หลายชั่วโมงต่อมา...
“นั่นไงนายหญิง ตรงนั้นไง” นิ้วเล็กๆของลาซาชี้ไปบนท้องฟ้าที่ปรากฏที่กลุ่มดาวสิงโตตามที่เคยบอกไว้ ก่อนจะหันมายิ้มให้ฉันด้วยท่าทางตื่นเต้นดีใจ แต่ฉันไม่ยักจะเห็นว่ามันดูคล้ายสิงโตตรงไหนเลยแฮะ ถ้ามองภาพรวมมันก็คือดาวอ่ะ เอียงซ้ายเอียงขวาตีลังกายังไงก็ดาวเฉยๆ - -* “หืม...แล้วลาซารู้ได้ไงหรอว่านี่คือดาวสิงโตอ่ะ” “ไม่เห็นจะยากตรงไหน ก็...” “เรกิวลุส (REGULUS)” เฮียคินที่นั่งเงียบๆเอาไม้เขี่ยกองไฟพูดขึ้น แล้วลาซาก็พยักหน้าให้ก่อนจะยิ้มกว้าง “ใช่แล้ว ซาเก่งมั้ยล่ะนาย อ่านมาจากหนังสือที่นายซื้อให้ ^_^” “……” แต่เฮียคินไม่ตอบอะไร นอกจากยักคิ้วข้างนึงให้ลาซานิดหน่อย แต่แค่นั้นลาซาก็ดูจะปลื้มปริ่มใจเหมือนรับรู้ว่าเฮียกำลังชมอยู่แบบกลายๆ “แล้วมันคืออะไรหรอคะ ไอ้อะไรตุ๊ดๆอ่ะ” “ฮ่ะๆๆ เรกิวลุสต่างหากนายหญิง มันคือ....” “…ดาวหัวใจสิงห์” พรึ่บ! คราวนี้เฮียคินก็ตอบแทนลาซาอีก ก่อนที่เขาจะทิ้งกิ่งไม้ที่ใช้เขี่ยไฟเล่นในมือเมื่อกี๊ แล้วหันมาจ้องหน้าฉันนิ่ง แหะๆ แต่อย่าคาดหวังเลยค่ะ เพราะจ้องให้ตายหนูก็ไม่รู้เรื่องพวกนี้อยู่ดีนั่นแหละ ขอตอบด้วยความสัตย์จริง “หัวใจ...สิงห์?” แล้วพอฉันทำหน้างง เฮียคินก็ลุกจากที่นั่งของเขามาทิ้งตัวนั่งข้างฉัน ก่อนจะชี้นิ้วไปที่กลุ่มดาวสิงโตที่เดียวกับลาซา แล้วอธิบายออกมา พร้อมกับลากเส้นในอากาศช้าๆ “เรกิวลุสเป็นดาวฤกษ์ดวงใหญ่สีน้ำเงินขาว สว่างที่สุดในกลุ่มดาวนี้ ถ้าลองลากเส้นจากดาวทั้งหมดเชื่อมกัน จะเห็นว่ามันอยู่ตรงหน้าอกสิงโตพอดี” และไม่น่าเชื่อแฮะ ที่พอเฮียคินลากเส้นในอากาศไปที่ละจุด ฉันก็กลับมองเห็นกลุ่มดาวตรงหน้าเป็นรูปสิงโตได้จริงๆ “จริงด้วย เฮียรู้ได้ไงอ่ะ เก่งซะไม่มี” “แหงสิ มันเป็นกลุ่มดาวเก่าแก่ที่สุดตามที่ได้มีการบันทึกมา ดาวกลุ่มนี้เกี่ยวข้องกับดวงอาทิตย์อย่างใกล้ชิด...นับตั้งแต่การเกิดระบบสุริยะ” เฮียคินพูดแล้วหันมามองฉันนิดหน่อย แต่พอฉันหันไปสบตา เขาก็หันหน้าหนีไปคว้าลูกมะพร้าวที่ลาซาเตรียมไว้ให้ขึ้นมาดื่มช้าๆ แปลกจัง...ทำไมรู้สึกเหมือนยัยเจ่เจ้ตั้งใจหลบตากันเลยนะเนี่ย ฮ่ะๆ แต่... “นับตั้งแต่เกิดระบบสุริยะ น่าจะนานมากเลยนะนั่น” “เดี๋ยวนะ เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดนี่มัน...” พอฉันพูดออกไป อยู่ๆลาซาก็พูดสวนขึ้นมา แล้วทำท่าครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่นานอยู่สองนานจนน่าสงสัย “นี่ลาซา ทำหน้าแบบนั้นคิดอะไรอยู่หรอจ๊ะ?” “ก็พอนายพูดมา มันเหมือนกับที่แม่เฒ่าเพิ่งบอกซาเมื่อกี๊ว่า... ว่าอะไรน้า ยาวมากเลยอ่ะ - -*” หืม...ดูเหมือนเด็กน้อยชาวเกาะจะกำลังสับสนในความคิดของตัวเองแฮะ แล้วพอได้ฟังลาซาพูดถึงแม่เฒ่าซิลวา เฮียคินก็ค่อยๆหันหน้ามา... “นึกออกแล้ว! เพราะเกี่ยวข้องกันมานาน ทางโหราศาสตร์เลยกำหนดให้ดวงอาทิตย์เป็นเจ้าของราศีสิงห์ ซาเลยคิดว่ามันเหมือนนายกับนายหญิง!” “แค่กๆๆๆ” ทันทีที่ลาซาพูดจบ เฮียคินที่ตั้งหน้าตั้งตาดื่มน้ำมะพร้าวอยู่ก็ถึงสำลักออกมา เล่นเอาฉันหันไปเหล่พี่แกนิดๆ “เอ๋??? เจ้าของราศีสิงห์ หมายถึงตาลุงนี่เป็นเจ้าของพี่น่ะหรอ o_O?” ส่วนเฮียคินก็พึมพำอะไรคนเดียวอยู่นั่น... “อีกแล้วหรอวะ -_-” “ใช่ นายหญิง ก็นายคิระเกิดดาวอาทิตย์ ชื่อนายก็แปลว่าพระอาทิตย์ ทั้งชื่อจริงชื่อเล่นหรือไม่จริง....ครับ?” “ก็จริง -_-” เฮียคินตอบลาซาที่ถามมาหน้าซื่อ แล้ววางลูกมะพร้าวลงนิ่งๆ “อ๋อ แบบนี้นี่เอง สงสัยหนูต้องเลิกเรียกเฮียว่าตาลุงบ้า เปลี่ยนเป็นคุณพระอาทิตย์ดีกว่า น่ารักอ่ะ >_<” สุดยอดไปเลยน้า กำลังคิดจะหาคำเรียกตาลุงซื่อบื้อนี่ใหม่อยู่พอดีเลยอ่ะ งั้นซ้อมเลยแล้วกันนะ คุณพระอาทิตย์! อะแฮ่ม คุณพระอาทิตย์ขาาา... หนูมาหาแล้วจ้าคุณพระอาทิตย์ แต่เฮียคินก็แค่มองมาเฉยๆ คิกๆๆ สงสัยยังไม่ชิน “……” “จะยิ้มก็ยิ้มเถอะนาย ซาง่วงแล้ว จะกลับบ้านไปนอนก่อนนะ” พูดจบลาซาก็ลุกขึ้น แถมยังทำตาปรือๆเหมือนง่วงนอนเต็มแก่ ทั้งที่เมื่อกี๊ตอนดูดาวยังดีดอยู่เลยแท้ๆ “เดี๋ยวไปส่ง” “ไม่ต้องหรอกนาย นานๆจะได้ดูดาวสวยๆกับคนสวยๆทั้งที ในเมืองไม่มีนะแบบนี้....ครับ ^_^” ลาซาพูดผิดพูดถูกและยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ส่งมาให้ฉัน ก่อนจะโดนเฮียคินดุเบาๆ แต่เด็กอะไรไม่รู้ ตาถึงจริงๆเขินจัง โฮ่ะๆๆๆ >///////< “อย่ามาทำเป็นรู้ดี -_-” พูดจบเฮียคินก็สะบัดมือไล่ ลาซาก็เดินลอยหน้าลอยตาออกไป แต่จะว่าไป ในบรรดาเด็กๆบนเกาะก็เห็นจะมีแต่ลาซาเนี่ยแหละเน่อะ ที่ดูไม่ได้ออดอ้อนเฮียคิน กลับกันยังขยันกวนเขาทุกที “หนูไม่เคยอยู่ท่ามกลางดาวเยอะขนาดนี้เลยนะเนี่ยพูดจริงๆ” พอลาซาเดินพ้นไปสักพัก ฉันเลยพูดขึ้นมาทำลายความเงียบท่ามกลางบรรยากาศที่ดูเหมือนจะเงียบเหงา แต่พอมีลมเย็นๆพัดมาเบาๆ มันกลับทำให้ความรู้สึกคาใจเรื่องเนื้อคู่ข้างในที่สั่งสมมา กลายเป็นความว่างเปล่า...คิกๆๆ “ก็ได้อยู่แล้วนี่” “ฮึ่ย! อย่ามากวนประสาทให้เสียอารมณ์สิ คนเค้ากำลังคิดถึงเนื้อคู่ที่อยู่ไกลแสนไกล งื้อออ แต่ไกลแค่ไหนก็ยังฟิน เออเฮียหนูมีเรื่องไรจะถาม…” “ไม่ฟัง ไปถามไอ้ติณณ์” เอ๊? ฉันยังพูดไม่ทันจบเฮียก็พูดสวนขึ้นมา “ติณณ์? ติณณ์ไหนอ่ะ เกิดมาไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน” “ยุ่ง -_-” “เอ้า แล้วสรุปจะฟังมั้ยเนี่ย เค้าจะถามอ่ะ” อะไรของเค้าว้าาา คนอุตส่าห์พูดด้วยดีๆ แถมยิ้มกรุ้มกริ่มให้เพราะกำลังคิดถึงเทพเจ้า Nightshade เนื้อคู่ตัวจริงงงง >/////< “ไม่ฟัง” “เอ้า นี่ถามจริงว่ากำลังกวนประสาทกันรึเปล่า -3-” แต่ไม่หรอกมั้ง ว่าไปแล้วเฮียคินเค้าก็มีน้ำใจ เป็นสะพานให้เราไปเจอแม่เฒ่าซิลวาแล้วก็ยัง... “ใช่” “เอ้า แล้วหนูไปทำอะไรให้ อ่ะ ขอโทษละกันนี่น้ำมะพร้าวของหนู แบ่งให้” โอ๊ะ แล้วทำไมอยู่ๆคุณพระอาทิตย์เค้าถึงฟาดงวงฟาดงาใส่ฉันล่ะเนี่ย เกิดดาวช้างรึไง เดี๋ยวดาวสิงโตก็โดดกัดให้ -*- พรึ่บ! แต่นอกจากจะหยิ่ง ไม่รับลูกมะพร้าวจากฉัน คุณพระอาทิตย์เค้าก็ยังลุกพรวด ทำท่าจะเดินลิ่วๆออกจากกองไฟไปซะงั้น ดีที่ฉันคว้าไว้ทัน หมับ! “นี่ แล้วเฮียจะไปไหนล่ะคะ - -*” “อาบน้ำนอน” “แต่หนูยังดูดาวไม่เสร็จเลยนะ -3-” “ก็นอนข้างนอก” ฮะ? นึกอยากจะอาบน้ำก็ลุกเดินไปเลยงี้ แล้วความงดงามบนท้องฟ้าที่ฉันกำลังดูอยู่ ไหนจะ.... “นอนข้างนอก? แล้วหนูจะไปนอนที่ไหนเล่า คิดสิ >[]<!” “ชิงช้า เปล พื้น ริมหาดก็ได้ มีปูเดินไปเดินมาถ้าเหงา” เฮียคินตอบกลับมา แล้วตั้งท่าจะก้าวขาฉับๆ แต่ฉันก็เอาตัวเองเข้าไปขวาง “โหย ตอบแบบไร้เยื่อใยเกินไปล๊าววว คนอะไรจะนอนกับปู ถ้าหนูยังดูไม่เสร็จเฮียก็ห้ามไปสิ เฮียต้องรอ! รอเค้าาา >[]<” “ไปอาบก่อน ค่อยมาดูใหม่” “ไม่! นั่งเลย นั่งก่อน” “ดึกแล้วน้ำเย็น” ฉันพยายามฉุดกระชากลากเฮียคินกลับมานั่งบนขอนไม้รอบกองไฟ แต่เฮียก็ยึกยัก โอ๊ยยย ก็แค่น้ำเย็น “ปัดโถ่! เอาเรื่องแค่เนี้ยมาขัดจังหวะดูดาวหนูเนี่ยนะ ถ้ามันเย็นมากก็เปิดเครื่องทำน้ำอุ่นสิคะ >[]<!” “ที่นี่?” โอ๊ะ...เดี๋ยวแป๊บนึง ดูจากแสงสว่างรำไรของบ้านแต่ละหลังแล้วสงสัยจะไม่มีอ่ะ... ไม่มีเครื่องน้ำอุ่น? เปล่า นอกจากพื้นที่ส่วนกลางล๊าววว บ้านแต่ละหลังที่นี่...ไม่มีไฟไปเลยจ้า เค้าจุดตะเกียงเอา เย้ยยยย “กะ...ก็ต้มน้ำสิคะ หนูเคยเห็นในละครไทยอ่ะเฮียเคยดูรึเปล่า -3-” ฉันพูดแก้เขินไปข้างๆคูๆ แต่เฮียคินก็ยังไม่วาย... “ต้มน้ำ? ต้มเองได้?” “อื้อ ไม่เห็นจะยากตรงไหน ก็แค่เอาน้ำใส่หม้อแล้วเปิดแก๊ส…” โอ้วโน๊วววว ที่นี่ก็ไม่มีเตาแก๊สไม่ใช่เร๊อะ ตอนทำกับข้าวเห็นพี่ๆที่ใส่ชุดไว้อาลัยเค้าตั้งหน้าตั้งตาก่อเตาถ่านให้คุณป้ากันใหญ่ ชีวิตที่นี่มันจะ Slow life เกินไปม้ายยยย =[]=! “งะ...งั้นก่อไฟ หนูเรียนลูกเสือมา เดี๋ยวหนูก่อให้” “ลูกเสือหรือลูกหมู ไหนฟืนจะก่อไฟ?” เฮียคินยังเลิกคิ้วตั้งคำถามเยอะแยะอยู่ได้ แต่โฮ่ะๆๆ ถึงไม่มีฟืนก็ไม่เป็นไร เพราะเรามีนี่อยู่แล้วงะ.... ซ่าาา ฟู่ววว “เย้ยยยยย ไอ้คนบ้า ถึงไม่มีฟืนแต่ตอนแรกอ่ะมีไฟ แล้วเฮียมาดับทำไมเล่า! >[]<” เชื่อเค้าเลย! องศานิ้วฉันกำลังจะชี้ไปถึงกองไฟที่ลาซาก่อไว้ แต่เฮียคินก็เอื้อมมือมาคว้าลูกมะพร้าวในมือฉัน สาดน้ำมะพร้าวลงไปจนไฟมอดเกลี้ยง เพื่ออออ? โอ้วพระเจ้า ตาลุงนี่เค้าทำเพื่ออออ? “ไปอาบน้ำ ดึกๆมันหนาว” “แต่หนู…” “งั้นก็ไม่ต้องออกมาดูละดาว” พูดจบเฮียก็เดินลิ่วๆออกไปเลย งื้ออออ เสียดายอ่ะ พี่น้องดวงดาวเห็นมั้ย ผู้ชายที่กำลังเดินชมวิวนั่นตั้งใจกดดันเค้า “ง่าาา คุณพระอาทิตย์ใจร้ายเกินไปล๊าวววว T[]T!” ฉันโอดโอยออกไปแล้วรีบเดินตาม เพราะทันทีที่กองไฟมันดับ พื้นที่รอบข้างก็มืดและเงียบจนน่ากลัว แต่ข้อดีคือมันเห็นชัดมาก...ความมืดทำให้แสงดาวบนฟ้าชัดเจนกว่าเดิมหลายเท่า สะ...สุดยอด “....เฮียคินขา มันสวยจัง” ฉันพูดออกไปเบาๆ ด้วยความรู้สึกเหมือนกำลังตกอยู่ในภวังค์ แผ่นหลังกว้างที่มุ่งหน้าไปตามทิศทางที่มีดวงดาวนำทางในรัศมีสายตาของฉัน แม้จะมองจากข้างหลังก็ยังรู้สึกว่าเขา... ดูเท่จั...... “งั้นๆ” เพล้งงงง เพล้งๆๆๆ ว๊ากกก งั้นๆงั้นหรอ?! เพิ่งจะหลุดชมในใจไปว่าเท่ พี่แกก็ดับฝันฉันเลยงั้นเซ่ -*- ชิส์! อยากจะ Call หาพระแม่คงคา พระแม่ธรณีเลยเด้ ทำไมฉันต้องมาดูดาวกับคนที่ระดับความโรแมนติกแข็งทื่อแบบเน้ ช่วยตื่นเต้นสักนิดก็ไม่ได้ >[]<! “เชอะ -3- เค้าไม่พูดด้วยสามนาที ออกไปห่างๆเลยไปอย่ามาเดินใกล้” พลั่ก! เพราะคำตอบกวนประสาทนั่น ทำให้ฉันเร่งสปีดก้าวขาฉับๆไปผลักเฮียคินกะให้ล้มแต่ก็ไม่สาแก่ใจ ฮึ่ย! คนอะไรไม่มีเซสักนิด แต่ก็ช่าง ไม่อยากเดินตามละรำคาญ เดินนำซะเลย แยกย้าย! ทางใครทางมัน! “รู้หรอที่พักอยู่ไหน” กึก! เออแฮะ อย่าถามถึงที่พักจ้ะ กระเป๋าที่เอามายังไม่รู้เลยว่าใครเอาลงจากเรือให้ -*- “ก็...ไม่รู้ เฮียก็เดินนำไปสิคะ ก็แค่อย่ามาเดินใกล้ๆ -3-” ฉันชะลอฝีเท้าแล้วแกล้งทำเป็นเดินชมนกชมไม้ เฮียคินก็กระตุกยิ้มมุมปากนิดหน่อย แล้วเดินมาตีเสมอก้าวขาไปพร้อมกันอยู่ข้างๆ แต่ไม่รู้จะกวนประสาทไปถึงเมื่อไหร่ “คนเดินตามนั่นแหละ อย่ามาใกล้” จึ๊กๆ โอ้โหววว ไม่โกรธที่ล้อเลียนคำพูดหนูเลยนะเนี่ย แต่โกรธที่ยักคิ้วจึ๊กๆเหมือนสะใจ >[]< “โหยยยย หมั่นไส้ พูดตรงๆว่าเค้าอยากผลักเฮียให้ล้มกลิ้งบนกองทราย!” พรึ่บ! หมับ! พูดจบฉันก็ยกมือสองข้างขึ้นเตรียมผลัก แต่มือใหญ่ๆของเฮียมือเดียวก็มาคว้ามือฉันทั้งสองข้างเอาไว้ แล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้ “ไม่ใช่หมูในกระปุกจะกลิ้งได้ไง” พรึ่บ! “ว๊าย O_O!” แล้วเฮียคินก็ออกแรงสะบัดแขนฉันที่จับไว้จนฉันเกือบหงายท้อง ตะ...แต่ แต่แขนอีกข้างของเขาก็ถูกเลื่อนมาโอบเอวและประคองร่างฉันไว้ “งื้อออ ไอ้เฮียบ้า หนูใจหายหมดเลยนะ >[]<!” “เชื่อ หน้าเหวอใช้ได้ หึ...” ...เอ๋? เฮียขำหรอ? นี่เขา...ยิ้มกว้างแบบคนอื่นก็เป็นหรอ โถ่เอ๊ยพ่อหนุ่ม รู้ตัวมั้ยเนี่ยว่ายิ้มแล้วโลกดูสดใสจัง :) แต่... “เชอะ! หนูเบื่อหน้าเฮียแล้วด้วย บอกว่าไม่ต้องมาใกล้แล้วยัง.....!” “งั้นปล่อย” พรึ่บ! หมับ! พูดจบเฮียคินก็คลายอ้อมแขนที่โอบเอวฉันไว้ อ๊ากกก บ้าๆๆๆๆ ถึงจะเป็นหาดทรายสวยแต่ข้างล่างก็มีเปลือกหอยเปลือกปู ถ้าหนูโดนทิ่มจะว่าไง! “งื้ออออ ไม่ ไม่นะอย่าเพิ่งปล่อย จับหนูไว้ก่อนอย่าให้หนูหล่นตุ้บลงไป =[]=!” “ไม่ลงไปกลิ้งโชว์?” “โอ๊ยยย จะว่าหนูอ้วนไปถึงเมื่อไหร่ -3-” ไอ้คนบ้า น่าเบื่อๆจริงๆเลยนะเนี่ยที่ต้องมาคอยต่อปากต่อคำด้วย แถมยังมาแกล้งหนูอยู่ได้ “ก็ว่าไปจนกว่าจะเลิกโวยวายลั่นเกาะนั่นแหละ ไม่เกรงใจคนอื่นไง๊” อุ่ย...ก็จริงแฮะ พอเฮียคินพูดมาฉันเลยหันมองไปรอบๆตามบ้านที่เราเดินผ่านมา แล้วก็ต้องส่งยิ้มออกไปเพราะชาวบ้านในเกาะนี้ออกมายืนหน้าบ้านแทบทุกหลัง ง่าาา หรือพวกเขากำลังตำหนิฉันที่เสียงดัง TT^TT “เค้ามายืนมองกันนานละ เพิ่งรู้ตัวมั้ง” พูดจบเฮียคินก็ประคองตัวฉันขึ้นมายืนเหมือนคนปกติ แล้วหลุดยิ้มเดินขำอะไรคนเดียวในขณะที่ฉัน.... “ขอโทษค่าาา เชิญพักผ่อนกันตามสบาย หนูไม่กวนแล้วค่าาา แหะๆ” วี๊ดดดดด พอสารภาพบาปเสร็จแล้วก็ต้องใส่ตีนผีเผ่นแน่บเลยสิจ๊ะ เชอะ! แล้วทำไมไม่บอกให้มันไวๆนะ อีตาลุงขายาวที่เดินนำไปไกลแล้วนั่นน่ะ เชอะๆๆ -3- ไม่นานเราก็เดินมาถึงที่พัก แต่เอ๊... เหมือนว่าจะมีบ้านเหลือหลังเดียวเลยอ่ะ แล้วกระเป๋าฉันก็อยู่ที่นี่ แต่ไม่เป็นไรหรอก เจ่เจ้เค้าเป็นตุ๊ดตู่ นอนด้วยกันก็ได้หนูไม่ถือ “ไม่มีบ้านว่างแล้ว” “ค่ะ หนูรู้ ก็หนูเป็นส่วนเกินนี่นา ฮ่ะๆ นอนด้วยกันนี่แหละอบอุ่น” ฉันเด้งตัวบนที่นอนที่ไม่ได้นิ่มมาก แต่บรรยากาศน่านอนสุดๆ เพราะมีเสียงคลื่นกระทบฝั่ง ที่สำคัญบ้านหลังนี้มองออกไปเห็นชายหาด น้ำทะเล และท้องฟ้าที่มีดาวระยิบระยับตัดสลับกัน โว้วโวววว... นี่มันสุดยอดวิวเลอค่าที่หาตามโรงแรมไหนๆไม่ได้เลยนะ สวยมากกก นี่ใช่มั้ยอานิสงส์แห่งการทำความดี ก็เลยได้เห็นวิวดีๆ ตายไปคงได้เป็นนางฟ้าสินะยัยหนูลิซคนนี้ คิกๆๆ >_< แล้วเพราะมัวแต่มองวิว พอฉันหันกลับมาก็เห็นเฮียคินเตรียมเสื้อผ้าพร้อมอาบน้ำหมดแล้ว แถมเขากำลังจะเดินออกจากบ้านทิ้งฉันไว้คนเดียวซะงั้น แต่เดี๋ยวนะ ลืมคิดไปว่าที่นี่ไม่มีห้องน้ำในตัวอ่ะ มันต้องออกไปใช้ข้างนอก ลำพังใช้ข้างนอกเพราะทุกคนก็ใช้ยังเข้าใจได้ แต่ถ้าเจอโจทก์เก่าล่ะทำไง เย้ยยย ถะ...ถ้างั้น... =[]= พรึ่บ! หมับ! “ถ้าอาบเสร็จแล้วเฮียจะเฝ้าหนูใช่มั้ย - -*” ฉันโดดพรวดลงจากเตียงไปคว้าแขนเฮียคินที่เดินพ้นประตูบ้านออกไป “ทำไมต้องเฝ้า?” “คะ...คือว่า....” หยึ๋ย -*- จะพูดไงดี แค่คิดถึงมันก็ฝันร้ายแล้วอ่ะ ถ้าพูดมันต้องออกมาแน่ ทีนี้จะบอกตาลุงนี่ยังไงดี แต่พูดไม่ได้เด็ดขาดเลยนะ ห้ามพูดๆ เป็นลางไม่ดีๆๆๆ “ที่นี่มีแต่คนของ...เรา” พอเห็นฉันไม่พูดแต่กำมือเขาแน่น เฮียคินก็พูดซ้ำให้ความมั่นใจมาอีกที แต่ไม่ใช่หรอก ไม่ใช่กลัวคนนะ ฉันน่ะ กลัว..... คือว่า... ไม่ด๊ายยย พูดไม่ด้ายยย มันไม่ดีจริงๆ เชื่อสิ >_< แล้วพอฉันยังยืนเงียบ เฮียคินก็ขยับแขนออกเบาๆจะเดินต่อ แต่แน่นอน เพราะความกลัวสิ่งนั้นและญาติพี่น้องของมันขึ้นสมอง ฉันก็เลือกจะคว้าแขนเขาเอาไว้ก่อน หมับ! “ไม่มีใครกล้ามาแอบดู...แน่นอน” “ไม่ใช่แบบนั้น ที่จริงหนูกลัว....” หึ๊ยยย เกือบหลุดปากกก โอ้วม่ายยย ตั้งสติ! ตั้งสติเจ้าลิซ! แต่เฮียคินก็ยังคงส่งสายตาคาดคั้นมาอีก “....กลัว?” “กะ...ก็ข้างหลังมันเป็นป่า” “เกาะนี้ไม่มีคนป่า” “ไม่ใช่สักหน่อยคือว่า...” “สัตว์ป่าก็ไม่มี นี่กลางทะเล” สัตว์! ย๊ากกกก อย่าพูดคำว่าสัตว์ คำว่าสัตว์จะเป็นปราการด่านแรกที่เปิดทางให้มันใกล้เข้ามา ง่าาา พ่อแก้วแม่แก้วขาาา TT^TT “กะ...ก็ใช่ที่มันกลางทะเล แต่หนูว่ามันน่าจะมี น่าจะมีไอ้ตัวนั้นอ่ะ T[]T” แล้วเฮียก็ทำหน้างง... “ตัวนั้น?” “ก็...เอาเป็นว่าเฮียเฝ้าเค้าได้รึเปล่า นะๆ เดี๋ยวหนูจะไปยืนรอเฮียหน้าห้องน้ำแลกกัน โอเคมั้ยอ่ะ” พูดจบฉันก็กระชับอ้อมกอดที่กอดแขนเฮียไว้แน่น แต่เขาก็ส่ายหัวเบาๆ แถมยังค่อยๆขยับตัวออก เชอะ! หวงจังเลยนะแขนน่ะ -*- “ยุงเยอะรอนี่” “แต่นี่มันกลางทะเล ยุงบินมาไม่ถึงหรอกค่ะน่าจะเหนื่อยตายก่อน น้าเฮียยย ผลัดกันเฝ้าแฟร์ๆ” ปิ๊งๆๆๆๆ พูดไปฉันก็ส่งสายตาปิ๊งๆออดอ้อนไป และแน่นอน...ร้อยทั้งร้อยเฮียคินที่ใจดีกับเด็กๆและใครต่อใครมาทั้งวัน ครั้งนี้เขาก็ต้องใจอ่อนอยู่แล้วววว “ตามใจ” เย่! เห็นมั้ยยย ที่จริงเขาก็ไม่ใช่คนใจร้ายอะไรเท่าไหร่ “งื้อออ น่ารักอ่ะ หนูหลงเสน่ห์ความใจดีของเฮียมาทั้งวันแล้วนะเนี่ยยย ขอจุ๊บหน่อย >3<” พรึ่บ! “เตรียมของเสร็จแล้วตามไป” เอ้า! เอาใหม่! ก็คือเค้าชมอยู่แล้วกำลังจะจูจุ๊บก็มาตัดบทกันซะได้ แถมยังเดินหนีลิ่วๆสะบัดตัวฉันจนแทบหงายท้อง ไม่รู้จะหวงเนื้อหวงตัวไปไหน -3- เชอะ! แต่ช่างเถอะ เตรียมเสื้อผ้าไปรออาบน้ำดีกว่า ไม่ได้อาบคนเดียวก็ไม่เหงาละ อีกอย่างเฮียคินเป็นตัวกาลกิณีไงล่าาา การให้เขาไปเฝ้าก็เหมือนรวบรวมความชั่วร้ายบนโลกนี้ไปคุ้มกันเรา คิกๆๆ และบอกเลยถ้าไม่ได้ศึกษาศาสตร์แห่งการทำนายจาก Myztery Horo มา คิดอะไรล้ำๆแบบนี้ไม่ได้นะรู้ป่าววววว เอิ๊กๆๆๆ ซู่วววว ซ่าาา ลัลล้า ลัลลาาา.... ฉันยืนฮัมเพลงท่ามกลางเสียงน้ำที่เฮียคินกำลังอาบซู่ซ่าอยู่ข้างใน แถมจะว่าไปก็ดีนะที่เราเตรียมชุดคลุมอาบน้ำสีม่วงเหลือบชมพูสลับเฉดสีฟ้าพาสเทลนิดๆปักลายคิตตี้ขี่ยูคอร์นมาด้วย ก็เลยใส่มันมายืนรออาบน้ำตรงนี้สวยๆ ว่าแต่..อากาศที่นี่เย็นจริงแฮะ สงสัยต้นไม้เยอะ แถมยุงก็เริ่มกัดแล้วแหละ ที่นี่มียุงสายพันธุ์ยืนหนึ่งเรื่องบินข้ามน้ำข้ามทะเลจริงด้วย ปรบมือให้ไปเลย แปะๆๆ โอ๊ย! อย่ากัดตรงนั้นสิ อ๊ะ! ไม่ได้เหมือนกันห้ามกัดตรงนี้ =[]=! แกร๊ก.... และระหว่างที่ฉันกำลังสู้รบกับเจ้ายุงและผองเพื่อน ก็ต้องขอขอบคุณพ่อหนุ่มในห้องน้ำค่ะ ที่เขาออกมาได้ทันเวลาพอดี แต่แหมๆๆ ก้อนขนมปังตรงหน้าท้องยังมีเท่าเดิม เพิ่มเติมคือคืนนี้นอนข้างกันหนูขอจิ้มเล่นหน่อยสิ พูดละเขิน >///< แล้วฉันก็คว้าข้าวของที่เตรียมมาจะเดินเข้าห้องน้ำบ้าง แต่กลับโดนสายตาดุๆของคนที่เพิ่งเดินออกมามองตาขวาง “ทำไมแต่งตัวแบบนี้วะ -_-” หืม? แบบนี้? แบบนี้นี่แบบไหนหรอ หมายถึงชุดคลุม? “ก็หนูมารออาบน้ำ” ฉันตอบกลับไปแล้วเฮียคินก็มองซ้ายมองขวา เอ๋? มอง? เขามองไรอ่ะ แถวนี้ไม่เห็นมีไรหน้ามองเลยนี่นา มีแต่ที่มืดๆ “ค่อยเอามาเปลี่ยนในห้องน้ำก็ได้ป่ะ” เดี๋ยวนะ - -* เดี๋ยวนะยังไงสิคะตัวเธอ เอาชุดคลุมมาเปลี่ยนในห้องน้ำคือไร? แล้วจะอาบน้ำไงอ่ะ ก็เนี่ยถูกแล้วไม่ใช่ อ๋อหรือว่า...อย่าบอกนะว่าอาบน้ำสบายตัวแล้วจะมาหาเรื่องกันอ่ะ -3- “โอ๊ยยย เปลี่ยนที่ไหนก็ช่างเถอะค่ะ เฮียออกมาเร็วๆสิคะ อากาศมันเย็นนะ >[]<” เพราะขี้เกียจต่อปากต่อคำฉันเลยเดินลิ่วๆสวนกับเฮียเข้าห้องน้ำมา ก่อนจะหมุนตัวปิดประตูใส่หน้าเขาดังตึงงงง! โอ๊ะโอว...แต่พอเข้าห้องน้ำมาปุ๊บ ก็ต้องเรียนรู้กันพอสมควรเลยเหมือนกัน ก่อนอื่น...ห้องน้ำที่นี่ไม่มีหลังคา แต่มันผนังมันสูงมากกว่า ตัดปัญหาเรื่องคนแอบดูไปได้จริงๆอย่างที่เฮียคินบอกนั่นแหละค่ะ อืม...แล้วฝักบัวก็ไม่มี ภาชนะอาบน้ำก็ต้องเป็น...ขันสินะ มีน้ำอยู่ในถังแต่ก็สะอาดมากๆเลยล่ะ แต่ถ้าอากาศเย็นขนาดนี้ไหนแตะดูหน่อย โอ้โหน้ำเย็นจัง แล้วก็...ราวตากผ้า ราวๆๆ... อ๋อ! น่าจะเป็นตะปูตัวเล็กๆนั่น เย่! เรียนรู้อุปกรณ์แล้วก็เปลื้องผ้าได้ อาบน๊ามมม อาบน้ำกันนนน ฮู้ฮูววว พรึ่บ! ซู่วววว ซ่าาา ลัลล้า ลัลลาาา เออแฮะ จะว่าไปบรรยากาศในห้องน้ำนี่วินเทจจัง กลิ่นไอบ้านๆที่ใฝ่ฝัน ตอนอยู่เมกาไม่ค่อยมีไรแบบนี้อ่ะ พอมีแล้วก็เปิดโลกฉันมากอยู่เหมือนกัน ซู่วววว ซ่าาา อุ๊ยน้ำเย๊นเย็นนน ขนแขนสแตนอัพไปโหม๊ดดด อาบน้ำเย็นนี่สดชื่นจัง งั้นกลับคอนโดเอาเครื่องทำน้ำอุ่นออกดีกว่า แต่โอ๊ะ...ขอสอดส่องก่อนนะ ถึงเฮียจะเฝ้าอยู่ข้างนอกแต่จำไว้เลยว่าสิ่งสำคัญที่เราต้องทำเสมอคือสอดส่องสายตาหามัน! ใช่! ถึงจะไม่ได้ยินเสียงและยังไม่มีมีพลังงานบางอย่างตามที่คิดเผยตัวออกมา แต่เราก็ต้องระวังตัวไว้ เพราะโครงสร้างห้องน้ำที่มีส่วนประกอบเป็นท่อนไม้แบบนี้น่ะ มีโอกาสที่จะเจอเจ้าตัวนั้นถึง 80% หรือมากกว่า ถ้าเราเห็นก่อนเราจะได้วิ่งทัน ย๊ากกก พูดละฮึกเหิมขึ้นมาเลยเฟ้ย ไอ้เจ้าตุ๊กแก และจิ้งจกลูกหลานของพวกมัน ศัตรูตัวฉกาจของฉัน!!! ว๊ายยยย เผลอคิดถึงมันไปแล้วต้องตบปาก! ตบปากสามครั้ง แปะๆๆ โอเค...บนคานไม่มี ตรงตะเกียงไม่มี ถังน้ำ ในขันไม่มี แบบนี้ค่อยสบายใจหน่อย แต่อร๊ายยยย แต่อาบน้ำนานเกินไปหรอทำไมมือเปื่อยแล้วเนี่ย ไม่! ไม่ได้! ต้องพอก่อน ถ้ามือเท้าเย็นมากๆคืนนี้เราจะนอนสั่นนะ ผ้าเช็ดตัวอยู่ไหน ผ้าเช็ดตัวอ่ะ อ๋อจำได้ละว่าแขวนทับเสื้อคลุมไว้ข้างหลัง พรึ่บบบ! “O_O!!!!!” ละ...แล้วทันทีที่ฉันหมุนตัวไปคว้าผ้าเช็ดตัวก็ต้องตาค้างไปพร้อมกับแข้งขาที่เริ่มสั่น ชะ...ชัดเลย! อะ...ไอ้เจ้า... ไอ้เจ้า ไอ้เจ้าอสูรกายเลื้อยคลานแห่งภาคพื้นตัวลายตาเหลืองปากกว้างนั่น >[]<!!!! กรี๊ดดดดดด ที่อื่นมีเยอะแยะทำไมมันต้องไปอยู่บนผ้าเช็ดตัวของช้านนน ที่สำคัญมันกำลังใกล้เข้ามา มันวิ่ง! มันวิ่งตามองศาผ้าที่ฉันคว้าไว้และเงยหน้ามาขึ้นมาท้าทาย พร้อมกับประกาศอาณาเขตเสียงดังงงงง.... ‘แอ๊บแอ้!’ พรึ่บบบบบ! “กรี๊ดดดดดดดดดด >[]<!!! เฮียคินขาช่วยหนูด้วยยยยยย เฮียคิระะะะ! อย่าเข้ามาน้าาาาา กรี๊ดดดดดดดดดดด!!!!!!!!”หลายชั่วโมงต่อมา..."กลับมาแล้วค่าาา U_U"ฉันยื่นซองเอกสารที่ใส่ทะเบียนสมรสเป็นหลักฐานให้เฮียติณณ์ดู แล้วก็เพิ่งสังเกตว่าในนี้มีทั้ง Nightshade และ Nightshade's Lady นั่งอยู่"เอ้าโรส! แล้วก็พวกเฮียๆด้วยนี่นา สวัสดีค่าทุกคน~ ^_^""ไง ได้ข่าวว่าไม่โสดแล้วหรอ ใช่ม้า~"โรสเอ่ยปากแซวฉันก็หันไปยิ้มกับเฮียโย แต่ไม่ได้การละ เฮียๆอยู่ที่นี่ทั้งที"หึ๊ยยย ฟ้องเฮียดีกว่า เฮียขะ...."กึก...แล้วพอก้าวขาจะไปโผล่ตรงกลางระหว่างเฮียโยกับเฮียพาย อยู่ๆขาฉันก็ชะงักไปเพราะสายตาผู้หญิงของเฮียพายที่มองมาพอดี"เอ่อคือ...""ขอโทษนะ...ลิซ ที่วันนั้นเข้าใจผิด"เอ๋??? รุ่นพี่เป็นฝ่ายขอโทษฉันงั้นหรอ เรื่องจริงหรอเนี่ย ฉันเลยหันไปมองหน้าเฮียพายสลับกับเฮียคิน นี่อย่าบอกนะว่ามีใครไปทำอะไรมาเนี่ย"อ๋อ เอ่อคือ...ไม่เป็นไรเลยค่ะเจ๊...นิลลา แหะๆ""ว่า?"จังหวะที่ฉันหันไปยิ้มแห้งๆ เฮียพายก็ถามมา โอ๊ะเกือบลืมแหนะฟุ้บ!"คือว่าเฮียขาาา~ อะแฮ่ม ลิซขอแทรกหน่อยน้า เฮียขา เฮียคินบังคับให้หนูไปจดทะเบียน โดยมีเฮียติณณ์! เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดค่าา... อะแฮ่มอีกที! เฮียช่วยกระทืบใครสักคนให้หน่อยได้มั้ยคะ หนูปวดร้าวหัวใจมากที่เค้ามาป
วันต่อมา..."ไม่สนค่ะ! ถ้าไม่ใช่รูปนกฟีนิกซ์ หนูจะไม่ยอมประทับตราเด็ดขาด >[]ฉันตะโกนออกไปแบบแน่วแน่สุดๆไปเลย ก็มีอย่างที่ไหนอ่ะ ตื่นเช้ามายังไม่ทันจะอาบน้ำแปรงฟัน เฮียคินก็มาขู่ให้คนอื่นเค้าเอาดาบไขว้มาประทับไว้บนตัว และให้เหตุผลว่าการประทับตราเป็นการบ่งบอกว่าเราคือ Dark Shadow แต่โหย! ตั้งมีดดาบเชียวนะ เกิดมันมีชีวิตแล้วแทงเข้าไปในเนื้อหนังอันละเอียดอ่อนของฉันจะว่าไงอ่ะ =[]="Dark Shadow ต้องประทับตราเดียวกัน -_-""ก็หนูไม่อยากเป็....""ถ้าพูดมันออกมาอีกครั้ง..."เสียงเข้มกับสายตาดุๆถูกส่งมาให้ฉัน ก่อนที่ฉันจะยอมอ่อนลงนิดนึง เชอะ! "อะไรคะ ที่จริงหมายถึงไม่อยากให้ตราประทับเป็นรูปมีดดาบต่างหากล่ะ -3-""เลือกตำแหน่งที่อยากประทับไว้เลย"พรึ่บ!พูดจบเฮียคินก็ลุกขึ้นจากเตียงเฉย เดี๊ยะๆ ทำเป็นมาสั่งเนาะ"ไม่! หนูไม่เลือก ไม่สนใจ ไม่ประทับตราแน่ๆจะบอกให้"ฟุ้บ!ฉันทิ้งตัวนอนแล้วดึงผ้าห่มคลุมโปงไปเลย ก็ไม่อยากได้มีดดาบ ไม่ชอบอ่ะมันคม กลัวมันแทงเข้าไปควักไส้ หยึ๋ยยยย =[]=! ซาหยองจาตายยย"จะดื้อจนนาทีสุดท้ายเลยรึไง""ไม่ดื้อ! หนูไม่ได้ดื้อ หนูแค่ไม่ชอบ...""อาบน้ำแต่งตัว เช้าบินไปจดทะเบียน
"แย่จริงๆ คุณเปิดตัวอลังการขนาดนี้ ลูกหลานได้หัวใจวายกันพอดี :)""ท่านย่า""ท่านแม่"กึก!สิ้นสุดคำพูดของท่านปู่ เฮียคินที่ยืนอึ้งก็พูดออกมาเสียงสั่น เขาก้าวขาจะเดินตรงเข้าไปหาท่านย่าเช่นเดียวกับเจ๊เฟรย์ที่น้ำตาคลอขึ้นมาแบบฉับพลัน แต่ทั้งเฮียและเจ๊ก็ต้องชะงัก คงเพราะเพิ่งรู้สึกว่าตัวเองกำลังประคองร่างเฮียแม็คและรุ่นพี่เลโอที่อาการสาหัส ท่านย่าเลยหันมองทั้งคู่ และเงยหน้ามองรุ่นพี่เตโชที่สีหน้าเขาเองก็ทึ่งไม่จากพี่น้องคนอื่นเลยสักนิดกึก...กึก...กึก...ไม่รอให้ใครพูดอะไร ท่านย่าปรับสีหน้าให้ดูนิ่งเรียบ ก่อนจะเป็นฝ่ายเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าเฮียแม็คและรุ่นพี่เลโอที่ถูกประคองเอาไว้ เฮียแม็คพอเห็นแบบนั้น เขาใช้แรงทั้งหมดที่มีขยับตัวให้หลุดจากการประคอง ก่อนจะทิ้งตัวนั่งคุกเข่าก้มหัวต่อหน้าท่านย่า และพูดออกมาด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก"ผมขอโทษครับท่าน ขอโทษ...สำหรับทุกเรื่องครับ"ภาพตรงหน้าทำให้ฉันหันมองเจ๊เฟรย์ที่ยืนนิ่งทันทีที่ได้ฟัง ท่านย่าเองก็มองไปที่เธอ และค่อยๆยกฝ่ามือขึ้นวางบนบ่าเฮียแม็คที่ยังอยู่ในชุดเจ้าบ่าวที่ตนเองเป็นคนออกแบบ ก่อนจะตบบ่าเขาเบาๆ และพูดมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
วันทดสอบหัวใจของรักษาการ...“โอเคมั้ย?”เฮียแม็คในชุดแปลกตาที่นั่งตรงข้ามกันพูดกับฉัน คงเพราะฉันเริ่มจะเลิ่กลั่ก ก็นี่มันเหลือเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น ฉันเลยส่ายหัวออกไปอย่างไม่รู้จะพูดยังไงเหมือนกัน“ใจเย็นๆลิซ"“หนูอาจไม่ใช่หนึ่งสตรีที่เค้าตามหากันก็ได้”นั่นสินะ... อย่าว่าแต่การเป็นหนึ่งสตรีเลย คนที่ร่ำลือว่าเป็นเนื้อคู่ตอนนี้ ฉันเห็นเขาแค่แว๊บเดียวเมื่อเช้าที่ห้องแต่งตัว แล้วเฮียคินก็เดินหนีหายไปไหนไม่รู้ มีแค่คำสั่งที่กำชับพี่ไคยะเอาไว้ว่าให้ฉันอยู่แต่ในห้องนี้“ไม่เห็นจะเกี่ยวกับการเป็นหนึ่งสตรีตรงไหน”เฮียแม็คทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ มือก็เอื้อมมาหยิบสมุดโน้ตฉันไปเปิดดูสิ่งที่ฉันพอจะนึกอะไรได้แล้วโน้ตเพิ่มลงไป“เกี่ยวสิคะ ก็แค่ทดสอบยังทำไม่ได้ แถมหนูตะคอกใส่เฮียคินกับท่านปู่เสียงดังมากด้วย กับเฮียคินน่ะ...เราคุยกันน้อยลงมาก ช่วงวันสองวันนี้ U_U"“ไอ้คินมันยุ่งๆ อย่าคิดมาก ส่วนเรื่องในห้องประชุม คนเรามันก็ตกใจกันได้”“...เฮียแม็ค”“?”ฉันส่งเสียงเรียกคนตรงหน้าออกไปเสียงอ่อน เขาก็แค่เลิกคิ้วขึ้นนิดนึง แล้วก็นะ มันดูอ่อนแอมากเลยที่จะต้องพูดว่า...“หนูอยากกลับบ้านค่ะ"แล้วแค่นั้นเฮีย
หนึ่งชั่วโมงต่อมา...- ห้องทำงานคิระ -แกร๊กๆๆๆ“จิ๊!”“อย่าเครียดนักสิ”“มันอีกแค่นิดเดียวเองค่ะ เหมือน XVII ตั้งใจปั่นประสาทหนูน่าดู ย้ายโลเคชั่นทุกครั้งที่ออนไลน์เลยมั้ง โรคจิต!”“.......”ฉันตอบกลับเฮียคินทั้งที่มือยังคาอยู่บนคีย์บอร์ดโน้ตบุ๊คแบบนี้ แล้วเพราะโดนเฮียเงียบใส่นี่แหละ เลยทำให้ฉันหยิบมีดสั้นเล่มนึงใกล้ๆมือปาออกไปที่เป้าข้างหลังเขาแบบหงุดหงิดฉึก!หึ...มันดูแปลกใช่มั้ยล่ะ ที่มีเป้านิ่งให้ระบายอารมณ์ได้เต็มที่ แต่เป้านี้ยังถือเป็นอะไรที่เบสิคมากเลย เพราะในห้องเฮียคินไม่เหมือนห้องเจ๊เฟรย์เลยสักนิด เขาเอาอาวุธเยอะแยะมาวางเรียงเป็นของตกแต่งเหมือนที่ชอบเอาปืนซ่อนไว้ในทุกอาณาเขตของคอนโดไม่มีผิด“ยังปาแม่นเหมือนเดิมนี่ หนึ่งสตรี”“เฮียแม็ค~”เสียงที่คุ้นหูทำให้ฉันละสายตาจากเป้ามองคนที่เดินเข้ามาในห้องทันที แล้วเฮียคินนี่ออกตัวดุมาเชียว“ดีใจกว่าเจอหน้าผัวอีก -.-”ชิชะ! ไม่ต้องเลยนะ ทำมาเป็นพูดดี“เฮียแม็คไปไหนมาคะเนี่ย ไม่เจอตั้งหลายวันอ่ะ”“มันไล่”“อ้าว จับได้แล้วเจ้าตัวดี -3-”พอฟังเฮียแม็คตอบมา ฉันก็ส่งสายตาฟาดฟันไปให้เฮีย เขาก็ทำไม่รู้ไม่ชี้ แต่ที่จริงเฮียคินก็บอกฉันแล้วล
หนึ่งชั่วโมงต่อมา...“ลิซ...จะไม่พูดไรหน่อยเลยหรอ?”นานเท่าไหร่ไม่รู้ที่ฉันนั่งฟังความจริงว่าพวกเขาเป็นใคร? Dark Shadow คืออะไร? จากปากเฮียคินและเจ๊เฟรย์ ซึ่งพี่เคนชินและพี่ไคยะเองก็อยู่ที่นี่และทุกคนกำลังจ้องมาแต่เฮียคินกับเจ๊ก็พูดไม่หมด ทั้งสองคนพูดถึงการทำความผิดของสภาก็จริง แต่ก็ไม่ได้พูดถึงวิธีน่ากลัวที่ใช้จัดการกับสภาไปแล้ว น้่นก็คือความโหดร้ายที่เฮียคินกับรุ่นพี่เตโชทำ ซึ่งอย่างที่รู้กัน ฉันเห็นภาพเหตุการณ์ตอนพิพากษาพวกนั้นเมื่อกี๊ ถึงจะไม่มีช่วงที่รุนแรงเลือดสาดมันก็พอจะรู้อยู่ดีและที่เล่ามามันก็มีเรื่องใหม่ๆที่ฉันไม่ได้รู้ลึกอย่างความสัมพันธ์ที่เคยมีปัญหาของเฮียคินกับรุ่นพี่ แต่บอกตามตรงนะฉันก็ยังแอบโกรธรุ่นพี่เตโชอยู่ดี แล้วก็กำลังสนใจเรื่อง XVII มากกว่าด้วยตอนนี้“หนูเข้าใจทุกอย่างเลยค่ะ”ฉันเลือกจะตอบคำถามท่ามกลางความเงียบในห้องแบบขอไปที เฮียคินพอเห็นฉันนิ่งก็มองมาและทำท่าจะพูดอะไร ฉันเลยชิงพูดไปก่อน“เจ๊คะ หนูขอยืมได้มั้ย โน้ตบุ๊คเครื่องนี้”ได้ฟังแบบนั้นเจ๊เฟรย์ไม่ได้อิดออดอะไร แถมยังหันไปพยักหน้าให้พี่เคนชินหยิบมันมาทันทีและพอได้มา สิ่งแรกที่ฉันอยากจะมั่นใจก่อน คือ X