แชร์

บทที่ 1120

ผู้เขียน: อี้ซัวเยียนอวี่
คืนนี้ เซียวอวี้นอนหลับสนิทกว่าคืนไหน ๆ

เมื่อลืมตาตื่นในเช้าวันรุ่งขึ้น เขาก็มองคนในอ้อมกอด พลันรู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นหลายเท่า

“เราจะไปว่าการเช้าแล้ว” เขากระซิบข้างหูนางเสียงเบา

“อืม” เฟิ่งจิ่วเหยียนพยักหน้ากึ่งหลับกึ่งตื่น

เมื่อเซียวอวี้เดินออกมานอกห้อง ก็เห็นอู๋ไป๋เข้ามาในเรือนพอดี

“ถวายบังคมฝ่าบาท!” อู๋ไป๋ดูเร่งรีบ

เซียวอวี้หยุดยืนนิ่ง ๆ แล้วถามเขา

“ไปไหนมา”

เมื่อคืนเขาไม่เห็นอู๋ไป๋

ในฐานะเป็นองครักษ์ข้างกายของฮองเฮา ก็ต้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของฮองเฮาเป็นอันดับหนึ่ง แล้วเหตุใดถึงได้นึกอยากจะไปไหนก็ไปเช่นนี้?

อู๋ไป๋บอกตามความจริง

“พระนางให้กระหม่อมไปสืบเรื่องตระกูลมู่หรง ตอนนี้เริ่มจับทางได้แล้ว ฝ่าบาท ตระกูลมู่หรงน่าสงสัยมากพ่ะย่ะค่ะ!”

ตั้งแต่ที่จับบุคคลน่าสงสัยในตระกูลมู่หรงได้ เขาก็ทำตามที่ฮองเฮาสั่ง ไม่ได้เร่งสอบสวนในทันที แต่นำไปขังไว้ก่อนสักระยะ

ตระกูลมู่หรงเริ่มมีการเคลื่อนไหวอย่างที่คาดการณ์ไว้ เริ่มส่งคนออกตามหาแล้ว

และเขาก็หามู่หรงฉานที่อาศัยอยู่ในชนบทเจอ

คิดไม่ถึงเลยว่าจะได้เบาะแสสำคัญเพิ่มมาอีกหนึ่งอย่าง

“ฝ่าบาท มู่หรงฉานผู้นั้นกล่าวว่า นางไม่ได้ป่วย
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1386

    ฉวีเต้ายางรักราษฎรเหมือนบุตร ไม่อาจทนเห็นชาวบ้านเดือดร้อนได้ เขาต้องการที่จะค้นหาว่า กองทัพมนุษย์โอสถเหล่านั้นมีที่มาที่ไปอย่างไรแน่ เวลาเดียวกันนั้น พระชายาฉู่อ๋องเป็นห่วงฉู่อ๋อง จึงเรียกฉวีเต้ายางมาพบอีกครั้ง “ท่านฉวี ท่านอ๋องถูกคุมขังในคุกหลวงเมืองลี่หย่วน นี่ก็ผ่านมาหนึ่งเดือนกว่า ๆ แล้ว ซ้ำยังได้ยินอีกว่า ตอนนี้เมืองลี่หย่วนถูกมนุษย์โอสถยึดครอง ข้ากังวลมากจริง ๆ “มิรู้ว่า ท่านพอจะมีวิธี ช่วยท่านอ๋องหรือไม่?” ฉวีเต้ายางยังเอาตัวเองไม่รอด เขาเป็นเพียงปัญญาชน ถือหอกรำดาบไม่เป็น แล้วจะช่วยชีวิตผู้อื่นได้อย่างไร ทว่า มีสิ่งหนึ่งที่เขาใส่ใจ “พระชายา กองทัพมนุษย์โอสถได้บุกยึดเมืองลี่หย่วนแล้วหรือ? ข่าวนี้จริงหรือไม่?” พระชายาฉู่อ๋องมีน้ำตาคลอหน่วย “แน่นอนว่าเป็นเรื่องจริง มิเช่นนั้นข้าคงไม่รีบให้ท่านมาพบ ได้ยินว่ามนุษย์โอสถเหล่านั้นน่ากลัวมาก เจอใครก็พุ่งเข้ากัด หากถูกพวกเขากัดแล้ว จะกลายเป็นมนุษย์โอสถด้วย “ท่านอ๋องจะเป็นอย่างไร...” สิ่งที่ฉวีเต้ายางคิดอยู่คือ ฝ่าบาทปลอดภัยหรือไม่ เมื่อเทียบกับฉู่อ๋อง ความปลอดภัยของฝ่าบาทย่อ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1385

    สองวันให้หลัง สวีไท่ฉางก็ได้รับจดหมายจากนกพิราบสื่อสารของเฟิ่งจิ่วเหยียน ในจดหมายสั่งให้เขา รีบปิดประตูเมืองทันที “พี่ใหญ่ เกิดอะไรขึ้น?” น้องสาวสวีซวนเห็นเขาหน้านิ่วคิ้วขมวด จึงกังวลว่าจะเกิดเรื่องกับสำนักคุ้มภัย นางใกล้จะแต่งงานแล้ว พี่ใหญ่จึงสั่งให้นางอยู่แต่ในเรือน เตรียมตัวออกเรือนดี ๆ นางจึงไม่ได้ออกไปขนส่งสินค้า ทว่าหากสำนักคุ้มภัยเกิดเรื่อง นางจะเป็นคนแรกที่วิ่งออกไปข้างหน้า “พี่ใหญ่ ท่านพูดสิ!” สวีซวนรู้สึกกังวล ทันใดนั้นสวีไท่ฉางก็เดินผ่านนางไป เรียกคนข้างนอก “รีบตามข้าไปพบใต้เท้าเจ้าเมือง!” สวีซวนมองพี่ใหญ่เดินออกจากประตู นึกอยากจะตามไปด้วย สวีไท่ฉางพลันตระหนักเรื่องหนึ่งได้ หยุดเดิน แล้วหันมาสั่งสวีซวนอย่างจริงจัง “เจ้าจงอยู่บ้าน อย่าออกไปไหน! ดูแลพี่สะใภ้ใหญ่และหลาน ๆ ให้ดี!” สวีซวนรู้สึกไม่สบายใจ “พี่ใหญ่ ท่านบอกข้าหน่อยว่า เกิดอะไรขึ้น?” สวีไท่ฉางจะต้องรีบไปแจ้งท่านเจ้าเมือง ให้มีคำสั่งปิดประตูเมืองโดยเร็ว “อธิบายสั้น ๆ ไม่อาจเข้าใจชัดเจน! สรุปคือให้อยู่แต่ในบ้าน อย่าออกไปข้างนอกไม่ว่าจะเกิดอะ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1384

    ความเร็วในการแพร่ระบาดของมนุษย์โอสถนั้น เหนือความคาดหมายของคนทั่วไปนัก ด้วยคำแนะนำอย่างเป็นระเบียบขั้นตอนของเฟิ่งจิ่วเหยียน เหล่าองครักษ์ทั้งหมดถอยกลับเข้าไปในโรงพักแรม ลงสลักประตูจากด้านใน และใช้โต๊ะเก้าอี้มาค้ำยันไว้ด้านหลัง เพื่อป้องกันไม่ให้มนุษย์โอสถที่แข็งแกร่งเหล่านั้นกระแทกเปิดออก โชคดีที่มีห้องใต้ดินอยู่ในโรงพักแรมแห่งนี้ เสบียงในนั้น เพียงพอให้พวกเขาดำรงชีวิตได้สักพักหนึ่ง ถึงจะเป็นเช่นนั้น เฟิ่งจิ่วเหยียนยังตื่นตัว นางหารือกับเซียวอวี้ “ผู้ที่อยู่เบื้องหลังมนุษย์โอสถเหล่านี้ มีแนวโน้มสูงมากที่อยากจะฆ่าท่าน “ดังนั้นโรงพักแรมแห่งนี้จะต้องไม่ปลอดภัย “หากเป็นเช่นนี้ ยังต้องขุดอุโมงค์ใต้ดิน ประการแรกเพื่อใช้หลบหนี ประการที่สองเพื่อใช้ซ่อนตัวได้ด้วย” เซียวอวี้เห็นด้วยกับวิธีการของนาง ด้วยกำลังคนในปัจจุบัน ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่จะขุดอุโมงค์ออกจากเมืองในช่วงเวลาสั้น ๆ ทว่ายังต้องลองดู เสียวอู่ติดตามเซียวอวี้อย่างใกล้ชิด เขาตัดพ้อ “ศิษย์พี่ ในเมื่ออาจารย์ได้ทำนายว่าจะเกิดภัยพิบัติใหญ่ขึ้น ไยจึงไม่ให้ศิษย์พี่ศิษย์น้องคนอื่น ๆ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1383

    สถานการณ์ภายนอกโรงพักแรมอยู่ในภาวะวิกฤติยิ่ง ความปลอดภัยของฮ่องเต้ฮองเฮาสำคัญที่สุด เฉินจี๋โค้งคารวะทันที “ทูลเชิญฝ่าบาทฮองเฮากลับเข้าห้องพ่ะย่ะค่ะ!” เซียวอวี้สงบอารมณ์สักครู่ แล้วถามองครักษ์ที่มาแจ้งข่าว “พูดให้ละเอียด สถานการณ์เป็นอย่างไร “ผู้ที่มีพฤติกรรมแปลกประหลาดนั้น มีมากน้อยเพียงใด และทางการส่งคนไปปราบปรามหรือยัง?” องครักษ์ทูลตอบ “ทูลฝ่าบาท ด้านนอกมีฝูงชนล้นหลาม กลับไม่พบทหารทางการเลยพ่ะย่ะค่ะ” เฟิ่งจิ่วเหยียนสั่งเฉินจี๋ “เจ้าและเสียวอู่คุ้มครองฝ่าบาทกลับห้องก่อน!” แววเย็นชาปกคลุมดวงตาของนาง หว่างคิ้วของเซียวอวี้สะท้อนความกังวล พลันคว้าแขนของเฟิ่งจิ่วเหยียนทันที “เจ้าจะทำอะไร?” เฟิ่งจิ่วเหยียนง้างนิ้วที่กำแน่นของเขาออก แล้วดึงแขนของตนเองออกมา นางกล่าวอย่างสงบนิ่ง “หม่อมฉันไม่ได้ออกไป เพียงขึ้นไปมองจากบนหลังคาเพคะ” มิอาจนั่งรอความตายเฉย ๆ ได้ ต้องเห็นด้วยตา เพื่อให้รู้สถานการณ์จริงที่เกิดขึ้น จึงจะวางแผนการหลบหนีได้ เซียวอวี้เป็นห่วงนาง “เราจะไปกับเจ้า” เขาหาได้กลัวอันตรายไม่ เขาถึงได้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1382

    ทหารทางการมาที่จวนองค์หญิงใหญ่ รื้อหาสมุดรายชื่อเล่มนั้นในตำแหน่งตามที่องค์หญิงใหญ่บอกในสมุดมีบักทึกชื่อไว้มากมายภายใต้สำนักคุ้มภัยแต่ละแห่ง ล้วนมีชื่อผู้ดูแล มองปราดเดียวก็เข้าใจส่วนสำนักคุ้มภัยหลินหย่วนแห่งนี้ ชื่อผู้ดูแล เขียนคำว่า “สวีเจิน”เหล่าทหารทางการสอบถามคนรับใช้ในจวนองค์หญิงใหญ่ในบรรดาพวกเขามีคนจำสวีเจินได้ นั่นคือชายบำเรอในอดีตขององค์หญิงใหญ่ มีช่วงหนึ่งได้รับความโปรดปรานเป็นพิเศษต่อมาคนผู้นี้ก็จากไปพวกเขาเองก็เพิ่งรู้ ว่าสวีเจินไปรับช่วงดูแลสำนักคุ้มภัยคุกหลวงยามเอ่ยถึงสวีเจิน องค์หญิงใหญ่ก็นึกขึ้นมาได้ทันทีนางจำได้ คนผู้นี้มีใบหน้างดงามสมชื่อ แทบแยกเพศไม่ออกสวีเจินค่อนข้างมีหัวการค้า ช่วยนางค้าขาย จนหาเงินมาได้ไม่น้อยแม้แต่ความคิดก่อตั้งสำนักคุ้มภัย สวีเจินก็เป็นคนเสนอเองต่อมานางมีคนโปรดคนใหม่ จึงปล่อยสวีเจินออกไปจากจวน ให้เขาช่วยหาเงินต่อนับตั้งแต่นั้น เขาก็ไม่เคยกลับมาอีกหากไม่ใช่เพราะสืบเจอคดีสำนักคุ้มภัยหลินหย่วน นางก็คงนึกไม่ถึงสวีเจิน“องค์หญิงใหญ่ ท่านรู้เกี่ยวกับเบื้องหลังตระกูลของสวีเจินหรือไม่?” ข้าราชการเอ่ยถามแม้นองค์หญิงใหญ่จะ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1381

    “เจ้ากำลังจะบอกว่า สำนักคุ้มภัยหลินหย่วนสมรู้ร่วมคิดกับแคว้นศัตรู?” องค์หญิงใหญ่ย้อนถามอย่างเคร่งครัดข้าราชการที่สอบสวนนางกระแอมไอ“พ่ะย่ะค่ะ”ครั้นได้ยินคำตอบ องค์หญิงใหญ่ก็รีบพูดต่อ“เช่นนั้นสำนักคุ้มภัยหลินหย่วนนี่ก็ไม่ใช่ของข้า!”ข้าราชการ: ...“องค์หญิงคิดว่า ท่านบอกว่าไม่ใช่ก็จะไม่ใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ?“พวกเรามีหลักฐาน มิเช่นนั้นก็คงไม่เชิญตัวท่านมาที่คุกหลวงโดยไม่ไตร่ตรองเช่นนี้“ดังนั้นรบกวนองค์หญิงทรงคิดทบทวนให้ดีก่อนพูด จะได้ไม่ถูกทรมาน”ในคุกหลวง การจับทรมานเป็นเรื่องธรรมดาองค์หญิงพูดอย่างมั่นเหมาะ“ไม่เกี่ยวกับข้า แม้นข้าจะมีสำนักคุ้มภัยหลายแห่ง แต่ไม่มีทางเกี่ยวข้องกับแคว้นศัตรูแน่นอน”นางไม่ได้อยากตายไวเสียหน่อย ตอนนี้นางมีศักดิ์เป็นถึงองค์หญิงใหญ่แห่งแคว้นหนานฉี ต้องการสิ่งใดย่อมได้สิ่งนั้นเสมอ เหตุใดต้องไปทำเรื่องโง่เขลาพรรค์นั้นท่านอ๋องผู้อื่นคิดก่อกบฏ ยังขึ้นครองบัลลังก์ได้แล้วนางได้อะไร?หากเป็นแคว้นซีหนี่ว์ นางก็น่าจะลองสักครั้งข้าราชการเห็นนางไม่ยอมรับผิด จึงไปตามตัวพยานหลักฐานองค์หญิงใหญ่สงสัยว่าเป็นหลักฐานอะไร เห็นเพียงร่างในชุดสีแดงราวปีศาจร้า

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status