Home / วัยรุ่น / LOVE LIE รักลวงหลอก / บทที่ 2 ทายาทตระกูลดัง

Share

บทที่ 2 ทายาทตระกูลดัง

last update Last Updated: 2025-10-29 04:00:50

หลายวันถัดมา

ภายในร้านอาหารหรูแห่งหนึ่ง ณ กรุงเบอร์ลินกำลังถูกห้อมล้อมไปด้วยบรรดาเหล่าคนมีเงินที่กำลังนั่งทานอาหารกันอย่างมีความสุขท่ามกลางเสียงเพลงที่เปิดคลอเบาๆเพื่อสร้างบรรยากาศ

ทว่าจู่ๆ เสียงพูดคุยเมื่อครู่นั้นกลับแปรเปลี่ยนเป็นเสียงซุบซิบในเวลาอันรวดเร็วเมื่อมีการปรากฏตัวของชายหนุ่มทายาทตระกูลดังที่กำลังเดินเข้ามาภายในสถานที่แห่งนี้

แม้ใบหน้าจะราบเรียบทว่ากลับไม่สามารถปกปิดความหล่อเหลาไร้ที่ติตามฉบับชายชาวยุโรปของเขาได้เลย แต่สิ่งที่ตราตรึงสายตาของผู้คนมากที่สุดคงจะเป็นนัยน์ตาสีเทาเข้มที่ดูเรียบนิ่งคู่นั้น

ไม่ใช่แค่เพียงใบหน้าเท่านั้นที่ดึงความสนใจของผู้คนทว่าด้วยเพราะเขาคือทายาทเพียงหนึ่งเดียวของตระกูลไฮน์ริชที่ร่ำรวยติดอันดับต้นๆ ของประเทศที่เป็นที่จับตามองของคนในสังคมอยู่ในขณะนี้

"เคลวินมาแล้วหรอลูก"

เสียงสดใสของหญิงวัยกลางคนอย่างเอมิเลียเอ่ยทักทายลูกชายเพียงคนเดียวของเธออย่างเคลวินที่เดินเข้ามาภายในห้องอาหารที่มีความเป็นไพรเวทแยกออกจากโซนด้านนอก

"ครับ"

เสียงทุ้มตอบรับมารดาของตนก่อนจะหันไปทักทายชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามอย่างเอ็ดวินผู้นำตระกูลแวร์เนอร์ คนปัจจุบัน

"คุณลุงสวัสดีครับ"

"ไม่เจอกันนานยังหล่อเหลาเหมือนเดิมเลยนะ" เอ็ดวิดเอ่ยชื่นชมด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดีด้วยความเอ็นดูชายหนุ่มไม่ต่างไปจากลูกชายของตนอีกคน

ใครๆ ต่างก็รู้ว่าตระกูลไฮน์ริชและแวร์เนอร์นั้นร่วมทำธุรกิจด้วยกันหลายอย่างมาตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลานในยุคปัจจุบัน ไม่แปลกเลยที่ทั้งสองตระกูลจะสนิทชิดเชื้อกัน

เคลวินทำเพียงยิ้มรับคำชมเท่านั้นก่อนสายตาคมจะเบนไปยังหญิงสาวใบหน้าสวยเฉี่ยวอีกคนที่นั่งอยู่ข้างๆ กับบิดาของเธออย่างรู้ดีว่าสาเหตุที่สองตระกูลมาพบกันในวันนี้นั้นเป็นเพราะอะไร

"ไม่เจอกันนานเลยนะ"

เสียงทักทายดังมาจาก คาร่า พร้อมกับรอยยิ้มบางๆ บนใบหน้าสวยเฉี่ยวมั่นใจ ทว่าเคลวินกลับทำเพียงจ้องมองกลับด้วยใบหน้าราบเรียบเท่านั้นก่อนจะขานรับในลำคอเสียงเรียบอย่างที่ชอบทำ

"อืม"

แทนที่หญิงสาวจะหน้าเสียแต่เธอกลับยกยิ้มด้วยความชอบใจในความหยิ่งยโสของชายหนุ่มเสียมากกว่า

ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนเขาก็มักจะแสดงสีหน้าราบเรียบไร้ชีวิตชีวาเสมอจนเธอเองก็ชินกับมันไปเสียแล้ว

"เอาล่ะ รู้ใช่ไหมว่าวันนี้เรานัดกันมาคุยเรื่องอะไร"

เสียงทุ้มดังมาจากชายวัยกลางคนอย่าง เดริค พ่อของเคลวิน นั่นจึงทำให้ทุกคนบนโต๊ะหันไปให้ความสนใจยังผู้พูดด้วยรู้ดีว่าเรื่องที่เขาจะกล่าวออกมานั้นคืออะไร

"เรื่องงานหมั้นหมายของเคลวินและหนูคาร่า"

คาร่าและเคลวินต่างนั่งฟังเดริคพูดไปอย่างเงียบๆ โดยที่ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกมาเพราะรู้อยู่แล้วว่าอย่างไรวันนี้ก็ต้องมาถึง ขณะเดียวกันทั้งเขาและเธอต่างก็ไม่ได้มีความรู้สึกอะไรพิเศษมากนักเพราะนี่มันก็เป็นเพียงหนึ่งในหน้าที่ของคนทั้งคู่ก็เท่านั้น หน้าที่ ที่จะทำให้สองตระกูลใหญ่นั้นสานสัมพันธ์กันให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น

"งานหมั้นจะเริ่มในอีกสี่เดือนข้างหน้า เตรียมตัวให้พร้อม"

"เตรียมตัวให้สื่อสัมภาษณ์..."

"ยังครับ"

เสียงทุ้มของเดริคขาดหายไปเมื่อมีเสียงจากลูกชายของตนดังขึ้นแทรกประโยคขึ้นมา และนั่นก็ทำให้สายตาทุกคู่หันไปจ้องมองยังเขาเป็นตาเดียว ในขณะที่คาร่าก็กระตุกยิ้มมุมปากขึ้นมา

"มีอะไรหรือเปล่าลูก"

เอมิเลียหันไปถามลูกชายที่นั่งอยู่ข้างๆ ของตนด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนที่เธอมักจะใช้คุยกับเคลวินมาตั้งแต่ที่เขายังแบเบาะ ทว่าชายหนุ่มกลับไม่ตอบอะไรผู้เป็นแม่ออกไปและนั่นก็ทำให้เดริคจำต้องเอ่ยถามลูกชายออกมาเสียงเข้ม

"อะไร"

"จะยังไม่มีข่าวกระจายออกไปครับ"

"ทำไม?"

"มันเร็วเกินไปครับ"

สิ้นประโยคราบเรียบของเขาคาร่าก็ลอบยิ้มมุมปากออกมาอย่างรู้ทันในความคิดของชายหนุ่ม

"ฉันเองก็คิดแบบเดียวกับเคลวินนะ รอไว้ประกาศข่าวออกไปในเดือนสุดท้ายก็ยังไม่สาย"

เอ็ดวิดเอ่ยเสริมขึ้นมาอย่างเห็นด้วย เพราะหากปล่อยข่าวออกไปเร็วแบบนี้มีหวังพวกนักข่าวคงได้วิ่งแจ้นเข้ามาทำข่าวไม่หยุดไม่หย่อน และเขาเองก็เข้าใจดีว่าเด็กหนุ่มค่อนข้างรักความเป็นส่วนตัว

และนั่นเองที่ทำให้เดริคเงียบไปอย่างใช้ความคิดก่อนจะหันไปเอ่ยถามกับเด็กสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ พ่อของเธออย่างถามความเห็น

"หนูคาร่ามีอะไรจะพูดไหม?"

ดวงตาสวยเฉี่ยวลอบมองไปยังสายตาเรียบนิ่งที่จ้องมองมาอย่างกดดันของเคลวินเพียงนิดก่อนจะตอบออกไปอย่างไม่ได้สนใจอะไรเท่าไรนัก

"หนูเห็นด้วยกับเคลวินค่ะ"

"งั้นก็ตกลงตามนี้"

สิ้นประโยคนั้นเหล่าบรรดาผู้ใหญ่ต่างก็พากันพยักหน้าอย่างเห็นด้วยโดยที่ไม่ได้คัดค้านอะไรออกมาอีก

เพียงไม่นานภายในห้องอาหารก็ถูกเติมเต็มไปด้วยเสียงพูดคุยของทั้งสองครอบครัวที่ต่างก็มีความสนิทสนมกันเป็นอย่างดี ในขณะที่สองหนุ่มสาวนั้นทำเพียงนั่งทานข้าวตรงหน้าไปอย่างเงียบๆ เท่านั้นโดยไร้ซึ่งบทสนทนาใดๆ

ทว่าจู่ๆ ภาพใบหน้าของใครบางคนก็ฉายเข้ามาในความคิดของเขาอีกครั้ง นัยน์ตากลมโตสุกใสราวกับมีประกายวิบวับอยู่ตลอดเวลาคู่นั้นทำให้มุมปากหยักยกยิ้มขึ้นมาทันทีที่นึกถึง

ทันใดนั้นเองสายตาคมก็สบประสานเข้ากับดวงตาสวยเฉี่ยวของหญิงสาวที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามที่กำลังจ้องมองมาที่เขาราวกับกำลังจับผิดนั่นจึงทำให้เคลวินแสดงสีหน้าเบื่อหน่ายออกมาก่อนจะเบนสายตาออกไปทางอื่นราวกับว่ากำลังรำคาญอย่างไรอย่างนั้น

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • LOVE LIE รักลวงหลอก   บทที่ 9 รอคอยอย่างใจเย็น

    หลายวันถัดมาช่วงเย็นของวันร่างสูงใหญ่ของเคลวินเดินเข้ามาภายในบ้านหลังใหญ่โอ่อ่าที่มีหญิงชราอาศัยอยู่ด้วยใบหน้าเรียบนิ่งตามนิสัยของตน เหล่าแม่บ้านที่เห็นนายน้อยเพียงคนเดียวของตระกูลที่กำลังเดินเข้ามานั้นต่างก็พากันก้มหัวเป็นการทักทายทันทีเขาทำเพียงพยักหน้ารับก่อนจะเดินเข้าไปนั่งลงที่โซฟาหรูกลางห้องโถงฝั่งตรงข้ามกับหญิงชราวัยเจ็ดสิบกว่าๆ ที่มีศักดิ์เป็นถึงคุณย่าของเขา"ไปไงมาไงล่ะเคลวิน"มารี เอ่ยทักหลานชายด้วยรอยยิ้มอบอุ่น ก่อนที่เธอจะส่งสัญญาณให้แม่บ้านคนสนิทที่ยืนอยู่ออกไปก่อน"ผมผ่านมาทางนี้พอดี เลยแวะมาหาครับ"เพราะพ่อแม่ของเขาและหญิงชราตรงหน้านั้นได้แยกกันอยู่บ้านคนละหลังมาตั้งแต่ที่เขาจำความได้ นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาต้องเทียวไปเทียวมาเพื่อมาเยี่ยมเยือนท่านบ้างเป็นครั้งคราว"แล้วนี่ทานข้าวมาหรือยังล่ะ""เรียบร้อยแล้วครับ"สิ้นประโยคนั้นหญิงชราก็พยักหน้าด้วยความเข้าใจก่อนจะเอ่ยถามขึ้นมาอีกครั้ง"ที่มหาวิทยาลัยเป็นยังไงบ้าง"เนื่องจากปัญหาสุขภาพที่ไม่ค่อยดีทำให้เธอไม่ได้เข้าไปเยี่ยมเยือนมหาวิทยาลัยมาพักหนึ่งแล้ว คนเราพอแก่ตัวแล้วก็แบบนี้นั่นแหละจะเดินเหินทำอะไรก็ลำบากไปหมด"

  • LOVE LIE รักลวงหลอก   บทที่ 8 อาสามาส่ง

    หลายวันถัดมา@MIDNIGHTCLUB"เธอช่วยเอาเครื่องดื่มไปเสิร์ฟที่ชั้นวีวีไอพีด้วยนะ พอดีมารีปวดท้องกระทันหัน"เสียงของผู้จัดการประจำร้านเอ่ยบอกยังหญิงสาวชาวเอเชียใบหน้าหวานใสขึ้นในช่วงดึกของวันที่มีผู้คนรอบข้างกำลังเร่งทำงานกันด้วยความกระตือรือล้นเพราะลูกค้าที่เริ่มเยอะมากขึ้นเรื่อยๆ"รับทราบค่ะ"เจ้าขาเอ่ยรับด้วยรอยยิ้มก่อนจะรับถาดแอลกอฮอล์ดังกล่าวมาไว้ในมือแล้วเดินไปขึ้นลิฟต์เพื่อไปยังชั้นสามที่อยู่ด้านบน"โห ดูหรูหรากว่าชั้นข้างล่างเยอะเลย คงจะแพงมากแน่ๆ"เจ้าขาพูดออกมาด้วยความตื่นเต้นเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้มาเสิร์ฟที่ชั้นนี้เพราะโดยปกติแล้วเธอจะทำงานอยู่ข้างล่างเป็นส่วนใหญ่นัยน์ตากลมโตที่มองนั่นมองนี่นั้นยังคงเบิกโตขึ้นเล็กน้อยด้วยความรู้สึกตื่นเต้นเมื่อทุกอย่างโดยรอบนั้นมันดูหรูหราหมาเห่าสมกับเป็นวีวีไอพีจริงๆ และคนที่จะมาใช้บริการได้ก็คงจะเป็นคนที่มีฐานะมากพอสมควรเลยใช้เวลาเพียงไม่นานเธอก็เดินมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องเป้าหมาย และเมื่อเห็นถึงการมาของเธอชายชุดดำที่ยืนอยู่หน้าห้องก็ทำหน้าที่เปิดประตูใ

  • LOVE LIE รักลวงหลอก   บทที่ 7 อยากครอบครอง

    "เจ้าขา?"เสียงของลูคัสเอ่ยทักขึ้นด้วยความแปลกใจหลังเห็นหญิงสาวเป็นคนออกมาเปิดประตู เพราะไม่คิดว่าเธอจะมาถึงก่อนคนอื่นๆ"ทำไมถึงออกมาเปิดประตูล่ะ"ลีน่าที่ยืนอยู่อีกคนก็ถามขึ้นมาด้วยเหมือนกัน นั่นจึงทำให้เจ้าขาต้องรีบอธิบายออกมาในทันมี"อะ เอ่อ พอดีว่าเรามาถึงก่อนน่ะ""อ๋อออ งี้นี่เอง"ลูคัสแกล้งลากเสียงยาวในทันทีเมื่อเห็นร่างสูงของเพื่อนสนิทอย่างเคลวินเดินออกมาอีกคนเหมือนกัน ในขณะสายตาที่เต็มไปด้วยความหมายบางอย่างคู่นั้นก็จ้องมองไปยังใบหน้าเรียบนิ่งของเพื่อนสนิทอย่างต้องการล้อเลียน"ถ้าไม่เข้า ก็กลับไป"เสียงเรียบนิ่งของเคลวินเอ่ยไล่ทันทีด้วยความรำคาญ เมื่อเห็นว่าคนทั้งสามไม่ยอมเดินเข้ามาภายในห้องเสียที"เออๆ รู้แล้ว จะรีบไปตายที่ไหน"ลูคัสบ่นเสียงดังอย่างไม่จริงจังนักก่อนจะเดินเข้ามาภายในห้องเป็นคนแรกตามด้วยแม็คนัสและลีน่าที่เดินเข้ามาเป็นคนสุดท้าย "ลีน่ามากับเพื่อนหรอ"เสียงใสเอ่ยถามขึ้นมาอยู่บริเวณหน้าประตูห้องเพราะคนทั้งคู่ยังไม่ได้เดินตามชายหนุ่มทั้งสามเข้าไป

  • LOVE LIE รักลวงหลอก   บทที่ 6 สิ่งตอบแทนที่ว่า...

    "เพิ่งจะรู้ว่ากูมีเพื่อนจิตใจดีขนาดนี้"ประโยคนั้นดังขึ้นจากแม็คนัสทันทีที่เห็นร่างสูงของเพื่อนสนิทอย่างเคลวินเดินเข้ามานั่งที่โซฟาหรูฝั่งตรงข้าม"รู้จักเด็กคนนั้นหรอ"ประโยคคำถามดังขึ้นจาก โคลน์ รุ่นพี่คนสนิทที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ อีกทั้งยังเป็นเจ้าของคลับแห่งนี้ที่พวกเขามักจะมาสุมหัวกันบ่อยๆ ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมเรื่องทั้งหมดมันมาถึงหูของเพื่อนสนิทเร็วขนาดนี้"เด็กใหม่เพิ่งย้ายเข้ามา"ประโยคดังกล่าวดังขึ้นจากลูคัสที่กำลังนัวเนียกับหญิงสาวหน้าอกบึ้มสองคนข้างกาย แม้สายตาจะกำลังชมสิ่งสวยๆ งามๆ ข้างกายแต่หูกลับกำลังตั้งใจฟังบทสนทนาของคนทั้งสามเป็นอย่างดีไม่มีพลาด"นี่มึงคิดจะทำอะไรเคลวิน"น้ำเสียงจริงจังดังขึ้นจากโคลน์อีกครั้ง สายตาเรียบนิ่งจ้องมองไปยังรุ่นน้องที่นั่งอยู่ตรงหน้านิ่งอย่างต้องการคำตอบเพราะรู้ดีว่าเคลวินไม่ได้มีนิสัยชอบช่วยเหลือใครนอกเสียจากมันจะมีจุดประสงค์บางอย่าง"สนใจเรื่องของตัวเองเถอะ"เคลวินไม่ได้ตอบคำถามทว่ากลับเบนสายตาไปยังหญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังโยกย้ายร่างกายไปตามทำนองดนตรีอยู่กั

  • LOVE LIE รักลวงหลอก   บทที่ 5 ความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมเซค

    @MIDNIGHT CLUBในช่วงดึกของวันหญิงสาวเจ้าของใบหน้าสวยหวานในชุดพนักงานเสิร์ฟประจำคลับดังแห่งหนึ่งอย่างเจ้าขากำลังยกถาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เดินไปเสิร์ฟที่โต๊ะนั้นทีโต๊ะนี้ทีด้วยความกระตือรือล้นเพราะยิ่งดึกมากเท่าไรเหล่านักท่องราตรีก็เริ่มเยอะมากขึ้นเรื่อยๆ"วีไอพีห้า"เสียงของหญิงสาวผมบลอนด์อายุราวๆ สามสิบถึงสี่สิบปีเอ่ยบอกกับเด็กสาวชาวเอเชียอย่างเจ้าขาที่เพิ่งจะเดินถือถาดกลับเข้ามาได้ไม่นาน ก่อนใบหน้าน่ารักนั้นจะยิ้มตอบรับทันทีและเพียงไม่นานเครื่องดื่มถาดดังกล่าวก็ถูกยกออกไปพร้อมกับหญิงสาวเรือนร่างอรชรสถานที่แห่งนี้เป็นคลับชื่อดังย่านใจกลางกรุงที่เธอเพิ่งจะสมัครเข้ามาทำได้เพียงเดือนเศษๆ เพราะหลังย้ายมาจากประเทศไทยเธอก็เริ่มที่จะหาสมัครงานพาร์ทไทม์ทันทีเพราะฐานะทางบ้านที่ไม่ได้ร่ำรวยทำให้เธอไม่สามารถอยู่เฉยๆ ได้แม้ว่าจะได้ทุนจากทางมหาวิทยาลัยก็ตามทีแต่เพราะเธอเองก็มีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ด้วยและนั่นก็เป็นหนึ่งในเหตุผลหลักๆ ที่ทำให้เธอต้องมาเช่าหอพักราคาถูกข้างนอกอยู่แทนที่จะอยู่หอในที่ทางมหาวิทยาลัยจัดหาไว้ให้สำหรับนักศึกษาทุนโดยเฉพาะแต่กว่าจะออกมาได้เธอก็จำเป็นต้องทำเรื่องขออนุญาตอยู่นาน"

  • LOVE LIE รักลวงหลอก   บทที่ 4 ความใกล้ชิด

    ณ ห้องสมุดในช่วงบ่ายของวันหลังมาถึงห้องสมุดทุกคนก็แบ่งหน้าที่แยกย้ายกันไปหาข้อมูล บางส่วนจะต้องหาจากอินเตอร์เน็ตและบางส่วนจะต้องไปหาหนังสือภายในห้องสมุดหนึ่งในนั้นก็คือเจ้าขาที่กำลังไล่สายตาหาหนังสือที่ต้องการอยู่"อยู่ไหนนะ" เสียงเล็กพึมพำกับตัวเองขึ้นมาเมื่อไม่พบหนังสือที่ต้องการเสียทีหลังหาอยู่นาน"ตรงนั้น"เสียงทุ้มที่ดังขึ้นของผู้มาใหม่นั้นทำให้เจ้าขาหันไปมองยังทางต้นเสียงก่อนจะพบเข้ากับเคลวินที่เขาเองก็ได้รับหน้าที่ในการมาหาหนังสือเหมือนกันกับเธอนัยน์ตากลมโตคู่นั้นมองไปยังจุดที่เขาชี้บอกก่อนจะพบเข้ากับหนังสือเล่มที่เธอกำลังตามหา ฉับพลันนัยน์ตาคู่นั้นก็เป็นประกายวิบวับทันทีด้วยความดีใจ"อยู่ตรงนั้นจริงด้วย""ทำไมมันอยู่สูงจัง" เจ้าขาบ่นออกมาก่อนจะพยายามเอื้อมมือขึ้นไปหยิบมันทว่าก็เพียงแตะโดนนิดหน่อยเท่านั้นจนไม่สามารถที่จะหยิบได้และในช่วงจังหวะนั้นเอง..."เดี๋ยวฉันหยิบเอง"ร่างสูงที่เข้ามาประชิดร่างของเธอจากทางด้านหลังทันทีที่พูดจบนั้นทำให้เจ้าขาชะงักไปในทันที กลิ่นน้ำหอมหรูหราที่ลอยออกมาจากตัวของเขานั้นส่งผลให้ใบหน้าใสแดงก่ำขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ในขณะที่หน้าอกข้างซ้ายกลับสั่นไ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status