แชร์

บทที่ 4

ผู้เขียน: อี้ซัวเยียนอวี่
ฮ่องเต้ทรราชจะเสด็จมา เฟิ่งจิ่วเหยียนได้แต่บอกให้เหลียนซวงทำทรงผมกลับไปตามเดิม แต่มือของเหลียนซวงสั่นเทิ้ม คิดว่าคงเป็นเพราะหวาดกลัวฮ่องเต้ทรราชที่กำลังจะมาเยือนผู้นั้น

นางมือสั่น ย่อมทำผิดพลาดอย่างไม่อาจเลี่ยง

เมื่อถูกถอนผมเป็นเส้นที่สาม เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ทนไม่ไหว เอ่ยเสียงเย็นชาว่า

“ถอยไป ข้าจัดการเอง” นางเชี่ยวชาญวิชาแปลงโฉม การฝึกฝนทำผมทรงต่าง ๆ ให้ได้อย่างคล่องแคล่วจึงเป็นสิ่งจำเป็น

ด้วยเหตุนี้ นางจัดแจงเพียงไม่กี่ครั้งก็ทำให้ทรงผมกลับไปเหมือนตอนแรกได้แล้ว เหลียนซวงเห็นแล้วก็ตกตะลึงเหลือล้น

“ฮองเฮา ท่านมีฝีมือยอดเยี่ยมนักเพคะ!”

แต่ขณะที่ฝั่งพวกนางเตรียมความพร้อมต้อนรับฮ่องเต้ คนจากนอกตำหนักก็มารายงานอีกครั้งว่า

“ฮองเฮา โรคปวดศีรษะของหวงกุ้ยเฟยกำเริบ ฝ่าบาทเสด็จไปตำหนักหลิงเซียวแล้วเพคะ”

เหลียนซวงเผยอปาก รู้สึกโมโหแต่ไม่กล้าพูดออกมา

หวงกุ้ยเฟยจะต้องแกล้งป่วยเป็นแน่ โรคปวดศีรษะกำเริบขึ้นมาตอนนี้ จะเหมาะเจาะขนาดนี้ได้อย่างไร

คงเห็นว่าฝ่าบาทเสด็จกลับวังมาแล้วจึงให้คนไปเชิญน่ะสิ

พอเฟิ่งจิ่วเหยียนได้ยินคำว่าหวงกุ้ยเฟยก็คิดถึงเวยเฉียงน้องสาว

เวยเฉียงถูกทำร้ายแสนสาหัสจนถึงแก่ความตาย แค้นนี้ต้องชำระ!

ทว่า รู้เขารู้เรา จึงจะชนะอย่างยั่งยืน

หวงกุ้ยเฟยได้รับความโปรดปรานไม่เสื่อมคลาย ข้างกายจะต้องมีองครักษ์ยอดฝีมืออยู่เป็นแน่

นางไม่อาจบุ่มบ่ามลงมือ

……

ตำหนักฉือหนิง

ไทเฮาหมุนสร้อยลูกประคำในมือ แต่ยังคงยากจะระงับโทสะในใจได้

นางเอ่ยถามทุกคนว่า

“พิธีอภิเษกสมรสในวันนี้ ฮ่องเต้กลับให้รุ่ยอ๋องเข้าพิธีแทนเขา! พวกเจ้าไม่มีใครรู้เรื่องนี้มาก่อนเลยรึ!”

คนในตำหนักที่ยืนอยู่ตรงหน้านางต่างก้มศีรษะ

“บ่าวมิทราบ”

ฮ่องเต้กระทำตามอำเภอใจมาแต่ไหนแต่ไร ไทเฮายังทำอันใดเขาไม่ได้

แต่คนทั้งใต้หล้ามีแต่จะคิดว่านางล้มเหลวในการอบรมบุตร

ดวงเนตรไทเฮาฉายแววเศร้าโศก ราวมีความเจ็บช้ำใจเหลือแสนเอ่อคลออยู่ในนั้น

“ถึงข้าจะไม่ใช่แม่แท้ ๆ ของเขา แต่ก็เลี้ยงดูเขาด้วยความเอาใจใส่ทุ่มเทมาจนโต ไฉนโตมาแล้วจึงมีแต่เรื่องให้กลุ้มใจแบบนี้...”

เหล่าข้ารับใช้เห็นเช่นนั้นก็เข้าข้างไทเฮาไปโดยไม่รู้ตัว คิดว่าฮ่องเต้อกตัญญู

ดุจจะราดน้ำมันลงบนกองเพลิง มีคนในวังมารายงานว่า

“ไทเฮา ฝ่าบาทเสด็จกลับมาแล้ว แต่ทรง ทรงไปตำหนักหลิงเซียวแล้วเพคะ”

“เหลวไหล!” ไทเฮาตบโต๊ะน้ำชาดังปัง

หลิงเยี่ยนเอ๋อร์นางคนต่ำช้านั่น วันแบบนี้ก็ยังกล้าก่อเรื่อง ได้รับความโปรดปรานจนเหิมเกริมไร้ขอบเขต ไม่รู้จักที่สูงที่ต่ำไปหมดแล้ว!

เฟิ่งเวยเฉียงก็เหมือนกัน เป็นบุตรีตระกูลเฟิ่งแท้ ๆ ไม่มีฝีมือสักนิดเลยหรือไร? รึจะยอมให้คนเหยียบบนศีรษะเอาเช่นนี้?

เดิมยังหวังว่าฮองเฮาจะสามารถข่มหลิงเยี่ยนเอ๋อร์ไว้ได้ ยามนี้เห็นทีคงเป็นคนไร้ประโยชน์คนหนึ่งเหมือนกัน

ไม่เพียงแต่ไทเฮา เหล่าสนมคนอื่น ๆ ก็คิดเช่นนี้

นางสนมหลายคนที่มีความสัมพันธ์อันดีต่อกันมาจับกลุ่มพูดคุยกันในสถานที่แห่งหนึ่ง

“คืนอภิเษกสมรสยังรั้งตัวฝ่าบาทไว้ไม่ได้ เห็นทีคงพ่ายแพ้ให้กุ้ยเฟยแน่แล้ว”

สนมชุดเขียวคนหนึ่งนึกเห็นใจเพื่อนร่วมชะตากรรมเดียวกัน “ฮองเฮาก็เป็นคนอาภัพคนหนึ่ง ตงเซี่ย พรุ่งนี้ให้เตรียมพัดหยกเซียงจวินของข้าเอาไว้ ข้าจะนำไปมอบให้ฮองเฮา”

“เพคะ พระสนม”

หนึ่งในคนที่นั่งอยู่ด้วยกันถอนหายใจออกมา “หวงกุ้ยเฟยหน้าตาเหมือนหรงเฟยจึงได้รับความโปรดปราน หากฮองเฮาเป็นคนฉลาดก็ควรคล้อยตามพระประสงค์ของฝ่าบาท อย่าให้มีเรื่องขัดแย้งกัน...”

สิ้นเสียงก็มีคนในวังมารายงานว่า

“เรียนพระสนม ได้ยินว่าฮองเฮาเสด็จไปที่ตำหนักหลิงเซียวแล้วเพคะ!”

คนทั้งหลายมองหน้ากัน แล้วส่ายศีรษะน้อย ๆ

“ฮองเฮาทำเช่นนี้ไม่เหมาะสมเลย”

“ไม่เหมาะสมอย่างมากเลยต่างหาก! ระงับโทสะไม่อยู่เช่นนี้ มิทำให้ฝ่าบาทรำคาญพระทัยหรอกรึ?”

“ถ้ามีเรื่องกัน ฝ่าบาทก็ต้องลำเอียงเข้าข้างหวงกุ้ยเฟยอยู่แล้ว ฮองเฮาไม่น่าทำเช่นนี้เลย”

พวกนางเฝ้ารอจะมีฮองเฮาผู้เก่งกาจมากคุณธรรม เหมือนกับบรรดาฮองเฮาที่ผ่านมาของตระกูลเฟิ่ง ที่สามารถปกครองให้วังหลังอยู่ร่วมกันได้อย่างปรองดอง เหล่าสนมร่วมใจกันปรนนิบัติฝ่าบาท หลีกเลี่ยงการต่อสู้แย่งชิงความโปรดปรานอย่างสุดโต่งชนิดตายกันไปข้างหนึ่ง

ตอนนี้เห็นที ฮองเฮาผู้นี้คงหวังพึ่งไม่ได้แล้ว

หวงกุ้ยเฟยยังไม่ได้งัดฝีมือที่ร้ายกาจกว่านี้ออกมา ฮองเฮาก็รับมือไม่ไหวเสียแล้ว

นอกตำหนักหลิงเซียว

เฟิ่งจิ่วเหยียนสวมชุดเจ้าสาว มงกุฎหงส์บนศีรษะเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงฐานันดรอันสูงศักดิ์ของนาง

ฮองเฮาที่ถูกสนมคนโปรดทำลายคืนเข้าหอผู้หนึ่ง คนในวังไม่เพียงไม่รู้สึกเห็นอกเห็นใจ แต่ยังดูแคลนอีกด้วย

ถูกฮ่องเต้ทอดทิ้งไว้ในห้องหอก็น่าอับอายมากอยู่แล้ว ไฉนยังมีหน้ามาที่นี่อีก?

องครักษ์ที่อารักขาตำหนักอยู่เข้าใจว่านางมาขอให้ฮ่องเต้กลับห้องหอ ไม่รอให้นางเอ่ยปากก็ชิงพูดขึ้นก่อนว่า

“ฮองเฮา ฮ่องเต้กำชับไว้ว่า หมอหลวงกำลังตรวจอาการให้หวงกุ้ยเฟย ไม่อนุญาตให้ใครรบกวน โปรดอภัยที่กระหม่อมไม่อาจเข้าไปรายงานให้ท่านได้”

เวลานั้นเอง หัวหน้าหมัวมัวที่มีหน้าที่ปรนนิบัตินางก็เตือนว่า

“ฮองเฮา ไม่มีประโยชน์หรอกเพคะ ทุกเรื่องในวังหลังล้วนยกให้หวงกุ้ยเฟยมาก่อนเสมอ ถ้าท่านอยากพบฝ่าบาทตอนนี้ ฝ่าบาทคงไม่...”

ภายใต้แสงจันทร์ แต้มบุปผาตรงหว่างคิ้วของเฟิ่งจิ่วเหยียนงดงามหยาดเยิ้ม ใช้หางตากวาดมองรอบหนึ่ง แววตาก็พลันมืดครึ้มลง

นางถามกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“ใครว่าข้ามาพบฝ่าบาท?”

ทุกคนเงียบไป

แล้วนางจะมาทำไมเล่า?

มาชมวิวทิวทัศน์? มาดูว่าฝ่าบาททรงโปรดปรานหวงกุ้ยเฟยเพียงไหน?

เฟิ่งจิ่วเหยียนส่งสายตา สาวใช้เหลียนซวงก็ก้าวออกมาข้างหน้า ยื่นกล่องไม้ใบหนึ่งให้องครักษ์ที่เฝ้าหน้าตำหนักผู้นั้น

“ข้าได้ยินว่าหวงกุ้ยเฟยเป็นโรคปวดศีรษะ ยานี้พี่ชายข้าได้มาจากชายแดน รักษาโรคปวดศีรษะได้ชะงัดนัก จึงนำมาให้หวงกุ้ยเฟยลองใช้ดู”

ทุกคนมองหน้ากันเลิ่กลั่ก

ฮองเฮาเพียงนำยามาให้?

นางใจกว้างขนาดนั้นเสียที่ไหน จะต้องเสแสร้งแกล้งเป็นคนดีแน่นอน!

องครักษ์ลังเลเล็กน้อย แล้วเข้าไปขอคำปรึกษาในตำหนัก

จากนั้น หมอหลวงท่านหนึ่งก็ออกมารับยานั้น หลังพิศดูอย่างละเอียดก็เอ่ยชมเชยพลางประคองราวกับเป็นของล้ำค่า

“นี่คือยาวิเศษที่หายากยิ่งนัก!”

หลังเขาเข้าไปข้างใน ผ่านไปไม่นานก็มีขันทีผู้หนึ่งออกมากล่าวกับเฟิ่งจิ่วเหยียนด้วยท่าทีนอบน้อม

“ฮองเฮา หวงกุ้ยเฟยรับประทานยานี้ก็ดีขึ้นบ้างแล้ว ฝ่าบาทตรัสว่าท่านมีน้ำใจนัก ให้ท่านกลับไปเตรียมปรนนิบัติบรรทมพ่ะย่ะค่ะ”

ขันทีเข้าใจว่าฮองเฮาได้ยินคำกล่าวนี้แล้วจะต้องดีพระทัยมากเป็นแน่

หากความจริง เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ดีใจเลยสักนิด

ฮ่องเต้ทรราชผู้นี้จะต้องมีใบหน้าใหญ่โตเหมือนขนมปังอบที่ชายแดนใต้เป็นแน่แท้

ปรนนิบัติบรรทม ฟังดูราวกับว่าพระราชทานรางวัลให้นางอย่างนั้นแหละ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (20)
goodnovel comment avatar
Ilada Zenlee
สนุกมากค่ะ
goodnovel comment avatar
Joom
I cannot wait for the next episodes.
goodnovel comment avatar
Atitan Srikul
สนุกมากค่ะ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทล่าสุด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1402

    หร่วนฝูอวี้เพิ่งคลอดลูกได้ไม่กี่วัน ก็รีบออกเดินทางไปเสียแล้วรุ่ยอ๋องอุ้มลูก คิดอยากไล่ตามความเร็วของนางนั้นไม่ง่ายอย่างไรลูกน้อยก็ร่างกายอ่อนแอ จะให้เดินทางไกลย่อมไม่เหมาะนักทันทีที่ถึงชายแดนแคว้นหนานฉี รุ่ยอ๋องก็ถูกหร่วนฝูอวี้ทิ้งห่างต่อให้เขาเรียกนางเสียงดังเพียงใด นางก็ไม่แม้แต่จะหันกลับมามองเขาอยากตามไป แต่ลูกน้อยในอ้อมแขนร้องไห้ไม่หยุดรุ่ยอ๋องมองลูกด้วยความสงสารน่าสงสารลูกคนนี้เพิ่งลืมตาดูโลก ยังไม่ได้แม้แต่จะตั้งชื่อเดิมเขาคิดจะคุยกับหร่วนฝูอวี้เรื่องการตั้งชื่อของลูก แต่เวลานี้คงไม่เหมาะสมกู่ราชาแห่งหนานเจียงถูกขโมยไป แคว้นหนานฉีก็มีมนุษย์โอสถก่อความวุ่นวาย เรื่องราวประดังเข้ามาในเวลาเดียวกัน ใครเล่าจะไม่รู้สึกหนักใจรุ่ยอ๋องได้แต่คิดว่า ลูกคนนี้เกิดมาในเวลาที่ไม่เหมาะเอาเสียเลยดูเหมือนลูกจะสัมผัสได้ถึงความรังเกียจของผู้เป็นพ่อ จึงร้องไห้เสียงดังกว่าเดิมก่อนหน้าหร่วนฝูอวี้ พวกตงฟางซื่อออกเดินทางไปก่อนแล้วรุ่ยอ๋องคิดว่า ในเมื่อมีคนมากพอแล้ว เขาจึงไม่จำเป็นต้องรีบร้อน หาสถานที่ปลอดภัยให้ลูกก่อน แล้วค่อยตามไปสมทบไม่เช่นนั้น หากต้องพาลูกเดินทางไปด้วย คงจะ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1401

    เมืองฝานหลู จวนฉู่อ๋องเซียวม่อกลับมาถึงจวน ก็แทบไม่ได้ทำอะไรเลยหยวนตั๋วจัดการทุกอย่างไว้อย่างเรียบร้อย ไม่ต้องให้เขาเหนื่อยใจสักนิดเซียวม่อนอกจากกิน ดื่ม เล่นสนุก ก็มีแค่คอยถามหยวนตั๋วว่าคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว...หาเซียวอวี้เจอหรือยัง? เมื่อไหร่เขาถึงจะได้ขึ้นครองบัลลังก์?วันนี้ ฉวีเต้ายางกลับมาอย่างกะทันหันเซียวม่อกำลังหยอกล้อกับนกในกรง ถามโดยไม่แม้แต่จะเงยศีรษะขึ้นมา“ท่านฉวี เจอฝ่าบาทแล้วหรือยัง?”ฉวีเต้ายางยกมือประสานคำนับแล้วรายงาน“ข้าพบชาวบ้านหลายคนที่ยังไม่กลายเป็นมนุษย์โอสถ ตามที่พวกเขาบอกมา เมื่อไม่นานมานี้เห็นฝ่าบาทมุ่งหน้าไปทางใต้ น่าจะหลบหนีออกจากชายแดนไปถึงชายแดนเหนือเดิมของแคว้นหนานฉีแล้วขอรับ”“ว่าอะไรนะ!” เซียวม่อเผลอสะบัดกรงนกในมือ ดวงตาเบิกกว้างทันทีเขามองฉวีเต้ายางด้วยโทสะ“ข่าวนี้เชื่อถือได้หรือไม่?”บัดซบ!หยวนตั๋วบอกไว้ว่า มีมนุษย์โอสถเฝ้าตามชายแดน เซียวอวี้ไม่มีทางหนีไปได้ไม่ใช่หรือ!ฉวีเต้ายางข่มอารมณ์ให้มั่งคง“เรียนท่านอ๋อง ข้าน้อยคิดว่า ควรเชื่อไว้ก่อน ดีกว่าไม่เชื่อแล้วปล่อยให้หลุดมือไป“ขอท่านอ๋องให้ข้าออกไปติดตามขอรับ!”ตอนนี้ในใจของเซี

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1400

    ท่าทีฉวีเต้ายางตื่นเต้นร้อนรน รีบเร่งที่จะบอกความจริงกับเฟิ่งจิ่วเหยียน“เป็นฝีมือของฉู่อ๋อง ทุกอย่างล้วนเป็นแผนการของฉู่อ๋องทั้งสิ้น!“ก่อนหน้านี้ข้าน้อยถูกเขาหลอก ทำงานรับใช้เขา“ภายหลังค่อยรู้ว่า ฉู่อ๋องซ่อนเจตนาร้ายเอาไว้ตั้งแต่แรก“เรื่องความวุ่นวายของมนุษย์โอสถครั้งนี้ เพื่อปลงพระชนม์ฮ่องเต้แล้วชิงราชบัลลังก์ ฮองเฮา ตอนนี้ฝ่าบาทอยู่ในอันตรายอย่างมาก ฉู่อ๋องไม่มีทางปล่อยพระองค์ไว้แน่พ่ะย่ะค่ะ“ข้าน้อยอาศัยข้ออ้างช่วยฉู่อ๋องตามหาฝ่าบาท ถึงได้มีโอกาสมาที่เมืองลี่หย่วน”เฟิ่งจิ่วเหยียนยังคงกำด้ามกริชไว้แน่นนางจ้องมองฉวีเต้ายางอย่างเย็นชา“เมื่อเจอฝ่าบาทแล้ว เจ้าคิดจะทำอะไร?”ฉวีเต้ายางรู้ว่านางไม่เชื่อ แต่ก็พยายามอธิบายอย่างเต็มที่“ข้าจะช่วยฝ่าบาท พาหนีออกจากเมืองชายแดน“มีเพียงออกจากทางเหนือเท่านั้น จึงจะสามารถรวบรวมกำลังทหารมากำจัดพรรคพวกของฉู่อ๋องได้“ฮองเฮา เมืองชายแดนทางเหนือหลายแห่ง ตอนนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของฉู่อ๋องแล้วพ่ะย่ะค่ะ“ท่านกับฝ่าบาทต้องรีบหนีออกไปให้เร็วที่สุดพ่ะย่ะค่ะ!”สีหน้าของเขาจริงใจ ไม่เหมือนคนโกหกแต่เฟิ่งจิ่วเหยียนยังไม่เชื่อโดยง่าย“ทำไม

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1399

    จางฉี่หยางคือศิษย์ที่เฟิ่งจิ่วเหยียนรับไว้เมื่อครั้งอดีต และยังเป็นศิษย์เพียงคนเดียวของนางจนถึงตอนนี้ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา จางฉี่หยางติดตามอาจารย์ของนาง เมิ่งฉวี ทำผลงานโดดเด่นอยู่ที่ชายแดนเหนือ เป็นผู้มีอนาคตไกล สมควรยกย่องว่าเป็นแม่ทัพรุ่นใหม่ที่หาได้ยากเฟิ่งจิ่วเหยียนไม่คาดคิดเลยว่า จะมาเจอจางฉี่หยางที่นี่ด้วยความที่นางปลอมแปลงใบหน้าไว้ในระดับหนึ่ง จางฉี่หยางจึงไม่สามารถจำนางได้ในทันทีกระทั่งนางถอดหน้ากากอำพรางออก เขาจึงแสดงสีหน้าปลาบปลื้มยินดี“อาจารย์ ท่านปลอดภัยดี!”เขาได้รับคำสั่งให้มาช่วยเหลือฮ่องเต้ฮองเฮา เมื่อเห็นอาจารย์ปลอดภัย เขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันทีขณะนั้น จางฉี่หยางล้มเลิกแผนการที่จะเข้าเมือง เลือกที่จะหาที่ลับกับเฟิ่งจิ่วเหยียน เพื่อแลกเปลี่ยนเบาะแสที่แต่ละฝ่ายรู้มาเมื่อทราบว่าฮ่องเต้ยังคงถูกขังอยู่ในอีกเมืองหนึ่งของชายแดน จางฉี่หยางก็รู้สึกเป็นกังวลอย่างมากเขาพูดว่า “พวกมนุษย์โอสถร้ายกาจนัก พวกเราเดินทางมาด้วยความระมัดระวังที่สุด กลัวจะถูกพวกเขากัด หากจะช่วยฮ่องเต้ อาศัยแค่พวกเราคงไม่พอ”บรรยากาศโดยรอบเงียบงัน เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดด้วยเสียงเข้ม“เบื้อง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1398

    ฉวีเต้ายางกลับมาถึงจวนฉู่อ๋อง ก่อนอื่นจัดการให้ท่านแม่ได้อยู่อย่างเรียบร้อย จากนั้นจึงขอเข้าเฝ้าฉู่อ๋อง“ท่านอ๋อง ข้าคิดไปคิดมา ก็ยังเห็นว่าควรทำอะไรสักอย่างเพื่อท่าน”“ท่านต้องการช่วงชิงบัลลังก์ สิ่งสำคัญที่สุด ก็คือบัลลังก์ต้องว่างก่อน”“ตอนนี้ฮ่องเต้อยู่ที่ชายแดน ข้ายินดีออกเดินทางไปตามหา ช่วยท่านกำจัดปัญหาใหญ่ในใจ!”ปกติฉวีเต้ายางเป็นคนสุขุมเยือกเย็น แต่ครั้งนี้กลับกล้าตัดสินใจทำเรื่องเช่นนี้ ทำเอาเซียวม่อประหลาดใจไม่น้อยเซียวม่อมองเขาด้วยความสนใจ“ท่านฉวี นี่เป็นการลอบปลงพระชนม์ฮ่องเต้เลยนะ!”ฉวีเต้ายางหัวเราะเย้ย“ฮ่องเต้ไม่ใช่ผู้ครองแผ่นดินที่ชอบธรรม การลอบปลงพระชนม์จะเป็นไรไป?“อีกอย่าง ในเมื่อข้าเข้ามาอยู่ภายใต้บารมีของท่านอ๋องแล้ว ก็ย่อมต้องตอบแทนบุญคุณ ไม่เช่นนั้นหากวันข้างหน้าท่านให้รางวัลแก่ข้า ข้าก็จะรับมันด้วยความละอายใจ”“ขอท่านอ๋องโปรดให้โอกาสข้าเถิด!”เซียวม่อเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบ“ดี ในเมื่อเจ้ามีใจเช่นนี้ ข้าก็จะอนุญาต แต่เจ้าไม่กลัวมนุษย์โอสถพวกนั้นหรือ? พวกมันดุร้ายไม่ใช่น้อย”ฉวีเต้ายางมีสีหน้าลังเลอยู่บ้าง แต่ก็ยังคงตัดสินใจเด็ดเดี่ยวเขาค้อม

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1397

    เมืองฝานหลูฉู่อ๋องเซียวม่อพักอยู่ในจวนอ๋องอย่างสบายใจบรรดาภรรยาและสนมในจวนเห็นว่าเขากลับมาอย่างปลอดภัย ต่างก็ดีใจเป็นอย่างยิ่งพวกนางกลับไม่รู้ว่า เขากับพวกมนุษย์โอสถเหล่านั้นเป็นพวกเดียวกัน ต่างพากันร่ำไห้ปรับทุกข์กับเขา“ท่านอ๋อง ช่วงหลายวันนี้พวกเราตกใจกลัวกันมาก! พวกมนุษย์โอสถเหล่านั้นน่ากลัวจริง ๆ !”“ท่านอ๋อง ในเมืองฝานหลูมีมนุษย์โอสถอยู่มาก พวกเราต้องป้องกันประตูจวนอย่างแน่นหนา ถึงจะไม่ให้พวกเขาบุกเข้ามาได้ เมืองฝานหลูแห่งนี้อยู่ต่อไปไม่ได้อีกแล้วเจ้าค่ะ!”เซียวม่อเอ่ยแทรกคำพูดของพวกนางด้วยความรำคาญใจ“พอแล้วพอแล้ว ทุกคนหยุดร่ำไห้ได้แล้ว! ตอนนี้ข้ากลับมาแล้ว พวกมนุษย์โอสถเหล่านั้นจะไม่กล้ามาที่นี่!”จากนั้นเขาถามต่อ: “ในจวนทุกคนปลอดภัยดีหรือไม่?”พระชายาฉู่อ๋องจึงรีบตอบ“เรียนท่านอ๋อง ทุกคนปลอดภัยดีเจ้าค่ะ“ตอนนี้ท่านกลับมาแล้ว ทุกคนก็มีเสาหลักให้ยึดเหนี่ยวจิตใจแล้ว”เซียวม่อมองไปรอบ ๆ: “ฉวีเต้ายางเล่า?”เขาใกล้จะขึ้นครองตำแหน่งสูงนั่นแล้ว ก็ต้องเลื่อนตำแหน่งให้คนของตนหากฉวีเต้ายางผู้นี้รู้จักวางตัวให้เป็น เขาก็ไม่ถือสาที่จะใช้ประโยชน์สำคัญอีกครั้งเมื่อเซียวม่

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status