เสียงคาถาของ เก็น ดังก้องไปทั่วสนามหญ้าโรงเรียนริโอะเอน ท่ามกลางเสียงกรีดร้องอันบ้าคลั่งของเหล่าปีศาจเงาที่พุ่งเข้ามาไม่หยุดยั้ง ลุงภารโรง และเหล่าผู้ปกครองยังคงตรึงกำลังป้องกันอย่างสุดกำลัง มีดลงอาคมสีเงินส่องประกายเจิดจ้าตัดกับความมืดมิดของยามค่ำคืน
ภายในวงกลมแห่งการป้องกัน เหล่านักเรียนทั้ง 20 คนจับมือกันแน่น แสงสีทองจากหนังสือคาถาอาคมในมือของเก็นสว่างจ้าขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับพลังงานมหาศาลที่หลั่งไหลจากเพื่อนๆ เข้าสู่ร่างของเขา และทันทีที่แสงสว่างจ้าเริ่มสว่างขึ้นเรื่อย ๆ! กรี๊ดดด! เสียงกรีดร้องโหยหวนที่เจ็บปวดทรมานดังขึ้นจากเหล่าปีศาจเงาที่ดาหน้าเข้าโจมตีพวกเขานับร้อยนับพันตน เสียงนั้นเต็มไปด้วยความเกลียดชังและหวาดกลัวอย่างที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน พร้อมกันนั้นเอง... ร่างของพวกมันก็เริ่มสั่นไหวอย่างรุนแรง! ราวกับถูกพลังงานบางอย่างที่มองไม่เห็นกระแทกใส่จากภายใน และแล้ว... ร่างของพวกมันก็เริ่มจางหายไปทีละตัว! ไม่ใช่การแตกสลายแบบถูกกำจัดด้วยมีดลงอาคม แต่เป็นการจางหายไปอย่างช้าๆ กลืนหายไปในอากาศราวกับไม่ได้มีอยู่จริง ปีศาจเงาตนแล้วตนเล่ากรีดร้องโหยหวนเมื่อร่างกายของพวกมันค่อยๆ สลายไปในอากาศต่อหน้าต่อตา ทุกคนต่างมองภาพนั้นด้วยความทึ่งและความโล่งอก พลังเวทมนตร์จากคาถาที่เก็นร่าย และพลังที่นักเรียนคนอื่นๆ ส่งมาให้ ได้ปลดปล่อยพลังงานมหาศาลที่มองไม่เห็นออกมา แผ่กระจายไปทั่วสนามหญ้า ไล่ล่าและกำจัดเหล่าปีศาจเงาให้หายไปจากโลกนี้ เมื่อปีศาจเงาตนสุดท้ายกรีดร้องและจางหายไปในอากาศ... ท้องฟ้าที่เคยถูกปกคลุมไปด้วยความมืดมิดผิดปกติ ที่เกิดจากพลังของเหล่าปีศาจเงา บัดนี้ก็เริ่ม กลับมาเป็นท้องฟ้ายามราตรีปกติอีกครั้ง! แสงจันทร์ที่เคยส่องสลัวๆ บัดนี้กลับส่องประกายเจิดจ้าลงมายังผืนโลก เผยให้เห็นสนามหญ้าที่เคยเป็นสมรภูมิรบที่ดุเดือด บัดนี้กลับสงบเงียบลงอย่างน่าประหลาด เสียงลมพายุที่เคยโหมกระหน่ำก็ค่อยๆ สงบลง เหลือเพียงเสียงลมเบาๆ พัดพริ้วไหว ต้นไม้ที่เคยลู่ไปตามแรงลมก็กลับมายืนต้นตรงอย่างสง่างามอีกครั้ง ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้ง... แต่ครั้งนี้เป็นความเงียบที่เต็มไปด้วยความโล่งอกและความสุข "เย้! พวกเราทำได้!" เสียงอุทานด้วยความดีใจดังขึ้นจาก ดาอิ และ ไดชิ แฝดชายหญิงคู่นั้น ต่างพุ่งเข้ากอดกันแน่น ใบหน้าเปื้อนยิ้มและน้ำตาที่ไหลรินด้วยความสุข นักเรียนคนอื่นๆ ที่ยังคงจับมือกันแน่น ต่างก็เริ่มส่งเสียงเฮลั่นด้วยความดีใจ บางคนถึงกับกระโดดโลดเต้นอย่างบ้าคลั่ง บางคนปล่อยมือจากเพื่อนแล้วโผเข้ากอดกันเองด้วยความตื้นตันใจ "เราทำได้แล้ว!" ยูเมะ กรีดร้องด้วยความดีใจ น้ำตาไหลพรากด้วยความสุข เธอโผเข้ากอด ไอโกะ และ ฟูมิโกะ อย่างแน่นหนา "เก่งมากจริงๆ พวกเธอ!" ลุงภารโรง เอ่ยชมด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ ใบหน้าของท่านแม้จะเปื้อนคราบเหงื่อและฝุ่น แต่รอยยิ้มที่อ่อนโยนก็ปรากฏขึ้นที่มุมปาก ท่านมองไปยังเหล่านักเรียนที่กำลังฉลองชัยชนะด้วยความอบอุ่น เหล่าผู้ปกครองที่ยืนอยู่ในแนวป้องกัน ก็ต่างพากันเดินเข้ามาหาลูกๆ ของพวกเขา ใบหน้าของแต่ละคนเต็มไปด้วยความโล่งอกและความภาคภูมิใจเช่นกัน พวกเขาตบไหล่ลูกๆ ลูบหัว และโอบกอดพวกเขาอย่างอบอุ่น "ลูกพ่อเก่งมาก!" พ่อของเก็น เอ่ยชม พร้อมกับตบไหล่ลูกชายเบาๆ "แม่ไม่เคยคิดเลยว่าลูกจะทำได้ถึงขนาดนี้" แม่ของไอโกะ เอ่ยด้วยความตื้นตันใจ ท่ามกลางบรรยากาศแห่งความสุขและการเฉลิมฉลองชัยชนะ เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากในกลุ่มนักเรียน "แบบนี้เราก็จัดการมันได้หมดแล้วใช่ไหมคะ?" เสียงของนักเรียนคนหนึ่งเอ่ยขึ้นอย่างมีความหวัง เธอมองไปยังท้องฟ้ายามราตรีที่กลับมาเป็นปกติ แต่แล้ว... เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นอย่างช้าๆ จากในกลุ่มผู้ปกครอง "ยังหรอก..." เสียงของ พ่อของโอกิ เอ่ยขึ้น น้ำเสียงของเขาเรียบแต่แฝงไปด้วยความจริงจังที่น่าขนลุก คำพูดนั้นทำให้ความสุขของเหล่านักเรียนพลันหยุดชะงักลง พวกเขาต่างเงียบเสียงลงอย่างรวดเร็ว และมองไปยังพ่อของโอกิด้วยความสงสัยระคนกังวล พ่อของโอกิไม่พูดอะไรต่อ เขากลับแหงนหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้าในยามค่ำคืนที่เพิ่งกลับมาเป็นปกติ ใบหน้าของเขาเคร่งขรึมและแววตาก็ฉายแววกังวลอย่างเห็นได้ชัด เหล่านักเรียนและผู้ปกครองคนอื่นๆ ต่างพากัน แหงนหน้าไปมองท้องฟ้าในยามค่ำคืน ตามที่พ่อของโอกิมอง เมื่อมองไปที่ท้องฟ้า... พวกเขาไม่เห็นอะไรผิดปกติ นอกจากดวงดาวที่เริ่มส่องแสงระยิบระยับ และดวงจันทร์ที่สาดส่องลงมาอย่างสงบนิ่ง แต่แล้ว... บางสิ่งบางอย่างที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ก็เริ่มสั่นไหวอยู่บนท้องฟ้า... ลุงภารโรงมองตามขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความจริงจัง ท่านรู้ดีว่านี่ไม่ใช่จุดจบ แต่เป็นเพียงการเริ่มต้นของสงครามที่แท้จริงเสียงร้องโหยหวนของปีศาจที่พ่ายแพ้ในทิศทั้งสี่ไม่ได้นำมาซึ่งความสงบสุขอย่างที่คาดหวัง ตรงกันข้าม... มันกลับเป็นสัญญาณเตือนถึงภัยคุกคามที่ใหญ่หลวงกว่าเดิม วิญญาณปีศาจทั้งสี่ดวงที่หลุดรอดไปต่างมุ่งหน้าสู่ใจกลางเมืองอย่างมีเจตนา เพื่อรวมตัวและก่อกำเนิดเป็นบางสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าเดิม เหล่าทายาทนักเวทย์สายขาวและผู้ปกครองที่เพิ่งเสร็จสิ้นจากการต่อสู้กับปีศาจเงาต่างรับรู้ถึงสัญญาณอันตราย และรีบมุ่งหน้ากลับไปยังที่มั่นสุดท้าย ณ โรงเรียนริโอะเอน[ลานกว้างหน้าโรงเรียนริโอะเอน ยามราตรีลึก]ลมหายใจหอบถี่ของเหล่านักเรียนและผู้ปกครองดังขึ้นระงมขณะที่พวกเขาวิ่งกลับมายังโรงเรียน แสงสีเงินของม่านพลังคุ้มกันที่ลุงภารโรงและผู้ปกครองคนอื่นๆ สร้างขึ้นยังคงส่องสว่าง แต่บัดนี้มันกลับถูกบดบังด้วยเงาทะมึนขนาดมหึมาที่กำลังก่อตัวขึ้นเหนือท้องฟ้าใจกลางเมือง"นั่นมันอะไรน่ะ!?" โกฮัน อุทานด้วยความตกตะลึง ดวงตาเบิกกว้างมองไปยังเงาขนาดมหึมาที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่เหนือโรงเรียนเมื่อพวกเขาเข้ามาใกล้ขึ้น ภาพที่ปรากฏยิ่งน่าขนลุก ปีศาจเงาขนาดมหึมา ซึ่งเกิดจากการรวมตัวของวิญญาณปีศาจทั้งสี่ดวงที่หลุดรอดมา กำลังก่อตัว
ลมกระโชกแรงยามค่ำคืนพัดพาเสียงหวีดหวิว ราวกับเสียงร้องของวิญญาณที่ถูกรบกวน สงครามที่ปะทุขึ้นในสี่ทิศทางทั่วเมืองริโอะเอนยังคงดำเนินไปอย่างดุเดือด เหล่าทายาทนักเวทย์สายขาวและผู้ปกครองต่างเผชิญหน้ากับปีศาจเงาที่กระหายวิญญาณ ม่านพลังคุ้มกันที่โรงเรียนริโอะเอนยังคงเรืองรองในความมืด เป็นประภาคารแห่งความหวังเดียวท่ามกลางความโกลาหลสมรภูมิตะวันออก: การต่อสู้ในสวนสาธารณะโบราณทีมทิศตะวันออก นำโดย คาชิมิ (ผู้ปกป้องธรรมชาติและผู้ชำระล้างจิตวิญญาณ), เคนตะ (ผู้สยบพลังงานและผู้พิทักษ์มิติ), บาระ (ผู้รักษากฎและผู้พิพากษา), เร็น (ผู้ชี้ชะตาและผู้ควบคุมโชคชะตา) และผู้ปกครองของพวกเขา ต่างมุ่งหน้าสู่ทิศตะวันออกที่เข็มนาฬิกาอาคมของเคนตะสั่นสะเทือนอย่างบ้าคลั่ง แสงสีเงินวาวบนหน้าปัดเต้นระริกบ่งบอกถึงการบิดเบือนพลังงานที่รุนแรง จนกระทั่งพวกเขามาหยุดอยู่ที่หน้า สวนสาธารณะโบราณ ที่เงียบสงัด ต้นไม้ใหญ่อายุหลายร้อยปีทอดเงาปริศนาปกคลุมทั่วบริเวณ เสียงโหยหวนของวิญญาณต้นไม้และสัตว์ต่างๆ ดังแว่วออกมาจากความมืดมิด"ปีศาจมันกัดกินธรรมชาติแถวนี้!" คาชิมิกล่าวเสียงแผ่ว ใบหน้าของเธอซีดเผือดด้วยความเจ็บปวด เธอสัมผัสได้
ราตรีนี้ไม่ได้นำมาซึ่งความเงียบสงบ แต่กลับเป็นพยานแห่งสงครามที่อุบัติขึ้นในสี่ทิศทางทั่วเมืองริโอะเอน เหล่าทายาทนักเวทย์สายขาวและผู้ปกครองของพวกเขาต่างแยกย้ายกันไปเผชิญหน้ากับปีศาจเงาที่กำลังพยายามกลืนกินวิญญาณสิ่งมีชีวิตเพื่อเพิ่มพูนพลัง ม่านพลังคุ้มกันที่โรงเรียนริโอะเอนส่องสว่างเรืองรองในความมืดมิด เป็นเพียงสัญญาณแห่งความหวังเดียวท่ามกลางสมรภูมิที่กำลังปะทุขึ้นสมรภูมิเหนือ: การเผชิญหน้าในโรงพยาบาลร้างทีมทิศเหนือ นำโดย ฮานา (ผู้เชื่อมโยงและทำนาย), โกฮัน (ผู้นำทัพและผู้ทำลายล้าง), มายู (ผู้บันทึกและถ่ายทอด), โอกิ (ผู้โจมตีระยะไกล) และผู้ปกครองของพวกเขา ต่างมุ่งหน้าสู่ทิศเหนือที่เข็มนาฬิกาอาคมของฮานาชี้ไปอย่างไม่หยุดยั้ง แสงสีเขียวมรกตบนหน้าปัดเต้นระริก บอกถึงกระแสพลังงานปีศาจที่เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งพวกเขามาหยุดอยู่ที่หน้า โรงพยาบาลร้างแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางความมืดมิด เสียงกรีดร้องโหยหวนของวิญญาณที่ถูกรบกวนดังแว่วออกมาจากภายใน"ที่นี่แหละ..." ฮานากล่าวเสียงแผ่ว ใบหน้าซีดเผือด "พลังงานมันเข้มข้นมาก... ปีศาจเงาอยู่ข้างในนี้เยอะแยะเลย""เตรียมพร้อม!" โกฮันสั่งเสี
ความมืดของราตรีทอดยาวปกคลุมเมือง บรรยากาศเงียบงันผิดปกติ ชวนให้ใจหวั่น ลานกว้างหน้าโรงเรียนริโอะเอนที่เคยเป็นศูนย์รวมของความวุ่นวายเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยความเงียบงันและกลุ่มผู้ปกครองที่กำลังร่วมกันร่ายคาถาเพื่อสร้างม่านพลังคุ้มกันขนาดใหญ่ที่เรืองรองอยู่รอบรั้วโรงเรียน พวกเขามุ่งมั่นที่จะปกป้องสถานที่แห่งนี้ให้เป็นที่มั่นสุดท้ายเมื่อม่านพลังก่อตัวขึ้นอย่างสมบูรณ์ แสงเรืองรองสีเงินอ่อนๆ ก็แผ่กระจายไปทั่วบริเวณ ให้ความรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย ทว่า... ความปลอดภัยนั้นกลับแฝงด้วยความผิดปกติ[ลานกว้างหน้าโรงเรียนริโอะเอน ยามราตรี]เสียงบทสวดมนต์ของเหล่าผู้ปกครองค่อยๆ แผ่วลง เมื่อม่านพลังคุ้มกันปรากฏขึ้นเป็นรูปทรงโดมขนาดใหญ่ ครอบคลุมโรงเรียนเอาไว้ แสงสีเงินวูบไหวราวกับเกราะป้องกันที่มองไม่เห็น ผู้ปกครองหลายคนถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่บางคนกลับรู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างที่ผิดแปลกไป"ฉันว่ามันแปลกๆ แล้วนะครับ..." ผู้ปกครองคนหนึ่ง (พ่อของโอกิ) เอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ดวงตาจับจ้องไปยังท้องฟ้าที่มืดมิดไร้แสงจันทร์ "ไร้วี่แววของปีศาจเงาเลย... ทั้งๆ ที่เมื่อคืนพวกมันอาละวาดหน
แสงอาทิตย์ยามบ่ายค่อยๆ เลือนหายไปจากขอบฟ้า เหลือเพียงความมืดมิดที่เริ่มคืบคลานเข้ามาปกคลุมเมือง ความหวาดหวั่นปะปนกับความมุ่งมั่นในใจของเหล่านักเรียนที่เพิ่งรับรู้ถึงพลังและภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่ของตระกูลตนเอง เรื่องเล่าจากบรรพบุรุษที่ถูกส่งต่อมาหลายชั่วอายุคนได้ปลุกจิตวิญญาณแห่งนักเวทย์สายขาวให้ตื่นขึ้นอย่างสมบูรณ์ พวกเขาต่างรู้สึกตกตะลึงกับความสามารถที่ซ่อนเร้น แต่ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิใจและพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับชะตากรรมที่รออยู่เมื่อความมืดของราตรีเริ่มปกคลุม ทุกครอบครัวต่างเดินทางมารวมตัวกันที่ลานกว้างหน้าโรงเรียนริโอะเอน อันเป็นจุดนัดหมายและเป็นที่ตั้งของม่านพลังคุ้มกันที่แข็งแกร่งที่สุด[ลานกว้างหน้าโรงเรียนริโอะเอน ยามสนธยา]ลมเย็นยามค่ำพัดเอื่อยๆ พากลิ่นดอกไม้ป่าผสมกับความชื้นของดินชวนให้ใจสงบ แต่บรรยากาศโดยรอบกลับเต็มไปด้วยความตึงเครียด แสงไฟสลัวๆ จากโคมไฟหน้าโรงเรียนส่องกระทบใบหน้าของเหล่านักเรียนและผู้ปกครองที่ยืนรอคอยกันอย่างเงียบงันลุงภารโรง ยืนอยู่ตรงกลางลาน สายตาคมกริบกวาดมองไปรอบๆ ราวกับกำลังสำรวจสิ่งผิดปกติที่ซ่อนอยู่ในเงามืด เขาดูสุขุมกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาในช
บ้านของฮารุกะ: ตำนานแห่งผู้ร่ายรำพลังและผู้ขับไล่วิญญาณฮารุกะ ก้าวเข้ามาในบ้านด้วยความเหนื่อยล้าพร้อมกับคุณพ่อและคุณแม่ ทันทีที่ประตูเปิดออก คุณตา และ คุณยาย ของเธอก็รีบเข้ามาสวมกอดหลานสาวด้วยความโล่งใจและน้ำตาคลอเบ้า"ฮารุกะ! หลานรักของตา! ไม่เป็นอะไรใช่ไหมลูก?" คุณตาถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ พลางลูบผมของฮารุกะเบาๆคุณยายพยักหน้าเห็นด้วย "ยายเป็นห่วงแทบแย่เลยลูก! เมื่อคืนได้ยินเสียงดังสนั่นหวั่นไหวไปหมด! ใจจะขาด!"ฮารุกะรู้สึกอบอุ่นในอ้อมกอดของท่านทั้งสอง เธอผละออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยคำถาม "ตาคะ... ยายคะ... พ่อคะ... แม่คะ... เรื่องเมื่อคืนนี้... ปีศาจเงา... แล้วก็พลังที่เรามีกัน... มันคืออะไรกันแน่คะ? หนูอยากรู้เรื่องทั้งหมดค่ะ"คุณตาของฮารุกะถอนหายใจช้าๆ ท่านพาฮารุกะไปนั่งที่เก้าอี้ไม้แกะสลักตัวเก่าแก่ในห้องนั่งเล่น ก่อนจะเริ่มต้นเล่าด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำแต่เต็มไปด้วยพลังแห่งความเชื่อมั่นในอดีต"เรื่องนี้มันถูกเล่าสืบต่อกันมาในตระกูลของเรา ตั้งแต่สมัยทวดของทวดของตาเลยนะฮารุกะ" คุณตาเริ่มต้น "ในสมัยที่ปีศาจเงาออกอาละวาดอย่างหนักนั้น พวกมันไม่ได้เพียง