Episode 44
อิสระของคนแอบรัก
“สวัสดีค่า” โบกมือให้คนในกล้องพลางส่งยิ้มให้ เช้านี้ก็เป็นอีกวันที่ฉันวิดีโอคอลหาแม่ แล้วก็ได้เห็นแม่กำลังเดินลัดเลาะตามริมชายหาดเพื่อรับแสงแดดยามเช้า
[เป็นไงลูก หายดีหรือยัง]
“เกือบดีแล้วค่ะ อีกนิดเดียว แล้วแม่ล่ะคะ เมื่อไหร่จะขึ้นมาหาหนู”
[อีกนิดเดียว] แม่ตอบคำถามด้วยคำเดียวกัน พร้อมทั้งเปลี่ยนเป็นกล้องหลังให้ฉันได้เห็นวิวทะเลที่สวยงาม ทว่าวูบหนึ่งภาพบนหน้าจอกลับทำให้ฉันนึกถึงเรื่องในวันวาน ฉันไม่เคยลืมเลยว่าความทรงจำเก่า ๆ ที่แสนสุขเกิดขึ้นที่นั่น ครั้งหนึ่งเราเคยไปพักผ่อนกันสามคนพ่อแม่ลูก เป็นครอบครัวที่อบอุ่น ก่อนจะเป็นครอบครัวที่แตกหักในภายหลังเมื่อความรักของคู่สามีภรรยาเริ่มเจือจางลง
“สวยจังค่ะ” พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ จู่ ๆ สมองก็สั่งการให้คิดถึงเขาคนนั้น
[สวยมาก ไว้โรคระบาดหายลูกค่อยมาเที่ยวนะ]
“ค่ะ อยู่ที่นั่นกับใครคะ”
[อยู่กับลุงไง] แม่สลับกล้องกลับมาแล้วตอบกลับ
“ค่ะ ใช้ชีวิตที่นั่นให้สนุกนะคะ แล้วก็ระวังตัวด้วย” ส่งยิ้มให้แล้วเตือนสติให้แม่ไม่ลืมป้องกันตัวเอง ช่วงนี้ยิ่งมีโรคระบาดรุนแรงอยู่
[ขอบใจจ้าคุณมินนี่]
“แม่อะ!”
[คุณกานต์!] ณ ขณะนั้นเองเสียงในสายก็ดังแทรก แม่ทำท่าทางชะเง้อก่อนหันมาสบตาฉันในจอมือถือ [คุณกานต์ขอตัวก่อนนะ พอดีมีงานเข้า]
“บายค่ะ”
[บายจ้ะ รักลูกนะ]
“รักแม่เหมือนกันค่ะ” ถอนหายใจออกมาหลังจากสายตัดไป ทะเลสีฟ้าสดใสทำให้หัวใจฉันหม่นหมองลงเพราะความคิดถึง ตั้งแต่เกิดเรื่องในวันนั้น พ่อก็ไม่เคยมาให้ฉันเห็นหน้าเลยสักครั้ง ไม่รู้ว่าป่านนี้เขาจะเป็นยังไงบ้าง หวังว่าพ่อคงไม่กลับไปง้อแม่ตามคำขอของฉันหรอกนะ และหากเขาจะหาความสุขจากผู้หญิงนับร้อยฉันก็ดีใจด้วย
เป็นโสดแล้วจะทำอะไรก็ทำไปเหอะ ฉันไม่ว่า
จุ๊บ!
รับรู้ถึงความอุ่นตรงซีกแก้มด้านซ้าย ฮีลใช้ริมฝีปากนุ่มหยุ่นกดเบา ๆ ตรงนั้น พร้อมทั้งเข้ามาโอบเอวเอาไว้ในระดับที่พอดี ไม่แน่นเกินไปและไม่หลวมเกินไป
“คิดอะไรอยู่”
“คิดถึง...” ชะงักไปเพียงแค่นั้น ครุ่นคิดว่าควรจะปิดบังความรู้สึกตัวเองอย่างที่เคยทำบ่อย ๆ อีกต่อไปไหม ความอ่อนแอฉันไม่ค่อยอยากให้ใครได้เห็นมัน แต่ก็อดที่จะอ่อนไหวไม่ได้เลย
วันนั้นที่ฉันพูดกับพ่อมันดูแรงไปไหมนะ จู่ ๆ ก็คิดถึงข้อนี้ขึ้นมาเสียดื้อ ๆ
“คิดถึงก็ไปหา”
“ฉันไม่กล้า” ฉันไล่เขานะ ไล่เขาให้ออกไปจากชีวิตฉันเองแล้วจะไปทำอย่างนั้นได้ยังไงล่ะ ต่อให้บังเอิญเจอกันฉันก็ไม่อาจสู้หน้าพ่อได้
“ฉันรู้นะว่าเธอโกรธ” ออกแรงกระชับแน่นแล้วกดจมูกลงตรงซีกแก้มซ้ำจุดเดิม ถัดมาก็เกยคางบนไหล่ฉัน “และก็รู้ว่าเธออยากจะให้อภัยเขา”
“เช้านี้มีอะไรกินไหม”
“มีสิ เช้า ๆ แบบนี้ อันนี้อร่อยมาก”
“อะไร”
“ซงจุงฮีล” ถึงกับต้องกลอกตามองบน คิดว่าตัวเองหล่อแบบพระเอกเกาหลีมากมั้ง ฮีลโหมดหลงตัวเองก็มา
“มีอะไรนอกจากซงจุงฮีลไหม พอดีฉันเบื่อแล้ว”
“มี” ว่าแล้วฝ่ามือหนาก็จับมือฉันไพล่ไปทางด้านหลัง ก่อนจะได้รับสัมผัสนูน ๆ ตรงนั้น
“ไม่เอา” รีบสะบัดมือออกแทบจะทันที เข้าเรื่องสิบแปดบวกแต่เช้าเลยนะ
“สักหน่อยไม่ได้เหรอ มีเรียนตั้งช่วงบ่าย”
“อยากนอนต่อ” รีบบอกปัดออกไปก่อนจะหมุนตัวหนี กระโดดลงบนที่นอนพร้อมทั้งหลับตาลงอย่างรวดเร็ว เมื่อคืนทำโปรเจกต์สั้น ๆ ก็ลากยาวไปถึงตีสามละ เช้านี้หากฉันต้องตื่นมารับศึกหนักจากมันอีกก็ไม่ไหวนะ
ดูเหมือนคนหน้านิ่งจะเปลี่ยนเป็นคนหน้ามึนอีกแล้ว พอฉันนอนหลับมันก็ล้มตัวลงนอนบ้าง พร้อมทั้งวาดแขนมาโอบเอวเอาไว้ แล้วก็ใช้มืออีกข้างตะปบลงตรงทรวงอกนุ่มหยุ่น ก่อนจะบีบเคล้นเบา ๆ
ดิ้นขลุกขลักด้วยความรู้สึกรำคาญ คือฉันกำลังจะเคลิ้มหลับอยู่แล้วเชียว ทำไมต้องมากวนกันด้วยล่ะเนี่ย
“หยุดเลย”
“ฉันแค่จะนอนด้วย” มือที่เคยฟอนเฟ้นหยุดนิ่ง ทว่าไม่ได้เปลี่ยนตำแหน่งไปไหน ยังคงวางอยู่ที่เดิม แต่ฮีลไม่ได้ทำอะไรไปมากกว่าการปล่อยให้ฉันพักตามคำขอ
เฮ้อออ โล่งอกไปที นึกว่ามันจะ ‘อยาก’ อย่างเดียวโดยไม่สนใจฉันเสียอีก
เวลาผ่านไปจนเสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น เป็นอีกครั้งที่ฉันลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าตัวเองอยู่ในอ้อมแขนอันอบอุ่น และก็เป็นทุกครั้งที่ฉันไม่อยากจะลุกไปไหน เพราะรู้สึกเสียดายอ้อมกอดนี้
‘คลั่ง’ ใช้คำนี้ได้ไหม เพราะตอนนี้ฉันไม่อยากจะห่างกับมันเลย
ทั้งที่ฉันกับมันก็อยู่ใกล้กันมาโดยตลอด แต่ฉันกลับโหยหามันมากขึ้นกว่าครั้งก่อน ๆ และมีแนวโน้มรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ อีกต่างหาก อาจจะเป็นเพราะความรู้สึกที่ปิดกั้นกดให้รู้สึกว่าอ้อมกอดที่ได้รับก่อนหน้านั้นมันไม่อบอุ่นเท่าที่ควร มาถึงตอนนี้เลยโหยหามากเป็นพิเศษ
กระทั่งเปลือกตาของคนตรงข้ามขยับขึ้น ก่อนจะลืมตามาสบตาฉัน ยกมุมปากสูงขึ้นพร้อมทั้งกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นอีก
“มองแบบนั้นทำไม”
“อยากมอง ฉันว่าฉันไม่เคยสังเกตหน้านายแบบชัด ๆ เลยนะ ไม่เคยรู้ว่านายมีรอยดำเล็ก ๆ ตรงนี้ด้วย” จิ้มนิ้วลงบนมุมปากแล้วพูดไปเรื่อยเปื่อย “แล้วก็รอยแผลเป็นเล็ก ๆ ตรงหน้าผากนี่ก็ด้วย” มือของฉันเปลี่ยนตำแหน่งไปยังเส้นผมสีเทา ปัดมันขึ้นเพื่อเปิดรอยแผลเป็นตรงนั้น
“แผลเป็นจากอีสุกอีใสน่ะ”
“อ้อ ฉันก็มีนะ”
“รู้ ตรงจะงอยผม” ฮีลตอบ พร้อมแตะเบา ๆ ที่จะงอยผม นำส่วนที่ตกลงมาขึ้นไปทัดหูให้
“ของฉันก็แอบ แต่ทำไมนายเห็น”
“ฉันแอบมองเธออยู่ตลอดเวลาที่เธอหลับ” ว่าแล้วก็จับมือฉันมาบีบเล่นเบา ๆ ถัดมาก็ยกขึ้นมาทาบทับกับพวงแก้มของตัวเอง “ตอนหลับฉันมักเป็นอิสระ”
‘อิสระ’ เหรอ ประโยคนั้นหมายความว่ายังไงกันนะ
“ฉันกอดเธอได้ มองเธอได้โดยที่ไม่ต้องโดนบ่น บางครั้งก็แอบจูบเบา ๆ ที่ปากเล็ก ๆ นี่” นิ้วเรียวยาวแตะลงตรงริมฝีปากของฉัน ก่อนไล้มันจากฝั่งซ้ายไปยังฝั่งขวา “ทำแบบนั้นได้อย่างเป็นอิสระ”
“นายเป็นโรคจิตหรือเปล่า แอบลักหลับฉัน”
“เธอจิตกว่า” คำพูดนั้นทำให้ฉันต้องมุ่นคิ้วขึ้น อะไรคือคำว่า ‘จิตกว่า’
“เธอทั้งกอดทั้งหอมฉันในตอนที่ตัวเองหลับ” ถึงคำนี้ฉันก็อ้าปากค้าง รู้ว่ากอดมันทุกครั้งที่นอนด้วยกันเพราะตื่นเช้ามาทีไรฉันก็เห็นว่าแขนตัวเองพาดไปบนตัวฮีลตลอด แต่การที่ฮีลบอกว่าฉันหอมมันด้วยนี่ฉันไม่รู้ตัวจริง ๆ
ใช่เหรอ?
“เธอชอบกลิ่นนี้” ฝ่ามือหนาอ้อมมาประคองที่ศีรษะ ออกแรงรั้งให้ฉันซุกใบหน้าลงบนแผงอกแกร่ง
“บางครั้งก็ละเมอว่าหอมด้วย”
ขะ...ขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยจริง ๆ
“นะ...นายเติมประโยคหรือเปล่า”
“ไม่นะ เธอชอบมันจริง ๆ”
“ฉันไม่รู้ตัวเลย” ผละหน้าออกมาก็ส่งยิ้มแห้ง ๆ ไปให้ ฉันไม่รู้เลยจริง ๆ
“เธออ่อยฉันในตอนที่ตัวเองหลับตลอด แบบนี้จะไม่ให้ฉันรักได้ยังไง”
“พูดมากไปแล้ว” จู่ ๆ ก็อยากให้ฮีลมันกลายเป็นคนนิ่งคนเดิม ทำไมช่วงนี้มันพูดมากจัง พูดมากจนทำให้ฉันออกอาการเขินเป็นพัก ๆ
“หยุดพูดเลย”
“ปิดปากฉันหน่อย” พูดมากไม่พอ คราวนี้มันเปิดโหมดอ้อนเพิ่มขึ้นมาอีก ทั้งน้ำเสียงและแววตาที่ส่งมาทำให้ฉันใจอ่อนยวบยาบ ไม่น่าเชื่อเลยว่าคนที่คุ้นเคยกันดีจะทำให้ฉันใจเต้นแรงและรู้สึกแปลกใหม่ราวกับยังไม่คุ้นเคยได้ขนาดนี้
ความรู้สึกบ้าอะไรกัน นี่เหรอ ความรักที่ฉันพยายามต่อต้านมันมาตลอด
ตอนพิเศษ 2ขอแต่งงานฉบับซงจุงฮีล“โหหหห นังดาวยั่ว วันนี้มาในลุคสตรีตเลย” ลูกปลาพูดขึ้นเมื่อฉันเดินออกมาจากห้องพักไรง่ะ มาถึงนี่ทั้งทีก็ต้องแต่งตัวให้อินเทรนด์หน่อยสินี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ฉันได้ออกมาเที่ยวต่างประเทศอีกครั้ง แน่นอน ติ่งอย่างฉันก็ต้องเลือกเกาหลีเป็นประเทศแรก“ไม่ได้เที่ยวซะนาน ต้องอินเทรนด์หน่อย” เชิดหน้ามั่น ๆ แล้วพูดออกมา ก่อนปรายตามองคนอื่นวันนี้เพื่อน ๆ ต่างก็อยู่ในชุดเดรสสีขาวกันหมด เพราะนัดกันไว้ว่าธีมสีขาว ซึ่งฉันรู้แล้ว แต่ไม่เอาอะ ฉันไม่ชอบใส่เดรสสีขาว ก็เลยเลือกใส่เป็นชุดนี้แทน“ไม่ได้! ชุดนี้เอาไว้ใส่พรุ่งนี้ วันนี้ใส่ให้เข้าธีม” แสนดีเริ่มพูดขัด ข้าง ๆ มันเป็นพี่รามที่มาด้วยในวันนี้“ใช่! ดูสิ ขนาดเดมี่ยังใส่ชุดสีขาวเลยเนอะเดมี่เนอะ”“แอ๊” เสียงเด็กน้อยร้องขานรับ ทำให้ฉันต้องยื่นมือไปบีบแก้มนุ่มนิ่มของเดมี่ ลูกสาวตัวน้อย ๆ ของยัยลูกพีชเชื่อไหมว่าสองคนนี้น่ะรักกันมาก เพราะหลังจากเรียนจบลูกพีชก็มอบของขวัญวันเกิดให้แก่คุณป๋าทันทีนั่นก็คือการปล่อยตัวเองให้ท้องตั้งแต่ก่อนจบ เนื่องจากอายุอานามของคุณป๋าก็ไม่ใช่น้อย ๆ คู่นี้จึงต้องรีบมีกันหน่อยน่ารักเนอะ
ตอนพิเศษ 1คำขู่ของซงจุงฮีล“ไปแล้วนะ”“อือ มากอดที”เข้าสวมกอดแฟนตัวเองเอาไว้แน่นเพื่อแทนความคิดถึง ก่อนคลายมันออกหลังจากชื่นใจพอแล้ว ฉันจ้องดวงตาสีนิลของฮีล แววตาคู่นั้นยังคงนิ่งสงบอยู่เหมือนเคย ทว่ามุมปากที่ยกยิ้มทำให้ใบหน้านั้นไม่ดูไร้ชีวิตชีวามากเท่าใดวันนี้ฉันจะต้องพาพนักงานบริษัทไปทริปเที่ยวประจำปีที่ทะเลสุราษฎร์ฯ ซึ่งเป็นนโยบายอย่างหนึ่งที่ช่วยสร้างกำลังใจให้กับพนักงาน เรียกได้ว่าเป็นโบนัสอีกก้อนเลยก็ว่าได้“เดินทางดี ๆ ถึงแล้วโทรหาด้วย”“โอเค เสร็จแล้วตามมานะ” ฉันพยักหน้า ก่อนมองอีกฝ่ายด้วยความคิดถึง หากไม่ติดว่าฮีลเองก็มีงานที่ต้องทำเหมือนกันฉันคงอ้อนวอนขอให้มันไปด้วยกันตั้งแต่วันนี้แล้ว แต่เพราะอีกฝ่ายก็งานยุ่งพอสมควรเลยทำอย่างที่คิดไว้ไม่ได้ ถึงอย่างนั้นฮีลก็ยังอุตส่าห์รับปากว่าหากเสร็จงานแล้วจะรีบตามมาจริง ๆ แล้วเราสองคนไม่เคยห่างกันนานเลย“อือ”หลังจากนั้นก็เดินไปขึ้นรถเพื่อออกเดินทาง ใช้เวลาจนเย็นก็เดินทางมาถึงที่นี่ ฉันเลือกที่จะเข้าห้องพักในทันทีแล้วนอนหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย ก่อนจะตื่นมาพบกับพระอาทิตย์ตกในยามเย็นทะเลที่นี่สวยมาก สวยพอ ๆ กับทะเลตอนนั้นเลย ตอนที่ฉัน
Episode 53พื้นที่ที่ฉันอยากจะเข้าไป“ทำไมถึงพามาที่นี่อะ” ฉันเอ่ยถามหลังจากย่างสามขุมเข้ามาในคอนโดของตัวเอง จะว่าไปก็ผ่านมานานแล้วเหมือนกันที่ฉันไม่ได้เข้ามาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เกิดเรื่องนั้น...“มันเป็นที่ที่ฉันอยากมา”“หืม...” ฉันร้องหืมในลำคอ มองใบหน้าอีกฝ่ายแล้วพยายามเดาความคิดของฮีล “ทำไมอะ ถ้าเราจะเดตกัน นายก็จะเลือกเดตที่นี่เหรอ”“อือ”“เพราะ?”“มันเป็นพื้นที่ส่วนตัวของคุณเมาส์...” เซอร์ไพรส์กับคำตอบที่ได้มาก ๆ ไม่น่าเชื่อว่าคำพูดแค่นั้นของผู้ชายหน้านิ่งอย่างฮีล ถึงกับทำให้ฉันรู้สึกเหมือนถูกหยอดให้เขินซ้ำแล้วซ้ำเล่า “พื้นที่ที่ฉันอยากจะเข้าไปมาก”“อือ แต่ตอนนี้ก็ทำสำเร็จแล้ว พอใจหรือยัง”“เข้าห้องเถอะ อยากโดนป้อนจูบแล้ว” ฝ่ามือหนาออกแรงรั้งให้ฉันเดินเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง“ถามจริงนะ ถ้าวันไหนไม่ได้จูบจะเบื่อฉันไหม ถ้าวันไหนที่ฉันให้เรื่องเซ็กซ์กับนายไม่ได้”“ถามอะไรแปลก ๆ” ฮีลตอบ ทรุดกายลงกับเตียงใหญ่ขนาดคิงไซซ์แล้วพูดต่อ “ห่างกันมาเป็นเดือนก็เคยมาแล้ว”“นั่นสินะ”“หยุดกังวลไปได้เลยว่าฉันจะรักเธอเพียงเพราะแค่เซ็กซ์” น้ำเสียงนั้นไม่ได้ส่อแววน้อยใจ แต่ฟังแล้วออกเจ้าเล่ห์อย่างไรอ
Episode 52จูบมัดจำ“อีมินนี่! แกทำลูกฉัน!” เสียงนี้ดังมาก่อนตัวจนฉันต้องหันไปมอง ก่อนพบผู้หญิงคนที่เคยอยู่ในตำแหน่งแม่เลี้ยงกำลังวิ่งเข้ามาหาด้วยท่าทางคุกคาม ทว่าสองมือกลับไร้เครื่องมือประทุษร้ายแต่เมื่อกี้เหมือนทางนั้นจะพูดอะไรผิดไปนะ ลูกสาวของมันต่างหากที่ทำฉันก่อนเพราะเธอพุ่งเข้ามาอย่างไร้การตรึกตรอง การส่งเสียงมาก่อนตัวในระยะร้อยเมตรจึงทำให้ฮีลกับพี่ฮัทที่นั่งทานข้าวอยู่กับฉันรีบกันออกไปได้ทัน“อีมินนี่ ฮืออออ” หลังจากที่ทำอะไรฉันไม่ได้เธอก็ทรุดลงกับพื้นพร้อมทั้งร้องไห้โฮ ก่อนจะรำพันไปเรื่อยเปื่อยคล้ายคนบ้าเฮ้อออ เห็นแล้วถึงกับต้องพรูลมหายใจออกมา ทำไมสองคนนั้นถึงเอาแต่คิดว่าฉันเป็นตัวต้นเหตุ ทั้งที่ความจริงคือพวกมันต่างหากที่เป็นคนเริ่มเป็นคนเข้ามาทำให้ชีวิตครอบครัวของฉันวุ่นวาย“รอสงเคราะห์คนที่อยู่ในเรือนจำก็พอ อย่าเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในนั้นเลย”“แก!”“ไม่ต้องมาเรียก! ฉันใจดีแค่ไหนที่ให้มันไปนอนในคุกเฉย ๆ ไม่ทำกับมันเหมือนที่มันจะทำกับฉันก็บุญแล้ว!”ตอบแค่นี้คนข้างล่างก็มองฉันด้วยแววตาเคียดแค้น ถัดมาแววตาก็อ่อนลงเหมือนคนหมดหวัง นั่งเหม่อลอยบนพื้นคอนกรีตด้วยดวงตาที่ปริ่มน้ำส
Episode 51ห้านาทีMinnie’s Part“ว้ายยยย” เกือบจะลื่นล้มหัวแตกเข้าให้เมื่อเดินเข้ามาก็เจอกับพื้นเปียก ๆ ไม่รู้ว่าป้าแม่บ้านทำอะไรหก ถ้าฮีลไม่รับไว้ป่านนี้ฉันคงเจ็บตัวไปแล้วล่ะมั้งคราวซวยจริง ๆ เลยช่วงนี้ ฉันว่าชีวิตฉันยังไม่ถึงวัยเบญจเพสเลยนะ“ขอโทษค่ะคุณ หนูนาเผลอทำน้ำหก” ถึงตอนนี้ฉันก็มองหน้าไอ้ฮีลเป็นเชิงถามว่าคนนี้ใคร วันนี้จู่ ๆ ก็มีใครที่ไหนไม่รู้ชื่อหนูนาเข้ามาที่นี่ แล้วมือที่จับไม้ถูพื้นนั่นหมายความว่ายังไงก็ไม่รู้“เอ่อ...สวัสดีค่ะ หนูนามาช่วยป้าจ๋าทำงานเพราะวันนี้แกป่วยค่ะ” ฉันปรายตามองเด็กสาวที่อยู่ในชุดเดรสสีชมพูสวมทับด้วยผ้ากันเปื้อน มัดผมเรียบร้อยดูน่ารัก แถมยังสวมแมสก์ปิดปากอย่างมิดชิดก็รู้ว่าช่วงนี้มันต้องป้องกัน แต่แอบคิดว่ามันไม่ร้อนเหรอถ้าจะใส่ตอนทำงานขนาดนี้ เพราะก่อนหน้านี้ก็ไม่มีใครอยู่ในคอนโด ไม่เห็นจะต้องกังวลอะไรเลย“เหรอ งั้นตามสบายนะ”“ค่ะ ขอโทษอีกครั้งนะคะ”“อือ” ว่าแล้วก็เดินไปหย่อนก้นลงบนโซฟาตัวเก่ง ก่อนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาไถไปเรื่อยเปื่อยแก้เบื่อ “ฮีล ลืมบอกว่าเมื่อเช้าพี่คลาสเอาคลิปนั้นมาให้แล้วอยู่ในห้องน่ะ”“อือ หิวไหม” ร่างสูงนั่งลงข้าง ๆ ก่อนวาดแข
Episode 50โอกาสแก้ตัวพลิกตัวไปหาคนที่กำลังนอนหงายแล้วใช้มือไพล่หลังคออยู่ ท่าทางของฮีลคล้ายกำลังคิดอะไรสักอย่าง และดูคิดมากจนฉันต้องหันไปถามสีหน้าฮีลไม่ได้ฟ้องหรอก แต่เพราะค้างอยู่แบบนี้นานแล้ว ก็เลยต้องตั้งคำถามสักหน่อย“มีอะไรเหรอ”“เรื่อง Memory Card” ฮีลตอบสั้น ๆ บอกแค่นั้นฉันก็พยายามนึกตาม ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ก็ผ่านมาสองวันแล้ว แต่เรายังไม่ได้หลักฐานชิ้นนั้นกันเลย“ไม่มีอะไรหรอกมั้ง ก็คุณเลขาเขาบอกว่ายังติดธุระนี่!”“ฉันกลัวว่าทางนั้นจะอยากแก้แค้นแทนเมียตัวเอง” ฮีลคงหมายถึงอาเกริกสินะ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องของผู้ใหญ่เป็นยังไง แต่เรื่องของฉันกับพี่คลาสอะลงตัว ส่วนกับอาเค้กท่านก็ดูเอ็นดูฉันพอสมควร เดาจากท่าทางที่แสดงออกในวันนั้นฉันคิดเป็นอื่นไม่ได้จริง ๆ“ไม่มีอะไรหรอก”“อย่าพูดแบบนี้คุณเมาส์ ทั้งที่ตัวเองเกือบจะโดนกระทำตั้งหลายรอบ”“เข้าใจก็ได้ ว่าแต่คุณเมาส์นี่คืออะไรเหรอ” ยกคางไปเกยเข้ากับแผงอกแกร่งแล้วช้อนสายตาขึ้นมอง ตั้งแต่วันนั้นฉันยังไม่รู้ความหมายของคำว่า ‘เมาส์’ เลย“คือชื่อของเธอไง” ฝ่ามือหนายกขึ้นลูบศีรษะฉันเบา ๆ “มินนี่ เมาส์”“โหยยยย ไรอะ ไม่อินเลย” บ่น