แชร์

บทที่ 117 : หลง

ผู้เขียน: L.sunanta
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-11-02 17:54:35

"ไป! ,ไป! ,ไป!, เดินหน้าเร่งฝีเท้าหน่อยทุกคน! ใกล้จะค่ำแล้วอย่าแตกแถวดูแลกันและกันด้วย!"

เสียงหัวหน้าหน่วยหันมากำชับ

.

"อีกราว 500 เมตรก็จะถึงประตูหน้าวิลเลจแล้ว ในนั้นทุกคนจะปลอดภัยสบายใจได้"

แกผินหน้ากลับมามองตรงพลางกระชับปืนคู่ใจแนบวงแขน แบกเป้ประทับบ่าเดินจ้ำอ้าวรวดเร็วปานจรวด

.

ที่ด้านหลังมีสมาชิกกลุ่มเพิ่มจำนวนขึ้นกว่า 20 ชีวิต มีทั้งเด็กและผู้หญิงแล้วก็คนแก่ ทุกคนต่างอยู่ในสภาพเหนื่อยล้าอิดโรย โดยมีสมาชิกหน่วยลาดตระเวนกระจายตัวล้อมรอบพวกเขาไว้อีกชั้นหนึ่ง พวกเขาต่างปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขันแล้วก็โชคดีมากที่ไม่มีใครเสียชีวิตจากการปะทะกันเมื่อตอนบ่ายเลย

.

แต่ถ้าเป็นช่วงเวลาโพล้เพล้ใกล้ค่ำแบบนี้ก็ไม่แน่ ไม่มีใครอยากเสี่ยงกับกลุ่มผู้ติดเชื้อเวอร์ชั่นกลางคืนหรอก หัวหน้าหน่วยก็เลยพยายามย้ำนักย้ำหนาว่าให้ทุกคนเร่งฝีเท้าต้องไปให้ถึงวิลเลจก่อนตะวันตกดินให้ได้ ภาษากายดูจริงจังน่าเกรงขาม แต่ใครเล่าจะรู้ว่าในใจลึก ๆ นั้นหัวหน้าเป็นห่วงเจนิสมากขนาดไหน

.

"โถ่.. เจนิสเอ๊ย! อุตส่าห์บอกแล้วว่าให้รักษาแนวด้านหลังเอาไว้ ทำไมถึงทำอะไรโดยพลการนะ"

"นี่เธอคิดจริง ๆ เหรอว่าตัวเองเก่งพอจะอาสาไปช่วยเหลือคนอื่นเขาได้"

"ยัยเด็กบ๊อง! เอ๊ย!"

.

แกบ่นพึมพำแบบนี้มาตลอดทางด้วยเพราะก่อนหน้านี้เพิ่งได้รับข้อมูลจากผู้หญิงคนที่ขาเจ็บ ว่าเจนิสได้แอบผละตัวออกจากกลุ่มไปช่วยสามีกับลูก ๆ ของเธอที่เขตป่าบนภูเขา

.

แต่แทนที่หัวหน้าหน่วยจะระดมพลไปช่วยเจนิส แกกลับตัดสินใจทำในสิ่งที่สำคัญกว่านั่นก็คือการออกคำสั่งให้ทุกคนกลับเข้าวิลเลจโดยทิ้งเจนิสเอาไว้! เหตุผลก็เพราะปัจจัยทางด้านเวลาที่จะไม่ทันการณ์เอา ตกกลางคืนพวกผู้ติดเชื้อจะทั้งเร็วขึ้น แกร่งขึ้น และสัญชาตญาณการล่าก็จะยิ่งเฉียบคม ลำพังกระสุนปืนจากพวกเขาก็คงจะต้านทานไว้ไม่ไหว ขี้คร้านจะตายห่ากันหมด

.

การตัดสินใจทิ้งเจนิสไว้หนนี้จึงเปรียบเสมือนการตัดแขนขารักษาชีวิต หัวหน้าจำเป็นจะต้องเอาชีวิตของคนส่วนใหญ่ไว้ก่อน แม้จะมีความรู้สึกเสียใจอยู่บ้างแต่ก็จำเป็น

.

"เธอทำตัวเองนะนังหนู.. กลับมาให้ได้ล่ะ.. หวังว่าคงยังจำเครื่องหมายสัญลักษณ์ตามต้นไม้ได้อยู่นะ"

.

แกทิ้งคำอวยพรสุดท้ายไว้ให้ ก่อนที่จะแหงนหน้าขึ้นมาปะทะเข้ากับประตูค่ายวิลเลจแบบพอดิบพอดี

.

"แอ๊ดดดด.. ด.. ด.. ด.. ด"

"ตรึม!!!"

.

บานประตูถูกเปิดออกพลันถูกรับช่วงต่อโดยหน่วยสอบสวนโรคที่มาพร้อมกับอุปกรณ์ชุดตรวจเข้าประจำที่ พวกเขาคัดกรองผู้อพยพทุกคนเป็นอย่างดี ใครติดเชื้อจะถูกกันตัวไว้ต่างหาก ใครที่บาดเจ็บก็จะมีพยาบาลเข้ามาทำแผลให้ เลยเถิดไปถึงการเช็คชื่อตรวจนับจำนวนคนซึ่งพอถึงขั้นตอนนี้หัวหน้าหน่วยลาดตระเวนก็ถอนหายใจยาว พลางแหงนหน้าขึ้นไปมองดวงจันทร์แล้วก็พูดขึ้นว่า..

.

"ไม่ต้องเช็คหรอกครับหมอ ขาดหนึ่งคน! เจนิสไม่ได้กลับมาพร้อมพวกเรา!"

.

.

ตัดภาพข้ามฝั่งไปยังเนินเขาสูง ณ จุดที่เจนิสอยู่

.

มืดเท่าที่มืดได้สลัวทึมเทาจนแทบจะมองไม่เห็นฝ่ามือตัวเอง หุบเขาเทวดาคือชื่อเรียกขานของมันแต่สภาวการณ์ที่ถูกกระทำนั้น ช่างเหมือนกับเดินอยู่ในขุมนรกมิผิดเพี้ยน ผืนป่าแถบนี้แห้งแล้งมาก สิ่งมีชีวิตตามธรรมชาติทุกอย่างถูกโควิดกลืนกินไปซะหมด ใบไม้แห้งกรอบ ต้นไม้กะเทาะเป็นกาบ ๆ แม้แต่ภูผาหินก็ร่วนซุยเป็นผุยผงชนิดที่แค่จะป่ายปีนขึ้นไปก็ยังแตกพังทลายลงมา

.

"โอ๊ยยย!"

.

"ตุบ!"

.

เด็กสาวร่วงหล่นลงจากหน้าผาเป็นรอบที่ห้า เธอพยายามจะปีนขึ้นไปข้างบนตามเบาะแสที่ได้รับมาจากคุณน้าขาเจ็บ แต่ดูทรงแล้วเห็นทีจะไม่เวิร์ค ผนวกรวมเข้ากับดวงตะวันที่ลับขอบฟ้าไป เมื่อความมืดเข้าปกคลุมเธอก็เข้าสู่โหมดเด็กหลงไปโดยปริยาย

.

เจนิสปัดไม้ปัดมือจัดเก็บข้างของด้วยความคล่องแคล่ว เธอรู้ว่าตกกลางคืนตัวอะไรจะโผล่มา เธอหลงป่าก็จริงแต่ก็ไม่กล้าไปลองดีกับฝูงผู้ติดเชื้อในยามค่ำคืนหรอก สิ่งที่คิดได้ในตอนนี้จึงมีแค่การพยายามขึ้นไปยังที่สูง แล้วก็ก่อกองไฟใหญ่ ๆ ขึ้นมาสักกองหนึ่ง เพื่อใช้เป็นตัวล่อให้พวกมันมาออกันที่จุด ๆ เดียวเยอะ ๆ

.

"ความร้อนจะช่วยเบนความสนใจของพวกมัน อย่างน้อยถ้าทำตัวเย็น ๆ เข้าไว้คืนนี้เราก็จะรอด"

"โถ่เอ๊ย..เรานะเราไม่น่าพลาดเลย! ดันคิดว่าจะกลับเข้ากลุ่มได้ด้วยการสังเกตเสียงกับประกายไฟจากปลายกระบอกปืน ใครจะไปรู้ว่าพอใกล้ค่ำพวกพี่ ๆ เขาจะหยุดยิง ฉันก็หลงสิทีนี้! ยิ่งดูสัญลักษณ์บนต้นไม้ไม่เป็นอยู่ด้วย! เวรแท้ ๆ ! เวร ๆ ๆ !"

เจนิสบ่นเป็นหมีกินผึ้ง

.

ปากเธอขมุบขมิบไปแต่ขาก็ยังก้าวเดินไต่ระดับความสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ เพื่อหาทางอ้อมขึ้นไปบนภูเขาเพื่อที่จะได้ทำตามแผนที่คิดไว้

.

จะเห็นว่าหล่อนไม่ได้มีความตื่นตระหนกใด ๆ เลย เธอโดนมาเยอะเจ็บมาเยอะล้มลุกคุกคลานกับแพรวมาก็มาก แค่หลงป่าแค่นี้ถือเป็นเรื่องจิ๊บ ๆ แล้วก็ไม่แคร์ด้วยว่าทำไมถึงไม่มีหน่วยลาดตระเวนคนอื่นมาช่วย เจนิสเข้าใจดีว่าพวกพี่ ๆ ต้องทำตามกฎ เพราะฉะนั้นการที่ต้องอยู่ในป่าคนเดียวท่ามกลางผู้ติดเชื้อจึงเป็นเรื่องของชะตากรรมที่ต้องยอมรับ

.

"แค่คืนเดียว! แค่ผ่านคืนนี้ไปได้ทุกอย่างก็จะคลี่คลายในเช้าวันรุ่งขึ้น"

เจนิสคิดในใจ

.

"ฮึบ!"

.

"อืมมม.. ม.. ม"

"โอเค๊! เดินอ้อมขึ้นมาถึงยอดได้แล้ว.. ว.. ว ! , วู้ววว! มืดกว่าทีคิดอีกนะเนี่ยะ แต่ก็เป็นลานหินที่กว้างขวางใช้ได้อยู่ทีเดียวเหมาะมากที่จะใช้เป็นที่จุดไฟล่อพวกมัน"

.

เธอควักเอาอุปกรณ์จุดไฟออกมาจากเป้ พลางเร่ิมขั้นตอนเดินสำรวจเล็กน้อยเพื่อหาจุดที่เหมาะสมที่สุด แต่แล้วก็ต้องชะงักงันเข้ากับบางสิ่งที่ซ่อนตัวอยู่ใต้ซอกเขาลงไป

.

"หืม.. แสงไฟนี่?"

"ในซอกหลืบแบบนี้เนี่ยะนะ อะไรที่จะมุดลงไปในร่องหินแบบนั้นได้?"

.

ความมืดสีดำทมิฬตัดกับแสงสว่างจากดวงไฟสีส้มในห้องโดยสารได้อย่างชัดเจน จากบนยอดเขาที่อยู่ห่างจากข้างใต้นี้ราว 20 เมตร เจนิสมองออกว่ามีส่วนของใบพัดแล้วก็มีส่วนของหาง ขาตั้งห่าง ๆ จอดอยู่ในท่าเอียงกระเท่เร่ ก่อนที่เธอจะอุทานออกมาซะดังลั่นว่า..

.

"เฮ๊ยยย! นั่นมันเฮลิคอปเตอร์นี่นา!"

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • Covid-19 มะรุมมะตุ้มรุมรัก (Nc18+)   บทที่ 119 : ขืนใจ (18+)

    ปลายนิ้วแห้งผากราวกับกระดาษทราย กว่าจะสัมผัสได้ถึงหยดน้ำหยาดแรกกลีบผกาก็ช้ำมากจนออกสีแดงแกมระเรื่อ มิวท์เสียวแค่ในใจแต่ร่างกายกลับไม่เป็นดังที่หวัง เธอเอาแผ่นหลังพิงกับกำแพงห้องโดยสารพลางหลุบสายตามองเรียวขาของตัวเองทั้งสองข้างที่ตั้งชันขึ้นและกำลังสั่นระริก เธอเร่งเกินไปเธอฝืนทั้งที่ไม่ได้เงี่ยนจริง.ตอกย้ำการโกหกตัวเองด้วยการดีดกางเกงผ้ายืดที่พันอยู่กับข้อเท้าออก เธออยากเห็นความงุ้มเกร็งของปลายตีน เผื่อจะทำให้มีอารมณ์กระสันขึ้นมาต้านทานการกลายร่างได้บ้าง."ซีดดดด...จิ๋มแห้งจัดเลยอ่ะโถ่เอ๊ย!".แท่งน้ิวเปลี่ยนจากสองเป็นสาม ชี้ , กลาง , นาง เรียงตัวเป็นขยุมพลันยัดเข้าไปแบบสุดเหยียดก็แล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ผลหล่อนจึงได้รับแต่ความเจ็บปวดกลับมา แรงเสียดสีที่ขาดน้ำหล่อลื่นเป็นอะไรที่ทำร้ายช่องคลอดมาก มิวท์เหมือนกำลังทำทารุณกรรมกับตัวเอง และที่สำคัญที่สุดก็คือ ณ ตอนนี้และเดี๋ยวนี้ มุมมองสายตาของเธอก็เริ่มเห็นเป็นฉากสีแดงและเส้นเลือดยึกยือถักทอขึ้นมาแล้ว!."เรากำลังจะกลายร่าง.. อ่ะ.. อ๊ากกก..ก..ก..ก , อั๊ก..ก..ก!""เด็กผู้หญิงคนนั้นกับแท่งไฟส่องสว่างในมือ ทำให้เชื้อโควิดในตัวเรากำลังจะออกมา..

  • Covid-19 มะรุมมะตุ้มรุมรัก (Nc18+)   บทที่ 118 : พี่มิวท์ (18+)

    ภาพในฝันประเดประดังเข้ามาในหัว ภาพของการสังวาชกันในน้ำ ภาพของมิวท์สาวสวยหุ่นงามที่ถูหน้าอกบี้บดกับแผ่นหลังของเธอ สิ่งเหล่านี้ทำเอาเจนิสถึงกับมือไม้สั่น แม้ว่าเธอจะมองไม่เห็นโลโก้ของบริษัท AP ตรงท้ายเครื่องบิน และจากจุดที่ยืนอยู่ก็สูงและมืดเกินกว่าจะพิสูจน์อัตลักษณ์ได้ แต่ด้วยสัญชาตญาณที่ติดตัวมายังไงเธอก็ว่าใช่ นี่ต้องเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ตั้งใจออกมาตามหาแน่นอน."เอาไว้ก่อนเรื่องช่วยเหลือผู้คน เสียใจด้วยนะคะน้า แต่ก็ต้องขอบคุณด้วยเหมือนกันนี่ถ้าไม่ใช่ลูกผัวน้าหนูคงไม่ได้เจอกับเครื่องบิน"."ปั๊ก! , ฟู่..!!!"จากอุปกรณ์จุดไฟในมือกลายเป็นแท่งไฟส่องสว่าง มันถูกกระทุ้งด้วยหัวเข่าและเปล่งแสงสว่างโพลงออกมาทำให้ทั้งสองฟากของซอกเขากลายเป็นสีแดง."รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลอง" ถ้าจะต้องมีซาวด์ดนตรีประกอบเพลง "เล่นของสูง" ของวงบิ๊กแอสถือว่าเหมาะมาก เพราะเจนิสรู้อยู่แก่ใจว่าสิ่งที่ทำลงไปนั้นเสี่ยงแค่ไหน แท่งความร้อนเรืองแสงที่ถืออยู่จะกลายเป็นตัวล่อชั้นดีให้บรรดาผู้ติดเชื้อพุ่งเป้ามาที่เธอ แต่ก็นะ! จะให้ทำไงได้ล่ะในเมื่อหัวใจเรียกร้อง.เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณคิดหาเหตุผลให้กับความรัก เมื่อนั้นก็แปลว่

  • Covid-19 มะรุมมะตุ้มรุมรัก (Nc18+)   บทที่ 117 : หลง

    "ไป! ,ไป! ,ไป!, เดินหน้าเร่งฝีเท้าหน่อยทุกคน! ใกล้จะค่ำแล้วอย่าแตกแถวดูแลกันและกันด้วย!"เสียงหัวหน้าหน่วยหันมากำชับ."อีกราว 500 เมตรก็จะถึงประตูหน้าวิลเลจแล้ว ในนั้นทุกคนจะปลอดภัยสบายใจได้"แกผินหน้ากลับมามองตรงพลางกระชับปืนคู่ใจแนบวงแขน แบกเป้ประทับบ่าเดินจ้ำอ้าวรวดเร็วปานจรวด.ที่ด้านหลังมีสมาชิกกลุ่มเพิ่มจำนวนขึ้นกว่า 20 ชีวิต มีทั้งเด็กและผู้หญิงแล้วก็คนแก่ ทุกคนต่างอยู่ในสภาพเหนื่อยล้าอิดโรย โดยมีสมาชิกหน่วยลาดตระเวนกระจายตัวล้อมรอบพวกเขาไว้อีกชั้นหนึ่ง พวกเขาต่างปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขันแล้วก็โชคดีมากที่ไม่มีใครเสียชีวิตจากการปะทะกันเมื่อตอนบ่ายเลย.แต่ถ้าเป็นช่วงเวลาโพล้เพล้ใกล้ค่ำแบบนี้ก็ไม่แน่ ไม่มีใครอยากเสี่ยงกับกลุ่มผู้ติดเชื้อเวอร์ชั่นกลางคืนหรอก หัวหน้าหน่วยก็เลยพยายามย้ำนักย้ำหนาว่าให้ทุกคนเร่งฝีเท้าต้องไปให้ถึงวิลเลจก่อนตะวันตกดินให้ได้ ภาษากายดูจริงจังน่าเกรงขาม แต่ใครเล่าจะรู้ว่าในใจลึก ๆ นั้นหัวหน้าเป็นห่วงเจนิสมากขนาดไหน."โถ่.. เจนิสเอ๊ย! อุตส่าห์บอกแล้วว่าให้รักษาแนวด้านหลังเอาไว้ ทำไมถึงทำอะไรโดยพลการนะ""นี่เธอคิดจริง ๆ เหรอว่าตัวเองเก่งพอจะอาสาไปช่วยเหล

  • Covid-19 มะรุมมะตุ้มรุมรัก (Nc18+)   บทที่ 116 : วีรสตรี

    ทิ้งกระเป๋าเป้ปลดสัมภาระที่คิดว่าจะเป็นภาระในภายภาคหน้าไว้ที่พื้น เจนิสทำตามอย่างว่าง่าย เธอไม่มีแม้แต่อารมณ์ขี้งอนหรืองี่เง่าใด ๆ ด้วยเพราะรู้สถานการณ์ดี สิ่งที่ติดตัวมาจึงมีแค่ปืนหน้าไม้กับซองใส่ลูกดอก ในทิศหกนาฬิกาด้านตรงกันข้าม ร่างบางเคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วยการคลานศอก เธอกดตัวให้ต่ำกระดืบ ๆ คืบคลานไปอยู่ในแนวด้านหลังสุดตามที่รุ่นพี่ออกคำสั่ง."เข้าใจแล้วค่ะ.. ไว้ใจหนูได้เลยหนูจะระวังหลังให้เอง ถ้าเจอผู้รอดชีวิตบอกให้ตามมาทางนี้ได้เลยนะคะ!"แม้แต่ซุ่มเสียงก็ดุดันจริงจังขึ้น ตอกย้ำว่าเธอไม่ได้มาเล่น ๆ.ด้วยความสัตย์จริงว่าการบู้นั้นไม่ใช่สไตล์ของเจนิสมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เธอเป็นนักรบสายซับพอร์ตไม่ใช่ตัวแทงค์ และถ้านับสถิติการฆ่าผู้ติดเชื้อแล้วล่ะก็ในแคลนก็คงจะเป็นเธอนี่แหละที่ตัวเลขอยู่ในลำดับต่ำสุด กลับกันแต่ถ้าหากเป็นการหนีเพื่อเอาตัวรอดแล้วล่ะก็ เจนิสก็จะพลิกสถิติกลับขึ้นมาเป็นผู้นำแห่งวงการได้เลย.จากคลานเริ่มค่อย ๆ ลุกขึ้นกระหยิ่มย่อง มือเรียวเกี่ยวตะขอขึ้นสายหน้าไม้เตรียมไว้ พลันกระโดดยิงหนึ่งดอกออกไปเมื่อเห็นเป้าหมายชัดเจน."ฟิ้ววว!"."ปั๊ก!"."หัว" เหมือนกันแต่เป็น "หัวเ

  • Covid-19 มะรุมมะตุ้มรุมรัก (Nc18+)   บทที่ 115 : เหงา & วังเวง

    "ซึบ!!!".เสียบ ๆ ๆ ! กระซวก ๆ ๆ ! ย้ำแผลเดิมอีกราวสิบกว่าครั้ง ทำให้ร่างเปลือยของชายที่แน่นิ่งอยู่แล้วกลายเป็นเหมือนหมูที่อยู่บนเขียง กงเล็บของมิวท์ถูกดึงขึ้นมา ความแหลมเฟี้ยวดังกล่าวถูกฉาบเคลือบไว้ด้วยลิ่มเลือดที่หยดติ๋ง ๆ ไหลซึมลงมาถึงข้อศอก.แววตาแดงก่ำไม่เห็นแม้แต่ลูกตาดำ ขนาดฟันเขี้ยวด้านหน้ายังยื่นแหลมงุ้มออกมาพ้นมุมปาก ไม่มีทางเลยที่มิวท์ตัวจริงจะต่อต้านตัวตนใหม่เฉกเช่นปีศาจนี้ได้ มันบังคับร่างกายเธอให้เคลื่อนไหวไปไหนต่อไหนตามอำเภอใจ และครั้งนี้ก็คงจะหิวถึงได้เริ่มคอนโทรลมืออีกข้างของมิวท์ให้ควักลงไปในปากแผล พลันดึงเอาเครื่องในอวัยวะสด ๆ ออกมาจากลำตัว."ควัก!!!""หมึบบบ! , หมับบบ!!!".ไม่พูดพร่ำทำเพลงให้เสียเวลา ไม่ถามดินถามฟ้า พอได้ออกมาก็จับยัดเข้าปากแล้วก็เคี้ยวตุ้ย ๆ แทบจะทันที ซึ่งนั่นก็คือภาพสุดท้ายที่มิวท์หวนคิดถึง....ตัดภาพกลับมา ณ เหตุการณ์ปัจจุบันในเฮลิคอปเตอร์.หญิงสาวลุคคุณหนูกลับมาสวมใส่เสื้อผ้าแล้ว เธออยู่ในอาภรณ์มิดชิด ปากยังคงเคี้ยวเอื้องเอาเศษอวัยวะของพี่พลขับลงคอไปเป็นอาหาร.. อึก.. อึก...ตอกย้ำว่ามิวท์รู้ทุกอย่างว่าที่ผ่านมานั้นคืออะไร เธอถูกเชื้อโค

  • Covid-19 มะรุมมะตุ้มรุมรัก (Nc18+)   บทที่ 114 : ดวงตาสีแดง (18+)

    เหงื่อนองท่วมร่างกาย กะบังลมเคลื่อนตัวเทียวหดเทียวขยายหอบแฮ่ก ๆ กันทั้งสองคน ลำควยยังคงปักเสียบอยู่ในหี เวลาผ่านไปร่วมหนึ่งนาทีเมือกคาวสีขาวขุ่นอันเกิดจากน้ำเชื้อแห่งการผสมพันธุ์ ก็ซึมทะลักออกมาตามช่องว่างระหว่างอวัยวะเพศ."แหมะ! , แหมะ!".มันหลากล้นออกมาเปื้อนพุ่มไหมดงแมกไม้ของพี่พลขับเต็มไปหมด แต่ครานั้นนวลนางผู้คร่อมร่างอยู่ข้างบนก็ยังคงนิ่งไม่ไหวติง มิวท์นิ่งราวกับโดนถอดปลั๊ก! เธอยังคงชูแขนพับข้อศอกอยู่ในท่ามัดผม พลันหลับตากัดริมฝีปากแล้วก็ค้างเติ่งอยู่เช่นนั้น จนพี่เขาชักจะประหลาดใจ."นี่คุณเล่นมุกอะไรของคุณเนี่ยะคุณมิวท์?""แฮ่ก ๆ , แฮ่ก ๆ "เขาลองตวาดถามดูอีกครั้งถามแม่งทั้ง ๆ ที่ตัวเองยังไม่หายเหนื่อย และการหอบหายใจสั่นรัวดังกล่าวก็ทำเอาร่างบางที่คร่อมอยู่มูฟตัวเองโยกโยนตามไปด้วย."แฮ่ก ๆ , แฮ่ก ๆ หนอยแน่! ดีล่ะ! ถ้าจะเล่นแบบนี้ล่ะก็..""ผมก็จะง้างปากคุณด้วยแท่งควยของผมเอง..""ให้มันรู้ไปสิว่าคุณจะนิ่งต่อไปได้ ถ้าโดนควยกระทุ้ง!"."แฮ่ก ๆ , แฮ่ก ๆ ""ฮึบ!!!"."สวบ! , สวบ! , สวบ! , สวบ! , สวบ! , สวบ!".กัดฟันรวบรวมพลังทั้งหมดส่งจากปลายตีนขึ้นมาถึงบั้นเด้า พี่เขาเอาจริงไม่

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status