Masukณ มหาวิทยาลัยชื่อดังของประเทศเยอรมณี หญิงสาวใบหน้าสวยหวานน่ารักเจ้าของนัยน์ตากลมโตราวกับตุ๊กตามีชีวิตกำลังจ้องมองไปยังตึกที่ตั้งตระหง่านตรงหน้าด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความประหม่าอย่างเห็นได้ชัดก่อนเปลือกตาบางนั้นปิดลงครู่หนึ่งแล้วเปิดขึ้นมาอีกครั้งราวกับกำลังเรียกความกล้าให้กับตัวเองทว่า... "ฮืออ! ไม่กล้าอ่ะ" เสียงใสบ่นออกมากับตัวเองที่ยืนลังเลอยู่นานในขณะที่ใบหน้าน่ารักนั้นก็มุ่ยขึ้นด้วยความรู้สึกหงุดหงิดใจที่ไม่กล้าเดินเข้าไปสักที วันนี้เป็นวันแรกที่เธอย้ายเข้ามาเรียนที่มหาวิทยาลัยในต่างประเทศหลังจากผ่านการอ่านหนังสืออย่างหนักหน่วงจนในที่สุดเธอก็สามารถสอบชิงทุนเข้ามาเรียนต่อที่นี่ได้ในขณะที่เรียนอยู่ปีสามคณะบริหารธุรกิจสาขาการสื่อสารธุรกิจระหว่างประเทศ "เอาน่า วันแรกใครๆก็ประหม่าแบบนี้นั่นแหละ" เสียงของ เจ้าขา พยายามพูดให้กำลังใจตัวเองในขณะที่ฝ่ามือทั้งสองข้างนั้นก็ประสานเข้าหากันแน่นด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นก่อนจะเอ่ยออกมาอีกครั้ง "เราทำได้ เราทำได้" คนตัวเล็กพยายามพูดเพื่อเรียกความกล้าให้กับตัวเองโดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่ามีหญิงสาวอีกคนที่ยืนอยู่ทางด้านหลังกำลัง
หลายวันถัดมาภายในร้านอาหารหรูแห่งหนึ่ง ณ กรุงเบอร์ลินกำลังถูกห้อมล้อมไปด้วยบรรดาเหล่าคนมีเงินที่กำลังนั่งทานอาหารกันอย่างมีความสุขท่ามกลางเสียงเพลงที่เปิดคลอเบาๆเพื่อสร้างบรรยากาศทว่าจู่ๆ เสียงพูดคุยเมื่อครู่นั้นกลับแปรเปลี่ยนเป็นเสียงซุบซิบในเวลาอันรวดเร็วเมื่อมีการปรากฏตัวของชายหนุ่มทายาทตระกูลดังที่กำลังเดินเข้ามาภายในสถานที่แห่งนี้แม้ใบหน้าจะราบเรียบทว่ากลับไม่สามารถปกปิดความหล่อเหลาไร้ที่ติตามฉบับชายชาวยุโรปของเขาได้เลย แต่สิ่งที่ตราตรึงสายตาของผู้คนมากที่สุดคงจะเป็นนัยน์ตาสีเทาเข้มที่ดูเรียบนิ่งคู่นั้นไม่ใช่แค่เพียงใบหน้าเท่านั้นที่ดึงความสนใจของผู้คนทว่าด้วยเพราะเขาคือทายาทเพียงหนึ่งเดียวของตระกูลไฮน์ริชที่ร่ำรวยติดอันดับต้นๆ ของประเทศที่เป็นที่จับตามองของคนในสังคมอยู่ในขณะนี้"เคลวินมาแล้วหรอลูก"เสียงสดใสของหญิงวัยกลางคนอย่างเอมิเลียเอ่ยทักทายลูกชายเพียงคนเดียวของเธออย่างเคลวินที่เดินเข้ามาภายในห้องอาหารที่มีความเป็นไพรเวทแยกออกจากโซนด้านนอก"ครับ"เสียงทุ้มตอบรับมารดาของตนก่อนจะหันไปทักทายชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามอย่างเอ็ดวินผู้นำตระกูลแวร์เนอร์ คนปัจจุบัน"คุณล
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมานี้เจ้าขาพยายามที่จะเข้ามาตีสนิทกับลีน่าอยู่หลายวันเพราะเธอเองก็ไม่รู้จักกับใครเลยและเพื่อนคนอื่นๆในเซคก็มีกลุ่มกันหมดแล้วเว้นเสียแต่ลีน่าไม่ใช่ว่าไม่มีเพื่อนคบแต่หลังจากที่ได้พูดคุยมาหลายวันเธอก็พอจะรู้ว่าเพื่อนนั้นเป็นคนรักความสันโดษและชอบอยู่คนเดียวเสียมากกว่าการอยู่กับผู้อื่นและถึงแม้จะรู้แต่เธอก็ยังอยากที่จะเป็นเพื่อนกับลีน่าอยู่ดีTTแต่ถึงอย่างนั้นอีกคนก็ไม่ได้มีท่าทีผลักไสเธอแต่อย่างใดนั่นจึงทำให้หลายวันที่ผ่านมานี้ความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่พัฒนาไปในทางที่ดีมากยิ่งขึ้นจนสามารถพูดคุยกันได้หลายๆเรื่องแม้จะเพิ่งรู้จักกันได้ไม่นาน"ลีน่าวันนี้เรากินอะไรกันดี"เสียงใสของเจ้าขาเอ่ยถามยังหญิงสาวผมบลอนด์ที่ยืนอยู่ข้างๆกันภายในโรงอาหารของคณะหลังบคิดอยู่นานแต่ก็ยังไม่สามารถเลือกเมนูที่จะทานได้"พิชซ่าไหม?"ลีน่าเสนอขึ้นมาเพราะพิซซ่าคือเมนูสิ้นคิดที่สุดสำหรับเธอแล้ว"โอเค งั้นเดี๋ยวลีน่าไปซื้อน้ำนะ ส่วนเราไปซื้อพิซซ่าเอง"หลังแบ่งหน้าที่กันเสร็จสรรพสองสาวก็แยกย้ายกันไปซื้อของตามหน้าที่ของตนทุกๆวันเธอและลีน่าจะแยกกันไปซื้ออาหารและน้ำเพราะจะได้ไม่เ
ณ ห้องสมุดในช่วงบ่ายของวันหลังมาถึงห้องสมุดทุกคนก็แบ่งหน้าที่แยกย้ายกันไปหาข้อมูล บางส่วนจะต้องหาจากอินเตอร์เน็ตและบางส่วนจะต้องไปหาหนังสือภายในห้องสมุดหนึ่งในนั้นก็คือเจ้าขาที่กำลังไล่สายตาหาหนังสือที่ต้องการอยู่"อยู่ไหนนะ" เสียงเล็กพึมพำกับตัวเองขึ้นมาเมื่อไม่พบหนังสือที่ต้องการเสียทีหลังหาอยู่นาน"ตรงนั้น"เสียงทุ้มที่ดังขึ้นของผู้มาใหม่นั้นทำให้เจ้าขาหันไปมองยังทางต้นเสียงก่อนจะพบเข้ากับเคลวินที่เขาเองก็ได้รับหน้าที่ในการมาหาหนังสือเหมือนกันกับเธอนัยน์ตากลมโตคู่นั้นมองไปยังจุดที่เขาชี้บอกก่อนจะพบเข้ากับหนังสือเล่มที่เธอกำลังตามหา ฉับพลันนัยน์ตาคู่นั้นก็เป็นประกายวิบวับทันทีด้วยความดีใจ"อยู่ตรงนั้นจริงด้วย""ทำไมมันอยู่สูงจัง" เจ้าขาบ่นออกมาก่อนจะพยายามเอื้อมมือขึ้นไปหยิบมันทว่าก็เพียงแตะโดนนิดหน่อยเท่านั้นจนไม่สามารถที่จะหยิบได้และในช่วงจังหวะนั้นเอง..."เดี๋ยวฉันหยิบเอง"ร่างสูงที่เข้ามาประชิดร่างของเธอจากทางด้านหลังทันทีที่พูดจบนั้นทำให้เจ้าขาชะงักไปในทันที กลิ่นน้ำหอมหรูหราที่ลอยออกมาจากตัวของเขานั้นส่งผลให้ใบหน้าใสแดงก่ำขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ในขณะที่หน้าอกข้างซ้ายกลับสั่นไ
@MIDNIGHT CLUBในช่วงดึกของวันหญิงสาวเจ้าของใบหน้าสวยหวานในชุดพนักงานเสิร์ฟประจำคลับดังแห่งหนึ่งอย่างเจ้าขากำลังยกถาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เดินไปเสิร์ฟที่โต๊ะนั้นทีโต๊ะนี้ทีด้วยความกระตือรือล้นเพราะยิ่งดึกมากเท่าไรเหล่านักท่องราตรีก็เริ่มเยอะมากขึ้นเรื่อยๆ"วีไอพีห้า"เสียงของหญิงสาวผมบลอนด์อายุราวๆ สามสิบถึงสี่สิบปีเอ่ยบอกกับเด็กสาวชาวเอเชียอย่างเจ้าขาที่เพิ่งจะเดินถือถาดกลับเข้ามาได้ไม่นาน ก่อนใบหน้าน่ารักนั้นจะยิ้มตอบรับทันทีและเพียงไม่นานเครื่องดื่มถาดดังกล่าวก็ถูกยกออกไปพร้อมกับหญิงสาวเรือนร่างอรชรสถานที่แห่งนี้เป็นคลับชื่อดังย่านใจกลางกรุงที่เธอเพิ่งจะสมัครเข้ามาทำได้เพียงเดือนเศษๆ เพราะหลังย้ายมาจากประเทศไทยเธอก็เริ่มที่จะหาสมัครงานพาร์ทไทม์ทันทีเพราะฐานะทางบ้านที่ไม่ได้ร่ำรวยทำให้เธอไม่สามารถอยู่เฉยๆ ได้แม้ว่าจะได้ทุนจากทางมหาวิทยาลัยก็ตามทีแต่เพราะเธอเองก็มีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ด้วยและนั่นก็เป็นหนึ่งในเหตุผลหลักๆ ที่ทำให้เธอต้องมาเช่าหอพักราคาถูกข้างนอกอยู่แทนที่จะอยู่หอในที่ทางมหาวิทยาลัยจัดหาไว้ให้สำหรับนักศึกษาทุนโดยเฉพาะแต่กว่าจะออกมาได้เธอก็จำเป็นต้องทำเรื่องขออนุญาตอยู่นาน"
"เพิ่งจะรู้ว่ากูมีเพื่อนจิตใจดีขนาดนี้"ประโยคนั้นดังขึ้นจากแม็คนัสทันทีที่เห็นร่างสูงของเพื่อนสนิทอย่างเคลวินเดินเข้ามานั่งที่โซฟาหรูฝั่งตรงข้าม"รู้จักเด็กคนนั้นหรอ"ประโยคคำถามดังขึ้นจาก โคลน์ รุ่นพี่คนสนิทที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ อีกทั้งยังเป็นเจ้าของคลับแห่งนี้ที่พวกเขามักจะมาสุมหัวกันบ่อยๆ ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมเรื่องทั้งหมดมันมาถึงหูของเพื่อนสนิทเร็วขนาดนี้"เด็กใหม่เพิ่งย้ายเข้ามา"ประโยคดังกล่าวดังขึ้นจากลูคัสที่กำลังนัวเนียกับหญิงสาวหน้าอกบึ้มสองคนข้างกาย แม้สายตาจะกำลังชมสิ่งสวยๆ งามๆ ข้างกายแต่หูกลับกำลังตั้งใจฟังบทสนทนาของคนทั้งสามเป็นอย่างดีไม่มีพลาด"นี่มึงคิดจะทำอะไรเคลวิน"น้ำเสียงจริงจังดังขึ้นจากโคลน์อีกครั้ง สายตาเรียบนิ่งจ้องมองไปยังรุ่นน้องที่นั่งอยู่ตรงหน้านิ่งอย่างต้องการคำตอบเพราะรู้ดีว่าเคลวินไม่ได้มีนิสัยชอบช่วยเหลือใครนอกเสียจากมันจะมีจุดประสงค์บางอย่าง"สนใจเรื่องของตัวเองเถอะ"เคลวินไม่ได้ตอบคำถามทว่ากลับเบนสายตาไปยังหญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังโยกย้ายร่างกายไปตามทำนองดนตรีอยู่กั







