Episode 45 แลกจูบ

Episode 45

แลกจูบ

ละสายตาจากจอมือถือแล้วหันไปมองร่างสูงซึ่งยืนเกาะราวระเบียงอยู่ หลังเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังจะล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงฉันก็หยัดกายลุกแล้วรีบเปิดประตูออกไป คว้าสิ่งที่ฮีลกำลังถืออยู่แล้วปล่อยมันทิ้ง ก่อนจะประกบปากอย่างแนบชิดกับริมฝีปากของอีกฝ่าย

ครั้งก่อนมันเคยบอกว่าจูบนี้ช่วยลดความกระหายได้ ไม่รู้ว่าคำนั้นมันพูดจริงหรือเพียงเพราะต้องการจะหยอดฉัน ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังเลือกที่จะมอบจูบแสนหวานให้แทนนิโคตินที่เป็นของเสีย

“อืมม” ฮีลครางรับในลำคอ มือซึ่งเคยอยู่เฉย ๆ เริ่มยุ่มย่าม ลูบไล้ไปทั่วผิวกายของฉัน

ถูกผลักให้เข้าไปในห้องแล้วดันจนหลังชนกับกำแพงทั้งที่ริมฝีปากยังไม่ถอนออกจากกัน เมื่อแผ่นหลังสัมผัสกับความเย็นเฉียบฮีลก็ค่อย ๆ ปล่อยมือออก อ้อมมือไปทางด้านหลังโดยไม่ได้แตะต้องตัวฉัน ทว่าแรงขยับทำให้ฉันเข้าใจได้ว่ามันกำลังทำอะไรยุกยิกอยู่ใกล้ ๆ และสามวินาทีต่อมาก็รู้แจ้งว่ามือข้างนั้นกำลังปิดม่านจนทุกอย่างภายในห้องมืดมิดแทบจะไม่มีแสงสว่างใด ๆ ลอดเข้ามา ก่อนที่ร่างของฉันจะลอยหวือกลางอากาศ แผ่นหลังที่เย็นเฉียบสัมผัสกับความอุ่นนุ่มของ

เตียงนอนขนาดใหญ่ ทว่าฉันกลับไม่มีอิสระในการขยับเนื่องจากคนข้างบนกักตัวเอาไว้

ฉันไม่ได้ดิ้นหนี แต่กำลังมองฮีลท่ามกลางความมืดมิด ก่อนที่แสงสีนวลจะสว่างวาบขึ้นจากโคมไฟบนหัวเตียง ฮีลมองฉันด้วยแววตานิ่ง ๆ ในขณะที่ฉันกัดปากยั่วใส่

“เธอยอมให้ฉันจูบแทนสูบใช่ไหม” พยักหน้าตอบรับ มากกว่านี้ฉันก็ยอมได้หากว่าคนตรงหน้าจะยอมเลิกบุหรี่

จากเหตุการณ์ครั้งนั้นที่ฉันเคยถามถึงสาเหตุว่าทำไมมันต้องดับบุหรี่ทุกครั้งที่ฉันเข้าไปหา และคำตอบที่ได้ในตอนนั้นก็เป็นเพราะฮีลเป็นห่วงฉัน ไม่อยากให้ฉันสูดอากาศไม่ดีเข้าปอด ซึ่งฉันเองก็ไม่ต่าง ฉันอยากให้มันรักฉันและไม่ลืมที่จะรักตัวเองด้วย

ฉันจะไม่มีทางเป็นแฟนที่เห็นแก่ตัวเป็นอันขาด

“นายเคยบอกว่ามันไม่ดีนี่”

“อือ”

“งั้นก็มากินของดีอย่างฉันสิ”

“ยั่ว!” ตอบแค่นั้นก็ก้มตัวลงมา แล้วกระซิบกระซาบด้วยน้ำเสียงพร่าข้างใบหู “ยั่วขนาดนี้ฉันจะกินเธอทุกส่วนไปเลย”

จากนั้นปลายนิ้วอุ่นก็ไล้จากต้นคอไล่ลงต่ำจนถึงอกอวบอิ่ม ทว่าไม่ได้สัมผัสตรงนั้นอย่างที่ควรจะเป็น มือของฮีลไล้ลงต่ำอีกเรื่อย ๆ จนถึงข้อเท้าของฉัน ออกแรงดันให้ฉันชันเข่าขึ้น ใช้ริมฝีปากร้อนพรมจูบตรงนั้นเบา ๆ หนึ่งหน ก่อนยกขาฉันขึ้นแล้วสัมผัสที่ปลายนิ้วเท้าอย่างบางเบาจนฉันต้องเกร็งเอาไว้

ความร้อนค่อย ๆ ไต่ระดับขึ้นสูงเหมือนย้อนกลับไปหาต้นทาง ฮีลใช้ริมฝีปากสัมผัสตั้งแต่ปลายนิ้ว ข้อเท้า น่องขา รวมไปถึงหน้าขาและขาอ่อน สอดมือเข้าไปในกางเกงขาสั้นแล้วใช้นิ้วนวดคลึงตรงส่วนนั้น ในขณะที่ปากก็พรมจูบสูงขึ้นเรื่อย ๆ

สารภาพเลยว่านี่เป็นครั้งแรกที่ฉันโดนจูบทุกสัดส่วนอย่างทรมานที่สุด จากตอนแรกที่คิดว่ายอมให้จูบด้วยปากแล้วมันจะพอใจ ทว่าฉันคิดผิดมหันต์ เพราะตอนนี้กลายเป็นฉันเองที่ทรมานจากสัมผัสอันกระสันซ่านนี้

บ้าไปแล้ว ฉันยอมให้กินได้แต่ไม่ใช่กินทุกสัดส่วนอย่างนี้

ค่อย ๆ ยกสะโพกขึ้นอย่างรู้สถานการณ์เมื่อฝ่ามือหนาเกาะที่ขอบกางเกง ก่อนเสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่ทั้งหมดสองชั้นจะถูกรูดผ่านต้นขาของฉันจนหลุดออกไปในคราเดียว ส่วนล่างที่เปลือยเปล่าเริ่มสัมผัสความเย็นจากเครื่องปรับอากาศ ทว่าฉันกลับตอบตัวเองไม่ได้ว่าที่ขนลุกซู่อยู่นั้นเกิดจากความเสียดเสียวหรือความหนาวเย็นกันแน่

เมื่อจัดการส่วนล่างเรียบร้อยฝ่ามือหนาก็เริ่มถอดส่วนบนออกบ้าง หลังร่างกายของฉันเปลือยเปล่ามันก็ใช้เวลามองฉันนิ่ง ๆ ก่อนจะเริ่มกดริมฝีปากลงตรงต้นคอ แอ่งชีพจร แล้วตะโบมดูดตรงยอดอกสีหวาน

“อ๊า” ฉันแอ่นอกขึ้นตอบรับสัมผัสสุดฟินนี้ พร้อมทั้งครางเบา ๆ จนเห็นอีกคนครางตามในลำคอ

“อืม”

ริมฝีปากร้ายกาจไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่หน้าอกของฉัน เพราะตอนนี้ฮีลกำลังฝังหน้าลงบนกลางหว่างขา ใช้เรียวลิ้นกับกลีบเนื้อตรงนั้นจนฉันต้องเปลี่ยนมาเด้งเอวแทนเด้งอก คล้ายกำลังพยายามทำให้ส่วนกลางกายของตัวเองแนบสนิทกับริมฝีปากนั้นมากที่สุด

ถ้าอยากจะจูบนักฉันก็จัดให้!

เสียงดังจ๊วบจ๊าบฟังดูแล้วน่าเกลียดทว่าเวลานี้ฉันกลับมีอารมณ์มาก คิดเข้าข้างตัวเองไปไกลถึงขนาดว่าตรงนั้นจะต้องหอมหวานแน่ ๆ ฮีลถึงได้สัมผัสกันรุนแรงขนาดนี้ รุนแรงกระทั่งฝ่ามือหนาที่ทำงานไปพร้อม ๆ กับใบลิ้นสะกิดตรงยอดอกแรงขึ้นจนฉันรู้สึกเจ็บ

เวลานี้ฉันแทบจะอยากอ้อนวอนมัน การเล้าโลมแบบนี้ทำให้ฉันเสียววูบจนทรมาน ต้องการให้มันใส่ ๆ เข้ามาให้รู้แล้วรู้รอด แต่ดูเหมือนเจตนาของฮีลจะตรงข้ามกับความรู้สึกฉัน

ฉันนอนนิ่ง ๆ ให้มันจูบแทนสูบ ระบายความซาบซ่านโดยการกำผ้าปูแน่น เด้งเอวขึ้นเบียดชิดริมฝีปากหนามากที่สุด พร้อมทั้งหลับตาครางเสียงหวานอย่างอื้ออึง

“อื้ออออ” สองมือยกขึ้นมาขยุ้มเส้นผมสีเทา น้ำหล่อลื่นมากมายไหลออกมาจากการถูกกระตุ้น ฉันครางรัญจวนหลังได้รับสัมผัสอุ่น ๆ จากลิ้นร้ายกาจของฮีล เด้งเอวแล้วเด้งเอวอีกเพื่อสื่อถึงความชอบใจให้อีกฝ่ายทำมันรุนแรงขึ้น คนรู้ใจก็ดูดเลียไม่หยุด เพิ่มระดับความหนักของใบลิ้นจนฉันเสร็จคาปากในที่สุด “อ๊า!”

นอนหอบหายใจอย่างอ่อนเพลียทั้งที่ตัวเองไม่ได้ทำอะไรเลยเสียด้วยซ้ำ “เหนื่อยเหรอ”

“อือ” ฉันตอบเสียงสั่น ลมหายใจที่แรงขึ้นมันฟ้องไปหมดแล้ว ไม่ต้องถามก็ยังได้

“แต่ฉันยังไม่เหนื่อย” แล้วริมฝีปากที่เคยโลมเลียกลีบเนื้อของฉันก็ประกบเข้ากับริมฝีปากบาง ก่อนสอดแทรกเรียวลิ้นเข้ามาทางด้านใน ออกแรงตวัดจ้วงชิมราวกับควานหาอะไรบางอย่างในปากฉันอย่างไม่รู้สึกเมื่อย พร้อมทั้งนิ้วเรียวยาวที่ถูกส่งไปยังร่องคับแคบ สอดใส่เข้าไปแล้วชักเข้าชักออกทำให้ฉันเสียวซ่านขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะปลดปล่อยออกมาคานิ้วในเวลาต่อมา

ดีชะมัด แต่หากต้องแลกจูบนี้กับการสูบบุหรี่ฉันคงตายก่อน จูบทุกสัดส่วนแทบจะไม่เว้นช่องว่างแบบนี้ฉันรับไม่ไหวจริง ๆ ถึงจะชอบแค่ไหน แต่ความรู้สึกนั้นมันกลับมาพร้อมกับความทรมาน ทรมานมากจนต้องร้องขอให้ฮีลทำมันเดี๋ยวนี้

“สะ...ใส่เข้ามาเถอะ” น้ำเสียงกระเส่าเต็มไปด้วยความอยากเอ่ยออกมาอย่างอ้อนวอน ทว่าอีกฝ่ายกลับไม่คิดจะถอดเสื้อผ้าตัวเองออกสักชิ้น

“หึ” นัยน์ตาคู่คมมองฉันราวกับตัวเองกลายเป็นผู้เหนือกว่า แต่ก็จริง! ตอนนี้มันอยู่บนตัวฉันนี่นา

“คิดว่าจูบแค่นี้จะพอเหรอ” สิ้นคำนั้นฉันก็เสียววูบ ฮีลไม่ได้แตะต้องฉันไปมากกว่าการใช้นิ้วคลึงเคล้าตรงเนินเนื้อ แต่ที่รู้สึกเย็นเข้าไปลึกจนถึงกระดูกก็เพราะความกระหายของอีกฝ่ายต่างหาก

“ฮะ...ฮีล” ร่างทั้งร่างสั่นระริก ฉันเม้มริมฝีปากตัวเองแน่น รู้สึกว่าส่วนนั้นมันบีบรัดนิ้วเรียวยาวมากขึ้น ราวกับสายธารครั้งที่สามกำลังจะไหลออกมา “ฉะ...ฉันไม่ไหว”

“อือ” คนข้างบนครางรับพร้อมทั้งถอนนิ้วออกมา “ครางชื่อฉันดัง ๆ นะ” ถัดมาก็ดีดตัวลุก ค่อย ๆ ถอดกางเกงที่กำลังจะปริแตกเพราะท่อนเอ็นร้อนดุนดันขึ้น ร่างสูงเขยิบเข้ามาแทรกกลางหว่างขา แตะท่อนเอ็นลำใหญ่บนเนินเนื้อที่เปียกลื่น ความร้อนจากส่วนนั้นส่งผลให้ฉันกระสับกระส่ายมากขึ้นราวกับร่างกายแทบจะระเบิดอยู่รอมร่อ

คนตัวสูงถอดเสื้อยืดตัวเองออกอย่างอ้อยอิ่งในขณะที่ฉันกำลังจะตาย จึงส่ายร่อนเอวไปมาให้มันเสียดสีกับส่วนนั้นของมัน พร้อมทั้งครางหวานยั่ว “อ๊าา”

“อ๊ะ!” ร้องอ๊ะออกมาในตอนที่ความใหญ่โตดันพรวดเข้ามาจนสุดความยาว ส่วนอวบของท่อนเอ็นครูดผ่านผนังด้านในทำให้ฉันต้องรีบจิกที่เรียวแขนกำยำระบายความเสียว ทว่ายังไม่ทันจะหายใจคล่องความเสียดเสียวก็ค่อย ๆ พุ่งเข้าใส่เรื่อย ๆ แม้จังหวะนั้นจะเชื่องช้า แต่ฉันกลับรู้สึกว่ามันซาบซ่านมาก มากเสียจนฉันทนไม่ไหว

ทรมาน ทรมานเหลือเกินที่มันเย้าหยอกทุกส่วนของร่างกายจนรู้สึกเกินต้าน จึงผลักมันให้ล้มตัวไปแล้วเป็นฝ่ายขึ้นคร่อมมันเสียเอง

คราวนี้แหละ!

นายจะได้รู้รสว่าการที่ทำให้ฉันสุขล้ำจนกระอักมันเป็นยังไง