LOGIN| สายตา |
ทันทีที่เดินออกจากร้าน โดนัทหันมาถามแคร์ในทันที
"เมื่อกี้พี่เขาพูดอะไรกับแคร์"
"ไม่นะ" ฉันตอบตาใส ไม่กล้าบอกเพื่อนสนิทที่ทำหน้าอยากรู้อยากเห็นเป็นที่สุด
"ก็เราเห็นว่าพี่เขาก้มลงกระซิบ แล้วเธอคนนั้นก็เดินมาถามว่าพี่คาร์เตอร์ทำอะไร หลักฐานเห็นคาตา แต่แค่เราไม่ได้ยิน บอกมานะว่าพี่เขาพูดอะไร" ถามชุดใหญ่เลยนะ จะเค้นเอาคำตอบจากฉันให้ได้ แต่ว่าฉันไม่อยากจะบอกไง
"เราบอกแล้วไงว่าพี่เขาไม่ได้พูด" เดินหนีเลยแล้วกัน ไม่อยากจะต่อความยาวสาวความยืด
"เนี่ย พิรุธ บอกมาเลยน๊าาา" โดนัทตะโกนไล่หลัง ฉันละเหนื่อยกับเพื่อนคนนี้จริงๆ
#วันต่อมา
@มหาลัย ใต้ตึกคณะแพทย์
"แคร์ว่าผู้หญิงเมื่อวานที่มากับพี่คาร์เตอร์เธอเป็นใคร" โดนัทยังคาใจกับเรื่องเมื่อวานไม่จบไม่สิ้น โทรมาถาม ไลน์มาถาม จนฉันต้องปิดเครื่องหนี
"แฟนไง"
"เราว่าไม่ใช่"
"จะไม่ใช่ได้ยังไงเธอเดินควงแขนแบบนั้นก็ต้องเป็นแฟนสิ" แล้วจู่ๆโดนัทก็เดินมานั่งข้างๆฉันแล้วควงแขนอย่างที่เธอคนนั้นทำ "แล้วถ้าเราควงแขนแคร์แบบนี้เราก็ต้องเป็นแฟนแคร์ใช่ไหม"
"จะเป็นได้ยังไงล่ะ"
"ใช่ จะเป็นได้ยังไง ถ้าจะเป็นได้ก็คงผีผลัก แล้วอีกอย่างดูจากการกระทำของพี่คาร์เตอร์ที่ปฏิบัติต่อเธอแล้วดูยังไงก็ไม่ใช่แฟน"
"ถ้าไม่ใช่แล้วคิดว่าเขาสองคนเป็นอะไรกันล่ะ"
"แน่ะ...อยากรู้เหมือนกันใช่ม๊าาาา"
"ไม่ได้อยาก"
"แต่เราอยาก" ฉันส่ายหัวให้กับความอยากรู้อยากเห็นของเพื่อนฉันจริงๆ
"โดนัท ขึ้นเรียนกันเถอะ ใกล้เวลาแล้ว" เธอเงียบไม่ตอบ มัวแต่ก้มหน้าดูโทรศัพท์ ไม่รู้ว่าดูอะไรถึงไม่ได้ฟังในสิ่งที่ฉันพูด
"โดนัท..." หนึ่ง
"..."
"โดนัท..." สอง
"..."
"พี่คาร์เตอร์เดินมานู่น" เป็นผลโดนัทเงยหน้าขึ้นมาชะเง้อมองหา
"ไหน" โดนัทหันมาถาม ฉันเลยส่ายหัว "แคร์หลอกเราหรอ"
"ก็เราเรียกแล้วแต่โดนัทเอาแต่ก้มหน้า" ฉันจึงลุกขึ้นยืนแล้วหยิบชีทเรียนที่วางอยู่บนโต๊ะ
"เหลืออีกห้านาทีจะรีบไปไหน ตึกเรียนก็อยู่ข้างๆนี่"
"ก็มันใกล้เวลาเรียนแล้วคนก็จะแย่งกันขึ้นลิฟต์ไง เดี๋ยวสาย ไปเร็ว" ฉันเลยเดินนำโดนัทเพื่อให้เธอเดินตาม ไม่งั้นก็เถียงกันอยู่แบบนี้ไม่ได้ขึ้นห้องเรียนสักที
"รอด้วยสิแคร์"
ในระหว่างทางแคร์กับโดนัทที่กำลังจะเดินไปเรียนอีกตึก เธอสองคนเดินสวนกับหญิงสาวที่เจอเมื่อวานเดินมาพร้อมกับเพื่อนๆของหญิงสาวอีกสองคน แคร์จำได้ว่าเป็นเธอที่เดินควงมากับพี่คาร์เตอร์ นั่นเลยทำให้แคร์กับหญิงสาวได้มองหน้ากัน ก่อนที่เธอคนนั้นจะเดินเข้ามาตัดหน้าเธอแล้วถามในสิ่งที่อยากรู้
"เธอรู้จักกับพี่เตอร์หรอ" เธอยืนกอดอกถาม แล้วใช้สายตาไล่มองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนจะเบะปาก
ไม่มีมารยาท
"ไม่รู้จักค่ะ"
"ไม่รู้จักแล้วเมื่อวานทำไมพี่เตอร์ต้องเรียกให้เธอหยุดด้วย บอกฉันมาว่าพี่เตอร์พูดอะไรกับเธอ" เจอเพื่อนฉันเค้นไม่พอ ยังมาเจอเธอคนเมื่อวานอีก เป็นแฟนกันไม่ใช่หรอ ทำไมไม่ถามเขาล่ะ มาถามฉันทำไม
"ตอบสิ" เธอเริ่มขึ้นตวาดเสียงดัง ทำให้นักศึกษาที่เดินไปมาต่างหันมามอง
น่าอายชะมัด ฉันไม่ได้อยากจะมามีเรื่องกับใครในสถานศึกษานะ
"เป็นแฟนกัน ทำไมไม่ไปถามเจ้าตัวล่ะคะ มาถามเราทำไม" ฉันถามเธอกลับ
สายตาของเธอเปลี่ยนไปตั้งแต่ที่ฉันบอกว่าเธอเป็นแฟนกับพี่คาร์เตอร์ ก็แล้วมันไม่ใช่หรือไง
"งั้นก็จำหน้าฉันไว้ซะ ว่าฉันเป็นแฟนพี่เตอร์" เพื่อนเธออีกสองคนที่ยืนอยู่ข้างๆยืนกอดอกเหมือนกับเธอไม่ผิดเพี้ยน
"อ่าว น้องแคร์" ฉันละสายตาจากเธอมองไปทางข้างหลัง มากันครบทุกคนเลย พี่คาร์เตอร์ก็ด้วย
"พี่ๆสวัสดีค่ะ" โดนัทพูดเสียงดังแล้วโบกมือทักทายกลุ่มพวกพี่ๆที่กำลังเดินตรงมาที่ฉันยืนอยู่
หญิงสาวที่เดินเข้ามาหาเรื่องแคร์หันหลังไปดูก็รีบเดินแทรกตัวเข้าไปหาคาร์เตอร์ทันที แต่คาร์เตอร์กลับสะบัดแขนเธอออกอย่างไม่สนใจว่าเธอจะเป็นยังไง พวกกลุ่มเพื่อนๆของคาร์เตอร์มองหญิงสาวแบบงงๆ
"กำลังจะไปเรียนกันหรอครับ" พี่เดลหันมาถามหลังจากที่มองเธอคนนั้น
"ค่ะ"
"เดี๋ยวพี่เดินไปส่งน้องทั้งสองคนเอง" พี่เดลบอก นั่นยิ่งทำให้ฉันต้องรีบปฏิเสธ
"ไม่ต้องค่ะ ตึกข้างหน้านี่เอง ขอตัวก่อนนะคะ" ฉันที่กำลังจะเดินผ่านกลุ่มพี่ๆเขา
หมับ~
ฉันมองไปที่แขนตัวเองก็พบว่ามีมือใหญ่จับแขนฉันเอาไว้ ในใจฉันคิดได้แค่คนเดียวเท่านั้น ฉันจึงเลื่อนสายตาขึ้นมองก็พบว่าเป็นคนที่ฉันคิดไว้จริงๆ
"ปะ ปล่อยค่ะ" พี่คาร์เตอร์จับแขนฉันทำไม ไหนจะสายตาที่พี่เขามองอีกมันยากที่ฉันจะคาดเดา แต่มันก็รู้สึกแปลกๆอย่างบอกไม่ถูก
"พี่เตอร์ปล่อยมัน" เธอคนนั้นพูดด้วยความโมโหที่พี่เตอร์มาจับแขนฉันไว้
"มึงจะทำอะไรไอ้เตอร์" พี่เดลรีบเดินเข้ามาถามเพื่อนตัวเองอย่างร้อนรน
"ปล่อยแคร์ด้วยค่ะ" ฉันพูดย้ำอีกครั้ง พี่คาร์เตอร์จึงปล่อยมือออกจากแขนฉันแล้วเอียงคอเล็กน้อยก่อนจะใช้ลิ้นดันที่กระพุ้งแก้ม
°°°°°°°°°°
ตอนพิเศษ [เฉพาะกิจ] 7จบบริบูรณ์อันดาขับรถกลับคอนโดด้วยหัวใจที่เต้นแรง เดมี่สาวน้อยที่เขาแอบชอบตอนนี้โตเป็นสาวมากแล้ว ถึงจะเห็นเธอไกลๆ เขาก็จำลักษณะและรูปร่างของเธอได้ร่างหนาเผลอยิ้มออกมาไม่รู้ตัว นึกถึงใบหน้าสวยหวานครั้งล่าสุดที่ได้เจอเธอก็หนึ่งปีที่ผ่านมา เพราะเธอต้องไปเรียนอยู่โรงเรียนประจำ ส่วนเขานั้นก็เตรียมตัวอ่านหนังสือสอบเพื่อเตรียมเข้ามหาวิทยาลัย"พี่ชอบเดมี่" ปากหนาเปล่งเสียงบอกความรู้สึกในใจเขากำลังตกอยู่ในภวังค์ห้วงแห่งความฝัน ฝันที่จะได้เป็นผู้ชายในฐานะคนรักของเธอ แต่ทว่าความฝันในจินตนาการของเขาก็ต้องดับลงด้วยเสียงของโทรศัพท์ที่ดังขึ้น"ใครโทรมาวะ" ปากหนาบ่นแล้วเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดรับ"โทรมาทำไม" น้ำเสียงทุ้มหงุดหงิดพูดส่งไปยังปลายสาย..."เห็นแก่กินจริงๆเลย"..."เออๆรู้แล้ว เดี๋ยวซื้อเข้าไป"สายเมื่อครู่ที่โทรเข้ามาคือน้องสาวของอันดา เธอฝากซื้อขนมเค้กสตอเบอรี่ร้านโปรด"เค้กสตอเบอรี่สองชิ้นครับ" อันดายืนหน้าเคาน์เตอร์แล้วสั่งเค้กชิ้นโปรดให้กับฟ้าใสทว่าจู่ๆกลับมีเสียงซุบซิบนินทาของผู้หญิงหลุ่มหนึ่งกำลังนินทาเขาอยู่ในระยะใกล้อันดาได้ยินคำนินทาทุกคำ และเธอพวกนั
ส่วนฟ้าใสลูกสาวคนเล็กเธอเป็นสาวหน้าหวานเหมือนกับฉันไม่มีผิด แต่นิสัยกลับไม่เหมือนฉันเลยสักนิด ออกจะเอาแต่ใจเสียด้วยซ้ำไป แล้วก็ชอบทำอะไรที่มันท้าทายอย่างเช่น แข่งรถ อะไรที่เสี่ยงตายเขาชอบหมด แค่คิดก็เป็นห่วงกลัวเธอจะทำอะไรโลดโผน"พี่เตอร์คะ แคร์เป็นห่วงลูกจังเลยค่ะ""พี่เองก็เป็นห่วง เราตัดสินใจลองให้เขาได้ใช้ชีวิตกันเองไปสักพัก ให้ลูกๆของเราได้ดูแลตัวเอง ตัดสินใจอะรได้ด้วยตัวเอง พี่เชื่อว่าลูกของเราแกไม่ทำตัวเหลวแหลกแน่นอน คนเป็นพ่อเป็นแม่ทำได้แค่คอยดูพวกเขาเติบโตอยู่ห่างๆอย่างห่วงๆ แต่ถ้ามันไม่เวิร์คเราก็ค่อยคุยกับพวกเขาอีกที""ค่ะ"หลังจากที่คุณพ่อคุณแม่กลับไป อันดา ฟ้าใส เปิดกระเป๋าเก็บของใช้ส่วนตัวไว้ห้องใครห้องมัน"ฟ้าใส เดี๋ยวพี่มา" อันดาเดินเปิดประตูเข้ามาในห้องนอนของน้องสาว"จะไปไหน นัดสาวไว้หรือไง คุณพ่อคุณแม่เพิ่งจะกลับไป จะหนีเที่ยวแล้วงั้นสิ""ไม่ได้เที่ยวไหนหรอกหน่า แค่จะไปทำธุระนิดหน่อย""พี่เนี่ยนะ ทำธุระ ธุระอะไร""เรื่องของผู้ใหญ่ เด็กไม่เกี่ยว""โห ดูพูดเข้า เกิดก่อนนาทีเดียว คิดว่าเป็นผู้ใหญ่อายุหกสิบหรือไง""เอาหน่า เดี๋ยวพี่มา ไม่ได้ไปเที่ยวไหนหรอกหน่า"อันดาบอกใ
ตอนพิเศษ 6 [เฉพาะกิจ]เด็กผมเปีย ฉันกับพี่เตอร์และลูกๆขึ้นมายังห้องคอนโดของเจ้าสองแฝดเพื่อมาตรวจความเรียบร้อยภายในห้องก่อนจะกลับถึงคราวที่ต้องปล่อยให้ลูกได้มีชีวิตอิสระ ถึงเขาสองคนจะโตพอที่ดูแลตัวเองได้ แต่คนเป็นแม่อย่างฉันกลับรู้สึกโหวงเหวงยามที่ต้องห่างลูก"ทุกอย่างครบนะลูก มีอะไรขาดเหลือก็บอกพ่อกับแม่นะ" คอนโดหรูใจกลางเมืองแห่งนี้เป็นคอนโดแบบสองชั้น ติดรถไฟฟ้า เดินทางสะดวก และแน่นอนว่าคนที่จัดการก็จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากสามีของฉันที่เป็นคนซื้อให้ตอนแรกอันดากับฟ้าใสจะขอแยกห้องอยู่ แต่ฉันค้าน ถึงเขาสองคนจะชอบทะเลาะกันแค่ไหน แต่ฉันเชื่อว่ายังไงลูกแฝดสองคนนี้จะต้องดูแลกันได้ แต่ทว่าความแสบเนี่ยสิ น่าจะกินกันไม่ลง คงไม่มีใครยอมใครภายในห้องคอนโดมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ลูกชายฉันชอบเล่นสนุ๊กเกอร์มาก ตอนอยู่ที่บ้านก็เล่นกับพ่อของเขาอยู่บ่อยๆ ลูกชายก็เลยขอโต๊ะสนุ๊กมาไว้เล่นที่ห้อง ส่วนลูกสาวเธอไม่ขออะไรมาก แค่อยากได้ทีวีหกสิบนิ้วเพื่อติดไว้ดูซีรีส์ตอนกลางคืนให้หนำใจทุกอย่างสะดวกสบายเหมือนได้อยู่บ้าน ห้องนอนก็มีสองห้อง อยู่ทางด้านชั้นบน แบ่งโซนของใครของมัน ต่างคนต่างอยู่ ข้าวของเครื่
ตอนพิเศษ 5 [เฉพาะกิจ]ท้องแฝดหลังจากวันที่เราสองคนแต่งงานกัน ฉันขอร้องพี่เตอร์ว่าขอทำงานที่โรงพยาบาลก่อนสักสองถึงสามปี แต่เขาต่อรองให้ฉันทำงานแค่หนึ่งปีเท่านั้น ตั้งแต่แต่งงานมาพี่เตอร์เอาแต่ใจมากๆ ถึงขนาดว่าฉันต้องเรียกเขามานั่งจับเข่าคุยกัน ถึงได้รู้สาเหตุว่าทำไมเขาถึงเอาแต่ใจไม่ฟังเหตุผล และไม่ยอมให้ฉันได้ทำงานในอาชีพที่ฉันรัก ร่ำเรียนมาหกปีขอใช้วิชาความรู้ได้ช่วยเหลือคนสักหน่อยเถอะและสาเหตุที่เขางอแงหนักขึ้นก็เพราะฉันเคยบอกเขาไว้ว่าจริงๆแล้วเสป็คของฉันชอบคนในเสื้อกาวน์ ขาวสะอาด ไม่ใช่เสื้อช็อป นั่นคือสิ่งที่ทำให้พี่เตอร์วิตกมาตลอดถึงได้คัดค้านไม่ให้ฉันมาทำงานที่โรงพยาบาลทำเอาฉันเกือบท้อเหมือนกัน แต่เขาก็ยอมใจอ่อนทำตามคำขอของฉัน และแน่นอนว่าสิ่งที่เขาต่อรองทำเอาฉันถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ระหว่างนี้เขายอมให้ฉันได้ทำงานอาชีพหมอตามที่วาดฝัน แต่ถ้าเกิดเขาเสกเด็กแฝดเข้าท้องได้เมื่อไหร่ ฉันต้องยุติบทบาทอาชีพหมอในทันทีหนึ่งปีผ่านไป ผลผลิตที่พี่เตอร์ตั้งใจทำตอนนี้มันออกดอกออกผลอย่างไม่น่าเชื่อ และฉันก็ต้องยุติบทบาทคุณหมอตามสัญญา เพราะฉันมีอาการเวียนหัวและอาเจียนหนักมากขึ้น ในคราแรกฉันคิ
ตอนพิเศษ 4 [เฉพาะกิจ]คืนวิวาห์ วันสำคัญที่ฉันและพี่เตอร์รอคอยก็มาถึง พิธีวิวาห์ถูกจัดขึ้นตามฤกษ์ที่คุณแม่ของเราทั้งสองคนเป็นคนหามาให้สถานที่งานมงคลจัดขึ้นที่โรงแรมชื่อดังอันดับหนึ่งของประเทศไทยในเครือ pya ซึ่งเป็นโรงแรมของครอบครัวพี่เดลที่มีอยู่ทั่วทุกภูมิภาคท่ามกลางเสียงเพลงหวานเคล้าคลอจากวงดนตรีออเครสต้า ทำให้บรรยากาศในงานอบอวลไปด้วยความสุข แต่ทว่าเจ้าบ่าวที่ยืนอยู่ข้างๆฉันก็ยังคงแสดงสีหน้าเรียบนิ่งตั้งแต่ลงจากเวทีพิธีทุกขั้นตอนของงานวิวาห์จบลงเป็นที่เรียบร้อย เราสองคนจึงเดินไปตามโต๊ะแขกเหรื่อเพื่อขอบคุณทุกคนที่มางานมงคลสมรสของเราในวันนี้"พอใจไหมเพื่อน" พี่เดลเอ่ยถามเจ้าบ่าวที่ยืนแสดงสีหน้าเรียบนิ่งพร้อมกับตบลงบนบ่าของเจ้าบ่าวด้วยใบหน้ายิ้มแย้มพี่เดลภูมิใจมากกับผลงานของตัวเอง เขาเป็นคนเสนอสถานที่และเป็นคนเนรมิตห้องบอลรูมออกมาสวยงามและอลังการมากๆ"อืม""อืมของมึงนี่พอใจหรือไม่พอใจวะ""เออ ขอบใจมาก" เขาไม่ตอบกลับว่าพอใจหรือไม่พอใจ พี่เตอร์ออกอาการเซ็งๆที่เพื่อนของเขาเจ้ากี้เจ้าการจัดให้ทุกอย่าง ก็เจ้าบ่าวของฉันอยากคิดคอนเซปต์เนรมิตงานแต่งด้วยตัวเองเพราะเป็นงานมงคลที่มีแค่ครั้งเ
"แคร์ พี่เอง" เหมือนฉันจะได้ยินเสียงพูดจากคนที่อยู่ในตัวพี่หมี"อะไรนะคะ""พี่เอง" เสียงจากด้านในเอ่ยบอกก่อนที่พี่หมีจะชี้ไปที่พี่ๆกลุ่มวิศวะหลุดขำกันออกมาเสียงดัง ฉันที่เห็นแบบนั้นก็ยิ่งงงเข้าไปใหญ่ ขนาดว่าพี่มารีเธอเองก็ยังยืนงง"หัวเราะอะไรกันคะ"พรึ่บ~"แคร์~" เมื่อคนข้างในตัวมาสคอตถอดหัวก็ทำเอาฉันตกใจมาก"พี่เตอร์" พี่หมีมาสคอตสีขาวที่อยู่ตรงหน้าฉันคือเขางั้นหรอ ใบหน้าหล่อเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อเต็มหน้า"พวกมึง" เขาหันไปชี้หน้าคาดโทษพวกกลุ่มพี่ๆวิศวะ"พี่เตอร์ไปอยู่ในนั้นทำไมคะ""ก็พวกแม่ง...ช่างมันเถอะ เพราะตอนนี้มีสิ่งที่สำคัญกว่า""..."เขาวางหัวมาสคอตหมีลงแล้วนั่งคุกเข่า "เอาของมา" เขาหันไปบอกกับพี่เลโอด้วยน้ำเสียงติดห้วน คงเพราะยังรู้สึกเคืองที่โดนเพื่อนแกล้งฉันเห็นพี่เลโอหยิบกล่องกำมะหยี่สีแดงกล่องเล็กๆยื่นมาวางไว้ที่มือของเขาที่กำลังสวมใส่ชุดมาสคอตอยู่ฉันที่เห็นเหงื่อผุดเต็มใบหน้าหล่อก็เลยเดินไปหยิบทิชชู่ที่อยู่บนโต๊ะแล้วเอามาซับหน้าให้เขา"น่ารักจัง""แล้วจะบอกแคร์ได้หรือยังคะว่าใส่มาสคอตทำไม มันร้อนมากเลยนะ ดูสิ เหงื่อเต็มหน้าเลย" ฉันบอกในขณะที่กำลังซับเหงื่อบนใบหน้าให้ก






