ความสงบที่กลับคืนมาบนสนามหญ้าโรงเรียนริโอะเอนนั้นแสนสั้น คำพูดของ พ่อของโอกิ ที่ว่า "ยังหรอก..." และสายตาของทุกคนที่จับจ้องไปยังท้องฟ้าที่ดูเหมือนปกติ ได้สร้างความกังวลระลอกใหม่ขึ้นมาในใจของเหล่านักเรียนที่เพิ่งจะได้สัมผัสกับความสุขจากการรอดชีวิต
ลุงภารโรง มองขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยแววตาที่เคร่งขรึมและเต็มไปด้วยประสบการณ์อันยาวนาน "เดี๋ยวมันคงมาใหม่อีกแน่..." ท่านเอ่ยเสียงเรียบ แต่คำพูดนั้นกลับหนักอึ้งและเต็มไปด้วยความหมาย เหล่าผู้ปกครองต่างพยักหน้าเห็นด้วย สีหน้าของแต่ละคนเต็มไปด้วยความจริงจัง "ใช่... คืนพรุ่งนี้เราต้องเตรียมรับมือให้ดีกว่านี้" พ่อของเทนชิ เอ่ยขึ้น เสียงของเขาหนักแน่นและเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น ลุงภารโรงหันมามองเหล่านักเรียนที่ยังคงยืนรวมกลุ่มกันอยู่ "เด็กๆ... กลับเข้าไปอยู่ในห้องนั้นก่อน และอย่าออกมาเด็ดขาด" ท่านสั่งด้วยน้ำเสียงที่เด็ดขาด ไม่มีการประนีประนอม เก็น ก้าวออกมาจากกลุ่ม "แล้วพวกลุงจะไปไหนกันครับ?" เขารู้สึกได้ว่าสถานการณ์ยังไม่ปลอดภัยอย่างแท้จริง แม่ของมายู เดินเข้ามาใกล้ลูกชาย "เดี๋ยวพวกฉันจะแยกกันไป ลงอาคม รอบบริเวณโรงเรียนเอาไว้" เธอกล่าวพร้อมกับชูมีดลงอาคมในมือขึ้นเล็กน้อย "คงใช้เวลาสักพักกว่าจะเสร็จ" "ลงอาคม?" ยูเมะ ถามด้วยความสงสัย "ใช่... มันคือคาถาป้องกันโบราณที่ช่วยสร้างกำแพงพลังงานเพื่อยับยั้งไม่ให้ปีศาจเข้ามาได้ง่ายๆ" พ่อของไอโกะ อธิบาย "มันจะช่วยซื้อเวลาให้เราเตรียมตัวได้มากขึ้น" "แต่พวกท่านจะไหวเหรอคะ?" ฟูมิโกะ ถามด้วยความเป็นห่วง เธอเห็นความเหนื่อยล้าบนใบหน้าของผู้ใหญ่ทุกคน ลุงภารโรงยิ้มบางๆ "ไม่ต้องห่วงเด็กๆ... นี่คือหน้าที่ของเรา" ท่านกวาดสายตามองไปยังผู้ปกครองคนอื่นๆ "เราจะจัดการเรื่องนี้เอง พวกเธอไปพักผ่อนซะเถอะ" หลังจากเอ่ยจบ เหล่านักเรียนก็ต่างพยักหน้าอย่างเข้าใจ แม้จะยังคงหวาดกลัว แต่ความเชื่อมั่นในตัวผู้ใหญ่ก็ทำให้พวกเขากลับเข้าสู่ตัวอาคารเรียนอย่างเป็นระเบียบ พวกเขาเดินกลับไปยังห้องเรียน ม.5/B ที่เคยเป็นที่หลบภัยชั่วคราว ประตูถูกปิดลงอย่างแน่นหนา เหลือเพียงความเงียบงันภายในห้อง ขณะเดียวกัน ด้านนอกอาคารเรียน เหล่าผู้ใหญ่ก็เริ่มแยกย้ายกันไปตามจุดต่างๆ รอบบริเวณโรงเรียน ลุงภารโรงเดินไปทางทิศเหนือ พ่อของเก็นไปทางทิศใต้ แม่ของไอโกะไปทางทิศตะวันออก และผู้ปกครองคนอื่นๆ ก็กระจายกันไปตามจุดยุทธศาสตร์ที่พวกเขาเคยศึกษามา แสงสีเงินจากมีดลงอาคมของแต่ละคนส่องสว่างท่ามกลางความมืดมิดของยามค่ำคืน พวกเขาเริ่มร่ายคาถาโบราณ บทสวดที่ดังก้องแผ่วเบาไปตามสายลม พลังงานเวทมนตร์เริ่มแผ่ซ่านออกมาจากมีดลงอาคม ซึมซับลงไปในผืนดินและต้นไม้รอบๆ โรงเรียน สร้างปราการที่มองไม่เห็นขึ้นมาทีละน้อย เวลาล่วงเลยไปอย่างช้าๆ... ยาวนานจนรู้สึกเหมือนเป็นนิรันดร์ แสงสีเงินจากมีดลงอาคมยังคงส่องสว่างอยู่เป็นระยะๆ บ่งบอกถึงการทำงานที่ไม่หยุดหย่อนของเหล่าผู้พิทักษ์ พวกเขาทุ่มเทพลังทั้งหมดเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับภัยคุกคามที่จะมาถึงในค่ำคืนถัดไป จนกระทั่ง... ท้องฟ้าเริ่มสว่างขึ้น! แสงอรุณยามเช้าเริ่มสาดส่องเข้ามาจากขอบฟ้าทางทิศตะวันออก ขับไล่ความมืดมิดออกไปทีละน้อย แสงแดดยามเช้าที่อบอุ่นสาดส่องลงมายังสนามหญ้าที่เคยเป็นสมรภูมิรบ เมื่อคืนนี้มันช่างแตกต่างจากรุ่งอรุณที่เคยเห็นมาอย่างสิ้นเชิง เหล่าผู้ใหญ่ที่อ่อนล้าจากการลงอาคมตลอดทั้งคืน ค่อยๆ เดินกลับมารวมตัวกันที่หน้าห้องเรียน ม.5/B ใบหน้าของแต่ละคนเปื้อนเหงื่อและฝุ่นผง ดวงตาของพวกเขาแดงก่ำด้วยความอ่อนเพลีย แต่ก็ยังคงเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและเด็ดเดี่ยว เมื่อพวกเขามาถึงหน้าห้องเรียน ลุงภารโรงก็เคาะประตูเบาๆ "เด็กๆ... ลุงเอง เปิดประตูหน่อย" เสียงของท่านฟังดูเหนื่อยล้าแต่ก็ยังคงเปี่ยมด้วยพลัง ประตูห้องเรียนถูกเปิดออกอย่างช้าๆ เหล่านักเรียนที่นอนหลับไปบ้าง ตื่นขึ้นมาบ้าง ต่างพากันลุกขึ้นมามองใบหน้าของพ่อแม่และลุงภารโรงด้วยความโล่งอก "ลุง! พวกท่านปลอดภัยดีนะคะ!" ไอโกะ รีบวิ่งเข้าไปหาแม่ของเธอ "พ่อครับ! เสร็จแล้วเหรอครับ?" เก็น ถามด้วยความตื่นเต้น ลุงภารโรงพยักหน้าช้าๆ "ใช่... ลงอาคมเสร็จเรียบร้อยแล้ว" ท่านมองไปยังเหล่านักเรียนและผู้ปกครองคนอื่นๆ "เดี๋ยววันนี้ทุกคนแยกย้ายกลับบ้านกันก่อน... พักผ่อนให้เต็มที่" "แล้วพรุ่งนี้ค่อยมารวมตัวกันใหม่ที่โรงเรียน..." ลุงภารโรงเว้นจังหวะเล็กน้อย ดวงตาของท่านกวาดมองไปยังท้องฟ้าที่สดใส แต่คำพูดที่ตามมานั้นกลับเย็นยะเยือก "เพราะมันคงมาอีกแน่... และครั้งนี้พวกมันคงมามากกว่าเดิม" คำพูดของลุงภารโรงทำให้บรรยากาศแห่งความโล่งอกจางหายไป ความจริงที่ว่าภัยคุกคามยังไม่หมดไป และจะต้องเผชิญหน้ากับมันอีกครั้งในคืนวันพรุ่งนี้ ทำให้ทุกคนรู้สึกหนักใจ "ได้ค่ะ/ครับ" ทุกคนขานรับเสียงแผ่ว บางคนก้มหน้าลงอย่างครุ่นคิด บางคนจับมือพ่อแม่แน่นขึ้น หลังจากนั้น ทุกคนก็ต่างแยกย้ายกลับบ้านของตนเอง การเดินทางกลับบ้านในยามเช้าที่สดใสผิดปกติหลังจากค่ำคืนที่เต็มไปด้วยปีศาจร้าย ทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนกำลังเดินอยู่ท่ามกลางความฝันที่ไม่น่าเชื่อ แต่ร่องรอยของความหวาดกลัวและพลังที่เพิ่งตื่นขึ้นในตัวพวกเขา จะย้ำเตือนว่านี่ไม่ใช่ความฝัน...เสียงร้องโหยหวนของปีศาจที่พ่ายแพ้ในทิศทั้งสี่ไม่ได้นำมาซึ่งความสงบสุขอย่างที่คาดหวัง ตรงกันข้าม... มันกลับเป็นสัญญาณเตือนถึงภัยคุกคามที่ใหญ่หลวงกว่าเดิม วิญญาณปีศาจทั้งสี่ดวงที่หลุดรอดไปต่างมุ่งหน้าสู่ใจกลางเมืองอย่างมีเจตนา เพื่อรวมตัวและก่อกำเนิดเป็นบางสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าเดิม เหล่าทายาทนักเวทย์สายขาวและผู้ปกครองที่เพิ่งเสร็จสิ้นจากการต่อสู้กับปีศาจเงาต่างรับรู้ถึงสัญญาณอันตราย และรีบมุ่งหน้ากลับไปยังที่มั่นสุดท้าย ณ โรงเรียนริโอะเอน[ลานกว้างหน้าโรงเรียนริโอะเอน ยามราตรีลึก]ลมหายใจหอบถี่ของเหล่านักเรียนและผู้ปกครองดังขึ้นระงมขณะที่พวกเขาวิ่งกลับมายังโรงเรียน แสงสีเงินของม่านพลังคุ้มกันที่ลุงภารโรงและผู้ปกครองคนอื่นๆ สร้างขึ้นยังคงส่องสว่าง แต่บัดนี้มันกลับถูกบดบังด้วยเงาทะมึนขนาดมหึมาที่กำลังก่อตัวขึ้นเหนือท้องฟ้าใจกลางเมือง"นั่นมันอะไรน่ะ!?" โกฮัน อุทานด้วยความตกตะลึง ดวงตาเบิกกว้างมองไปยังเงาขนาดมหึมาที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่เหนือโรงเรียนเมื่อพวกเขาเข้ามาใกล้ขึ้น ภาพที่ปรากฏยิ่งน่าขนลุก ปีศาจเงาขนาดมหึมา ซึ่งเกิดจากการรวมตัวของวิญญาณปีศาจทั้งสี่ดวงที่หลุดรอดมา กำลังก่อตัว
ลมกระโชกแรงยามค่ำคืนพัดพาเสียงหวีดหวิว ราวกับเสียงร้องของวิญญาณที่ถูกรบกวน สงครามที่ปะทุขึ้นในสี่ทิศทางทั่วเมืองริโอะเอนยังคงดำเนินไปอย่างดุเดือด เหล่าทายาทนักเวทย์สายขาวและผู้ปกครองต่างเผชิญหน้ากับปีศาจเงาที่กระหายวิญญาณ ม่านพลังคุ้มกันที่โรงเรียนริโอะเอนยังคงเรืองรองในความมืด เป็นประภาคารแห่งความหวังเดียวท่ามกลางความโกลาหลสมรภูมิตะวันออก: การต่อสู้ในสวนสาธารณะโบราณทีมทิศตะวันออก นำโดย คาชิมิ (ผู้ปกป้องธรรมชาติและผู้ชำระล้างจิตวิญญาณ), เคนตะ (ผู้สยบพลังงานและผู้พิทักษ์มิติ), บาระ (ผู้รักษากฎและผู้พิพากษา), เร็น (ผู้ชี้ชะตาและผู้ควบคุมโชคชะตา) และผู้ปกครองของพวกเขา ต่างมุ่งหน้าสู่ทิศตะวันออกที่เข็มนาฬิกาอาคมของเคนตะสั่นสะเทือนอย่างบ้าคลั่ง แสงสีเงินวาวบนหน้าปัดเต้นระริกบ่งบอกถึงการบิดเบือนพลังงานที่รุนแรง จนกระทั่งพวกเขามาหยุดอยู่ที่หน้า สวนสาธารณะโบราณ ที่เงียบสงัด ต้นไม้ใหญ่อายุหลายร้อยปีทอดเงาปริศนาปกคลุมทั่วบริเวณ เสียงโหยหวนของวิญญาณต้นไม้และสัตว์ต่างๆ ดังแว่วออกมาจากความมืดมิด"ปีศาจมันกัดกินธรรมชาติแถวนี้!" คาชิมิกล่าวเสียงแผ่ว ใบหน้าของเธอซีดเผือดด้วยความเจ็บปวด เธอสัมผัสได้
ราตรีนี้ไม่ได้นำมาซึ่งความเงียบสงบ แต่กลับเป็นพยานแห่งสงครามที่อุบัติขึ้นในสี่ทิศทางทั่วเมืองริโอะเอน เหล่าทายาทนักเวทย์สายขาวและผู้ปกครองของพวกเขาต่างแยกย้ายกันไปเผชิญหน้ากับปีศาจเงาที่กำลังพยายามกลืนกินวิญญาณสิ่งมีชีวิตเพื่อเพิ่มพูนพลัง ม่านพลังคุ้มกันที่โรงเรียนริโอะเอนส่องสว่างเรืองรองในความมืดมิด เป็นเพียงสัญญาณแห่งความหวังเดียวท่ามกลางสมรภูมิที่กำลังปะทุขึ้นสมรภูมิเหนือ: การเผชิญหน้าในโรงพยาบาลร้างทีมทิศเหนือ นำโดย ฮานา (ผู้เชื่อมโยงและทำนาย), โกฮัน (ผู้นำทัพและผู้ทำลายล้าง), มายู (ผู้บันทึกและถ่ายทอด), โอกิ (ผู้โจมตีระยะไกล) และผู้ปกครองของพวกเขา ต่างมุ่งหน้าสู่ทิศเหนือที่เข็มนาฬิกาอาคมของฮานาชี้ไปอย่างไม่หยุดยั้ง แสงสีเขียวมรกตบนหน้าปัดเต้นระริก บอกถึงกระแสพลังงานปีศาจที่เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งพวกเขามาหยุดอยู่ที่หน้า โรงพยาบาลร้างแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางความมืดมิด เสียงกรีดร้องโหยหวนของวิญญาณที่ถูกรบกวนดังแว่วออกมาจากภายใน"ที่นี่แหละ..." ฮานากล่าวเสียงแผ่ว ใบหน้าซีดเผือด "พลังงานมันเข้มข้นมาก... ปีศาจเงาอยู่ข้างในนี้เยอะแยะเลย""เตรียมพร้อม!" โกฮันสั่งเสี
ความมืดของราตรีทอดยาวปกคลุมเมือง บรรยากาศเงียบงันผิดปกติ ชวนให้ใจหวั่น ลานกว้างหน้าโรงเรียนริโอะเอนที่เคยเป็นศูนย์รวมของความวุ่นวายเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยความเงียบงันและกลุ่มผู้ปกครองที่กำลังร่วมกันร่ายคาถาเพื่อสร้างม่านพลังคุ้มกันขนาดใหญ่ที่เรืองรองอยู่รอบรั้วโรงเรียน พวกเขามุ่งมั่นที่จะปกป้องสถานที่แห่งนี้ให้เป็นที่มั่นสุดท้ายเมื่อม่านพลังก่อตัวขึ้นอย่างสมบูรณ์ แสงเรืองรองสีเงินอ่อนๆ ก็แผ่กระจายไปทั่วบริเวณ ให้ความรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย ทว่า... ความปลอดภัยนั้นกลับแฝงด้วยความผิดปกติ[ลานกว้างหน้าโรงเรียนริโอะเอน ยามราตรี]เสียงบทสวดมนต์ของเหล่าผู้ปกครองค่อยๆ แผ่วลง เมื่อม่านพลังคุ้มกันปรากฏขึ้นเป็นรูปทรงโดมขนาดใหญ่ ครอบคลุมโรงเรียนเอาไว้ แสงสีเงินวูบไหวราวกับเกราะป้องกันที่มองไม่เห็น ผู้ปกครองหลายคนถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่บางคนกลับรู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างที่ผิดแปลกไป"ฉันว่ามันแปลกๆ แล้วนะครับ..." ผู้ปกครองคนหนึ่ง (พ่อของโอกิ) เอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ดวงตาจับจ้องไปยังท้องฟ้าที่มืดมิดไร้แสงจันทร์ "ไร้วี่แววของปีศาจเงาเลย... ทั้งๆ ที่เมื่อคืนพวกมันอาละวาดหน
แสงอาทิตย์ยามบ่ายค่อยๆ เลือนหายไปจากขอบฟ้า เหลือเพียงความมืดมิดที่เริ่มคืบคลานเข้ามาปกคลุมเมือง ความหวาดหวั่นปะปนกับความมุ่งมั่นในใจของเหล่านักเรียนที่เพิ่งรับรู้ถึงพลังและภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่ของตระกูลตนเอง เรื่องเล่าจากบรรพบุรุษที่ถูกส่งต่อมาหลายชั่วอายุคนได้ปลุกจิตวิญญาณแห่งนักเวทย์สายขาวให้ตื่นขึ้นอย่างสมบูรณ์ พวกเขาต่างรู้สึกตกตะลึงกับความสามารถที่ซ่อนเร้น แต่ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิใจและพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับชะตากรรมที่รออยู่เมื่อความมืดของราตรีเริ่มปกคลุม ทุกครอบครัวต่างเดินทางมารวมตัวกันที่ลานกว้างหน้าโรงเรียนริโอะเอน อันเป็นจุดนัดหมายและเป็นที่ตั้งของม่านพลังคุ้มกันที่แข็งแกร่งที่สุด[ลานกว้างหน้าโรงเรียนริโอะเอน ยามสนธยา]ลมเย็นยามค่ำพัดเอื่อยๆ พากลิ่นดอกไม้ป่าผสมกับความชื้นของดินชวนให้ใจสงบ แต่บรรยากาศโดยรอบกลับเต็มไปด้วยความตึงเครียด แสงไฟสลัวๆ จากโคมไฟหน้าโรงเรียนส่องกระทบใบหน้าของเหล่านักเรียนและผู้ปกครองที่ยืนรอคอยกันอย่างเงียบงันลุงภารโรง ยืนอยู่ตรงกลางลาน สายตาคมกริบกวาดมองไปรอบๆ ราวกับกำลังสำรวจสิ่งผิดปกติที่ซ่อนอยู่ในเงามืด เขาดูสุขุมกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาในช
บ้านของฮารุกะ: ตำนานแห่งผู้ร่ายรำพลังและผู้ขับไล่วิญญาณฮารุกะ ก้าวเข้ามาในบ้านด้วยความเหนื่อยล้าพร้อมกับคุณพ่อและคุณแม่ ทันทีที่ประตูเปิดออก คุณตา และ คุณยาย ของเธอก็รีบเข้ามาสวมกอดหลานสาวด้วยความโล่งใจและน้ำตาคลอเบ้า"ฮารุกะ! หลานรักของตา! ไม่เป็นอะไรใช่ไหมลูก?" คุณตาถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ พลางลูบผมของฮารุกะเบาๆคุณยายพยักหน้าเห็นด้วย "ยายเป็นห่วงแทบแย่เลยลูก! เมื่อคืนได้ยินเสียงดังสนั่นหวั่นไหวไปหมด! ใจจะขาด!"ฮารุกะรู้สึกอบอุ่นในอ้อมกอดของท่านทั้งสอง เธอผละออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยคำถาม "ตาคะ... ยายคะ... พ่อคะ... แม่คะ... เรื่องเมื่อคืนนี้... ปีศาจเงา... แล้วก็พลังที่เรามีกัน... มันคืออะไรกันแน่คะ? หนูอยากรู้เรื่องทั้งหมดค่ะ"คุณตาของฮารุกะถอนหายใจช้าๆ ท่านพาฮารุกะไปนั่งที่เก้าอี้ไม้แกะสลักตัวเก่าแก่ในห้องนั่งเล่น ก่อนจะเริ่มต้นเล่าด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำแต่เต็มไปด้วยพลังแห่งความเชื่อมั่นในอดีต"เรื่องนี้มันถูกเล่าสืบต่อกันมาในตระกูลของเรา ตั้งแต่สมัยทวดของทวดของตาเลยนะฮารุกะ" คุณตาเริ่มต้น "ในสมัยที่ปีศาจเงาออกอาละวาดอย่างหนักนั้น พวกมันไม่ได้เพียง