ความเงียบสงัดเข้าปกคลุมหอสมุดเก่าแก่หลังจากที่เหล่าเงาปีศาจแห่งความเงียบสลายไป ไอโกะและโชต่างก็ทรุดตัวลงบนพื้น ฝุ่นละอองฟุ้งกระจายไปทั่วอากาศ ร่างกายของพวกเขาสั่นเทาด้วยความอ่อนล้า แต่ผ้ายันต์หกผืนที่อยู่ในกระเป๋าของไอโกะคือเครื่องยืนยันถึงชัยชนะที่แลกมาด้วยความยากลำบากแสนสาหัส
“โช…เราได้ผ้ายันต์ผืนที่หกมาแล้วนะ” ไอโกะพึมพำ เสียงของเธอแหบพร่าจนแทบจะไม่ได้ยิน แต่แววตาของเธอกลับฉายแววแห่งความหวัง โชพยักหน้า เขายิ้มอย่างเหนื่อยอ่อน “ใช่ไอโกะ…เหลืออีกแค่ผืนเดียวเท่านั้น” ทั้งคู่พักหายใจกันอยู่ครู่หนึ่ง เพื่อฟื้นฟูพละกำลังที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิด ท่ามกลางความมืดมิดที่ไร้สิ้นสุดของหอสมุด เสียงหัวใจของพวกเขาเต้นระรัวในความเงียบงัน ไอโกะก้มดูนาฬิกาข้อมือของเธอ แสงสีเขียวจากหน้าปัดกะพริบถี่ขึ้นอย่างรวดเร็ว บ่งบอกถึงผ้ายันต์ผืนสุดท้ายที่อยู่ไม่ไกลจากพวกเขาแล้ว “สัญญาณบอกว่าผ้ายันต์ผืนสุดท้าย…อยู่ใจกลางโรงเรียนเลยโช” ไอโกะพึมพำ “ในหอประชุมใหญ่” โชขมวดคิ้ว “หอประชุมใหญ่เหรอ? นั่นมันเป็นจุดที่ปีศาจปรากฏตัวครั้งแรกเลยนี่นา…” น้ำเสียงของเขาบ่งบอกถึงความกังวล “ใช่…แต่เราต้องไปที่นั่นโช…ผ้ายันต์ผืนสุดท้ายรอเราอยู่” ไอโกะกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น แม้ร่างกายของเธอจะรู้สึกเหมือนจะล้มลงได้ทุกเมื่อ พวกเขาพยุงกันลุกขึ้นยืนช้า ๆ และเดินหน้าต่อไปยังหอประชุมใหญ่ที่ตั้งอยู่ใจกลางโรงเรียนร้าง แสงไฟฉายจากอุปกรณ์ของพวกเขาเป็นสิ่งเดียวที่ให้ความสว่างนำทางในความมืดมิดที่ไร้สิ้นสุด ก้าวแล้วก้าวเล่า เสียงหอบหายใจของพวกเขาดังก้องไปทั่วความเงียบงัน เมื่อมาถึงประตูทางเข้าหอประชุมใหญ่ ไอโกะและโชต่างก็หยุดชะงัก ประตูไม้ขนาดใหญ่ที่เคยปิดสนิทบัดนี้เปิดอ้าออก เผยให้เห็นความมืดมิดที่ลึกเข้าไปข้างใน และที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นคือ แสงสีแดงก่ำ ที่เรืองรองอยู่ภายในหอประชุมใหญ่ ราวกับมีบางสิ่งบางอย่างที่น่าสะพรึงกลัวกำลังรอคอยพวกเขาอยู่ “แสงนั่นมันอะไรน่ะไอโกะ?” โชถาม เสียงของเขาเบาลงเล็กน้อย “ฉันไม่รู้โช…แต่ฉันรู้สึกไม่ค่อยดีเลย” ไอโกะตอบ ทันทีที่ก้าวเท้าผ่านธรณีประตูเข้าไปในหอประชุมใหญ่ ไอโกะและโชต่างก็สัมผัสได้ถึง พลังงานด้านลบที่รุนแรงมหาศาล ที่แผ่ซ่านออกมาจากใจกลางของห้องโถงกว้างใหญ่ แสงสีแดงก่ำที่เรืองรองอยู่เบื้องหน้าทำให้บรรยากาศดูน่าขนลุกยิ่งนัก เก้าอี้ไม้ที่เรียงรายอยู่กระจัดกระจายไม่เป็นระเบียบ บางตัวก็พังเสียหาย แสงไฟฉายจากนาฬิกาของไอโกะส่องไปกระทบกับพื้นไม้ที่เต็มไปด้วยฝุ่นและเศษซากปรักหักพัง และที่น่าตกใจที่สุดคือ ร่างของเงาปีศาจขนาดมหึมา ที่ยืนตระหง่านอยู่กลางเวที มันมีรูปร่างคล้ายสัตว์ร้ายผสมผสานกันหลายชนิด มีเขาแหลมคม ดวงตาสีแดงก่ำเรืองรองดุจถ่านไฟ และปีกขนาดใหญ่ที่กางออกราวกับจะปกคลุมไปทั่วทั้งหอประชุม มันส่งเสียงคำรามต่ำ ๆ ที่ทำให้พื้นดินสั่นสะเทือน พลังงานด้านลบที่แผ่ออกมาจากมันรุนแรงกว่าปีศาจตัวไหน ๆ ที่พวกเขาเคยเจอมา ราวกับมันคือ บอสที่แท้จริง ของฝันร้ายทั้งหมดนี้ และที่มือของเงาปีศาจตนนั้น ก็คือ ผ้ายันต์ผืนสุดท้าย ที่เปล่งแสงสีทองจ้าส่องสว่างท่ามกลางความมืดมิด มันดูเหมือนจะถูกตรึงไว้กับร่างของบอสด้วยพลังงานบางอย่าง “นั่นมัน…บอส!” ไอโกะอุทานด้วยความตกใจ น้ำเสียงของเธอสั่นเครือจนแทบจะไม่ได้ยิน โชกำมีดอาคมแน่น แขนของเขาสั่นเทาอย่างรุนแรง “มันแข็งแกร่งกว่าที่ฉันคิดไว้มากนะไอโกะ…ฉันไม่แน่ใจว่าเราจะเอาชนะมันได้ไหม” “เราต้องชนะโช!” ไอโกะตอบด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น “เรามาถึงขนาดนี้แล้ว…เราจะยอมแพ้ไม่ได้!” การต่อสู้ครั้งนี้เป็นที่สุดของความดุเดือดและทารุณ เงาปีศาจบอสพุ่งเข้าใส่พวกเขาด้วยความเร็วที่ไม่น่าเชื่อ ร่างกายขนาดมหึมาของมันเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่ว ราวกับมันเป็นเพียงแค่เงา การโจมตีของมันรุนแรงและรวดเร็วเกินกว่าที่พวกเขาจะหลบหลีกได้ง่าย ๆ “อ๊ากกกก!” โชร้องด้วยความเจ็บปวด เมื่อกรงเล็บขนาดใหญ่ของบอสฟาดเข้าใส่เขาอย่างจัง ทำให้เขากระเด็นไปกระแทกกับเก้าอี้ไม้ที่อยู่ด้านหลังอย่างแรง เสียงกระดูกร้าวเบา ๆ ดังขึ้น พร้อมกับเลือดสีแดงสดที่ไหลซึมออกมาจากบาดแผลขนาดใหญ่บนไหล่ของเขา “โช!” ไอโกะกรีดร้องด้วยความตกใจ เธอเห็นเลือดของโชไหลอาบเสื้อของเขา และเงาปีศาจบอสที่กำลังส่งเสียงคำรามอย่างพึงพอใจ มันไม่รอช้า พุ่งเข้าหาโชอีกครั้ง หวังจะบดขยี้เขาให้สิ้นซาก ไอโกะไม่มีเวลาคิด เธอรีบใช้คาถารักษาโชทันที แสงสีเขียวอ่อน ๆ ก็พลันเปล่งประกายออกมาจากฝ่ามือของเธอ แสงนั้นแผ่ซ่านเข้าสู่ร่างของโชอย่างรวดเร็ว บาดแผลของเขาเริ่มสมานตัวกันอย่างน่าอัศจรรย์ แต่ไอโกะรู้ว่าเธอไม่สามารถใช้คาถารักษาได้บ่อยนัก เพราะมันจะดูดพลังงานของเธอไปมากเกินไป “ไอโกะ! เธอต้องหลบ!” โชตะโกนบอก เขามองเห็นบอสที่กำลังพุ่งเข้าหาไอโกะ ไอโกะหลบการโจมตีของบอสได้อย่างหวุดหวิด แต่มันก็ยังคงโจมตีพวกเขาอย่างไม่หยุดหย่อน การโจมตีของมันรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ บังคับให้พวกเขาต้องถอยร่นไปเรื่อย ๆ “มันแข็งแกร่งเกินไปไอโกะ!” โชตะโกนบอก เขารู้สึกได้ถึงพลังที่ถูกดูดกลืนไปอย่างรวดเร็ว “ฉันไม่แน่ใจว่าเราจะจัดการมันได้ยังไง!” ไอโกะกัดริมฝีปากแน่น เธอกำลังใช้พลังงานมหาศาลในการร่ายคาถาป้องกันและโจมตี แต่บอสก็ยังคงยืนหยัดอยู่ตรงนั้น ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอรู้ว่าหากยังคงเป็นแบบนี้ต่อไป พวกเขาจะต้องเป็นฝ่ายแพ้แน่นอน “โช! นายต้องใช้พลังของดวงวิญญาณ!” ไอโกะตัดสินใจ เธอเปิดขวดอาคมที่กักเก็บดวงวิญญาณของปีศาจไว้ และเริ่มร่าย ‘คาถาอาคมผสานขั้นสุดยอด’ เสียงสวดของเธอดังก้องกังวานในความมืดมิด แสงสีม่วงเข้มจากขวดอาคมของเธอก็พลันเปล่งประกายออกมาอย่างรุนแรง พลังงานมหาศาลจากดวงวิญญาณที่ถูกกักเก็บไว้พุ่งตรงเข้าใส่เงาปีศาจบอสอย่างจัง “คำรามมมมมมมมม!!!” เงาปีศาจบอสส่งเสียงคำรามด้วยความเจ็บปวดทรมาน ร่างกายของมันสั่นไหวอย่างรุนแรง แสงสีม่วงเข้มที่พุ่งเข้าใส่ดูดกลืนพลังงานจากมันไปทีละน้อย แต่บอสก็ยังคงแข็งแกร่งเกินกว่าที่จะสลายไปได้ง่าย ๆ “มันไม่พอไอโกะ!” โชตะโกนบอก เขารู้สึกได้ว่าพลังของไอโกะกำลังจะหมดลงแล้ว ไอโกะหอบหายใจอย่างแรง ใบหน้าของเธอซีดเผือด “ฉัน…ฉันหมดแรงแล้วโช…” เธอพึมพำ แต่ในวินาทีวิกฤตนั้นเอง โชก็พลันเหลือบไปเห็น ผ้ายันต์ผืนสุดท้าย ที่อยู่ในมือของบอส มันเปล่งแสงสีทองจ้าส่องสว่างท่ามกลางความมืดมิด “ไอโกะ! ผ้ายันต์ผืนสุดท้ายนั่นแหละ!” โชตะโกนบอก “มันน่าจะเป็นจุดอ่อนของมัน!” ไอโกะพยักหน้า เธอรวบรวมพละกำลังเฮือกสุดท้าย เธอเปลี่ยนคาถาที่กำลังร่ายอยู่เป็น ‘คาถาโจมตีระยะไกล’ แสงสีม่วงเข้มจากขวดอาคมของเธอพุ่งตรงเข้าใส่ผ้ายันต์ที่อยู่ในมือของบอสอย่างรวดเร็วและแม่นยำ “ตูมมมมมมมมมม!!!” เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วทั้งหอประชุมใหญ่! แสงสีม่วงเข้มปะทะเข้ากับผ้ายันต์อย่างจัง ทำให้เกิดแรงระเบิดมหาศาล แสงสว่างจ้าเข้าปกคลุมไปทั่วบริเวณ ทำให้มองไม่เห็นอะไรเลย เมื่อแสงสว่างจางลง ไอโกะและโชต่างก็มองไปยังจุดที่บอสเคยยืนอยู่ด้วยความลุ้นระทึก และสิ่งที่พวกเขาเห็นก็ทำให้ทั้งคู่ถึงกับต้องเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง ร่างของเงาปีศาจบอสได้หายไปแล้ว! ไม่เหลือแม้แต่เศษซากของมัน! เหลือเพียง ผ้ายันต์ผืนสุดท้าย ที่ร่วงหล่นลงมาสู่พื้นเวที และ ดวงจิตสีม่วงเข้มขนาดใหญ่ ที่ลอยนิ่งอยู่กลางอากาศ “เรา…เราชนะแล้วเหรอ?” ไอโกะพึมพำ น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ โชพยักหน้า เขายิ้มอย่างเหนื่อยอ่อน “ใช่ไอโกะ…เราชนะแล้ว” ไอโกะรีบเดินโซซัดโซเซเข้าไปเก็บผ้ายันต์ผืนสุดท้ายด้วยความตื่นเต้น ผ้ายันต์ในมือของเธอเปล่งประกายสีทองอร่าม ส่องสว่างไปทั่วบริเวณ เธอสัมผัสได้ถึงพลังงานศักดิ์สิทธิ์ที่เข้มข้นแผ่ออกมาจากมัน เธอรีบเก็บมันใส่กระเป๋าคาถาที่พกติดตัวอย่างระมัดระวัง และในจังหวะนั้นเอง ดวงจิตสีม่วงเข้มที่เกิดจากการสลายไปของเงาปีศาจบอสก็ถูกดูดเข้าไปในขวดกักเก็บวิญญาณโดยอัตโนมัติ ทำให้ขวดอาคมของเธอเปล่งประกายสีม่วงเข้มและสว่างจ้าขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า บ่งบอกถึงพลังงานมหาศาลที่ถูกกักเก็บไว้ภายใน ทั้งคู่ทรุดตัวลงบนพื้นเวทีด้วยความโล่งใจที่ถาโถมเข้ามา ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า แต่ก็ฉายแววแห่งความสุขและภาคภูมิใจในชัยชนะที่แลกมาด้วยเลือด เนื้อ และหยาดเหงื่อ “เราทำได้แล้วโช!” ไอโกะร้องด้วยความดีใจ เสียงของเธอแหบพร่าแต่เต็มไปด้วยความปิติยินดีจนแทบจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ โชพยักหน้า เขายิ้มอย่างเหนื่อยอ่อน “ใช่…เราทำได้แล้วไอโกะ…เราเอาชนะมันมาได้จริง ๆ” แต่ในขณะที่พวกเขากำลังชื่นชมกับชัยชนะ ทันใดนั้น แสงสีแดงก่ำ ที่เคยเรืองรองอยู่ภายในหอประชุมใหญ่ก็พลัน สว่างวาบขึ้นมาอีกครั้ง! คราวนี้มันสว่างจ้ากว่าเดิมหลายเท่า จนแสบตา “แกคิดว่าจะเอาชนะข้าได้ง่าย ๆ อย่างนั้นรึ…มนุษย์ผู้โง่เขลา!” เสียงทุ้มต่ำที่น่าสะพรึงกลัวดังก้องไปทั่วทั้งหอประชุมใหญ่ เสียงนั้นเต็มไปด้วยความอาฆาตแค้นและพลังงานด้านลบที่รุนแรงจนทำให้พื้นดินสั่นสะเทือน ไอโกะและโชเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง พวกเขามองไปยังจุดที่เสียงดังขึ้น และสิ่งที่พวกเขาเห็นก็ทำให้ทั้งคู่ถึงกับตัวแข็งทื่อด้วยความหวาดกลัว เบื้องหน้าของพวกเขา เงาปีศาจขนาดมหึมา ที่ใหญ่กว่าบอสตัวเมื่อครู่หลายเท่า กำลังก่อตัวขึ้นอย่างช้า ๆ กลางเวที ร่างกายของมันสูงใหญ่จนเกือบจะชนเพดานของหอประชุม ดวงตาของมันเปล่งแสงสีแดงก่ำราวกับเพลิงนรก พลังงานด้านลบที่แผ่ออกมาจากมันรุนแรงจนแทบจะทำให้พวกเขาหายใจไม่ออก และที่น่าตกใจที่สุดคือ รูปร่างของมันคล้ายกับบอสตัวเมื่อครู่…แต่กลับดูสมบูรณ์และแข็งแกร่งกว่ามาก! “แกคิดว่าบอสตัวเมื่อครู่คือข้าอย่างนั้นรึ…ฮ่า ฮ่า ฮ่า! มันเป็นแค่…ภาพลวงตาที่ข้าสร้างขึ้นมาเพื่อทดสอบพลังของพวกแกเท่านั้นแหละ!” เสียงของมันดังก้องไปทั่วหอประชุมใหญ่ เต็มไปด้วยความเหยียดหยามและน่าสะพรึงกลัว ไอโกะและโชต่างก็เบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง ใบหน้าของพวกเขาซีดเผือดด้วยความสิ้นหวัง ผ้ายันต์ผืนสุดท้ายที่อยู่ในกระเป๋าของไอโกะพลันดับแสงลงอย่างรวดเร็ว ราวกับมันกำลังถูกดูดกลืนพลังงานไป “ไม่จริงน่า…” ไอโกะพึมพำ เสียงของเธอสั่นเครือ “ทั้งหมดที่เราสู้มา…มันเป็นแค่ภาพลวงตาอย่างนั้นเหรอ?” โชทรุดตัวลงนั่งกับพื้น ดวงตาของเขาว่างเปล่า “เรา…เราพลาดไปแล้วเหรอไอโกะ? เราสู้กับสิ่งที่ไม่มีตัวตนจริง ๆ อย่างนั้นเหรอ?” เขาไม่คิดเลยว่าพวกเขาจะถูกหลอกได้ขนาดนี้ ความรู้สึกสิ้นหวังถาโถมเข้ามาในจิตใจของพวกเขา พวกเขาทั้งสองต่างเหนื่อยล้าจนแทบหมดแรง บาดแผลที่ได้รับจากการต่อสู้กับภาพลวงตาของบอสเมื่อครู่ยังคงสร้างความเจ็บปวดให้กับร่างกายของพวกเขา การที่จะต้องเผชิญหน้ากับบอสตัวจริงที่ดูแข็งแกร่งกว่ามากในสภาพเช่นนี้ ทำให้พวกเขารู้สึกหมดหวังอย่างแท้จริง “กว่าจะเอาชนะได้…พวกเราก็เกือบเอาตัวไม่รอดแล้วนะ” ไอโกะพึมพำ น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความท้อแท้ แต่แล้ว โชก็เงยหน้าขึ้นมองไอโกะ ดวงตาของเขาแม้จะเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า แต่ก็ยังคงฉายแววแห่งความมุ่งมั่น เขาเอื้อมมือไปจับมือของไอโกะแน่น “ไม่นะไอโกะ…เรายังไม่แพ้” โชกล่าว น้ำเสียงของเขาหนักแน่น “เราอาจจะถูกหลอก…แต่เราก็ยังได้ผ้ายันต์มาครบทุกผืนแล้วนี่นา” ไอโกะมองไปยังผ้ายันต์ทั้งหกผืนที่อยู่ในกระเป๋าของเธอ มันเป็นความจริงที่พวกเขายังคงมีอาวุธสำคัญอยู่ในมือ “เราต้องทำได้โช” ไอโกะพึมพำ เธอรวบรวมพละกำลังทั้งหมดที่เหลืออยู่ เธอกำมือของโชแน่น “เราต้องเอาชนะมันให้ได้…เพื่อเพื่อน ๆ ของเรา!” โชพยักหน้า เขายิ้มอย่างเหนื่อยอ่อน “ใช่ไอโกะ…เราจะทำมันให้สำเร็จด้วยกัน!” แม้จะรู้สึกหมดหวังจากการที่ต้องเผชิญหน้ากับบอสตัวจริงที่แข็งแกร่งกว่ามาก แต่การให้กำลังใจกันและกันก็ทำให้พวกเขามีแรงที่จะลุกขึ้นยืนอีกครั้ง เพื่อเผชิญหน้ากับความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่รอคอยพวกเขาอยู่เบื้องหน้าลมหายใจแห่งเงามืดที่พัดกรูเข้ามาอย่างกะทันหัน ทำให้ไอโกะและโชแข็งทื่อด้วยความหวาดกลัว แสงจากนาฬิกาข้อมือของไอโกะที่ดับสนิท ยิ่งตอกย้ำถึงอันตรายที่กำลังคืบคลานเข้ามาใกล้ พวกเขาทั้งคู่รู้ดีว่ามันคือสัญญาณเตือนจากการมาถึงของบอสตัวจริง“ไม่นะ…ลมนี้…มันคือพลังของบอสตัวจริง!” ไอโกะพึมพำ น้ำเสียงของเธอสั่นเครือด้วยความหวาดหวั่นแต่แล้ว โชก็เอื้อมมือไปจับมือของไอโกะแน่น ดวงตาของเขาฉายแววครุ่นคิดอย่างหนัก“มันยังไม่มาตอนนี้หรอกไอโกะ” โชเอ่ยขึ้นมา เสียงของเขาหนักแน่นและมั่นใจอย่างน่าประหลาด “เชื่อฉันสิ”ไอโกะหันมามองโชด้วยความสงสัย “แน่ใจเหรอโช? พลังงานมันรุนแรงขนาดนี้เลยนะ”“แน่ใจ” โชตอบ “เท่าที่ฉันสันนิษฐาน…บอสพวกนั้นจะต้องรวบรวมพลังงานให้ได้มากที่สุดก่อนที่จะปรากฏตัวออกมาอย่างสมบูรณ์”ไอโกะขมวดคิ้ว “ทำไมถึงคิดอย่างนั้นล่ะ?”“จำได้ไหมที่มันบอกว่า ‘อาณาเขตนี้คือส่วนหนึ่งของตัวข้า!’” โชอธิบาย “นั่นหมายความว่ามันกำลังดูดกลืนพลังงานจากโรงเรียนทั้งหมด และมันจะไม่ยอมออกมาจนกว่ามันจะแข็งแกร่งที่สุด”“แล้วลมพวกนี้ล่ะ?” ไอโกะถาม“ลมพวกนี้ก็เป็นแค่พลังงานรั่วไหลของมันที่กำลังรวบรวมตัวอยู่” โชตอบ “มันเป
ความรู้สึกสิ้นหวังจากการเผชิญหน้ากับบอสตัวจริงที่แข็งแกร่งเกินจินตนาการยังคงเกาะกุมจิตใจของไอโกะและโชอย่างหนักหน่วง ผ้ายันต์ทั้งหกผืนที่ได้มาด้วยหยาดเหงื่อและเลือดเนื้อกลับดับแสงลงอย่างสิ้นเชิง ราวกับไร้ประโยชน์สิ้นดี แต่คำให้กำลังใจจากโชก็ช่วยจุดประกายความหวังขึ้นมาอีกครั้งในใจของไอโกะ“ไม่นะไอโกะ…เรายังไม่แพ้” โชกล่าว น้ำเสียงของเขาหนักแน่น “เราอาจจะถูกหลอก…แต่เราก็ได้ผ้ายันต์มาครบทุกผืนแล้วนี่นา”ไอโกะพยักหน้า เธอกำมือของโชแน่น “ใช่โช…เราต้องทำได้ เราจะทำมันให้สำเร็จด้วยกัน!”พวกเขาทั้งคู่พยุงกันลุกขึ้นยืนช้าๆ แม้ร่างกายจะยังคงอ่อนล้าและเจ็บปวดจากบาดแผลที่ได้รับ แต่แรงฮึดสุดท้ายก็ทำให้พวกเขาก้าวต่อไป สู่เป้าหมายเดียวที่เหลืออยู่: อาคารวิทยาศาสตร์“ไปอาคารวิทยาศาสตร์กันเถอะโช” ไอโกะบอก เสียงของเธอแหบพร่าแต่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นโชพยักหน้า “ไปกันเลยไอโกะ…เราต้องรีบแล้ว”พวกเขาเดินออกจากจุดที่ต่อสู้กับเงาปีศาจช้างที่สลายไป สู่ทางเดินที่มืดมิดและเต็มไปด้วยซากปรักหักพัง บรรยากาศของโรงเรียนร้างยังคงน่าขนลุกและเต็มไปด้วยความเงียบสงัดที่กดดัน เสียงฝีเท้าของพวกเขาก้องกังวานไปทั่วบริเวณ ราว
หลังจากที่ได้ผ้ายันต์ผืนที่ 6 มาอย่างยากลำบาก และได้วางแผนการทำลายโรงเรียนด้วยระเบิดชำระล้างแล้ว ไอโกะและโชก็ตัดสินใจที่จะมุ่งหน้าไปยังอาคารวิทยาศาสตร์ทันที แม้ร่างกายจะยังคงอ่อนล้า แต่ความมุ่งมั่นที่จะยุติฝันร้ายทั้งหมดนี้ก็เป็นแรงผลักดันให้พวกเขาเดินหน้าต่อไป“เอาล่ะโช…ไปอาคารวิทยาศาสตร์กันเถอะ” ไอโกะบอก เสียงของเธอหนักแน่นขึ้นเล็กน้อยโชพยักหน้า “ไปกันเลยไอโกะ…ยิ่งเร็วยิ่งดี”ทั้งคู่เดินออกจากโรงอาหารที่มืดมิด สู่ทางเดินที่ไร้สิ้นสุดของโรงเรียนร้าง แสงจากนาฬิกาข้อมือของไอโกะส่องนำทางพวกเขาไปตามซากปรักหักพังและเถาวัลย์ที่ปกคลุมไปทั่วอาคาร บรรยากาศยังคงน่าขนลุกและเต็มไปด้วยความเงียบสงัดที่กดดัน“อาคารวิทยาศาสตร์อยู่ทางนั้นนะโช” ไอโกะชี้ไปทางซ้ายมือของพวกเขา ซึ่งเป็นอาคารที่ดูใหญ่โตและมีโครงสร้างแปลกตาเล็กน้อยพวกเขาเดินไปตามทางเดินที่มืดมิด ท่ามกลางเสียงฝีเท้าของตัวเองที่ก้องกังวานในความเงียบงัน ความรู้สึกไม่สบายใจเริ่มเกาะกุมจิตใจของพวกเขาอีกครั้งทันใดนั้นเอง เสียงร้องอันน่าสะพรึงกลัว ก็พลันดังขึ้นมาจากด้านหน้าของพวกเขา! เสียงนั้นดังก้องไปทั่วบริเวณ ราวกับเสียงแตรที่ใหญ่โตและน่ากลั
หลังจากที่แผนการใหญ่เรื่องระเบิดชำระล้างได้ก่อร่างขึ้นในความคิดของไอโกะ ความหิวโหยที่ถาโถมเข้ามาก็ทำให้ทั้งคู่ต้องพักจากการระดมสมองอันหนักหน่วง เมื่อท้องอิ่มด้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและน้ำอัดลม ความหวังก็กลับมาส่องประกายในดวงตาอีกครั้ง“รู้สึกดีขึ้นเยอะเลยนะโช” ไอโกะพึมพำขณะลูบท้อง “ไม่คิดว่าบะหมี่สำเร็จรูปจะช่วยได้ขนาดนี้”โชพยักหน้าพลางยิ้มแห้ง ๆ “ใช่…มันช่วยได้มาก แต่ฉันว่าเราคงต้องรีบไปหาวัตถุดิบที่อาคารวิทยาศาสตร์นะไอโกะ ยิ่งเร็วยิ่งดี”“แน่นอน แต่ก่อนหน้านั้น…” ไอโกะก้มมองนาฬิกาข้อมือของเธอ แสงสีเขียวยังคงกะพริบอยู่ “สัญญาณของผ้ายันต์ผืนที่หกมันแรงขึ้นเรื่อยๆ เลยนะโช ฉันว่ามันอยู่ใกล้ ๆ แถวนี้แหละ…ในโรงอาหารนี่แหละ”โชเบิกตากว้างเล็กน้อย “ในโรงอาหารเหรอ? แต่เราเดินดูมาเกือบจะทั่วแล้วนะ ไม่มีอะไรผิดปกติเลย”“บางทีมันอาจจะซ่อนอยู่ในที่ที่เราคาดไม่ถึงก็ได้” ไอโกะบอก น้ำเสียงของเธอเริ่มจริงจังขึ้น “มาลองสำรวจให้ละเอียดอีกครั้งกันเถอะ”ทั้งคู่เริ่มออกสำรวจโรงอาหารที่กว้างใหญ่และมืดมิดอีกครั้ง แสงไฟฉายจากอุปกรณ์ของพวกเขาส่องกระทบกับโต๊ะ เก้าอี้ และอุปกรณ์ครัวที่พังเสียหายกระจัดกระจายไปท
หลังจากการฟื้นฟูร่างกายและวางแผนการสร้างระเบิดชำระล้างอย่างละเอียด ไอโกะและโชต่างก็รู้สึกดีขึ้นมาก บาดแผลของพวกเขาได้รับการเยียวยา พลังปราณที่เคยร่อยหรอเริ่มกลับคืนมา แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความหวังที่จุดประกายขึ้นมาอีกครั้งในใจของพวกเขา“ฉันรู้สึกดีขึ้นมากแล้วโช” ไอโกะบอก เธอหมุนข้อมือเล็กน้อยเพื่อทดสอบพละกำลังโชพยักหน้า “ฉันก็เหมือนกันไอโกะ…แต่ฉันยังรู้สึกหิวอยู่เลย” เขาลูบท้องตัวเองเบา ๆไอโกะหัวเราะเบา ๆ “นั่นสินะ…ฉันก็รู้สึกเหมือนกัน”พวกเขาตัดสินใจที่จะสำรวจโรงอาหารให้ทั่วอีกครั้ง หวังว่าจะเจออะไรบางอย่างที่พอจะบรรเทาความหิวโหยได้ แสงไฟฉายจากนาฬิกาข้อมือของไอโกะส่องนำทางพวกเขาไปตามซอกมุมของโรงอาหารที่มืดมิดและเต็มไปด้วยเศษซากปรักหักพัง โต๊ะและเก้าอี้ไม้ที่ล้มระเนระนาดดูน่าหดหู่ยิ่งนัก“ดูสิฉันเจออะไร!” โชร้องขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น เขาชี้ไปที่มุมหนึ่งของโรงอาหารที่มืดมิด ซึ่งมีตู้เก็บของเก่า ๆ ตั้งอยู่ไอโกะรีบเดินเข้าไปดูด้วยความอยากรู้ เมื่อโชเปิดตู้เก็บของออก แสงไฟฉายของพวกเขาก็ส่องกระทบเข้ากับบางสิ่งบางอย่างที่อยู่ด้านใน“บะหมี่สำเร็จรูป!” ไอโกะอุทานด้วยความดีใจ ดวงตาของเธอ
ความสิ้นหวังเข้าปกคลุมไอโกะและโชอย่างหนักหน่วง เสียงหัวเราะเยาะเย้ยของบอสตัวจริงยังคงก้องกังวานในหู ราวกับจะย้ำเตือนถึงความพยายามที่สูญเปล่าของพวกเขา การที่ผ้ายันต์ผืนสุดท้ายดับแสงลง ยิ่งทำให้ความหวังที่เคยมีมอดไหม้ไปกับความมืดมิด“ไม่จริงน่า…ทั้งหมดที่เราสู้มา…มันเป็นแค่ภาพลวงตาอย่างนั้นเหรอ?” ไอโกะพึมพำ ใบหน้าของเธอซีดเผือดโชทรุดตัวลงนั่งกับพื้น ดวงตาของเขาว่างเปล่า “เรา…เราพลาดไปแล้วเหรอไอโกะ? เราสู้กับสิ่งที่ไม่มีตัวตนจริง ๆ อย่างนั้นเหรอ?”แต่แล้ว ทั้งคู่ก็สบตากัน แววตาที่เคยเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง ค่อย ๆ จุดประกายความมุ่งมั่นขึ้นมาอีกครั้ง“ไม่นะไอโกะ…เรายังไม่แพ้” โชกล่าว น้ำเสียงของเขาหนักแน่น “เราอาจจะถูกหลอก…แต่เราก็ยังได้ผ้ายันต์มาครบทุกผืนแล้วนี่นา”ไอโกะพยักหน้า เธอกำมือของโชแน่น “ใช่โช…เราต้องทำได้ เราจะทำมันให้สำเร็จด้วยกัน!”พวกเขารวบรวมพละกำลังที่เหลืออยู่ พยุงกันลุกขึ้นยืนช้า ๆ และรีบออกจากหอประชุมใหญ่ที่เต็มไปด้วยพลังงานด้านลบที่น่าสะพรึงกลัว แสงจากนาฬิกาข้อมือของไอโกะยังคงส่องนำทางพวกเขาไปในความมืดมิด“เราต้องหาที่ซ่อนตัวก่อนโช” ไอโกะบอก “เราบาดเจ็บหนักเกินไปที่จะส