ทันทีที่เหล่านักเรียนห้อง ม.5/B ทั้ง 20 คนก้าวเท้าพ้นธรณีประตูอาคารเรียนริโอะ ความมืดมิดและความเย็นยะเยือกของยามค่ำคืนก็เข้าปกคลุมร่างกายราวกับผ้าห่มสีดำผืนใหญ่ ลมพัดแรงจนเส้นผมปลิวไสวปะทะใบหน้า แสงจันทร์ที่เคยส่องสลัวๆ ก็ถูกบดบังด้วยหมู่เมฆทะมึนที่ดูเหมือนจะลอยต่ำลงมาอีกครั้ง เสียงคำรามของปีศาจจากภายนอกอาคารที่พวกเขาได้ยินก่อนหน้านี้ บัดนี้กลับเงียบหายไปอย่างน่าขนลุก ทิ้งไว้เพียงความเงียบงันที่น่าหวาดหวั่นกว่าเดิม
ทุกคนยังคงจับมือกันแน่นเป็นแถวยาว ความอบอุ่นจากฝ่ามือที่ประสานกันคือสิ่งเดียวที่ช่วยให้พวกเขารู้สึกปลอดภัยท่ามกลางความมืดมิดและอันตรายที่มองไม่เห็น ไอโกะ ซึ่งเป็นผู้นำของกลุ่มในตอนนี้ กำมือ ฮารุกะ ไว้แน่น เธอพยายามก้าวเดินอย่างมั่นคง แม้ขาจะสั่นระริกด้วยความหวาดกลัว แต่แล้ว... สิ่งที่ปรากฏแก่สายตาของพวกเขาเมื่อเดินพ้นแนวพุ่มไม้เตี้ยๆ ออกไป ก็ทำให้ทุกคนต้อง เบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง! เบื้องหน้าของพวกเขา ตรงบริเวณสนามหญ้ากว้างขวางของโรงเรียน ภาพที่เห็นคือ เงาปีศาจขนาดมหึมาจำนวนหลายตนกำลังยืนตระหง่านอยู่! ร่างกายของพวกมันสูงใหญ่และบิดเบี้ยว ดวงตาแดงก่ำราวถ่านไฟที่ลุกโชนกำลังส่องแสงท่ามกลางความมืดมิด และที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่านั้นคือ... พวกมันไม่ได้ยืนอยู่เฉยๆ แต่กำลัง กัดกินสิ่งมีชีวิต! ภาพอันน่าหดหู่ปรากฏต่อสายตาของพวกเขา เมื่อเห็นเงาปีศาจตนหนึ่งกำลังใช้กรงเล็บอันใหญ่โตเสียบทะลุร่างของ กระต่ายสีขาวตัวหนึ่ง ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงของโรงเรียนที่ชอบออกมาวิ่งเล่นในสวนยามเช้า เสียงร้องครางอย่างทรมานของกระต่ายดังแผ่วเบา ก่อนที่ร่างของมันจะอ่อนปวกเปียกและค่อยๆ สลายกลายเป็นกลุ่มควันสีดำ ถูกดูดกลืนเข้าไปในร่างของปีศาจเงาอย่างช้าๆ ราวกับวิญญาณกำลังถูกกัดกินไปทีละน้อย ภาพนั้นช่างน่าสยดสยองและโหดร้ายเกินกว่าที่พวกเขาจะจินตนาการได้ ความจริงอันเจ็บปวดว่าปีศาจเหล่านี้กำลังกัดกิน "วิญญาณ" ของสิ่งมีชีวิตได้ปรากฏต่อหน้าพวกเขาแล้ว "นี่มัน... อะไรกัน!" ยูเมะ กรีดร้องออกมาเสียงหลง ใบหน้าของเธอซีดเผือดจนขาวซีด ราวกับเลือดในกายเหือดหายไปหมดแล้ว เธอถึงกับทรุดลงกับพื้น แต่ก็ยังคงกุมมือเพื่อนไว้แน่น ฟูมิโกะ รีบเข้ามากอดยูเมะแน่น "กรี๊ดดด! น่ากลัวจังเลย! พวกมันกำลังกิน...!" เธอพูดไม่ออก น้ำตาไหลพรากด้วยความหวาดกลัว เคนตะ ถึงกับยืนตัวแข็งทื่อ ตาเบิกกว้างด้วยความตกใจและขยะแขยง "พวกมัน... พวกมันกินสัตว์เลี้ยงของโรงเรียน!" โช กำหมัดแน่น ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น "ปีศาจพวกนี้... บังอาจมาก!" ไอโกะ พยายามรวบรวมสติทั้งหมดที่เหลืออยู่ แม้หัวใจจะเต้นระรัวและร่างกายจะสั่นสะท้านไปหมด เธอกวาดสายตามองไปรอบๆ และเห็นเงาปีศาจอีกหลายตนกำลังเคลื่อนไหวอยู่ห่างออกไป "อย่าไปสนใจพวกมัน! เราต้องรีบไปหาคุณลุงภารโรงกันเถอะ!" ไอโกะพยายามพูดให้เสียงดังและมั่นคงที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อเรียกสติเพื่อนๆ เก็น พยักหน้าเห็นด้วย เขาจับมือไอโกะแน่นขึ้น "ไอโกะพูดถูก! เราต้องรีบไปจากที่นี่ก่อนที่พวกมันจะเห็นเรา!" ทุกคนเริ่มขยับตัวอย่างระมัดระวัง พยายามเดินไปในทิศทางที่คิดว่าลุงภารโรงน่าจะไป โดยหวังว่าจะไม่ดึงดูดความสนใจจากปีศาจเงาเหล่านั้น แต่แล้ว... เหมือนโชคชะตาเล่นตลก ในจังหวะที่ทุกคนกำลังจะเดินลับแนวพุ่มไม้เตี้ยๆ ออกไปนั้นเอง... เงาปีศาจตนหนึ่ง ที่กำลังยืนกัดกินวิญญาณกระต่ายอยู่ห่างออกไปเพียงไม่กี่เมตร จู่ๆ ก็หันขวับมาทางพวกเขา! ดวงตาแดงก่ำของมันจ้องมองมายังกลุ่มนักเรียนที่จับมือกันเป็นแถวยาว แววตาของมันฉายแววรับรู้และกระหายอย่างน่าขนลุก "มัน... มันเห็นเราแล้ว!" คิชิโระ อุทานเสียงหลง ตัวแข็งทื่อราวกับถูกสาปให้หยุดนิ่ง เก็น ไม่รอช้า แววตาของเขาเปลี่ยนเป็นเด็ดเดี่ยวทันที เขากำมือของ ไอโกะ และ เทนชิ ที่อยู่ข้างๆ ไว้แน่น "วิ่ง!! ทุกคน! วิ่ง!!" เก็นตะโกนสั่งเสียงดังลั่นสุดเสียง ก่อนจะออกตัววิ่งสุดฝีเท้า ลากทุกคนที่ยังจับมือกันอยู่ให้วิ่งตามไปในทิศทางตรงกันข้ามกับปีศาจเงา เหล่านักเรียนที่เหลือต่างก็ออกตัววิ่งตามอย่างบ้าคลั่ง เสียงฝีเท้ากระทบพื้นดินดังระงมผสมกับเสียงหอบหายใจและเสียงกรีดร้องเบาๆ ที่เล็ดลอดออกมาจากลำคอของบางคน พวกเขาวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต วิ่งไปในความมืดที่ไร้ทิศทาง หวังเพียงจะหลบหนีจากเงาแห่งความตายที่ไล่ตามมา แต่ไม่ว่าพวกเขาจะวิ่งเร็วแค่ไหน... พวกเขาก็ไม่สามารถวิ่งหนีเงาปีศาจตนนั้นได้! ร่างกายของมันแม้จะดูใหญ่โตและน่ากลัว แต่กลับเคลื่อนไหวด้วยความเร็วที่เหนือจินตนาการ มันพุ่งทะยานเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ด้วยความเร็วที่น่ากลัวกว่านักวิ่งโอลิมปิกเสียอีก! เสียงฝีเท้าของพวกมันไม่มี แต่มีเพียงเสียงลมที่พัดกระโชกจากการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วของมัน ความกลัวเข้าครอบงำทุกคนอีกครั้ง เมื่อเงาปีศาจเริ่มเข้ามาใกล้จนสัมผัสได้ถึงไอเย็นยะเยือกที่แผ่ซ่านออกมาจากร่างของมัน กลุ่มนักเรียนเริ่มวิ่งกระจัดกระจายเล็กน้อย แต่ก็ยังคงจับมือกันไว้ไม่ปล่อย ฮารุ ซึ่งเป็นคนสุดท้ายในแถวที่จับมือกัน วิ่งช้ากว่าเพื่อนคนอื่นๆ ใบหน้าของเธอซีดเผือด ดวงตาเบิกกว้างด้วยความหวาดผวา เมื่อรู้สึกได้ถึงลมเย็นยะเยือกที่โชยมาปะทะแผ่นหลัง เงาปีศาจอยู่ใกล้เข้ามาทุกที กรงเล็บอันใหญ่โตของมันง้างขึ้นสูง เตรียมที่จะคว้าตัวฮารุไปกัดกินวิญญาณในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า... ในจังหวะวิกฤติที่สุดนั้นเอง... วูบบบ! ร่างของบางสิ่งบางอย่างก็ โผล่พรวดเข้ามาจากด้านข้างอย่างรวดเร็ว! มันคือ ลุงภารโรง! ท่านปรากฏตัวขึ้นจากเงามืดราวกับปีศาจที่แท้จริง แต่นี่คือปีศาจแห่งความดี! ลุงภารโรงไม่รอช้า ท่านพุ่งตัวเข้าหาเงาปีศาจอย่างรวดเร็วราวสายฟ้าแลบ มีดสั้นสีเงินในมือของท่านส่องประกายวูบวาบในความมืด และในพริบตาเดียว... ฉัวะ! มีดสั้นสีเงินก็ พุ่งเข้าปักกลางศีรษะของเงาปีศาจตนนั้นอย่างแม่นยำ! เสียงกรีดร้องโหยหวนดังกึกก้องอีกครั้ง ก่อนที่ร่างของมันจะแตกสลายกลายเป็นกลุ่มควันสีดำที่ลอยหายไปในอากาศ พร้อมกับดวงจิตที่ถูกดูดเข้าสู่ขวดแก้วในมือของไอโกะอีกครั้ง เสียงกรีดร้องของปีศาจเงียบหายไปพร้อมกับร่างของมัน ทิ้งไว้เพียงความเงียบงันและเสียงหอบหายใจของเหล่านักเรียนที่ยังคงยืนนิ่งด้วยความตกใจและโล่งอกปนกันไป ลุงภารโรงยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหันกลับมามองเหล่านักเรียนที่ยืนตัวแข็งทื่ออยู่ตรงหน้า ดวงตาของท่านฉายแววตำหนิเล็กน้อย แต่ก็เต็มไปด้วยความโล่งใจที่ช่วยพวกเขาไว้ได้ทันเสียงร้องโหยหวนของปีศาจที่พ่ายแพ้ในทิศทั้งสี่ไม่ได้นำมาซึ่งความสงบสุขอย่างที่คาดหวัง ตรงกันข้าม... มันกลับเป็นสัญญาณเตือนถึงภัยคุกคามที่ใหญ่หลวงกว่าเดิม วิญญาณปีศาจทั้งสี่ดวงที่หลุดรอดไปต่างมุ่งหน้าสู่ใจกลางเมืองอย่างมีเจตนา เพื่อรวมตัวและก่อกำเนิดเป็นบางสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าเดิม เหล่าทายาทนักเวทย์สายขาวและผู้ปกครองที่เพิ่งเสร็จสิ้นจากการต่อสู้กับปีศาจเงาต่างรับรู้ถึงสัญญาณอันตราย และรีบมุ่งหน้ากลับไปยังที่มั่นสุดท้าย ณ โรงเรียนริโอะเอน[ลานกว้างหน้าโรงเรียนริโอะเอน ยามราตรีลึก]ลมหายใจหอบถี่ของเหล่านักเรียนและผู้ปกครองดังขึ้นระงมขณะที่พวกเขาวิ่งกลับมายังโรงเรียน แสงสีเงินของม่านพลังคุ้มกันที่ลุงภารโรงและผู้ปกครองคนอื่นๆ สร้างขึ้นยังคงส่องสว่าง แต่บัดนี้มันกลับถูกบดบังด้วยเงาทะมึนขนาดมหึมาที่กำลังก่อตัวขึ้นเหนือท้องฟ้าใจกลางเมือง"นั่นมันอะไรน่ะ!?" โกฮัน อุทานด้วยความตกตะลึง ดวงตาเบิกกว้างมองไปยังเงาขนาดมหึมาที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่เหนือโรงเรียนเมื่อพวกเขาเข้ามาใกล้ขึ้น ภาพที่ปรากฏยิ่งน่าขนลุก ปีศาจเงาขนาดมหึมา ซึ่งเกิดจากการรวมตัวของวิญญาณปีศาจทั้งสี่ดวงที่หลุดรอดมา กำลังก่อตัว
ลมกระโชกแรงยามค่ำคืนพัดพาเสียงหวีดหวิว ราวกับเสียงร้องของวิญญาณที่ถูกรบกวน สงครามที่ปะทุขึ้นในสี่ทิศทางทั่วเมืองริโอะเอนยังคงดำเนินไปอย่างดุเดือด เหล่าทายาทนักเวทย์สายขาวและผู้ปกครองต่างเผชิญหน้ากับปีศาจเงาที่กระหายวิญญาณ ม่านพลังคุ้มกันที่โรงเรียนริโอะเอนยังคงเรืองรองในความมืด เป็นประภาคารแห่งความหวังเดียวท่ามกลางความโกลาหลสมรภูมิตะวันออก: การต่อสู้ในสวนสาธารณะโบราณทีมทิศตะวันออก นำโดย คาชิมิ (ผู้ปกป้องธรรมชาติและผู้ชำระล้างจิตวิญญาณ), เคนตะ (ผู้สยบพลังงานและผู้พิทักษ์มิติ), บาระ (ผู้รักษากฎและผู้พิพากษา), เร็น (ผู้ชี้ชะตาและผู้ควบคุมโชคชะตา) และผู้ปกครองของพวกเขา ต่างมุ่งหน้าสู่ทิศตะวันออกที่เข็มนาฬิกาอาคมของเคนตะสั่นสะเทือนอย่างบ้าคลั่ง แสงสีเงินวาวบนหน้าปัดเต้นระริกบ่งบอกถึงการบิดเบือนพลังงานที่รุนแรง จนกระทั่งพวกเขามาหยุดอยู่ที่หน้า สวนสาธารณะโบราณ ที่เงียบสงัด ต้นไม้ใหญ่อายุหลายร้อยปีทอดเงาปริศนาปกคลุมทั่วบริเวณ เสียงโหยหวนของวิญญาณต้นไม้และสัตว์ต่างๆ ดังแว่วออกมาจากความมืดมิด"ปีศาจมันกัดกินธรรมชาติแถวนี้!" คาชิมิกล่าวเสียงแผ่ว ใบหน้าของเธอซีดเผือดด้วยความเจ็บปวด เธอสัมผัสได้
ราตรีนี้ไม่ได้นำมาซึ่งความเงียบสงบ แต่กลับเป็นพยานแห่งสงครามที่อุบัติขึ้นในสี่ทิศทางทั่วเมืองริโอะเอน เหล่าทายาทนักเวทย์สายขาวและผู้ปกครองของพวกเขาต่างแยกย้ายกันไปเผชิญหน้ากับปีศาจเงาที่กำลังพยายามกลืนกินวิญญาณสิ่งมีชีวิตเพื่อเพิ่มพูนพลัง ม่านพลังคุ้มกันที่โรงเรียนริโอะเอนส่องสว่างเรืองรองในความมืดมิด เป็นเพียงสัญญาณแห่งความหวังเดียวท่ามกลางสมรภูมิที่กำลังปะทุขึ้นสมรภูมิเหนือ: การเผชิญหน้าในโรงพยาบาลร้างทีมทิศเหนือ นำโดย ฮานา (ผู้เชื่อมโยงและทำนาย), โกฮัน (ผู้นำทัพและผู้ทำลายล้าง), มายู (ผู้บันทึกและถ่ายทอด), โอกิ (ผู้โจมตีระยะไกล) และผู้ปกครองของพวกเขา ต่างมุ่งหน้าสู่ทิศเหนือที่เข็มนาฬิกาอาคมของฮานาชี้ไปอย่างไม่หยุดยั้ง แสงสีเขียวมรกตบนหน้าปัดเต้นระริก บอกถึงกระแสพลังงานปีศาจที่เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งพวกเขามาหยุดอยู่ที่หน้า โรงพยาบาลร้างแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางความมืดมิด เสียงกรีดร้องโหยหวนของวิญญาณที่ถูกรบกวนดังแว่วออกมาจากภายใน"ที่นี่แหละ..." ฮานากล่าวเสียงแผ่ว ใบหน้าซีดเผือด "พลังงานมันเข้มข้นมาก... ปีศาจเงาอยู่ข้างในนี้เยอะแยะเลย""เตรียมพร้อม!" โกฮันสั่งเสี
ความมืดของราตรีทอดยาวปกคลุมเมือง บรรยากาศเงียบงันผิดปกติ ชวนให้ใจหวั่น ลานกว้างหน้าโรงเรียนริโอะเอนที่เคยเป็นศูนย์รวมของความวุ่นวายเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยความเงียบงันและกลุ่มผู้ปกครองที่กำลังร่วมกันร่ายคาถาเพื่อสร้างม่านพลังคุ้มกันขนาดใหญ่ที่เรืองรองอยู่รอบรั้วโรงเรียน พวกเขามุ่งมั่นที่จะปกป้องสถานที่แห่งนี้ให้เป็นที่มั่นสุดท้ายเมื่อม่านพลังก่อตัวขึ้นอย่างสมบูรณ์ แสงเรืองรองสีเงินอ่อนๆ ก็แผ่กระจายไปทั่วบริเวณ ให้ความรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย ทว่า... ความปลอดภัยนั้นกลับแฝงด้วยความผิดปกติ[ลานกว้างหน้าโรงเรียนริโอะเอน ยามราตรี]เสียงบทสวดมนต์ของเหล่าผู้ปกครองค่อยๆ แผ่วลง เมื่อม่านพลังคุ้มกันปรากฏขึ้นเป็นรูปทรงโดมขนาดใหญ่ ครอบคลุมโรงเรียนเอาไว้ แสงสีเงินวูบไหวราวกับเกราะป้องกันที่มองไม่เห็น ผู้ปกครองหลายคนถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่บางคนกลับรู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างที่ผิดแปลกไป"ฉันว่ามันแปลกๆ แล้วนะครับ..." ผู้ปกครองคนหนึ่ง (พ่อของโอกิ) เอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ดวงตาจับจ้องไปยังท้องฟ้าที่มืดมิดไร้แสงจันทร์ "ไร้วี่แววของปีศาจเงาเลย... ทั้งๆ ที่เมื่อคืนพวกมันอาละวาดหน
แสงอาทิตย์ยามบ่ายค่อยๆ เลือนหายไปจากขอบฟ้า เหลือเพียงความมืดมิดที่เริ่มคืบคลานเข้ามาปกคลุมเมือง ความหวาดหวั่นปะปนกับความมุ่งมั่นในใจของเหล่านักเรียนที่เพิ่งรับรู้ถึงพลังและภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่ของตระกูลตนเอง เรื่องเล่าจากบรรพบุรุษที่ถูกส่งต่อมาหลายชั่วอายุคนได้ปลุกจิตวิญญาณแห่งนักเวทย์สายขาวให้ตื่นขึ้นอย่างสมบูรณ์ พวกเขาต่างรู้สึกตกตะลึงกับความสามารถที่ซ่อนเร้น แต่ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิใจและพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับชะตากรรมที่รออยู่เมื่อความมืดของราตรีเริ่มปกคลุม ทุกครอบครัวต่างเดินทางมารวมตัวกันที่ลานกว้างหน้าโรงเรียนริโอะเอน อันเป็นจุดนัดหมายและเป็นที่ตั้งของม่านพลังคุ้มกันที่แข็งแกร่งที่สุด[ลานกว้างหน้าโรงเรียนริโอะเอน ยามสนธยา]ลมเย็นยามค่ำพัดเอื่อยๆ พากลิ่นดอกไม้ป่าผสมกับความชื้นของดินชวนให้ใจสงบ แต่บรรยากาศโดยรอบกลับเต็มไปด้วยความตึงเครียด แสงไฟสลัวๆ จากโคมไฟหน้าโรงเรียนส่องกระทบใบหน้าของเหล่านักเรียนและผู้ปกครองที่ยืนรอคอยกันอย่างเงียบงันลุงภารโรง ยืนอยู่ตรงกลางลาน สายตาคมกริบกวาดมองไปรอบๆ ราวกับกำลังสำรวจสิ่งผิดปกติที่ซ่อนอยู่ในเงามืด เขาดูสุขุมกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาในช
บ้านของฮารุกะ: ตำนานแห่งผู้ร่ายรำพลังและผู้ขับไล่วิญญาณฮารุกะ ก้าวเข้ามาในบ้านด้วยความเหนื่อยล้าพร้อมกับคุณพ่อและคุณแม่ ทันทีที่ประตูเปิดออก คุณตา และ คุณยาย ของเธอก็รีบเข้ามาสวมกอดหลานสาวด้วยความโล่งใจและน้ำตาคลอเบ้า"ฮารุกะ! หลานรักของตา! ไม่เป็นอะไรใช่ไหมลูก?" คุณตาถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ พลางลูบผมของฮารุกะเบาๆคุณยายพยักหน้าเห็นด้วย "ยายเป็นห่วงแทบแย่เลยลูก! เมื่อคืนได้ยินเสียงดังสนั่นหวั่นไหวไปหมด! ใจจะขาด!"ฮารุกะรู้สึกอบอุ่นในอ้อมกอดของท่านทั้งสอง เธอผละออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยคำถาม "ตาคะ... ยายคะ... พ่อคะ... แม่คะ... เรื่องเมื่อคืนนี้... ปีศาจเงา... แล้วก็พลังที่เรามีกัน... มันคืออะไรกันแน่คะ? หนูอยากรู้เรื่องทั้งหมดค่ะ"คุณตาของฮารุกะถอนหายใจช้าๆ ท่านพาฮารุกะไปนั่งที่เก้าอี้ไม้แกะสลักตัวเก่าแก่ในห้องนั่งเล่น ก่อนจะเริ่มต้นเล่าด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำแต่เต็มไปด้วยพลังแห่งความเชื่อมั่นในอดีต"เรื่องนี้มันถูกเล่าสืบต่อกันมาในตระกูลของเรา ตั้งแต่สมัยทวดของทวดของตาเลยนะฮารุกะ" คุณตาเริ่มต้น "ในสมัยที่ปีศาจเงาออกอาละวาดอย่างหนักนั้น พวกมันไม่ได้เพียง