Home / วัยรุ่น / LOVE LIE รักลวงหลอก / บทที่ 3 สมภารกินไก่วัด

Share

บทที่ 3 สมภารกินไก่วัด

last update Last Updated: 2025-10-29 04:01:49

หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป

ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมานี้เจ้าขาพยายามที่จะเข้ามาตีสนิทกับลีน่าอยู่หลายวันเพราะเธอเองก็ไม่รู้จักกับใครเลยและเพื่อนคนอื่นๆในเซคก็มีกลุ่มกันหมดแล้วเว้นเสียแต่ลีน่า

ไม่ใช่ว่าไม่มีเพื่อนคบแต่หลังจากที่ได้พูดคุยมาหลายวันเธอก็พอจะรู้ว่าเพื่อนนั้นเป็นคนรักความสันโดษและชอบอยู่คนเดียวเสียมากกว่าการอยู่กับผู้อื่นและถึงแม้จะรู้แต่เธอก็ยังอยากที่จะเป็นเพื่อนกับลีน่าอยู่ดีTT

แต่ถึงอย่างนั้นอีกคนก็ไม่ได้มีท่าทีผลักไสเธอแต่อย่างใดนั่นจึงทำให้หลายวันที่ผ่านมานี้ความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่พัฒนาไปในทางที่ดีมากยิ่งขึ้นจนสามารถพูดคุยกันได้หลายๆเรื่องแม้จะเพิ่งรู้จักกันได้ไม่นาน

"ลีน่าวันนี้เรากินอะไรกันดี"

เสียงใสของเจ้าขาเอ่ยถามยังหญิงสาวผมบลอนด์ที่ยืนอยู่ข้างๆกันภายในโรงอาหารของคณะหลังบคิดอยู่นานแต่ก็ยังไม่สามารถเลือกเมนูที่จะทานได้

"พิชซ่าไหม?"

ลีน่าเสนอขึ้นมาเพราะพิซซ่าคือเมนูสิ้นคิดที่สุดสำหรับเธอแล้ว

"โอเค งั้นเดี๋ยวลีน่าไปซื้อน้ำนะ ส่วนเราไปซื้อพิซซ่าเอง"

หลังแบ่งหน้าที่กันเสร็จสรรพสองสาวก็แยกย้ายกันไปซื้อของตามหน้าที่ของตนทุกๆวันเธอและลีน่าจะแยกกันไปซื้ออาหารและน้ำเพราะจะได้ไม่เสียเวลามากเกินไปอีกทั้งยังช่วยให้ประหยัดเวลามากยิ่งขึ้น

ในขณะที่เจ้าขากำลังต่อแถวซื้อพิซซ่าต่อจากนักศึกษาคนอื่นๆอยู่นั้นจู่ๆคนที่ต่อแถวอยู่ทางด้านหน้าก็ถอยหลังมานั่นจึงทำให้เธอถอยเซไปด้านหลังด้วยเหมือนกันจนทำให้แผ่นหลังบางนุ่มนิ่มนั้นไปกระทบเข้ากับแผลงอกแกร่งของคนด้านหลังเข้าอย่างจัง

พลั่ก!!

"อ๊ะ! ขะ ขอโทษค่ะ..."

คนตัวเล็กรีบทรงตัวให้กลับมาเป็นปกติก่อนจะรีบหันกลับไปขอโทษคนที่ยืนอยู่ด้านหลังของตนทว่าในช่วงจังหวะที่ใบหน้าหวานใสเงยหน้าสบตากับคนตัวสูงนั้นเธอก็ต้องชะงักไป เพราะสายตาเรียบนิ่งและใบหน้าที่ดูหล่อเหลาอย่างไร้ที่ติของคนที่อยู่ด้านหลังนั้นทำให้เธอจำได้ในทันทีว่าเขาคือเพื่อนร่วมเซคหลังห้องคนนั้น...

"ไม่เป็นไร"

เสียงทุ้มเรียบนิ่งที่ดังขึ้นราวกับระฆังที่เรียกสติของเจ้าขาให้กลับมา ก่อนที่คนตัวเล็กจะก้มหัวให้เขาไปหนึ่งครั้งแล้วรีบหันกลับมาเหมือนเดิมด้วยหัวใจที่สั่นไหวเล็กน้อย

ทำไมกันนะ แม้สายตาของเขาจะเรียบนิ่งแต่ทว่าเธอกลับรู้สึกว่ามันมีเสน่ห์ดึงดูดมากเหลือเกิน

ใบหน้าน่ารักนั้นเผลอครุ่นคิดถึงคนที่อยู่ด้านหลังไปครู่หนึ่งแต่เพียงไม่นานเธอก็รีบส่ายหน้าไปมาทันทีราวกับต้องการไล่ความคิดนั้นออกไปจากสมองแล้วพยายามเรียกสติของตัวเองกลับมาอีกครั้ง ก่อนจะเดินไปสั่งพิซซ่ากับแม่ค้าเมื่อถึงคิวของตนเข้าพอดี

โดยที่เธอไม่รู้ตัวเลยว่ามีสายตาของคนที่อยู่ด้านหลังกำลังจ้องมองปฏิกิริยาของตัวเองอยู่ตลอดด้วยใบหน้าราบเรียบที่ไม่แสดงความรู้สึกใดๆออกมาเช่นเคยแต่ใครเล่าจะล่วงรู้ว่าตอนนี้เขากำลังคิดอะไรอยู่....

 

 

ช่วงเย็นของวัน

ภายในห้องรับรองของมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังขนาดกว้างขวางและหรูหรามีร่างของชายหนุ่มใบหน้าเรียบนิ่งกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานกลางห้องในขณะที่นัยน์ตาคมคู่นั้นก็จ้องมองไปยังแผ่นกระดาษสี่เหลี่ยมตรงหน้าที่มีข้อมูลบางอย่างอยู่ด้วยสายตาเรียบนิ่งไม่แสดงความรู้สึกนึกคิดใดๆออกมา

'ไอยรา เบญจมินทร์ '

นัยน์ตาคมคู่นั้นไล่สายตามองไปยังตัวอักษรตรงหน้าที่แสดงข้อมูลและรูปภาพของหญิงสาวใบหน้าสวยหวานนัยน์ตากลมโตของใครบางคนอยู่แบบนั้น และเพียงไม่นานรอยยิ้มมุมปากก็ปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าหล่อเหลาแต่ก่อนที่เขาจะได้คิดอะไรไปมากกว่านี้เสียงเปิดประตูก็ดังขึ้นพร้อมกับร่างของเพื่อนสนิทสองคนที่เดินเข้ามา

การกระทำดังกล่าวนั้นทำให้คิ้วหนาทั้งสองข้างของเคลวินแทบจะจรดกันอยู่ร่อมล่อก่อนเสียงทุ้มที่แฝงไปด้วยความไม่พอใจจะดังขึ้นมา

"สัสเคลมัวทำอะไรอยู่วะ?!"

"เคาะประตูไม่เป็น?"

"เคาะทำไมเสียเวลา"

ลูคัสเอ่ยอย่างไม่แยแสก่อนจะเดินเข้าไปยังโต๊ะที่เพื่อนตัวสูงกำลังนั่งดูอะไรบางอย่างอยู่

"แล้วนี่มึงทำอะไรอยู่ ทำไมไม่ลงไปสักที"

ไวกว่าความคิดมือหนาของลูคัสก็เอื้อมเข้าไปหยิบแผ่นกระดาษที่อยู่บนโต๊ะขึ้นมาดูก่อนที่เขาจะชะงักไป

"นี่มันเด็กใหม่นี่ มึงเอาประวัติเธอมาดูทำไม?"

ลูคัสเอ่ยถามด้วยความไม่เข้าใจในการกระทำของเพื่อนเท่าไรนัก

เคลวินไม่ได้ตอบคำถามไร้สาระของเพื่อนสนิทแต่กลับคว้าเอากระดาษแผ่นนั้นกลับมาแล้วเก็บมันไว้ในลิ้นชักเหมือนเดิม

"ถึงกับมานั่งอ่านประวัติเขาแบบนี้ มึงกำลังคิดจะทำเรื่องชั่วๆ อยู่ใช่ไหม?"

"มึงสนใจเธอหรอ" แม็คนัสที่ยืนเล่นเกมอยู่เอ่ยถามขึ้นมาบ้าง

"เรื่องของกู"

แม้เคลวินจะไม่ได้ตอบออกมาตามตรงแต่กลับทำให้ชายหนุ่มทั้งสองคนหันมองหน้ากันทันทีอย่างเข้าใจในสถานการณ์ตอนนี้เป็นอย่างดี

"นั่นมันเด็กทุนของย่ามึงเลยนะเว้ย"

ลูคัสเอ่ยปรามขึ้นมาเพราะย่าของเคลวินนั้นเป็นถึงเจ้าของมหาลัยแห่งนี้และไอ้คนที่นั่งหน้าหล่อๆ เลวๆ อยู่ตรงนั้นก็คือผู้สืบทอดตำแหน่งคนต่อไป แบบนี้แล้วมันยังจะทำตัวเป็นสมภารกินไก่วัดอีกหรือไง

"แล้วยังไง"

"มึงยังสติดีอยู่หรือเปล่าเนี่ย"

เคลวินไม่ได้สนใสในคำพูดของเพื่อนสนิทตัวเองเท่าไรนัก ร่างสูงทำเพียงลุกขึ้นจากเก้าอี้ก่อนจะเดินออกจากห้องรับรองไปทันทีด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง

ทิ้งให้ลูคัสและแม็คนัสต่างหันมองหน้ากันอย่างรู้ดีว่าไม่สามารถห้ามเพื่อนตัวเองได้ เพราะอยู่ด้วยกันมานานจนรู้เช่นเห็นชาติกันหมด ไม่เว้นแม้แต่คนที่เพิ่งเดินออกไปที่ถึงแม้ว่าภายนอกมันจะดูไม่สนใจอะไร แต่ใครเล่าจะล่วงรู้ว่ามันเองก็ร้ายกาจไม่ต่างจากพวกเขาเลยสักนิด

 

 

สามวันถัดมา

คลาสเรียนในช่วงบ่าย

"วันนี้ไม่มีอะไรมากนะคะ อาจารย์จะให้นักศึกษาแบ่งกลุ่มละห้าคน เดี๋ยวอาจารย์จะมอบหมายงานให้แล้วมาพรีเซนต์ให้เพื่อนฟังอาทิตย์หน้าค่ะ"

"หากนักศึกษาได้กลุ่มครบแล้วส่งตัวแทนออกมาจับหัวข้อได้เลยค่ะ"

หลังอาจารย์ประจำวิชาได้มอบหมายหน้าที่ให้นักศึกษาหลายสิบคนที่อยู่ภายในห้องต่างก็เริ่มกันจับกลุ่มของตัวเองทันที

"ลีน่า เราอยู่กลุ่มใครดี"

เจ้าขาเอ่ยถามหญิงสาวข้างกายอย่างลีน่าขึ้นมาท่ามกลางเสียงพูดคุยของนักศึกษาหลายๆ คนภายในห้องที่ดังขึ้นมา

ในขณะที่นัยน์ตากลมโตคู่นั้นก็กวาดสายตามองไปยังบริเวณรอบๆห้องเพื่อหาดูว่ายังมีใครที่ยังมีกลุ่มไม่ครบอีกไหม แต่โดยส่วนมากแล้วทุกคนก็มักจะมีกลุ่มเพื่อนเป็นของตัวเองกันแล้วทั้งนั้นส่วนน้อยนักที่จะเหลือเศษ

"สองคน"

ประโยคที่ดังขึ้นมาจากลีน่านั้นทำให้เจ้าขาแสดงสีหน้าตกใจออกมาในทันที พลางโต้แย้งขึ้นมาทันควัน

"แต่อาจารย์ให้จับกลุ่ม..."

"กลุ่มเธอครบหรือยัง?"

ยังไม่ทันที่เจ้าขาจะได้พูดจบประโยคเสียงทุ้มของชายหนุ่มปริศนาที่ดังขึ้นจากทางด้านหลังนั้น ทำให้หญิงสาวทั้งสองคนจ้องมองไปยังผู้มาใหม่ทันที

"อะ อ๋อ ยังเลยจ๊ะ"

เป็นเจ้าขาที่ตอบกลับไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเป็นมิตรต่างจากลีน่าที่จ้องมองไปยังลูคัสด้วยใบหน้าราบเรียบแต่กลับแฝงไปด้วยความเบื่อหน่ายชัดเจน

"สนใจอยู่กับพวกฉันไหมครบห้าคนพอดี"

ลูคัสเอ่ยถามยังใบหน้าหวานใสของเด็กใหม่ อย่างจงใจเมินอีกคนอย่างชัดเจน

"อื้อ ได้สิ"

เมื่อได้รับการชวนเจ้าขารีบพยักหน้าตอบรับในทันทีทว่า....

"ไม่"

ประโยคนั้นทำให้ทั้งเธอและลูคัสหันกลับไปจ้องหน้าของเพื่อนสาวข้างกายในทันทีด้วยความไม่เข้าใจ

"ลีน่า แต่อาจารย์ให้จับกลุ่มนะ"

"เดี๋ยวเราไปขออาจารย์ก็ได้" ลีน่ายังคงเอ่ยออกมาอย่างหัวค้านชนฝา เพราะไม่ว่ายังไงเธอก็จะไม่ยอมอยู่กลุ่มกับหมอนี่แน่ๆ

"ไม่ได้สิ เอ่อ..เราสองคนตกลงอยู่กลุ่มเดียวกันกับนายนะ" แต่ทว่าเจ้าขานั้นกลับไม่ยอมอ่อนข้อให้ลีน่าง่ายๆเช่นกัน

"เจ้าขา"

"ลีน่าอยู่เงียบๆ ไปเลย"

ใบหน้าน่ารักนั้นหันไปขู่ใส่เพื่อนสนิทข้างกายอย่างในทันที ทว่าลีน่ากลับแสดงสีหน้าเบื่อหน่ายออกมาเมื่อตนไม่สามารถที่จะทำอะไรได้เลย

ในขณะที่ลูคัสนั้นกลับลอบมองไปยังลีน่าด้วยสายตากวนประสาทอย่างชัดเจน แต่เพียงไม่นานเขาก็เลิกสนใจเธอแล้วหันมาเอ่ยสรุปกับเด็กใหม่ตรงหน้าแทน

"ตกลงตามนี้ งั้นเดี๋ยวฉันออกไปจับหัวข้อก็แล้วกัน"

สิ้นประโยคนั้นลูคัสก็เดินออกไปจับฉลากที่หน้าห้อง เจ้าขาที่เห็นแบบนั้นก็หันกลับมาถามยังเพื่อนสนิทข้างกายอย่างลีน่าทันที

"ทำไมลีน่าถึงไม่อยากอยู่กลุ่มเดียวกันกับเพื่อนกลุ่มนั้นล่ะ"

"หมันไส้"

"หา?"

เพียงสองคำสั้นๆ นั้นทำให้เจ้าขาถึงกับแสดงสีหน้าเหลอเหลาออกมาออกมาราวกับต้องการคำขยายความมากกว่านี้ทว่าลีหน้ากลับส่ายหน้าเป็นการปฏิเสธราวกับไม่อยากจะพูดถึงลูคัสเท่าไรนัก

"ช่างเถอะ"

และแม้ปากจะพูดออกมาแบบนั้นแต่ทว่าคนข้างกายของเธอกลับแสดงสีหน้าเบื่อหน่ายออกมาไม่หยุดและแม้ว่าจะสงสัยแค่ไหนแต่เธอก็ไม่ได้เซ้าซี้อะไรเพื่อนอีก

 

เมื่อทุกคนในห้องจับกลุ่มเรียบร้อยแล้วอาจารย์ก็ให้แต่ละกลุ่มแยกย้ายกันไปทำงานของตัวเองตามที่ได้รับมอบหมายในทันที นั่นจึงทำใหเธอต้องลุกขึ้นจากเก้ากี้แล้วลากแขนของเพื่อนสนิทอย่างลีน่าให้เดินไปยังกลุ่มของเพื่อนคนนั้นด้วยกัน

ทว่าเมื่อเดินไปถึงเธอก็ต้องชะงักไปเพราะมีชายหนุ่มใบหน้าหล่อเหลาของใครบางคนนั่งร่วมอยู่ด้วย งั้นก็แสดงว่าเขาก็อยู่กลุ่มนี้งั้นหรอ....

"อะ เอ่อ หวัดดี เราชื่อเจ้าขานะ ส่วนนี่ลีน่า"

ไม่ปล่อยให้ตัวเองได้คิดอะไรไปมากกว่านี้เจ้าขาก็รีบแนะนำตัวเองออกไปในทันทีพร้อมกับเพื่อนข้างๆ ที่เธอลากมาด้วย

"ชื่อยัยนั่นฉันรู้อยู่แล้วล่ะ"

ลูคัสเอ่ยออกมาด้วยท่าทีสบายๆ แต่ทว่ากลับแฝงความกวนประสาทเอาไว้และนั่นก็ทำให้คนตัวเล็กเพิ่งคิดขึ้นได้ว่าเพื่อนคนอื่นในเซคอาจจะรู้จักกันหมดแล้วนอกเหนือจากเธอ

"เรียกคนอื่นให้มันดีๆหน่อย"

ลีน่าพูดออกมาด้วยใบหน้าที่แสดงออกว่าไม่พอใจ ก่อนที่ลูคัสจะเอ่ยตอบกลับด้วยคำพูดที่ทำเอาอีกฝ่ายก็เจ็บแสบไม่แพ้กันราวกับกำลังเล่นสงครามประสาท

"ฉันชื่อแม็คนัส ส่วนนั่นลูคัส แล้วก็นี่เคลวิน"

ในขณะที่ลูคัสและลีน่ากำลังถกเถียงกันอยู่นั้น แม็คนัสก็เอ่ยแนะนำตัวออกมาอีกทั้งยังแนะนำเพื่อนสนิทของเขาให้เด็กใหม่ได้รู้จัก

โดยที่คนตัวเล็กเองก็พยักหน้าเข้าใจก่อนจะลอบมองไปยังใบหน้าหล่อเหลาเรียบนิ่งของเคลวิน โดยทันทีที่สบเข้ากับสายตาคมคู่นั้นเธอก็รีบผละสายตาออกทันทีด้วยความรู้สึกทำตัวไม่ถูก สายตาของเขาเรียบนิ่งจนเธอเองก็เดาไม่ออกว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ ก่อนที่เธอจะเลิกสนใจเขาแล้วเอ่ยแนะนำตอบกลับบ้าง

"ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนนะ"

รอยยิ้มน่ารักเป็นมิตรถูกส่งไปให้เพื่อนใหม่ด้วยความจริงใจ ใบหน้าน่ารักที่ดูใสซื่อบริสุทธิ์นั้นทำให้ใครอีกคนจ้องมองไม่วางตา

"อย่ายิ้มแบบนั้นสิ"

เป็นลูคัสที่เอ่ยแซวขึ้นมาอย่างหยอกล้อตามนิสัยขี้เล่นของตัวเอง นั่นจึงทำให้ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มแปรเปลี่ยนเป็นงุนงงในทันที

"ทะ ทำไมหรอ?"

"เพราะมันบาดใจของฉันเข้าน่ะสิ" ลูคัสพูดพลางกุมหัวใจข้างซ้ายของตัวเองไว้อย่างต้องการหยอกล้อต่อเด็กใหม่อย่างเจ้าขาทว่า...

"มุกเห่ยชะมัด" ประโยคที่ดังขึ้นจากลีน่านั้นทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าหล่อเหลาของลูคัสเลือนหายไปในชั่วพริบตา

"แล้วเธอยุ่งอะไรด้วยไม่ทราบ?"

ลูคัสกอดอกถามด้วยสีหน้าเอาเรื่อง เจ้าขาที่เห็นท่าไม่ดีจึงรีบเอ่ยเปลี่ยนเรื่องขึ้นมาทันทีหวังจะคั่นกลางสงครามขนาดย่อมๆนี้

"เอ่อ ว่าแต่เราจะไปทำงานที่ไหนกันดี"

"ห้องสมุดไหม"

เป็นแม็คนัสที่เอ่ยแสดงความเห็นออกมาในขณะที่ทุกคนนั้นก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วยก่อนเสียงของลีน่าจะเอ่ยขึ้นมา

"อีกสิบห้านาทีไปเจอกันที่นั่นแล้วกัน"

สิ้นประโยคนั้นเธอก็จูงแขนของเพื่อนตัวเล็กอย่างเจ้าขาเดินออกจากห้องไปในทันที ทิ้งให้สามหนุ่มได้แต่มองตามหลังไปด้วยสายตาที่แตกต่างกัน....

 

 

 

 

 

 

 

 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • LOVE LIE รักลวงหลอก   บทที่ 9 รอคอยอย่างใจเย็น

    หลายวันถัดมาช่วงเย็นของวันร่างสูงใหญ่ของเคลวินเดินเข้ามาภายในบ้านหลังใหญ่โอ่อ่าที่มีหญิงชราอาศัยอยู่ด้วยใบหน้าเรียบนิ่งตามนิสัยของตน เหล่าแม่บ้านที่เห็นนายน้อยเพียงคนเดียวของตระกูลที่กำลังเดินเข้ามานั้นต่างก็พากันก้มหัวเป็นการทักทายทันทีเขาทำเพียงพยักหน้ารับก่อนจะเดินเข้าไปนั่งลงที่โซฟาหรูกลางห้องโถงฝั่งตรงข้ามกับหญิงชราวัยเจ็ดสิบกว่าๆ ที่มีศักดิ์เป็นถึงคุณย่าของเขา"ไปไงมาไงล่ะเคลวิน"มารี เอ่ยทักหลานชายด้วยรอยยิ้มอบอุ่น ก่อนที่เธอจะส่งสัญญาณให้แม่บ้านคนสนิทที่ยืนอยู่ออกไปก่อน"ผมผ่านมาทางนี้พอดี เลยแวะมาหาครับ"เพราะพ่อแม่ของเขาและหญิงชราตรงหน้านั้นได้แยกกันอยู่บ้านคนละหลังมาตั้งแต่ที่เขาจำความได้ นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาต้องเทียวไปเทียวมาเพื่อมาเยี่ยมเยือนท่านบ้างเป็นครั้งคราว"แล้วนี่ทานข้าวมาหรือยังล่ะ""เรียบร้อยแล้วครับ"สิ้นประโยคนั้นหญิงชราก็พยักหน้าด้วยความเข้าใจก่อนจะเอ่ยถามขึ้นมาอีกครั้ง"ที่มหาวิทยาลัยเป็นยังไงบ้าง"เนื่องจากปัญหาสุขภาพที่ไม่ค่อยดีทำให้เธอไม่ได้เข้าไปเยี่ยมเยือนมหาวิทยาลัยมาพักหนึ่งแล้ว คนเราพอแก่ตัวแล้วก็แบบนี้นั่นแหละจะเดินเหินทำอะไรก็ลำบากไปหมด"

  • LOVE LIE รักลวงหลอก   บทที่ 8 อาสามาส่ง

    หลายวันถัดมา@MIDNIGHTCLUB"เธอช่วยเอาเครื่องดื่มไปเสิร์ฟที่ชั้นวีวีไอพีด้วยนะ พอดีมารีปวดท้องกระทันหัน"เสียงของผู้จัดการประจำร้านเอ่ยบอกยังหญิงสาวชาวเอเชียใบหน้าหวานใสขึ้นในช่วงดึกของวันที่มีผู้คนรอบข้างกำลังเร่งทำงานกันด้วยความกระตือรือล้นเพราะลูกค้าที่เริ่มเยอะมากขึ้นเรื่อยๆ"รับทราบค่ะ"เจ้าขาเอ่ยรับด้วยรอยยิ้มก่อนจะรับถาดแอลกอฮอล์ดังกล่าวมาไว้ในมือแล้วเดินไปขึ้นลิฟต์เพื่อไปยังชั้นสามที่อยู่ด้านบน"โห ดูหรูหรากว่าชั้นข้างล่างเยอะเลย คงจะแพงมากแน่ๆ"เจ้าขาพูดออกมาด้วยความตื่นเต้นเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้มาเสิร์ฟที่ชั้นนี้เพราะโดยปกติแล้วเธอจะทำงานอยู่ข้างล่างเป็นส่วนใหญ่นัยน์ตากลมโตที่มองนั่นมองนี่นั้นยังคงเบิกโตขึ้นเล็กน้อยด้วยความรู้สึกตื่นเต้นเมื่อทุกอย่างโดยรอบนั้นมันดูหรูหราหมาเห่าสมกับเป็นวีวีไอพีจริงๆ และคนที่จะมาใช้บริการได้ก็คงจะเป็นคนที่มีฐานะมากพอสมควรเลยใช้เวลาเพียงไม่นานเธอก็เดินมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องเป้าหมาย และเมื่อเห็นถึงการมาของเธอชายชุดดำที่ยืนอยู่หน้าห้องก็ทำหน้าที่เปิดประตูใ

  • LOVE LIE รักลวงหลอก   บทที่ 7 อยากครอบครอง

    "เจ้าขา?"เสียงของลูคัสเอ่ยทักขึ้นด้วยความแปลกใจหลังเห็นหญิงสาวเป็นคนออกมาเปิดประตู เพราะไม่คิดว่าเธอจะมาถึงก่อนคนอื่นๆ"ทำไมถึงออกมาเปิดประตูล่ะ"ลีน่าที่ยืนอยู่อีกคนก็ถามขึ้นมาด้วยเหมือนกัน นั่นจึงทำให้เจ้าขาต้องรีบอธิบายออกมาในทันมี"อะ เอ่อ พอดีว่าเรามาถึงก่อนน่ะ""อ๋อออ งี้นี่เอง"ลูคัสแกล้งลากเสียงยาวในทันทีเมื่อเห็นร่างสูงของเพื่อนสนิทอย่างเคลวินเดินออกมาอีกคนเหมือนกัน ในขณะสายตาที่เต็มไปด้วยความหมายบางอย่างคู่นั้นก็จ้องมองไปยังใบหน้าเรียบนิ่งของเพื่อนสนิทอย่างต้องการล้อเลียน"ถ้าไม่เข้า ก็กลับไป"เสียงเรียบนิ่งของเคลวินเอ่ยไล่ทันทีด้วยความรำคาญ เมื่อเห็นว่าคนทั้งสามไม่ยอมเดินเข้ามาภายในห้องเสียที"เออๆ รู้แล้ว จะรีบไปตายที่ไหน"ลูคัสบ่นเสียงดังอย่างไม่จริงจังนักก่อนจะเดินเข้ามาภายในห้องเป็นคนแรกตามด้วยแม็คนัสและลีน่าที่เดินเข้ามาเป็นคนสุดท้าย "ลีน่ามากับเพื่อนหรอ"เสียงใสเอ่ยถามขึ้นมาอยู่บริเวณหน้าประตูห้องเพราะคนทั้งคู่ยังไม่ได้เดินตามชายหนุ่มทั้งสามเข้าไป

  • LOVE LIE รักลวงหลอก   บทที่ 6 สิ่งตอบแทนที่ว่า...

    "เพิ่งจะรู้ว่ากูมีเพื่อนจิตใจดีขนาดนี้"ประโยคนั้นดังขึ้นจากแม็คนัสทันทีที่เห็นร่างสูงของเพื่อนสนิทอย่างเคลวินเดินเข้ามานั่งที่โซฟาหรูฝั่งตรงข้าม"รู้จักเด็กคนนั้นหรอ"ประโยคคำถามดังขึ้นจาก โคลน์ รุ่นพี่คนสนิทที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ อีกทั้งยังเป็นเจ้าของคลับแห่งนี้ที่พวกเขามักจะมาสุมหัวกันบ่อยๆ ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมเรื่องทั้งหมดมันมาถึงหูของเพื่อนสนิทเร็วขนาดนี้"เด็กใหม่เพิ่งย้ายเข้ามา"ประโยคดังกล่าวดังขึ้นจากลูคัสที่กำลังนัวเนียกับหญิงสาวหน้าอกบึ้มสองคนข้างกาย แม้สายตาจะกำลังชมสิ่งสวยๆ งามๆ ข้างกายแต่หูกลับกำลังตั้งใจฟังบทสนทนาของคนทั้งสามเป็นอย่างดีไม่มีพลาด"นี่มึงคิดจะทำอะไรเคลวิน"น้ำเสียงจริงจังดังขึ้นจากโคลน์อีกครั้ง สายตาเรียบนิ่งจ้องมองไปยังรุ่นน้องที่นั่งอยู่ตรงหน้านิ่งอย่างต้องการคำตอบเพราะรู้ดีว่าเคลวินไม่ได้มีนิสัยชอบช่วยเหลือใครนอกเสียจากมันจะมีจุดประสงค์บางอย่าง"สนใจเรื่องของตัวเองเถอะ"เคลวินไม่ได้ตอบคำถามทว่ากลับเบนสายตาไปยังหญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังโยกย้ายร่างกายไปตามทำนองดนตรีอยู่กั

  • LOVE LIE รักลวงหลอก   บทที่ 5 ความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมเซค

    @MIDNIGHT CLUBในช่วงดึกของวันหญิงสาวเจ้าของใบหน้าสวยหวานในชุดพนักงานเสิร์ฟประจำคลับดังแห่งหนึ่งอย่างเจ้าขากำลังยกถาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เดินไปเสิร์ฟที่โต๊ะนั้นทีโต๊ะนี้ทีด้วยความกระตือรือล้นเพราะยิ่งดึกมากเท่าไรเหล่านักท่องราตรีก็เริ่มเยอะมากขึ้นเรื่อยๆ"วีไอพีห้า"เสียงของหญิงสาวผมบลอนด์อายุราวๆ สามสิบถึงสี่สิบปีเอ่ยบอกกับเด็กสาวชาวเอเชียอย่างเจ้าขาที่เพิ่งจะเดินถือถาดกลับเข้ามาได้ไม่นาน ก่อนใบหน้าน่ารักนั้นจะยิ้มตอบรับทันทีและเพียงไม่นานเครื่องดื่มถาดดังกล่าวก็ถูกยกออกไปพร้อมกับหญิงสาวเรือนร่างอรชรสถานที่แห่งนี้เป็นคลับชื่อดังย่านใจกลางกรุงที่เธอเพิ่งจะสมัครเข้ามาทำได้เพียงเดือนเศษๆ เพราะหลังย้ายมาจากประเทศไทยเธอก็เริ่มที่จะหาสมัครงานพาร์ทไทม์ทันทีเพราะฐานะทางบ้านที่ไม่ได้ร่ำรวยทำให้เธอไม่สามารถอยู่เฉยๆ ได้แม้ว่าจะได้ทุนจากทางมหาวิทยาลัยก็ตามทีแต่เพราะเธอเองก็มีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ด้วยและนั่นก็เป็นหนึ่งในเหตุผลหลักๆ ที่ทำให้เธอต้องมาเช่าหอพักราคาถูกข้างนอกอยู่แทนที่จะอยู่หอในที่ทางมหาวิทยาลัยจัดหาไว้ให้สำหรับนักศึกษาทุนโดยเฉพาะแต่กว่าจะออกมาได้เธอก็จำเป็นต้องทำเรื่องขออนุญาตอยู่นาน"

  • LOVE LIE รักลวงหลอก   บทที่ 4 ความใกล้ชิด

    ณ ห้องสมุดในช่วงบ่ายของวันหลังมาถึงห้องสมุดทุกคนก็แบ่งหน้าที่แยกย้ายกันไปหาข้อมูล บางส่วนจะต้องหาจากอินเตอร์เน็ตและบางส่วนจะต้องไปหาหนังสือภายในห้องสมุดหนึ่งในนั้นก็คือเจ้าขาที่กำลังไล่สายตาหาหนังสือที่ต้องการอยู่"อยู่ไหนนะ" เสียงเล็กพึมพำกับตัวเองขึ้นมาเมื่อไม่พบหนังสือที่ต้องการเสียทีหลังหาอยู่นาน"ตรงนั้น"เสียงทุ้มที่ดังขึ้นของผู้มาใหม่นั้นทำให้เจ้าขาหันไปมองยังทางต้นเสียงก่อนจะพบเข้ากับเคลวินที่เขาเองก็ได้รับหน้าที่ในการมาหาหนังสือเหมือนกันกับเธอนัยน์ตากลมโตคู่นั้นมองไปยังจุดที่เขาชี้บอกก่อนจะพบเข้ากับหนังสือเล่มที่เธอกำลังตามหา ฉับพลันนัยน์ตาคู่นั้นก็เป็นประกายวิบวับทันทีด้วยความดีใจ"อยู่ตรงนั้นจริงด้วย""ทำไมมันอยู่สูงจัง" เจ้าขาบ่นออกมาก่อนจะพยายามเอื้อมมือขึ้นไปหยิบมันทว่าก็เพียงแตะโดนนิดหน่อยเท่านั้นจนไม่สามารถที่จะหยิบได้และในช่วงจังหวะนั้นเอง..."เดี๋ยวฉันหยิบเอง"ร่างสูงที่เข้ามาประชิดร่างของเธอจากทางด้านหลังทันทีที่พูดจบนั้นทำให้เจ้าขาชะงักไปในทันที กลิ่นน้ำหอมหรูหราที่ลอยออกมาจากตัวของเขานั้นส่งผลให้ใบหน้าใสแดงก่ำขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ในขณะที่หน้าอกข้างซ้ายกลับสั่นไ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status