เสียงหวานครางประท้วงเมื่อเขาถอดนิ้วออกจากความเป็นสาวแล้วแทนที่ด้วยปลายลิ้นเปียกชื้น ส่วนมือใหญ่ก็เปลี่ยนมาเคล้นคลึงอกอวบทั้งสองข้าง ปลายนิวบีบขยี้ตุ่มไตที่แข็งชันสู้มืออย่างเมามัน
ทกจุดกระสันถูกโจมตีจนหญิงสาวหูอื้อตาลายไปหมด เธออยากบอกให้เขาหยุด แต่ร่างกายกับตอบสนองด้วยการเบียดสะโพกงอนงามเด้งรับกับปลายลิ้น สองมือดึงรั้งผ้าปูที่นอนเพื่อระบายความเสียวซ่าน แต่มันก็ยังไม่หาย หญิงสาวปล่อยมือจากผ้าปูมากดศีรษะเข้าให้จมไปกับกลางกาย อีกคนก็ไม่ขัดขืน ยิ่งเธอกดเขาก็ยิ่งรัวลิ้นอย่างชำนาญ
ยิ่งเขาดูดเลียอย่างกระหายพิจิกาก็ยิ่งหลงไปกับเพลิงราคะที่แผนเผา สะโพกหญิงสาวยกขึ้นจากที่นอนส่ายไปมา อย่างซ่านกระสัน กิริยาเชิญชวนแบบนี้ทำให้พีราวัชรชอบใจ เขาครางต่ำก่อนละยอมปล่อยมือจากอกอิ่มมาจับสะโพกของเธอไว้
“ชอบแบบนี้เหรอผิง เดี๋ยวผมจะทำให้คุณรู้สึกดีกว่านี้อีกนะ”
เขากระซิบด้วยเสียงทุ้มต่ำก่อนก้มใบหน้าหล่อลงกลางกลีบกุหลาบอีกครั้ง ปลายลิ้นพลิ้วไหวสะบัดถี่ ส่งให้เสียงหวานร้องครางดังขึ้นอย่างไม่ขาดสาย เธอทั้งเสียวทั้งทรมานเกินกว่าที่จะนอนนิ่ง
“คุณพีร์ ช่วยผิงด้วย ผิงว่าผิงใจจะขาด”
เสียงหวานเอ่ยขอให้เขาช่วยพาเธอออกจากความทรมานที่มันเพิ่มมากขึ้น ร่างกายของเธอร้อนราวกับไฟ รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะระเบิดออก ความเสียวซ่านมารวมอยู่ที่ใจกลางความเป็นสาวที่เขากำลังปรนเปรออยู่
“อื้อ..คุณพีร์...ผิง อื้อ.....”
เสียงหวานกรีดร้องเมื่อทุกอย่างระเบิดออก ร่างกายเธอกระตุกติดๆ กันอย่างคุมไม่ได้เรียวขาสั่นเกร็งสะโพกหยัดขึ้นสูง ความรู้สึกเหมือนตัวเองอยู่ท่ามกลางหมูดาว เหมือนเป็นสวรรค์ที่เธอไม่เคยพบพานมาก่อน
พีราวัชรวางร่างที่หมดแรงลงบนที่นอนอีกครั้ง ก่อนจะรีบจัดการกับเสื้อผ้าของตนเองจนเปลือยเปล่าแล้วทาบทับลงมาบนร่างหญิงสาวอีกครั้ง พิจิกามองคนตัวโตที่คร่อมทับด้วยสายตาหวานเชื่อมยอมรับอย่างไม่อายว่านอกจากเขาจะหล่อถูกใจแล้วเรือนร่างของเขาก็น่าสัมผัสจนเธออดใจไม่ไหว หญิงสาวเอื้อมมือลากไล้ไปตามกล้ามเนื้อที่ขึ้นรูปสวยอย่างแผ่วเบา
“อ่าห์ ผิง”
เสียงต่ำครางแหบพร่าเมื่อมือนุ่มนิ่มลากไปตามมัดกล้าม เขาชอบสัมผัสที่เธอกำลังทำอยู่นี้ มันไม่ได้เร่าร้อนหรือเสแสร้งเหมือนกับที่เคยเจอมาจากคู่นอน แต่แววตาที่มองอย่างซุกซนนั้นกระตุ้นให้เขาอยากจะครอบครองเธอโดยเร็ว
ชายหนุ่มจดจูบไปยังเรียวปากบางสีสวย สอดปลายลิ้นควานหาความอุ่นนุ่ม ลิ้นหยอกล้อเป็นพัลวัน เขาพอใจเป็นอย่างมากที่หญิงสาวรู้จักตอบสนองแม้จะดูเงอะงะ หากแต่มันทำให้เขารู้สึกดีได้อย่างคาดไม่ถึง เขาจูบอย่างเร่าร้อนจนหญิงสาวเคลิบเคลิ้มขณะที่มือก็สวมเกาะป้องกันให้กับอาวุธประจำกายจากนั้นแยกเรียวขาสวยให้ออกจากกันอย่างง่ายดาย
มือข้างหนึ่งกอบกุมความอวบอิ่มเอาไว้คลึงเคล้นให้เธอผ่อนคลาย ส่วนข้างที่เหลือก็จับท่อนเอ็นร้อนลากขึ้นลงกลางกลีบสวยให้น้ำหวานชโลมจนทั่ว ก่อนจะกดเข้าหาโพรงอุ่นนุ่มอย่างช้าๆ
“อ่าห์...เข้ายากฉิบ”
ชายหนุ่มสบถเมื่อตัวตนของเขามันเข้าในกายของเธอได้ยากกว่าที่คิดไว้ ความคับแน่นของหญิงสาวทำให้เขาอยากจะกระโจนเข้าหา
“อ๊ะ! เจ็บ คุณพีร์”
พิจาการ้องเสียงหลงเมื่อตัวตนของทะลุป่านเยื่อบางๆ เข้ามาในกาย เธอรู้สึกราวกับว่าร่างกายกำลังจะถูกแยกออกเป็นเสี่ยง ความเมาเมื่อครู่หายเป็นปลิดทิ้ง หญิงสาวมองหน้าผ่านม่านน้ำตาแห่งความเจ็บปวด แล้วแบบนี้เหรอจะเรียกว่าเป็นความสุขได้เหรอ เธอไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าเจ็บแบบนี้ทำไมคนเรายังต้องการมันอีก
“ไม่เอาแล้ว ฉันไม่เอาแบบนี้แล้ว ไหนว่าจะมีความสุข นิทานหลอกเด็กชัดๆ”
มือเล็กทุบตีแผงอกเขาอย่างบ้าคลั่ง ในขณะที่ชายหนุ่มก็ชะงักค้าง เขามองหน้าเธออย่างสงสัย ไม่คิดมาก่อนว่าเธอจะยังบริสุทธิ์อยู่
“มันก็แค่เริ่มต้นนะผิง”
“แต่ผิงเจ็บคุณพีร์เอาออกก่อนได้ไหม”
“ผมก็เจ็บเหมือนกัน คุณรัดผมแน่นมาก ให้ผมทำต่อนะรับรองว่าอีกนิดเดียวคุณจะมีแค่ความสุข”
หญิงสาวมองหน้าเขาอย่างชั่งใจ เธอหวงแหนสิ่งมีค่ามาตลอด แต่วันนี้ทุกอย่างมันจบสิ้นแล้ว ในเมื่อเรียกร้องคืนมาไม่ได้เธอก็ควรจะยอมรับและหาความสุขกับมัน เพราะคนที่เธอตั้งใจจะเก็บไว้ให้ก็ไม่ต้องการมันอีกต่อไป
เมื่อเห็นว่าเธอไม่ตอบและตอนนี้แก่นกายของเขาก็ปวดร้าวจนแทบระเบิดเขาก็ไม่อาจจะทนอยู่นิ่งๆ ได้ พีราวัชรเริ่มขยับนวดให้ความอ่อนนุ่มได้ปรับตัวก่อนจะถอยออกแล้วขยับเข้าหาใน จังหวะเนิบนาบ ใบหน้าของเขาแดงก่ำพยายามข่มความต้องการอย่างที่สุด
พิจิกาอยากปฏิเสธแต่พอเขาเริ่มขยับ ความเจ็บปวดเมื่อครู่ก็ค่อยๆ เลือนหายแต่กลับมีอีกความรู้สึกเข้ามาแทนที่
“อื้อ..คุณพีร์”
“ดีขึ้นใช่ไหม อีกนิดเดียวคุณจะมีความสุขจนลืมไม่ลงเลย เชื่อผมนะ”
เสียงหวานครางรัญจวนชายหนุ่มก็เพิ่งจังหวะให้เร็วขึ้น แรงขึ้น เขาโจนจ้วงเข้าหาความคับแน่นอย่างบ้าคลั่ง ไม่เคยรู้สึกดีแบบนี้มาก่อน ความรู้สึกที่ได้เป็นคนแรกไม่ได้เกิดขึ้นกับเธอเป็นคนแรก แต่ไม่รู้เพราะอะไรเขาถึงได้อิ่มเอมใจมากมายถึงเพียงนี้
ความเสียวซ่านที่พีราวัชรมอบให้หญิงสาวไม่เคยได้รับมาก่อน ร่างกายของเธอตอบสนองไปตามสัญชาตญาณ อกแอ่นเข้าหาปากร้อนที่ดูดดึงขบเม้มเต้าคู่อวบจนเปียกชุ่ม สะโพกยกขึ้นสูงส่ายรับกับท่อนเอ็นร้อนเป็นจังหวะประสานที่ลงตัว
“อ๊ะ! อื้อ..ตรงนั้น”
“ตรงนี้ใช่ไหม ถูกใจใช่ไหม อ่าห์..รัดผมจะขาดแล้วนะ”
พีราวัชรกดย้ำไปยังจุดเดิมซ้ำๆ จุดภายในที่เธอไม่เคยรู้มาก่อนว่าจะทำให้ตนเองเสียวซ่านได้มากถึงเพียงนี้
“คุณพีร์ขา... ไม่ไหว ผิงใจจะขาด มันทรมาน”
“ใกล้แล้วใช่ไหม จะถึงแล้วใช่ไหม ปลดปล่อยนะ เรียกชื่อผม ผมอยากได้ยิน”
หญิงสาวไม่รู้ว่าใกล้อะไร รู้แต่ตอนนี้ร่างกายกำลังจะระเบิดอีกครั้ง ความเสียวซ่านที่กลางกายมันมากว่าเมื่อครู่ไม่รู้กี่เท่า ชายหนุ่มถาโถมเข้าลึกสุดแรง
“อื้อ คุณพีร์ ขา คุณพีร์ อร๊ายยยยย...”
หญิงสาวกรีดร้องเมื่อความสุขสมมาเยือนอีกครั้งมันสุขจนคิดไม่ถึงเลยว่าตัวเองจะได้รับ ร่างกายเกร็งสะท้าน กอดเขาแน่นสองมือจับไปบนไหล่กว้างอย่างหาที่ระบาย
“ดีไหม ผิง เชื่อแล้วใช่ไหมว่ามันจะมีความมุข”
“คุณพีร์...”
“บอกผมสิว่าคุณมีความสุข”
พีราวัชรถามขณะที่สะโพกยังขยับอยู่ในกายสาว เพียงแต่จังหวะไม่ได้รุนแรงเหมือนเมื่อครู่
“ค่ะ ผิงมีความสุข”
คนฟังคำตอบยิ้มพราว เธอมีความสุขไปแล้วก็เหลือแต่เขาที่ยังไปไม่ถึงไหน
เรื่องราวทุกอย่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว ถึงตอนนี้พิจิกาและพีราวัชรก็แต่งงานกันได้หลายเดือนแล้ว คุณกิ่งแก้วที่ลาไปคลอดลูกก็ยังไม่กลับมาทำงานทำให้สองสามีภรรยามีเวลาหวานด้วยกันทั้งที่บ้านและที่ทำงาน “ไม่น่าเชื่อนะคะว่าเราจะได้แต่งงานกัน” “ถ้าคืนนั้นผมไม่มาส่งผิงที่นี่ ผมคงเสียดายไปจนตาย” “ผิงไม่คิดเลยนะคะว่าความเมาจะทำให้ผิงได้สามีที่หล่อแบบนี้” “ผิงรู้ไหม ว่าผมแอบมองผิงตั้งแต่ผิงออกไปเต้นแล้ว” “เหรอคะ” “ครับ ผิงสวยสะดุดตาผมมาก ผมดีใจมากแค่ไหนรู้ไหมที่ผิงเดินกลับมาดื่มต่อที่บาร์” “แล้วคุณคิดจะมาส่งผิงแล้วกลับหรือคิดอย่างอื่น” “ผมสารภาพเลยครับว่าผมคิดไม่ซื่อกับผิงตั้งแต่ต้น ผมเคยเจอผู้หญิงในบาร์แล้วเราก็ไปต่อกันจากนั้นทุกอย่างก็จบภายในคืนเดียว ผมแทบไม่รู้ชื่อพวกเธอด้วยซ้ำ แต่พอเจอผิง ผมกลับลืมไม่ลง” “เพราะอะไรคะ จะว่าเพราะหน้าตาก็ไม่น่าจะใช่เพราะคนสวยกว่าผิงมีเยอะไปหมด” “ผมเองก็หาเหตุผลไม่ได้ ผมรู้แค่ต้องเป็นผิง ผมรู้แค
เริ่มงานวันแรกหลังจากหยุดยาว พิจิกาไม่ค่อยมีสมาธิทำงานเท่าไหร่เพราะเย็นนี้เธอจะต้องเข้าไปทานอาหารเย็นที่บ้านของพีราวัชร แม้จะเคยเจอบิดามารดาของเขาแล้ว แต่ครั้งนี้มันต่างจากครั้งที่แล้ว เพราะเขาจะพาเธอเข้าไปในฐานะคนรักไม่ใช่ผู้ช่วยเลขาอย่างครั้งก่อน“ผิง มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า”“นิดหน่อยค่ะพี่กิ่ง”“เล่าให้พี่ฟังได้นะ”“ผิงก็อยากเล่าค่ะ แต่เรื่องนี้ผิงบอกใครไม่ได้จริงๆ ค่ะ เรื่องนี้มันไม่ได้เกี่ยวกับผิงคนเดียว”“คงเป็นเรื่องสำคัญมากใช่ไหม”“ค่ะพี่กิ่ง”“พี่ไม่รู้นะว่าเรื่องไร เอาเป็นว่าพี่ให้กำลังใจผิงก็แล้วกันนะ ใช้สติให้มาก พี่ว่าปัญหาทุกอย่างจะผ่านได้ด้วยดี”“ขอบคุณค่ะพี่กิ่ง พี่กิ่งจะกลับเลยก็ได้นะคะเดี๋ยวตรงนี้ผิงทำต่อเองค่ะ”“แล้วผิงไม่รีบกลับบ้านเหรอวันนี้เจ้านายไม่อยู่น่าจะรีบกลับนะ”“กลับตอนนี้รถเมล์แน่นค่ะพี่กิ่ง ผิงรออีกนิดดีกว่าค่ะ”“งั้นพี่ไปก่อนนะ”“ค่ะพี่กิ่ง”พอเลขารุ่นพี่กลับไปแล้วพิจิกาก็จัดการงานตรงหน้าต่ออย่างไม่เร่งรีบเพราะพีราวัชรเพิ่งลงจากเครื่องเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน กว่าเขาจะขับรถมาถึงที่นี่ก็คงอีกนานเมื่อทำงานตรงหน้าเสร็จแล้วหญิงสาวก็เข้าห้องน้ำสำรวจความเรีย
เกือบสิบโมงเช้าของวันใหม่สองหนุ่มสาวก็ยังคงนอนกอดกันอยู่บนเตียงกว้าง ความสุขที่มีร่วมกันมันมากมายราวกับเป็นความฝัน พิจิกาตื่นตั้งนานแล้วแต่เธอยังไม่อยากขยับออกจากอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นของเขา เธอเงยมองใบหน้าหล่อที่ตอนเช้าไรหนวดเขียวเริ่มเห็นชัดเจนและมันเพิ่มเสน่ห์ในตัวเขาได้เป็นอย่างดี หญิงสาวไล้มือไปตามสันกรามอย่างแผ่วเบา และคิดว่าถ้าเขาเอาใบหน้านี้ซุกไซร้ไปตามลำตัวเธอมันจะจั๊กจี้หรือเสียวซ่านมากแค่ไหน เธอสำรวจใบหน้าของเขานานไปหน่อยตอนนี้เจ้าตัวก็เลยและทำให้คนที่แอบมองต้องรีบหลบตา“แอบมองแบบนี้คิดอะไรอยู่”“ผิงไม่ค่อยได้เห็นเวลาหน้าคุณพีร์มีหนวดเลย ปกติคุณพีร์โกนทุกวันเหรอคะ”“ครับ ผมต้องโกนทุกเข้า”“อยู่ที่นี่กับผิงไม่โกนได้ไหมคะ ผิงชอบนะคะ มันเซ็กซี่ดีค่ะ”“ผมไม่อยากให้มันทิ่มผิงเวลาที่ผมจูบผิงนี่ครับ”“นิดหน่อยเองไม่เป็นไรหรอกค่ะ นะคะ”“ก็ได้ครับแล้วถ้าเจ็บอย่ามาบ่นก็แล้วกัน”“แล้วผิงเคยบ่นให้คุณพีร์ฟังไหมล่ะคะ”“ไม่เลย ผิงไม่เคยบ่นว่าเจ็บ ผมไม่รู้เพราะผิงไม่เจ็บหรือเพราะผิงทนเพื่อผม”“ถ้าบอกว่าไม่เจ็บก็คงไม่ถูกหรอกค่ะ ผิงเจ็บแต่มันไม่มากถึงขั้นทนไม่ไหว คุณพีร์ทำให้ผิง
ตอนนี้ทั้งสองคนอยู่ในสภาพเปลือยเปลา พีราวัชรขึ้นมาคร่อมทับตัวหญิงสาว เขามองหน้าเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนา ก่อนบดจูบลงบนริมฝปากบางอยางดูดดื่ม มือหนาทั้งสองข้างคลึงเคลาสองปทุมอวบอิ่มอย่างมันมือ ปลายนิ้วสะกิดยอดปทุมถันปลุกเร้าจนเสียงหวานครางระงม“อื้อ....”จูบจนพอใจเขาก็ลากไล้ความเปียกชื้นไปตามซอกคอหอมกรุ่น ขบเม้มดูดดึงไปตามแรงอารมณ์ที่กำลังพุ่งสูง ผิวเนียนนุ่มขึ้นรอยแดงไปทั้งทุกจุดที่ปากร้อนเลื่อนผ่าน ลากไล้มาจนถึงร่องปทุมอวบอิ่ม ลิ้นร้อนลากปัดป่ายบนยอดสีสวย ก่อนจะส่งปากร้อนครอบครองด้วยความเสน่ห์หาหญิงสาวได้แต่ดิ้นพล่านเสียงหวานครางเพื่อระบายความเสียว เขาหยอกเย้าดูดกินจนอิ่มหนำก็เลื่อนตัวลงไปเรื่อยๆ จนหยุดกลางขาเรียวทั้งสองข้าง เธอชันเข่าขึ้นอย่างรู้งานไม่นานความสุขก็แตกกระจายเข้าสู่กายของพิจิกา หญิงสาวหอบสะท้านก่อนจะถูกเขาโน้มกายลงหาตัวเธอนอนคว่ำไปกับที่นอน ขณะที่ท่อนเอ็นของเขายังคงกระตุกอยู่ในกายเธออย่างยาวนาน ปากร้อนพรมจูบลงบนแผ่นหลังอย่างหลงใหล“ผมไม่เคยเจอใครที่สุดยอดเหมือนคุณมาก่อน ที่รัก ผมรักคุณนะผิง”“ผิงก็รักคุณพีร์ค่ะ”พิจิกายิ้มอย่างมีความสุข เมื่อชายหนุ่มถอด
เป็นครั้งแรกที่พี่จิกต้องนั่งเครื่องคนเดียวข้ามประเทศแต่พอลงจากเครื่องก็ได้เจอกับพีราวัชรที่รออยู่ตรงจุดรับกระเป๋า“บังเอิญจังเลยนะครับที่ได้เจอกันที่นี่”“ค่ะ บังเอิญมาก ว่าแต่จะบังเอิญพักที่เดียวกันด้วยไหมคะ” พิจิกาถามก่อนที่ทั้งสองจะเดินตามกันไปยังรถของโรงแรมที่จอดอยู่เที่ยวบินที่พวกเขาโดยสารมาเป็นเที่ยวบินที่ออกจากสนามบินสุวรรณภูมิดึกที่สุดพอมาถึงสิงคโปร์และเข้าที่พักก็เกือบจะตีหนึ่ง โรงแรมที่ชายหนุ่มพาเธอมาพักเป็นโรงแรมหรูห้าดาวที่อยู่บริเวณอ่าวมารีนา สามารถมองเห็นวิวยามค่ำคืนรวมถึงแลนด์มาร์คสำคัญอย่างสิงคโปร์ฟลายเออร์ได้อีกด้วย“สวยจังค่ะคุณพีร์ ผิงไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะได้มาพักโรงแรมหรูแบบนี้” พิจิกตื่นเต้นกับภาพความสวยตรงหน้า“ถ้าผิงชอบเราจะมากันทุกวันหยุด”“ไม่เอาหรอกค่ะ ราคาห้องมันคงแพงมาก”“แพงแค่ไหนผมก็ยอมจ่ายถ้าผิงชอบ” พีราวัชรเดินมาสวมกอดเธอด้านหลัง“ค่ะผิงชอบ แต่ถ้ามาบ่อยๆ ผิงกลัวว่าคุณพีร์จะหมดตัวเสียก่อน”“ถ้าผมหมดตัวผิงยังจะรักผมไหม”“รักสิค่ะ ผิงไม่ได้รักคุณพี่ที่เงิน”“ผมรู้ ผมถึงได้รักผิงมากยังไงล่ะ”“วิวสวยมากเลยนะคะ เหมือนอยู่บนสวรรค์”“เคยเห็นเหรอครับว่าสวรรค์เป
หลังจากเคลียร์เอกสารทุกอย่างเสร็จแล้วพีราวัชรก็เรียกกิ่งแก้วและพิจิกาเข้ามาในห้องทำงาน“นั่งก่อนทั้งสองคนนั่นแหละ”“ขอบคุณค่ะ/ ขอบคุณค่ะ” เลขาและผู้ช่วยเลขาพูดพร้อมกันก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้หน้าโต๊ะของรองประธาน“ผมอย่างจะถามคุณกิ่งว่าผ่านมาสองเดือนแล้วพิจิกาทำงานเป็นยังไงบ้าง”“น้องผิงทำงานเรียบร้อยดีค่ะ เรียนรู้ได้เร็วมากค่ะ”“แล้วคุณมั่นใจไหมว่าถ้าคุณหยุดงานไปหกเดือนงานทุกอย่างจะไม่มีปัญหาอะไร”“กิ่งมั่นใจค่ะ ที่ผ่านมาน้องผิงไม่เคยทำงานพลาดเลย เธอรอบคอบและมีไหวพริบมากกว่ากิ่งด้วยซ้ำ”“ถ้าอย่างนั้นช่วงที่คุณลางานผมคงไม่ต้องหาใครมาเพิ่มใช่ไหม”“ผิงคิดว่าไหวไหม” กิ่งแก้วหันมาถามผู้ช่วย“คิดว่าไหวค่ะพี่กิ่ง”“ถ้าไหวก็ดี เอาล่ะเรื่องงานผ่านไปแล้ว ทีนี้ก็มาถึงเรื่องวันหยุดยาว”“มีอะไรหรือเปล่าคะคุณพีร์”“ผมอยากให้คุณกิ่งช่วยดูให้หน่อยว่าหลังวันหยุดผมต้องไปเจอลูกค้าหรือไปตรวจงานที่สาขาไหนหรือเปล่า”“สักครู่นะคะ” กิ่งแก้วเปิดตารางงานของเจ้านายขึ้นมาดูก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาตอบเขาอีกครั้ง“คุณพีร์ต้องไปร่วมงานเปิดสาขาใหม่คู่ค้าที่สิงคโปร์ค่ะ”“เดี๋ยวผมจัดการจองตั๋วเองนะ”“ได้ค่ะ ครั้งนี้คุณพีร์จะใ