ชรันและพิชามญช์ออกไปแล้ว ไม่นานธีทัตก็เข้ามาและเห็นว่ารถส่วนตัวของพ่อไม่อยู่ เขาเอากระเป๋าสะพายและเสื้อเชิ้ตที่แขวนไว้ที่นั่งด้านหลังออกมา
คุณป้าแม่บ้านได้เดินออกมาดูเพราะได้ยินเสียงประตูบ้านและเสียงรถยนต์ที่เข้ามา “สวัสดีค่ะคุณธี เมื่อกี้คุณพ่อกับคุณผู้หญิงพึ่งออกไปเอง ได้ยินว่าไปเที่ยวข้างนอกคงดึกกว่าจะกลับค่ะ ช่วยถือมั้ยคะ?” “ไม่เป็นไรครับ เอ่อ น้องพู่อยู่คนเดียวแบบนี้บ่อยหรือเปล่า? บ้านหลังใหญ่ เด็กอยู่คนเดียวก็คงกลัว” “ไม่หรอกค่ะ ปกติพวกท่านก็ไม่ไปไหนดึกๆนะคะ แล้วนี่คุณธีจะค้างที่นี่ใช่มั้ยคะ? ป้าจะพาไปที่ห้องนะ” “อ้อ ผมไปเองครับ คุณป้าพักผ่อนเถอะ พอดีพรุ่งนี้ผมมีธุระใกล้ที่นี่เลยมานอนค้างจะได้ไม่ต้องตื่นเร็วเพราะรถติด” ธีทัตเดินอ้อมไปดูหน้าต่างด้านข้างที่เป็นห้องของพรรณนาราก็เห็นว่ายังเปิดไฟอยู่ เขารีบเดินขึ้นไปชั้นสอง โยนกระเป๋าไว้บนเตียง แขวนเสื้อในตู้แล้วไปเคาะประตูห้องของเธอ “น้องพู่..หลับหรือยังครับ?” เธอตกใจกับเสียงเคาะประตูจนกลายเป็นความหลอน แต่พอได้ยินเสียงคนที่เธอแอบรักก็ใจเต้นตูมตาม ประตูที่เปิดแง้มพอแค่เห็นครึ่งหน้าของเธอ ทำให้เขาลืมตัวใช้มือจับที่ขอบประตูเพื่ออยากเห็นเธอมากกว่านี้ แต่พรรณนารารีบใช้สองมือดันประตูเอาไว้จนไม่เห็นหน้ากัน “พี่ธีมาที่นี่ทำไมตอนนี้คะ? ไม่มีใครอยู่หรอก” ความรู้สึกของธีทัตที่ส่งมาถึงเธอนั้นมีความในใจมากมาย มีทั้งกังวล คิดถึง หลงรัก ห่วงใย “เมื่อวานเกิดอะไรขึ้น?..พู่..บอกพี่สิ” น้ำเสียงที่อ่อนโยนทำให้เธอน้ำตาคลอขึ้นมาดื้อๆ เธอเห็นแค่นิ้วมือของเขาที่จับขอบประตูอยู่ จึงสัมผัสนิ้วมือเขาเบาๆ “มันผ่านไปแล้ว หนูไม่อยากพูดถึง อยากลืม..เหมือนมันไม่เคยเกิดขึ้น” เสียงเธอสั่นเล็กน้อย เขาตัดสินใจดันประตูเข้ามา พอเห็นหน้าเธอที่เศร้าและน่าสงสาร มันทำให้เขาทนไม่ได้และกอดเธอแน่นแนบกับแผ่นอกกว้าง “บอกพี่ เขาทำอะไร? พี่ไม่อยากรื้อฟื้นแต่พี่ต้องรู้ว่ามันเกิดอะไร?” “รู้ไปพี่ก็ช่วยอะไรหนูไม่ได้หรอก” น้ำตาที่ไหลออกมา เธอสะอื้นในอ้อมอกเขาเงียบๆ “พี่ก็ไม่ได้เป็นคนดีมาจากไหน ขอโทษที่น่าจะมาค้างที่นี่เร็วกว่านี้” พรรณนาราพยายามดันตัวเขา แต่ธีทัตไม่ยอมกลับกอดแน่นมากกว่าเดิม เขาซุกหน้าลงที่ผมตรงใบหูของเธอ “ไปที่ห้องพี่นะ คุยกันหน่อย” เธอยอมตามเขาที่จูงมือไปยังห้องนอนที่ชรันทำไว้ให้ แต่ไม่เคยได้ใช้มาก่อนเพราะโดนกันท่าไม่ให้มาค้างที่นี่ พรรณนารานั่งสงบเสงี่ยมอยู่บนเตียง โดยที่ธีทัตเริ่มถาม “ไม่ต้องอาย หนูต้องบอกพี่ แล้วพี่จะคิดหาทาง” “หาทาง? ยังไงล่ะ?” “พี่จะเรียนจบแล้วเหลือแค่ไม่ถึงเดือน ถ้าเริ่มงานก็จะมีเงินเดือน อาจเช่าหอให้ใกล้โรงเรียนดีไหม? ก่อนเข้ามหาวิทยาลัย” เธอหันมาสบตาเขาเศร้าๆ “ถ้าหนูไม่เชื่อฟังเขา แม่จะลำบาก แม่กำลังจะท้องลูกของเขาด้วย เขากับแม่ไปจดทะเบียนสมรสกันวันนี้ ถ้าหนูหนีไปหรือไม่ตามใจเขา เขาจะฟ้องหย่า ให้แม่เอาลูกออก ไม่ให้เงินแม่” ธีทัตขมวดคิ้วทันทีกับสิ่งที่ได้ยิน “นี่มัน…บ้าไปแล้ว ถ้าแม่หนูไม่ผิดก็ฟ้องหย่าไม่ได้ ยิ่งบังคับให้ภรรยาเอาเด็กออก ยิ่งผิดกฎหมาย แถมถ้ามีชู้แล้วภรรยาฟ้องกลับโดยมีหลักฐาน พ่อพี่ต่างหากที่ต้องเสียเงิน” “แล้วถ้าแม่..ใช้หนูเพื่อแลกกับทุกอย่างที่พูดไปล่ะ?” เขาสงสารเธอมากจนอยากพาหนีไปจากที่นี่ พอดึงเธอเข้ามาเพื่อกอด เธอกอดเขากลับมา “ที่พูดขอให้รอ..พี่พูดจริงนะ พี่ไม่สนใจว่าพู่จะเจออะไรมา พี่ไม่แคร์ เพราะพี่ก็ไม่ได้บริสุทธิ์ผุดผ่องมาจากไหน” “หนูไม่ได้ถูกทำขนาดนั้น หนูยังบริสุทธิ์อยู่ แต่..สิ่งที่เขาทำมันเกินจะรับไหว หนูขยะแขยง รังเกียจที่สุด” ธีทัตใจเต้นแรงและตื่นเต้น ใคร่รู้ในสิ่งที่พ่อของเขาทำกับเธอ จนเกิดอารมณ์เสียเอง ซึ่งพรรณนาราเริ่มรับรู้ได้จากลมหายใจร้อนๆ หัวใจที่เต้นแรง เขาหายใจเร็วขึ้น เหมือนที่ชรันเป็นแบบนั้นในตอนที่ล่วงเกินเธอ “เขาปล่อยมันบนตัวหนู กลิ่นมันแย่มาก หนู..กลัวสุดๆ เขา..จับหน้าอก ถอดกางเกง..” “พ่อพี่..ทำแบบนี้กับพู่กี่ครั้งแล้วน่ะ” “สองครั้ง..ครั้งแรกเขาล้วงเข้าไปในกางเกงจับตรงนั้น แล้วให้หนูจับของเขา เมื่อวาน..เขาทำมากกว่าเดิม” พรรณนาราเอาสองมือปิดหน้าเพราะความอับอายเมื่อต้องนึกถึง ธีทัตใจเต้นแรงจนสะเทือน “พู่..เอ่อ พี่ไปอาบน้ำแป๊บนึงนะ รอนี่ก่อน พี่ขอไปตั้งสตินิดหน่อย อาบน้ำคงช่วยได้” แต่พอเขาจะผละไป เธอดึงมือเขาไว้แล้วเข้าไปนั่งคร่อมบนตักเขา จูบรสหวานนั้น..ทำเขาเคลิ้มจนตาปรือ น้องสาวของเธอทับแก่นกายที่แข็งตัวอยู่ในกางเกง ยิ่งทำให้อารมณ์ของธีทัตกำลังจะอยู่เหนือเหตุผลและสติเข้าทุกทีแล้ว สายตาเขาอ้อนเธอโดยไม่พูดเพราะไม่กล้าพอ กอดจูบกันอยู่แบบนั้น พรรณนาราไม่รู้ตัวว่าเคมีในร่างกายเธอแสดงความต้องการออกมาเอง ชั้นในเธอเปียกทะลุจนเปื้อนเป้ากางเกงของธีทัตที่นั่งบดบี้กันอยู่ “พู่..พี่จะไปอาบน้ำก่อนได้มั้ย?…” “หนูไม่รู้ว่าจากนี้จะพลาดท่าให้เขาอีกมั้ย แต่ครั้งแรก..อยากให้เป็นพี่” ธีทัตไม่พูดอะไรนอกจากยื่นหน้าไปจูบเธอแล้วพลิกกลับให้พรรณนารานอนบนเตียงแทน ระหว่างจูบกันเขาพยายามปลดเข็มขัดและซิปถึงรู้ว่าเป้ากางเกงเปียก และพอเขาถอดกางเกงและบ็อกเซอร์ออกก็พบว่าตัวเขาก็เปียกเหมือนกัน เธอแอบเห็นแก่นกายของเขาวับๆแวมๆเพราะธีทัตยังไม่ถอดเสื้อ จึงปลดกระดุมให้ในขณะที่เขาขึ้นคร่อมและจูบกันต่อ มือของเขาสัมผัสกางเกงชั้นในที่เปียกเยิ้มพร้อมกับดึงมันออกจากขาที่เรียวสวย “พี่จะทำยังไงดี..หนูแน่ใจใช่มั้ย?” “ถ้าพี่ไม่แน่ใจ เราเลิกทำตอนนี้ก็ได้” “ไม่..พี่..ไม่อยากให้หนูเป็นของคนอื่น” เขาเลิกชุดนอนแบบกระโปรงขึ้นจนถึงเอว มือล้วงเข้าไปขยำหน้าอกที่เต็มไม้เต็มมือซ่อนรูปในเสื้อชั้นใน ธีทัตดอมดมไปตามหน้าอก หน้าท้อง พอจะซุกหน้าลงที่หว่างขาของเธอ พรรณนารารีบหุบขาสองข้างจนชนกับแก้มเขา มือข้างหนึ่งปิดป้องน้องสาวเอาไว้ อีกมือหนึ่งดันศีรษะของธีทัตจนเขาต้องเงยหน้ากระซิบบอก “ไม่ต้องกลัวนะ..พี่อยากทำให้” ความนุ่มนิ่มจากลิ้นของชายหนุ่มที่ละเลงไปทั่วอย่างอ่อนโยน มีเสียงจากจูบและสัมผัสของเขาที่ทำกับน้องสาวของเธออย่างทะนุถนอม ทำให้สาวน้อยพึ่งรู้สึกถึงความต้องการเป็นครั้งแรก สองมือเธอจิกกำผ้าปูที่นอนแน่น แอ่นตัวจนหน้าอกหน้าใจกระเพื่อมขึ้นลง หายใจหอบและครางเบาๆ ธีทัตจ้องมองเต็มสองตาถึงความสวยงามนี้ เขาใช้นิ้วสัมผัสไปตามร่องด้านในที่ลื่นไปด้วยเมือกใสๆ จนเธอแอบสะดุ้ง ทีนี้เขาลองใช้นิ้วใส่เข้าไปนิดหน่อย “เจ็บมั้ย?..” “อื้อ..” ทีนี้เขาลองใส่เข้าไปช้าๆจนเกือบจะสุดนิ้ว ข้างในนั้นบีบรัดนิ้วเขาจนรู้สึกได้ “อื้อ..” เขาขึ้นมานอนทาบตัวเธอโดยที่มือก็ยังคาอยู่แล้วค่อยๆขยับเข้าออกเริ่มจากช้าๆและเร็วขึ้นปานกลาง ทั้งสองสบตาและเริ่มต้นจูบอย่างลึกซึ้ง ธีทัตเอานิ้วออก ขยับตัวเข้าไปและเริ่มใช้แก่นกายถูในร่องสีชมพูที่ลื่นและนุ่มนิ่ม ช่องทางนั้นเล็กแต่ก็พร้อมรับตามธรรมชาติที่สร้างให้มนุษย์ทั้งชายและหญิงได้ดำรงเผ่าพันธุ์ ความชุ่มชื้นจากเคมีของคนทั้งคู่ที่หลั่งออกมาขณะร่วมรักช่วยบรรเทาความเจ็บปวดนั้นให้น้อยลงบ้างไม่มากก็น้อย ชายหนุ่มวัยกลัดมันที่กำลังสาวเอวเข้าออก หญิงสาวที่กอดลำตัวเขาแนบแน่นจนหน้าอกเบียดอกกว้างของเขาอย่างเร่าร้อน “อาา..พู่..อา..อาาา” “อ้ะ.. พี่ธี..” เขาขย่มเร็วขึ้น ถี่ขึ้น พรรณนาราเจ็บแต่เธอปิดปากสนิท มีเสียงเล็ดลอดจากในลำคอเพียงเล็กน้อยเท่านั้น น้ำรักจากเขาที่หลั่งจนล้นออกมาในขณะที่ยังขยับเข้าออกอีกสามสี่ครั้งจนเสร็จ “กลับไปอยู่บ้านพ่อนะ พี่คงทนไม่ได้ถ้าหนูอยู่ที่นี่..ใกล้พ่อของพี่” “แต่หนูทำให้แม่เดือดร้อนไม่ได้ ถึงจะรู้ว่าแม่เองก็เป็นใจให้เขาเหมือนกัน” “ว่าแต่..เจ็บมั้ย? พี่ทำแรงไปหรือเปล่า?” “ก็..เจ็บค่ะ แสบๆตึงๆ งั้นหนูจะกลับห้องไปล้างตัวก่อนนะ” เธอยันตัวลุกนั่งด้วยสีหน้าว่าเจ็บ พยายามดึงชุดนอนให้ลงมาปิดส่วนสงวน ธีทัตรีบใส่กางเกงแบบลวกๆ แล้วอุ้มเธอที่กอดคอซบที่ไหล่ของชายที่เธอรักใคร่ เพื่อไปส่งที่ห้อง “พี่พาไปดีกว่านะ หนูยังระบมอยู่” ………………………………….🔥❤️ธีทัตอุ้มไปส่งเธอในห้องน้ำเพื่อให้ชำระร่างกาย จนกระทั่งเธอทำอะไรเสร็จแล้วเปิดประตูออกมา เขารีบไปประคองให้มานั่งบนเตียง “เดี๋ยวพี่จะออกไปซื้อยามาให้นะ ขอโทษที่พี่ลืมตัวทำพู่เดือดร้อน”“พี่ธี..ถ้าเขาแอบไขห้องหนูอีกแล้วรู้ว่าเรามีอะไรกัน หนูต้องโดนแน่ๆ แล้วนี่ยังเจ็บอยู่ ถ้าเขาทำอะไรหนูรับไม่ไหวหรอก”“พี่มีวิธี หนูรอแป๊บนึง พี่ไปร้านขายยานอกนี้ก่อนนะ”ธีทัตรีบบึ่งออกไปซื้อยาคุมฉุกเฉินมาให้ แล้วจัดการขนหมอนและผ่าห่มมาให้เธอนอนที่ห้องรับแขก โซฟาเข้ามุมขนาดใหญ่รูปตัวแอลพอที่จะนอนสองคนได้ เขานั่งเปิดโน้ตบุ้คทำงานอะไรไป โดยมีสาวน้อยที่นอนอยู่ส่งยิ้มให้ “พี่จะมานอนค้างที่นี่ทุกวันที่พู่อยู่ แล้วก็..พี่จะเคลียร์เรื่องส่วนตัวให้เรียบร้อยระหว่างที่รอพู่อายุสิบแปด เข้ามหาวิทยาลัยเมื่อไหร่ เราคงต้องคุยกันจริงจังอีกทีว่าต้องอยู่ที่ไหน แต่ไม่ใช่ที่นี่”“ค่ะ เพราะถ้าแม่ท้องบวกกับมีน้อง พู่น่าจะเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว จะได้หาเรื่องไปอยู่หอไม่ก็บ้านพ่อ”“ไม่อยากอยู่กับพี่เหรอ?”พรรณนาราได้ยินคำถามนี้ เธอขยับตัวนอนหันหลังเข้าพนักผิงโซฟาพร้อมกับถอนหายใจแรง“เอ้า..ไหงงั้นล่ะ?”“ให้ทุกอย่างมันถูกต้องกว่านี้
ชรันและพิชามญช์ออกไปแล้ว ไม่นานธีทัตก็เข้ามาและเห็นว่ารถส่วนตัวของพ่อไม่อยู่ เขาเอากระเป๋าสะพายและเสื้อเชิ้ตที่แขวนไว้ที่นั่งด้านหลังออกมาคุณป้าแม่บ้านได้เดินออกมาดูเพราะได้ยินเสียงประตูบ้านและเสียงรถยนต์ที่เข้ามา “สวัสดีค่ะคุณธี เมื่อกี้คุณพ่อกับคุณผู้หญิงพึ่งออกไปเอง ได้ยินว่าไปเที่ยวข้างนอกคงดึกกว่าจะกลับค่ะ ช่วยถือมั้ยคะ?”“ไม่เป็นไรครับ เอ่อ น้องพู่อยู่คนเดียวแบบนี้บ่อยหรือเปล่า? บ้านหลังใหญ่ เด็กอยู่คนเดียวก็คงกลัว”“ไม่หรอกค่ะ ปกติพวกท่านก็ไม่ไปไหนดึกๆนะคะ แล้วนี่คุณธีจะค้างที่นี่ใช่มั้ยคะ? ป้าจะพาไปที่ห้องนะ”“อ้อ ผมไปเองครับ คุณป้าพักผ่อนเถอะ พอดีพรุ่งนี้ผมมีธุระใกล้ที่นี่เลยมานอนค้างจะได้ไม่ต้องตื่นเร็วเพราะรถติด”ธีทัตเดินอ้อมไปดูหน้าต่างด้านข้างที่เป็นห้องของพรรณนาราก็เห็นว่ายังเปิดไฟอยู่ เขารีบเดินขึ้นไปชั้นสอง โยนกระเป๋าไว้บนเตียง แขวนเสื้อในตู้แล้วไปเคาะประตูห้องของเธอ “น้องพู่..หลับหรือยังครับ?”เธอตกใจกับเสียงเคาะประตูจนกลายเป็นความหลอน แต่พอได้ยินเสียงคนที่เธอแอบรักก็ใจเต้นตูมตาม ประตูที่เปิดแง้มพอแค่เห็นครึ่งหน้าของเธอ ทำให้เขาลืมตัวใช้มือจับที่ขอบประตูเพื่ออยาก
ชรันตื่นแต่เช้าในขณะที่พิชามญช์ยังหลับอยู่ เพราะเมื่อคืนหลังจากพรรณนารากลับห้องไปแล้ว เธอลงไปดื่มไวน์ตามลำพังจนหมดขวดแล้วนอนที่โซฟา เขาต้องลงไปอุ้มเธอให้ขึ้นมานอนที่ห้อง“บางครั้งทำไม่รู้ไม่เห็นอะไรเสียบ้างก็ไม่ต้องเจ็บหรอกนะ พิชา..”เขาก้มลงไปพูดกับเธอเบาๆ หอมแก้มแล้วออกไปจากห้องนอนเพื่อไปหาลูกเลี้ยงสาวอีกครั้งพรรณนาราที่กำลังแต่งตัวจะไปเรียน ตกใจที่มีเสียงเคาะประตูในเวลาที่พึ่งจะเจ็ดโมงเช้า “ใคร?”“อาเอง เปิดประตูให้หน่อย แค่จะคุยด้วย”“ไม่มีอะไรจะคุยด้วย อย่ามายุ่งกับหนู”เขาไขประตูเข้ามาได้เหมือนเดิม พรรณนาราที่อยู่ในชุดนักเรียนมัธยมปลายนั้นน่ารักมาก ความเยาว์วัยของเธอทำให้เขาไม่สามารถห้ามใจให้คลั่งไคล้ได้“แม่! แม่คะ! แม่!…..”เธอตะโกนเพราะเขายืนบังประตูจนออกไปไม่ได้ ชรันแค่ยิ้มนิดหน่อยแล้วเดินผ่านเธอไป เขาวางเงินไว้ให้ห้าพันบาทบนโต๊ะเครื่องแป้ง แล้วเดินมาลูบศีรษะเธอด้วยความเสน่หาอย่างสุดหัวใจ“อาจะดูแลหนูกับแม่อย่างดีเลย แค่อย่าพยศมากนักก็พอ”เธอปัดมือเขาอย่างแรง ก็พอดีกับพิชามญช์เดินมาหยุดที่หน้าห้อง “ตะโกนดังลั่นบ้านทำไมพู่กัน?”แม่ถามด้วยน้ำเสียงที่อิดโรยและท่าทางอมทุกข์“
ถึงเวลาอาหารเย็นทุกคนต่างมีท่าทางที่ห่างเหินกันอย่างชัดเจน พิชามญช์ที่กินข้าวเงียบๆ ชรันกินไปดูโทรศัพท์ไป ส่วนพรรณนาราก็ไม่ค่อยเจริญอาหารเท่าไหร่เพราะความเศร้าจากธีทัต “หนูพู่กลับมากี่โมง?”“สี่โมงเกือบห้าค่ะ”ชรันถามขึ้นมาและเธอก็ตอบแบบไม่มองหน้า พิชามญช์หยุดกินข้าวแล้วมองลูกสาว“ไปข้างนอกมาเหรอ?”“ค่ะ พี่ธีมาหา เลยไปเดินเล่นที่ห้างกัน”“พี่ธีน่ะน่ารักนะ แต่พี่เขามีแฟนแล้ว ไปเดินเล่นแบบนั้นถ้าเพื่อนฝูงคนรู้จักมาเห็นเข้าจะทำพวกเขาทะเลาะกัน วันหลังจะทำอะไรคิดให้เยอะๆบ้างพู่ เจอกันที่บ้านนั่งคุยกันอะไรแม่ไม่ว่าหรอกนะ”“หนูบอกพี่ธีแล้วค่ะ ว่าหนูเห็นตัวอย่างแล้วว่าอันไหนดี อันไหนชั่ว หนูจะไม่ทำตามเด็ดขาด ถ้าหนูจะมีแฟน ก็ต้องเป็นแบบพ่อเท่านั้น”พิชามญช์ของขึ้นทันที เธอเขวี้ยงช้อนผ่านหน้าลูกสาวไปแบบเฉียดฉิว “กล้าดียังไงมาย้อนแม่! จะบอกว่าแม่ชั่วงั้นสิ! แล้วหมาตัวไหนเกิดมาเป็นคนได้ ถ้าไม่ใช่เพราะฉันเบ่งออกมา”“พิชา! พูดอะไรน่ะ! หยุดพูดแล้วขึ้นไปข้างบน ไปตั้งสติให้อารมณ์ดีๆแล้วค่อยมาคุยกัน”พรรณนาราน้ำตาคลอเบ้า เธอไม่เคยเจอแม่ด่ารุนแรงแบบนี้มาก่อน แต่ก็เข้าใจดีว่าเพราะเธอพูดจี้ใจดำคนเป็นแม่
ชรันเห็นว่าพรรณนาราปลีกตัวไปแล้ว จึงมีโอกาสก่อนไปทำงานเพื่อคุยกับพิชามญช์“พรุ่งนี้ตอนเช้าเราไปจดทะเบียนสมรสกัน แล้วถ้าท้องจนเด็กอยู่ในระยะปลอดภัย ผมจะโอนให้แปดล้านตามคำขอ”“ลืมเรื่องแม่บ้านชั้นต่ำนั่นไปหรือเปล่า?”“ก็จะเลิกให้ไง”“ถ้าคุณผิดคำพูดล่ะ”“ว่ามาเลยจะให้ผมทำยังไง”“ฉันจะไม่บอกหรอกว่าจะทำยังไง..แต่ฉันทำแน่ คุณทำให้ฉันหันหลังกลับไม่ได้ ก็ต้องไปต่อกันแบบนี้แหละ อย่างน้อยฉันก็ได้รู้ตื้นลึกหนาบางของคุณมากขึ้น และที่คุณยอมรับเงื่อนไขทั้งหมดก็เพราะคุณอยากได้ลูกสาวฉันเท่านั้นเอง มีแต่ฉันที่เป็นฝ่ายรักคุณ”พิชามญช์เสียใจมากจนเป็นความแค้น เธอตาแดงก่ำแทบจะเป็นสีเลือด เมื่อพูดจบก็ผลุนผลันออกจากห้องรับประทานอาหารไป พรรณนารานั่งเล่นอยู่ในห้องตัวเองจนถึงเวลาเที่ยง แม่บ้านได้มาเคาะประตูเรียกให้เธอไปทานข้าว“คุณผู้หญิงบอกป้าให้เอาอาหารมาให้ที่ห้อง แล้วหนูพู่ละคะ?”“หนูลงไปกินเองค่ะ”เธอมองไปที่ประตูห้องของแม่ด้วยความสงสารและเห็นใจ ก่อนจะไปนั่งอ้อยอิ่งกินมื้อเที่ยงเงียบๆคนเดียว ไม่นานนักธีทัตก็ขับรถมาที่บ้าน “พี่ธี..เอ่อ..สวัสดีค่ะ เอ้อ..พี่กินอะไรหรือยังคะ?”“ยังครับ เรียนเสร็จก็มานี่เลย”
ผ่านไปเพียงแค่ยี่สิบนาที พิชามญช์เขย่าตัวลูกสาวเบาๆจนแน่ใจว่าหลับลึกไปแล้ว เธอเดินกลับไปที่ห้องนอน ชรันที่นั่งเอนหลังดูโทรศัพท์อยู่เหลือบมองภรรยาที่มานอนหันหลังให้บนเตียงโดยไม่พูดอะไรสักคำ“พิชา เราควรต้องคุยกันนะ ไม่ใช่เงียบกันไปหมดแบบนี้”“คุยมาสิคะ”“ตอบผมมาก่อนว่าเมื่อคืนคุณทำไมไม่เข้าไปในห้องทำงาน ทั้งที่รู้ว่าผมทำอะไรอยู่”“คุณอยากเลิกกับพิชาใช่มั้ยคะ?”เธอถามชรันกลับทั้งที่ยังนอนหันหลังให้ “ไม่ได้อยากเลิก.. เอาล่ะ..สิ่งต่อไปนี้ที่ผมจะพูดนะ ผมมีความสัมพันธ์กับฟ้าจริงตั้งแต่เจ็ดปีก่อนแล้ว ถึงจะพึ่งมาเจอคุณ เธอเป็นแม่บ้านที่ออฟฟิศ เลี้ยงดูปูเสื่อกันมาตลอด ผมต้องรับผิดชอบเพราะเป็นผู้ชายคนแรกของเธอ แต่เธอไม่เคยใฝ่สูงอะไร เอาเป็นว่า..ผมจะย้ายเธอออกไปจากบ้านนี้”ไม่มีคำขอโทษสักแอะ…ฮึ หน้าตัวเมียจริงๆ…“แล้วต้องไปนอนกับมันด้วยใช่มั้ยคะ? ไม่มีตรงไหนที่บอกว่าจะเลิกกับมัน”“จะให้เลิกยังไง? เธอมาก่อนคุณนะ แถมผมเป็นคนแรกของเธอด้วย”“อ้อ…ค่ะ เมื่อกี้พิชาก็คุยกับลูกว่าอาจเลิกรากับคุณแล้วจะไปหางานทำ ส่วนลูกก็ไปอยู่กับพ่อถาวรเพราะพิชาคงไม่มีความสามารถพอจะเลี้ยงดูได้ดีไปกว่าพ่อเขา พิชามาทีหลังใ