เข้าสู่ระบบทิ้งกระเป๋าเป้ปลดสัมภาระที่คิดว่าจะเป็นภาระในภายภาคหน้าไว้ที่พื้น เจนิสทำตามอย่างว่าง่าย เธอไม่มีแม้แต่อารมณ์ขี้งอนหรืองี่เง่าใด ๆ ด้วยเพราะรู้สถานการณ์ดี สิ่งที่ติดตัวมาจึงมีแค่ปืนหน้าไม้กับซองใส่ลูกดอก ในทิศหกนาฬิกาด้านตรงกันข้าม ร่างบางเคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วยการคลานศอก เธอกดตัวให้ต่ำกระดืบ ๆ คืบคลานไปอยู่ในแนวด้านหลังสุดตามที่รุ่นพี่ออกคำสั่ง
.
"เข้าใจแล้วค่ะ.. ไว้ใจหนูได้เลยหนูจะระวังหลังให้เอง ถ้าเจอผู้รอดชีวิตบอกให้ตามมาทางนี้ได้เลยนะคะ!"
แม้แต่ซุ่มเสียงก็ดุดันจริงจังขึ้น ตอกย้ำว่าเธอไม่ได้มาเล่น ๆ
.
ด้วยความสัตย์จริงว่าการบู้นั้นไม่ใช่สไตล์ของเจนิสมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เธอเป็นนักรบสายซับพอร์ตไม่ใช่ตัวแทงค์ และถ้านับสถิติการฆ่าผู้ติดเชื้อแล้วล่ะก็ในแคลนก็คงจะเป็นเธอนี่แหละที่ตัวเลขอยู่ในลำดับต่ำสุด กลับกันแต่ถ้าหากเป็นการหนีเพื่อเอาตัวรอดแล้วล่ะก็ เจนิสก็จะพลิกสถิติกลับขึ้นมาเป็นผู้นำแห่งวงการได้เลย
.
จากคลานเริ่มค่อย ๆ ลุกขึ้นกระหยิ่มย่อง มือเรียวเกี่ยวตะขอขึ้นสายหน้าไม้เตรียมไว้ พลันกระโดดยิงหนึ่งดอกออกไปเมื่อเห็นเป้าหมายชัดเจน
.
"ฟิ้ววว!"
.
"ปั๊ก!"
.
"หัว" เหมือนกันแต่เป็น "หัวเข่า" เอาน่าถึงมันจะไม่เฮดช็อตแต่ก็ถือว่าช่วยคนได้มากอยู่
.
หญิงสาวรีบลุกขึ้นวิ่งพลันกระชากแขนผู้อพยพหญิงรายหนึ่ง ออกมาจากวงแขนสาปเน่าของผู้ติดเชื้อ แรงกระชากเพียงแผ่วเบาก็ทำให้หมอนั่นล้มทั้งยืน ครั้นพอจะไล่ตามก็ไล่ไม่ไหวเพราะเจ็บหัวเข่า สุดท้ายแล้วสตรีนางนี้ก็เลยเป็นผู้โชคดีรายแรกที่ถูกเจนิสช่วยเอาไว้ เธอถูกนำตัวมาหลบด้านหลังแนว ส่วนด้านหน้าก็ปล่อยให้พวกพี่ ๆ ลั่นกระสุนปืนกล MP5 ใส่ผู้ติดเชื้อกันอย่างเมามันส์ต่อไป
..
"ปัง! , ปัง! , ปัง! , ปัง! , ปัง! , ปัง! , ปัง! , ปัง! , ปัง!"
เสียงปืนดังสนั่นหวั่นไหวไปทั้งป่า เหล่านกกาบินกระจายแตกตื่นกระเจิดกระเจิง เจนิสจึงรีบหันมากำชับ
.
"คุณรออยู่ตรงนี้นะอย่าขยับเขยื้อนไปไหนแล้วจะปลอดภัย พวกเราจะพาคุณไปที่วิลเลจ!"
.
"ค่ะ.. เข้าใจแล้วค่ะ.. คือว่า"
เหมือนเธอจะพยายามพูดอะไรสักอย่างแต่ก็ไม่ทันเจนิส เพราะรายนั้นเล่นเล็งยิงลูกดอกออกไปจากจุดนี้ถึง 2 ดอกรวด
..
"ฟิ้ววว! , ฟิ้ววว!"
..
"ปั๊ก! , ปั๊ก!"
.
ส้นตีนเหอะ! เพราะไม่โดนเหี้ยอะไรเลย! หนำซ้ำยังเฉี่ยวสีข้างพี่หน่วยลาดตระเวนแนวหน้าไปถึงสองคนเช่นกัน ทำให้พวกเขาต้องหันมามองต้นตออย่างเธอ สบช่องให้เจนิสรีบโผตัวขึ้นแล้วก็ชี้นิ้วพรึบพรับ ๆ ไปที่มุมป่าอีกฝั่ง ซึ่งมีเด็กตัวเล็ก ๆ กำลังวิ่งหนีการตามล่าของฝูงผู้ติดเชื้อกลุ่มใหญ่
.
รุ่นพี่ก็เลยจัดให้ พวกเขาลั่นกระสุนเข้าเป้าอย่างแม่นยำจนพวกมันล้มคะมำเป็นทิวแถว เหล่าเด็ก ๆ ต่างตื่นกลัวร้องไห้กันระงมแล้วก็เป็นเจนิสนี่แหละที่รีบวิ่งกรูเข้าไปปลอบ พลางนำตัวทุกคนมานั่งรวมกันที่แนวด้านหลังในจุดปลอดภัย
.
นี่คือกลยุทธ์ของเจนิส เธอสู้ไม่เก่งยิงปืนก็ไม่เป็นขนาดหน้าไม้หรือธนูก็แค่พอถู ๆ ไถ ๆ แต่สมองของเธอนี่สิที่ถือว่าเป็นประโยชน์มาก เธอทำแบบนี้อยู่เป็นสิบ ๆ รอบแล้วก็ช่วยเหลือผู้คนได้มากมาย นับ ๆ ดูแล้วการมาของเธอหนนี้เหมือนจะมีประสิทธิพลในแง่ของการช่วยเหลือสังคม มากกว่าที่พวก ๆ พี่มืออาชีพทำได้เสียอีก
.
จึงไม่แปลกใจที่ทำไมแพรวถึงไว้ใจเธอนัก จวบจนกระทั่งเสียงปืนเร่ิมซาลงและบรรดาผู้ติดเชื้อเริ่มบางตา หญิงสาวผู้โชคดีรายแรกถึงได้ใช้จังหวะนี้เข้าไปขอร้องกับเจนิสอีกครั้ง
.
"แม่หนู! แม่หนูจ๋า! วานไปช่วยสามีกับลูก ๆ ฉันหน่อยได้ไหม?"
เธอตะปบฝ่ามือเข้าที่ข้างเอวเจนิส ทำเอาสาวมัธยมที่กำลังชะเง้อคอมองหาผู้รอดชีวิตคนอื่น ๆ อยู่ถึงกับสะดุ้ง
.
"อุ๊ย! อะไรค่ะเนี่ยะคุณน้า?"
หล่อนรีบย่อตัวลงในทันใด
.
"ครอบครัวของเราพลัดหลงกันที่บนเนินเขา เราหนีมาด้วยกันแต่มีฉันแค่คนเดียวที่ถูกช่วยไว้ ฉันไม่อยากให้พวกเขาตายถ้าเป็นพรรคพวกของแม่หนูล่ะก็ต้องช่วยพวกเขาได้แน่ ขอร้องล่ะจ่ะ ช่วยฉันอีกสักครั้งเถิดนะ!"
สาววัยกลางคนถึงกับฟุบตัวลงแทบเท้า สภาพเธอดูน่าสังเวชใจมากหมดปัญญาที่เจนิสจะปฏิเสธลงเธอก็เลยลองหันมองดูรอบ ๆ ก่อนจะพบว่าพวกพี่ ๆ แต่ละคนเองก็ต่างวุ่นกันมาก พื้นที่แนวหน้ายังไม่เคลียร์ร้อยเปอร์เซ็นต์ดี
.
แต่เธอก็ยังอยากช่วย จึงเปล่งวาจาออกไปว่า
.
"เอาวะ! , เอาก็เอา! ไปทางไหนน้าภูเขาลูกไหนนำหน้าหนูไปเลย!"
"กลางป่ากลางเขาคงมีพวกมันไม่กี่ตัวหรอก ไอ้พวกนี้ชอบมาจากในเมือง หน้าไม้หนูน่าจะเอาอยู่หนูจะไปช่วยลูกกับผัวน้าเองค่ะ"
เลือดวีรสตรีในตัวสูบฉีดแผ่ซ่าน หัวใจเต้นตึกตัก ๆ ระลึกถึงคุณพระศรีรัตนตรัย
.
"ฉันไปไม่ได้จ่ะแม่หนู.. ขาฉันเจ็บ.. แต่ฉันบอกทางคร่าว ๆ ให้ได้ ได้โปรดให้อภัยฉันด้วย.."
พูดไม่พูดเปล่ายังอุตส่าห์ถลกตีนผ้าถุงให้ดูความบวมเป่งของข้อเท้าที่ช้ำจนเปลี่ยนเป็นสีม่วง อย่าว่าแต่เดินนำทางเลยแค่ลุกขึ้นยืนยังลำบาก ครั้นจะกลับไปวิลเลจในสภาพนี้ก็ยังถือว่าเป็นภาระ
.
เจนิสจึงเข้าตาจนซะแล้ว เธอต้องพบกับการตัดสินใจที่ยากลำบากอีกครั้ง งานนี้ไม่มีที่ปรึกษาเพราะพวกพี่ ๆ ต่างก็มือเป็นระวิงอยู่กับตับกระสุนปืน ไอ้ครั้นจะปฏิเสธผู้ใหญ่ที่เกาะขาร้องห่มร้องไห้อยู่ก็แลดูไม่ดี ยิ่งเหลือบไปเห็นกลุ่มเด็ก ๆ ตัวมอมแมมที่จ้องหน้าเธอสลอนด้วยแล้ว
.
แม้ไม่ได้เป็นอะไรกันและไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่คำว่า "เพื่อนมนุษย์" ก็มีน้ำหนักพอสำหรับคนที่รักเพื่อนมากอย่างเจนนิสอยู่ดี
ปลายนิ้วแห้งผากราวกับกระดาษทราย กว่าจะสัมผัสได้ถึงหยดน้ำหยาดแรกกลีบผกาก็ช้ำมากจนออกสีแดงแกมระเรื่อ มิวท์เสียวแค่ในใจแต่ร่างกายกลับไม่เป็นดังที่หวัง เธอเอาแผ่นหลังพิงกับกำแพงห้องโดยสารพลางหลุบสายตามองเรียวขาของตัวเองทั้งสองข้างที่ตั้งชันขึ้นและกำลังสั่นระริก เธอเร่งเกินไปเธอฝืนทั้งที่ไม่ได้เงี่ยนจริง.ตอกย้ำการโกหกตัวเองด้วยการดีดกางเกงผ้ายืดที่พันอยู่กับข้อเท้าออก เธออยากเห็นความงุ้มเกร็งของปลายตีน เผื่อจะทำให้มีอารมณ์กระสันขึ้นมาต้านทานการกลายร่างได้บ้าง."ซีดดดด...จิ๋มแห้งจัดเลยอ่ะโถ่เอ๊ย!".แท่งน้ิวเปลี่ยนจากสองเป็นสาม ชี้ , กลาง , นาง เรียงตัวเป็นขยุมพลันยัดเข้าไปแบบสุดเหยียดก็แล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ผลหล่อนจึงได้รับแต่ความเจ็บปวดกลับมา แรงเสียดสีที่ขาดน้ำหล่อลื่นเป็นอะไรที่ทำร้ายช่องคลอดมาก มิวท์เหมือนกำลังทำทารุณกรรมกับตัวเอง และที่สำคัญที่สุดก็คือ ณ ตอนนี้และเดี๋ยวนี้ มุมมองสายตาของเธอก็เริ่มเห็นเป็นฉากสีแดงและเส้นเลือดยึกยือถักทอขึ้นมาแล้ว!."เรากำลังจะกลายร่าง.. อ่ะ.. อ๊ากกก..ก..ก..ก , อั๊ก..ก..ก!""เด็กผู้หญิงคนนั้นกับแท่งไฟส่องสว่างในมือ ทำให้เชื้อโควิดในตัวเรากำลังจะออกมา..
ภาพในฝันประเดประดังเข้ามาในหัว ภาพของการสังวาชกันในน้ำ ภาพของมิวท์สาวสวยหุ่นงามที่ถูหน้าอกบี้บดกับแผ่นหลังของเธอ สิ่งเหล่านี้ทำเอาเจนิสถึงกับมือไม้สั่น แม้ว่าเธอจะมองไม่เห็นโลโก้ของบริษัท AP ตรงท้ายเครื่องบิน และจากจุดที่ยืนอยู่ก็สูงและมืดเกินกว่าจะพิสูจน์อัตลักษณ์ได้ แต่ด้วยสัญชาตญาณที่ติดตัวมายังไงเธอก็ว่าใช่ นี่ต้องเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ตั้งใจออกมาตามหาแน่นอน."เอาไว้ก่อนเรื่องช่วยเหลือผู้คน เสียใจด้วยนะคะน้า แต่ก็ต้องขอบคุณด้วยเหมือนกันนี่ถ้าไม่ใช่ลูกผัวน้าหนูคงไม่ได้เจอกับเครื่องบิน"."ปั๊ก! , ฟู่..!!!"จากอุปกรณ์จุดไฟในมือกลายเป็นแท่งไฟส่องสว่าง มันถูกกระทุ้งด้วยหัวเข่าและเปล่งแสงสว่างโพลงออกมาทำให้ทั้งสองฟากของซอกเขากลายเป็นสีแดง."รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลอง" ถ้าจะต้องมีซาวด์ดนตรีประกอบเพลง "เล่นของสูง" ของวงบิ๊กแอสถือว่าเหมาะมาก เพราะเจนิสรู้อยู่แก่ใจว่าสิ่งที่ทำลงไปนั้นเสี่ยงแค่ไหน แท่งความร้อนเรืองแสงที่ถืออยู่จะกลายเป็นตัวล่อชั้นดีให้บรรดาผู้ติดเชื้อพุ่งเป้ามาที่เธอ แต่ก็นะ! จะให้ทำไงได้ล่ะในเมื่อหัวใจเรียกร้อง.เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณคิดหาเหตุผลให้กับความรัก เมื่อนั้นก็แปลว่
"ไป! ,ไป! ,ไป!, เดินหน้าเร่งฝีเท้าหน่อยทุกคน! ใกล้จะค่ำแล้วอย่าแตกแถวดูแลกันและกันด้วย!"เสียงหัวหน้าหน่วยหันมากำชับ."อีกราว 500 เมตรก็จะถึงประตูหน้าวิลเลจแล้ว ในนั้นทุกคนจะปลอดภัยสบายใจได้"แกผินหน้ากลับมามองตรงพลางกระชับปืนคู่ใจแนบวงแขน แบกเป้ประทับบ่าเดินจ้ำอ้าวรวดเร็วปานจรวด.ที่ด้านหลังมีสมาชิกกลุ่มเพิ่มจำนวนขึ้นกว่า 20 ชีวิต มีทั้งเด็กและผู้หญิงแล้วก็คนแก่ ทุกคนต่างอยู่ในสภาพเหนื่อยล้าอิดโรย โดยมีสมาชิกหน่วยลาดตระเวนกระจายตัวล้อมรอบพวกเขาไว้อีกชั้นหนึ่ง พวกเขาต่างปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขันแล้วก็โชคดีมากที่ไม่มีใครเสียชีวิตจากการปะทะกันเมื่อตอนบ่ายเลย.แต่ถ้าเป็นช่วงเวลาโพล้เพล้ใกล้ค่ำแบบนี้ก็ไม่แน่ ไม่มีใครอยากเสี่ยงกับกลุ่มผู้ติดเชื้อเวอร์ชั่นกลางคืนหรอก หัวหน้าหน่วยก็เลยพยายามย้ำนักย้ำหนาว่าให้ทุกคนเร่งฝีเท้าต้องไปให้ถึงวิลเลจก่อนตะวันตกดินให้ได้ ภาษากายดูจริงจังน่าเกรงขาม แต่ใครเล่าจะรู้ว่าในใจลึก ๆ นั้นหัวหน้าเป็นห่วงเจนิสมากขนาดไหน."โถ่.. เจนิสเอ๊ย! อุตส่าห์บอกแล้วว่าให้รักษาแนวด้านหลังเอาไว้ ทำไมถึงทำอะไรโดยพลการนะ""นี่เธอคิดจริง ๆ เหรอว่าตัวเองเก่งพอจะอาสาไปช่วยเหล
ทิ้งกระเป๋าเป้ปลดสัมภาระที่คิดว่าจะเป็นภาระในภายภาคหน้าไว้ที่พื้น เจนิสทำตามอย่างว่าง่าย เธอไม่มีแม้แต่อารมณ์ขี้งอนหรืองี่เง่าใด ๆ ด้วยเพราะรู้สถานการณ์ดี สิ่งที่ติดตัวมาจึงมีแค่ปืนหน้าไม้กับซองใส่ลูกดอก ในทิศหกนาฬิกาด้านตรงกันข้าม ร่างบางเคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วยการคลานศอก เธอกดตัวให้ต่ำกระดืบ ๆ คืบคลานไปอยู่ในแนวด้านหลังสุดตามที่รุ่นพี่ออกคำสั่ง."เข้าใจแล้วค่ะ.. ไว้ใจหนูได้เลยหนูจะระวังหลังให้เอง ถ้าเจอผู้รอดชีวิตบอกให้ตามมาทางนี้ได้เลยนะคะ!"แม้แต่ซุ่มเสียงก็ดุดันจริงจังขึ้น ตอกย้ำว่าเธอไม่ได้มาเล่น ๆ.ด้วยความสัตย์จริงว่าการบู้นั้นไม่ใช่สไตล์ของเจนิสมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เธอเป็นนักรบสายซับพอร์ตไม่ใช่ตัวแทงค์ และถ้านับสถิติการฆ่าผู้ติดเชื้อแล้วล่ะก็ในแคลนก็คงจะเป็นเธอนี่แหละที่ตัวเลขอยู่ในลำดับต่ำสุด กลับกันแต่ถ้าหากเป็นการหนีเพื่อเอาตัวรอดแล้วล่ะก็ เจนิสก็จะพลิกสถิติกลับขึ้นมาเป็นผู้นำแห่งวงการได้เลย.จากคลานเริ่มค่อย ๆ ลุกขึ้นกระหยิ่มย่อง มือเรียวเกี่ยวตะขอขึ้นสายหน้าไม้เตรียมไว้ พลันกระโดดยิงหนึ่งดอกออกไปเมื่อเห็นเป้าหมายชัดเจน."ฟิ้ววว!"."ปั๊ก!"."หัว" เหมือนกันแต่เป็น "หัวเ
"ซึบ!!!".เสียบ ๆ ๆ ! กระซวก ๆ ๆ ! ย้ำแผลเดิมอีกราวสิบกว่าครั้ง ทำให้ร่างเปลือยของชายที่แน่นิ่งอยู่แล้วกลายเป็นเหมือนหมูที่อยู่บนเขียง กงเล็บของมิวท์ถูกดึงขึ้นมา ความแหลมเฟี้ยวดังกล่าวถูกฉาบเคลือบไว้ด้วยลิ่มเลือดที่หยดติ๋ง ๆ ไหลซึมลงมาถึงข้อศอก.แววตาแดงก่ำไม่เห็นแม้แต่ลูกตาดำ ขนาดฟันเขี้ยวด้านหน้ายังยื่นแหลมงุ้มออกมาพ้นมุมปาก ไม่มีทางเลยที่มิวท์ตัวจริงจะต่อต้านตัวตนใหม่เฉกเช่นปีศาจนี้ได้ มันบังคับร่างกายเธอให้เคลื่อนไหวไปไหนต่อไหนตามอำเภอใจ และครั้งนี้ก็คงจะหิวถึงได้เริ่มคอนโทรลมืออีกข้างของมิวท์ให้ควักลงไปในปากแผล พลันดึงเอาเครื่องในอวัยวะสด ๆ ออกมาจากลำตัว."ควัก!!!""หมึบบบ! , หมับบบ!!!".ไม่พูดพร่ำทำเพลงให้เสียเวลา ไม่ถามดินถามฟ้า พอได้ออกมาก็จับยัดเข้าปากแล้วก็เคี้ยวตุ้ย ๆ แทบจะทันที ซึ่งนั่นก็คือภาพสุดท้ายที่มิวท์หวนคิดถึง....ตัดภาพกลับมา ณ เหตุการณ์ปัจจุบันในเฮลิคอปเตอร์.หญิงสาวลุคคุณหนูกลับมาสวมใส่เสื้อผ้าแล้ว เธออยู่ในอาภรณ์มิดชิด ปากยังคงเคี้ยวเอื้องเอาเศษอวัยวะของพี่พลขับลงคอไปเป็นอาหาร.. อึก.. อึก...ตอกย้ำว่ามิวท์รู้ทุกอย่างว่าที่ผ่านมานั้นคืออะไร เธอถูกเชื้อโค
เหงื่อนองท่วมร่างกาย กะบังลมเคลื่อนตัวเทียวหดเทียวขยายหอบแฮ่ก ๆ กันทั้งสองคน ลำควยยังคงปักเสียบอยู่ในหี เวลาผ่านไปร่วมหนึ่งนาทีเมือกคาวสีขาวขุ่นอันเกิดจากน้ำเชื้อแห่งการผสมพันธุ์ ก็ซึมทะลักออกมาตามช่องว่างระหว่างอวัยวะเพศ."แหมะ! , แหมะ!".มันหลากล้นออกมาเปื้อนพุ่มไหมดงแมกไม้ของพี่พลขับเต็มไปหมด แต่ครานั้นนวลนางผู้คร่อมร่างอยู่ข้างบนก็ยังคงนิ่งไม่ไหวติง มิวท์นิ่งราวกับโดนถอดปลั๊ก! เธอยังคงชูแขนพับข้อศอกอยู่ในท่ามัดผม พลันหลับตากัดริมฝีปากแล้วก็ค้างเติ่งอยู่เช่นนั้น จนพี่เขาชักจะประหลาดใจ."นี่คุณเล่นมุกอะไรของคุณเนี่ยะคุณมิวท์?""แฮ่ก ๆ , แฮ่ก ๆ "เขาลองตวาดถามดูอีกครั้งถามแม่งทั้ง ๆ ที่ตัวเองยังไม่หายเหนื่อย และการหอบหายใจสั่นรัวดังกล่าวก็ทำเอาร่างบางที่คร่อมอยู่มูฟตัวเองโยกโยนตามไปด้วย."แฮ่ก ๆ , แฮ่ก ๆ หนอยแน่! ดีล่ะ! ถ้าจะเล่นแบบนี้ล่ะก็..""ผมก็จะง้างปากคุณด้วยแท่งควยของผมเอง..""ให้มันรู้ไปสิว่าคุณจะนิ่งต่อไปได้ ถ้าโดนควยกระทุ้ง!"."แฮ่ก ๆ , แฮ่ก ๆ ""ฮึบ!!!"."สวบ! , สวบ! , สวบ! , สวบ! , สวบ! , สวบ!".กัดฟันรวบรวมพลังทั้งหมดส่งจากปลายตีนขึ้นมาถึงบั้นเด้า พี่เขาเอาจริงไม่







