นข่มความเจ็บเอาไว้เพราะรู้ว่ามันจะเจ็บเพียงครู่แต่หลังจากนั้นเธอก็จะพบแต่ความสุข“อื้ม....ของอัญญาแน่นเหลือเกิน อ่า....”อธิปัตย์รู้สึกถึงความคับแน่น เขาพยายามเคลื่อนตัวตนเข้าไปอย่างช้าๆ อย่างยากลำบาก ช่องทางรักของหญิงสาวนั้นมันคบแน่นและตอดรัดท่อนเอ็นจนแทบจะระเบิด เขาชอบที่ได้เข้าไปอยู่ในตัวเธอมันทั้งอุ่นร้อนและนุ่มแน่นแบบที่เขาไม่เคยเจอมาก่อน“ดีขึ้นไหม ยังเจ็บอยู่หรือเปล่า” เขานิ่งอยู่ในนั้นนานแล้วและคงอยู่นิ่งต่อไปไม่ได้เมื่อความคับแน่นมาพร้อมกับแรงตอดรัด“อธิป....อัญญาไม่เป็นไรค่ะ”เธอรู้ว่าชายหนุ่มกำลังทรมานและเธอเองก็เสียวจนเกินจะทน อธิปัตย์เริ่มขยับสะโพกเ