แชร์

บทที่ 1700

ผู้เขียน: อี้ซัวเยียนอวี่
เสียวอู่ยืนตัวสั่นอยู่ตรงมุมห้อง

ตรงเตียงนอน ศิษย์พี่มองอาลี่ กลับเอ่ยเรียกชื่ออีกคน

“อาหลิ่น เสด็จพ่อกับเสด็จแม่คิดถึงเจ้ามาก เจ้าหลับสบายดีหรือไม่ รอเสด็จพ่อกลับวังแล้ว จะยกบัลลังก์ให้เจ้า…”

เสียวอู่: ไม่ใช่สิ! นี่เป็นเรื่องลึกลับอะไรกัน? !

เขาเคยได้ยินมาว่า ฝาแฝดบางคู่มีความรู้สึกร่วมกัน แต่ไม่เคยได้ยินว่าสื่อวิญญาณถึงกันได้!

หรือว่าศิษย์พี่คิดถึงลูกชายคนโตจนเป็นบ้าไปแล้ว!

ทั้งคืน เสียวอู่ตาแดงก่ำ ไม่ได้นอนสักนิด และก็ไม่กล้าหลับ

วันรุ่งขึ้น นอกจากเขาแล้ว ทุกคนล้วนกระปรี้กระเปร่าเต็มที่

ท่านผู้เฒ่าหยวนส่งหยวนจั้นลงเขา ยัดเสบียงแห้งใส่ห่อผ้าให้เขามากมาย ยังไม่ลืมกำชับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ในราชสำนัก

เสียวอู่เดินตามข้างหลัง หาวง่วงไม่หยุด ใต้ตาดำคล้ำ

ข้างหลังมีมือเล็ก ๆ คว้าจับแขนเสื้อเขาไว้

เมื่อหันไปมอง ก็เป็นอาลี่...หลานชายคนดีของเขา

อาลี่ตัวเล็กมาก จึงใช้นิ้วกวักเรียกให้เขาย่อตัวลงมาพูดด้วย

เสียวอู่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

เขาเพิ่งย่อตัวลง อาลี่พลันยกมือตบหน้าผากเขาหนึ่งที...กระดาษยันต์สีเหลืองแผ่นหนึ่ง ถูกแปะบนหน้าผากเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว

กล้ามเนื้อบนใบหน้าเสียวอู่ก
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
kiang kiang
แม้แต่สายโหดอย่างนางรอง ยังกลายเป็นสายฮาด้วยเลยแน่ะ :)
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทล่าสุด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1707

    หลายวันต่อมาณ ลานประหารตงฟางซื่อกับฝานจิ้นในฐานะนักโทษหลวงตามหมายนำจับ ถูกมัดด้วยเชือกอย่างแน่นหนา และถูกกดให้นั่งลงบนแท่นประหารฝูงชนที่มามุงดูต่างรู้สึกแค้นเคืองในความไม่เป็นธรรม“จอมยุทธ์ตงฟางเป็นคนดี! ฆ่าเขาไม่ได้!”“ขุนนางชั่วสมควรตาย! จอมยุทธ์ตงฟางกำจัดภัยเพื่อราษฎร!”บนแท่นประหารตงฟางซื่อไม่เหมือนนักโทษที่กำลังจะถูกตัดหัว กลับเหมือนคนที่กำลังดูการแสดงที่น่าสนุกอยู่ เขาเยาะเย้ยฝานจิ้น“เหล่าฝาน เจ้ายังไม่ดังเท่าข้าเลย เห็นอยู่ว่าพวกเราสองคนเป็นคนฆ่า แต่พวกเขากลับเอ่ยแต่ชื่อข้าคนเดียว...”ฝานจิ้นก้มหน้าลง เตือนโดยปิดบังรูปปาก“เจ้าอย่าเพิ่งได้ใจ!“ต้องโทษความคิดไม่เข้าท่านี้ของเจ้า! บอกว่าอะไรกันต้องเอาตัวเข้าเสี่ยง เพื่อให้ซูฮ่วนมาช่วย... แล้วคนล่ะ? พวกเราศีรษะจะหล่นลงพื้นอยู่แล้ว แม้แต่เงาซูฮ่วนก็ยังไม่เห็นเลย!”ตงฟางซื่อมองไปรอบ ๆฝานจิ้นทนไม่ไหวอีกต่อไป เงยหน้าขึ้น “เจ้ามองหาอะไรกัน!”ตงฟางซื่อ: “ข้าก็มองหาคนน่ะสิ จะดูว่าเขามาหรือไม่”ฝานจิ้นขมวดคิ้วด้วยความสงสัย: “เจ้ารู้หรือว่าเขาหน้าตาเป็นอย่างไร?”“ไม่รู้หรอก ไม่เคยเห็น แต่มิใช่ว่าทุกคนต่างพูดว่าเขาสวม

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1706

    วันหนึ่งในฤดูใบไม้ผลิ กลิ่นหอมของดอกไม้ลอยเข้ามาในโรงน้ำชา ทำให้ผู้คนรู้สึกสดชื่นและผ่อนคลายนักเล่าเรื่องที่อยู่ตรงกลางกำลังบรรยายด้วยถ้อยคำอันน่าเร้าใจ“...แต่เห็นเพียงเด็กหนุ่มผู้นั้นสวมหน้ากากเงินครึ่งซีก ใบหน้าหล่อเหลา ไม่เหมือนคนธรรมดาทั่วไปอย่างสิ้นเชิง! แปดคนชั่วของหอเฟิ่งหวง แม้แต่กระบวนท่าของเด็กหนุ่มยังไม่ทันได้เห็นชัดเจน ก็ถูกปลิดชีพด้วยกระบี่เดียวทันที!”ด้านล่างมีคนหัวเราะดังลั่น“เฮ้ย! พูดเหลวไหลอะไรกัน! อีกเดี๋ยวก็บอกว่าคนผู้นั้นสวมหน้ากาก อีกเดี๋ยวก็บอกว่าหน้าตาหล่อเหลา ขัดแย้งกันเองเสียจริง! ลงไปเลย!”มีคนหัวเราะตาม: “กลุ่มคนชั่วของหอเฟิ่งหวง แต่ละคนวรยุทธ์ล้ำเลิศ จะเป็นไปได้อย่างไรที่คนคนเดียวจะฆ่าพวกเขาได้ทั้งหมด? ฟังดูก็รู้ว่าแต่งเรื่องโกหก!”ผู้คนเหล่านั้นเอ่ยกันเซ็งแซ่ นักเล่าเรื่องตอบไม่ทันแต่ละคำถามในขณะนั้น บุรุษในชุดครามที่นั่งอยู่โต๊ะมุมห้องก็เอ่ยขึ้น“พวกเจ้ามีความเข้าใจที่ตื้นเขิน ไม่ได้หมายความว่าสิ่งที่คนอื่นพูดนั้นผิด“ตามที่ข้ารู้ เด็กหนุ่มสวมหน้ากากในเรื่องเมื่อครู่นั้น ก็คือซูฮ่วนที่ปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน และกำจัดกลุ่มทะเลสาบเกลือเมื่อสอ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1705

    “อาจารย์หญิง ทำอย่างนี้ไม่ได้นะ! อาจารย์จะตีท่านเอาได้!” เฟิ่งจิ่วเหยียนตะโกนเสียงดัง แล้วหันตัวลุกขึ้นวิ่งไปฟ้องทันทีฮูหยินเมิ่งวิ่งตามไปข้างหลัง แต่กลับตามไม่ทันหลังจากเรื่องผ่านไปแล้ว เมิ่งฉวีก็หัวเราะจนท้องแข็ง“ฮูหยินเอ๋ย! ครั้งหน้าห้ามให้จิ่วเหยียนจับได้อีกนะ”“จิ่วเหยียน ทำได้ดีมาก!”หลังจากเฟิ่งจิ่วเหยียนได้รับการยอมรับและกำลังใจ ก็ยิ่งนำหลักการนี้ไปปฏิบัติมากขึ้นฮูหยินเมิ่งได้แต่ยิ้มจนกระทั่งวันหนึ่ง ในที่สุดเด็กสาวจิ่วเหยียนก็ส่งอาจารย์ของนางเข้าไปในคุกจำใหญ่ได้สำเร็จ ในวันนั้น เมิ่งฉวีกำลังหารือเรื่องสำคัญกับอดีตลูกน้องหลายคน พวกเขานำอาวุธที่สร้างขึ้นใหม่มาให้เมิ่งฉวีดู ว่าจะใช้ต้านศัตรูที่อยู่นอกชายแดนเหนือได้หรือไม่ขณะที่คนกลุ่มหนึ่งกำลังพูดคุยกันอย่างออกรส เด็กสาวคนนี้ก็พาเหล่าเจ้าหน้าที่ทหารกลุ่มหนึ่งมาปรากฏตัว และชี้ว่าพวกเขาลักลอบซ่อนยุทโธปกรณ์หลังจากวันนั้น ก็เกิดเรื่องตามมาไม่หยุดหย่อนแทบทุกเช้าที่เปิดประตูบ้านออกมา ฮูหยินก็จะเห็นเพื่อนบ้านมาฟ้องร้อง ว่าสิงโจวกับจิ่วเหยียน เด็กสองคนนี้ 'ก่อปัญหา' ไว้ไม่น้อยเลยไม่ใช่วันนี้ต่อยคนนี้ ก็เป็นเมื่อวา

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1704

    ฮูหยินเมิ่งจดจำครั้งแรกที่ได้พบกับจิ่วเหยียนได้เสมอในตอนนั้น ฤดูหนาวเพิ่งจะผ่านพ้นไป อากาศในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิยังคงหนาวเย็นนางตื่นนอนตั้งแต่เช้ามืด แต่งกายให้สิงโจว เตรียมจะไปรับสามีที่ประตูเมืองสิงโจวเพิ่งอายุสองขวบกว่า ในวันนั้นเขาเริงร่าเป็นพิเศษคงรู้แน่ ๆ ว่าท่านพ่อกำลังจะกลับมาขณะที่พวกเขากำลังจะออกจากบ้าน สาวใช้ก็รีบร้อนวิ่งเข้ามา“ฮูหยินเจ้าคะ ฮูหยิน! ท่านแม่ทัพกลับมาแล้ว!”นางอุ้มสิงโจวอย่างตื่นเต้นยินดี ต้อนรับพร้อมรอยยิ้ม“ท่านพี่...”ทว่าชั่วพริบตาต่อมา เมื่อเห็นผู้ที่มาถึง สีหน้าของฮูหยินเมิ่งก็พลันมืดครึ้มลงทันทีชายที่ยามปกติประหยัดมัธยัสถ์ วันนี้กลับสวมเสื้อคลุมขนจิ้งจอกตัวใหญ่ และอุ้มเด็กทารกคนหนึ่งไว้ในอ้อมแขนเขาปกป้องเด็กทารกคนนั้นอย่างระมัดระวัง ไม่ให้ลมหนาวพัดโดน“หว่านจวิน” เมิ่งฉวียิ้มอย่างใสซื่อปนงงงวย รอยยิ้มอันอ่อนโยนเมื่อครู่ของฮูหยินเมิ่ง บัดนี้เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มเยือกเย็น“เมิ่งฉวีเอ๋ยเมิ่งฉวี! ท่านไปเดินทัพหนึ่งปี ช่างมอบความประหลาดใจใหญ่หลวงให้ข้ายิ่งนัก!”เมิ่งฉวีหน้าซีดเผือดทันที“ไม่ ไม่ใช่! เจ้าเข้าใจผิดแล้ว! นี่ไม่ใช่ลูกของข้านะ.

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1703

    เฟิ่งจิ่วเหยียนหมดหวังแล้วเพราะอย่างไรเสีย เขาก็จะส่งชื่อมาให้นางไว้เว้นแต่ละวัน นางประหลาดใจมาก ว่าเขาเลี่ยงใช้คำที่ไพเราะเหล่านั้นโดยสิ้นเชิงได้อย่างไรกัน?เซียวอวี้ทำสีหน้าท่าทางลึกลับ“ก็ชื่อ...เซียวจื่อจู้[1]! เขาจะต้องเป็นเสาหลักของต้าฉี ร่วมค้ำจุนอาณาจักรต้าฉีนี้ไว้ไปพร้อมกับพวกเจ้า!”เขากล่าวอย่างฮึกเหิม แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือความเงียบงันเฟิ่งจิ่วเหยียนหัวเราะแห้งการนำชื่อที่มั่วซั่วมาใส่ความหมายที่ยิ่งใหญ่โอ่อ่า เช่นนี้จะมีประโยชน์อะไรสิ่งที่นางต้องการคือชื่อสักชื่อหนึ่ง ไม่ใช่ความหมายเหล่านั้น!เฟิ่งจิ่วเหยียนถึงกับขี้คร้านจะพูดอะไรแล้วแปะ แปะ แปะ!อาลี่ปรบมือ“เพราะดี ๆ! แมงมุมน้อย! ลูกชอบแมงมุมน้อย[2] เหมือนที่ชอบเจี้ยนเจี้ยนเลย!”“เซียวจื่อจู้ที่แปลว่าเสาหลักต่างหากเล่า”เฟิ่งจิ่วเหยียนกล่าวเหน็บแนม“ใช่แล้ว สามเสาหลัก พอดีเลย อาหลิ่นกับลูก ๆ ก็ไม่ชอบชื่อตัวเอง เช่นนั้นเปลี่ยนชื่อพร้อมกันเลยดีกว่า เป็นต้าจู้ เอ้อจู้ ซานจู้ รับรองว่าแผ่นดินต้าฉีของพระองค์จะมั่นคงแข็งแรง ตั้งตระหง่านไม่ล้มแน่นอนเพคะ!”อาหลิ่นก้มหน้าอย่างท้อแท้ “เช่นนั้นก็ขอเป็นอาหลิ่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1702

    กระทั่งฤดูใบไม้ผลิปีถัดมา หร่วนฝูอวี้ก็ยังไม่ได้เข้าพิธีอภิเษกสมรสกับรุ่ยอ๋องแต่ความสัมพันธ์แบบสามีภรรยาของพวกเขานั้น ในทางปฏิบัติยังคงอยู่หร่วนฝูอวี้พักอยู่ในจวนอ๋อง บรรดาบ่าวไพร่ต่างก็รู้ว่านางคือพระชายาหลังจากเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ จี๋เอ๋อร์ก็ตัวสูงขึ้นไม่น้อยเพียงแต่ร่างกายของเขายังฟื้นตัวได้ช้ามากหร่วนฝูอวี้สงสารลูกชาย จึงเสาะแสวงหาหมอเทวดาจากทุกสารทิศต้นฤดูร้อนในปีเดียวกัน หมอเทวดาเหยียนเพิ่งจากไปแพทย์เปี่ยมคุณธรรมผู้ซึ่งปรุงยาถอนพิษจากหมอยาได้ บัดนี้ได้จากโลกนี้ไปอย่างสงบเพื่อเดินทางสู่ชีวิตอันเป็นนิรันดร์แล้วในวันพิธีศพ ฮ่องเต้ทรงเสด็จมาด้วยพระองค์เอง ราษฎรทั้งเมืองก็มาร่วมส่งเขาเช่นกันบทเพลงอันเศร้าโศกบรรเลงขึ้นในวังหลวง ทุกคนต่างเสียใจกับการจากไปของเขาบางคนแสวงหาหนทางสู่ความเป็นนิรันดร์ แต่บางคนกลับเกลียดชีวิตนิรันดร์ในระหว่างที่ตระกูลถานไถถูกคุมขัง มีหลายคนเลือกที่จะปลิดชีพตัวเองถานไถจิ้งให้กำเนิดบุตรชายคนหนึ่ง เด็กคนนั้นพิเศษมาก เขาสามารถรับรู้ถึงความเจ็บปวดได้ขณะได้ยินเสียงร้องไห้ของลูก ถานไถจิ้งก็หลั่งน้ำตาแห่งความสุขออกมา“อาเหยี่ยน เจ้ากลับมาแล้

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status