‘นั่นไง! อดกินจนได้ >[]<!!!’
‘ก็ลาซานั่นแหละถือไม่ดี’ ‘พี่คนนั้นเค้ามาชนต่างหาก’ “อ้าว แบบนี้เด็กๆก็อดกินคอลลาเจนแล้วสิ” หลังจากที่พี่ฟาเดียเดินพ้นไป ฉันก็พูดออกไปเพราะรู้สึกเสียดายแทน ก็แหม.. เด็กๆอุตส่าห์ตั้งตารอเมล่อนปั่นจากเฮียคินนี่นา แถมในนั้นยังผสมคอลลาเจนชั้นดีลงไปด้วย ถ้าได้กินเข้าไปเด็กน้อยชาวเกาะจะได้ผิวใสออร่า แล้วเฮียคินก็ทำหน้างงๆกลับมา “คอลลาเจน?” “ค่ะ ก็....อุ๊ยชิงช้า O_O” หึ๊ยยยย! ไม่ไปหาเด็กๆเล่า นั่นอ่ะเห็นมั้ย ตรงนั้นมีชิงช้า งื้อออ ฉันชอบนั่งชิงช้ามากเลยนะ เกิดมาไม่เคยคิดว่าจะได้นั่งชิงช้ามองหาดสวยๆแบบนี้มาก่อนเลยอ่ะ ที่เที่ยวทั่วไปก็ไม่ค่อยมีมุมที่มองไปแล้วบรรยากาศดีแบบนี้ ฟุ้บ! “เฮียมานั่งนี่สิคะ” เพราะชิงช้าค่อนข้างใหญ่ และดูแล้วน่าจะรับน้ำหนักสองคนได้ ฉันเลยทิ้งตัวนั่งก่อนแล้วขยับให้ แต่เฮียคินก็ยังทำเป็นเก๊ก “จะเล่าเมื่อไหร่” เห๊อะ! คิดว่าทำเสียงเข้มแล้วเท่ตาย -3- “ก็นั่งลงสิคะ นั่งใกล้ๆแล้วตั้งใจฟัง หนูจะเล่าแล้วนี่ไง” หมับ! ฟุ้บ! พูดจบฉันก็คว้ามือเฮียดึงลงมานั่งและล็อคแขนเขาเอาไว้ ส่วนมืออีกข้างก็หยิบมือถือตัวเองออกมา ถึงที่นี่จะไม่มีสัญญาณแต่ฉันเคย save รูปเก็บไว้น้า... อยู่ไหนๆ อ๊ะนี่ไง “อ่ะ นี่เป็นประวัติของรุ่นพี่เตโช Nightshade ที่หนูพูดถึงค่ะ โอ๊ยยย ประโยคแรกที่จะเกริ่นนำเลยก็คืออออ หนูชอบเค้าค่ะ ใช่! ชอบในชอบ! ประมาณว่าแอบปิ๊ง >_< คือแบบ...ยืนคุยกันไม่กี่คำนะเฮีย หนูอยากจะถลาเข้าไปสิงพ่อหนุ่มหน้านิ่งเพราะเค้าเท่มากกกก ยักคิ้วทีนี่เก็บไปฝันเป็นเดือนเลยอ่ะ ฟินนน >/////<” เล่าไปฉันก็เขินไป แถมยังเนียนแอบเอียงหัวไปซบไหล่เฮียคิน พอต้องมาสาธยายความคูลของเนื้อคู่ให้ฟัง งื้อออ แต่เฮียก็ทำหน้านิ่งๆ -.- ตุ้บ! “บ้าผู้ชาย” เย้ยยย.... แล้วลูกมะพร้าวที่ลาซาให้ในมือเขาก็ลอยลิ่วไปข้างหลังกระแทกกับโขดหินน้ำกระจายจนกระเด็นมาโดนขาฉัน -*- “เอ้า โยนทิ้งทำไมยังกินไม่หมดเลยนะ แล้วหนูพูดจริง!! คนอะไรก็ไม่รู้เพอร์เฟคชะม้าดดดด รุ่นพี่เตโชเค้าหล่อลากกกก แถมยังป๊อปปูล่าร์ในบรรดาสาวๆมากกกกกก มากจนหนูคิดว่าเรากล้าดียังไงถึงไปได้ชอบเค้า แต่สุดท้ายก็ชอบอยู่ดี และเชื่อว่าสักวันเค้าจะมองมาเพราะเค้าเป็นเนื้อคู่ของเรา อุ๊ยเขินอ่ะ คิกๆๆๆ ขอญาตมุดหน้านิดนึง จะตั้งสติก่อนเล่า งื้ออออ ^_^” “เนื้อคู่? งี่เง่า” อะจึ๋ยยย -*- ก็คืออยากจะรู้เรื่องรุ่นพี่เหลือเกิน แต่พ่อหนุ่มก็ขัดฉันในทุกช่วงเวลาที่มีโอกาส ถามจริงจะอยากรู้ทำไมถ้างั้น เชรอะะะ! “อะร่ะ - -* ไม่เห็นจะงี่เง่าตรงไหนเลยเฮี๊ยยยย รู้ป่าวว่ารุ่นพี่เตโชนี่แหละเป็นเทพบุตรดาวพุธของหนู งื้ออออ หนูเกิดวันเสาร์ เค้าเกิดวันพุธ แม่หมอ Myztery บอกมาว่าดาวเสาร์กับดาวพุธกำลังโคจรในกาแล็คซี่เพื่อรอเวลามาพบกันอยู่” ปิ๊งๆๆๆๆๆ จะว่าไปแล้วนี่มันเกินสองวันแล้วนี่นา ย๊ากกก! นี่เรา! นี่เรายังไม่ได้เช็คดวงช่วงนี้ใน Myztery Horo เลยนี่ บ้าไปแล้วพลาดได้ไง บ้าไปล๊าววว =[]=! “เกิดวันพุธคือดาวพุธ?” เฮียคินเลิกคิ้วถามฉันที่ก็กำลังพยายามเข้าไปเช็คดวงตัวเองทั้งที่เพิ่งบอกไปว่าที่นี่ไม่มีสัญญาณเมื่อกี๊ - -* โว๊ะ! “โป๊ะเช๊ะ! ถูกต้องนะคร้าบบบบ แล้วเพราะว่าเฮียก็เกิดวันพุธ หนูเลยมาหลอกถามว่าชอบดาวอะไรไง เพราะในคำทำนายบอกว่าศัตรูกวนใจหนูคือยัยดาวยูเรนัสกิ๊กก๊อกหน้าตามู่ทู่” เห๊อะ! นึกแล้วก็หมันเขี้ยวสิ้นดีเลยนะยูววว ยัยดาวไร้วงแหวนแถมกลมดิ๊กผิวเกลี้ยงเกลานั่น! มารหัวใจแท้ๆเลยน้อออ! บังอาจมายุ่งวุ่นวายกับรุ่นพี่เตโชเนื้อคู่ของหนู อยากมีเรื่องหรออออ >[]< “ไอ้เวรนั่นมันมีแฟนแล้ว?” “ไม่รู้เหมือนกันค่ะ หนูกำลังให้หนึ่งในพวกเฮียๆสืบให้อยู่ แต่ขอความกรุณาอย่าเรียกรุ่นพี่เตโชของหนูว่าไอ้เวรนั่น ถ้าอยากจะเรียกเฮียก็ต้องข้ามศพหนู....” ครืดดดด แล้วไม่รอฟังฉันพูดต่อ อยู่ๆเฮียคินก็ลุกพรวดจากชิงช้าเร็วมากจนฉันเกือบหงายท้องอ่ะ เอ้า จะลุกก็ลุกเฉยยย จะไปก็ไม่เคยรอ -*- “โอ๊ย! ลุกเบาๆหน่อยสิคะ เดินก็ไม่รอ น้ำมะพร้าวก็ไม่แบ่งให้กิน หรือว่าพอพูดถึงเนื้อคู่ก็เลยจะตอกย้ำว่าตัวเองเป็นตัวกาลกิณีนะ งั้นหรอ >[]<” “อย่าบ่นมากน่า” ฉันลุกเดินตามหลังเฮียคินที่เอาแต่ส่งเสียงเข้มตอบกลับมา แล้วเขาก็เดินนำฉันบุกป่าฝ่าดงผ่านต้นมะพร้าวสูงลิบและเถาวัลย์มากมายเข้ามา จนกระทั่ง... เอ๋ o_O? นี่มัน...บ้านที่เต็มไปด้วย Dream Catcher นี่ อยู่ใกล้แค่นี้เองหรอ ก็ไหนว่าเป็นบ้านหลังสุดท้าย.... “นี่บ้านแม่เฒ่าซิลวา” “โห...ต้องเป็นคนที่อยู่มาร้อยกว่าปีแล้วแน่เลยถึงเรียกว่าแม่เฒ่า เอาล่ะ ขนลุกรอล๊าวววอ่าาา =[]=!” พูดจบฉันก็เอามือลูบแขนตัวเองเพราะสัมผัสได้ถึงไอเย็นบางอย่างที่ทำให้ขนลุกซู่ อย่าบอกนะ...ว่านี่มันเป็นสัมผัสแห่งอนาคตที่เรารอคอยอะไรทำนองนี้ “เว่อร์ -_-^” แล้วในความโชคดีที่ได้เจอผู้มีบุญญาธิการ ฉันก็ต้องมานึกเซ็งเพราะมากับใครไม่มา ดันมากับตาลุงขวางโลกนี่ เฮ่ออออ -*- เพลียใจเหลือเกินค่ะซิสสส ก๊อกๆๆ “คุณคิระ เข้ามาสิจ๊ะ” หือ...พอหันมาเขม่นฉันนิดหน่อย เฮียก็เคาะประตูบ้านที่มี Dream Catcher ห้อยไว้รอบๆเยอะมากจริงๆ แต่ทำไมคนข้างในถึงรู้ล่ะ ว่าคนที่เคาะประตูเป็นเฮียคินอ่ะ “สวัสดีครับป้า” “ไหว้พระเถอะค่ะ” “เอ่อ...สวัสดีค่ะ แหะๆ” พอประตูเปิดออก เฮียคินก็เดินนำฉันเข้ามาในบ้านหลังเล็กๆกลางป่าและทักทายเจ้าบ้านที่แม้จะเรียกว่าแม่เฒ่า แต่เธอยังดูสาวมากๆ แทนที่จะเป็นคุณทวดแก่หงำเหงือกอ่ะ แล้วบรรยากาศข้างในของบ้านหลังนี้ที่ตอนแรกฉันคิดว่าอาจเป็นสำนักของแม่หมอเล่นของ ก็ไม่ได้มีเค้าความน่ากลัวเลยสักนิด มันดูอบอุ่นอย่างน่าเหลือเชื่อ อบอุ่นจนฉันเผลอเสียมารยาทกวาดสายตาไปรอบๆ “สวัสดีค่ะคุณ....” “อ๋อ หนูชื่อลิซะ....” “....รวิษฏา” ดะ...เดี๋ยวนะ O_O! “คุณป้ารู้ได้ไงอ่ะคะว่าหนูชื่อ....” พรึ่บ! “ระวังลูกตาถลนออกมา” พอได้ยินชื่อจริงของตัวเองหลุดออกจากปากแม่เฒ่าซิลวา ก็เล่นเอาฉันชะงักสายตาที่กำลังมองไปรอบๆ และหันไปจ้องแม่เฒ่าตาค้างจนเฮียคินเอื้อมมือมาปิดตาเลยล่ะ ก็เพราะมันถูกต้องจริงๆไง ก็ชื่อจริงของฉัน...คือ ‘รวิษฎา’ หมับ! ก่อนที่ฉันจะคว้าแขนเฮียแล้วดันตัวเขาให้หมุนตัวกลับหลังหัน และซุบซิบด้วยน้ำเสียงจริงจัง “งื้อออ เฮียยยย คุณป้าเค้ารู้ชื่อหนูด้วย เค้ารู้ได้ไงหนูยังไม่เคยบอกใครเลยนะแม้แต่เฮียอ่ะ =[]=!” โอ้วววว เพิ่งบอกไปเมื่อกี๊ว่าที่นี่อบอุ่น ไม่ทันไรเริ่มลี้ลับแล้วล่ะ “หึ...เค้าน่าจะเซ็นต์ MOU กับทะเบียนราษฎร์มั้ง ไม่ถามเองอ่ะ” หืมมม! มันใช่เวลามั้ยเล่า ไอ้คำพูดกวนประสาทที่พ่นออกมาอ่ะ ว้ากกก! “ไม่ตลกนะคะ คุณป้านี่แม่นตั้งแต่คำแรกที่ทักเลยอ่ะ ถ้าตัวเองไม่เชื่อก็เงียบไปเลยนะ!” “ผ่านมาแถวนี้กันหรอจ๊ะ คุณอคิราห์” แล้วพอฉันรวมหัวกันซุบซิบได้ไม่นานคุณป้าก็เป็นฝ่ายชวนคุยขึ้นมา “ที่จริงยัยนี่...” “อคิราห์? เฮียคินชื่อจริงว่าอคิราห์หรอคะเนี่ย หนูคิดว่าชื่อเด็กชายคิระซะอีก ตั้งแต่ตอนนั้นที่สนามบินอ่ะ” ใช่... ได้ยินคุณป้าเรียกแบบนั้นฉันก็หมุนตัวกลับมาแล้วเลิกคิ้วสงสัยอ่ะ “ก็มั่วไปเองป่ะ” “อ๋อหรอออ รำคาญเด็กชายอคิราห์จังเลยค่ะคุณป้า ชื่อเพราะซะเปล่า แต่ดุเหมือนหมาบ้า” อะไรของอีตาลุงนี่เนี่ย เมื่อกี๊ยังทำเหมือนสมานฉันท์กันแล้วอ่ะ ที่จับกลุ่มซุบซิบไงจำได้มะ -3- “รวิษฎาก็งั้นๆ ติงต๊องเหมือนคนบ้าตกมัน” โหยยยย ว่าชื่อเลยหรอ ว่าชื่อคนอื่นแบบนี้หรอ ขึ้นมากกกก!! “อ๊ะๆ ก็ยังดีที่หนูเป็นคน แต่เฮียเป็นหมะ...” “จุ๊ๆ พระอาทิตย์ค่ะ” เนี่ย! แต้มบุญเราสูงนะคุณอคิราห์ หนูเกือบจะหลุดคำว่าบ๊อกๆเพราะเฮียดุเหมือนหมาบ้าอยู่แล้ว ถ้าแม่เฒ่าซิลวาไม่ขัดไว้อ่ะ แต่.... “หืม? พระอาทิตย์? นู่นหรอคะ” ฉันหันไปถามคุณป้า แล้วชะโงกหน้าผ่านหน้าต่างชี้นิ้วไปที่ต้นเหตุของแสงแดดจ้าพร้อมกับเงยหน้าขึ้นฟ้า แต่เฮียคินก็ดันป่วน เอามือหนาๆของเขามาปิดตาฉันอ่ะ พรึ่บ! “หึ๊ยยย แล้วจะมาบังทำไมเนี่ย >[]<” “แสบตา” “เห๊อะ! หนูก็ไม่ได้แสบซะหน่อย อย่ามายุ่งนักเลยน่า -3-! ต่อค่ะคุณป้า พระอาทิตย์นี่มันทำไมหรอคะ?” ฉันคว้ามือเฮียคินออกแล้วหันไปถามคุณป้าอีกที ท่านก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ด้วยท่าทางใจดีก่อนจะพูดออกมา “หึ... อคิราห์ แปลว่า พระอาทิตย์ค่ะ” “หือออออ จริงหรอคะเนี่ย o_O?” พระอาทิตย์หรอ? พระอาทิตย์เนี่ยนะ... นี่คือพระอาทิตย์จริงอ่ะ? “ทำหน้าอย่างนี้อีกแล้วสินะ -_-” พอเห็นสีหน้าของฉัน เฮียคินก็พูดออกมาอย่างรู้ทัน ฮ่ะๆ “ค่ะ! น้ำหน้าอย่างเฮียนี่...ชื่อฮ็อตกว่าหน้าตาอีกนะคะ ฮ่ะๆๆๆ” “อยากมีเรื่องหรอวะ -_-?” นั่นแน๊ะ! ดุซะด้วยนะพ่อคุณ “โหยยย แล้วคิดว่าหนูกลัวหรอคะ แบร่ :P” “เอาน่าๆ อย่าทะเลาะเลยค่ะ มาถึงนี่มีอะไรให้ป้าช่วยหรอคะ” ก่อนที่เราจะวางมวยหลังจากที่ฉันแลบลิ้นปลิ้นตา แม่เฒ่าซิลวาก็ออกตัวห้ามทัพ และเปิดประเด็นซึ่งก็เข้าทางฉันเลยล่ะ “คือแบบนี้ค่ะคุณป้าขาาา....” “ให้ถามเรื่องเดียว” ง่ะ! นี่ยังไม่ได้เริ่มก็มาขัดอีกละ รำคาญอ่ะ -*- “แต่หนูมีเรื่องอยากถามเยอะแยะเลยนี่นา -3-” “ขอโทษนะคะคุณ แต่ป้าตอบได้แค่เดือนละ 1 เรื่องเท่านั้นค่ะ” แม่เฒ่าซิลวาตอบแทนเฮียคินที่ลอยหน้าลอยตา แต่ก็แอบสะใจเหมือนรู้ว่าฉันเตรียมเรื่องมาถามประมาณร้อยกว่า แต่น่าเสียดายอ่ะ “ง่าาา T^T งั้นขอหนูคิดก่อนนะคะ อุ๊ยคิดออกแล้ว หนูขอถามเรื่องความรักค่ะ จริงรึเปล่าที่ดาวเสาร์จะโคจรมาใกล้ดาวพุธแล้วกิ๊กกั๊กกัน แล้วต้องทำยังไงหนูถึงจะเตะดาวยูเรนัสที่มาวุ่นวายกับพ่อเทพบุตรดาวพุธเนื้อคู่คนนั้น แล้วสุดท้ายแล้วหนูกับเนื้อคู่จะได้เจอกัน...” “เนื้อคู่? ก็เจอกันแล้วนี่คะ ทำไมถึงยังตั้งคำถามแบบนั้นล่ะ” ฉันยังสาธยายไม่ทันจบ แม่เฒ่าซิลวาก็รีบพูดขัดขึ้นมา เจอแล้วหรอ? อ๋อใช่ ฉันกับรุ่นพี่เตโชเคยเจอกันแล้วนี่นา ถามพลาดไปนิสสสสอ่ะ “กะ...ก็ ที่จริงก็เจอนานแล้วแหละค่ะคุณป้า แต่ยังไม่มีมีโอกาสได้ใกล้ชิดกันสักทีอ่ะค่ะ -*-” “ได้ใกล้แล้วไม่ใช่หรอคะ?” หืออออ... ใกล้แล้ว? อ๋อใช่ จะว่าไปก็ใกล้กับรุ่นพี่เตโชแล้วจริงๆนี่นา อุ๊ยเขินเลยอ่ะจำได้ป่ะ ที่เนื้อคู่เดินชนกัน >////< แต่ตัดช่วงที่เค้าตอบว่าเลือกดาวยูเรนัสออกไปซะ เชอะ -*-! “เอ่อคือหนูหมายถึงว่า หนูกับเนื้อคู่ เรายังไม่ได้ถึงขั้นสนิทชิดเชื้อ กระชับความสัมพันธ์ระหว่างดวงดาวต่อกันน่ะค่ะ” “ดวงดาว?” “ใช่ค่ะ ดาวประจำวันเกิดไงคะ หนูเกิดวันเสาร์ดาวเสาร์ค่ะ” ฉันตอบออกไปอย่างภาคภูมิใจ แม้จะไม่ได้เช็คดวงว่าชะตาคนเกิดดาวเสาร์ช่วงนี้จะรุ่งโรจน์ชัชวาลบานตะไทขนาดไหน “วันเสาร์ดาวเสาร์?” แล้วแม่เฒ่าซิลวาก็ทำหน้างงๆ ก่อนจะหันไปหาเฮียคิน ก็...วันเสาร์ ดาวเสาร์ไง แม่เฒ่าเค้างงอะไร o_O? “ใช่ค่ะ คือว่า….” “คุณเกิดวันที่เท่าไหร่คะ?” “3 ครับ” แม่เฒ่าซิลวาเป็นคนตั้งคำถาม แต่ไม่ใช่ฉันหรอกนะ เป็นเฮียคินที่เป็นคนตอบอ่ะ “หืม? เกิดวันที่ 3 ดาวประจำวันเกิดเป็นดาวอังคารนะคะ” อะจึ๋ยยย -*- วะ...ว่าไงนะ? “เอ๋? ทำไมเป็นอังคารล่ะคะ ทำไมไม่เป็น....” “ก็มั่วไง จบป่ะ” นั่น! ทีมกระทืบซ้ำนี่ทำงานอย่างไว แต่ไม่สิ มันจะเป็นดาวอังคารได้ไง ฉันเกิดวันเสาร์นะ วันเสาร์ก็ต้องดาวเสาร์! “คุณป้าแน่ใจหรอคะว่าไม่ได้ดูผิด อันนี้คุณป้าดูศาสตร์ไหนอ่ะคะคือว่า...ปรึกษาหนูได้นะคะ หนูค่อนข้างจะช่ำชองทุกศาสตร์บนโลกใบนี้เลย ถ้าดูผิดก็ดูใหม่ได้ หนูไม่ถือหรอกค่ะ...อุ๊บ!” “จะฟังไม่ฟัง” ง่าาา ฉันพยายามแย้งแต่ในขณะเดียวกันก็ว่าจะถ่ายทอดสกิลโหราศาสตร์ที่ได้ศึกษามาเป็นเวลายาวนาน แต่เฮียคินก็ส่งมือใหญ่ๆนั่นมาปิดปากกัน “ฟะ…ฟังค่ะ แต่คุณป้าไม่ลองตรวจสอบดูอีกครั้ง....” “คนเกิดวันที่ 3,12,21 และ 30 ดาวประจำตัวคือดาวอังคารจริงๆค่ะ” แม่เฒ่าซิลวาพูดออกมาอย่างแน่วแน่ และเฮียคินก็พยักหน้ารับฟัง หาาา =[]= นี่มันเรื่องอะไรกันอ่ะ! “ละ...แล้วถ้า....แป๊บนึงนะคะ มือถือ มือถือหนูอยู่ไหนอ่ะ -3-” พอคิดว่าศาสตร์ดวงดาวนี้ของแม่เฒ่ามันไม่ตรงกับศาสตร์ Myztery Horo ของฉัน ก็ต้องเช็คแล้วล่ะ ถ้าฉันเกิดวันเสาร์ที่ 3 แต่กลายเป็นดาวอังคาร งั้น... “แล้วถ้าเกิดวันที่ 1 ล่ะคะ ดาวประจำตัวคือดาวอะระ....” “...อาทิตย์” “หึ๊ยยย หนูไม่ได้ถามเฮียนะ” เฮียคินชิงตอบคำถามแทนแม่เฒ่าอีกครั้ง เล่นเอาฉันเลิ่กลั่กไปโหม๊ดดด แล้วก็เหมือนเดิม แม่เฒ่าคอนเฟิร์มว่าเป็นไปตามนั้น “ถูกแล้วค่ะ วันที่ 1,10,19 และ 28 ดาวประจำตัวคือดาวอาทิตย์จ้ะ ^_^” อะ...อะไรกันเนี่ย =[]=! “แล้วดาวอาทิตย์...คล้ายๆดวงอาทิตย์รึเปล่าคะ?” “น่าจะเป็นญาติกันอ่ะ” “โอ๊ย ก็บอกว่าไม่ได้ถะ....” “งั้นจะถามไรก็เลือกสักอัน เสียเวลา” เฮียคินลอยหน้าลอยตาเหมือนสะใจมาก เขาดูถูกใจซะจริงที่ศาสตร์ Myztery Horo ในหัวฉันตอนนี้มันพันกันวุ่นวาย “กะ...ก็ คือว่าหนูอยากรู้ค่ะ ว่าเนื้อคู่ของหนู.... -////-” “ไม่มีหรอก ป่ะกลับได้ยัง” “เดี๋ยวสิคนบ้า! คุณป้าขา เนื้อคู่หนูเค้าเป็นลูกเต้าเหล่าใคร มาจากด้าวแดนใด หล่อลากกระชากใจแค่ไหน ทรัพย์สินส่วนตัวเงินในบัญชีมีเท่าไหร่ เมื่อไหร่เค้าจะมาสู่ขอหนู แล้วก็....อุ๊บ =X=!” ฉันยังถามข้อข้องใจไม่หมด เฮียคินก็เอามือมาปิดปากอีกครั้ง แถมยังขยันย้ำอยู่นั่น! “คำถามเดียวไง …Just Only One” พรึ่บ! “ฮือออ สรุปหนูมีจริงๆใช่มั้ยคะเนื้อคู่อ่ะ เมื่อไหร่หนูจะสมหวัง นี่รอจนจะเฉาตายล๊าวรู้ยังงงงง >[]<” ฉันปัดมือเฮียออกแล้วโหวกเหวกโวยวายผสมดราม่าออกไปแบบจริงจัง เล่นเอาบ้านทั้งหลังเงียบกริบ ก่อนที่แม่เฒ่าซิลวาจะเอื้อมมือนุ่มๆของเธอมาสัมผัสมือฉันที่ก็กำลังจับมือเฮียคินอยู่พร้อมๆกัน แล้วที่แปลกคือหลังจากนั้น แม่เฒ่าซิลวาก็มองมาที่เราสองคนแบบไม่กะพริบตาเลยสักครั้ง “……” “ทะ...ทำไมเงียบไปล่ะคะ” เพราะความเงียบเข้าครอบงำบ้านหลังนี้นานมาก แม่เฒ่าซิลวาก็ยังคงตาค้างเหมือนพิจารณาอะไรบางอย่าง ก่อนจะกระตุกยิ้มมุมปากนิดหน่อย กะพริบตาปกติและพูดกับฉัน “หึ....มีสิคะ มีจริงๆค่ะ” ได้ฟังแบบนั้นฉันนี่ยิ้มกว้างเลยจ้าาา ลัลล้า ลัลลา Welcome เนื้อคู่ของหนูนาจา เตรียมปิดซอยเลี้ยง วู้วๆ ยู้ฮูวววว >[]< “แล้วเมื่อไหร่.....” “ไม่ใกล้ไม่ไกล จะได้สมหวังดังใจค่ะ” เหมือนจะรู้ว่าฉันจะถามอะไร แม่เฒ่าก็บอกใบ้ให้ สุดยอดไปเลยน้าไม่ใกล้ไม่ไกล ต้องใช่แน่เล้ยยยย “จริงหรอคะ งื้อออออ เหมือนมีดวงไฟเล็กๆผุดขึ้นในใจหนูเลยอ่าาา แล้วเนื้อคู่ของหนู เค้าคนนั้นใช่....” “นายมาทำไรที่นี่อ่ะ?” “อ้าวลาซา” ยังไม่ทันที่ฉันจะตั้งคำถามต่อ ลาซาก็เดินลิ่วๆเข้ามาในบ้าน และเงยหน้าคุยกับเฮียคินสลับกับหันมามองฉันแล้วซักต่อ “ไหนนายบอกไม่ชอบดูดวงไงอ่ะ?” พอโดนถามแบบนั้นเฮียคินก็ชี้มาที่ฉันแทนคำตอบ ลาซาเองก็ไม่ได้ดูแปลกใจอะไร ทั้งที่ยังเป็นแค่เด็ก 6 ขวบเองนะ ทำไมคำพูดคำจาถึงได้เหมือนผู้ใหญ่จัง “นายหญิงมาถามเรื่องไรหรอ....ครับ” “อะแฮ่ม...ไหนๆก็มาแล้ว ป้ามีเรื่องจะคุยกับคุณคิระพอดี ลาซาพาคุณเค้าออกไปข้างนอกก่อนนะ” ไม่รอให้ฉันตอบคำถามลาซา แม่เฒ่าซิลวาก็พูดขึ้นมาพร้อมกับส่งสายตาเหมือนขอคุยกับเฮียคินเป็นการส่วนตัวมาให้ฉัน “แต่ว่า คุณป้ายังไม่ได้ตอบเลยนะคะว่าเนื้อคู่หนูเป็นคระ....” “ป้าตอบไปแล้ว...หลายคำถามเลยนะคะ ^^” ง่าาา ก็จริงนั่นแหละนะ ตอบแล้วด้วยว่ามีเนื้อคู่ แต่เราก็รู้อยู่แล้วว่ามีนี่นา ทำไมไม่ถามให้ชัดๆแต่แรกนะเนี่ยว่าคนๆนั้นเป็นใคร ชื่ออะไรอ่ะ ฮึ่ย! นึกแค้นตัวเองจับใจขึ้นมา -3- “คุณป้าขา เฮียคินขาาา...หนูขออยู่ด้วยไม่ได้หรอคะ นะๆ” ฉันส่งเสียงออดอ้อนขั้นสุดออกไป แม่เฒ่าซิลวาก็หันไปหาลาซา “นายหญิงไม่อยากไปดูอะไรเช่อๆหรอ แม่เฒ่ามีอย่างเยอะเลยอ่ะ” อะไรเช่อๆ? อ๋อ Dream Catcher… “ใช่ค่ะ คุณลิซ่าเลือกกลับไปสักอันสิคะ” พอฉันทำท่าจะไม่ออกไปข้างนอกท่าเดียว แม่เฒ่าซิลวาก็คะยั้นคะยอจะให้ออกไปจนได้อ่ะ แต่ Dream Catcher ที่ห้อยเต็มบ้านแม่เฒ่าซิลวานี่สวยมากจริงๆซะด้วยสิ มันเป็นรูปทรงเฉพาะที่สวยสะดุดตา หาซื้อไม่ได้ตามท้องตลาดด้วยนะ “ถ้างั้น...หนูไม่เกรงใจแล้วนะคะ ^_^” “ตามสบายจ๊ะ” แล้วลิซ่ากับลาซาก็ก้าวขาเดินออกจากบ้านไป ทิ้งให้คิระหันไปหาแม่เฒ่าซิลวาที่เอาแต่จ้องหน้าเขาตลอดเวลาจนรู้สึกได้ “ป้ามีธุระอะไรกับผมหรอครับ” น้ำเสียงอ่อนโยนและดูมีสัมมาคารวะพูดขึ้น แม้จะไม่ได้เชื่อในศาสตร์การทำนายต่างๆที่อบอวลอยู่ในบ้านหลังนี้เลยสักนิด “คุณล่ะ มีอะไรอยากจะถามป้าบ้างรึเปล่าคะ” แววตาใจดีถูกส่งออกไปให้คิระ ที่แม้จะไม่ได้มาที่บ้านนี้บ่อยนัก แต่ทุกครั้งที่เขามาที่เกาะนี้ เขาเป็นมิตรและใจดีกับทุกคนมาก สิ่งหนึ่งที่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ คือคิระจดจำสิ่งที่ขาดเหลือของบ้านชาวเกาะทุกหลังได้ และนำมาให้ทุกครั้งที่เขามา เป็นเด็กหนุ่มที่ชาวเกาะสรรเสริญให้เป็นเทวดา แม้บางทีเขาจะน่ากลัวมากๆก็เถอะนะ “ผมว่าป้าบอกสิ่งที่ป้าอยากบอกมาดีกว่า” คิระตอบกลับมาเสียงเรียบ และแน่นอน... “ระวังคนปองร้ายนะคะ...คุณอคิราห์” ความห่วงใยที่มีให้จากคนที่อายุมากกว่า ทำให้คิระพยักหน้ารับ และก้มหัวให้เธอนิดหน่อยแทนคำขอบคุณอย่างไม่ถือตัวอะไร “ครับ ถ้างั้นผมขอตัว...” “...ยินดีด้วยนะคะ” กึก! แล้วจังหวะที่คิระหมุนและกำลังก้าวขา เขาก็ต้องหยุดชะงักกับสิ่งที่แม่เฒ่าซิลวาพูดตามหลังมา “?” “โลกนี้ไม่มีคำว่าบังเอิญ… จงเป็นความร้อนที่คอยปกป้อง ให้พลังงาน อำนาจ และแสงสว่างกับเธอนะคะ” “ป้ากำลังจะบอกอะไรผมกันแน่...” คำพูดที่ฟังไม่เข้าใจ ทำให้คิระหันกลับไปหาคนที่มองเขาแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ และคาดว่าเธอน่าจะแอบยิ้มแบบนี้อยู่สักพักแล้วล่ะ “หึ... เธอเป็นของคุณนะคะ คุณอคิราห์” “…..” “รวิษฎา... แปลว่า ที่รักของพระอาทิตย์ค่ะ :)”หลายชั่วโมงต่อมา..."กลับมาแล้วค่าาา U_U"ฉันยื่นซองเอกสารที่ใส่ทะเบียนสมรสเป็นหลักฐานให้เฮียติณณ์ดู แล้วก็เพิ่งสังเกตว่าในนี้มีทั้ง Nightshade และ Nightshade's Lady นั่งอยู่"เอ้าโรส! แล้วก็พวกเฮียๆด้วยนี่นา สวัสดีค่าทุกคน~ ^_^""ไง ได้ข่าวว่าไม่โสดแล้วหรอ ใช่ม้า~"โรสเอ่ยปากแซวฉันก็หันไปยิ้มกับเฮียโย แต่ไม่ได้การละ เฮียๆอยู่ที่นี่ทั้งที"หึ๊ยยย ฟ้องเฮียดีกว่า เฮียขะ...."กึก...แล้วพอก้าวขาจะไปโผล่ตรงกลางระหว่างเฮียโยกับเฮียพาย อยู่ๆขาฉันก็ชะงักไปเพราะสายตาผู้หญิงของเฮียพายที่มองมาพอดี"เอ่อคือ...""ขอโทษนะ...ลิซ ที่วันนั้นเข้าใจผิด"เอ๋??? รุ่นพี่เป็นฝ่ายขอโทษฉันงั้นหรอ เรื่องจริงหรอเนี่ย ฉันเลยหันไปมองหน้าเฮียพายสลับกับเฮียคิน นี่อย่าบอกนะว่ามีใครไปทำอะไรมาเนี่ย"อ๋อ เอ่อคือ...ไม่เป็นไรเลยค่ะเจ๊...นิลลา แหะๆ""ว่า?"จังหวะที่ฉันหันไปยิ้มแห้งๆ เฮียพายก็ถามมา โอ๊ะเกือบลืมแหนะฟุ้บ!"คือว่าเฮียขาาา~ อะแฮ่ม ลิซขอแทรกหน่อยน้า เฮียขา เฮียคินบังคับให้หนูไปจดทะเบียน โดยมีเฮียติณณ์! เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดค่าา... อะแฮ่มอีกที! เฮียช่วยกระทืบใครสักคนให้หน่อยได้มั้ยคะ หนูปวดร้าวหัวใจมากที่เค้ามาป
วันต่อมา..."ไม่สนค่ะ! ถ้าไม่ใช่รูปนกฟีนิกซ์ หนูจะไม่ยอมประทับตราเด็ดขาด >[]ฉันตะโกนออกไปแบบแน่วแน่สุดๆไปเลย ก็มีอย่างที่ไหนอ่ะ ตื่นเช้ามายังไม่ทันจะอาบน้ำแปรงฟัน เฮียคินก็มาขู่ให้คนอื่นเค้าเอาดาบไขว้มาประทับไว้บนตัว และให้เหตุผลว่าการประทับตราเป็นการบ่งบอกว่าเราคือ Dark Shadow แต่โหย! ตั้งมีดดาบเชียวนะ เกิดมันมีชีวิตแล้วแทงเข้าไปในเนื้อหนังอันละเอียดอ่อนของฉันจะว่าไงอ่ะ =[]="Dark Shadow ต้องประทับตราเดียวกัน -_-""ก็หนูไม่อยากเป็....""ถ้าพูดมันออกมาอีกครั้ง..."เสียงเข้มกับสายตาดุๆถูกส่งมาให้ฉัน ก่อนที่ฉันจะยอมอ่อนลงนิดนึง เชอะ! "อะไรคะ ที่จริงหมายถึงไม่อยากให้ตราประทับเป็นรูปมีดดาบต่างหากล่ะ -3-""เลือกตำแหน่งที่อยากประทับไว้เลย"พรึ่บ!พูดจบเฮียคินก็ลุกขึ้นจากเตียงเฉย เดี๊ยะๆ ทำเป็นมาสั่งเนาะ"ไม่! หนูไม่เลือก ไม่สนใจ ไม่ประทับตราแน่ๆจะบอกให้"ฟุ้บ!ฉันทิ้งตัวนอนแล้วดึงผ้าห่มคลุมโปงไปเลย ก็ไม่อยากได้มีดดาบ ไม่ชอบอ่ะมันคม กลัวมันแทงเข้าไปควักไส้ หยึ๋ยยยย =[]=! ซาหยองจาตายยย"จะดื้อจนนาทีสุดท้ายเลยรึไง""ไม่ดื้อ! หนูไม่ได้ดื้อ หนูแค่ไม่ชอบ...""อาบน้ำแต่งตัว เช้าบินไปจดทะเบียน
"แย่จริงๆ คุณเปิดตัวอลังการขนาดนี้ ลูกหลานได้หัวใจวายกันพอดี :)""ท่านย่า""ท่านแม่"กึก!สิ้นสุดคำพูดของท่านปู่ เฮียคินที่ยืนอึ้งก็พูดออกมาเสียงสั่น เขาก้าวขาจะเดินตรงเข้าไปหาท่านย่าเช่นเดียวกับเจ๊เฟรย์ที่น้ำตาคลอขึ้นมาแบบฉับพลัน แต่ทั้งเฮียและเจ๊ก็ต้องชะงัก คงเพราะเพิ่งรู้สึกว่าตัวเองกำลังประคองร่างเฮียแม็คและรุ่นพี่เลโอที่อาการสาหัส ท่านย่าเลยหันมองทั้งคู่ และเงยหน้ามองรุ่นพี่เตโชที่สีหน้าเขาเองก็ทึ่งไม่จากพี่น้องคนอื่นเลยสักนิดกึก...กึก...กึก...ไม่รอให้ใครพูดอะไร ท่านย่าปรับสีหน้าให้ดูนิ่งเรียบ ก่อนจะเป็นฝ่ายเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าเฮียแม็คและรุ่นพี่เลโอที่ถูกประคองเอาไว้ เฮียแม็คพอเห็นแบบนั้น เขาใช้แรงทั้งหมดที่มีขยับตัวให้หลุดจากการประคอง ก่อนจะทิ้งตัวนั่งคุกเข่าก้มหัวต่อหน้าท่านย่า และพูดออกมาด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก"ผมขอโทษครับท่าน ขอโทษ...สำหรับทุกเรื่องครับ"ภาพตรงหน้าทำให้ฉันหันมองเจ๊เฟรย์ที่ยืนนิ่งทันทีที่ได้ฟัง ท่านย่าเองก็มองไปที่เธอ และค่อยๆยกฝ่ามือขึ้นวางบนบ่าเฮียแม็คที่ยังอยู่ในชุดเจ้าบ่าวที่ตนเองเป็นคนออกแบบ ก่อนจะตบบ่าเขาเบาๆ และพูดมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
วันทดสอบหัวใจของรักษาการ...“โอเคมั้ย?”เฮียแม็คในชุดแปลกตาที่นั่งตรงข้ามกันพูดกับฉัน คงเพราะฉันเริ่มจะเลิ่กลั่ก ก็นี่มันเหลือเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น ฉันเลยส่ายหัวออกไปอย่างไม่รู้จะพูดยังไงเหมือนกัน“ใจเย็นๆลิซ"“หนูอาจไม่ใช่หนึ่งสตรีที่เค้าตามหากันก็ได้”นั่นสินะ... อย่าว่าแต่การเป็นหนึ่งสตรีเลย คนที่ร่ำลือว่าเป็นเนื้อคู่ตอนนี้ ฉันเห็นเขาแค่แว๊บเดียวเมื่อเช้าที่ห้องแต่งตัว แล้วเฮียคินก็เดินหนีหายไปไหนไม่รู้ มีแค่คำสั่งที่กำชับพี่ไคยะเอาไว้ว่าให้ฉันอยู่แต่ในห้องนี้“ไม่เห็นจะเกี่ยวกับการเป็นหนึ่งสตรีตรงไหน”เฮียแม็คทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ มือก็เอื้อมมาหยิบสมุดโน้ตฉันไปเปิดดูสิ่งที่ฉันพอจะนึกอะไรได้แล้วโน้ตเพิ่มลงไป“เกี่ยวสิคะ ก็แค่ทดสอบยังทำไม่ได้ แถมหนูตะคอกใส่เฮียคินกับท่านปู่เสียงดังมากด้วย กับเฮียคินน่ะ...เราคุยกันน้อยลงมาก ช่วงวันสองวันนี้ U_U"“ไอ้คินมันยุ่งๆ อย่าคิดมาก ส่วนเรื่องในห้องประชุม คนเรามันก็ตกใจกันได้”“...เฮียแม็ค”“?”ฉันส่งเสียงเรียกคนตรงหน้าออกไปเสียงอ่อน เขาก็แค่เลิกคิ้วขึ้นนิดนึง แล้วก็นะ มันดูอ่อนแอมากเลยที่จะต้องพูดว่า...“หนูอยากกลับบ้านค่ะ"แล้วแค่นั้นเฮีย
หนึ่งชั่วโมงต่อมา...- ห้องทำงานคิระ -แกร๊กๆๆๆ“จิ๊!”“อย่าเครียดนักสิ”“มันอีกแค่นิดเดียวเองค่ะ เหมือน XVII ตั้งใจปั่นประสาทหนูน่าดู ย้ายโลเคชั่นทุกครั้งที่ออนไลน์เลยมั้ง โรคจิต!”“.......”ฉันตอบกลับเฮียคินทั้งที่มือยังคาอยู่บนคีย์บอร์ดโน้ตบุ๊คแบบนี้ แล้วเพราะโดนเฮียเงียบใส่นี่แหละ เลยทำให้ฉันหยิบมีดสั้นเล่มนึงใกล้ๆมือปาออกไปที่เป้าข้างหลังเขาแบบหงุดหงิดฉึก!หึ...มันดูแปลกใช่มั้ยล่ะ ที่มีเป้านิ่งให้ระบายอารมณ์ได้เต็มที่ แต่เป้านี้ยังถือเป็นอะไรที่เบสิคมากเลย เพราะในห้องเฮียคินไม่เหมือนห้องเจ๊เฟรย์เลยสักนิด เขาเอาอาวุธเยอะแยะมาวางเรียงเป็นของตกแต่งเหมือนที่ชอบเอาปืนซ่อนไว้ในทุกอาณาเขตของคอนโดไม่มีผิด“ยังปาแม่นเหมือนเดิมนี่ หนึ่งสตรี”“เฮียแม็ค~”เสียงที่คุ้นหูทำให้ฉันละสายตาจากเป้ามองคนที่เดินเข้ามาในห้องทันที แล้วเฮียคินนี่ออกตัวดุมาเชียว“ดีใจกว่าเจอหน้าผัวอีก -.-”ชิชะ! ไม่ต้องเลยนะ ทำมาเป็นพูดดี“เฮียแม็คไปไหนมาคะเนี่ย ไม่เจอตั้งหลายวันอ่ะ”“มันไล่”“อ้าว จับได้แล้วเจ้าตัวดี -3-”พอฟังเฮียแม็คตอบมา ฉันก็ส่งสายตาฟาดฟันไปให้เฮีย เขาก็ทำไม่รู้ไม่ชี้ แต่ที่จริงเฮียคินก็บอกฉันแล้วล
หนึ่งชั่วโมงต่อมา...“ลิซ...จะไม่พูดไรหน่อยเลยหรอ?”นานเท่าไหร่ไม่รู้ที่ฉันนั่งฟังความจริงว่าพวกเขาเป็นใคร? Dark Shadow คืออะไร? จากปากเฮียคินและเจ๊เฟรย์ ซึ่งพี่เคนชินและพี่ไคยะเองก็อยู่ที่นี่และทุกคนกำลังจ้องมาแต่เฮียคินกับเจ๊ก็พูดไม่หมด ทั้งสองคนพูดถึงการทำความผิดของสภาก็จริง แต่ก็ไม่ได้พูดถึงวิธีน่ากลัวที่ใช้จัดการกับสภาไปแล้ว น้่นก็คือความโหดร้ายที่เฮียคินกับรุ่นพี่เตโชทำ ซึ่งอย่างที่รู้กัน ฉันเห็นภาพเหตุการณ์ตอนพิพากษาพวกนั้นเมื่อกี๊ ถึงจะไม่มีช่วงที่รุนแรงเลือดสาดมันก็พอจะรู้อยู่ดีและที่เล่ามามันก็มีเรื่องใหม่ๆที่ฉันไม่ได้รู้ลึกอย่างความสัมพันธ์ที่เคยมีปัญหาของเฮียคินกับรุ่นพี่ แต่บอกตามตรงนะฉันก็ยังแอบโกรธรุ่นพี่เตโชอยู่ดี แล้วก็กำลังสนใจเรื่อง XVII มากกว่าด้วยตอนนี้“หนูเข้าใจทุกอย่างเลยค่ะ”ฉันเลือกจะตอบคำถามท่ามกลางความเงียบในห้องแบบขอไปที เฮียคินพอเห็นฉันนิ่งก็มองมาและทำท่าจะพูดอะไร ฉันเลยชิงพูดไปก่อน“เจ๊คะ หนูขอยืมได้มั้ย โน้ตบุ๊คเครื่องนี้”ได้ฟังแบบนั้นเจ๊เฟรย์ไม่ได้อิดออดอะไร แถมยังหันไปพยักหน้าให้พี่เคนชินหยิบมันมาทันทีและพอได้มา สิ่งแรกที่ฉันอยากจะมั่นใจก่อน คือ X