เข้าสู่ระบบพอมุดช่องขยะหมาลอดเข้ามาได้ กลุ่มแก๊งค์เพื่อนสาวก็เจอโต๊ะกลมตัวหนึ่งที่มีเก้าอี้วางรอบอยู่ 3 ด้าน เหล้า , โซดา , น้ำแข็งวางให้พร้อม ท่ามกลางกลุ่มโต๊ะตัวอื่น ๆ ที่ถูกลากไปกองไว้ริมห้อง มีการนำเชือกฟางมาขึงกั้นบริเวณ พร้อมกับป้ายกระดาษที่มีข้อความเขียนไว้ว่า "ห้ามเคลื่อนย้าย รอการฆ่าเชื้อ" ตอกย้ำว่าโต๊ะตัวนี้เป็นอะไรที่พิเศษจริง ๆ ถ้ามิวท์ไม่ลงทุนอ่อยเด็กเฝ้าร้านหน้าง่อยก็คงไม่ยอมทำให้ขนาดนี้
.
ชายคนดังกล่าวมูล์ฟตัวเองไปหลบอยู่หลังเคาเตอร์ เขาจ้องมองนาฬิกาดิจิตอลที่ติดไว้บนฝาตลอด เป็นนัยว่าใกล้ถึงเวลาเคอร์ฟิวเมื่อไหร่จะไล่ 3 คนนี้ออกไปทันทีโดยไม่สนหน้าอินน์หน้าพรหม
.
"เชิญครับ! , ผมจัดทุกอย่างไว้ให้แล้ว ขอติปพิเศษด้วยล่ะตามที่ตกลงกันไว้!"
.
"ย่ะ! รู้แล้วๆ! เหล้าก็เหล้าฉัน! เต๊ะท่าอย่างกับตัวเองเป็นเจ้าของกิจการ.. ไอ้บ้านนอก!"
พีมองบนใส่พลางใช้ฝ่ามือปัดตามตัว เอาคราบสกปรกจากเศษขยะออก
.
ทำให้มิวท์ต้องรีบเข้ามาฉุดกระชากแขน เธอช่างแสนดีเหลือเกิน บอกตามตรงว่าถ้าวัดกันแค่ไม่กี่ตอนที่ผ่านมา มิวท์ยังเหมาะจะเป็นนางเอกมากกว่าแพรวซะอีก เธอดุนหลังเพื่อนให้รีบไปนั่งที่โต๊ะขณะเดียวกันก็หันมาโค้งศีรษะให้เด็กเฝ้าร้านคนเดิม
.
บรรยากาศมาคุเกิดขึ้นในชั่วขณะจิต เมื่อแพรวผมแดงใช้หลังเท้าเกี่ยวเอาขาเก้าอี้เข้ามานั่ง หล่อนตวัดทีเดียวก้นงอน ๆ ก็ประจำจุด เท้าแขนทุบโต๊ะโครม ๆ จนถังน้ำแข็งกระเพื่อม
.
"มันสารเลวจริง ๆ นะ! ไอ้พี่เปรมเนี่ยะ! พวกแกรู้ไหมว่าก่อนหน้านี้มันทำอะไรกับฉันบ้าง!"
"หึ....ฮือ....ฮือ....อ...อ....อ...อ"
.
"กรอดๆๆๆ"
พูดไปพลางน้ำตาหยดติ๋ง ๆ แต่ครานั้นก็ยังกัดกรามแน่น
.
"แกก็เว่อร์เกินไป.. บางทีแกอาจจะคิดเองเออเองก็ได้.. พี่เขาอาจจะไม่ได้คิดอะไรกับแกตั้งแต่แรก แบบนี้ยังไม่นับว่าอกหักหรอก"
พีพูดพลางพยายามจะหย่อนตูดลงตรงเก้าอี้
.
ทว่ากลับโดนมิวท์ห้ามเอาไว้!
.
หล่อนพ่นสเปร์ยแอลกอฮอล์อีกที แล้วก็ฉีดพ่นใส่ตามโต๊ะเก้าอี้รวมไปถึงฝ่ามือของทุกคนด้วย ไม่เว้นแม้กระทั่งหน้ากากอนามัยที่มีการตรวจเช็ดซ้ำอีกรอบ ด้วยการบีบเหล็กตรงสันจมูกให้แน่น ๆ
.
"ยิ่งนั่งร่วมโต๊ะกันยิ่งต้องระวัง กันไว้ดีกว่าแก้เน๊อะทุกคน^^"
.
ยิ้มตาหยีน่ารักเช่นเดิมก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ตัวสุดท้าย จัดแจงรินโซดาเทเหล้าแล้วก็ผสมจ่ายแจกเพื่อน ๆ ทำให้พีเกิดความประทับใจจนต้องพูดบางอย่างออกมา
.
"เนี่ยะเห็นไหม! ก็เพราะแกไม่หัดทำตัวดี ๆ เหมือนมิวท์เขาไง วัน ๆ แกเอาแต่กระแทกแดกดันคนอื่น พอมีคนมาทำดีด้วยก็คิดว่าเขาแอบชอบ.. หลงตัวเองชะมัด!"
.
"อีพี! นี่ฉันให้แกมาปลอบฉันนะ! แกจะมาวิจารณ์ฉันเพื่อ?!"
.
"พรวดดดดด!"
"อึก! , อึก! , อึก! , อึก!"
กระดกซดพรวดเดียวหมดแก้ว สุรานี่ไหลอาบหน้าหยาดเยิ้มลงเต็มหน้าอก
.
"ช้า ๆ ก็ได้แพรว.. มิวท์เป็นห่วง.."
เพื่อนตัวเล็กยกมือขึ้นปราม
.
"ไม่เป็นไรหรอก~ แค่นี้สบายมาก มันต้องดื่มเยอะ ๆ จะได้เล่าสนุก ๆ , ขออีกแก้ว!"
.
"อึกๆ ๆ , อึก ๆ ๆ"
.
ความมุมมามลามปามไปถึงผู้อื่นที่ต้องเดือดร้อน มิวท์ลงทุนควักกระเป๋าอีกทีคราวนี้ได้เป็นกระดาษทิชชู่ห่อหนึ่ง ก่อนจะนำมาเช็ดทำความสะอาดเสื้อที่เปื้อนให้
.
"ใจเย็น ๆ นะ จะระบายหรือพูดอะไรก็ปลดปล่อยออกมาเถอะ.. มีมิวท์อยู่ทั้งคน.. มิวท์จะเป็นกำลังใจให้แพรวเอง.. สู้สู้ ^^"
.
"อืม.. ขอบใจจ่ะ"
พยักหน้าให้เพื่อนสาวแต่หันไปเบ้ปากใส่กระเทยคิงคองแทน ต่อด้วยการเล่าเรื่องจริงที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับเปรมรุ่นพี่ที่คณะออกมา
.
ซึ่งพอสรุปเป็นใจความสั้น ๆ ได้ว่า แพรวคิดว่าเปรมกำลังจีบเธอ สิ่งที่ทำให้คิดก็คือพฤติกรรมของเขาที่ทำมาตลอดหลายเดือนหลัง นับตั้งแต่ตอนต้อนรับน้องใหม่ ตอนนั้นแพรวยังเป็นเฟรชชี่แล้วก็ยังมีเพื่อนแค่ไม่กี่คน ประกอบกับทุกคนที่เรียนสาขาวิชานี้ก็เหมือนจะเป็นคนที่มีบุคลิกโลกส่วนตัวสูงกันหมด แต่ละคนคงง่วนกับการท่องจำสูตรยาหรือผลิตแคปซูลสมุนไพรอะไรเทือกนั้น แพรวเองก็เช่นกัน! เธอแทบไม่มีเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ อยู่ในหัวสมองเลย
.
จนกระทั่งเปรมปรากฏตัวขึ้น เขาเป็นรุ่นพี่ปี 3 ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์อันน่าหลงใหล แพรวปลื้มเขาตั้งแต่แรกเห็น แค่สบตากันในแถวระเบียบเชียร์ใจเธอก็เต้นแรงผิดปกติ เธอรู้เลยว่าฮอร์โมนตัวเองกำลังปั่นป่วน มันครั่นเนื้อครั่นตัวราวกับได้เห็น Idol เกาหลีกระโดดออกมาจากจอไอแพด เปรมคือสเปคผู้ชายที่เธอชอบ ตัวสูงผิวขาวหน้าตาคมกริบ แถมยังฉลาดเป็นกรด แต่เธอก็ไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่านั้น ได้แต่ปล่อยให้ความรู้สึกนี้เกิดขึ้นในใจพลางอธิษฐานว่าวันไหน ๆ ก็ขอให้ได้เจอพี่คนนี้อีกเรื่อย ๆ
.
แต่ที่ไหนได้คำขอนั้นกลับมากกว่าสัมฤทธิ์ผล เมื่อจู่ ๆ เปรมก็ตรงเข้าหาเธอเอง เขาทักทายอย่างมีมารยาทแถมยังอาสาไปรับไปส่งแพรวแทบจะทุกวัน ทุกคืนเขาจะต้องโทรหาแพรวทุกครั้งพร้อมกับเล่านิทานให้ฟังอย่างกับเด็ก ๆ ตอนเช้าเวลาแพรวตื่นจะมีขนมจำพวกเค้กหรือเบเกอรี่ที่ชอบมาแขวนไว้ตรงหน้าห้องเสมอ พร้อมกับกระดาษโน๊ตที่มีข้อความเขียนไว้ว่า "ส่งจากรุ่นพี่ที่อยากเป็นมากกว่าพี่ชาย"
.
สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นต่อเนื่องมามากกว่า 3 เดือนนับตั้งแต่ที่แพรวเข้ามาใช้ชีวิตในมหาลัย ไม่สิ! มันเกิดขึ้นตั้งแต่วันแรกที่เธอพบกับเปรมเลยด้วยซ้ำ! เขาจีบเธอก่อนที่เธอจะรู้จักกับพีแล้วก็มิวท์ซะอีก แต่ครานั้นเธอก็ยังเล่นตัว แพรวมักจะบอกว่าเปรมเป็นแค่พี่ชาย เป็นพี่ที่กินข้าวด้วยกันเฉยๆ เสมือนทุกอย่างยังคงแทงกั๊ก
.
กระทั่งผ่านไปครึ่งปีมันก็สุกงอมเข้าขั้น คิดได้ดังนั้นแพรวก็เลยชิงบอกรักกับเปรมก่อน แต่ทว่า! สิ่งที่ชายหนุ่มตอบกลับมาดันกลายเป็นคำปฏิเสธที่โคตรจะไร้เยื่อใย "พี่ไม่ได้คิดกับแพรวแบบนั้น" คือสิ่งที่เขาบอก มิหนำซ้ำยังพูดขึ้นมากลางร้านกาแฟอันเป็นสถานที่ ๆ มีความสำคัญสำหรับคนทั้งสองอีกต่างหาก
.
แพรว อิสรา ก็เลยเดือดอย่างที่เห็น เธออาละวาดพลางแผดเสียงอย่างไม่ไว้หน้าใคร ความรักคืออะไร? มันคือตับ , ไต , ไส้ , พุง , หรือกางเกงที่นุ่ง ให้เธอถอดออกแล้วนอนกับเขาเลยก็ได้ ไม่ใช่มาปฏิเสธและหักหน้ากันแบบนี้ จากรักกลายเป็นเกลียดแพรวรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนโง่ ไม่ชอบก็น่าจะบอกมาหลอกทำดีให้กันทำไม
.
"พี่เปรมแม่งเป็นคนใจร้าย.. เขาไม่เคยเห็นฉันอยู่ในสายตาเลย.. ฉันมันไม่สวยตรงไหนวะ?!"
กระดกเหล้าลงคอไปอีกแก้ว กลืนแก้วได้ทั้งใบคงทำไปแล้ว แพรวหันมามองหน้ามิวท์ตาแดงก่ำ
.
"อะ...เอิ่ม..ม..ม"
เพื่อนตัวเล็กถึงกับสะดุ้ง มิวท์เหมือนจะเริ่มกลัว
.
"เฮ่ย! อีดอก! อีเหี้ยแพรว! มึงอย่าพาลใส่เพื่อนดิวะ.. กูว่ามึงอาจจะเข้าใจผิดก็ได้ แบบ.. สื่อสารกันผิดพูดกันคนละเรื่อง"
พีตั้งขอสังเกตก่อนจะกำน้ำแข็งโยนใส่แก้วเพื่อนอีกที สำทับด้วยมิวท์ที่ชงเหล้าลงไปตาม
.
"สำหรับกูนะ.. พี่เปรมแม่งไม่ได้แย่อย่างที่มึงว่าสักนิด! "
.
"ไม่จริงอ่ะ!?"
.
"ไม่จริงเหี้ยไร! มึงต่างหากที่ไม่รู้เรื่อง! กูจะบอกมึงก็ได้ว่าสิ่งที่เขาทำให้มึงน่ะจิ๊บจ๊อยมากกกกก เพราะพี่เขาก็ทำให้กูเหมือนกัน!"
.
"ห๊ะ!!"
.
.
คราวนี้ทั้งแพรวทั้งมิวท์ถึงกับอุทานออกมาพร้อมกัน ต่อด้วยการเล่ารายละเอียดของพี ว่าเปรมเข้ามาทำดีด้วยยังไง..
ปลายนิ้วแห้งผากราวกับกระดาษทราย กว่าจะสัมผัสได้ถึงหยดน้ำหยาดแรกกลีบผกาก็ช้ำมากจนออกสีแดงแกมระเรื่อ มิวท์เสียวแค่ในใจแต่ร่างกายกลับไม่เป็นดังที่หวัง เธอเอาแผ่นหลังพิงกับกำแพงห้องโดยสารพลางหลุบสายตามองเรียวขาของตัวเองทั้งสองข้างที่ตั้งชันขึ้นและกำลังสั่นระริก เธอเร่งเกินไปเธอฝืนทั้งที่ไม่ได้เงี่ยนจริง.ตอกย้ำการโกหกตัวเองด้วยการดีดกางเกงผ้ายืดที่พันอยู่กับข้อเท้าออก เธออยากเห็นความงุ้มเกร็งของปลายตีน เผื่อจะทำให้มีอารมณ์กระสันขึ้นมาต้านทานการกลายร่างได้บ้าง."ซีดดดด...จิ๋มแห้งจัดเลยอ่ะโถ่เอ๊ย!".แท่งน้ิวเปลี่ยนจากสองเป็นสาม ชี้ , กลาง , นาง เรียงตัวเป็นขยุมพลันยัดเข้าไปแบบสุดเหยียดก็แล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ผลหล่อนจึงได้รับแต่ความเจ็บปวดกลับมา แรงเสียดสีที่ขาดน้ำหล่อลื่นเป็นอะไรที่ทำร้ายช่องคลอดมาก มิวท์เหมือนกำลังทำทารุณกรรมกับตัวเอง และที่สำคัญที่สุดก็คือ ณ ตอนนี้และเดี๋ยวนี้ มุมมองสายตาของเธอก็เริ่มเห็นเป็นฉากสีแดงและเส้นเลือดยึกยือถักทอขึ้นมาแล้ว!."เรากำลังจะกลายร่าง.. อ่ะ.. อ๊ากกก..ก..ก..ก , อั๊ก..ก..ก!""เด็กผู้หญิงคนนั้นกับแท่งไฟส่องสว่างในมือ ทำให้เชื้อโควิดในตัวเรากำลังจะออกมา..
ภาพในฝันประเดประดังเข้ามาในหัว ภาพของการสังวาชกันในน้ำ ภาพของมิวท์สาวสวยหุ่นงามที่ถูหน้าอกบี้บดกับแผ่นหลังของเธอ สิ่งเหล่านี้ทำเอาเจนิสถึงกับมือไม้สั่น แม้ว่าเธอจะมองไม่เห็นโลโก้ของบริษัท AP ตรงท้ายเครื่องบิน และจากจุดที่ยืนอยู่ก็สูงและมืดเกินกว่าจะพิสูจน์อัตลักษณ์ได้ แต่ด้วยสัญชาตญาณที่ติดตัวมายังไงเธอก็ว่าใช่ นี่ต้องเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ตั้งใจออกมาตามหาแน่นอน."เอาไว้ก่อนเรื่องช่วยเหลือผู้คน เสียใจด้วยนะคะน้า แต่ก็ต้องขอบคุณด้วยเหมือนกันนี่ถ้าไม่ใช่ลูกผัวน้าหนูคงไม่ได้เจอกับเครื่องบิน"."ปั๊ก! , ฟู่..!!!"จากอุปกรณ์จุดไฟในมือกลายเป็นแท่งไฟส่องสว่าง มันถูกกระทุ้งด้วยหัวเข่าและเปล่งแสงสว่างโพลงออกมาทำให้ทั้งสองฟากของซอกเขากลายเป็นสีแดง."รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลอง" ถ้าจะต้องมีซาวด์ดนตรีประกอบเพลง "เล่นของสูง" ของวงบิ๊กแอสถือว่าเหมาะมาก เพราะเจนิสรู้อยู่แก่ใจว่าสิ่งที่ทำลงไปนั้นเสี่ยงแค่ไหน แท่งความร้อนเรืองแสงที่ถืออยู่จะกลายเป็นตัวล่อชั้นดีให้บรรดาผู้ติดเชื้อพุ่งเป้ามาที่เธอ แต่ก็นะ! จะให้ทำไงได้ล่ะในเมื่อหัวใจเรียกร้อง.เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณคิดหาเหตุผลให้กับความรัก เมื่อนั้นก็แปลว่
"ไป! ,ไป! ,ไป!, เดินหน้าเร่งฝีเท้าหน่อยทุกคน! ใกล้จะค่ำแล้วอย่าแตกแถวดูแลกันและกันด้วย!"เสียงหัวหน้าหน่วยหันมากำชับ."อีกราว 500 เมตรก็จะถึงประตูหน้าวิลเลจแล้ว ในนั้นทุกคนจะปลอดภัยสบายใจได้"แกผินหน้ากลับมามองตรงพลางกระชับปืนคู่ใจแนบวงแขน แบกเป้ประทับบ่าเดินจ้ำอ้าวรวดเร็วปานจรวด.ที่ด้านหลังมีสมาชิกกลุ่มเพิ่มจำนวนขึ้นกว่า 20 ชีวิต มีทั้งเด็กและผู้หญิงแล้วก็คนแก่ ทุกคนต่างอยู่ในสภาพเหนื่อยล้าอิดโรย โดยมีสมาชิกหน่วยลาดตระเวนกระจายตัวล้อมรอบพวกเขาไว้อีกชั้นหนึ่ง พวกเขาต่างปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขันแล้วก็โชคดีมากที่ไม่มีใครเสียชีวิตจากการปะทะกันเมื่อตอนบ่ายเลย.แต่ถ้าเป็นช่วงเวลาโพล้เพล้ใกล้ค่ำแบบนี้ก็ไม่แน่ ไม่มีใครอยากเสี่ยงกับกลุ่มผู้ติดเชื้อเวอร์ชั่นกลางคืนหรอก หัวหน้าหน่วยก็เลยพยายามย้ำนักย้ำหนาว่าให้ทุกคนเร่งฝีเท้าต้องไปให้ถึงวิลเลจก่อนตะวันตกดินให้ได้ ภาษากายดูจริงจังน่าเกรงขาม แต่ใครเล่าจะรู้ว่าในใจลึก ๆ นั้นหัวหน้าเป็นห่วงเจนิสมากขนาดไหน."โถ่.. เจนิสเอ๊ย! อุตส่าห์บอกแล้วว่าให้รักษาแนวด้านหลังเอาไว้ ทำไมถึงทำอะไรโดยพลการนะ""นี่เธอคิดจริง ๆ เหรอว่าตัวเองเก่งพอจะอาสาไปช่วยเหล
ทิ้งกระเป๋าเป้ปลดสัมภาระที่คิดว่าจะเป็นภาระในภายภาคหน้าไว้ที่พื้น เจนิสทำตามอย่างว่าง่าย เธอไม่มีแม้แต่อารมณ์ขี้งอนหรืองี่เง่าใด ๆ ด้วยเพราะรู้สถานการณ์ดี สิ่งที่ติดตัวมาจึงมีแค่ปืนหน้าไม้กับซองใส่ลูกดอก ในทิศหกนาฬิกาด้านตรงกันข้าม ร่างบางเคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วยการคลานศอก เธอกดตัวให้ต่ำกระดืบ ๆ คืบคลานไปอยู่ในแนวด้านหลังสุดตามที่รุ่นพี่ออกคำสั่ง."เข้าใจแล้วค่ะ.. ไว้ใจหนูได้เลยหนูจะระวังหลังให้เอง ถ้าเจอผู้รอดชีวิตบอกให้ตามมาทางนี้ได้เลยนะคะ!"แม้แต่ซุ่มเสียงก็ดุดันจริงจังขึ้น ตอกย้ำว่าเธอไม่ได้มาเล่น ๆ.ด้วยความสัตย์จริงว่าการบู้นั้นไม่ใช่สไตล์ของเจนิสมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เธอเป็นนักรบสายซับพอร์ตไม่ใช่ตัวแทงค์ และถ้านับสถิติการฆ่าผู้ติดเชื้อแล้วล่ะก็ในแคลนก็คงจะเป็นเธอนี่แหละที่ตัวเลขอยู่ในลำดับต่ำสุด กลับกันแต่ถ้าหากเป็นการหนีเพื่อเอาตัวรอดแล้วล่ะก็ เจนิสก็จะพลิกสถิติกลับขึ้นมาเป็นผู้นำแห่งวงการได้เลย.จากคลานเริ่มค่อย ๆ ลุกขึ้นกระหยิ่มย่อง มือเรียวเกี่ยวตะขอขึ้นสายหน้าไม้เตรียมไว้ พลันกระโดดยิงหนึ่งดอกออกไปเมื่อเห็นเป้าหมายชัดเจน."ฟิ้ววว!"."ปั๊ก!"."หัว" เหมือนกันแต่เป็น "หัวเ
"ซึบ!!!".เสียบ ๆ ๆ ! กระซวก ๆ ๆ ! ย้ำแผลเดิมอีกราวสิบกว่าครั้ง ทำให้ร่างเปลือยของชายที่แน่นิ่งอยู่แล้วกลายเป็นเหมือนหมูที่อยู่บนเขียง กงเล็บของมิวท์ถูกดึงขึ้นมา ความแหลมเฟี้ยวดังกล่าวถูกฉาบเคลือบไว้ด้วยลิ่มเลือดที่หยดติ๋ง ๆ ไหลซึมลงมาถึงข้อศอก.แววตาแดงก่ำไม่เห็นแม้แต่ลูกตาดำ ขนาดฟันเขี้ยวด้านหน้ายังยื่นแหลมงุ้มออกมาพ้นมุมปาก ไม่มีทางเลยที่มิวท์ตัวจริงจะต่อต้านตัวตนใหม่เฉกเช่นปีศาจนี้ได้ มันบังคับร่างกายเธอให้เคลื่อนไหวไปไหนต่อไหนตามอำเภอใจ และครั้งนี้ก็คงจะหิวถึงได้เริ่มคอนโทรลมืออีกข้างของมิวท์ให้ควักลงไปในปากแผล พลันดึงเอาเครื่องในอวัยวะสด ๆ ออกมาจากลำตัว."ควัก!!!""หมึบบบ! , หมับบบ!!!".ไม่พูดพร่ำทำเพลงให้เสียเวลา ไม่ถามดินถามฟ้า พอได้ออกมาก็จับยัดเข้าปากแล้วก็เคี้ยวตุ้ย ๆ แทบจะทันที ซึ่งนั่นก็คือภาพสุดท้ายที่มิวท์หวนคิดถึง....ตัดภาพกลับมา ณ เหตุการณ์ปัจจุบันในเฮลิคอปเตอร์.หญิงสาวลุคคุณหนูกลับมาสวมใส่เสื้อผ้าแล้ว เธออยู่ในอาภรณ์มิดชิด ปากยังคงเคี้ยวเอื้องเอาเศษอวัยวะของพี่พลขับลงคอไปเป็นอาหาร.. อึก.. อึก...ตอกย้ำว่ามิวท์รู้ทุกอย่างว่าที่ผ่านมานั้นคืออะไร เธอถูกเชื้อโค
เหงื่อนองท่วมร่างกาย กะบังลมเคลื่อนตัวเทียวหดเทียวขยายหอบแฮ่ก ๆ กันทั้งสองคน ลำควยยังคงปักเสียบอยู่ในหี เวลาผ่านไปร่วมหนึ่งนาทีเมือกคาวสีขาวขุ่นอันเกิดจากน้ำเชื้อแห่งการผสมพันธุ์ ก็ซึมทะลักออกมาตามช่องว่างระหว่างอวัยวะเพศ."แหมะ! , แหมะ!".มันหลากล้นออกมาเปื้อนพุ่มไหมดงแมกไม้ของพี่พลขับเต็มไปหมด แต่ครานั้นนวลนางผู้คร่อมร่างอยู่ข้างบนก็ยังคงนิ่งไม่ไหวติง มิวท์นิ่งราวกับโดนถอดปลั๊ก! เธอยังคงชูแขนพับข้อศอกอยู่ในท่ามัดผม พลันหลับตากัดริมฝีปากแล้วก็ค้างเติ่งอยู่เช่นนั้น จนพี่เขาชักจะประหลาดใจ."นี่คุณเล่นมุกอะไรของคุณเนี่ยะคุณมิวท์?""แฮ่ก ๆ , แฮ่ก ๆ "เขาลองตวาดถามดูอีกครั้งถามแม่งทั้ง ๆ ที่ตัวเองยังไม่หายเหนื่อย และการหอบหายใจสั่นรัวดังกล่าวก็ทำเอาร่างบางที่คร่อมอยู่มูฟตัวเองโยกโยนตามไปด้วย."แฮ่ก ๆ , แฮ่ก ๆ หนอยแน่! ดีล่ะ! ถ้าจะเล่นแบบนี้ล่ะก็..""ผมก็จะง้างปากคุณด้วยแท่งควยของผมเอง..""ให้มันรู้ไปสิว่าคุณจะนิ่งต่อไปได้ ถ้าโดนควยกระทุ้ง!"."แฮ่ก ๆ , แฮ่ก ๆ ""ฮึบ!!!"."สวบ! , สวบ! , สวบ! , สวบ! , สวบ! , สวบ!".กัดฟันรวบรวมพลังทั้งหมดส่งจากปลายตีนขึ้นมาถึงบั้นเด้า พี่เขาเอาจริงไม่







