หลังจากที่รูฟเล่าเรื่องราวทั้งหมดจบลง บรรยากาศภายในถ้ำก็เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและแรงบันดาลใจ ไดชิและดาอิรับรู้ถึงภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่ที่อยู่บนบ่าของพวกเขา พวกเขารู้ว่าการเดินทางที่กำลังจะเริ่มต้นนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การตามล่าปีศาจ แต่เป็นการกอบกู้บ้านเกิดของผู้คนบนเกาะแห่งนี้ให้กลับคืนสู่ความสงบสุขอีกครั้ง
"เราจะทำมันให้สำเร็จ" ไดชิกล่าวพร้อมกับลูบเบาๆ ที่ดาบอาคมในมือ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยว "ใช่...เราจะทำมันให้สำเร็จ" ดาอิกล่าวพร้อมกับยิ้มอย่างอ่อนโยน เธอเองก็พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับชะตากรรมที่รออยู่เบื้องหน้า ในเช้าวันรุ่งขึ้น...ก่อนที่แสงอาทิตย์จะสาดส่องลงมาบนผืนโลก ไดชิและดาอิก็ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นโดยเสียงของคุณปู่เฒ่าดาฟ พวกเขาออกมาจากถ้ำและพบว่ามีชาวบ้านจำนวนหนึ่งยืนรอพวกเขาอยู่ ทุกคนมีสีหน้าจริงจังและพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือ "พวกเจ้า...วันนี้เราจะมาเริ่มต้นการฝึกฝนกัน" คุณปู่เฒ่าดาฟกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ทรงพลัง "เพื่อที่พวกเจ้าจะพร้อมสำหรับการเดินทางที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น" "แต่ว่า...พวกเราจะฝึกอะไรกันครับ?" ไดชิถามอย่างสงสัย "เราจะฝึกวิชาอาคมของชนเผ่าอายา" ชายวัยกลางคนคนหนึ่งที่สวมชุดคล้ายนักรบก้าวออกมาข้างหน้า "ข้ามีนามว่า ไค เป็นนักรบผู้เก่งกาจที่สุดในหมู่บ้าน และข้าจะสอนวิชาการต่อสู้ให้กับพวกเจ้า" "และข้ามีนามว่า ฟาร่า" หญิงสาวคนหนึ่งที่มีรอยสักรูปดอกไม้บนใบหน้าก้าวออกมาข้างๆ ไค "ข้าเป็นผู้ใช้อาคมที่เก่งกาจที่สุดในหมู่บ้าน และข้าจะสอนวิชาคาถาให้กับพวกเจ้า" การฝึกฝนเริ่มต้นขึ้นในวันแรก ไดชิถูกพาตัวไปที่ลานกว้างข้างๆ ถ้ำ ไคหยิบดาบที่ทำจากไม้ขึ้นมาเล่มหนึ่ง และยื่นให้ไดชิ "จำไว้...ดาบไม่ได้เป็นแค่เครื่องมือในการต่อสู้" ไคกล่าว "แต่มันเป็นเหมือนส่วนหนึ่งของร่างกายเจ้า...มันคือวิญญาณของผู้พิทักษ์ที่อยู่ในตัวเจ้า" ไดชิรับดาบไม้มาถือไว้ในมืออย่างระมัดระวัง เขาไม่เคยฝึกดาบมาก่อนเลยในชีวิต แต่เมื่อเขาถือมันไว้ในมือ เขาก็รู้สึกเหมือนตัวเองสามารถทำอะไรได้ทุกอย่าง ไคสอนวิชาการต่อสู้ด้วยดาบให้กับไดชิอย่างใจเย็น เขาให้ไดชิฝึกฟันดาบไปตามจังหวะที่กำหนด ฝึกการหลบหลีกและการป้องกันที่รวดเร็วและแม่นยำ ในขณะเดียวกัน ดาอิก็ถูกพาไปที่ลำธารที่อยู่ไม่ไกลจากถ้ำ ฟาร่าให้ดาอิดื่มน้ำจากลำธารนั้น และสอนให้เธอควบคุมพลังของอาคมที่อยู่ในร่างกายของเธอ "จำไว้...พลังอาคมไม่ได้เป็นแค่พลังที่จะทำลาย" ฟาร่ากล่าว "แต่มันเป็นพลังที่จะสร้างสรรค์...มันคือวิญญาณของผู้พิทักษ์ที่อยู่ในตัวเจ้า" ดาอิหลับตาลง และพยายามที่จะควบคุมพลังอาคมที่อยู่ในตัวของเธอ เธอรู้สึกเหมือนมีพลังงานบางอย่างไหลเวียนไปทั่วทั้งร่างกาย พลังงานนั้นบริสุทธิ์และอบอุ่น ราวกับกำลังหล่อเลี้ยงจิตใจของเธอ ฟาร่าสอนให้ดาอิใช้พลังอาคมในการสร้างบาเรียป้องกัน และใช้ในการโจมตีด้วยลูกไฟที่เธอสร้างขึ้นมาเอง การฝึกฝนดำเนินไปอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 7 วันเต็มๆ... วันที่ 1: การปรับตัว ไดชิและดาอิต่างต้องปรับตัวให้เข้ากับการฝึกฝนที่หนักหน่วง ไดชิรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่กล้ามเนื้อจากการฝึกฟันดาบอย่างหนักหน่วง ส่วนดาอิก็รู้สึกถึงความเหนื่อยล้าจากการใช้พลังอาคมอย่างต่อเนื่อง แต่พวกเขาก็ไม่ยอมแพ้ พวกเขากัดฟันฝึกฝนอย่างหนักหน่วงจนกว่าร่างกายจะเริ่มชิน วันที่ 2: การค้นหาพลังที่แท้จริง ไคเริ่มที่จะสอนวิชาการต่อสู้ที่ซับซ้อนขึ้นให้กับไดชิ เขาให้ไดชิใช้ดาบอาคมในการต่อสู้กับหุ่นจำลองที่ทำจากไม้ และให้ดาอิใช้พลังอาคมในการสร้างบาเรียป้องกันที่แข็งแกร่งกว่าเดิม "อย่าใช้แค่กำลัง..." ไคกล่าว "จงใช้พลังของวิญญาณผู้พิทักษ์ที่อยู่ในตัวเจ้า...และจงใช้ดาบของเจ้าให้เป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย" "อย่าใช้แค่ความรู้..." ฟาร่ากล่าว "จงใช้พลังของจิตใจ...และจงใช้พลังอาคมของเจ้าให้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต" วันที่ 3: การเผชิญหน้ากับความมืดมิด ในตอนกลางคืน ไคและฟาร่าได้นำไดชิและดาอิไปยังป่าที่อยู่ไม่ไกลจากถ้ำ ที่นั่นเต็มไปด้วยเงาปีศาจที่กำลังอาละวาด ไคให้ไดชิใช้ดาบอาคมในการต่อสู้กับเงาปีศาจเพียงลำพัง ส่วนดาอิก็ต้องใช้พลังอาคมในการสร้างบาเรียป้องกันให้กับตัวเอง "จำไว้...อย่ากลัวความมืดมิด..." ไคกล่าว "จงเผชิญหน้ากับมัน...และจงใช้พลังของเจ้าในการทำลายมันให้หมดสิ้น" "จงใช้ความกล้าหาญของเจ้าในการต่อสู้..." ฟาร่ากล่าว "และจงใช้ความหวังของเจ้าในการสร้างแสงสว่าง" วันที่ 4: การทำงานเป็นทีม ไคและฟาร่าให้ไดชิและดาอิฝึกการทำงานเป็นทีม ไดชิใช้ดาบอาคมในการต่อสู้กับเงาปีศาจที่อยู่ตรงหน้า ส่วนดาอิก็ใช้พลังอาคมในการโจมตีเงาปีศาจจากทางด้านหลัง "จงเชื่อใจซึ่งกันและกัน..." ไคกล่าว "และจงใช้พลังของพวกเจ้าในการปกป้องซึ่งกันและกัน" "พวกเจ้าคือหนึ่งเดียว..." ฟาร่ากล่าว "และเมื่อพวกเจ้ารวมพลังกัน...พวกเจ้าจะแข็งแกร่งเกินกว่าที่จะเอาชนะได้" วันที่ 5: การควบคุมพลังแห่งแสงและเงา คุณปู่เฒ่าดาฟได้นำไดชิและดาอิไปที่ลำธารที่ไหลมาจากน้ำตก เขาสอนให้พวกเขาควบคุมพลังแห่งแสงและพลังแห่งความมืดที่อยู่ในตัวพวกเขา "จำไว้...พลังแห่งแสงไม่ได้เป็นแค่พลังที่จะสร้างสรรค์" คุณปู่เฒ่าดาฟกล่าว "แต่มันเป็นพลังที่จะทำลาย...มันสามารถทำลายความมืดมิดให้หมดสิ้นไปจากโลกใบนี้ได้" "และพลังแห่งความมืดก็ไม่ได้เป็นแค่พลังที่จะทำลาย" คุณปู่เฒ่าดาฟกล่าว "แต่มันเป็นพลังที่จะสร้างสรรค์...มันสามารถสร้างชีวิตใหม่ให้กับโลกที่ถูกทำลายได้" วันที่ 6: การต่อสู้กับหุ่นจำลองยักษ์ ไคและฟาร่าได้สร้างหุ่นจำลองยักษ์ที่ทำจากไม้ขึ้นมาตัวหนึ่ง มันมีขนาดใหญ่กว่าไดชิและดาอิถึงสิบเท่า และมีรูปร่างคล้ายกับเงาปีศาจตัวยักษ์ที่พวกเขาเคยเจอ "จงใช้พลังทั้งหมดที่มีของพวกเจ้าในการทำลายมัน" ไคกล่าว "จงทำลายมันให้หมดสิ้น...ก่อนที่มันจะทำลายพวกเจ้า" ไดชิและดาอิต่างใช้พลังทั้งหมดที่มีในการต่อสู้กับหุ่นจำลองยักษ์ ไดชิใช้ดาบอาคมในการโจมตีส่วนที่อ่อนแอของมัน ส่วนดาอิก็ใช้พลังอาคมในการสร้างบาเรียป้องกันที่แข็งแกร่งให้กับพี่ชายของเธอ "ฮึ่ย! ทำไมมันไม่โดนเลยวะ!" ไดชิสบถออกมาอย่างหงุดหงิด "เพราะเจ้ายังไม่ใช้พลังที่แท้จริงของเจ้า!" ฟาร่ากล่าว "จงใช้พลังของเจ้าในการรวมตัวกัน!" ไดชิและดาอิต่างสบตากัน และพวกเขาก็เข้าใจในทันที พวกเขากำมือกันแน่น และรวมพลังอาคมของพวกเขาเข้าด้วยกัน แสงสีเงินอร่ามจากดาบอาคมของไดชิรวมตัวกับแสงสีม่วงเข้มจากพลังอาคมของดาอิ และกลายเป็นแสงสีขาวที่พุ่งตรงไปที่หุ่นจำลองยักษ์อย่างรวดเร็ว แคร้ง! เสียงเหมือนเหล็กกระทบกันดังสนั่น ร่างของหุ่นจำลองยักษ์แตกสลายเป็นชิ้นๆ ในพริบตา "สุดยอดไปเลย!" ดาอิกล่าวด้วยความดีใจ "พวกเจ้าทำได้แล้ว!" ไคและฟาร่ากล่าวพร้อมกันด้วยรอยยิ้มที่ภาคภูมิใจ วันที่ 7: บทสรุปของการฝึกฝน ในวันสุดท้ายของการฝึกฝน คุณปู่เฒ่าดาฟได้นำไดชิและดาอิไปยังชายหาดที่อยู่ไม่ไกลจากถ้ำ เขายืนอยู่บนก้อนหินขนาดใหญ่ และมองไปที่สองฝาแฝดด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น "พวกเจ้า...ได้ผ่านบททดสอบที่สำคัญที่สุดแล้ว" คุณปู่เฒ่าดาฟกล่าว "พวกเจ้าไม่ได้แค่เรียนรู้วิชาอาคม แต่พวกเจ้าได้ค้นพบพลังที่แท้จริงที่อยู่ในตัวของพวกเจ้า" "พลังอะไรครับ?" ไดชิถามอย่างสงสัย "พลังแห่งความกล้าหาญ...ความเชื่อใจ...และความรัก" คุณปู่เฒ่าดาฟกล่าว "พลังเหล่านี้จะแข็งแกร่งกว่าพลังอาคมใดๆ ในโลกใบนี้ และมันจะเป็นพลังที่จะช่วยให้พวกเจ้าสามารถทำภารกิจให้สำเร็จได้" "จงจำไว้...การเดินทางของพวกเจ้าจะเต็มไปด้วยอันตรายและอุปสรรค" คุณปู่เฒ่าดาฟกล่าวต่อ "แต่จงอย่ากลัว...จงเชื่อในตัวเอง...และจงเชื่อในกันและกัน" "เราจะทำมันให้สำเร็จ" ไดชิกล่าวพร้อมกับยิ้มอย่างอ่อนโยน เขามองไปที่ดาอิด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักและความเชื่อใจ "ใช่...เราจะทำมันให้สำเร็จ" ดาอิกล่าวพร้อมกับพยักหน้าให้พี่ชายของเธออย่างมั่นใจ ในวันรุ่งขึ้น...ก่อนที่แสงอาทิตย์จะสาดส่องลงมาบนผืนโลก ไดชิและดาอิก็พร้อมที่จะออกเดินทาง พวกเขาได้รับพรจากชาวบ้านทุกคน และได้รับคำอวยพรจากคุณปู่เฒ่าดาฟและรูฟ "ขอให้พวกเจ้าเดินทางปลอดภัย" คุณปู่เฒ่าดาฟกล่าวพร้อมกับยิ้มอย่างอบอุ่น "และขอให้พวกเจ้ากลับมาพร้อมกับชัยชนะ" "เราจะกลับมาพร้อมกับชัยชนะ" ไดชิกล่าวพร้อมกับพยักหน้าให้พวกเขา ก่อนที่จะเดินนำดาอิออกไปจากถ้ำ และมุ่งหน้าไปยังสถานที่ที่แรกที่ต้องไป...หอคอยแห่งเงามืด ที่อยู่ทางทิศเหนือของเกาะ การเดินทางของพวกเขาเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น...และมันจะเต็มไปด้วยความท้าทายที่ยิ่งใหญ่กว่าที่เคยเจอมาอย่างแน่นอนหลังจากทำข้อตกลงกับหัวหน้าเผ่าสึนะ ไคลด์ ไดชิ และดาอิ ก็เริ่มต้นภารกิจที่อันตรายที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยเผชิญมา การเดินทางสู่ แหล่งพลังอาคมแห่งเงาที่แท้จริง ซึ่งซ่อนอยู่ลึกใต้เกาะแสงอรุณ มีเพียงไคลด์เท่านั้นที่รู้ทางเข้า ซึ่งต้องเดินทางผ่านทางน้ำใต้ดินที่ซับซ้อน"พวกเราทุกคนต้องรู้ว่าความมืดมิดที่พวกเจ้าเคยทำลายไปนั้น...เป็นแค่ เปลือกนอก ของพลังงานทั้งหมด" ไคลด์กล่าวขณะนำทางพวกเขาไปยังปากถ้ำที่ถูกซ่อนไว้ใต้รากต้นไม้ใหญ่ริมทะเลสาบ "พลังเงาที่แท้จริงไม่ได้มีไว้เพื่อทำลายล้าง แต่มีไว้เพื่อ รักษาสมดุลของผืนดิน เมื่อหลายศตวรรษก่อน ผู้พิทักษ์รุ่นก่อนได้ผนึกมันไว้ไม่ให้ถูกผู้ใดครอบครอง"ปากทางสู่ความมืดปากถ้ำนั้นแคบและมืดมิด มีเพียงแสงจากตะเกียงอาคมที่ดาอิสร้างขึ้นเท่านั้นที่ช่วยให้พวกเขามองเห็นได้ ไคลด์ลงไปในน้ำก่อน ตามมาด้วยไดชิและดาอิ พวกเขาต้องว่ายน้ำตามกระแสน้ำใต้ดินที่เย็นเฉียบและมืดสนิทไปนานหลายนาทีเมื่อกระแสน้ำสงบลง พวกเขาก็พบว่าตัวเองอยู่ใน อุโมงค์หินขนาดใหญ่ ที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำค้างและเสียงสะท้อนที่น่าขนลุก พื้นผิวของผนังถ้ำเต็มไปด้วย คริสตัลเงาสีดำ ที่ส่องแสงสลัว ๆ บ่งบอกถึงความหน
หลังจากที่พิธีสืบทอดตำแหน่งเสร็จสิ้น ไคลด์ก็กลายเป็นผู้พิทักษ์แห่งเกาะแสงอรุณอย่างเป็นทางการ แต่ภัยคุกคามจากชนเผ่าแห่งเงาก็ยังคงเป็นบาดแผลฉกรรจ์ ไดชิ ดาอิ และไคลด์ต่างเห็นพ้องต้องกันว่า การเจรจาคือหนทางเดียวที่จะนำความสงบสุขที่แท้จริงมาสู่เกาะนี้พวกเขาตัดสินใจเดินทางไปยัง ป่าสนทมิฬ อีกครั้ง สถานที่ที่พวกเขาเคยถูกซุ่มโจมตี โดยมี ปู่เฒ่าดาฟ ร่วมเดินทางไปด้วยในฐานะตัวแทนของชาวเกาะ"การเจรจานี้อันตรายยิ่งกว่าการต่อสู้กับปีศาจ" ปู่เฒ่าดาฟกล่าวขณะเดินนำ "ความบาดหมางระหว่างเรากับชนเผ่าแห่งเงาฝังรากลึกมาตั้งแต่สมัย จอมเวทแห่งเงามืด ยังเป็นมนุษย์""ท่านปู่ ช่วยเล่าเรื่องราวความบาดหมางนั้นให้พวกเราฟังได้ไหมครับ" ไดชิถาม"ได้สิ..." ปู่เฒ่าดาฟเริ่มเล่าด้วยน้ำเสียงที่เศร้าสร้อย "ในอดีต จอมเวทที่ทรยศนั้นเคยเป็นหัวหน้ากลุ่มนักเวทที่แข็งแกร่งที่สุดบนเกาะ แต่เขามองว่าชาวเกาะธรรมดาและชนเผ่าแห่งเงาที่อาศัยอยู่ในป่าลึกเป็นเพียง เครื่องมือ และ พลังงาน ที่ไร้ค่า เขาต้องการให้ทุกคนกราบไหว้บูชาเขาเพียงผู้เดียว""แล้วชนเผ่าแห่งเงาเกี่ยวข้องอย่างไรคะ" ดาอิถาม"ชนเผ่าเหล่านั้นเป็นกลุ่มคนที่ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่
หมู่บ้านแสงอรุณกลับมาสู่ความสงบเงียบอีกครั้ง แต่ความเงียบสงบในครั้งนี้แตกต่างจากครั้งก่อน ๆ มันคือความสงบที่มาพร้อมกับความตึงเครียดและความเตรียมพร้อม ชาวบ้านช่วยกันพาไดชิ ดาอิ และไคลด์ไปที่วิหารเก่า ซึ่งถูกใช้เป็นสถานที่รักษาพยาบาลชั่วคราวบาดแผลและการเยียวยาไคลด์มีอาการหนักที่สุด พิษจากศรของชนเผ่าแห่งเงาได้เริ่มซึมซาบเข้าสู่กระแสเลือดของเขา แม้ร่างกายจะแข็งแกร่งดุจหินผา แต่พิษร้ายก็ทำให้เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้สะดวก"นี่มันพิษจาก พฤกษามรณะ" ปู่เฒ่าดาฟกล่าวขณะที่กำลังทำความสะอาดบาดแผลอย่างระมัดระวัง "ชนเผ่าแห่งเงาใช้สารนี้มาตั้งแต่สมัยโบราณเพื่อทำให้เหยื่ออ่อนแรง...แต่ดีที่เจ้าเป็นบุตรแห่งทะเล ร่างกายจึงต้านทานได้ดีกว่าคนอื่น"ดาอิที่เฝ้าดูอาการของไคลด์อยู่ไม่ห่างรู้สึกผิดที่เธอไม่สามารถปกป้องเขาได้ เธอจึงตัดสินใจใช้พลังอาคมของตนเองเข้าช่วยในการรักษา ไดชิที่ถูกชนเผ่าทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยที่แขนและขา ก็พยุงตัวเองมานั่งข้าง ๆ น้องสาว"ดาอิ...บาดแผลของนาย" ไดชิกล่าวด้วยความเป็นห่วง"ฉันไม่เป็นไรหรอกพี่ไดชิ" ดาอิส่ายหน้า เธอจ้องมองไปที่บาดแผลของไคลด์อย่างตั้งใจ ก่อนจะหลับตาลงเพื่
การเดินทางกลับหมู่บ้านเริ่มต้นขึ้นพร้อมกับ ไคลด์ ผู้พิทักษ์แห่งท้องทะเล ชายหนุ่มลึกลับคนนี้ยังคงเดินนำหน้าอย่างเงียบ ๆ ร่างกายของเขาสง่างามและเต็มไปด้วยความแข็งแกร่ง ราวกับว่าเขาไม่ได้เดินอยู่บนพื้นดิน แต่กำลังล่องลอยไปตามกระแสลม ไดชิและดาอิเดินตามหลังเขาไปอย่างเงียบ ๆ ด้วยความตื่นเต้นและกังวลใจ"ไคลด์..." ไดชิเริ่มต้นบทสนทนาหลังจากที่เดินทางมาได้พักใหญ่ "นายช่วยบอกเราได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นที่ทะเลเมื่อวานนี้ คลื่นนั่นมันไม่ใช่คลื่นธรรมชาติใช่ไหม"ไคลด์ไม่หยุดเดิน แต่ตอบด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉยแต่แฝงด้วยความหนักแน่น "คลื่นนั้นคือ การปฏิเสธของจิตวิญญาณแห่งทะเล พวกมันไม่ยอมรับผู้ที่ไม่ได้มาจากท้องทะเลให้เข้าใกล้พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ แต่เมื่อเห็นว่าพวกเจ้าไม่ยอมแพ้...พวกมันจึงอนุญาตให้ข้าช่วยนำทางพวกเจ้ากลับมา""แล้วศรเพลิงที่ช่วยเราจากอสูรหินล่ะ" ดาอิถามอย่างกระตือรือร้น "นั่นเป็นของนายใช่ไหม"ไคลด์หันมามองพวกเขาเล็กน้อย ดวงตาสีน้ำทะเลนั้นสบตาไดชิและดาอิอย่างช้า ๆ "ศรนั่นทำจาก ไม้แห่งภูเขาไฟ ที่ไม่ไหม้ไฟ และอาบด้วยพิษแห่งความมืดที่สามารถทำลายสิ่งมีชีวิตที่เกิดจากพลังตกค้างได้...นั่นคือสิ่งที
หลังจากที่เรือกลับถึงฝั่งอย่างปลอดภัย ไดชิและดาอิรีบวิ่งขึ้นจากหาดทรายทันที หัวใจของพวกเขายังเต้นรัวจากความตื่นเต้นและความฉงนสนเท่ห์ที่ได้เห็นชายหนุ่มลึกลับคนนั้น ชายที่สามารถควบคุมพลังของทะเลและซ่อมแซมเรือได้ในพริบตา"เขา...เขาต้องเป็นผู้พิทักษ์คนต่อไปที่เราตามหาแน่ ๆ!" ดาอิกล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นสุดขีด"ใช่" ไดชิพยักหน้าอย่างเห็นด้วย "แต่เขาไม่ได้อยากให้เราเจอเลย และการที่เขาพาเรือเรากลับเข้าฝั่งอย่างรวดเร็วขนาดนี้ หมายความว่าเขาอาจจะมุ่งหน้าสู่ใจกลางเกาะแล้ว"สองพี่น้องตัดสินใจเริ่มต้นการตามล่าทันที โดยมุ่งหน้าไปยังทิศทางที่พวกเขาเชื่อว่าจะเป็นเส้นทางที่สั้นที่สุดสู่ถ้ำของปู่เฒ่าดาฟและหมู่บ้าน ซึ่งพวกเขาเดาว่าชายหนุ่มคนนั้นน่าจะไปที่นั่นก่อนเพื่อพบกับผู้อาวุโสอุปสรรคแรก: ลานหินอัปลักษณ์พวกเขาต้องผ่าน ลานหินอัปลักษณ์ ที่เต็มไปด้วยก้อนหินแหลมคมและเศษซากของต้นไม้ที่ตายแล้ว ซึ่งเคยเป็นอาณาเขตของปีศาจหินก่อนที่เกาะจะฟื้นฟู พวกเขาต้องระมัดระวังเป็นพิเศษเพราะพื้นผิวที่ลื่นและไม่มั่นคง"ดาอิ ระวังให้ดี" ไดชิเตือนขณะที่ใช้มือจับดาบอาคม "พลังงานมืดที่นี่จางหายไปแล้ว แต่พลังอาคมของธาตุหิน
หลังจากผ่านบททดสอบที่โหดร้ายทั้งสองครั้ง ไดชิและดาอิก็เข้าใจแล้วว่าการค้นหาผู้พิทักษ์ที่แท้จริงไม่ใช่แค่การต่อสู้ แต่เป็นการ ทดสอบปัญญาและจิตวิญญาณ ของผู้ถูกเลือก ไดชิและดาอิใช้เวลาในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนที่สามในการฝึกฝนร่างกายและจิตใจอย่างหนักหน่วง พวกเขาตระหนักว่าอาคมของพวกเขาจำเป็นต้องผสานเข้ากับธรรมชาติอย่างแท้จริงตามคำแนะนำของปู่เฒ่าดาฟและรูฟ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านทะเลของเกาะ พวกเขาจึงตัดสินใจพาเรือเล็กออกไปฝึกฝนกลางมหาสมุทร"ท่านปู่บอกว่าพลังที่แท้จริงของเกาะแสงอรุณไม่ได้อยู่บนพื้นดินเท่านั้น แต่อยู่ใน ท้องทะเลที่ลึกที่สุด ด้วย" ดาอิกล่าว ขณะที่เธอกำลังตรวจสอบผืนผ้าใบเรือที่ถูกเย็บอย่างแข็งแรง"ใช่" ไดชิกล่าวพร้อมกับดึงเชือกใบเรือให้ตึง ใบหน้าของเขาเปื้อนไปด้วยเหงื่อ "ที่นี่คือสถานที่ที่ไม่มีกำแพงและไม่มีภาพลวงตา มีเพียงพลังงานบริสุทธิ์ของคลื่นและลมเท่านั้น"พวกเขาแล่นเรือออกไปไกลจากชายฝั่งหลายชั่วโมงจนมองไม่เห็นเกาะแล้ว มีเพียงผืนน้ำสีครามที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา ไดชิปิดตาลง พยายามใช้จิตสัมผัสถึงพลังอาคมที่แผ่กระจายอยู่ใต้น้ำ ในขณะที่ดาอิฝึกร่ายคาถาควบคุมสายลม เพื่อให้เรือ