'หวงก็เป็นของพี่สิครับ'
แน่นอนว่าประโยคนี้ทำให้ลิลินยิ้มกว้างปากแทบฉีก แล้วเธอก็รีบยื่นมือไปควงแขนติณห์ทันที ก่อนที่จะเอนไปซบไหล่กว้างๆของเขา
"รอแต่งงานนะคะ ลินจะเป็นของพี่ติณห์ทั้งตัวเลย^^"
"โถ่ลิน..อีกไม่กี่เดือนเองนะ พี่ขอทดลองก่อนไม่ได้เหรอ? เราคบกันมานานแล้วยังไงๆก็ต้องแต่งอยู่ดีนี่"
ติณห์หว่านล้อม พร้อมกับยกมือใหญ่ๆของเขาแตะเบาๆที่มือลิลินด้วย
"ไม่ได้ค่่ะ ลินจะไม่ผิดคำสัญญากับปาป๊าเด็ดขาด พี่ติณห์ชวนบ่อยๆแบบนี้จำไม่ได้เหรอคะ ว่าปาป๊าบอกพี่ติณห์วันที่ท่านจับได้ว่าเราคบกันว่าอะไร^^"
"จำได้ ห้ามล่วงเกินลินก่อนแต่งงาน-_-"
"เยส!!ถูกต้อง!! ฉะนั้นรอหน่อยนะคะ อีกแปปเดียวเอง ลินไม่หายไปไหนหรอกค่ะ^^"
ติณห์ได้ยินแบบนั้นก็ถอนหายใจเฮือก ถึงเขาจะรู้ว่ายังไงๆก็ต้องสมปรารถนา แต่ความเป็นชายทั้งแท่งของเขา ที่อยู่แนบชิดกับลิลินแฟนสาวทุกวันนั้น
มันชักจะทำเขาความอดทนต่ำลงไปทุกวัน
เขาต้องการให้ลิลินเป็นของเขาอย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะทางพฤตินัยหรือนิตินัย อยากเชยชมเรือนร่างที่เขาเฝ้าทะนุถนอมไว้มาตลอดนี้สักที เพราะที่ผ่านมาจวนจะสามสิบปีนี้ ชายทั้งแท่งอย่างเขาไม่เคยแตะต้องผู้หญิงคนไหนเลย
"เฮ้อ รอก็ได้..แต่ลินสัญญาแล้วนะ ว่าจะไม่หายไปไหน?"
ติณห์ถามย้ำอย่างไม่สบายใจ ซึ่งเขาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน..ว่าทำไมเขาต้องรู้สึกแปลกๆจนถามทวนมันอีกครั้ง
"สัญญาสิคะลินจะไปไหนได้ แต่ตอนนี้ลินร้อนมากๆเราไปหาอะไรทานกันเถอะค่ะ^^"
เมื่อลิลินให้คำสัญญาผ่านๆ เธอก็ควงแขนติณห์แฟนหนุ่มไปขึ้นรถทันที จนปลายฝนที่ลงมาจากชั้นบนตอนนี้..เธอต้องหยุดชะงัก
และแอบมองภาพตรงหน้าไกลๆ
เหมาะสม.. ผู้ชายหล่อผู้หญิงสวย ทำไมว่าที่เจ้านายเธอชีวิตเพอร์เฟคขนาดนี้ แฟนหล่อขับลัมโบร์กินีและเป็นถึงไฮโซซีอีโอสายการบินเวลฟาย
ส่วนชื่อเสียงเรียงนามถามว่ารู้จักไหม? ใช่..พอเห็นหน้าจริงจัง..ปลายฝนเธอก็แอบตกใจเหมือนกัน ที่เธอเองก็พอจะรู้จักผู้ชายคนนี้ห่างๆ
เพราะผู้ชายเกรดพรีเมี่ยมคนนี้ เขาเป็นลูกหลานทายาทโรงพยาบาลที่ดองกับครอบครัวเธออยู่ แต่เธอไม่เคยคุยหรือเคยพบกับติณห์มาก่อน
เพราะหนึ่งปลายฝนเป็นแค่ลูกสาวบุญธรรมที่ถูกเก็บมาเลี้ยง และสองเธอมีความถ่อมตัว...ไม่กล้าเสนอหน้าออกไปรู้จักหรือสนิทสนมกับใคร เพราะมันจะทำให้เธอคิดน้อยเนื้อต่ำใจเสมอ..ว่าตัวเองด้อยกว่าคนอื่นๆ
"ติณห์คนนี้นี่เอง..ได้ยินชื่อมานานไม่คิดว่าจะหล่อขนาดนี้"
"ไม่ทราบว่ามีอะไรธุระอะไรกับคุณลิลินอีกคะ? " ปลายฝนละสายตาจากรถสปอร์ตคันนั้นหันกลับตกใจ เมื่อพนักงานที่นำเธอไปสัมภาษณ์งาน..ไถ่ถามขึ้นมาจากด้านหลัง
"เอ่อเปล่าค่ะ คือเรื่องสัมภาษณ์งาน...ขั้นตอนมีแค่นี้ใช่มั้ยคะ? "
"ค่ะ รบกวนตามฉันไปเซ็นสัญญาที่ฝ่ายบุคคลด้วย^^"
ปลายฝนได้ยินแบบนั้นก็ยืนงุนงงอยู่ครู่นึง เพราะเธอยังไม่ได้ตกลงที่จะทำงานนี้ด้วยซ้ำ ทำไมพนักงานคนนี้ต้องยัดเยียดให้เธอไปเซ็นสัญญาด้วย
"ฉันขอเวลาตัดสินใจสักสองสามวันได้ไหมคะ"
"สองสามวันไม่ได้ค่ะ แต่ให้เวลาตัดสินใจสิบนาที ตำแหน่งนี้ถึงจะว่างบ่อย แต่ไม่ใช่ว่าคุณลิลินจะถูกใจใครง่ายๆ คนมาสมัครไม่ขาดสายเงินเดือนก็เยอะ คิดดูดีๆนะคะ^^"
ไม่ขาดสาย? เฮอะ.. หลังจากพนักงานสาวบอกและเดินออกไป ปลายฝนก็ถึงกับหัวเราะ 'เฮอะ' ออกมา
เพราะไม่ขาดสายที่ว่า เธอไม่เห็นใครมานั่งรอสัมภาษณ์งานกับเธอสักคน! ทำไมบริษัทใหญ่ๆแบบนี้ถึงทำอะไรไม่มีระบบเอาซะเลย
แล้วยังไงต่อ..เธอควรจะตัดสินใจทำงานที่นี่ดีมั้ย? หรือว่าเซย์โนกลับไปนอนเล่นที่บ้านเช่นเดิม
ปลายฝนยืนคิดอยู่สักพัก..ก่อนที่เธอจะหวนนึกถึงทุกๆวันที่เธอเอาแต่นอนรอชายกำยำคนนั้นอย่างไร้วี่แวว
จริงๆแล้วมันเบื่อนะ แล้วถ้ายิ่งอยู่แบบนั้น..มันก็เหมือนเธอกำลังทำตัวไร้ประโยชน์ไปวันๆ หรือระหว่างรอเธอควรหาอะไรทำให้ชีวิตมันมีสีสัน ไม่ก็สร้างสตอรี่ให้กับตัวเองบ้าง เพราะไหนๆก็อุตส่าห์เรียนจบมาแล้ว
ครืนนนนน ครืนนนนนน~
P'Naphat
เมื่อเห็นชื่อปลายสาย...ปลายฝนก็กดรับทันที ก่อนที่จะหันไปมองที่ป้ายแผนกฝ่ายบุคคลแวบนึงด้วยความลังเล
"ค่ะ พี่ณภัทร"
(สัมภาษณ์งานเป็นยังไงบ้าง)
"ยังลังเลอยู่เลยค่ะ เอ่อ..คือที่ลังเลเพราะเจ้านายฝนดูเป็นคนแปลกๆค่ะ ท่าจะเรื่องเยอะ"
หญิงสาวป้องมือกระซิบ จนทำให้คุณหมอณภัทรที่อยู่ปลายสายหัวเราะออกมาเบาๆ
(ฮะๆนินทาว่าที่เจ้านายในบริษัทเขาเลยนะ คนทำงานระดับนี้ ก็ต้องเรื่อยเยอะเป็นธรรมดา อย่าลืมสิว่าผู้บริหารต้องบริหารทุกอย่าง พี่ว่าถ้ามีโอกาส...ฝนก็ควรคว้าไว้นะ)
ปลายฝนพยักหน้าตาม เข้าใจที่พี่หมอณภัทรพูดทุกคำ และประโยคนั้น..มันก็ช่วยเธอได้มาก เธอตัดสินใจทำตามคำแนะนำของหมอณภัทรทันที เพราะปกติไม่มีใครหวังดีกับเธอเท่าเขาคนนี้แล้ว
ถ้าพี่ณภัทรบอกว่าดี ก็ต้องดีสิ..เธอจะเชื่อเขา
"ค่ะ ฝนจะลองดู"
(ครับ แต่ถ้าเสร็จธุระเรื่องงาน..ฝนกลับแท็กซี่ได้ใช่มั้ย ช่วงนี้ที่โรงพยาบาลคนไข้เยอะและหมอเฉพาะทางด้านศัลยประสาทมีไม่กี่คน พี่ค่อนข้าง...)
"ได้ค่ะไม่มีปัญหา พี่ณภัทรทำงานเถอะค่ะ"
(ครับ)
ที่ปลายฝนรีบตัดบทบอกไปแบบนั้น เธอไม่ได้น้อยใจหมอณภัทรเลยสักนิด แต่เธอเข้าใจต่างหาก..ว่าการเป็นหมอศัลยกรรมประสาทที่งานล้นมืออย่างเขา มันเหนื่อยและกดดันแค่ไหน
ยิ่งคนไข้อุบัติเหตุผ่าเร่งด่วนเข้ามาทีไร เหมือนทุกนาทีของเขาต้องแข่งกับชีวิตคน
และตอนนี้ขณะที่ปลายฝนตัดสินใจเซ็นสัญญาอยู่ ด้านลิลินผู้เป็นเจ้านาย ก็รับประทานอาหารกลางวันกับคนรักอย่างอิ่มอกอิ่มใจที่ไม่ไกลจากบริษัทของเธอ
ซึ่งทั้งคู่ปรึกษาหารือเรื่องงานแต่งงาน และเลือกเรือนหอที่ติณห์ไปจัดหามาคร่าวๆไปด้วย
"หลังนี้เล็กไปลินไม่ชอบค่ะ..."
"งั้นหลังนี้ ใหญ่ขึ้นมาหน่อย"
"ไม่ค่ะ มันไม่อลังการ...ลินอยากได้บ้านหลังใหญ่ๆกว้างๆ โมเดิร์นๆให้สมกับที่เป็นคู่แต่งงานจากสองตระกูลใหญ่ พี่ติณห์ต้องเข้าใจนะคะว่าเราจะได้ไม่อายใคร ว่าแต่..มีให้ลินเลือกอีกรึป่าวคะ?^^"
ติณห์ได้ยินแบบนั้นก็ถึงกับก้มมองแบบบ้านที่เขาวางไว้บนโต๊ะทันที ก่อนที่จะนั่งสลับไปมาๆและยกมือกุมขมับ เพราะเขาเหนื่อยใจกับความเรื่องเยอะของแฟนตัวเองมาก และไม่รู้จะแก้ปัญหานี้ยังไง
เพราะบ้านที่เขาให้ดูมันไม่เล็กและไม่สมเกียรติซะเมื่อไหร่แถมยังสมัยใหม่โมเดิร์น จัดสรรพื้นที่ข้างในอย่างลงตัว เหมาะกับคู่รักแต่งงานและวางอนาคตมีลูกสี่ถึงห้าคนอย่างเขา
"ลินอยากได้แบบไหนล่ะ เอาเป็นว่าลินหามาเถอะ..ไม่ก็ออกแบบเองไปเลย"
ลิลินได้ยินแบบนั้นก็หุบยิ้มวางช้อนกับมีดหั่นเสต็กลงทันที ก่อนที่จะเอนพิงพนักเก้าอี้..ยกมือกอดอกมองหน้าว่าท่ีเจ้าบ่าวของเธอ
"พี่ติณห์ประชดลินเหรอคะ?-_-"
"คำไหนที่คิดว่าพี่ประชด? ลินชักจะเอาแต่ใจเกินไปแล้วนะ นี่ก็ไม่ได้นู่นก็ไม่เอา..พี่ก็ให้ลินหาเองนี่ไง เพราะพี่มีงานต้องทำนะลิน พี่เหนื่อย"
เหมือนฟ้าผ่ากลางโต๊ะอาหาร นี่ครั้งแรกที่ติณห์พูดเต็มปากเต็มคำว่าลิลินเอาแต่ใจ
และที่เป็นแบบนี้ก็เพราะถูกตามใจและถูกโอ๋มาตลอด ลิลินจึงยืนหนึ่งในความเรื่องเยอะและเอาแต่ใจเสมอมา
ซึ่งเธอเองไม่รู้หรอกว่า..มันเริ่มไม่น่ารักสำหรับติณห์แล้ว
เขาทำงานหนักเพื่อจะสรรเวลามาจัดงานแต่งให้เธออย่างสมเกียรติ แต่ลิลินกลับสร้างความลำบากใจให้เขาแทน
"งั้นก็ขอโทษแล้วกันค่ะ ลินก็งานเยอะ งั้นลินกลับนะคะ ไม่ต้องไปส่ง"
พูดจบร่างเล็กก็ลุกขึ้นพรวด ก่อนจะหยิบกระเป๋าสะพายใบหรูของเธอและสบัดหน้าเดินออกไป
ส่วนติณห์...เขาก็นั่งนิ่งๆถอนหายใจ และมองตามแผ่นหลังของแฟนสาวออกไป ด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูกเช่นกัน
เขาไม่รู้จะจัดการกับความเอาแต่ใจของลิลินด้วยวิธีไหนดี เพราะเขาเองก็มีส่วนผิด..ที่ตามใจเธอมาแต่ต้นจนเธอได้ใจขนาดนี้
และได้แต่หวังว่าเธอจะเปลี่ยนมันสักที..ไม่ใช่ตอนนี้ก็เมื่อเป็นแม่คน...
พรวิเศษที่ตัวเองได้มา เด็กน้อยไม่รู้ตัวเลยสักนิด เขาเอาแต่คิดว่าตัวเองเป็นฮีโร่ โม้กับปาป๊าว่าตัวเองเก่งที่สามารถช่วยอันอันไม่ให้วิ่งชนโต๊ะได้จนกลับมาจากเกาะของครอบครัว ลิลินก้พาพร้อมไปทำบุญครั้งยิ่งใหญ่ ต่อให้มันจะเป็นพรวิเศษที่ได้มา...แต่เธอก็ไม่สบายใจอยู่ดี "หนูกังวลอะไรอยู่เหรอ?" เมื่อถวายสังฆทานเสร็จ พระสงค์ที่รับไปก็ไถ่ถามขึ้นมา ทั้งที่ลิลินเอง..ยังไม่ได้บอกเล่าเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับลูกชายเธอเลยด้วยซ้ำ"คะ?..ถามหนูเหรอคะ?" หญิงสาวถามและชี้ที่ตัวเองงุนงง"ใช่ หนูนั่นแหละ""ค่ะกังวลนิดหน่อย คือ..อยู่ๆลูกชายหนูก็แปลกๆ เขาหายตัวได้ ไม่สิ..หนูไม่รู้จะอธิบายยังไงค่ะหลวงพ่อ พูดไม่ถูก""หลวงพ่อรู้แล้ว ถึงได้ถาม..ว่าทำไมหนูต้องกังวลกับเรื่องนี้ ลูกชายหนูเป็นคนดี วาสนาดีและมีบุญมหาศาล เขาได้พรวิเศษนั้นมา มันจะช่วยปกป้องเขาและคนอื่นๆอีกมาก"ลิลินเม้มปากบางๆของเธอแล้วพยักหน้าตาม ก่อนจะพนมมือขึ้นอีกครั้ง และตัดสินใจพูดบางสิ่งบางอย่าง ที่เธอกำลังอัดอั้นกับหลวงพ่อ"แต่หนูห่วงว่าเขาจะแวบไปตรงนู้นตรงนี้ แล้วเกิดอันตราย ถ้าเลือกได้...หนูอยากให้ลูกชายเป็นคนธรรมดาปกติ หลวงพ่อพอจะช่วยได้มั้ยคะ?""ไ
3 ปีต่อมา..เสียงคลื่นกระทบฝั่ง แสงแดดยามเช้า กลิ่นอายของทะเลที่พัดเข้ามากระทบหน้าตามแรงลม ทำให้หญิงสาวที่นอนกินลมชมบรรยากาศ ยิ้มออกมาอย่างมีความสุขลิลินทอดมองไปที่ทะเลกว้าง...มองไปที่เกลียวคลื่นกระทบฝั่ง...ซ่า ซ่าแต่ระหว่างนั้นหางตาของเธอ ก็มองลูกชายและหลานๆ ที่กำลังนั่งก่อกองทรายกันริมหาดด้วย"ห้ามโยนทรายนะลูก ยังไม่ทานมื้อเช้าเลย เดี๋ยวอาบน้ำใหม่นะ-_-""ได้เลยๆมาม๊า^^"แหมะ! หมดกัน ไม่ทันขาดคำ..ลินินก็กุมขมับ และลุกขึ้นจากเตียงชายหาดทันที เพราะพอบอกจบเท่านั้น..ลูกชายวัยสามขวบของเธอ ก็ปั้นทรายก้อนโต โปะ!เข้าที่หัวสาวๆที่นั่งเล่นอยู่จนหมอณัทร..ที่กำลังเดินออกมาจากตัวบ้าน เห็นหญิงสาวก้าวสามขุมไปหาลูก เขารีบตะโกนตามหลังทันที"ลิน! ไม่ว่าลูกนะ..ค่อยๆสอน~~""รู้แล้วหมอ! โอ๋กันจริงๆเลย" ลิลินบ่นอิบ ก็เดินไปหยุดที่ลูกชายและหลานสาว ก่อนที่ทั้งสามจะเงยขึ้นทำตาปริบๆมองลิลินราวกับเธอเป็นนางพันธุรัตน์ "พร้อม เล่นแบบนี้ไม่น่ารักเลยนะลูก ไปแกล้งอันอันกับปลายฝันได้ยังไง ม๊าบอกเมื่อกี้ไม่ได้ยินใช่มั้ย>ลิลิน ไม่ดุลูก~" หมอณภัทรตะโกนบอกอีกครั้ง"เออ รู้แล้วหมอ! ไม่ได้ดุ!""ก็..ก็มาม๊าบอกช้
ตอนนี้รอยยิ้มของติณห์กำลังจางหายไป เพราะน้ำตาลูกผู้ชายของเขา..กำลังเอ่อออกมาท่วมท้นพิธีกร : เห็นมั้ยคะ..ว่าบางครั้งความรักก็ไม่ได้เริ่มต้นด้วยความสวยงามเสมอไป แต่ตอนนี้เจ้าบ่าวของเราดูท่าจะไม่ไหวแล้วนะคะ คุณติณห์คะ..ว่าไงบ้าง^^แล้วปลายฝนก็ส่งไมค์ให้ทันที ก่อนที่จะเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาที่ไหลลงมาของซีอีโอหนุ่มดูซิ คุณซีอีโอเขาอ่อนไหวอีกแล้ว...ร้องไห้อีกแล้ว..ติณห์ : ผมก็..อยากขอบคุณปลายฝนที่ให้โอกาสผม แล้วผมสัญญาครับ ผมจะรักษาโอกาสนี้ให้ดี...หลังจากวันนี้จะไม่มีใครมาแทนที่ปลายฝน และผมสัญญาว่าจะเป็นสามีที่ดี เป็นพ่อที่ดี เป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดี จะรักและดูแลเธอคนนี้จนแก่เฒ่า ขะ..ขอบคุณครับมีคำพูดมากมายที่เขาอยากพูด แต่หลังๆเสียงติณห์เริ่มสั่นเครือจวนไม่ไหว เขาจึงรีบตัดบทไว..ทิ้งท้ายด้วยคำขอบคุณพิธีกร : หวานชื่นมากเลย อิจฉา~ แต่งานวันนี้มีโยนช่อดอกไม้ด้วยนะคะ เพื่อนเจ้าสาวคนไหนอยากได้ช่อดอกไม้บ้างเอ่ย^^ไม่มีใครตอบ เพราะเพื่อนเจ้าสาวที่มาก็ท้องกันหมด และถ้าได้มาแย่งชิงช่อดอกไม้ของปลายฝน มีหวังได้ล้มตึงกันแน่ แต่เมื่อช่อดอกไม้ ถูกยื่นให้เจ้าสาวอย่าปลายฝนโยนเท่านั้นแหละเธอก็ถือมันเด
"เกี่ยวอะไรกับลีออง!" คนเป็นแม่ถามลูกทั้งสอง แต่ไม่มีใครตอบ เพราะติณห์กับอันติงเอาแต่จ้องหน้ากันตั้งแต่เกิดมาจนโต ทั้งคู่ไม่เคยมีปากเสียงกันเลยด้วยซ้ำ...ครั้งนี้ครั้งแรก และที่ผ่านมา..ติณห์รักน้องห่วงน้องแค่ไหน..ใครๆก็รู้"ไม่ใช่มัน แล้วจะเป็นใคร?! อย่าคิดว่าพี่ไม่รู้นะ! ว่าอันติงชอบมัน"อันติงเบิกตากว้าง มองหน้าพี่ชายตกใจมาก แต่สักพักก็รีบเก็บอาการ โดยยกมือกอดอกเชิดหน้าขึ้นทันที"ทำไมคะ?! แค่เคยชอบเคยปลื้มเท่านั้น! แต่เราไม่ได้มีอะไรกัน พี่ติณห์คิดว่าชีวิตหนูจะไม่มีผู้ชายคนอื่นเลยรึไง ไม่ได้ลีอองผู้ชายคนอื่นก็มีตั้งเยอะ!""อันติง!!"เสียงตวาดลั่น ทำให้หญิงสาวที่ยืนกรานเถียงถึงกับนิ่ง เธอไม่ได้ตกใจหรอก แต่ใครดุด่าว่ายังไง..มันก็ไม่รู้สึกปวดใจเท่ากับพี่ติณห์ของเธอจนตอนนี้อันติงน้ำตาไหลออกมาอาบแก้ม และค่อยๆลดมือสองข้างไปกำแน่นข้างลำตัวเธอเหนื่อยกับปัญหาเหลือเกิน และมันจะไม่ไหวแล้ว"ฮึกๆอันติงขอโทษ...อันติงคิดว่ามันแค่สนุก ขำๆ ฮือๆแต่ทั้งหมดอันติงป้องกันนะคะ ไม่รู้ว่าพลาดได้ไง อันติงขอโทษค่ะพี่ติณห์ ขอโทษนะคะ ฮือๆ"หญิงสาวยกมือไหว้พี่ชายสะอื้นไห้ตัวงอ จนซีอีโอหนุ่มที่เดือดดาลเริ่มใจอ
"ปลอมมาก-_-^""อะไรเหรอคะ? เพชรปลอมเหรอคะ?" เมื่อปลายฝนถาม ลิลินก็วางมือถือที่เปิดแอพพลิเคชันเฟสบุ๊คลงบนโต๊ะ ก่อนเธอจะเขี่ยมันด้วยปลายนิ้วชี้ จนโทรศัพท์จนไถล~ฟรึบ! ไปหยุดตรงหน้าปลายฝนแล้วตอนนี้หญิงสาวที่อยู่ฝั่งตรงข้ามก็งุนงง หยิบมันขึ้นมาดูด้วยความสงสัยอ๋อ รูปถ่าย..หมอณภัทรกับติณห์ ที่ทำตัวเผลอๆและอุ้มตุ๊กตาเด็กอาบน้ำที่โรงพยาบาล"เธอดูสิ..ปลอมมาก ทำเป็นเผลอถ่าย..แต่อัพรูปลงเฟสตัวเอง หึหึ-_-" ลิลินบอกย้ำแล้วหัวเราะเบาๆออกมาจนปลายฝนเงยขึ้นถามว่า.."ถ้าไม่ปลอม..มันจะเป็นยังไงเหรอคะ?" "เธอเนี่ย ไม่ทันผู้ชายเลยนะ..ฉันน่ะแปลกใจตั้งแต่ท้องแล้ว หมอณภัทรเคยลงรูปที่ไหน? แต่ทุกวันนี้ทำอะไรก็ลง แถมยังอ้อนฉันว่าอยากมีลูกตั้งสี่คนอีก! ""สี่คน!! พี่ณภัทรที่โลภมากขนาดนั้นเลยเหรอคะO_O""ระวังไว้เถอะ สองคนนั้นอยู่ด้วยกัน..ต้องย้ายมาอยู่อุดมการ์ณเดียวกันแน่ ฉันสี่คนเธออาจจะแปด เพราะพี่ติณห์เวอร์จะตาย"เวอร์...เวอร์....สุดจะเวอร์เลย แค่เห็นรูปที่ลิลินให้ดูไม่เท่าไหร่ แต่เมื่อปลายฝนเลิกงานกลับถึงบ้านติณห์ เธอก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็นในห้องโถงลังสีน้ำตาลเกือบยี่สิบกล่องวางเรียงเป็นตับ! ขณะที่แม่
เมื่อได้รับอนุมัติจากธนาคารประจำบ้าน ติณห์ก็จัดการดิวบริษัทแอร์บัสทีี่ฝรั่งเศษทันที ซึ่งบริษัทแอร์บัสนี้เป็นบริษัทผลิตเครื่องบินยักษ์ใหญ่ จากการรวมทุนของกลุ่มประเทศฝั่งยุโรป ซีอีโอหนุ่มสั่งเครื่องบินเพิ่มสองลำ เป็นเครื่องบินAirbus-A320(-200) รุ่นฮิตบินภายในประเทศหรือแถบเอเชีย Rangeหรือพิสัยการบินราวๆ6,150 กิโลเมตร แลนด์ที่แดนอาทิตย์อุทัยอย่างญี่ปุ่นได้สบายซึ่งติณห์วุ่นวายเจรจากับบอร์ด และบริษัททางฝรั่งเศสจนถึงเย็น ก่อนที่จะสั่งให้โรงงานพ่นสีพิเศษที่เขาจะทำเซอร์ไพรส์ปลายฝนอีกด้วย"เรียบร้อย! ช่วยก็อปปี้เอกสารสั่งซื้อส่งให้บอร์ดบริหารทุกคนด้วยนะ^^""ได้ค่ะคุณติณห์^^" เลขารับแฟ้มไปด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะก้มหน้าก้มตาเดินออกไปหลังจากมีเป้าหมาย..ทุกๆวันของติณห์ก็ทำงานอย่างหนัก อาจจะมีแพ้ท้องบ้างเวียนหัวบ้าง แต่อาการเหล่านั้นมันก็ค่อยๆทุเลา เมื่อเขามองผ่านและพยายามอุดอู้อยู่กับงานอย่างเดียวและที่เป็นแบบนี้ ซีอีโอหนุ่มไม่ได้เฉยเมยต่อลูกและเมียอะไรทั้งนั้น เขาแค่อยากให้ของขวัญปลายฝนกับลูก และเร่งทุกอย่างให้เสร็จทัน เพื่อจะได้มีเวลาเตรียมงานแต่งงานที่ใกล้จะมาถึงนี้"เหนื่อยชิบ" ทันทีที่ติณห์ถึ