Share

บทเพลงแห่งแสง

last update Last Updated: 2025-08-31 21:49:40

ลมยามค่ำคืนที่เคยสงบสุขกลับแปรเปลี่ยนเป็นพายุที่บ้าคลั่ง เสียงหวีดหวิวของมันดังสนั่นหวั่นไหวราวกับเสียงร้องครวญครางของปีศาจนับล้านตัว เมฆดำขนาดมหึมาที่ปกคลุมท้องฟ้าอย่างรวดเร็วเริ่มสั่นสะเทือน เปล่งแสงสีม่วงดำที่น่าสะพรึงกลัวออกมาอย่างรุนแรง และแล้ว...พวกมันก็ปรากฏตัวขึ้น

เหล่า เงาปีศาจ นับพันตัวพุ่งออกมาจากเมฆดำก้อนนั้นราวกับสายน้ำที่บ้าคลั่ง ร่างกายของพวกมันไม่ได้มีเพียงแค่ความมืดมิด แต่กลับมีประกายแสงสีม่วงดำเรืองรองราวกับลาวาที่กำลังจะระเบิด พวกมันกระจายตัวไปทั่วท้องฟ้า ปกคลุมดวงจันทร์จนเหลือเพียงแสงสลัวๆ ที่ส่องกระทบผืนดินที่ตอนนี้กลายเป็นสมรภูมิแห่งความมืด

"ไม่จริงน่า..." ดาอิพึมพำด้วยความตกใจ ใบหน้าของเธอซีดเผือดลงอย่างเห็นได้ชัด นาฬิกาอาคมบนข้อมือของเธอส่งเสียงเตือนระดับสูงสุด ตัวเลขบนหน้าปัดกระพริบอย่างบ้าคลั่งจนไม่อาจจะนับจำนวนของปีศาจที่กำลังมุ่งหน้ามาหาพวกเขาได้

"เราต้องสู้!" ไดชิกล่าวเสียงดัง เขากำดาบอาคมในมือแน่น ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะไม่ยอมแพ้ "ไม่ว่ามันจะมามากแค่ไหน เราก็จะจัดการมันให้หมด!"

ไดชิพุ่งเข้าใส่เงาปีศาจกลุ่มแรกที่รุกเข้ามาอย่างไม่ลังเล เขาฟันดาบอาคมออกไปอย่างรวดเร็วและแม่นยำ ทุกครั้งที่ดาบของเขากระทบกับเงาปีศาจ ร่างของมันก็จะแตกสลายเหลือเพียงดวงวิญญาณสีม่วงเข้มที่ลอยคว้างอยู่กลางอากาศ ดาอิรีบวิ่งเข้าไปกักเก็บดวงวิญญาณเหล่านั้นด้วยขวดอาคมของเธออย่างรวดเร็ว

"หนึ่งตัว!" ดาอิกล่าวด้วยความโล่งใจเล็กน้อย

"สิบตัวแล้ว! ยังเหลืออีกกี่ร้อยตัว!" ไดชิสบถออกมาอย่างหงุดหงิด เขารู้สึกเหมือนกำลังต่อสู้กับกองทัพที่ไม่มีวันจบสิ้น เงาปีศาจที่ถูกกำจัดไปตัวหนึ่ง ก็จะมีอีกตัวโผล่ออกมาแทนที่ทันที

การต่อสู้ดำเนินไปอย่างดุเดือด ไดชิใช้ทักษะการต่อสู้ทั้งหมดที่มี ฟาดฟันดาบอาคมเข้าใส่เงาปีศาจอย่างไม่ยั้ง แม้จะเหนื่อยหอบแต่เขาก็ไม่มีท่าทีว่าจะยอมแพ้ ดาอิเองก็ใช้ความคล่องแคล่วของตัวเองในการหลบหลีกและกักเก็บวิญญาณอย่างไม่ขาดตอน

"พวกมันเริ่มเร็วขึ้นแล้วนะไดชิ!" ดาอิกล่าวเสียงหอบ เธอรู้สึกว่าเงาปีศาจที่กำลังพุ่งเข้ามาโจมตีมีพลังงานที่รุนแรงขึ้นกว่าเดิม

"ฉันรู้! เราต้องหาทางหนี!" ไดชิกล่าว เขากวาดสายตาไปรอบๆ แต่ก็ไม่พบทางหนีเลยแม้แต่น้อย ทุกทิศทางถูกปกคลุมไปด้วยเงาปีศาจที่กำลังรุกเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย

"เราจะทำยังไงดี..." ดาอิพึมพำด้วยความสิ้นหวัง

และในจังหวะที่ดาอิกำลังจะหันไปถามความคิดเห็นจากไดชิ...ทันใดนั้นเอง เงาปีศาจขนาดใหญ่ตัวหนึ่ง ที่ซ่อนตัวอยู่ในเงามืดก็พุ่งเข้าใส่เธอจากทางด้านหลังอย่างรวดเร็ว กรงเล็บที่แหลมคมของมันพร้อมที่จะฉีกกระชากเธอเป็นชิ้นๆ ดาอิไม่ทันได้ตั้งตัว เธอหลับตาลงแน่น เตรียมพร้อมที่จะรับการโจมตี

"ดาอิ! ระวัง!"

เสียงของไดชิคำรามดังลั่น พร้อมกับร่างของเขาที่พุ่งเข้ามารับการโจมตีแทนเธออย่างรวดเร็ว กรงเล็บที่แหลมคมของปีศาจฟาดเข้าที่หลังของเขาอย่างรุนแรง ทำให้เขาต้องร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เลือดสีแดงสดไหลซึมออกมาจากเสื้อผ้าของเขาจนเปรอะเปื้อนไปหมด

"ไดชิ! ไม่นะ!" ดาอิร้องออกมาด้วยความตกใจ เธอรีบพุ่งเข้าไปหาพี่ชายของเธอทันที

"ไม่ต้องห่วง...ฉันไม่เป็นไร" ไดชิกล่าวพร้อมกับยิ้มแห้งๆ แต่ใบหน้าของเขาซีดเผือดลงอย่างเห็นได้ชัด

ในขณะที่ดาอิพยายามที่จะช่วยพยุงไดชิให้ลุกขึ้นยืน เงาปีศาจอีกหลายตัวก็พุ่งเข้ามาล้อมพวกเขาไว้ พวกมันหัวเราะเยาะเย้ยราวกับกำลังสนุกกับความสิ้นหวังของพวกเขา

"จบแล้ว...มนุษย์" เสียงแหบพร่าจากเงาปีศาจดังขึ้นในหัวของพวกเขา

"อย่าทำอะไรพี่ชายของฉันนะ!" ดาอิร้องออกมาด้วยความโกรธ เธอหยิบขวดอาคมที่บรรจุดวงวิญญาณปีศาจไว้หลายดวงขึ้นมา และพร้อมที่จะใช้พลังทั้งหมดที่มีในการปกป้องพี่ชายของเธอ

แต่แล้ว...ทันใดนั้นเอง ไดชิก็รู้สึกถึง เครื่องราง ที่ห้อยอยู่ที่คอของเขา มันเป็นเครื่องรางหินสลักรูปปีกนกที่ครอบครัวของเขาให้มาในวันเกิดเมื่อหลายปีก่อน มันไม่เคยมีความสำคัญอะไรเลย แต่ตอนนี้...มันกลับสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง และเปล่งแสงเรืองรองออกมาจากข้างใน

"นี่มัน...อะไรกัน?" ไดชิพึมพำด้วยความประหลาดใจ เขาหยิบเครื่องรางนั้นออกมาจากเสื้อ และพึมพำคาถาที่เขาเคยได้ยินจากพ่อแม่ของเขาเมื่อนานมาแล้ว

"โอ...ผู้ปกป้องแห่งแสง...ขอจงปลุกพลังที่หลับใหล...และขับไล่ความมืดมิดให้พ้นไปจากโลกนี้!"

ทันทีที่เขาร่ายคาถาจบ เครื่องรางหินสลักรูปปีกนกก็เปล่งแสงสีขาวบริสุทธิ์ออกมาอย่างรุนแรง แสงนั้นสาดส่องไปทั่วทั้งบริเวณ ราวกับพระอาทิตย์ที่กำลังจะขึ้นในยามค่ำคืน

"กร๊าซซซซซ!"

เหล่าเงาปีศาจที่ถูกแสงสีขาวสาดส่องต่างร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด ร่างกายของพวกมันเริ่มสั่นสะเทือนและแตกสลายทีละนิดๆ ราวกับถูกน้ำร้อนสาดใส่ พวกมันพยายามที่จะหนีจากแสงนั้น แต่ก็ไม่เป็นผล

"นี่มัน...พลังแห่งแสง!" ดาอิกล่าวด้วยความตกใจ เธอไม่เคยเห็นแสงอาคมที่ทรงพลังขนาดนี้มาก่อนเลย

"ดาอิ! เร็วเข้า!" ไดชิกล่าวพร้อมกับพยักหน้าให้เธอ "รีบหนี! แสงนี้จะอยู่ได้ไม่นาน!"

ดาอิเข้าใจในทันที เธอรีบวิ่งเข้าไปพยุงไดชิให้ลุกขึ้นยืน และพาวิ่งไปตามทางเดินที่อยู่ด้านข้างของพวกเขาอย่างรวดเร็ว เสียงร้องโหยหวนของเหล่าปีศาจยังคงดังอยู่ข้างหลังพวกเขา ราวกับกำลังขับไล่พวกเขาให้หนีไป

"เร็วเข้าไดชิ! อีกนิดเดียว!" ดาอิกล่าวเสียงหอบ เธอรู้สึกถึงแรงของพี่ชายที่กำลังอ่อนแรงลงเรื่อยๆ

"ไม่เป็นไร...ฉันไหว..." ไดชิกล่าวพร้อมกับยิ้มแห้งๆ แต่ใบหน้าของเขาซีดเผือดจนไม่มีสีเลือด

เมื่อวิ่งมาถึงปากถ้ำ พวกเขาก็พบว่าแสงสีขาวจากเครื่องรางเริ่มที่จะจางลงแล้ว และเสียงร้องโหยหวนของเหล่าเงาปีศาจก็เริ่มที่จะเงียบลงเช่นกัน

"เข้ามาในถ้ำเร็ว!" ดาอิกล่าวพร้อมกับลากไดชิเข้าไปในถ้ำที่พวกเขาเคยหลบซ่อนอยู่

ทันทีที่เข้ามาในถ้ำ ทั้งสองก็ทรุดตัวลงกับพื้นอย่างอ่อนแรง ดาอิรีบเข้าไปดูแผลที่หลังของไดชิ และพบว่ามันมีขนาดใหญ่กว่าที่คิดไว้มาก

"นาย...เป็นอะไรมากไหม?" ดาอิถามอย่างเป็นห่วง

"ไม่เป็นไร...แค่แผลถลอกนิดหน่อย" ไดชิกล่าวพร้อมกับยิ้มแห้งๆ

แต่ดาอิรู้ดีว่าเขาไม่ได้พูดความจริง เธอจึงรีบหยิบสมุนไพรและคัมภีร์ของเขาออกมาอย่างรวดเร็ว และเริ่มร่ายคาถาเพื่อรักษาบาดแผลของเขา

ในขณะที่ดาอิกำลังรักษาแผลของไดชิอยู่นั้น เสียงคำรามของเงาปีศาจก็ดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เสียงมันอยู่ใกล้ๆ ถ้ำที่พวกเขาหลบซ่อนอยู่มาก

"พวกมัน...ตามมาแล้ว!" ไดชิกล่าวด้วยความตกใจ

"ไม่ต้องห่วง...ฉันจะจัดการมันเอง" ดาอิกล่าวพร้อมกับลุกขึ้นยืน เธอหยิบขวดกักเก็บดวงวิญญาณปีศาจขึ้นมา และพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับศัตรูที่ไม่คาดฝันอีกครั้ง

แต่แล้ว...ทันใดนั้นเอง ผนังถ้ำก็เริ่มสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง และมีเสียงดังขึ้นมาจากด้านหลังของถ้ำ ราวกับมีอะไรบางอย่างกำลังจะโผล่ออกมา

"นี่มัน...อะไรกัน?" ไดชิถามอย่างไม่แน่ใจ

"ฉันไม่รู้...แต่เราต้องไปดู" ดาอิกล่าวพร้อมกับวิ่งไปที่ด้านหลังของถ้ำอย่างรวดเร็ว ไดชิรีบตามเธอไปติดๆ แม้จะบาดเจ็บอยู่ก็ตาม

เมื่อมาถึงด้านหลังของถ้ำ พวกเขาก็พบว่ามีแสงสว่างจางๆ เล็ดลอดออกมาจากรอยแยกเล็กๆ บนผนังถ้ำ พวกเขาเดินเข้าไปใกล้ๆ และพบว่าเบื้องหลังของรอยแยกนั้นเป็น ห้องโถงขนาดใหญ่ ที่เต็มไปด้วยภาพวาดโบราณที่สลักเสลาอย่างประณีต และที่ใจกลางห้องโถงมี หินแกะสลักรูปปีกนก ขนาดใหญ่ที่เปล่งแสงเรืองรองอยู่

"นี่มัน...เครื่องรางของนาย!" ดาอิกล่าวด้วยความประหลาดใจ

"ใช่...มันคือต้นกำเนิดของพลังอาคม!" ไดชิกล่าวพร้อมกับมองไปที่หินแกะสลักรูปปีกนกด้วยความทึ่ง "ดูเหมือนว่าเราจะเจอเบาะแสสำคัญแล้วนะดาอิ"

ดาอิพยักหน้าเห็นด้วย เธอรู้สึกเหมือนเรื่องราวทั้งหมดกำลังจะถูกเปิดเผย และเธอพร้อมที่จะรับรู้ความจริงที่รออยู่เบื้องหน้า

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • 5/B เกาะร้างต้องคำสาป   ความลับ

    หลังจากทำข้อตกลงกับหัวหน้าเผ่าสึนะ ไคลด์ ไดชิ และดาอิ ก็เริ่มต้นภารกิจที่อันตรายที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยเผชิญมา การเดินทางสู่ แหล่งพลังอาคมแห่งเงาที่แท้จริง ซึ่งซ่อนอยู่ลึกใต้เกาะแสงอรุณ มีเพียงไคลด์เท่านั้นที่รู้ทางเข้า ซึ่งต้องเดินทางผ่านทางน้ำใต้ดินที่ซับซ้อน"พวกเราทุกคนต้องรู้ว่าความมืดมิดที่พวกเจ้าเคยทำลายไปนั้น...เป็นแค่ เปลือกนอก ของพลังงานทั้งหมด" ไคลด์กล่าวขณะนำทางพวกเขาไปยังปากถ้ำที่ถูกซ่อนไว้ใต้รากต้นไม้ใหญ่ริมทะเลสาบ "พลังเงาที่แท้จริงไม่ได้มีไว้เพื่อทำลายล้าง แต่มีไว้เพื่อ รักษาสมดุลของผืนดิน เมื่อหลายศตวรรษก่อน ผู้พิทักษ์รุ่นก่อนได้ผนึกมันไว้ไม่ให้ถูกผู้ใดครอบครอง"ปากทางสู่ความมืดปากถ้ำนั้นแคบและมืดมิด มีเพียงแสงจากตะเกียงอาคมที่ดาอิสร้างขึ้นเท่านั้นที่ช่วยให้พวกเขามองเห็นได้ ไคลด์ลงไปในน้ำก่อน ตามมาด้วยไดชิและดาอิ พวกเขาต้องว่ายน้ำตามกระแสน้ำใต้ดินที่เย็นเฉียบและมืดสนิทไปนานหลายนาทีเมื่อกระแสน้ำสงบลง พวกเขาก็พบว่าตัวเองอยู่ใน อุโมงค์หินขนาดใหญ่ ที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำค้างและเสียงสะท้อนที่น่าขนลุก พื้นผิวของผนังถ้ำเต็มไปด้วย คริสตัลเงาสีดำ ที่ส่องแสงสลัว ๆ บ่งบอกถึงความหน

  • 5/B เกาะร้างต้องคำสาป   สันติภาพ

    หลังจากที่พิธีสืบทอดตำแหน่งเสร็จสิ้น ไคลด์ก็กลายเป็นผู้พิทักษ์แห่งเกาะแสงอรุณอย่างเป็นทางการ แต่ภัยคุกคามจากชนเผ่าแห่งเงาก็ยังคงเป็นบาดแผลฉกรรจ์ ไดชิ ดาอิ และไคลด์ต่างเห็นพ้องต้องกันว่า การเจรจาคือหนทางเดียวที่จะนำความสงบสุขที่แท้จริงมาสู่เกาะนี้พวกเขาตัดสินใจเดินทางไปยัง ป่าสนทมิฬ อีกครั้ง สถานที่ที่พวกเขาเคยถูกซุ่มโจมตี โดยมี ปู่เฒ่าดาฟ ร่วมเดินทางไปด้วยในฐานะตัวแทนของชาวเกาะ"การเจรจานี้อันตรายยิ่งกว่าการต่อสู้กับปีศาจ" ปู่เฒ่าดาฟกล่าวขณะเดินนำ "ความบาดหมางระหว่างเรากับชนเผ่าแห่งเงาฝังรากลึกมาตั้งแต่สมัย จอมเวทแห่งเงามืด ยังเป็นมนุษย์""ท่านปู่ ช่วยเล่าเรื่องราวความบาดหมางนั้นให้พวกเราฟังได้ไหมครับ" ไดชิถาม"ได้สิ..." ปู่เฒ่าดาฟเริ่มเล่าด้วยน้ำเสียงที่เศร้าสร้อย "ในอดีต จอมเวทที่ทรยศนั้นเคยเป็นหัวหน้ากลุ่มนักเวทที่แข็งแกร่งที่สุดบนเกาะ แต่เขามองว่าชาวเกาะธรรมดาและชนเผ่าแห่งเงาที่อาศัยอยู่ในป่าลึกเป็นเพียง เครื่องมือ และ พลังงาน ที่ไร้ค่า เขาต้องการให้ทุกคนกราบไหว้บูชาเขาเพียงผู้เดียว""แล้วชนเผ่าแห่งเงาเกี่ยวข้องอย่างไรคะ" ดาอิถาม"ชนเผ่าเหล่านั้นเป็นกลุ่มคนที่ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่

  • 5/B เกาะร้างต้องคำสาป   การรับตำแหน่ง

    หมู่บ้านแสงอรุณกลับมาสู่ความสงบเงียบอีกครั้ง แต่ความเงียบสงบในครั้งนี้แตกต่างจากครั้งก่อน ๆ มันคือความสงบที่มาพร้อมกับความตึงเครียดและความเตรียมพร้อม ชาวบ้านช่วยกันพาไดชิ ดาอิ และไคลด์ไปที่วิหารเก่า ซึ่งถูกใช้เป็นสถานที่รักษาพยาบาลชั่วคราวบาดแผลและการเยียวยาไคลด์มีอาการหนักที่สุด พิษจากศรของชนเผ่าแห่งเงาได้เริ่มซึมซาบเข้าสู่กระแสเลือดของเขา แม้ร่างกายจะแข็งแกร่งดุจหินผา แต่พิษร้ายก็ทำให้เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้สะดวก"นี่มันพิษจาก พฤกษามรณะ" ปู่เฒ่าดาฟกล่าวขณะที่กำลังทำความสะอาดบาดแผลอย่างระมัดระวัง "ชนเผ่าแห่งเงาใช้สารนี้มาตั้งแต่สมัยโบราณเพื่อทำให้เหยื่ออ่อนแรง...แต่ดีที่เจ้าเป็นบุตรแห่งทะเล ร่างกายจึงต้านทานได้ดีกว่าคนอื่น"ดาอิที่เฝ้าดูอาการของไคลด์อยู่ไม่ห่างรู้สึกผิดที่เธอไม่สามารถปกป้องเขาได้ เธอจึงตัดสินใจใช้พลังอาคมของตนเองเข้าช่วยในการรักษา ไดชิที่ถูกชนเผ่าทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยที่แขนและขา ก็พยุงตัวเองมานั่งข้าง ๆ น้องสาว"ดาอิ...บาดแผลของนาย" ไดชิกล่าวด้วยความเป็นห่วง"ฉันไม่เป็นไรหรอกพี่ไดชิ" ดาอิส่ายหน้า เธอจ้องมองไปที่บาดแผลของไคลด์อย่างตั้งใจ ก่อนจะหลับตาลงเพื่

  • 5/B เกาะร้างต้องคำสาป   เพลิงแค้นของชนเผ่า

    การเดินทางกลับหมู่บ้านเริ่มต้นขึ้นพร้อมกับ ไคลด์ ผู้พิทักษ์แห่งท้องทะเล ชายหนุ่มลึกลับคนนี้ยังคงเดินนำหน้าอย่างเงียบ ๆ ร่างกายของเขาสง่างามและเต็มไปด้วยความแข็งแกร่ง ราวกับว่าเขาไม่ได้เดินอยู่บนพื้นดิน แต่กำลังล่องลอยไปตามกระแสลม ไดชิและดาอิเดินตามหลังเขาไปอย่างเงียบ ๆ ด้วยความตื่นเต้นและกังวลใจ"ไคลด์..." ไดชิเริ่มต้นบทสนทนาหลังจากที่เดินทางมาได้พักใหญ่ "นายช่วยบอกเราได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นที่ทะเลเมื่อวานนี้ คลื่นนั่นมันไม่ใช่คลื่นธรรมชาติใช่ไหม"ไคลด์ไม่หยุดเดิน แต่ตอบด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉยแต่แฝงด้วยความหนักแน่น "คลื่นนั้นคือ การปฏิเสธของจิตวิญญาณแห่งทะเล พวกมันไม่ยอมรับผู้ที่ไม่ได้มาจากท้องทะเลให้เข้าใกล้พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ แต่เมื่อเห็นว่าพวกเจ้าไม่ยอมแพ้...พวกมันจึงอนุญาตให้ข้าช่วยนำทางพวกเจ้ากลับมา""แล้วศรเพลิงที่ช่วยเราจากอสูรหินล่ะ" ดาอิถามอย่างกระตือรือร้น "นั่นเป็นของนายใช่ไหม"ไคลด์หันมามองพวกเขาเล็กน้อย ดวงตาสีน้ำทะเลนั้นสบตาไดชิและดาอิอย่างช้า ๆ "ศรนั่นทำจาก ไม้แห่งภูเขาไฟ ที่ไม่ไหม้ไฟ และอาบด้วยพิษแห่งความมืดที่สามารถทำลายสิ่งมีชีวิตที่เกิดจากพลังตกค้างได้...นั่นคือสิ่งที

  • 5/B เกาะร้างต้องคำสาป   ร่องรอย

    หลังจากที่เรือกลับถึงฝั่งอย่างปลอดภัย ไดชิและดาอิรีบวิ่งขึ้นจากหาดทรายทันที หัวใจของพวกเขายังเต้นรัวจากความตื่นเต้นและความฉงนสนเท่ห์ที่ได้เห็นชายหนุ่มลึกลับคนนั้น ชายที่สามารถควบคุมพลังของทะเลและซ่อมแซมเรือได้ในพริบตา"เขา...เขาต้องเป็นผู้พิทักษ์คนต่อไปที่เราตามหาแน่ ๆ!" ดาอิกล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นสุดขีด"ใช่" ไดชิพยักหน้าอย่างเห็นด้วย "แต่เขาไม่ได้อยากให้เราเจอเลย และการที่เขาพาเรือเรากลับเข้าฝั่งอย่างรวดเร็วขนาดนี้ หมายความว่าเขาอาจจะมุ่งหน้าสู่ใจกลางเกาะแล้ว"สองพี่น้องตัดสินใจเริ่มต้นการตามล่าทันที โดยมุ่งหน้าไปยังทิศทางที่พวกเขาเชื่อว่าจะเป็นเส้นทางที่สั้นที่สุดสู่ถ้ำของปู่เฒ่าดาฟและหมู่บ้าน ซึ่งพวกเขาเดาว่าชายหนุ่มคนนั้นน่าจะไปที่นั่นก่อนเพื่อพบกับผู้อาวุโสอุปสรรคแรก: ลานหินอัปลักษณ์พวกเขาต้องผ่าน ลานหินอัปลักษณ์ ที่เต็มไปด้วยก้อนหินแหลมคมและเศษซากของต้นไม้ที่ตายแล้ว ซึ่งเคยเป็นอาณาเขตของปีศาจหินก่อนที่เกาะจะฟื้นฟู พวกเขาต้องระมัดระวังเป็นพิเศษเพราะพื้นผิวที่ลื่นและไม่มั่นคง"ดาอิ ระวังให้ดี" ไดชิเตือนขณะที่ใช้มือจับดาบอาคม "พลังงานมืดที่นี่จางหายไปแล้ว แต่พลังอาคมของธาตุหิน

  • 5/B เกาะร้างต้องคำสาป   คลื่นคำราม

    หลังจากผ่านบททดสอบที่โหดร้ายทั้งสองครั้ง ไดชิและดาอิก็เข้าใจแล้วว่าการค้นหาผู้พิทักษ์ที่แท้จริงไม่ใช่แค่การต่อสู้ แต่เป็นการ ทดสอบปัญญาและจิตวิญญาณ ของผู้ถูกเลือก ไดชิและดาอิใช้เวลาในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนที่สามในการฝึกฝนร่างกายและจิตใจอย่างหนักหน่วง พวกเขาตระหนักว่าอาคมของพวกเขาจำเป็นต้องผสานเข้ากับธรรมชาติอย่างแท้จริงตามคำแนะนำของปู่เฒ่าดาฟและรูฟ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านทะเลของเกาะ พวกเขาจึงตัดสินใจพาเรือเล็กออกไปฝึกฝนกลางมหาสมุทร"ท่านปู่บอกว่าพลังที่แท้จริงของเกาะแสงอรุณไม่ได้อยู่บนพื้นดินเท่านั้น แต่อยู่ใน ท้องทะเลที่ลึกที่สุด ด้วย" ดาอิกล่าว ขณะที่เธอกำลังตรวจสอบผืนผ้าใบเรือที่ถูกเย็บอย่างแข็งแรง"ใช่" ไดชิกล่าวพร้อมกับดึงเชือกใบเรือให้ตึง ใบหน้าของเขาเปื้อนไปด้วยเหงื่อ "ที่นี่คือสถานที่ที่ไม่มีกำแพงและไม่มีภาพลวงตา มีเพียงพลังงานบริสุทธิ์ของคลื่นและลมเท่านั้น"พวกเขาแล่นเรือออกไปไกลจากชายฝั่งหลายชั่วโมงจนมองไม่เห็นเกาะแล้ว มีเพียงผืนน้ำสีครามที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา ไดชิปิดตาลง พยายามใช้จิตสัมผัสถึงพลังอาคมที่แผ่กระจายอยู่ใต้น้ำ ในขณะที่ดาอิฝึกร่ายคาถาควบคุมสายลม เพื่อให้เรือ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status