เกลียดอะไรย่อมได้อย่างนั้น ถ้าอย่างนั้นก็...ฉันเกลียดพี่โว้ย! เกลียดมาก ๆ มาเป็นของฉันเถอะ! พ่อหนุ่มคนซึนกับยัยหน้ามึนตัวแสบ! พีทนักศึกษาคณะนิติศาสตร์ผู้ยังจดจำฝังใจกับคนรักเก่า เขาได้มาเจอกับมีนานักศึกษารุ่นน้องคณะบริหารธุรกิจด้วยความบังเอิญ หญิงสาวผู้มีความสดใสและแสบซนกลับรู้สึกชอบพอกับพีทเข้าอย่างจัง มีนาทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ใกล้ชิดกับเขา โดยมีกลุ่มเพื่อนของพีทคอยสนับสนุนเพราะอยากให้เพื่อนสนิทลืมรักครั้งเก่า ความเย็นชา ความหยิ่งยโสของพีทจะพ่ายแพ้ให้กับความหน้ามึนและความน่ารักของมีนาได้หรือไม่ ...โปรดติดตาม...
View Moreบทนำ
“ขอโทษนะพีทแต่เอมเลือกเขา เราเลิกกันเถอะ”
“อืม”
คำพูดที่ยังคงตราตรึงอยู่ในหัวที่ไม่ว่าจะพยายามสลัดมันออกเท่าไหร่แต่ก็ไม่เป็นผล หนำซ้ำภาพวันวานที่เคยรักกันยังย้อนหวนกลับมาให้เจ็บใจเล่นอีก
“เห้ย ไอ้พีท! มึงเลิกคิดถึงเขาสักทีเถอะกูไหว้ล่ะ” เสียงเรียกและแรงสะกิดของเพื่อนสนิททำให้ ‘พีท’ หลุดออกจากภวังค์ความคิดก่อนที่เขาจะค่อย ๆ หันไปมองยังต้นเสียงด้วยสีหน้าเรียบเฉยไม่บ่งบอกถึงความรู้สึกใด ๆ
‘พีท’ หนุ่มหล่อสุดฮอตประจำคณะนิติศาสตร์ ผู้มีใบหน้าหล่อเหลา ผิวขาวเนียนละเอียด ส่วนสูงหนึ่งร้อยแปดสี่เซนติเมตร เขาหล่อ ฮอต เนี้ยบ และเนิร์ด! ทั้งยังหยิ่ง…ยโส และขี้เก๊กเป็นที่สุด!
“เออ! มึงจะไปสนใจทำไมกับผู้หญิงแบบนั้นวะ” เพื่อนสนิทอีกคนเอ่ยเสริมพลางมองหน้าเพื่อนสนิทอย่างนึกหงุดหงิดที่เอาแต่ทำหน้านิ่งไม่สนใจสิ่งรอบข้างตั้งแต่ที่เขามาถึง
ทั้งสามคนอยู่ในห้องชมรมซึ่งเป็นห้องประจำที่พวกเขาชอบมานั่งคุยกันอยู่บ่อย ๆ พวกเขาทั้งสามคนเป็นหนุ่มฮอตของมหาวิทยาลัยที่สาว ๆ หลายคนอยากควงมากที่สุดเนื่องด้วยหน้าตา ความฉลาด และฐานะของ ‘พีท’ ‘โอ๊ต’ และ ‘จอมทัพ’ ที่ไม่ว่าจะเดินไปที่ไหนในมหาวิทยาลัยกลับต้องเป็นจุดสนใจของสาว ๆ อยู่ตลอด
“กูไม่ได้สนใจ” พีทเอ่ยเสียงเรียบและหันหน้าออกไปอีกฝั่งพลันทำให้เพื่อนสนิททั้งสองคนได้แต่ส่ายหน้าอย่างเอือมระอา
เมื่อวานช่วงเย็นหลังเลิกเรียนพีทถูกแฟนสาวที่คบกันมาหนึ่งปีบอกเลิกเพราะเธอมีคนอื่นซึ่งคน ๆ นั้นเป็นเพื่อนในคณะของเธอ ชายหนุ่มชะงักและตกใจกับสิ่งที่แฟนสาวเอ่ยแต่เขาก็ไม่ได้แสดงสีหน้าหรือความรู้สึกใด ๆ ออกมา ความสัมพันธ์ระหว่างพีทและแฟนสาวช่วงหลัง ๆ เริ่มมีปากเสียงและมีปัญหากันอยู่บ่อยครั้งจนกระทั่งเพื่อนสนิทของพีทได้มาบอกว่าแฟนของเขานั้นใกล้ชิดสนิทสนมกับผู้ชายคนอื่น
พีทตอบตกลงไปในทันทีที่เธอเอ่ยคำลา เขาไม่คิดจะรั้งหรือยื้อผู้หญิงอย่างเธอไว้อยู่แล้ว แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขายังคงคิดถึง จดจำ และนึกถึงภาพวันวานในตอนที่คบกันได้เป็นอย่างดี
“หาคนใหม่เหอะว่ะ วิธีมูฟออนที่ดีที่สุดก็คือการมีคนใหม่มาดามใจ”
“ไร้สาระ” ชายหนุ่มที่ได้ยินประโยคนั้นจากเพื่อนสนิทก็ถึงกับส่ายหน้าพัลวัน เวลาแบบนี้เขาไม่คิดที่จะมีคนใหม่หรือหาใครมาดามหัวใจให้ทั้งนั้น เพราะกว่าที่พีทจะมั่นใจคบหากับใครก็นับว่าเป็นเรื่องที่ใหญ่ที่สุดสำหรับเขาแล้ว
ไม่ใช่ว่าพีทจะไม่เคยมีแฟนมาก่อน ขึ้นชื่อว่าเป็น ‘พีทหนุ่มฮอตประจำคณะนิติสาสตร์’ ก็ย่อมเลื่องลือในเรื่องผู้หญิงที่ก่อนหน้านั้นเขาไม่ต่างจากเสือร้ายแต่แฝงอยู่ในคราบความนิ่งและเฉยชา ซึ่งนั่นก็เป็นเสน่ห์และจุดดึงดูดที่ทำให้สาว ๆ หลายคนก็ต่างอยากเข้ามาค้นหาในตัวตนของเขา
จนกระทั่งพีทได้พบเจอกับ ‘เฌอเอม’ เมื่อช่วงที่เรียนวิชาเสรี เธอน่ารัก และโดดเด่นจนทำให้เขารู้สึกถูกใจ ทั้งสองคนได้คบหากันหลังจากนั้น พีทที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเสือร้ายซ่อนเล็บก็แปรเปลี่ยนเป็นคนรักแฟนราวกับคนละคน
“แล้วนั้นมึงจะไปไหน”
“สูบบุหรี่” เสียงเข้มเอ่ยโดยไม่ทันไปมองหน้าเพื่อนสนิทเลยสักนิด
“แล้วมึงเอากุญแจรถไปทำไม”
“มึงจะกลับเลยเหรอวะ”
ทั้งสองรีบตะโกนเสียงดังไล่หลังของพีทไปเมื่อเห็นว่าเขาถือกุญแจรถยนต์ออกไปด้วย
“จะกลับไปท่องมาตรา”
อีกด้าน
ภายในห้องเอนกประสงค์ใต้ตึกคณะบริหารธุรกิจที่ตอนนี้เป็นช่วงเปิดเทอมและมีกิจกรรมการรับน้องปีหนึ่งเพื่อต้อนรับเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย นักศึกษาหน้าใหม่ชายหญิงนั่งอยู่ตรงกลางโดยมีรุ่นพี่ชั้นปีที่สองยืนล้อมรอบเพื่อเริ่มกิจกรรมที่ได้จัดเตรียมไว้
“เกมที่สามจะเป็นเกมโยนกะหล่ำปีนะคะ พวกพี่จะให้กระดาษสีเขียวก้อนกลม ๆ ซึ่งก็คือกะหล่ำปีที่พวกพี่หมายถึงนั่นแหละค่ะ จินตนาการว่ามันเป็นกะหล่ำปีแล้วกันเนอะ^^” รุ่นพี่สาวเอ่ยใส่ไมค์สายยาวด้วยรอยยิ้มกับรุ่นน้องที่นั่งร่วมทำกิจกรรมตรงหน้า เกมต่อไปนี้เป็นเกมที่สามที่ได้ถูกจัดเตรียมขึ้นเพื่อให้รุ่นน้องได้ร่วมสนุกกับเพื่อนคนอื่น ๆ และเป็นการสานสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนและรุ่นพี่ไปในตัวอีกด้วย
“พวกน้อง ๆ จะต้องโยนกะหล่ำนี้ไปให้ไกลตัวที่สุด จะโยนไปให้ใครหรือโยนไปฝั่งไหนก็ได้ ถ้าพวกพี่ร้องเพลงจบแล้วกะหล่ำนั้นอยู่ที่มือใครคนนั้นจะต้องถูกลงโทษ”
ทันทีที่ได้ยินประโยคสุดท้ายของรุ่นพี่ก็ทำให้เสียงพูดคุยฮือฮาดังขึ้นมา นักศึกษาหน้าใหม่ต่างตื่นเต้นกับเกมที่รุ่นพี่ได้จัดเตรียมเอาไว้ให้อย่างสนุกสนาน การรับน้องที่เกิดขึ้นไม่ได้น่ากลัวหรือรุนแรงตามที่ได้ยินคนพูดต่อ ๆ กันมา ไม่มีโซตัสและไม่มีพี่ว้ากคอยควบคุมให้หวั่นใจแน่นอน
“สาธุ! เกมนี้อย่าแจ็กพอตแตกที่ลูกช้างเล้ย! ลูกช้างโดนทำโทษมาสองเกมติดแล้วนะคะ” หญิงสาวยกมือไหว้ขอพรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อขอให้เห็นใจเนื่องจากสองเกมที่ผ่านมาเธอโดนทำโทษมาตลอด หากเกมครั้งนี้โดนอีกรอบเธอคงต้องรีบเข้าวัดทำบุญถวายสังฆทานชุดใหญ่เป็นแน่
“นี่ถึงขั้นต้องขอพรเลยเหรอน้อง” รุ่นพี่ที่ยืนอยู่ข้างเธอถึงกับหัวเราะออกมาเมื่อเห็นท่าทางที่คนตัวเล็กทำเมื่อครู่
“ต้องขั้นนี้แล้วล่ะพี่ พี่ก็เห็นไม่ใช่เหรอว่าหนูโดนทำโทษมาสองเกมแล้วนะ หนูออกไปเต้นไก่ย่างจนปวดเอวไปหมดแล้วเนี่ย”
“น้องแม่งตลกดีว่ะ ชื่ออะไรนะเรา...อืม...มีนาเหรอ” รุ่นพี่หนุ่มมองไปยังป้ายชื่อกระดาษที่แขวนคอของเธอพลางส่ายหน้าเบา ๆ และขำออกมา
‘มีนา’ นักศึกษาคณะบริหารธุรกิจชั้นปีที่หนึ่ง เจ้าของใบหน้าหวาน ผิวขาวอมชมพู ส่วนสูงหนึ่งร้อยหกสิบห้าเซนติเมตร เธอสวย น่ารัก ทั้งยังแสบซนและหน้ามึนที่หนึ่ง!
เกมเริ่มต้นขึ้นโดยที่รุ่นพี่ส่งกะหล่ำปีสีเขียวให้กับรุ่นน้องก่อนที่พวกเขาจะร้องเพลงอย่างสนุกสนาน ใบหน้าหวานจ้องมองและเพ่งเล็งไปที่วัตถุที่ถูกโยนไปโนมาอย่างขะมักเขม้น มีนาบอกกับตัวเองในใจว่าอย่างไรแล้วเกมรอบนี้เธอจะต้องไม่โดนทำโทษอย่างแน่นอน!
“ฮิป ฮิป ฮิปฮิปโป โอ้โหตัวมันใหญ่ โอ้โหตัวมันใหญ่ มันเดินอุ้ยอ้าย มันเดินอุ้ยอ้าย ละลัลล้าลันล้าลันล้า~”
“เอ้า! ฮิป ฮิป ฮิปฮิปโป โอ้โหตัวมันใหญ่ โอ้โหตัวมันใหญ่ มันเดินอุ้ยอ้าย มันเดินอุ้ยอ้าย ละลัลล้าลันล้าลันล้า~ หยุด!”
เมื่อเพลงจบตามสัญญาณของรุ่นพี่มีนารีบหลับตาแน่นก่อนที่เธอจะยกยิ้มที่มุมปากขึ้นมาเมื่อรู้สึกว่ากะหล่ำปีที่เพื่อน ๆ โยนกันไปมานั้นไม่ได้อยู่ในมือเธอ
‘สิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้ยินคำขอของเราด้วย!’ มีนานึกคิดอยู่ในใจก่อนจะลืมตาขึ้นมาด้วยรอยยิ้มกริ่ม แต่ทว่า...ทุกสายตาของเพื่อน ๆ รวมถึงรุ่นพี่รอบ ๆ กลับจ้องมองมาที่เธอเป็นตาเดียว!
“พี่ว่าหลังรับน้องเสร็จต้องไปทำบุญชุดใหญ่แล้วล่ะ” เสียงของรุ่นพี่คนเดิมเอ่ยและหัวเราะออกมาเสียงดังทำให้มีนาก้มหน้าลงมองที่หน้าตักของตัวเองทันควัน
กะหล่ำปีที่โยนกันไปมานั้นไม่ได้อยู่ที่มือของเธอแต่มันอยู่ที่ตักของเธอต่างหาก!
“อ้าว! น้องหน้าหวานโดนทำโทษอีกแล้วเหรอ โชคดีจริง ๆ เลยนะเราเนี่ย มา ๆ ออกมาด้านหน้าเลยน้อง”
หญิงสาวทำหน้ายุ่งแต่ก็ยอมลุกขึ้นและเดินออกไปด้านหน้าแต่โดยดี เห็นทีเธอคงต้องออกทริปไปทำบุญเก้าวัดและถวายสังฆทานชุดใหญ่ในรอบปีเพื่อสะเดาะเคราะห์ไล่ความโชคร้ายสักที!
บทที่ 7ทฤษฎีพิชิตใจ 1 - พบเจอเพ้อฝัน (3)“เธอนี่มัน...!”“ขึ้นรถค่ะ ไปส่งมีนที่คอนโดฯ เลยเห็นไหมว่ามีนเจ็บขาอยู่” มีนาหันกอดอกหน้าหนี พูดมัดมือชกคนตัวโตเพราะถึงยังไงก็ไม่มีทางลงจนกว่าจะพาร่างกายตัวเองถึงที่พักโดยสวัสดิภาพ จีบยากนักยากหนาก็มัดมือชกกันแบบนี้แหละ“เธอทำตัวเองแล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉัน”“ขึ้นรถเถอะน่า มีนอยากกลับแล้ว”“ยัย...!”“พี่ก็รู้ว่ายังไงมีนก็ไม่ลง เพราะงั้นไปส่งมีนค่ะ หรืออยากเห็นหน้ามีนนาน ๆ”พีทถอนหายใจรอบที่ร้อยของวัน ยกมือกางเล็บทำท่าจะหยุมแต่ก็เปลี่ยนมาเป็นเดินตึง ๆ กลับมานั่งประจำหลังพวงมาลัยแทนปฏิบัติการพิชิตใจนายจอมหยิ่งยังคงดำเนินต่อไปไม่ว่าจะเป็นเวลาไหน ๆ ก็มักจะมีรุ่นน้องสาวตัวแสบอย่างมีนาอยู่ทุกช่วงเวลากับพีทเสมอไม่ว่าจะเป็นตอนไปเรียนที่มีคลาสเรียนช่วงเช้าเหมือนกัน...“พี่พีท! มีนขอไปด้วยสิ นะ ๆ ให้มีนไปด้วยนะ”เวลาเลิกเรียน...“มีนกลับด้วยนะพี่พีท นะ ๆ น้าาา”หรือแม้กระทั่งเวลาพักผ่อน...“เลิกเรียนแล้วพี่พีทจะไปไหนคะ ให้มีนไปด้วยคนสิ”และรวมถึงในตอนนี้ด้วย...มีนารีบวิ่งตามคนตัวโตที่เดินผ่านเธอไปด้วยความเย็นชาเช่นทุกครั้ง ตอนนี้ก็เป็นช่วงเย็นที่เขาไม่
บทที่ 7ทฤษฎีพิชิตใจ 1 - พบเจอเพ้อฝัน (2)“ฉันเกลียดพี่โว้ย! เกลียดมาก ๆ” มีนาตะโกนสุดเสียงอย่างที่ไม่คิดเหมือนกันว่าตัวเองจะกล้าทำ ประโยคนั้นเรียกความสนใจจากคนโดยรอบได้ทั้งหมด และทุกสายตาก็หันมองพีทกันเป็นจุดเดียวเพราะเขาคือคนที่มีนากล่าวถึง“ทำบ้าอะไร!” พีทกดเสียงต่ำหากแต่มันเค้นหนักแน่นจนทำให้มีนาได้ยินอย่างชัดเจนว่าเขากำลังโกรธ“มาเป็นของฉันเถอะ! มาเป็นของฉันเถอะนะพี่พีท!”“ยัยบ้า! นี่เธอบ้าไปแล้วรึไง!”พีทรีบเดินดุ่ม ๆ ตรงมาหาคนรุ่นน้องพร้อมกับปิดปากเธอเอาไว้แน่น ตอนนี้คนอื่นจับตามอง บ้างก็หัวเราะซุบซิบกัน เขาไม่ชอบสถานการณ์แบบนี้ ไม่ชอบเป็นจุดสนใจและไม่ชอบให้ใครมองเขาเป็นตัวตลก“เชี่ย...น้องแม่งโคตรเจ๋งเลย” เพื่อนของพีทอ้าปากค้าง ยกนิ้วโป้งเยินยอความกล้าหาญแต่ก็ได้รับสายตาดุดันคมขลับที่ส่งมาจนต้องรีบปั้นหน้าให้เป็นปกติ“หยุดพูดเลยนะ ถ้าพูดออกมาอีกคำฉันฆ่าเธอแน่!” พีทชี้หน้าคาดโทษ แค่นี้เขาก็ไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน รู้ไปถึงไหนอายไปถึงนั่นที่อยู่ ๆ ก็มีผู้หญิงมาตะโกนบอกชอบหน้าตึกคณะแบบนี้“มาเป็นของมีนไหมคะ” มีนาถามตาใส เรื่องอะไรจะหยุดกัน ถือว่าคำพูดของตัวเองได้ผลทีเดียวเพร
บทที่ 7ทฤษฎีพิชิตใจ 1 - พบเจอเพ้อฝัน (1)‘ทฤษฎีพิชิตใจ วิธีที่ 1 - พบเจอ เพ้อฝัน : การไปเจอหน้าเขาบ่อย ๆ เขาจะได้เก็บใบหน้าเราไปเพ้อฝัน เพราะมนุษย์มักจะคุ้นชินและเก็บความทรงจำของคน ๆ หนึ่งได้จากความเคยชินหรือการพบเจอกันทุกวัน’มีนาจดจำประโยคที่ท่องจำจากหนังสือ ‘ทฤษฎีไหนถึงได้ใจเธอ ตามแบบฉบับนางฟ้าเบล[1]‘ ที่ได้อ่านเมื่อคืนหลังจากที่ได้ไปค้นหาในร้านหนังสือเล็ก ๆ ใกล้บ้าน เมื่อคิดว่าจะเริ่มปฏิบัติการตามจีบรุ่นพี่หนุ่มจอมโหดคนอย่างพีท เธอก็ไม่คิดจะเล่น ๆ อยู่แล้วเพราะไม่ว่าจะใช้ทฤษฎีไหนเธอก็ต้องเอาชนะใจเขาให้ได้!‘มีนไม่ชอบอ่านหนังสือแต่ยอมอ่านทฤษฎีพิชิตใจเพื่อตามจีบพี่เลยนะ!’มีนาผ่อนลมหายใจออกมาหนัก ๆ ก่อนจะตัดสินใจเดินตรงเข้าไปในตึกคณะนิติศาสตร์ หลังจากที่ได้สอบถามจากรุ่นพี่อย่างโอ๊ตและจอมทัพมาก็พบว่าเป้าหมายที่ต้องการตามจีบนั้นอยู่ที่คณะ และเลิกเรียนเวลาบ่ายสองซึ่งแน่นอนว่าเธอย่อมมารอเขาก่อนเวลาอยู่แล้วขาก้าวฉับ ๆ และนั่งลงที่โต๊ะม้าหินหน้าตึกคณะพลางชะเง้อมองหาเป้าหมาย ได้แต่หวังว่าเจ้าตัวคงจะยังไม่เลิกเรียนหรือกลับไปก่อน เพราะไม่อย่างนั้นคงได้นั่งรอเก้อเป็นหมาหงอยแน่คนตัวเล็กหยิ
บทที่ 6ปฏิบัติการตามจีบเธอ2 (3)“พะ...พี่” ถึงจะมั่นใจว่าไม่ใช่ฝัน แต่ยังมีความสับสนว่าเขาทำแบบนี้ทำไม“พีท!”“ผู้หญิงอย่างเธอไม่คู่ควรกับความรักของฉันเลยแม้แต่นิดเดียว ฉันโคตรเสียดายเวลาเลย...ฉันไม่น่ามาเจอคนอย่างเธอเลยเฌอเอม!”สิ้นประโยคชายหนุ่มก็จับมือเล็กเดินไปยังรถยนต์คันหรูของเขาก่อนจะประจำที่เบาะฝั่งคนขับโดยไม่คิดหันกลับไปมองคนรักเก่าอีก ยอมรับว่ายังรู้สึกหวั่นไหวและคิดถึง แต่ในเมื่อเรื่องทุกอย่างมันจบลงแล้วเขาก็ไม่คิดกลับคืนหรือเห็นใจผู้หญิงอย่างเอมอีกมีนาหันมองพีทด้วยความตกใจ ขณะที่รถยนต์กำลังขับเคลื่อนไปตามทางโดยไม่มีคำใดเปล่งออกมามีเพียงความเงียบสงัดที่ปกคลุมภายในตัวรถเท่านั้น แววตาหวานจดจ้องใบหน้าหล่อเหล่าทั้งที่ยังตกใจไม่หาย เธอไม่คิดเลยว่าคนอย่างเขาเด็ดเดี่ยวและหนักแน่นได้ขนาดนี้เธอมองเห็นแววตาของเขาที่หวั่นไหวกับคำพูดของคนรักเก่า มันทำให้เธอมั่นใจว่าการกระทำของตัวเองนั้นคงเสียเปล่าปละช่างโง่เง่า ไม่ว่าเธอจะพยายามมากแค่ไหนก็ไม่มีทางสู้คนคนในใจเขาได้ และเธอมั่นใจว่าเขาจะต้องกลับไปหาเธอเป็นแน่แต่มันไม่ใช่เลย...“มองอะไร” ประโยคนั้นทำเอาหญิงสาวสะดุ้งเฮือกและรีบหับกลับไป
บทที่ 6ปฏิบัติการตามจีบเธอ2 (2)มีนาเม้มปากแน่นมองสถานการณ์ตรงหน้าด้วยความรู้สึกสับสน ในใจก็รู้สึกขุ่นเคืองที่คุณชายจอมหยิ่งไม่คิดสนใจเธอแต่กลับเรียกหาคนรักเก่าอย่างชัดถ้อยชัดคำ ลึก ๆ ก็รู้ว่าเขาคงไม่คิดกลับไปคืนดีกับผู้หญิงคนนั้น แต่เธอก็ดูออกมาเขายังรู้สึกและคิดถึงเธอคนนั้นอยู่ตลอดไม่กลับไป แต่ก็ไม่ลืม...“เอมขอโทษ เอมขอโทษนะพีท” หญิงสาวเอ่ยทั้งน้ำตาและก้มหน้าลงอย่างรู้สึกผิดพลันทำให้ดวงตาคมกระตุกวูบอ่อนไหวกับคำขอโทษสั่นพร่านั้น“ฉันว่าฉันพูดชัดเจนแล้วนะ” พีทเบือนหน้าหนีไปอีกทางก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น แต่มันก็ไม่สามารถซ่อนความรู้สึกที่แท้จริงไปได้อยู่ดี“เอมผิดไปแล้ว ยอมรับผิดทุกอย่าง เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมเถอะนะพีท”“มันสายไปแล้วเอม” ถึงเธอจะคุกเข่าหรือขอโทษเขามากแค่ไหนแต่มันก็สายเกินกว่าที่จะให้อภัยและกลับไปเป็นเหมือนเดิม ถึงจะยังคิดถึงและโหยหาแต่เขาก็ไม่คิดจะกลับไปจมกับความโง่งมและเจ็บปวดได้อีก“ฮึก...เอมคิดถึงพีท คิดถึงช่วงเวลาดี ๆ ของเราทั้งสองคน”“...” คนตัวโตเงียบไปและจ้องมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่หลากหลายยอมรับอย่างไม่อายว่าเขาเองก็คิดถึงช่วงเวลาเหล่านั้นม
บทที่ 6ปฏิบัติการตามจีบเธอ2 (1)“กูกลับละ” พีทเอ่ยก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ภายในห้องชมรม และเดินไปหยิบกุญแจรถที่วางอยู่บนโต๊ะด้วยความนิ่งเรียบ โดยมีสายตาของเพื่อนสนิทอย่างโอ๊ตและจอมทัพที่มองตามเป็นจังหวะเดียวกัน“เชี่ย...มันจะไปแล้วไอ้โอ๊ตทำไงดีวะ” จอมทัพสะกิดเพื่อนข้างกายด้วยความร้อนรนเมื่อเห็นร่างสูงของเพื่อนกำลังจะเดินออกจากห้องไปตอนแรกจอมทัพและโอ๊ตตั้งใจว่าจะนั่งรอมีนาอยู่ที่ห้องชมรมเพื่อหวังจะให้เธอได้กลับพร้อมกับพีท ซึ่งแน่นอนว่าพวกเขาได้จัดเตรียมและวางแผนไว้ทุกอย่างแล้ว ถ้าหากเพื่อนตัวดีกลับไปก่อนก็เท่ากับว่าสิ่งที่พวกเขาวางแผนไว้ทั้งหมดต้องพังไม่เป็นท่าแน่“เฮ้ยไอ้พีทจะรีบกลับไปไหนวะ อย่าเพิ่งกลับดิ”“ท่องมาตรา” เสียงเข้มตอบกลับนิ่ง ๆ โดยที่ไม่ได้หันมามองเพื่อนสนิททั้งสองคน จากนั้นก็เดินไปยังประตูและเปิดมันออกเพื่อที่จะเดินออกจากห้องไปแต่ทว่า...“แฮ่! จ๊ะเอ๋” น้ำเสียงสดใสพร้อมด้วยรอยยิ้มกว้างของมีนาปรากฏขึ้นอยู่ตรงหน้าประตูห้องชมรมพอดี พลันทำให้พีทถึงกับชะงักและก้าวถอยหลังเว้นระยะห่าง จากนั้นก็หันขวับไปมองเพื่อนตัวดีทั้งสองคนทันทีเพราะรู้ว่ามันจะต้องแผนที่วางไว้ก่อนหน้าแน่นอน
บทที่ 5 ปฏิบัติการตามจีบเธอ1 (2)“ฉันไม่ได้มีเวลาว่างมากที่จะคอยตามง้อให้เธอขึ้นรถหรอกนะ”ประโยคอันแสนเจ็บแสบและเย็นชาทำเอาหญิงสาวตัวชาวาบอย่างบอกไม่ถูก เธอมองคนตัวโตราวกับถูกสาปเป็นหิน ยิ่งได้ยินคำพูดนั้นกลับยิ่งทำให้เธอไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัว“เอ่อ...ขึ้นรถเลยน้อง เดี๋ยวพวกพี่ไปส่งเอง” จอมทัพเอ่ยแทรกเพื่อดึงสติของมีนาให้กลับมา จากนั้นก็เดินไปเปิดประตูเพิ่งนั่งประจำที่เบาะด้านหลังคู่กับโอ๊ต“อ้าวพี่ แล้วพี่ไปนั่งด้านหลังทำไม” มีนาอ้าปากค้าง“น้องนั่งหน้าไปแหละ นั่งข้างไอ้พีทมันดีแล้ว”หญิงสาวเม้มปากแน่น ไม่คิดเลยว่าปฏิบัติการจีบผู้ชายคนหนึ่งมันจะรวดเร็วและกะทันหันแบบนี้ตอนแรกก็ไม่ได้รู้สึกหวั่นอะไร แต่ทำไมพอเจอหน้าและเห็นความเย็นชานั้นกลับทำให้เธอรู้สึกกลัวแปลก ๆ‘ดึงสติกลับมายัยมีน! แกจะยอมแพ้ไม่ได้!’“ไอ้พีทกูคงไปโต๊ะไม่ได้แล้วว่ะแม่กูเรียกให้ไปทำธุระ” โอ๊ตพูดขึ้นหลังจากที่เงียบอยู่นานสายตาคมมองจากกระจกรถมองหลังด้วยแววตาเรียบนิ่ง แต่ลึก ๆ ก็นึกเคลือบแคลงใจกับคำพูดของเพื่อน“เออกูด้วย!” จอมทัพมีบทบาทอีกคน คราวนี้มีนาหันขวับไปจนคอแทบเคล็ดเพราะรู้ว่าเขาสองคนตั้งใจให้เธอได้อยู่กับรุ่
บทที่ 3เปลี่ยนความคิด (1)“พะ...พี่ พี่พีทคะ” มีนาตะโกนเรียกพร้อมกับเร่งฝีเท้าเดินตามร่างสูงออกไปด้วยความร้อนรน หลังจากที่พีทเข้ามาช่วยเธอจากเหตุการณ์เมื่อครู่เจ้าตัวก็รีบเดินออกไปโดยที่เธอยังไม่เอ่ยคำใดเลยแม้แต่น้อยใบหน้าหล่อเหลาหันมองคนตัวเล็กด้วยแววตาเรียบนิ่งซึ่งสายตาคู่นั้นทำให้หญิงสาวหยุดชะงักราวกับถูกสาป“มีอะไร” เสียงเข้มเอ่ยพลางมองคนตรงหน้าที่ตอนนี้เอาแต่เดินตามเขาไม่เลิก“เอ่อ...เอ่อคือ...คือมีน” หญิงสาวกำมือตัวเองแน่นและนึกหงุดหงิดตัวเองในใจ อุตส่าห์เตรียมคำพูดไว้มากมายแต่พอเจอสายตากลับพูดไม่ออกเสียอย่างนั้นพีทมองคนตัวเล็กชั่วครู่ก่อนจะหมุนตัวและเดินต่อไปแต่ทว่ากลับต้องหยุดชะงักตามเสียงเรียกของเธออีกครั้ง ในครั้งนี้มีนารวบรวมความกล้าทั้งหมดก่อนที่เธอจะก้มศีรษะลงและยกมือไหว้คนตรงหน้าอย่างรวดเร็ว“มีนขอบคุณพี่มากเลยนะคะ ขอบคุณจริง ๆ ค่ะที่ช่วยมีนไว้” มีนากล่าวขอบคุณด้วยน้ำเสียงหนักแน่น จากเหตุการณ์เมื่อครู่มันทำให้เธอกลัวเป็นอย่างมากแต่เธอก็ต้องสกัดกลั้นเอาไว้เพราะไม่อยากแสดงความอ่อนแอให้ใครเห็น“นมเธอ” ประโยคนั้นทำให้มีนารีบเงยหน้าขึ้นมองคนตรงหน้าด้วยความตกใจก่อนจะรีบยกม
บทที่ 4 แสร้งเป็นแฟน (2)“นิ่งทำไม ทีเมื่อกี้ยังเล่นละครเป็นฉาก ๆ” ชายหนุ่มเปิดประเด็นขึ้นทำลายความเงียบขณะที่สายตายังคงจดจ้องกับหนทางตรงหน้า“มีนช่วยพี่ต่างหาก” มีนากอดอกมอง หากเธอไม่เข้าไปช่วยเขาก็คงถูกแฟนเก่าตามตื๊อไม่เลิก“ช่วย? หึ แบบนี้น่ะเหรอที่เรียกว่าช่วย”“อย่างน้อยก็ทำให้ผู้หญิงคนนั้นหน้าหงายแล้วกัน” ถึงจะช่วยได้ไม่มากแต่เธอมั่นใจว่าอีกฝ่ายคงต้องมีอาการ ‘เงิบ’ กับคำพูดของเธอแน่นอนพีทแค่นเสียงหัวเราะแต่ยังคงให้ความสนใจกับการขับรถ จนกระทั่งรถยนต์คันหรูขับเข้ามาจอดที่ลานจอดรถฝั่งตรงข้ามกับตึกคณะบริหารธุรกิจ ใบหน้าหวานหันมองคนข้าง ๆ ด้วยความตกใจ ก่อนจะชะเง้อมองโดยรอบว่ามีใครอยู่บริเวณนั้นหรือไม่หากมีคนเห็นว่าเธอเดินลงมาจากรถของเขาคงถูกเอาไปพูดเป็นแน่!“ทำไมพี่ถึงมาจอดตรงนี้ล่ะคะ”“ทำไม?” พีทเลิกคิ้วมองเป็นเชิงคำถาม ทั้งที่ปกติแล้วเขาก็จอดในที่ตรงนี้อยู่ทุกวันเพราะลานจอดรถที่ตึกคณะนิติศาสตร์รถค่อนข้างเยอะ จึงทำให้เขาเลือกที่จะมาจอดบริเวณนี้เสียส่วนใหญ่“เดี๋ยวเพื่อนพี่ก็เห็นหรอก” มีนาเอ่ยพลางมองไปยังรอบ ๆ เขาก็รู้ว่าเพื่อนสนิทของเขาเรียนอยู่คณะเดียวกันกับเธอ หากเดินลงไปแล้วเป
Comments