สุดท้ายกลุ่มเพื่อนก็ตกลงกันว่าจะมาดื่มที่ห้องของไนท์ เพราะมีพื้นที่และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
นับดาวตื่นเต้นที่จะได้เจอกับโซ่ในรอบเกือบปี ที่ผ่านมาคุยกันผ่านข้อความตลอด เธอเอาแต่คิดหนักว่าจะเอ่ยคำใดทักทายเขาเป็นคำแรก ควรจะยิ้มระดับไหนให้มันไม่เกินงาม
หญิงสาวเปิดดูหน้าต่างข้อความที่คุยกับเขา ล่าสุดเมื่อตอนเช้า เขาหายไปทั้งวันแล้วไม่ยอมตอบข้อความเธอ มันไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะเขาเป็นแบบนี้ตั้งแต่แรกที่ได้คุย บางทีก็ข้ามวันถึงมาตอบข้อความเธอ แต่เขาก็ไม่ได้หายไปไหน
“ไอ้ม่อน มึงซื้อน้ำแข็งมาด้วย แล้วก็น้ำกีวี่ มันเป็นยังไงไอ้ม่อนไม่รู้จัก” ประโยคหลังไนท์หันมาถามน้องสาวเพราะปลายสายตั้งคำถาม
“ก็น้ำที่มันเป็นสีเขียว ฝาสีขาว”
“เออ ๆ กีวี่ไหนมึงก็เอามาเถอะ ไม่มีก็ไม่เอา อ้วนเป็นหมูยังจะกินน้ำหวานอีก” ไนท์บ่นกับน้องสาวก่อนจะกดวางสายจากเพื่อน
“เกลียดพี่ไนท์ละ คำก็อ้วนสองคำก็อ้วน” นับดาวปากคว่ำ ยอมรับว่าอ้วนแต่ไม่ต้องย้ำได้ไหม เธอพยายามลดอยู่ นี่ก็ลดมาได้ตั้งสามกิโลกรัมแล้ว
“ทำหน้าให้มันดี ๆ”
“ถึงอ้วนก็สวยแล้วกัน” พูดจบก็สะบัดตูดเข้าห้อง
ไม่ได้โกรธหรอก นับดาวแค่จะเข้ามาเตรียมตัว ฉีดน้ำหอมกลิ่นแป้งเด็ก ประแป้งสักหน่อย ปัดแก้มอีกนิด ไม่ลืมที่จะเขียนคิ้วด้วย พอเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เดินออกมาเพราะได้ยินเสียงพูดคุยกันของผู้ชาย
พี่โซ่มาแล้วใช่ไหม
“นั่นไง น้องกู เชี่ย ! ทำอะไรวะนับ อย่างกับลิง” ไนท์อุทานเสียงหลงเมื่อเห็นน้องสาวตัวเองเดินออกมาด้วยแก้มที่แดงแจ๋ ปากก็เคลือบลิปสติกอีก แป้งก็ขาววอก จะไม่ให้กูตกใจได้ยังไง
“มึงก็ว่าน้องมันเกิน น่ารักดีออก” ใครบางคนเอ่ยปากชมพร้อมกับรอยยิ้มพิมพ์ใจ
คนนี้เธอจำได้ว่าชื่อพี่ราม
“สวัสดีค่ะพี่ราม” นับดาวยกมือไหว้อย่างมีมารยาท อีกฝ่ายก็โค้งศีรษะรับไหว้ด้วยรอยยิ้ม
“ไงสาวบริหาร เก่งนะเนี่ย น้องสาวพี่อยากเข้าแต่สอบไม่ได้ หนีไปอยู่กรุงเทพฯ นู่นละ” รามเอ่ยปากชมน้องสาวเพื่อนอย่างเอ็นดู เห็นแต่งหน้ามาอย่างนี้มันก็ขำอยู่หรอกแต่เขาว่าน่าเอ็นดูมากกว่า
“ขอบคุณค่ะพี่ราม แล้วพี่โซ่ไม่มาเหรอ”
“มา ๆ แต่มันน่าจะมาดึก บอกว่ามีธุระ” รามบอกนับดาวด้วยรอยยิ้ม
แล้วก็อดสงสารไม่ได้เพราะเขาได้รู้อะไรบางอย่างมา บางอย่างที่แม้แต่ไอ้ม่อนกับไอ้ไนท์ก็ไม่รู้ และรู้ไม่ได้เด็ดขาด เพราะมันอาจจะทำให้เพื่อนแตกหักกันได้เลย
นับดาวพยักหน้าอย่างเข้าใจ เธอไม่รู้ว่าเขามีธุระอะไรเพราะเขาไม่ได้ตอบข้อความเธอเลย ส่งไปเมื่อไม่กี่นาทีก่อนเขาก็ยังไม่อ่าน ก็แอบน้อยใจอยู่หรอก แต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อเขาไม่ตอบ
เสียงเคาะประตูดังขึ้นมาหนหนึ่ง ไนท์เดินไปเปิดประตูเพราะรู้แล้วว่าใคร นับจับจ้องไปที่ประตูบานนั้น ลุ้นแทบแย่ว่าจะเป็นพี่โซ่ แต่ไม่ใช่
ผู้ชายหน้าตาดีอีกคนเดินเข้าห้องมาพร้อมกับถุงพะรุงพะรัง เขาบ่นตั้งแต่ก้าวเท้าเข้ามาก่อนจะชะงักเมื่อเห็นคนแปลกหน้าที่ทาแป้งขาววอก ที่เขาเห็นแล้วยังตกใจ
“อ้าว นับมาแล้วเหรอ” ม่อนครางถามในลำคอ ไม่คิดว่าน้องสาวไอ้ไนท์จะมาอยู่ในห้องนี้ เขาได้ยินผ่าน ๆ แค่ว่าจะย้ายมา เรื่องน้ำกีวี่ที่เถียงกันก็คิดอยู่ว่าไอ้ผู้ชายอกสามศอกคนไหนมันจะแดก
เขารู้จักนับดาวมานานแล้ว เพราะเป็นเพื่อนกับไนท์มาตั้งแต่มอปลาย แต่ไม่ได้เจอกันบ่อยนักเพราะน้องเรียนอยู่โรงเรียนหญิงล้วน ตอนที่เจอกันครั้งแรกเขาก็ไม่เชื่อว่าเป็นน้องสาวมันจริง
เพราะไอ้ไนท์มันหน้าตาดี หุ่นก็ดี ถึงน้องสาวมันจะมีเค้าโครงความสวยอยู่แต่เขาก็คิดว่าไม่เหมาะจะเป็นน้องสาวไอ้ไนท์อยู่ดี พี่ชายเข้าฟิตเนสเกือบทุกวัน ส่วนคนน้องน่าจะกินทั้งวันนะกูว่า
“สวัสดีค่ะ” นับดาวยิ้มอย่างเป็นมิตรพร้อมกับยกมือไหว้ผู้ชายที่รู้จักกันแล้วมาระยะหนึ่ง
“ครับ”
ทั้งคู่ยิ้มแห้งใส่กันก่อนที่นับจะหนีเข้าห้องไปเช็ดหน้าตัวเอง ก็เธอโดนมองเหมือนตัวประหลาดจะไม่ให้อายได้อย่างไร เอาเถอะ เดี๋ยวฝึกแต่งหน้าสวยขึ้นเมื่อไรเธอจะสวยให้ดู
เวลาล่วงเลยไปจนถึงสี่ทุ่มครึ่ง เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นใคร
นับดาวชะโงกหน้าออกมาจากห้องของตัวเอง เป็นจังหวะเดียวกับที่ไนท์กำลังจะลุกขึ้นจากวงสนทนา พอเห็นว่าน้องสาวกำลังให้ความสนใจกับผู้มาใหม่ เขาจึงหันไปสั่งน้องตัวเอง
“ไปเปิดไป ขี้เกียจลุกละ” ไนท์บอกคนเป็นน้อง
นับดาวไม่ได้ตอบอะไร เธอรีบเดินไปที่ประตู ท่ามกลางสายตาหลายคู่ที่มองตาม เธอเอื้อมมือไปจับลูกบิดด้วยหัวใจที่เต้นรัว ตื่นเต้นที่จะได้เจอกับเขาชนิดที่ว่ามือยังสั่นไปด้วย
“...”
สายตาสองคู่สบประสานกันเพียงเสี้ยววินาที คนร่างสูงก็แกล้งเบือนหน้าไปทางเพื่อนที่อยู่ในห้อง เขาหลุบตาลงมาที่ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าอีกครั้งก่อนจะระบายยิ้มให้
“นับดาว” เขาเอ่ยชื่อเธอเสียงเบา
“นึกว่าพี่โซ่จะไม่มาแล้ว” นับเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้มแห่งความตื่นเต้นและดีใจ เธอกัดริมฝีปากตัวเองอย่างเขิน ๆ
“พอดีมีธุระน่ะ” เขาบอกแค่นั้นก่อนจะแทรกตัวเข้าไปในห้อง
นับดาวรู้สึกว่าบทสนทนาระหว่างเรามันสั้นเกินไป ทั้งที่สถานะของเธอกับเขาก็มีคำว่าแฟนอยู่ หรือเพราะเขากลัวพี่ชายของเธอจะรู้เข้าถึงต้องทำเป็นไม่มีอะไร
แล้วเธอต้องปิดไปอีกนานแค่ไหนกันนะ
“น้องนับมานั่งด้วยกันสิ” ม่อนเอ่ยปากชวนด้วยรอยยิ้ม แล้วสายตาอีกคู่ก็หันมามองเธอด้วย
เขาไม่ได้แสดงอารมณ์ใด สีหน้าเรียบนิ่งราวกับกลัวหลุดอะไรออกมาจากแววตาคู่นั้น หรือเหมือนไม่มีความรู้สึกใดอยู่ในนั้นเลยสักนิด แต่สุดท้ายก็ยิ้มเล็ก ๆ ส่งให้สาวรุ่นน้องไป
“เอาน้ำกีวี่ไป แล้วก็เข้าห้องได้แล้ว” ไนท์ปัดมือไล่น้องตัวเอง
“มึงก็ไล่น้อง นั่งคุยกันตรงนี้ก็ได้ ไม่เห็นเป็นไร”
“จัดห้องยังไม่เสร็จเลยจะนอนตรงไหน รีบไปทำให้เสร็จ”
นับดาวพ่นลมหายใจกับเสียงพี่ชายตัวเองที่เอาแต่ขัดใจเธอไปเสียหมด แต่สุดท้ายก็ยอมเข้าห้องเพราะมันคงไม่เหมาะที่จะนั่งตรงนี้ เดี๋ยวเขาคนนั้นจะมองเธอไม่ดี
จนเวลาล่วงเลยไปถึงเที่ยงคืนกว่า เสียงด้านนอกเริ่มเงียบลงไปแล้ว เหมือนว่าเพื่อนของไนท์จะทยอยกลับกัน นับที่เผลอหลับไปก็รีบขยับตัวลุกขึ้นจากที่นอน เธอยังไม่ได้คุยกับเขาเลย อย่างน้อยก็ขอให้ได้บอกลากันคืนนี้
นับดาวเดินออกมาจากห้องก็เห็นเพียงความว่างเปล่า แต่ยังมีขวดเครื่องดื่มกับแก้ววางทิ้งไว้อยู่โต๊ะกลางโซฟา พร้อมกลิ่นบุหรี่ที่โชยเข้ามาในห้อง พอมองไปที่ระเบียงก็เห็นหนึ่งชีวิตกำลังยืนอยู่ตรงนั้น
“พี่โซ่ดูดบุหรี่ด้วยเหรอ” เธอเดินเข้าไปทักทายเขา เวลานี้ไม่มีใครคงคุยกันได้ใช่ไหม
“อืม แค่บางครั้ง ไม่บ่อย” เฉพาะเวลาที่เขามีเรื่องให้คิดมาก ๆ
นับดาวพยักหน้าอย่างเข้าใจ แม้ว่าในความเป็นจริงเธอจะเหม็นกลิ่นบุหรี่มากแค่ไหน แต่ยอมทนยืนตรงนี้เพื่อที่จะได้สนทนากับเขาต่อ
“อย่าดูดมากนะ มันไม่ดี นับเป็นห่วง” เธอบอกเขาด้วยรอยยิ้ม
โซ่พยักหน้า ยิ้มตอบเธอเล็กน้อย ก่อนจะหันหลังมองไปนอกระเบียงที่ตอนนี้เห็นเพียงท้องฟ้าอันมืดมิด มีแสงระยิบระยับจากดวงดาว แสงไฟจากวัดพระธาตุบนเขาสูง แสงเหล่านั้นยังสว่างไสวกว่าจิตใจเขา
“ไปนอนได้แล้ว มันดึกแล้ว” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
นับดาวไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะนิสัยของเขาหรือเขาเย็นชากับเธอ แต่เพราะความเคยชินที่ได้คุยกันในรูปแบบนี้มาตลอด เธอจึงไม่อยากคิดมาก
“แล้วพี่เมาไหม” หญิงสาวถามเขาด้วยความเป็นห่วง
“ไม่”
“…” นับดาวพยักหน้า เขาดูเหนื่อย ๆ เหมือนไม่มีแรงจะคุยกับเธอเลยด้วยซ้ำ “งั้นกลับดี ๆ นะ นับไปนอนแล้ว”
โซ่พยักหน้า เขาเกือบพูดประโยคหนึ่งออกไปแต่ก็ยับยั้งชั่งใจไว้ได้ในที่สุด ไหน ๆ ก็จะบอกกับนับดาวอยู่แล้วว่าเขาไม่ได้ตั้งใจที่มาคบกันแบบนี้ แม้แต่คำว่าฝันดีเขาก็ไม่ควรพูดด้วยซ้ำ
“พรุ่งนี้พี่โซ่เรียนกี่โมงเหรอ”
เธอเกือบจะเดินเข้าห้องแล้ว แต่เพราะไม่อยากเข้าไปถึงนึกขึ้นได้ว่าควรถามเรื่องนี้กับเขาสักนิด
“ก็ว่าอยู่ พี่ยังไม่ได้ดูเลย มีอะไรหรือเปล่า”
“คือ ไม่มีอะไรค่ะ แค่ถาม” หญิงสาวบอกแล้วยิ้มเขิน ๆ
“มาทำอะไรตรงนี้ ไปนอนได้แล้วไอ้อ้วน”
เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นจากด้านหลัง จะเป็นใครได้อีกถ้าไม่ใช่พี่ชายที่เธอคลานตามออกมา พอได้ยินเสียงเขานับดาวถึงกับพ่นลมหายใจ
“รู้แล้วน่า” เธอบอกพี่ชายด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย
“กูก็จะกลับแล้ว พรุ่งนี้เรียนกี่โมงนะ” โซ่เอ่ยประโยคนั้นดังขึ้นตามหลัง เขาทิ้งบุหรี่ลงบนที่เขี่ยบุหรี่ก่อนจะเดินตามเธอเข้ามา
“เก้าครึ่ง”
“อืม”
ตอนพิเศษ 2สองปีต่อมาวันเวลาอาจผันเปลี่ยนเวียนไปแต่ใจไม่เคยเปลี่ยนแปลงคำนี้ยังใช้ได้เสมอกับความรักของเธอ นับดาวมีคำตอบในใจเช่นเคยว่าโซ่จะเป็นคนแรกและคนสุดท้ายของตัวเองในวันรับปริญญาของเธอ นับดาวตื่นตั้งแต่ตีหนึ่งเพื่อไปแต่งหน้าทำผม กว่าจะเสร็จพิธีทั้งหมดก็เกือบบ่ายโมง พวกเพื่อนยังนัดรวมตัวกันต่อเพื่อให้เหล่ารุ่นน้องมาร่วมแสดงความยินดีตามขนบธรรมเนียม นั่นคือการบูมของคณะ หลังจากเสร็จกิจกรรมนั้น เธอก็อยู่ถ่ายรูปกับรุ่นพี่ที่จบไปแล้วและรุ่นน้องที่รู้จักมีดอกไม้ช่อโตจากใครหลายคนมอบให้นับดาว แต่ก็ไม่ได้ทำให้หัวใจหญิงสาวพองโตเท่ากับดอกไม้ช่อเดียวจากเจ้าของหัวใจ แล้วตอนนี้เขายังรับหน้าที่ถือดอกไม้ให้เธออีก“กลับกันเถอะค่ะ เดินไม่ไหวแล้ว” นับดาวส่งสาวตาอ้อนเขาแบบที่เธอชอบทำประจำ และเหมือนจะเป็นท่าไม้ตายที่ทำให้โซ่ยอมแฟนสาวทุกอย่าง“ให้พี่แบกไหม”“บ้า อายคน”เขาหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะคว้ามือเธอไปจับ แล้วพาคนตัวเล็กเดินไปนั่งที่ต้นไม้ใหญ่ซึ่งอยู่ห่างจากผู้คนมากพอ“นั่งรอตรงนี้แหละเดี๋ยวมารับ”“ไม่ ก็เดินไปด้วยกันเลยค่ะ นับเดินได้ มันเสียเวลา”“...” เขาไม่พูดอะไรก่อนจะนั่งลง แล้วจับเท้าเธอขึ้นมาว
ตอนพิเศษ 1ทุก ๆ เช้าที่เคยติดรถออกไปเรียนกับพี่ชายหรือบางวันก็มีเพื่อนมารับ เดี๋ยวนี้นับดาวมีคนคอยมารับมาส่งทุกวันแล้ว ไม่รู้ว่ามันเป็นช่วงโปรโมชั่น แบบที่ใคร ๆ เขาก็พูดกันหรือเปล่าเพราะโซ่และนับดาวก็คบกันมาได้ไม่กี่เดือนแต่มันก็ถือว่าเป็นช่วงเวลาดี ๆ และคุ้มค่าแล้ว เพราะอีกไม่กี่วันโซ่ก็เรียนจบและอาจจะต้องอยู่ไกลกันมากขึ้น ซึ่งไม่ใช่แค่ระยะทางแต่รวมไปถึงหัวใจและความรู้สึกเธอไม่รู้ว่าอนาคตความรักระหว่างเรามันจะไปได้ไกลแค่ไหน แต่ทำให้วันนี้เป็นวันที่ดีที่สุดของเธอกับเขาก็เพียงพอแล้ว“เด็กหญิงนับดาว ห้องอนุบาลสอง ผู้ปกครองมารับแล้วค่า”เสียงแซวของทิชาดังขึ้น สร้างเสียงหัวเราะของเพื่อนในกลุ่มที่กำลังนั่งจับกลุ่มคุยกัน หรือบางคนก็นั่งค้นคว้าหาความรู้อยู่ใต้ตึกหลังเลิกเรียนเว้นเสียแต่เพื่อนร่วมรุ่นบางคนที่ไม่ค่อยพอใจนักกับความสัมพันธ์ของนับดาวและหนุ่มรุ่นพี่ที่ตัวเองหมายปองอย่างเจน ซึ่งเป็นคนที่เคยไม่ชอบหน้านับดาวมาก่อนหน้านี้“ยายทิ !”“เอ้า รออะไรรีบเก็บกระเป๋าเร็ว เดี๋ยวพี่โซ่หงุดหงิดทำโทษอีกนะ”ใบหน้าสะสวยขึ้นสีระเรื่อแถมยังร้อนผ่าวไปหมดเมื่อเพื่อนเอ่ยประโยคนั้น ก็เพราะเรื่องนี้มัน
ตอนที่ 47 ขึ้นมาบนตัวพี่ NCฝ่ามือหนาค่อย ๆ ลูบไล้ไปตามเรียวขาเธอ สายตาของโซ่ที่มองมาราวกับเสือที่กำลังจะตะครุบเหยื่อ ยิ่งเห็นแบบนั้นเธอยิ่งเกร็งไปหมดทั้งตัว“หอมจัง” เสียงเข้มเอ่ยพร้อมกับจูบหอมดอมดมที่ซอกคอหอมกรุ่นอย่างลุ่มหลง ดูดเม้มแผ่วเบาจนฝากรอยแดงเล็ก ๆ เอาไว้ ให้รู้ว่าเธอคือของเขาแค่คนเดียว“พรุ่งนี้นับมีเรียนนะ” นับดาวดันใบหน้าหล่อเหลาออกห่างเขานิ่งไปครู่หนึ่งเพราะตอนนี้ได้ฝากรอยรักเอาไว้แล้ว สุดท้ายก็แกล้งตอบออกไปว่า“ครับ”“อย่าทำรอย”โซ่พยักหน้า ไม่อยากจะคิดว่าถ้านับดาวเห็นว่ามันเป็นรอยแล้ว เขาจะโดนด่าขนาดไหน แล้วใครบอกให้ขาวขนาดนี้วะ โดนนิดโดนหน่อยเป็นรอยนับดาวระบายยิ้มก่อนจะตวัดแขนโอบรอบลำคอ พลางแกล้งรั้งใบหน้าหล่อเหลาเข้ามาใกล้ ประกบริมฝีปากจูบกับเขาอย่างดูดดื่ม ชายหนุ่มคงรู้ตั้งแต่ตอนนั้นแล้วว่าเธอมันพวกความต้องการสูงชุดนอนที่ถูกชมว่าน่ารักถูกถอดออกไปทีละชิ้น เขาเลื่อนไปจูบและดอมดมกลิ่นหอมบนสัดส่วนที่เปิดเปลือย ผิวขาว ๆ ราวกับหิมะทำเอาโซ่อยากกัดให้เป็นรอยและอยากฝากรอยรักเอาไว้ แต่ก็ทำไม่ได้เพราะกลัวจะโดนด่าเอา“อื้อ” เสียงหวานครวญครางออกมา เมื่อถูกเขาขยับฝ่ามือรุกล้
ตอนที่ 46 ความทรงจำในวันเก่า“...” นับดาวนิ่งไป เพราะไม่คิดว่าจะได้ยินคำนี้จากปากเขาเลยด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่ามันเร็วไปหรือเปล่าสำหรับเรื่องของเรา“เวลามีคนถาม จะได้ตอบ”“คำว่าแฟนนี่ แค่มีไว้ตอบคนอื่นเหรอคะ”“เปล่า มีไว้ให้เราเป็นของพี่คนเดียว”“เกลียดจัง ตอนที่พี่โซ่ปากหวานเนี่ย”“แล้วจะเป็นไหม”“ล็อกไว้ขนาดนี้ ไม่เป็นได้เหรอ”โซ่ระบายยิ้มก่อนจะจูบลงที่แก้มของเธอ สูดกลิ่นหอมจากคนตัวเล็ก ซึ่งเป็นกลิ่นที่ติดจมูกเขามาตั้งนาน เป็นกลิ่นที่ทำให้รู้สึกคิดถึง ตั้งแต่ตอนที่ตัวเองยังบอกใครต่อใครว่าไม่ได้รักเธอทั้งที่ปากบอกว่าไม่รัก แต่เขากลับจำกลิ่นหอมของเธอได้เป็นอย่างดี โคตรบ้า“เป็นแฟนกันแล้วนะ”“อื้อ”“อย่าเจ้าชู้”“นับไม่เคยเจ้าชู้”“อย่าให้พูด” เขารู้หมดว่าเธอคุยกับใครมาบ้างตอนที่สวยขึ้นขนาดนี้ รุ่นน้องในคณะเขาก็เยอะ“ใส่ร้าย”“ก็เราเจ้าชู้จริง ๆ” เขาจ้องมองสบตาเธอสายตาหวาน ๆ แบบนี้มันทำเอาหัวใจดวงเท่ากำปั้นของนับดาวเหมือนจะละลายราวกับเป็นของเหลวไปแล้ว โซ่มองเธอแบบนี้รู้สึกใจไม่ดีเลย“ไปกินข้าวได้แล้วเดี๋ยวก็ปวดท้องหรอก”รู้นะว่าคืนนี้คงไม่รอด อย่างไรก็โดนเขากลืนกินไปทั้งตัวแน่ แต่ขอเวลาเธอท
ตอนที่ 45 เป็นอะไรกันโซ่พาเธอขับรถออกมาจากคอนโดมิเนียมตอนสี่ทุ่ม ช่วงเวลานี้รถราค่อนข้างบางตาลงแล้ว ทำให้การเดินทางสะดวกมากกว่าตอนค่ำตอนที่เธอออกมาจากห้องพี่ไนท์ก็ยังไม่กลับมา ไม่รู้เขาไปติดสาวอยู่แถวไหน เพราะโซ่แอบบอกเธอว่าไนท์กำลังคุยกับสาวรุ่นน้องคนหนึ่งอยู่ นับดาวจึงส่งข้อความบอกพี่ชายตัวเองไปว่า คืนนี้เธอจะไปนอนหอเพื่อน“พี่โซ่แวะซื้ออะไรไหม แถวนี้มีของกินเยอะแยะเลย”“อืม” เขาครางตอบในลำคอ ตอนนี้เริ่มหิวแล้วเพราะมัวรอนับดาวหลายชั่วโมงจนลืมกินข้าวเย็น รู้สึกตัวกูจะคลั่งรักเหลือเกินเขาชะลอรถและจอดชิดริมฟุตพาท หยิบมือถือแล้วจึงหันไปถามคนข้าง ๆ“ลงไปด้วยกันไหม อยากกินอะไร”“นับคิดว่าพี่โซ่นั่นแหละจะหิว นับกินแล้ว”“หิว”“จะกินนี่เหรอ หรือซื้อกลับห้อง”“ซื้อกลับ” เขานิ่งคิดอยู่นานก่อนจะตอบเธอไปแบบนั้น ตอนนี้โซ่รู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูกที่จะได้พานับดาวไปห้องตัวเอง ห้องนี้เขาเพิ่งย้ายมาอยู่ได้หนึ่งปี ยังไม่เคยพาสาวคนไหนมาเลย ผู้หญิงคนเดียวที่เคยเข้าก็คงมีแต่ยายน้องสาวตัวแสบ“งั้นนับไม่ลงก็ได้มั้ง”“ลงมาด้วยกันสิ” เขาบอกคนตัวเล็กแล้วหันไปปิดเครื่องยนต์ เหมือนเป็นการบังคับให้เธอลงไป
ตอนที่ 44 แค่น้อยใจหลายวันต่อมาหลังจากจบทริปเที่ยวทะเล ก็พากันกลับมาเรียนตามปกติ เทอมนี้นับดาวก็ยังต้องเรียนหนักอีกเช่นเคยจนแทบไม่มีเวลาว่าง เพื่อให้เก็บหน่วยกิตได้มากที่สุด และไม่ต้องเรียนเพิ่มอีกเป็นปี ผลของการดรอปเรียนครั้งนี้ เธอรู้ซึ้งแล้วว่ามันต้องชดใช้อย่างเหน็ดเหนื่อย“นับ ไอ้พี่โซ่มันบอกให้นับตอบข้อความหน่อย” อัยมี่หันไปบอกกับนับดาวที่กำลังนั่งอ่านเอกสารการเรียนเพื่อที่จะทำงานที่อาจารย์เพิ่งสั่งมาหมาด ๆ“บอกพี่โซ่รอก่อน”เธอไม่ตอบข้อความเขาแต่เช้าแล้วเพราะตื่นสายแล้วต้องรีบอาบน้ำแต่งตัวมาเรียน ไม่มีเวลากินข้าวเลยด้วยซ้ำ พอมานั่งเรียนก็เหลือแค่เก้าอี้หน้าสุด จะหยิบมือถือขึ้นมาก็โดนอาจารย์จ้องตาเป็นมัน สุดท้ายก็ลืมตอบ จนตอนนี้ยังมาเจองานเร่งที่ต้องส่งภายในคาบเรียนอีก เธอจะตายให้ได้“โอเค” อัยมี่พยักหน้าก่อนจะส่งข้อความบอกพี่ชายของตัวเองไปแล้วก็รีบทำงานต่อเวลาล่วงเลยไปจนหมดคาบเรียน ทั้งสองก็ต้องรีบไปกินข้าวเพราะมีเรียนต่ออีกวิชา เธอหยิบเครื่องมือสื่อสารขึ้นมาดูเพื่อตอบข้อความของใครบางคน โซ่ถามคำถามเดิม ๆ ในเรื่องทั่วไปที่เขาถามทุกวัน แล้วก็ถามนับดาวอีกว่าเย็นนี้ไปไหนความสัมพ